Group Blog
All Blog |
บทส่งท้ายโรคผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) และโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (sle)
 ร่างกายเปรียบเหมือนเรือเดินสมุทรขนาดยักษ์ แต่หากมีรอยรั่วเพียงนิดเดียวทุกระบบที่เชื่อมโยงถึงกันก็พร้อมที่จะพังทันที ทำไมเราถึงไม่ลงว่าใช้ยาอะไรแล้วดีขึ้นนั่นนี่ ลงแต่เพียงสกินแคร์ที่เราใช้เองแล้วมันโอเคกับเราเท่านั้น เพราะเราอยากให้คนที่เป็นโรคนี้ไปหาหมอเพื่อตรวจเลือด (หาไทรอยด์ / sle / สิ่งที่ไวต่อสัมผัส) ไม่ใช่รับแต่ยาสเตียรอยด์มากิน มาทา แต่เป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุรื้อระบบและฟื้นฟูเซลในร่างกายใหม่ทั้งหมด ว่าภายในของเรามีรอยรั่วตรงไหนถึงได้ส่งผลออกมาทางผิวหนัง ตัวเราเองเคยกังวลใจว่าชั้นจะเป็น SLE ร่วมด้วยไหม เพราะคีย์เวิร์ดของ SLE มีแต่บั่นทอนเช่น "sle อยู่ได้กี่ปี" "โรคพุ่มพวง ตาย" "sle รักษาไม่หาย" - -" ในท่ามกลางคีย์เวิร์ดที่แสนจะบั่นทอน มีแสงสว่างเล็กๆ คือข้อเขียนที่เป็นทัศนคติด้านบวกของผู้ป่วยท่านหนึ่งในพันทิป ซึ่งอ่านแล้วเราชอบมาก มันเป็นวิธีดูแลตัวเองแบบสรุปทุกสิ่งสำหรับ SLE และนำมาใช้กับภูมิแพ้ได้ด้วย SLE (โรคภูมิแพ้ตัวเอง) ก็คือโรคที่ต้อง S = Strong ทำตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ออกกำลังกาย ใจไม่ป่วย ไม่เครียด ถ้าเครียด ป่วย เป็นหวัดนั่นนี่จะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ L = Love ความรักตัวเอง เอาใจใส่ตัวเอง และความรักความเข้าใจของคนในครอบครัว อย่างเราทำงานบ้านไม่ได้ ต้องใช้เวลา 3-6 เดือน ห้ามสัมผัสนั่นนี่ต้องอธิบายให้คนในบ้านเข้าใจ E = Eat เลือกกินของที่ดีมีประโยชน์กับร่างกาย ลดเนื้อสัตว์ กินของที่ไม่ชอบแต่ดีบ้างเช่นข้าวโอ๊ต โฮทวีท ลดข้าวขาวกินข้าวกล้อง ลดน้ำตาล เอาไว้ว่างๆ เราจะแวะมาเขียนถึงคนที่เป็นเอ็กซีม่าหนักกว่าเราหลายเท่า หนักขนาดไม่สามารถทำ skin test ได้ เพราะผิวหนังทุกตารางนิ้วไม่มีที่ว่างจากผิวหนังอักเสบเลย เดินไปหนังกำพร้าก็หลุดร่วงไปเรื่อยๆ ทั้งตัว บวกกับผิวแห้งขนาดเกิดไฟฟ้าสถิตเหมือนมีเข็มมากมายทิ่มตามตัว และมีผิวที่ติดสเตียรอยด์ทั้งชนิดกินและทาเป็นเวลา 10 เดือน ส่งผลต่อระบบเส้นประสาททั้งหมดแม้แต่การนอนหลับ สุดท้ายหายได้ด้วยวิธีทางธรรมชาติโยนสเตียรอยด์ทิ้ง