Group Blog
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th 
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
  •  images by free.in.th
All Blog
ร้านสปาทำเล็บใจกลางเมือง Pamper me nail & dry bar


สวัสดีค่า จอยเองค่ะ

เมื่อสองสามวันก่อนจอยได้มีโอกาสไปร้านสปาในย่านสุขุมวิท 

ซึ่งก็คือร้าน Pamper me nail & dry bar ค่ะ

ซึ่งครั้งนี้จอยจองบริการผ่านทางเว็บไซต์ GoWabi ค่ะ

โดยที่เว็บนี้คล้ายๆ กับศูนย์รวมดีลดีๆ จากร้านเสริมสวยต่างๆ ทั่วกรุงเทพ

จอยคิดว่าแบบนี้ช่วยให้การหาร้าน บริการ เวลาทำการ แผนที่ รวมทั้งทราบราคาเดี๋ยวนั้นเลย

อีกทั้งกดจองวันและเวลาได้เลย สะดวกมากกกกก จองผ่านมือถือก็ทำได้

(ใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม จิ้มลิ้งค์ GoWabi ได้เลย)



ร้าน Pamper me nail & dry bar นี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 (เสิร์ชชื่อใน google map ขึ้นเลย)

แถมมีที่จอดรถสะดวกสบายมากๆ (แสตมป์บัตรในร้านได้ 1ชม30นาที ชมต่อไป 40 บาท)

ร้านตั้งอยู่ชั้น 4 ของตึกนี้เลยค่ะ






บรรยากาศภายในร้านสะอาดมากกกก ไม่มีกลิ่นเหม็นๆ ของยาทาเล็บรบกวน

ตอนจอยเข้าไปใช้บริการ คือคนค่อนข้างน้อย บรรยากาศดีและสงบมากๆ เลยค่ะ






แอบถ่ายรูปสารพัดยาทาเล็บจากหลากหลายแบรนด์ แถมมีตัวอย่างเพ้นท์เล็บมายั่วน้ำลายซะด้วย








จอยเลือกทำคอร์ส Pamper me Signature Treatment (1,100บาท) เป็นสปา+ทาสีธรรมดาค่ะ

เริ่มจากการขัดมือและเท้า ตัดหนัง ตะไบเท้า(จั้กจี๋มากๆ) ตัดเล็บ 

ตะไบเล็บ และทาสีเคลือบ เป็นอันจบพิธี

(จอยสังเกตุเห็นกรรไกรตัดหนังของเขาฉีกจากซองพลาสติกแกะใหม่ 

เหมือนเครื่องมือหมอ สะอาดสุดๆๆๆ)












ความรู้สึกหลังจากทำคือ อย่างแรกรู้สึกว่าที่นี่สะอาด สบาย และเป็นกันเองมากๆ

รู้สึกค่อนข้าง Relax สำหรับคนที่เหนื่อยๆ เครียดๆ จากการทำงาน แวะมาที่นี่ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีค่ะ

แต่ถ้าเน้นอยากเสริมสวยเล็บแบบจัดแน่นจัดเต็ม จอยว่าที่นี่อาจจะทำได้ แต่ราคาค่อนข้างสูงมากๆ





นอกจากนั้นเค้ายังเป็นร้านทำผมด้วย ตอนจอยมาก็เห็นลูกค้านอนสระผมอยู่ ดูท่าทางจะสบายเชียว



สรุปแล้ว ใครที่มองหาร้านเสริมสวย บรรยากาศดีๆ สะอาด ใส่ใจ ปราณีต ปรณนิบัติเราประหนึ่งคุณหญิง

จอยว่าร้านนี้ตอบโจทย์มากกก ฟินกันไปข้างนึงเลยทีเดียว ส่วนราคาจอยว่ากลางๆ เอียงไปทางแพง

เดินทางสะดวก (ถ้าขับรถ) รถไฟฟ้าก็มีอยู่ใกล้ๆ แต่อาจจะเดินซักหน่อย หรือเรียกวินเข้ามาค่ะ


สำหรับใครที่มองหาบริการอื่นๆเพิ่มเติม สามารถลองแวะเข้าไปที่ GoWabi

ซึ่งเขามีร้านและบริการเสริมสวยไว้รองรับมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นร้านสปา นวด ทำเล็บ ทำผม ต่อคิ้ว ต่อขนตา ฟิตเนส นวดหน้า ฯลฯ

แถมยังมีดีลดีๆ ให้เราเลือกสรรอีกมากมาย !

สำหรับแฟนเพจของจอย สามารถนำ Code “LOVEBERRY” 

ไปใส่เพื่อลดได้อีก 10% ด้วยแหละ!

