Group Blog
 
All blogs
 

1 Year on my Bloggang Anniversary


13 July 2011 Happy Anniversary 1 Year on my bloggang

1 ปี กับ Bloggang
1 ปี กับ มิตรภาพอันแสนดี
1 ปี กับ พื้นที่ให้เราระบาย

ขอบคุณทุกๆ คน สำหรับมิตรภาพ
ขอบคุณพี่เล็ก(ปันฝัน) กับ พี่สาว(แม่บ้านครอว์ฟอร์ด) พี่สาวที่แสนดีทั้ง 2 คน
ขอบคุณแม่น้องโชกุน(baby_shogun) และคุณหน่อย(หน่อยอิง) ที่เข้ามาทักทายเป็นรายแรก ของ blog แรกๆ เลย
ขอบคุณ คุณขวัญ(ในความอ่อนไหว) ที่เข้ามาเป็นน้าสาวที่แสนดีให้กับน้องเนี๊ยบ
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขอบคุณ Bloggang ค่ะ ที่ให้พื้นที่สำหรับเราบันทึกได้อิสระดังใจ




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2554 11:21:05 น.
Counter : 2191 Pageviews.  

ในอ้อมกอด... (จำไม่ได้แล้วว่าใคร FWM มาให้ แต่โดนสุดๆ)

...ในอ้อมกอด...



ในวันแต่งงานของผม  ผมจูงมือภรรยาของผมในอ้อมแขน  รถแต่งงานจอดหน้าที่พักของเรา  เพื่อนเจ้าบ่าวบอกผมว่า  ผมควรจะอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน  ดังนั้นผมจึงทำตาม  เธอเขินอายในอ้อมแขนผม          
      ผมช่างเป็นเจ้าบ่าวที่มีความสุขที่สุดในโลก... นี่เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วสิบปี... ในวันถัดๆ มาทุกอย่างก็เหมือนเดิม เรามีลูกด้วยกัน...ผมทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว...       เมื่อเราเริ่มมีฐานะที่ดีขึ้น... ความห่างของเราก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน...

     
ทุก ๆเช้าเราออกจากบ้านไปด้วยกันแล้วก็ถึงบ้านเวลาเดียวกัน  ลูกเราเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน  ดูเหมือนความรักของเราช่างน่าอิจฉายิ่งนัก... แต่แล้วความสงบสุขก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมิได้คาดหมาย....

      เจนเข้ามาในชีวิตของผม .... ผมยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน... เจนเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง.. หัวใจผมเต้นแรงด้วยความรัก... ที่นี่...เป็นอพาร์เมนท์ที่ผมซื้อให้เธอ...เธอบอกว่า คุณเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคน ถวิลหา... คำพูดของเธอทำให้ผมนึกถึงภรรยาผม... ตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ ๆ ..เธอบอกว่า  วันที่คุณประสบความสำเร็จ  ผู้ชายอย่างคุณจะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา... ผมเริ่มรู้สึกลังเล... ผมรู้ว่าผมกำลังทรยศภรรยาผม... แต่ผมก็ได้ทำลงไปแล้ว.... ผมปลีกตัวออกจากเจน “วันนี้คุณไปเลือกเฟอร์นิเจอร์เองแล้วกันน๊ะ ผมต้องเข้าออฟฟิศ ”   ... แน่นอน... เธอไม่ค่อยพอใจนัก  
เพราะผมสัญญากับเธอว่าเราจะไปด้วยกัน... ในตอนนั้น...ความรู้สึกถึงการหย่าร้างเริ่มวิ่งเข้ามาในความคิดผม....ทั้งที่จริงๆ แล้วผมไม่เคยมีความคิดนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

     
แต่ผมก็พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกกับภรรยาของผม.... ไม่ว่าผมจะพูดกับเธอดีสักเพียงใด... เธอจะต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน... จริง ๆ แล้วเธอเป็นภรรยาที่ดีมาก... ทุก ๆ เย็นเธอจะวุ่นวายกับการทำอาหาร..ในขณะที่ผมนั่งอยู่หน้าทีวี  ทานอาหารเสร็จเราก็นั่งดูทีวีด้วยกัน... หรือ... ถ้าผมจะเลือกเป็น...นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์.... มองเรือนร่างอันงดงามของเจน... ช่างเป็นอะไรที่หน้าฝันถึงเสียจริง