ผจญกับ 2 เดือนนรกหลังหยุดสเตียรอยด์ ด้วยใจที่ไม่ปักใจเชื่อแนวทางการรักษาใดอย่างสุดโต่งเพียงอย่างเดียวแต่เลือกหยิบแต่ละส่วนของแนวทางการรักษาที่ดีต่อตัวเองมากที่สุดมาใช้ //แบบการเลือกเดินทางสายกลางตามหลักของพระพุทธเจ้าแท้ๆ ค่ะ โรค eczema (ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ) กับผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ประเภทอาบ - ทาผิว
 นอกจาก shower oil แล้วพวกครีม - เจลอาบน้ำเราก็ใช้ได้ตามปกตินะ แต่ต้องเลือกที่มีความชุ่มชื่นสูงล้างออกแล้วผิวยังคงความชุ่มชื่น น้ำหอมไม่ฉุนหรือไม่มีน้ำหอมเลยยิ่งดี อ่อนโยนแบบไม่ทำให้แสบผิวที่เป็นแผลที่มือ (แต่ตอนหลังเราใส่ถุงมืออาบน้ำไปเลยค่ะ) ในภาพเป็นครีม - เจลอาบน้ำ 4 สูตรของ The Body Shop สำหรับคนที่มีผิวแห้ง และมี 1 สูตรสำหรับผิวแห้งและมีผิวแพ้ง่ายคือสูตรอัลมอนด์มิลค์ อีก 3 สูตรจะเป็นเชียร์บัตเตอร์, น้ำมันมะกอก, และอาร์แกนออยล์ รุ่นพวกนี้จะกลิ่นหอมธรรมชาติแบบไม่ค่อยปรุงแต่งดีค่ะ  ตัวอื่นที่ใช้แล้วโอเคสำหรับเราสบู่เด็กจอห์นสันสีขาว , johnson ph5.5 ,เดอร์มาพอน ออแกนิคส์ ph5.5 , สบู่เหลวแคร์คลาสสิคสีฟ้า (ล่าสุดเห็นแคร์ทำสูตรสำหรับ sensitive skin โดยเฉพาะออกมาเป็นแบบเจลชนิดสระผมและอาบน้ำในขวดเดียวยังไม่ได้ลองค่ะ , โชกุบุสซึสีม่วงสูตรลาเวนเดอร์ผสมน้ำนม , เบบี้มายด์สูตรน้ำนม ส่วนของเด็กอื่นๆ แพ้ (ผลิตภัณฑ์ของเด็กไม่ได้แปลว่าอ่อนโยนเสมอไปนะคะ อย่างจอห์นสันเบบี้มิลค์ที่เป็นครีมอาบน้ำนี่ตัวแพ้เลย + แสบมือที่เป็นแผลมากยิ่งกว่าตัวสบู่เด็ก)  โลชั่น+ออยล์ทาผิว นีเวียสูตรเชียร์บัตเตอร์ (กลิ่นอ่อนความชุ่มชื่นเข้มข้นสุดของนีเวีย), ยูเซอรีน ph5 ฝาแดง (ใครผิวแห้งรุนแรงก็ฝาสีน้ำเงินค่ะ) , ประเภทเบบี้ออยล์ Babini Baby Oil ดีที่สุดค่ะ รองลงมาก็คัตสันสีเขียว น่ารักสูตรเชียร์บัตเตอร์ น่ารักสูตรคาโมมายล์ จริงๆ เราอยากใช้พวกออยล์เบสเพียวๆ ไปเลยนะคะพวกน้ำมันมะพร้าว โจโจ้บา น้ำมันอโวคาโด้ โอลีฟออยล์ สวีทอัลมอนด์ออยล์ อะไรพวกนี้ธรรมชาติแท้ๆ เพียงแต่เราไม่ค่อยชอบให้ที่นอน-ชุดนอน-เสื้อผ้าติดกลิ่นเฉพาะตัวของน้ำมันธรรมชาติพวกนี้เท่าไรนัก เรื่องราว - ผลิตภัณฑ์ ของคนเป็นโรค eczema (ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ) ตอนที่ 2
