"life is full of surprises"
Welcome to Hollywood! การเขียน Topic นี้ไว้ในกลุ่มเรื่องขนาดสั้นเพราะเราต้องการให้มันเป็นเพียงเรื่องที่สมมุติขึ้น ประเภทกาลครั้งหนึ่งเมื่อนานแล้ว... แต่มันก็เป็นการเขียนอีกครั้งที่ทำให้เรามีความสุข ^__^ "life is full of surprises" ถ้าวันหนึ่งคุณคุยกับคน ๆ หนึ่งอย่างถูกคอ ราวกับรู้จักกันมาแสนนานเหมือนเพื่อนเก่า โดยที่ไม่เคยสนใจว่าเขาหรือเธอจะเป็นใครมาจากไหน จนกระทั่งเมื่อความจริงปรากฎจากทั้งหมดที่เราคิดก็ว่าแค่เรื่องขำ ๆ มันกลายเป็นเรื่องจริง คน ๆ นั้นอยู่สูงและไกลเกินแม้แต่จะนึกถึงคุณจะทำอย่างไร... สำหรับเราๆกลัวค่ะวิ่งหนีเลย 555 เพราะมันไม่ใช่แค่ surprises ธรรมดา แต่เป็น Big surprises ถึงได้บอกว่า Welcome to Hollywood ยังไงล่ะ!

"you sounded just like you are afraid to meet me...not because i'm a liar but you are just in awed of who i am. i want to remind you that i'm just as human being as much as you are, one day we'll die and bodies turn in to dust/ash.see? we were all the same when we born and turn to dust when we die. does this make you feel better?"

"ดูเหมือนว่าการที่คุณกลัวการพบกันนั้นไม่ใช่เพราะผมเป็นคนหลอกลวง แต่คุณกลัวเพราะรู้แล้วว่าผมเป็นใคร ดังนั้นผมจึงอยากให้คุณพึงระลึกถึงในข้อหนึ่งที่ว่า เราต่างก็เป็นมนุษย์ วันหนึ่งเมื่อเราตายไป ร่างของเราก็ต้องเป็นเถ้าธุลีกลับคืนสู่ผืนดินเหมือน ๆ กัน จริงมั้ย? คนเราต่างมีจุดเริ่มต้นเหมือนกันเมื่อลืมตาดูโลกและมีจุดจบเหมือนกันเมื่อเราตาย...การคิดแบบนี้มันทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นบ้างหรือเปล่านะ?"

เราไม่เคยรู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมคำลงท้ายจดหมายทุกฉบับถึงเขียนว่า "life is full of surprises" และ "ผมจะไม่อวยพรให้คุณนอนหลับฝันดี เพราะถึงอย่างไรคุณก็ต้องพบกับความจริงของชีวิตในทุกเช้าที่แสนวุ่นวาย"

ถ้าบนโลกใบนี้ไม่มีเรื่องแปลก ๆ บ้างมันก็คงน่าเบื่อเนอะ

Photobucket



Create Date : 12 กรกฎาคม 2555
Last Update : 12 กรกฎาคม 2555 21:11:28 น.
Counter : 1108 Pageviews.

รอยร้าว
ก่อนแต่งงานใคร ๆ ก็บอกว่าเราเป็นคู่ที่น่ารัก คู่ที่มีจุดพบกันเหมือนฝัน จำวันครบรอบของเราได้มั้ยคะที่รัก

Moon River, wider than a mile,
I'm crossing you in style some day.
Oh, dream maker, you heart breaker,
wherever you're going I'm going your way.
Two drifters off to see the world.
There's such a lot of world to see.
We're after the same rainbow's end--
waiting 'round the bend,
my huckleberry friend,
Moon River and me

เพลง moon river เป็นเพลงที่เราสองคนเต้นรำด้วยกันในวันนั้น มือประสานมือ ตาประสานตา ใจประสานใจ เคลื่อนไหวสอดคล้องไปกับท่วงทำนอง

วันเวลาผ่านไปมีเรื่องราวและผู้คนเข้ามาในชีวิตของเราสองคน แต่ฉันยังคงรักคุณเหมือนครั้งแรกรักและหวังว่าคุณก็ยังมั่นคงในรักเช่นเดียวกัน