      วันหนึ่งผมพูดทีเล่นทีจริงกับภรรยาของผมว่าจะเธอจะทำยังงัยถ้าเราหย่ากัน... เธอจ้องมองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...และเธอก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร..เธอมั่นใจว่าการหย่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวเธอมาก...ผม นึกภาพไม่ออกเลยว่าหากเธอรู้ว่าเรื่องที่ผมกำลังพูดอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง... เธอจะเป็นอย่างไร วันหนึ่งภรรยาผมมาที่ออฟฟิศ...สวนทางกับเจนที่เพิ่งจะออกไปพอดี... พนักงานทุกคนทำหน้าตาเลิกลัก...   เหมือนกำลังพยายามซ่อนอะไรบางอย่างจากเธอ....  เธอเหมือนจะรับรู้มันได้...  
แต่เธอก็ยิ้มน้อย ๆ กับพนักงานทุกคน....แต่ผมก็สังเกตุเห็นแววตาที่เจ็บปวดของเธอภายใต้รอยยิ้มนั้น






      ในที่สุด...เจนก็บอกกับผมว่า...หย่ากับเธอ(ภรรยาของผม)น๊ะ..แล้วเราอยู่ด้วยกัน..ผมพยักหน้า.... ผมจะลังเลอีกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว....ผมตัดสินใจบอกภรรยาผมในอาหารค่ำ..ผมมีอะไรจะบอกคุณ... เธอนั่งทานอาหารอย่างเงียบ ๆ...ผมสังเกตุเห็นแววตาอันเจ็บปวดของเธอ...มันทำให้ผมพูดในสิ่งที่ผมต้องการพูดไม่ออก...แต่ท้ายที่สุดผมก็พูดออกไป...ผมต้องการหย่า...เธอดูไม่ตกใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดออกไปเลย...ผมย้ำกับเธออีกครั้ง...เธอเขวี้ยงตะเกียบในมือทิ้ง...แล้วตะโกนใส่หน้าผมว่า..คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย...เราไม่ได้คุยกันอีกเลยคืนนั้น... เธอร้องไห้ อย่างหนัก... ผมรู้ว่าเธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงานของเรา...แต่ผมเองไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้...เป็นเพราะใจผมได้ให้เจนไปหมดแล้วงั้นเหรอ...ผมคงไม่สามารถบอกเธออย่างนั้นได้..มันจะทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก...

     
ผมร่างสัญญาการหย่าร้างขึ้น...ระบุว่า..เธอเป็นเจ้าของบ้าน...ทุก ๆ อย่างในบ้าน ทั้งรถ... หุ้นบริษัท 30% ผมยกให้เธอหมด.... เธอเหลือบมองกระดาษที่ผมร่างขึ้น...แล้วฉีกมันทิ้ง...มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น...ผู้หญิงที่ผมอยู่ด้วยมาเป็นระยะเวลาสิบปีกลายเป็นคนแปลกหน้ากันภายในหนึ่งวัน...ผมไม่สามารถคืนคำที่ผมพูดไปได้...เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด...สำหรับผมแล้ว...การร้องไห้ของเธอเหมือนเป็นการปลดปล่อยความสับสนของตัวผมเอง...หลังจากที่ผมกลุ้มใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม..ในที่สุด...มันก็เป็นรูปธรรมขึ้นมาจริง ๆ เสียทีคืนนั้น...ผมกลับถึงบ้านค่อนข้างดึก...เห็นเธอเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ..ผมหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเพลีย...ผมตื่นขึ้นมาอีกทีแล้วพบว่า...เธอเขียนเงื่อนไขการหย่าร้างว่าเธอไม่ต้องการสิ่งใดจากผม...แต่เธอต้องการให้ผมให้เวลาเธอหนึ่งเดือนเพื่อตั้งตัวสำหรับการหย่า...และในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้นทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปกติ...ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอต้องการให้ลูกจบการศึกษาซึ่งกำลังจะมาถึงเสียก่อน..เธอไม่อยากให้ลูกต้องเห็นความล้มเหลวในการแต่งงานของพ่อแม่ก่อนเวลานั้นจะมาถึง...รัชต์..คุณจำได้มั๊ย...วันที่เราแต่งงานกัน...คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดในวันที่เราเข้าเรือนหอ..ผมพยักหน้า..นั่นเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของชั้น...ชั้นมีเรื่องขอร้อง...ชั้นอยากให้คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดจากห้องนอนไปถึงด้านล่างทุกวันนับจากวันนี้ไปจนถึงวันที่เราต้องแยกจากกัน  ผมยอมรับด้วยความเต็มใจ...ผมรู้ดีว่า เธอคิดถึงวันดีๆ เหล่านั้น...และเธอต้องการให้ชีวิตการแต่งงานเธอจบลงด้วยความทรงจำที่ดี