จองเซอร์วิสของ Pamper Me Nail & Dry bar ได้ที่นี่เลย


หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ

แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่า





Create Date : 19 ตุลาคม 2559
Last Update : 19 ตุลาคม 2559 15:59:03 น.
Counter : 3392 Pageviews.

0 comment
เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง ช้อปปิ้งออนไลน์สบายกระเป๋า <3


สวัสดีค่ะ มาพบกับจอยอีกแล้ว

วันนี้จอยจะมาเอาใจ คนที่รักสัตว์เลี้ยงกันนะคะ


เพื่อนๆ ที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ปกติแล้วไปซื้อออาหารกันที่ไหนคะ? จอยนี่บ้านใกล้จตุจักร ดังนั้น

สถานที่จอยมักจะแวะไปหอบข้าวหอบอาหารกลับมาให้ลูกๆ

สุดที่รักส่วนใหญ่ ก็มักจะเป็นที่นี่แหละ

แต่ด้วยความที่จอยรถลำบาก ร้อนก็ร้อน แถมยังต้องหอบอาหารเป็นกิโลๆ

การไปแต่ละครั้งก็แอบเหนื่อยและแอบขี้เกียจจริงๆค่ะ บางครั้งก็ไม่มีเวลาไปซักที ฮือๆๆ

แต่ตอนนี้จอยมีทางเลือกใหม่แว้ววว


ล่าสุดจอยได้มีโอกาสช้อปปิ้งในเว็บ Orami by Moxy มาค่ะ

ที่จริงเว็บเขาก็เป็นเว็บที่ขายของอยู่มากมายหลากหลายอย่างเลยค่ะ

แต่จอยพุ่งตรงเข้าไปในโซนสัตว์เลี้ยงเลย ใจคิดว่า

ชั้นจะต้องได้ก้อนถ่านดับกลิ่นของลูกชายให้ได้ (คือที่บ้านกำลังจะหมดพอดี)


คือสั่งของบนเว็บเป็นอะไรที่ดีมากกกก (ขอเม้าท์ส่วนตัว)

คือเรากว่าจะออกไปข้างนอก กว่าจะจอดรถ กว่าจะหอบของ

ฝ่าฟันฝูงชนและฝ่าอากาศที่ร้อนระอุ //ผมนี่อยากเหวี่ยงข้าวในมือทิ้ง

แต่ทำไม่ได้ เพราะมีลูกชายตาดำๆ นั่งรออยู่

แต่พอได้ลองสั่งกับเว็บ จิ้มๆอยู่หน้าคอม กดสั่งปุ้ป 3-5 วันก็มาเกยถึงบ้านจ้า

แถมจอยกดสั่งแบบเก็บเงินปลายทางได้ด้วย สะดวกไปอี๊ก


กลับมาเข้าเรื่อง

หลังจากที่ได้รับของกับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

เรามาดูกันดีกว่า ว่าจอยสั่งอะไรไปบ้าง


ตอนแรกกดสั่งแค่ถุงเม็ดถ่านดับกลิ่นข้างหลัง ถุงใหญ่ๆ อันนั้น

เพราะที่บ้านมีใช้อยู่ แถมกำลังจะหมดพอดี

สั่งง่ายๆ ไม่ต้องแบก เริศจริงอะไรจริง แต่พอเหลือบไปเห็นโปรโมชั่นข้างๆ เท่านั้นแหละ

อาหารเปียกน้องหมาจัดโปรโมชั่น อุตายล้าวว

จัดมาทันทีโดยไม่ต้องลังเลค่ะ กล่องใหญ่อัดแน่นมาก กินได้ยาวนานเลย


ตู้หูววว มามี้คับ นี่อะไรเยอะจัง อาหารใช่ป่าวววว


ดูไปดูมานี่มันอาหารสุนัข Pedigree แล้วไหนอาหารผม?


“ของหนูมีแค่ถ่านรองอึถุงนั้นนะคะลูก”


ฮือออออออ~

เป็นอันว่าน้องกระต่าย (ชื่อออร์ดี้) ต้องชวดของกินไป กลับไปเคี้ยวหญ้าเหมือนเดิม

จากนั้นก็เชิญนางเอกของงาน น้องมิ้กกี้คนสวย


น้องเดินมาตามสัญชาตญาณ ที่ว่าแถวนี้จะต้องมีของกินแน่ๆ เลย


ไหนๆ กองนี้ของหนูหรอคะ แหม ทำน้ำลายย้อย



มีจริตจก้านทุกท่วงท่า ก่อนกินจะต้องมีจิกเท้าเล็กน้อย เอียงหน้า 45 องศาให้ดูน่าสงสัย