7 สิงหาคม ฉันได้ล่วงรู้ถึงความสัมพันของคุณกับหญิงสาวที่มากกว่าหนึ่งคน เมื่อก่อนฉันเคยคิดนะคะ วันใดถ้าคุณมีใครอื่น ฉันก็จะมีเหมือนกัน ไม่ต้องไว้หน้าหรือเหลือเกียรติใด ๆ ให้แก่กันอีก แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงฉันก็ไม่อาจทำได้อย่างที่เคยคิด ความเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่าได้ถาโถมเข้ามา เหมือนพายุลูกใหญ่ที่พัดเพื่อทำลายล้างทุกสิ่งก่อนจากไปแล้วทิ้งซากปรักหักพังไว้เบื้องหลัง...เราเหลือเพียงความเย็นชาต่อกันและเพลงรักที่ไม่อาจหลอมรวม

13 สิงหาคม หลังฝนตกติดต่อกันหลายวัน วันนี้เป็นวันแรกที่เห็นแสงแดดลอดผ่านท้องฟ้า ฉันเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน เปิดลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าของคุณเห็นยาวางอยู่ 3 ซอง...ยาที่ฉันคอยเตือนคุณเสมอว่าอย่าลืมทานอย่างห่วงใย ฉันมองมันด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไปจากวันวาน...

...ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ฉันเดินออกไปยืนอาบแสงอุ่นจากดวงอาทิตย์...แต่มันกลับหนาวไปถึงหัวใจ

ปลายเดือนกันยายนอาการโรคประจำตัวของคุณกำเริบและฉันกลับกลายเป็นผู้หญิงที่แสนดีของคุณอีกครั้ง คุณกุมมือฉันพร้อมน้ำตา คุณกล่าวคำขอโทษและเอ่ยปากว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครดีเท่าฉัน ฉันเอื้อมมือลูบผมที่ปรกหน้าของคุณขึ้นและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน


13 สิงหาคม วันที่ฉันได้เทยาบางส่วนออกจากแคปซูล...


รักคุณเสมอ









Create Date : 12 ตุลาคม 2553
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 10:16:33 น.
Counter : 534 Pageviews.

1 comment
เด็กชายกับลูกอมปีศาจ (base on true story) : นิทานวันหยุด
@@@@ องก์ที่ 1 ปฐมบท @@@@


ณ โรงเรียนพันทิป ห้องแป้ง 2/3

ในเช้าวันที่อากาศแจ่มใส เด็กชายงงงวย ได้เข้ามาเป็นนักเรียนใหม่
และออกไปยืนกล่าวแนะนำตัวเองหน้าชั้น "สวัสดีเพื่อน ๆ ที่น่ารัก ที่เราหน้าใส
เพราะเรากินปลาสลิดบางบ่อ เพื่อน ๆ คนไหนสนใจฝากซื้อได้นะ"

ทั้งครูและเพื่อนนักเรียนคนอื่นที่นั่งฟังพากันไอโขลก ๆ แล้วพูดประสานเสียง ทวนกฏข้อที่ 1 ของโรงเรียน

"โรงเรียนแห่งนี้ห้ามซื้อขายหรือเกี่ยวข้องกับการรับฝากซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าทุกชนิด
ไม่ว่าจะเป็นสากกะเบือหรือเรือรบ รวมทั้งปลาสลิดบางบ่อของหนูด้วยนะจ๊ะ"

แต่เด็กชายงงงวยก็ยังไม่ยอมหยุด "เราไม่ได้ขาย เราแค่รับฝากซื้อเท่านั้นเองผิดตรงไหน
เพราะอยากให้ทุกคนหน้าใสโดยทั่วหน้า จะปิดกั้นเกินไปหรือเปล่า"

"โกหก" เสียงนักเรียนคนหนึ่งแย้งขึ้น "นายไม่ได้รับฝากซื้อ
แต่นายนั่นล่ะคือคนขายปลาสลิดปลอมตัวเข้ามาในโรงเรียนเรา
นี่ไงหลักฐานเป็นคลิปนายกำลังทอดปลาสลิดหน้าเตา"