      ผมบอกเจนถึงเงื่อนไขที่ภรรยาผมตั้งขึ้นในการหย่าร้าง...เธอหัวเราะถึงความไร้สาระของเงือนไข....ภรรยาผมบอกกับผมว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม... เธอจะต้องยอมรับผลของการหย่าร้างให้ได้...  คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง....
             
     
เราไม่ได้ถูกต้องตัวกันเลยนับแต่วันที่ผมขอเธอหย่า...ความจริงเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกันด้วยซ้ำไป...พอถึงวันที่ผมประคองเธอลงจากห้องวันแรก...มันจึงทำให้ผมทำตัวไม่ถูก...ลูกชายเราตบมือ  แล้วพูดด้วยความดีใจว่า ว้าว... วันนี้พ่ออุ้มแม่ลงจากห้องด้วย....มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น......เธอบอกว่าอย่าบอกลูกเราถึงเรื่องของเรา...ผมพยักหน้า...ด้วยความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม...ผมขับรถไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์..แล้วเลยไปออฟฟิศ

      วันถัดมา...ความรู้สึกขัดเขินเริ่มน้อยลงไป...เธอซบบนอกผม...เราใกล้ชิดกันมากจนผมได้กลิ่นน้ำหอมของเธอ...ผมถึงได้ตระหนักว่า....เธอไม่ใช่เด็กสาวอีกต่อไปแล้ว...เธอเริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้ามากขึ้น

     
ในวันที่สาม...เธอกระซิบบอกผมว่าสวนกำลังรื้ออยู่ให้เดินระวังด้วย...ในวันที่สี่...มันช่างเหมือนกับว่าเราเป็นคู่รักที่หวานชื่นมาก...ภาพของเจนเริ่มเลือนลางไป...วันที่ห้าและหก..เธอคอยเตือนผมในเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่นเธอวางเตารีดไว้ที่ไหน..ผมควรจะระวังอะไรบ้างตอนทำอาหาร...และอื่นๆ อีกมากมาย...ความสนิทสนมของเราเพิ่มมากขึ้นทุกที...ผมไม่ได้บอกเจนถึงเรื่องนี้เลย...

      ผมรู้สึกว่าผมอุ้มเธอง่ายขึ้นทุกวันโดยไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเธอเลย...หรือบางทีคงเป็นเพราะผมแข็งแรงขึ้น...แต่แล้วผมก็พบว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด...เป็นเพราะว่าเธอผอมลงจนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าเดิมได้..นั่นต่างหากที่ทำให้ผมอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น  ผมรู้ดีว่าเธอพยายามซ่อนความขมขื่นเอาไว้...  ลูกของเราร้องขึ้นว่า พ่อได้เวลาอุ้มแม่แล้วน๊ะ...สำหรับลูกแล้ว...การได้เห็นพ่ออุ้มแม่เป็นภาพที่เขามีความสุขที่สุด....เธอเอื้อมมือไปกอดลูกไว้แน่น...ผมทนมองภาพนั้นไม่ได้จริง ๆ ผมกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย
     
     
และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง....ผมอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด...เท้าผมแทบจะก้าวไม่ออก......เธอบอกกับผมว่า...ความจริงแล้ว...ชั้นอยากให้คุณอุ้มชั้นไปจนเราแก่เถ้า...ผมกอดเธอแน่น...และผมก็ตระหนักว่า..  ชีวิตคู่ของเราขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน...ผมขึ้นรถทันทีเพื่อจะไปยังจุดหมายใหม่..ผมลังเลเล็กน้อย..แต่ในที่สุดแล้ว..ผมก็มาพบเจนจนได้....เธอเปิดประตูออก...ผมบอกเธอว่า เจน..ผมขอโทษ...ผมจะไม่หย่า....เธอมองหน้าผม แตะหน้าผากผม คุณสบายดีหรือเปล่า 
     