หนูคะ เก็บอาการหน่อยค่ะ แม่ยังไม่ได้ฉีกถุง


หอมแค่ไหน ตานี่วาวเป็นประกายเชียว


น้องเอ็นจอย eating มากค่ะ

แม่มีความปลื้มปริ่ม


อาหารสุนัขที่จอยเลือกมาคือ Pedigree รสเนื้อวัวตุ๋นบดพร้อมผัก

ซึ่งจะให้สารอาหารที่สุนัขต้องการได้อย่างครบถ้วน

ซึ่งตอนนี้จัดโปรโมชั่นอยู่ 12+12 ซอง 444 บาท

ซึ่งนั่นก็คือ ตกราคาซองละ 18.5 บาท (ปกติน่าจะซองละ 20)

ซึ่งใครสนใจก็เข้าไปสั่งในเว็บได้เลย จอยว่ามันสะดวกดีงาม

โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกไปซื้อเอง (อย่างจอย)


และสำหรับใครที่เลี้ยงน้องหมาอยู่ จอยมีกิจกรรมเล็กๆ มาให้เพื่อนๆ ได้เล่นกัน

น้องหมาของใครที่ยังไม่เคยลองอาหารเปียกของเพดดิกรีห้ามพลาด

ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร

เข้าไปติดตามได้ที่หน้าเฟสของจอยเลยน้าา


หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ นะคะ

แล้วพบกันใหม่บทความหน้า แล้วเจอกันค่ะ

Love Berry Joyjee ‘Blog





Create Date : 05 ตุลาคม 2559
Last Update : 5 ตุลาคม 2559 23:18:43 น.
Counter : 1360 Pageviews.

0 comment
BCC Serum ที่ตอบโจทย์ผิวฉ่ำวาวในฝันของสาวๆ


สวัสดีค่า จอยเองค่ะ

ล่าสุดจอยได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ BCC Serum จาก Theraderm มาค่ะ

หลายๆคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้น ช่ือเซรั่มตัวนี้ซักเท่าไหร่

เป็นเพราะส่วนใหญ่เซรั่มตัวนี้ จะใช้ในสถานที่เสริมความงาม หรือคลีนิคต่างๆ นี่เอง




BCC Serum คือ เซรั่มอาหารของเซลล์ผิวเพอื่ การฟื้นฟูบำารุงผิวหน้า ชนิดเข้มข้น

ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากทางเกาหลี บอกเลยว่าส่งตรงมาถึงที่ไทยแล้ว

สาวๆ คนไหนที่ชื่นชอบผิวหน้าที่ฉ่ำวาว หน้าขาว หน้าใส ไร้ที่ติอย่างสาวเกาหลี

ได้ในระยะเวลาอันสั้น เซรั่มตัวนี้อาจจะเป็นคำตอบของคุณค่ะ

แล้ว BCC Serum นี้ดียังไง?

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อน ถึงส่วนผสมของเจ้าเซรั่มตัวนี้ ซึ่งก็คือ

สารสกัดจากน้ำาเลี้ยงเซลล์โดยวิธีการ Cultured Media ที่มาจากไขมันธรรมชาติ

ผ่านการผลิตที่ปลอดเชื้อ ด้วยเทคโนโลยีรังสีแกรมม่า

สาวๆ จึงไม่ต้องกังวลว่าผิวหน้าอันบอบบางของเราจะเป็นอันตราย

เพราะเซรั่มตัวนี้เป็นอาหารผิวหน้าที่ปลอดภัยค่ะ


ประโยชน์ 8 ประการที่ทางเซรั่มตัวนี้ เคลมมาแรงมากก

ทำาเอาจอยตาลุกวาวอันได้แก่

1. คืนความเยาว์ให้ผิวในเวลาอันสั้น

2. ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

3. ช่วยกระตุ้น คอลลาเจน ให้ผิวดูเด็กอีกครั้ง

4. ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า

5. ช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า

6. ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้ดีขึ้น

หน้าเราก็จะแข็งแรง สวยฉ่ำดูเป็นธรรมชาติ

7. ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าที่หมองคล้ำจากแดด

8. ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น แต่งหน้าติดทนนานตลอดทั้งวัน