"เราก็มีเหมือนกัน" เสียงเด็กนักเรียนอีกคนกล่าวเสริม พร้อมกับหยิบป้ายโฆษณาแผ่นหนึ่งออกมา
"เมื่อวานเราไปหาเพื่อนโรงเรียนนานาช่า และเราเห็นโฆษณาขายปลาสลิดนี้ติดอยู่ที่รั้วโรงเรียนนานาช่าคนในรูปก็คือนาย"

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ๆ ดังขึ้นในห้อง และได้ข้อสรุปว่าเด็กชายงงงวย ไม่สามารถรักษากติกามารยาทการอยู่ร่วมกันได้ คุณครูจึงทำเรื่องถึงครูฝ่ายปกครอง และคำตอบจากฝ่ายปกครองคือเห็นสมควรไล่ออก ให้พ้นสถานภาพนักเรียน ของโรงเรียนพันทิปอย่างถาวร
(พูดง่าย ๆ ถูกยึดอมยิ้มไปแล้ว)


@@@@@@@@@@ จบภาคปฐมบท @@@@@@@@@@@@


เด็กชายงงงวยหลังถูกไล่ออก และพ้นสถานภาพนักเรียนอย่างถาวรจากโรงเรียนพันทิปแล้ว
โปรดอ่านอีกครั้ง "ถูกไล่ออก และพ้นสถานภาพนักเรียนอย่างถาวรจากโรงเรียนพันทิปแล้ว"


@@@@ องก์ที่ 2 ชีวิตใหม่ในนานาช่า @@@@


เด็กชายงงงวยหิ้วนักเรียนกระเป๋ามาหยุดอยู่ที่รั้วสีโอลโรสสดใสของโรงเรียนนานาช่า
เพื่อน ๆ และคุณครูต่างยิ้มต้อนรับแม้จะรู้ว่าเค้าถูกไล่ออกจากโรงเรียนพันทิป
ข้อหาขายปลาสลิดบางบ่อ เพราะกฏของที่นี่คือ

"ใครใคร่ค้า ค้า ใครใคร่ขาย ขาย ใครใคร่ซื้อ ซื้อ คุณจะตั้งราคาเท่าไรก็ได้
แต่ขออย่างเดียวห้ามโกงเงินเพื่อนนักเรียนด้วยกัน"

จะว่าไปที่แห่งนี้ก็เหมือนสวนอีเดนของเด็กชายงงงวยและทุกคนที่นั่น แม้ว่าบางครั้งจะมีนักเรียน
ถูกโกงเงินบ้างประปรายจากเพื่อนนักเรียนขาจร แต่ก็ยังสงบสุขอยู่ดี

เด็กชายงงงวยคิดขยับขยายหาลู่ทาง เขารับลูกอมปีศาจเข้ามาขายเพิ่มนอกจากปลาสลิดฯ
"นี่คือลูกอมปีศาจ เราอมไว้ในปากแล้วมันจะแตกฟู่ พอแลบลิ้นดูจะเป็นสีรุ้ง" เพื่อนนักเรียนต่างให้ความสนใจซื้อไปใช้ และพอใจกับลูกอมปีศาจ

จนกระทั่งวันหนึ่งมีใครจากไหนก็ไม่รู้ คลุมหน้าคลุมตา เดินเข้าไปแปะข้อความหน้ารั้วโรงเรียนนานาช่า

"ข่าวด่วน !!!! พ่อค้าลูกอมปีศาจ เด็กชายงงงวย งานเข้า คนแห่ฟ้อง สคบ. พร้อมเรียงแถวเข้าแจ้งความ"

พร้อมกับใช้ชื่อ พันทิป ลงท้าย

*** หมายเหตุ ท่านผู้อ่านสามารถคลิ๊กเข้าไปสัมผัสสถานการณ์จริง นอกเหนือจากนิทานของข้าพเจ้าได้ที่ //www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=nanalady&id=276943&page=1&page_limit=50 ***


@@@ องก์ที่ 3 เมื่อคนจะฟ้องไม่ใช่คนซื้อ และคนซื้อไม่ได้คิดจะฟ้อง @@@


ท่านสามารถติดตามอ่านได้ที่นี่ //www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q7565010/Q7565010.html
ข้าพเจ้าเล่นหมดมุขเอาดื้อ ๆ ซะอย่างนั้นล่ะ