    เจน...ผมขอโทษ...ผมขอโทษจริง ๆ... ผมจะไม่หย่ากับภรรยาผม...ชีวิตการแต่งงานของเราน่าเบื่อมันเป็นเพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อย...ผมขาดการเอาใจใส่ในตัวเธอ....มันไม่ได้ หมายความว่าเราไม่ได้รักกัน....ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว....ว่าตั้งแต่วันที่ผมอุ้มเธอเข้าบ้าน...เธอมีลูกให้ผม...ผมควรจะประคองเธอไปจนแก่... เจนตบหน้าผมอย่างแรงและกระแทกประตูใส่ผม....ระหว่างทางกลับบ้านผมแวะร้านดอกไม้.... พนักงานขายดอกไม้ถามว่าจะเขียนว่าอะไร....ผมให้เธอเขียนว่า...ผมจะอุ้มคุณทุกเช้าจนกว่าเราจะแก่ 

 





 

Create Date : 29 มกราคม 2554    
Last Update : 29 มกราคม 2554 4:42:53 น.
Counter : 1677 Pageviews.  

วันเกิด >> วันแก่ >> กับอิแม่ลูก 2

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

18 มกรา ...


~~เป็นวันเกิดแม่น้องเนี๊ยบ และด้วยความที่วุ่นๆ เลยลืมไปเลยว่าวันนี้คือวันเกิดเรา
ทำให้กว่าจะได้อัพบล็อค ก็ย่างเข้าวันที่ 19 ไปละ มานึกได้ก็ตอนอิคุณพ่อเค้าชวนไปกินข้าวนอกบ้านนี่หละ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจ ทำอะไรกินกันเองที่บ้านดีกว่า อบอุ่น ไม่วุ่นวาย และประหยัด 555 อันนี้สำคัญ
~~ออกมานั่งกินกันหน้าบ้าน ไม่มีจุดเทียน เป่าเค้กหรอกค่ะ เพราะกะไม่ถูกว่าต้องใช้เค้กกี่ปอนด์ ถึงจะปักเทียนได้ครบอายุ หยึ๋ยๆๆๆ นี่ฉันอายุ 28 แล้วหรอเนี่ย เอาละก็โออยู่นะ 28 ปี กะลูก 2 คน และครอบครัวที่อบอุ่น
~~ถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆ ได้นิดหน่อยค่ะ เพราะมัวแต่ไล่จับเจ้าตัวยุ่งกันจนเมื่อย มะ...มาดูกัน




>>>อ้อ ลืมบอกไปค่ะ ว่าของขวัญวันเกิดที่พ่อลูกเค้าจัดให้ก็คือ นี่เลยค่ะ
ทรงผมใหม่ พ่อ-ลูก






>>>อาหารที่เพื่อนๆ ของคุณพ่อเค้ามาช่วยกันปรุงกันในวันเกิดอิคุณแม่




>>>ง่ายๆ ส่วนมากจะเป็นอาหารอิสาน เพราะคุณพ่อเค้าชอบ




>>>ชอบไม่ชอบก็ดูสิคะ กินใหญ่เลย




>>>แม่-ลูกนั่งดูเค้าทานกันค่ะ




>>>ลิงน้อยหน้าบานสุดๆ อีกละ ก็มีเพื่อน(พ่อ)มาเล่นด้วยเยอะนี่นะ






>>>แล้วลิงก็หลับ




>>>ใครเคยเห็นลิงหัวเขียวมั่ง เค้ามีแต่แมลงวันหัวเขียวเน๊อะ




>>>ปิดท้ายด้วยรูปเด็กหนาว เมื่อเช้านี้




>>>อากาศเย็นมาอีกแล้ว รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับทุกๆ คน




~~และทุกครั้งที่เราคิดจะจัดงานวันเกิด เราจะนึกถึงกลอนนี้เสมอ
เลยทำให้เราไม่อยากจัดอะไรที่มันเป็นงานรื่นเริงนัก
เพราะวันเกิดของเรา ก็เป็นวันที่เกือบทำให้แม่ตายเหมือนกัน