วิธีใช้ง่ายๆ คือจะมีบรรจุอยู่ใน 2 ขวด ได้แก่

1. ขวดเเรก BCC Powder

2. ขวดที่สอง BCC Activator

เพียงแค่ผสม BCC Serum Activator กับ BCC Serum Power เข้า ด้วยกัน

จากนั้นให้เขย่าเบาๆ และทาทิ้งไว้ทั่วใบหน้า และนวดเบาๆ เพื่อใหเ้ซรั่มซึมลงสู่ผิว

แต่เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่านั้น หากใช้ร่วมกับเครื่องผลักวิตามิน หรือการทำเลเซอร์

จะทำให้ได้ผลที่ไวขึ้น และเห็นชัดขึ้น เซรั่มตัวนี้จึงเป็นที่นิยมใช้

ในคลีนิกเสริมความงามนั่นเอง


นอกจากนั้นภายในงาน ยังได้รับเกียรติจาก คุณหมอทั้ง 3 ท่าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิรินุกูล

ทีมแพทย์ผู้บริหารจาก the skin clinic , นพ วิศานุ อภัยแสน ทีมแพทย์บริหารกรวินคลินิก

และ พญ ภิฐฆ์ศิณ์นี สุวรรณรัตน์ แพทย์ผู้ก่อตั้ง Celebrity clinic ขึ้น มาพูดเกี่ยวกับ

ประโยชน์และความประทับใจของลูกค้า ที่เข้ามารับบริการใช้เซรั่มตัวนี้

ซึ่งส่วนมากบอกว่า รู้สึกถึงความแตกต่างและใบหน้า ที่ดีขึ้นหลังการใช้เพียง 2 ครั้ง

 คุณหมอกล่าวเสริมอีกว่า ผิวเราจะเริ่มเสื่อมสภาพเมื่อย่างเข้าอายุ 25

โดยเฉพาะสมัยนี้ สาวๆ ต้องเผชิญความเครียด ความกดดัน ที่ตรงเข้ามา

ทำร้ายผิวของสาวๆ ดังนั้นเราสามารถใช้เซรั่มตัวนี้ได้เลย ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็ตาม

และก็ใช้ได้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายเลย


มีสาวๆ หลายๆคนตั้งคำถามกันเยอะว่าทำไม จึงนำ BCC Serum เข้ามาในประเทศไทย

   "คุณ วิภารัตน์ วูวงศ์ Managing Director กล่าวว่า หลายปีก่อนมีสาวไทยหลายคนไปหาซื้อ 

BCC Serum ที่ประเทศเกาหลีเยอะมากแต่ต้องไปซื้อเฉพาะในคลินิกเกาหลีซึ่งค่อนข้างลำบาก 

รวมถึงยังมีสาวๆไปตั้งกระทู้ถามหา BCC Serum เยอะมากกกกกกกในกระทู้ชื่อดังหลายที่  

จนเราทนไม่ไหว ต้องนำเข้ามาสนองความต้องการของสาวๆคะ"




ถ้าสาวๆคนไหนสนใจอยากจะมีผิวสวยใสเหมือนสาวเกาหลีบ้าง

ปัจจุบัน BCC Serum มีรองรับกว่า 500 คลินิกชื่อดังในไทย

อาทิเช่น ของขวัญคลินิก, Absolute Clinic, PN Esthetics Clinic, กรวินคลินิก,

The Skin Clinic และคลินิกอนื่ ๆ ที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย

สาวๆ สามารถเข้าไปปรึกษากับคุณหมอได้เลยว่ามีเคล็ดลับ

การใช้ยังไงให้เจ้าตัว BCC Serum นี้เห็นผลชัดและเร็วที่สุด






หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆ นะคะ

แล้วพบกัยใหม่บทความหน้าจ้า

Love Berry Joyjee Blog






Create Date : 30 กันยายน 2559
Last Update : 30 กันยายน 2559 16:07:22 น.
Counter : 2557 Pageviews.

0 comment
[Review] ว่าด้วยเรื่องการต่อขนตา กับสาวตาหมวย



 สวัสดีค่า จอยเองค่ะ
กลับมาพบกันอีกแล้ว คราวนี้จอยมี topic ที่น่าสนใจมากๆมาแชร์ให้ได้อ่านกัน
นั่นก็คือเรื่อง "การต่อขนตา" นั่นเอง



หลายๆ คนอาจจะเริ่มเห็น สาวคนโน้นคนนี้ อยู่ๆก็ขนตายาว สวยฟริ้ง แถมเป็นธรรมชาติซะด้วย
นั่นเป็นเพราะว่าตอนนี้เขามีสิ่งที่เรียกว่า การต่อขนตาถาวร แล้วววว
แม้ว่าจะฮิตมาได้ซักพักนึงแล้ว กับการต่อขนตา ทั้งไทยทั้งเทศ
แต่สำหรับสาวตาชั้นเดียว คำถามก็ผุดขึ้นมาในหัวก่อนเลยว่า
.." ทำแล้วจะสวยรึเปล่า? "..