เอาเป็นว่าสรุปสั้น ๆ ย่น ๆ ย่อ ๆ ก็คือ

ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง นักเรียนคนหนึ่งทำผิดและถูกไล่ออก เพราะทำผิดกฎ
ของโรงเรียนได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ ซึ่งใช้กฎระเบียบคนละแบบ
กับที่เดิมที่เค้าถูกไล่ออก

ครูโรงเรียนเก่ามีสิทธิ์ตามไปไล่ออกจากโรงเรียนใหม่และประจาน
ให้อับอายหรือไม่ ทั้งที่เพื่อนนักเรียนโรงเรียนใหม่ไม่ได้เดือดร้อนอะไร

เมื่อโรงเรียนใหม่ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ก็เลยไม่เล่นด้วย เรียกง่าย ๆ ว่า
ไม่ใด้เออออให้ความร่วมมือในการร่วมรุมสะกำเด็กงงงวย

ครุโรงเรียนเก่าก็เลยกลับมาที่โรงเรียนตัวเองอย่างงวยงง เพราะทางนานาช่าไม่เล่นด้วย
กลับมาก็ปลุกระดมคนในโรงเรียนเก่า ให้กลับไปเล่นงานเด็กชายงงงวย
(ที่ถูกยึดอมยิ้มและกลับมาตั้งกระทู้เสนอขายปลาสลิดหรือสินค้าใด ๆ ในพันทิป
ณ ห้องแป้ง 2/3ไม่ได้อีกแล้ว)


บันทึกจาก : คนเล่านิทาน


ปล. ข้าพเจ้ามีคำถามคุณผู้อ่านหนึ่งข้อ "เข้าช่วงหน้าร้อนชอบเครื่องดื่มชนิดใดกันมากที่สุด"
เอ้า อย่าทำหน้างงว่ามันเกี่ยวกับไอ้เรื่องที่เขียน ๆ มาข้างบนอ่ะหยังก๊ะ
ข้าพเจ้าเพียงแค่อยากพาท่านผู้อ่านออกทะเลเท่านั้นเอง อิอิ



Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 23 พฤษภาคม 2553 3:06:44 น.
Counter : 1175 Pageviews.

17 comment
เรื่องของฟองน้ำธรรมชาติ ที่ไม่เกี่ยวกับฟองน้ำปุกปุย
ความรู้เกี่ยวกับฟองน้ำที่น่าสนใจ

//th.wikipedia.org/wiki/ฟองน้ำ

//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7563515/X7563515.html

//www.dek-d.com/board/view.php?id=785270

ณ ดาวโต๊ะเครื่องแป้งได้เกิดข่าวเด่นประเด็นฮอตที่คู่ควรกับการมาบันทึกไว้ใน blog อีกครั้ง
เพราะเห็นมีการขุดพงศวดารเรื่องสมัยพระเจ้าเหา ของการแยกเวปมาจับแพะชนแกะ
ให้เป็นเรื่องเดียวกันได้ ซึ่งเราไม่ขอพูดถึง เพราะเคยเขียนไว้แล้ว
แต่เราสนใจว่าทำไม๊ ทำไม ฟองน้ำจากทะเลที่เคยเดินดูตามห้างมันถึงได้แพง
(เท่าที่เดินดูราคามาตามห้างอย่างต่ำก็ 200 up) ก็ลองหาไปอ่านดู และได้เหตุผลตามลิงค์ด้านบน


ปล. ส่วนตัวผู้สังเกตการณ์ใช้แค่ใยสังเคราะห์ก้อนกลม ๆ ถูตัวก็หรูแล้ว เอิ๊ก ๆ











Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 23 พฤษภาคม 2553 3:06:58 น.
Counter : 660 Pageviews.