 ครีม - ชาวเวอร์ออยล์ - เจลอาบน้ำ ที่ดีต่อผิวของเรา "หลังอาบยังคงความชุ่มชื่น สุขภาพผิวดีขึ้นมีความนุ่มนวลยืดหยุ่น ไม่ระคายเคืองหรือแสบผิวที่มีอาการอักเสบ ไม่ต้องการไวท์เทนนิ่งผลัดผิวให้ระคายเคือง น้ำหอมไม่ฉุน" //สรุปพวกหอมๆ แบบ bath & body works , victoria's secret ที่เคยชื่นชอบนี่ลากันไปได้เลยค่ะ รวมถึงพวกที่อาบแล้วผิวแห้งลักส์ เดทตอล โพรเทค แต่ถ้าใครใช้แล้วไม่มีปัญหาอะไรกับพวกนึ้ก็ใช้ได้สบายใจค่ะ แต่ละคนมีอาการแพ้ระคายเคืองกับสิ่งต่างๆ ไม่เหมือนกันเนอะ ที่แน่ๆ คืออะไรก็ตามที่ทำให้ผิวแห้งมากหรือระคายเคืองมักจะเกิดปัญหาตามมา ในภาพเป็นชาวเวอร์ออยล์ 2 ตัวที่ดีมากสำหรับผิวของเรา ตัวหนึ่งไม่มีข้อติอะไรเลยค่ะนอกจากเรื่องราคานั่นคือ L'occitane Almond Shower Oil ใครที่โอเคกับการจ่ายเงินหลักพันสำหรับผลิตภัณฑ์อาบน้ำชิ้นเดียว อยากบอกว่าหามาลองเถอะค่ะ ซึ่งมันก็ใช้ได้นานอยู่นะคะ (แต่เราพบตัวตายตัวแทนที่ถูกกว่าในระดับหนึ่ง ดีไม่เป็นรองกันเลยซึ่งจะเขียนถึงในตอนต่อไป) L'occitane Almond Shower Oil ให้กลิ่นอัลมอนด์ครีมมี่ๆ นุ่มนวลละมุนทำความสะอาดได้ดีมาก โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง หลังล้างออกไม่ต้องทาออยล์หรือโลชั่นก็เอาอยู่ดีงามมาก ฟีลลิ่งแบบอาบความหรูหราพร้อมกับได้ผลลัพธ์ผิวยืดหยุ่น นุ่ม เนียนเหมือนผิวเด็ก แก้ปัญหาผิวแห้ง ตึง คัน แพ้ ได้ดึ Eucerin pH5 Shower Oil กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกแนวยานิดๆ (แต่ก็ไม่เหม็นนะคะ) ทำความสะอาดได้ดี อ่อนโยน ความชุ่มชื่นเป็นรอง L'occitane แต่ก็ไม่แห้ง ไม่ลอกเป็นแผ่น เป็นขุย ยังคงต้องทาโลชั่น - ออยล์ตาม แก้ปัญหาผิวแห้ง ตึง คัน แพ้ ได้ดีทีเดียว  ส่วนใครที่ชอบหนืออยากลองพวก Shower Oil และไม่ได้มีผิวประเภทไวต่อสัมผัส ของแบรนด์ Yves Rocher ก็มีกลิ่นสดชื่นหอมหวานให้เลือกใช้ ชุ่มชื่นในระดับหนึ่ง ยังคงต้องทาโลชั่น - ออยล์ตาม //แต่เราแพ้นะคะ 555 สำหรับวิธีใช้ชาวเวอร์ออยล์ ก็นวดๆ ลูบๆ ลงบนผิวที่เปียกน้ำแบบเราถูสบู่อาบน้ำปกติเลยค่ะ ระหว่างนั้นก็ผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่กี่วินาทีออยจะกลายเป็นน้ำนมสีขาว หลังจากนั้นก็ล้างออก ใครที่กลัวว่าออยทำความสะอาดได้ไม่สะอาด อยากบอกว่าสะอาดล้ำลึกมากค่ะ แบบการทำงานของพวกออยล์ที่ใช้ล้างเครื่องสำอางสำหรับรองพื้น - กันแดดที่ล้างออกยากๆ เลยล่ะ :) เพียงแต่ shower oil จะไว้ใช้สำหรับผิวกาย ซึ่งบ้านเราเป็นเมืองร้อนเลยอาจไม่ได้รับความนิยมมากนัก บวกกับมันไม่มีฟอง เรื่องราว - ผลิตภัณฑ์ ของคนเป็นโรค eczema (ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ) ตอนที่ 1