ซึ่งวันนี้จอยจะมาแชร์ประสบการณ์ไปต่อขนตาครั้งแรก กับร้าน Hanol Eyelash (ฮานโอล อายแลช)
ร้านนี้อยู่ในย่านทองหล่อ พอถึงซอยทองหล่อ 16 ปุ้ปก็จะเห็นโครงการ Penny's Balcony 
ส่วนฝั่งตรงข้าม (ซอย15)  จะเป็น J Avenue ซึ่งหาทางมาได้ไม่ยาก แถมมีที่จอดรถด้วยค่ะ
ร้านฮานโอลจะอยู่ชั้น 2 ของโครงการ เดินขึ้นบันไดมาจะเจอเลย







ภายในร้านตกแต่งสวยงาม สะอาด ขนาดค่อนข้างเล็กกระทัดลัด
มีกลิ่นอายของความเป็นเกาหลีเล็กๆ เน้นบริการด้านความงามสไตล์เกาหลี 
เช่น ต่อขนตา สักคิ้ว แว๊กซ์คิ้ว สักปากชมพู สักไรผม ฯลฯ

เราต้องทำการโทรนัดกับทางร้าน เพื่อจองคิวเข้ามาทำค่ะ & ก่อนมาทำห้ามกรีดตามานะคะ
เมื่อเราเข้ามาถึงร้านแล้ว พนักงานจะเชิญเรามานั่งพูดคุย สอบถามความต้องการของเรา
ต้องการขนตาสไตล์ไหน แน่นฟูหรืออยากดูธรรมชาติ เราเลือกได้เลยค่ะ
แต่ก็จะต้องขึ้นอยู่กับสภาพขนตาของเราด้วย ว่าสามารถทำได้แค่ไหน
เพราะคนขนตาบางมากๆ ก็คงไม่สามารถติดขนตาแน่นฟูระดับเอ๊กซ์ตรีมได้



มีการเอาขนตาในกระปุกมาวางให้ดูด้วย

ขนตาเท่าที่จอยทราบ จะมีอยู่ทั้งหมด 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือขนสังเคราะห์ กับ ขนธรรมชาติ
ขนสังเคราะห์ แบ่งออกเป็น Mascara Premium Fiber และ Gorgeous Premium Fiber
ขนธรรมชาติ ได้แก่ เส้นผมจริง, ขนมิ้งค์, Organic (ขนสัตว์นุ่มๆ)

Mascara Premium Fiber : รุ่นนี้เป็นตัวที่จอยเลือก มีความหนาพอสมควร คือเห็นว่าต่อขนตาแน่ๆ แต่ยังดูเป็นธรรมชาติดีงาม เหมือนปัดมาสคาร่า
Gorgeous Premium Fiber : หนากว่ารุ่นมาสคาร่า เป็นรุ่นที่ดูหนาสุด ฟูสุด สะพรึงสุด 
จอยว่าใครที่อยากได้ความเป้ะปังวังเว่อร์ อันนี้น่าจะได้เต็มที่เลย

เส้นผมจริง, ขนมิ้งค์, Organic (ขนสัตว์นุ่มๆ) : อันนี้จะอยู่ในหมวดขนตาธรรมชาติ
บางเบากว่า ธรรมชาติกว่า ซึ่งรุ่นเหล่านี้ จะเป็นที่นิยมมากๆสำหรับสาวเกาหลี 
แน่นอนว่าราคาแพงกว่ารุ่น Fiber พอสมควร

พอเลือกได้เสร็จก็มาขึ้นเขียง เอ้ย ขึ้นเตียงค่ะ


(ขนตาอันน้อยนิด+ไม่กรีดตา)



ตอนที่จอยไปคือเตียงเต็มตลอด คิวแน่นมากๆๆ
ห้องและเตียงค่อนข้างสะอาด เพดานตกแต่งด้วยหลอดไฟฮิปสเตอร์เกร๋ๆ แขวนระโยงระยาง 
มีที่สำหรับวางกระเป๋า พอพร้อมปุ้ป ก็กระโดดขึ้นเตียงได้เลยค่ะ

นอนหลับตาค่ะ ตอนแรกเขาจะเอาสำลี(?) หรืออะไรซักอย่างนี่แหละ ชุบน้ำมาทำความสะอาด
บริเวณเปลือดตาและขนตาของเราค่ะ เพื่อเอาสิ่งสกปรกและความมันออก
เพื่อจะได้ติดขนตาปลอมได้ดีขึ้น ช่วงนี้คือสบายมากกก
พี่เขาทำเบามือสุด ค่อยๆปาดตาซ้าย ตาขวา เย็นสบาย เคลิ้มอยากหลับ