1 comment
ณ ดาวโต๊ะเครื่องแป้ง : นิทานวันหยุด
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แรกเริ่มเดิมทีบนอาณาจักรพันทิป ยังไม่มีดาวที่เรียกว่าโต๊ะเครื่องแป้ง
ย้อนหลังไปสัก 7 ปีก่อน ณ ดินแดนเพื่อนบ้านอันห่างไกลแค่พิมพ์แล้วคลิ๊ก //www.mthai.com
มีกลุ่มคนที่รักสวยรักงามไปตั้งกระทู้ในกลุ่ม "เก็บตกจาก inbox" คุยกันอยู่เป็นประจำ
แต่แล้วดาว mthai ก็เริ่มไม่สงบสุข เมื่อเจอผู้บุกรุกที่ตั้งหน้าตั้งตายิงโฆษณาขายสินค้าถล่มทุกกระทู้
เป็นที่สร้างความอิดหนาระอาใจยิ่งนัก

ราว พศ. 2545 ชนกลุ่มน้อยผู้รักสวยรักงามบ้างก็ตั้งบอร์ดของตัวเอง
ซึ่งส่วนมากมักจะสนทนากันเรื่อง ร้านออกัส แชมพูแคนตาลูป อีฟ โรเช่ กระปุกแดง
ลาโรช ครีมหมักผมวัตสัน และบางส่วนก็เริ่มเข้ามายังดาว "สวนลุมพินี"
ในอาณาจักรพันทิป ดาวเคราะห์ย่อย "โภชนาการและความงาม" หนึ่งปีผ่านไป
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบสุข เพราะ ณ ที่แห่งนี้แทบไม่เคยมีการถูกยิงจากโฆษณา
และผู้อาศัยต่างพูดจากันด้วยมธุรสวาจา ใช้ภาษาไทย(ส่วนมาก)ถูกต้อง
เป็นที่รื่นหูสบายตายิ่งนัก

พศ.2546 เกิดเหตุการณ์ บึ้ม!แตกตัวเป็นโกโก้ครั๊นซ์ แยกออกจากสวนลุมพินี เนื่องจากกระทู้สนทนากัน
เรื่องความสวยความงาม การลดน้ำหนัก ไปดันกระทู้ปัญหาสุขภาพกายสุขภาพจิตซึ่งเป็นวัตถุประสงค์
หลักของดาวที่ไปอาศัยเขาอยู่ร่วงเร็วยังกับผีพุ่งใต้ เลยเกิดเสียงร้องอย่างไม่พอใจว่า
"ออกไป๊ ออกไป๊ ออกไป๊" ^^" และในปีเดียวกันนั้นเองก็ได้เกิดดาวดวงใหม่ชื่อว่า
"โภชนาการและความงาม"

พศ.2546-ราวกลางปีพศ.2550 นับว่าเป็นยุคเฟื่องฟูถึงขีดสุด เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน สงบสุข
ไม่ว่าจะเป็นอมยิ้มหรือบัตรผ่าน ก็สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้อย่างเสรี
แต่บางครั้งเมื่อความเสรีนั้น ไม่เคารพสิทธิ์และปฏิบัติตามกติกา ก็ย่อมเกิดกฏใหม่
นั่นคืออมยิ้มเท่านั้นที่สามารถตั้งและตอบกระทู้
ณ ดาวโภชนาการและความงามได้ (ในช่วงปลายก่อนล่มสลาย)

ถ้าพูดถึงยุคทองสิ่งที่ข้าพเจ้านึกถึงเป็นอันดับแรก ก็คือ คณะบุคคลซึ่งเปล่งประกาย
มีสเน่ห์ในการพูดคุยเฉพาะตัวและให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ อย่างเจาะลึกทุกรายละเอียด
ไม่ว่าจะเป็นคุณรำเพย คุณนิคกี้ คุณแอ่น แอ๊น คุณ start now คุณลิลลี่
และอีกหลายท่านล้วนแต่อยู่ในความทรงจำทั้งสิ้น

หากถามว่ายุคนั้นเคยมีการโต้แย้งมั้ย แม้ว่าจะเป็นยุคที่พูดจาภาษาดอกไม้ที่สุด แต่ก็มีและแรงซะด้วย
ซึ่งข้าพเจ้าไม่อยากจดจำเลยดันจำได้แค่สองเรื่อง 1.นางฟ้าโคเซ่ 2.รักแร้ไม่ผ่อนคลาย