     งานวันเกิดยิ่งใหญ่ใครคนนั้น          ฉลองกันในกลุ่มผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศสรรเสริญเพลินทะนง           วันเกิดส่งชีพสั้นเร่งวันตาย
     อีกมุมหนึ่งซึ่งเหงาน่าเศร้าแท้          หญิงแก่ๆนั่งหงอยและคอยหาย
โอ้วันนั้นเป็นวันอันตราย                    แม่คลอดสายโลหิตแทบปลิดชนม์
     วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่        เจ็บท้องแท้เท่าไหร่มิได้บ่น
กว่าอุ้มท้องกว่าจะคลอดรอดเป็นคน        เติบโตจนบัดนี้นี่เพราะใคร
     แม่เจ็บเจียนขาดใจในวันนั้น           กลับเป็นวันลูกฉลองกันผ่องใส
ได้ชีวิตแล้วก้อหลงระเริงใจ                 ลืมผู้ให้ชีวิตอนิจจา
     ไฉนจึงเรียกกันว่าวันเกิด               วันผู้ให้กำเนิดจะถูกกว่า
คำอวยพรที่เขียนควรเปลี่ยนมา             ให้มารดาเป็นสุขจึงถูกแท้
     เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ            ควรที่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่
ระลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด่                   อย่ามัวแต่จัดงานประจานตัว


ขอบคุณกลอนดี-ดี จาก อาจารย์นภาลัย (ฤกษ์ชนะ) สุวรรณธาดา (ผู้แต่ง)



~~ พรวันเกิดปีนี้ ลูกไม่ขออะไรมาก นอกจากขอให้แม่ของลูกมีสุภาพแข็งแรง




 

Create Date : 19 มกราคม 2554    
Last Update : 19 มกราคม 2554 3:04:44 น.
Counter : 1885 Pageviews.  

รักเราเมื่อเก่าลง....ขำๆ แมร่งโคตะระโดน(ได้รับ FWM มานานละ)

วันนี้มานั่งลบเมลล์เก่าๆ ที่มีกว่า 600 ข้อความ เลือกไปเลือกมาก็มาเจอเมลล์นี้เข้า
เมื่อก่อนตอนได้รับ forward mail นี้มา ก็อ่านแล้วทำเฉย
แต่วันนี้พอมาอ่านดูอีกที เออมันเริ่มตรงกับชีวิตกรูตอนนี้แล้วแฮะ
เลยเอามาฝากไว้ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน แต่ถ้าใครได้เคยรับข้อความแบบเดียวกันนี้มาแล้ว
ช่วยให้ความเห็นหน่อยนะคะ ว่ามันตรงกับชีวิตคู่ของคุณตอนนี้หรือไม่ อย่างไร ขำๆ น่ะค่ะ


เมื่อก่อนหอมแก้มเป็นอาจิณ                      เดี๋ยวนี้ ได้กลิ่นเป็นอาเจียร
เมื่อก่อนเจอกัน อ่ะของฝาก                       เดี๋ยวนี้ เมิงอยาก ก็ซื้อดี๊
เมื่อก่อนขับรถรับส่งฟรี                             เดี๋ยวนี้เฮ้ย! แท๊กซี่ เอาอีนี่ไป
เมื่อก่อนร้องไห้คอยกอดปลอบ                  ป่าวประกาศช๊อบ ชอบบบบคนอ่อนไหว
เดี๋ยวนี้กรูร้องไห้ โอ้ย...เป็นรัยอ่ะ กระแดะเข้าไป อยากได้อะไร บอกดีๆ

เมื่อก่อนยิ้มให้ โหย...ใจเต้น                     เดี๋ยวนี้ยิ้มให้เห็น กูปวดขี้'
เมื่อก่อน เฮ้ย..ขาว ว๊าว ดูดี                      เดี๋ยวนี้ซีดยังกะผี ดูมันชม
เมื่อก่อนข้ามถนนเดินจูงมือ
ข้าวของเงี้ยช่วยถือ กลัวเราล้ม
เดี๋ยวนี้ยกมือขึ้นพนม โอม เพี้ยง...ให้มันล้ม รถเหยียบคอ

เมื่อก่อนสาวมองทำเป็นเงียบ                    เดี๋ยวนี้ขอเบอร์เพียบ ไอ้หน้าม่อ
เมื่อก่อนจะไปไหน เดี๋ยวป๋มรอ                  เดี๋ยวนี้ไม่ง้อ จะไปไม่ไป …
เมื่อก่อนทำอะไรผิด โอ้ย… นิดหน่อย        เดี๋ยวนี้ เดี๊ยะ ต่อย …ดีๆ หน่อยได้มั้ย?