จากนั้นพี่เขาจะเอาเทปมาติดใต้ตาเราบ้าง ติดเปลือกตาเราบ้าง สลับๆกับการต่อขนตาไปเรื่อยๆ
ทำตาซ้ายที ตาขวาที แต่ที่สำคัญคือ  "เขาทำอย่างเบามือมากๆ"
นึกเสียดายที่ไม่ได้เอาผ้าปิดปากไป ครั้นจะหลับสนิทก็กลัวอ้าปากหว่อ เกรงใจพี่แก
เลยนอนไม่สนิทเลย เซ็งจริงๆ //ใครหลับอ้าปาก เอาผ้าปิดปากไปนะคะ แนะนำ 55555

กึ่งหลับกึ่งตื่นไป 2 ชั่วโมงเต็มๆ พี่สาวคนสวยก็ยื่นกระจกมาให้ในมือ
พอยกขึ้นส่องเท่านั้น ก็พบกับความฟินนนน
ช้านมีขนตาแลีววววววว 







ต่อจากนี้ไปจอยจะบรรยายสิ่งที่จอยได้เรียนรู้จากการต่อขนตาในครั้งนี้ค่ะ (จริงจังเฟร่อ)

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปทำ
1. ต่อขนตา ห้ามดัด ปัด ขนตาด้วยมาสคาร่าเด็ดขาด (แต่แน่นอนว่ามันงอนและหนาสวยงามอยู่แล้ว)
2. ห้ามใช้ ออย ล้างเครื่องสำอาง ในการเช็ดทำความสะอาดเด็ดขาด (ไม่งั้นกาวร่วมหมด) ควรใช้เป็น cleansing water แทน หรือถ้าไม่แต่งตาเลยก็จะดีที่สุด
3. ต่อขนตาแล้ว ล้างหน้ายากขึ้นมาอีกระดับ เพราะเราจะแทบไม่อยากไปสัมผัสตาของตัวเองเลย
และเวลาขนตาเปียกจะจับตัวกันเป็นช่อๆ ควรเช็ดให้สะอาดและแห้งสนิท (แนะนำให้ซับด้วยทิชชู่)
4. เวลานอนต้องระวัง ไม่นอนซบหน้าเข้ากับหมอน หรือนอนทับขนตา
5. นอกจากหวีผมแล้ว ต้องหมั่นหวีขนตาด้วย (ใช้แปรงปัดขนตาหรือขนคิ้วที่ยังไม่ได้ใช้นี่แหละ)
6. หนักตา คือมีล้าๆบ้าง แต่ที่รำคาญใจที่สุด คือด้วยความที่จอยตาตี่ ตาชั้นเดียว ทำให้รู้สึกว่าขนตามันมาเบียดเบียนวิสัยทัศบริเวณด้านบน แล้วเวลามองจอคอมนานๆ จะรู้สึกเมื่อยตาพอสมควร
7. เทียบกับการติดขนตาปลอมแล้ว การต่อขนตามีราคาสูงกว่า แต่ก็อยู่ได้ยาวนานกว่า
8. ต่อขาตา เป็นการนำเส้นขนตาปลอม มาติดบนเส้นขนตาจริง ขนตาอาจจะหลุดร่วงได้เร็วกว่าปกติ


ใครที่เหมาะจะไปทำ ?
ในความคิดของจอย คนที่เหมาะกับการต่อขนตามากที่สุดคือ
" สาวตาสองชั้น ที่ไม่ต้องแต่งตา "
คือชีวิตจะดีมากกก ถ้าตาสวยอยู่แล้ว ไม่ต้องทาอาย ไม่ต้องกรีดตา แค่มีตาสองชั้น
เพิ่มขนตาฟูๆ ไป คือเริศมากๆๆๆ ธรรมชาติ แถมตาหวานขึ้นมา 10 ระดับ

สาวตาหมวยแบบจอยล่ะ ?
สำหรับสาวตาเล็ก หรือตาตีที่ชอบกรีดตาหนาๆเป็นประจำ
การต่อขนตาครั้งนี้ก็ช่วยให้ตาหวานขึ้น ดูกลมโตขึ้นเล็กน้อย (แต่ไม่ทำให้เกิดตา 2 ชั้นนะ)
คือแบบว่าหน้าไม่โล้นเหมือนตอนไม่มีขนตา แต่ด้วยความที่ต้องกรีดตาบ่อยๆ
มันเลยต้องทำความสะอาดตาเยอะ ค่อยๆใช้คอตตอลบัตเช็ดทีละนิด เสียเวลาพอสมควร