***หมายเหตุ เวปต้องห้าม เวปสีชมพูหรือ nanalady ซึ่งใช้เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้า
ก็ได้ตั้งขึ้นในยุคนี้เช่นกันโดยสมาชิกของพันทิปที่เห็นพ้องต้องกันว่า น่าจะมีที่แลกเปลี่ยน
และปล่อยของแยกไปต่างหาก รวมไปถึงเวป jeban ซึ่งฮิตติดอันดับสาวผู้รักเมคอัพ***

พศ.2550 ดาวดวงเก่าชื่อมันชักไม่อินเทรนด์ ผู้ปกครองอาณาจักรเลยตั้งชื่อใหม่ให้ว่า "โต๊ะ ญ.หญิง"
ซึ่งเหล่าสมาชิกต่างพากันส่ายหน้าแล้วร้องเพลง Touch My Heart Touch My Heart
ว่าชื่อนี้มันจั๊กจี้หัวใจเหลือเกิน ยังกับห้องเลสเบี้ยนและกีดกันสิทธิ เสรีภาพ ของเพศชายเกินไป
เลยเกิดการโหวตเพื่อตั้งชื่อใหม่ ซึ่งคะแนนระหว่าง "โต๊ะละลายทรัพย์ VS โต๊ะเครื่องแป้ง" สูสีกันมาก
แต่สุดท้ายหนึ่งเดียวที่ต้องใจมหาชนก็คือ "โต๊ะเครื่องแป้ง"

แยกรัฐอิสระตั้งโต๊ะใหม่ได้ไม่นานก็เกิดเรื่องพิพาทกรณีใหม่ ในสายตาคนนอกอย่างข้าพเจ้า
มันเป็นเรื่อง"น้ำผึ้งหยดเดียว" แท้ๆ ต่างเป็นคนดังด้วยกันทั้งคู่
เมื่อเหตุการณ์สงบลง ณ ที่แห่งนี้ก็เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
สมาชิกเก่าหลายท่านประกาศอำลาดาวดวงนี้ไปอย่างน่าเสียดายยิ่งนัก
ผู้คนใหม่ ๆ เดินทางเข้ามา และเป็นครั้งแรกที่เรามี "ล๊อคอินมือถือ" แต่ล๊อคอินมือถือก็อยู่ได้ไม่นาน
เสรีแต่ไม่เคารพสิทธิ์และกติกาจากบางท่าน เลยพลอยทำให้ตรงกับสำนวนที่ว่าปลาเน่าตัวเดียวฯ
ส่งผลให้ทุกวันนี้มีแต่อมยิ้มที่สมัครด้วยบัตรประชาชนเท่านั้นถึงตั้งตอบกระทู้ ณ ดาวดวงนี้ได้

พศ.2551 ช่วงกลางปี-ปัจจุบัน ยุคแห่งคำว่าไม่มีอะไรที่เหมือนเดิม ยุคม้าระบาดเป็นพักๆ
ยุคประกาศสงคราม ยุคที่คนเก่าต้องเปิดใจรับความเปลี่ยนแปลง
แต่อย่างไรที่แห่งนี้ก็ยังคงมีสเน่ห์แห่งสีสันและความงามอยู่เสมอ

บันทึกจาก : คนเล่านิทาน





Create Date : 10 มกราคม 2552
Last Update : 23 พฤษภาคม 2553 3:07:35 น.
Counter : 642 Pageviews.

19 comment
1  2  

ชิฟฟอนคาปูชิโน่
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]



ชอบน้ำหอมก็เลยเปิดร้านน้ำหอมมินิเป็นงานอดิเรก เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เห็นคนอื่น Happy กับกลิ่นหอมที่ถูกใจค่ะ

*** สิทธิ์เป็นของผู้เขียน และผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านต่างๆ หากนำไปใช้รบกวนให้เครดิตด้วย จะยินดีเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณค่ะ***

ติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ wisa.p@me.com

@@@@@@@@@@@@@@@@@

I Am Beautiful
"ไม่สำคัญว่าใครจะมองเรายังไง
แต่มันสำคัญที่ว่า เรามองตัวเองยังไง"