เมื่อก่อนใครมอง โกรธเป็นไฟ                  เดี๋ยวนี้ ใครอยากได้ กรูให้ฟรี
เมื่อก่อนกินข้าวเดี๋ยวป๋มจ่าย                    ก็นะ …เกรงจัย คุณเป็นเลดี้
เดี๋ยวนี้…หลอกแดกกูฟรีๆ เซ็งจังอีนี่เกาะกูกิน

เมื่อก่อนเรางอน ทำเป็นง้อ                       โวยวายตัดพ้อ ชีวิตจะสิ้น
เดี๋ยวนี้เรางอน...ทำท่าจะบิน                   ' งั้นเลิก' ฟังจนชินต้องง้อมัน
เมื่อก่อนโทรตามเอาใจใส่                        เดี๋ยวนี้โทรไปปิดซะงั้น
เมื่อก่อนแมสเสจส่งทั้งวัน                        เดี๋ยวนี้เครื่องสั่น ลืมจ่ายตังค์

ก็แค่…อยากให้นายรู้บ้าง                       คบแล้วทิ้งขว้าง รักมั่ง ไม่รักมั่ง
ถ้าเล่นๆ ก็บอกดิ 'ไม่จริงจัง'                   จะเผื่อใจไว้คราวหลัง หลายๆ คน
พวกนายเจ้าชู้ เออ …ก็ได้                      แต่ไม่อยากจะเป็นควายหลายๆ หน
มากๆ ชักจะหมดความอดทน                  เราก็คนปุถุชนธรรมดา

แต่นี่บอกไม่เจ้าชู้...ตูละเบื่อ                    ในสต๊อกที่เหลือมันใครหว่า?
ทำเป็นรักเดียวใจเดียว...ออกหน้าออกตา ใครตอแหล มารยา ลองคิดดู

กรูโนะเนะก็บอกกรูกระแดะ                     กรูกระแซะก็ว่า กรูกะหรี่
กรูเฉยๆ ก็ว่าหยิ่งสิ้นดี                            กรูอ้อนที ก็บอก 'น่ารำคาญ'
กรูไม่รับโทรศัพท์ เชิญไปบวช                พอกรูรับ 5 สายรวด โถ…อีร่าน
กรูบอกไม่มีแฟนล่ะหน้าบาน                   พอจีบติดไปนานๆ ก้อทิ้งกรู!!!!!!!!!







 

Create Date : 13 มกราคม 2554    
Last Update : 13 มกราคม 2554 1:03:46 น.
Counter : 460 Pageviews.  

ทุกอย่างอยู่ในความสงบ เพราะความน่ารักของลูก

น้องเนี๊ยบกับครอบครัว กลับมารายงานตัวแล้วค่ะ ชาวบล็อคที่น่ารักทุกคน
หลังจากที่น้องเนี๊ยบ น้องในท้อง พ่อและแม่ ไปสวัสดีปีใหม่ปู่กะย่ามา
เสียดายที่ไม่ได้เอาภาพมาฝาก เพราะไม่ได้เอากล้องไป
นี่เป็นการไปสระแก้วเป็นครั้งแรกของน้องเนี๊ยบแท้ๆ ไม่น่าพลาดเลย