ข้อดีล่ะ ?
1. ตาจะดูสวยมากกกกกก ถึงมากที่สุด คือไม่ว่าใครก็ตามที่จอยเคยเจอมา 
ไปต่อขนตา จะรอดทุกคน คือตาสวยขึ้นแน่นอน แม้จะเป็นหน้าสดก็ตาม
2. หากมีแพลนจะไปเที่ยวหรือโอกาสพิเศษต่างๆ การต่อขนตา ทำให้ชีวิตการแต่งหน้าสบายขึ้น
แถมไม่ต้องพก ขนตา กาว บลาๆๆ ให้หนักกระเป๋า สวยทุกๆ เวลาแม้ยามตื่นนอน 
(แต่จะไปเสียเวลาตอนล้างหน้าแทน)
3. ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการติดขนตาปลอม มาก  มากก
4. ไม่ต้องเสี่ยงกับการแพ้กาวติดขนตาปลอม (เพราะนี่ติดถาวรเลย)



ในส่วนของเรื่องราคา สำหรับที่ร้าน Hanol ที่จอยไปต่อขนตามา มีโปรมาอัพเดทตลอดทุกเดือน
อย่างเดือนนี้เขาลดสูงถึง 40% กล้องนี่ไม่ยอมโฟกัสนามบัตรร้านเลย 55555
ต่อขนตารุ่น mascara ที่จอยทำ สนนราคาอยู่ที่ 2,500 บาท
ส่วนแบบอื่นๆ แนะนำให้ลองติดต่อไปที่ร้านเลย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ page ของทางร้าน : https://www.facebook.com/Hanoleye/
ซึ่งร้านเปิดทำการ 10:00 – 20:00 โดยคิวสุดท้ายของการให้บริการในแต่ละวันคือ 18:00 น.

จบแล้ววว สำหรับการรีวิวประสบการณ์ต่อขนตาของจอย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ช่วยเพื่อนๆ ในการตัดสินใจต่อขนตาได้นะคะ
ใครอยากรู้ แนะนำให้ลองไปเลยค่ะ ครั้งหนึ่งในชีวิต 5555 แบบจอย

แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่าาาา


sponsored by 




Create Date : 31 สิงหาคม 2559
Last Update : 31 สิงหาคม 2559 20:43:11 น.
Counter : 14563 Pageviews.

0 comment
[Review] สารพัดมาร์ก | ว่างเมื่อไหร่ เป็นต้องบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม !





สวัสดีค่า จอยเองค่ะ
วันนี้จอยเอามาร์กบำรุงผิวในกรุมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันเพิ่มมากขึ้น
จอยก็เป็นคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบการดูแลผิว ยิ่งเป็นขั้นตอนที่มากกว่าแค่การบำรุงผิวธรรมดา
เพราะรู้สึกว่าเราได้ใส่ใจ และดูแลผิวที่รักเป็นพิเศษ
หรือโดยเฉพาะใครที่แต่งหน้าหนักๆ ใช้ผิวหนักๆ ก็ยิ่งห้ามละเลยผิวของตัวเอง
ดังนั้นจอยเลยชอบเสาะหามาร์กผิวใหม่ๆ มาลองเล่นอยู่ตลอด



ช่วงนี้มีผลิตภัณฑ์ออกมาเยอะม๊ากก ตัวไหนจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเล้ยย

Origins drinks up intensive overnight mask
(100ml - 1,450bath)
Origins drinks up intensive เป็น over-night มาร์ก คือทาบางๆทั่วหน้าแล้วนอนได้
โดยไม่ต้องล้างออก เนื้อลื่น เกลี่ยง่าย ค่อนข้างมีความมัน แต่พอซึมเข้าผิวแล้วโอเค
ให้ความชุ่มชื้นผิวสูงมาก กลิ่นหอมธรรมชาติ คล้ายกลิ่นส้ม ปริมาณเยอะมากๆ
หลอดนึงใช้ยาวสุดๆ เพราะบีบใช้ปริมาณแค่ให้พอทาทั่วหน้าก็โอเคแล้ว
ตื่นมาคือผิวอิ่มน้ำสุด ใครนอนในห้องแอร์แห้งๆ จอยแนะนำ