 eczema ไม่ใช่ sensitive skin ธรรมดาแบบผิวชั้นแพ้ง่าย แพ้นั่นนี่ แต่เป็นมากจนต้องพบแพทย์ได้ยาฆ่าเชื้อ - แก้ภูมิแพ้กลับมาทาน + สเตียรอยด์อย่างแรงที่ให้ใช้เฉพาะระยะสั้นอีก 2 หลอด และยูเรีย 20% เพื่อทา (แต่เราแพ้ยูเรียค่ะ แสบร้อนที่ผิว คันยิบๆ จนทนไม่ไหวเกาเลือดออกซึ่งน้อยคนมากนะที่จะแพ้ยูเรีย เพราะมันมีอยู่ในเครื่องสำอางหลายชนิดเป็นสารให้ความชุ่มชื่น ไม่มีน้ำหอม) ส่วนในภาพตอนเป็นลมพิษแบบเฉียบพลันจากการแพ้ใยขัดผิวที่ใช้ทำฟอง ผสมกับเป็น eczema อยู่แล้วดูแย่มากๆ เลยค่ะ จริงๆ Blog นี้น่าจะเป็นเรื่องของการดูแล หลีกเลี่ยง รักษา โรคนี้มากกว่าความสวยความงาม แต่ก็เอาเถอะ เผื่อวันไหนอยากรีวิวอย่างอื่นบ้าง :) //ใครที่เคยเป็นบางท่านคงรู้ว่ารักษา (เหมือนจะ) หายขาดได้ แต่เมื่อไรที่ร่างกายเราอ่อนแอ หรือไปสัมผัสสิ่งที่แพ้เข้า (นิเกิล / สารซักล้าง / น้ำหอม / สัตว์เลี้ยง / ไรฝุ่น หรืออาหารบางชนิดที่แพ้) สิ่งที่ฝังอยู่ในตัวเรา 10-20 ปี มันก็พร้อมที่จะกลับทันที และเพื่อให้ชัวร์แนะนำให้ไปตรวจเลือด + ทำ skin test ที่โรงพยาบาลเลยค่ะ จะได้หลีกเลี่ยงสิ่งนั้นไปตลอด และจะได้รู้ด้วยว่าข้างในร่างกายของเรากำลังผิดปกติเจ็บป่วยร่วมด้วยหรือเปล่า ถึงแสดงอาการออกมาบนผิวหนัง  |
ชิฟฟอนคาปูชิโน่
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?] ชอบน้ำหอมก็เลยเปิดร้านน้ำหอมมินิเป็นงานอดิเรก เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เห็นคนอื่น Happy กับกลิ่นหอมที่ถูกใจค่ะ *** สิทธิ์เป็นของผู้เขียน และผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านต่างๆ หากนำไปใช้รบกวนให้เครดิตด้วย จะยินดีเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณค่ะ*** ติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ wisa.p@me.com @@@@@@@@@@@@@@@@@ I Am Beautiful "ไม่สำคัญว่าใครจะมองเรายังไง แต่มันสำคัญที่ว่า เรามองตัวเองยังไง" Friends Blog
|