จริงๆ แล้วเราไม่ค่อยอยากไป เพราะกลัวจะมีปัญหากับคนที่มันไม่รู้จักจบ
แต่พอคุณพ่อเค้าตื่นมาก็เร่งให้พวกเราแต่งตัว เก็บเสื้อผ้ารีบกลับบ้านกัน
กว่าจะไปถึงก็เย็น กะว่าจะรอให้มืดแล้วเข้านอนเลย เพราะไม่อยากจะเสวนา
กับคนที่ไม่เป็นมิตร ก็เมียเก่าของคุณพ่อนี่แหละ เธอกลับมาอยู่ที่บ้าน
บอกจะมาอยู่เลี้ยงลูก นี่แหละที่ทำให้คุณพ่อเค้าลำบากใจและไม่อยากกลับบ้าน
พอไปถึงเราก็เข้าบ้านกันเลยเพราะแม่(สามี)โทรตาม ทันทีที่ฉันและลูกลงจากรถ
ก็มีเสียงนึงดังขึ้นมา "ซื้อหวยทำไมไม่ถูกวะ" ทุกคนมองเราแม่ลูกเป็นตาเดียว
ฉันไม่ไหว้ใคร เพราะสามีไม่ได้แนะนำให้รู้จัก จนพ่อกับแม่มาฉันก็ไหว้ท่าน
และก็มีแค่พ่อกับแม่สามีนี่แหละที่คุยกับฉัน แม่มาอุ้มน้องเนี๊ยบไปนั่งเล่นในกลุ่ม
ที่ญาติๆ นั่งกัน รวมถึงผู้หญิงคนนั้นด้วย ฉันดีใจที่ทุกคนเล่นกับเนี๊ยบ อุ้มเนี๊ยบ
แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ พอพี่ชาย(ต่างแม่)ของน้องเนี๊ยบจะมาเล่นกับเนี๊ยบ
ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ให้เข้ามาเล่น พอพี่ชายของน้องเนี๊ยบเรียกเนี๊ยบว่า "น้อง"
ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า "ไม่ใช่" ฉันก็คิดว่าเอาละ เกิดเรื่องแน่ เอาวะเป็นไงเป็นกัน
ใจดีสู้เสื้อไว้ก่อน อย่างน้อยก็มีพ่อกับแม่ หล่อนคงไม่กล้าจะมีปากเสียงอะไร
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าทุกคนรักและเอ็นดูน้องเนี๊ยบ
หล่อนก็เลยเฉยๆ ไป

คืนที่ 2 น้องเนี๊ยบเกิดไม่สบาย เพราะที่นั่นอากาศหนาวมากๆ น้องเนี๊ยบร้องงอแง
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ผู้หญิงคนนั้นมาช่วยอุ้มเนี๊ยบ ปลอบเนี๊ยบไม่ให้ร้อง
เล่นด้วยจนน้องเนี๊ยบหลับไป จากนั้นฉันกับหล่อนก็คุยกันมากขึ้น
พี่สาวของสามี ที่เคยบอกว่าพ่อของเนี๊ยบมีเมียใหม่เค้ายังพอรับได้
แต่มีลูกใหม่เค้ารับไม่ได้ เค้าไม่ยอมรับเนี๊ยบ
แต่เพราะความน่ารักของน้องเนี๊ยบ แกก็รับหลานคนนี้ได้
หายา หาเสื้อผ้ามาให้เนี๊ยบ ช่วยดูแลเนี๊ยบ
ทุกคนดีกับเราจนเกินคาด คุณพ่อของน้องเนี๊ยบก็พลอยสบายใจ
อยู่ต่ออีกหลายวัน เพิ่งกลับกันมาวันนี้นี่แหละค่ะ ฉันถือว่านี่เป็นการเริ่มต้นดีๆ
เป็นสิ่งที่ดีสำหรับปีนี้ แม่ขอบใจหนูมากนะลูกรัก ที่ความน่ารักของหนูชนะทุกสิ่ง















 

Create Date : 05 มกราคม 2554    
Last Update : 5 มกราคม 2554 21:46:13 น.
Counter : 476 Pageviews.  

1  2  3  4  

konmeechai
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ถ้าชีวิต ได้ทุกอย่าง ดั่งที่หวัง
สิ้นชีวิต จะเอาของ กองไว้ไหน
ได้บ้าง เสียบ้าง ช่างประไร
ได้แค่ไหน เอาแค่นั้น แลท่านเอย.

Blog นี้ทำขึ้นเพื่อบันทึกเรื่องราว
ของน้องเนี๊ยบกับน้องนิ้ง ลูกๆ สุดที่รัก
ของพ่อชัยกะแม่หนู รวมทั้งเป็นการแชร์ประสบการณ์
ที่ผ่านมาของเจ้าของ Blog เอง

เจ้าของ Blog ขอขอบคุณทุกท่าน
ที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม ไม่เม้นส์ ไม่เป็นไร
แต่ขอให้ผู้ที่เข้ามาอ่าน ทำใจให้เป็นกลาง
เพราะบางเรื่อง-บางครั้งสิ่งที่เล่าลงไป
อาจจะไม่ถูกใจใครเท่าไหร่นัก

และสุดท้ายเจ้าของ Blog ขอขอบคุณ
ทุกๆ ของแต่ง Blog ที่ได้ไปหยิบยืมมาใช้
Blog ของเราคงเป็น Blog ที่ถูกใจไปไม่ได้
หากไม่ได้โค๊ด หรือ ของแต่งจากพวกคุณ
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ




New Comments
Friends' blogs
[Add konmeechai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.