Kiehl's cilantro & orange extract pollutant defending masque
(75ml - 1,250 baht)
Kiehl's cilantro & orange extract pollutant defending masque 
มาร์กกระปุกจิ๋ว ที่คุณภาพไม่จิ๋ว กลิ่นคล้ายๆยาสมุนไพร เนื้อครีมอัดตัวแน่น
คล้ายๆเนื้อ wax สีเขียวอ่อน ตัวนี้มันน้อยกว่าตัวมาร์กของออริจินด้านบน
ช่วยในการดูแลฟื้นฟูผิวจากมลภาวะที่เราต้องเผชิญในช่วงระหว่างวัน
ตัวนี้ลองใช้แล้วหน้านุ่มเด้งดี ทำให้ผิวบริเวณที่แห้งกร้านดูดีขึ้น
 (ทาบางๆและไม่ต้องล้างออกเช่นกัน) 
แล้วคือตลกมาก วันก่อนจอยทาทิ้งไว้ แล้วไปกินผลไม้ คือเลียขอบปากแล้วรู้สึกหวานๆ
เลยทำให้รู้ว่ามาร์กตัวนี้มันหวานมาก!! (ไม่เกรงใจว่าเป็นครีม จะควักเข้าปากแล้ว)
กลิ่นก็โอเคเลย ทาแล้วหอมๆเย็นๆ เนื้อครีมไม่หนักมาก


Biotherm wonder mud
(75ml - 1,500 bath)
Biotherm wonder mud มาร์กโคลนสีเขียวเป็นอะไรที่ดูแปลกใหม่ดี 
(ปกติโคลนพอกหน้า จอยเคยใช้แต่ที่เป็นสีเทา) 
ลักษณะเนื้อ mud เป็นเหมือนเนื้อครีมเค้กเนียนนุ่ม คือเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าได้ง่ายมาก
พอกบางๆ ทิ้งไว้ทั้งหน้าประมาณ 20 นาทีให้โคลนแห้งสนิท แล้วจึงล้างออก 
กลิ่นหอมๆ ทาไปแล้วรู้สึกเย็นๆที่ผิว แบบว่าฟินดีงาม ระหว่างรอมันแห้ง
เราก็สามารถบำรุงผิวกาย นอนอ่านหนังสือ หรือแชตเฟสเล่นกับเพื่อนก็ได้
(เฟสไทม์ไปหาแฟนอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี หากเรามาร์กหน้าตอนกลางคืน)
หลังล้างหน้าคือ ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น เนียนนุ่มขึ้น ความมันลดลง
รู้สึกเหมือนได้ดีท็อกซ์ผิว พร้อมการบำรุงหน้าขั้นต่อๆไป


Lancome energie de vie night mask
(75ml - 3,500 bath)
Lancome energie de vie nuit 
มาร์กตัวนี้ก็เป็น over-night mask เช่นกัน คือสามารถทาบางๆโดยไม่ต้องล้างออก
เนื้อเจลขุ่นขาว กลิ่นหอมอ่อนๆเกลี่ยง่ายมากกก ที่สำคัญไม่ทิ้งความมันเหนอะหน่ะ
คือใครที่ชอบการบำรุง แต่เกลียดความมันเหนอะน่ะ จอยแนะนำสุดๆๆ อยากให้ได้ลอง
เพราะตัวนี้มันบางเบามากกกก แบบเหมือนทำให้น้ำฟอร์มตัวกันอยู่ในรูปครีม
พอทาแล้ว ตัวครีมค่อยๆ ซึมและหายไปกับผิวเลย 
แต่ยังให้ความชุมชื้นได้อย่างดี ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจากความเหนื่อยล้า และทำให้ผิวฟูอิ่มขึ้น
ข้อเสียที่พบ อาจจะมีอยู่นิดเดียว คือมีส่วนผสมของน้ำหอม และราคาที่สูงน้ำตาไหล


ลองเทียบเนื้อดูของแต่ละตัว
Origin - Lancome - Kiehl's - Biotherm

เผื่อเป็นประโยชน์ให้กับใครที่กำลังมองหา ตัวช่วยเสริมพิเศษในการบำรุงผิว 
แค่เราใส่ใจผิวขึ้นอีกหน่อยในทุกๆวัน มันคุ้มค่ามากกว่าการมาซ่อมผิวพังๆ ทีหลังแน่นอน
ใช้งานเค้าหนักแล้ว อย่าลืมดูแลเค้าด้วยนะคะ
ผู้หญิง อย่าหยุดสวยเนอะะะ 


สำหรับวันนี้ไปก่อนน้า แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่ะ




Create Date : 18 สิงหาคม 2559
Last Update : 19 สิงหาคม 2559 10:37:51 น.
Counter : 1571 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  

LoveBerryJoyJee
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]



loveberry joyjee
See my Art work, Graphic Design