คุยไปเรื่อย มีเรื่องอยากแชร์
Group Blog
 
All Blogs
 

รีวิว New Toyota Camry รุ่น 2.0G

สำหรับรุ่นที่ผมมีโอกาสได้นำมารีวิวเป็น New Toyota Camry รุ่น 2.0G ถือว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นของแคมรี่โฉมนี้ ไปดูกันว่ารุ่น 2.0G ให้อะไรและไม่ให้อะไร หรือมีอะไรต่างกับ 2.0G Extremo บ้าง

ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ ไฟท้าย LED ล้อ 16 นิ้ว

New Toyota Camry คราวนี้มาพร้อมสโลแกนใหม่ The New Icon of Elegance สัญลักษณืแห่งความภาคภูมิ ตัวถังมิติขนาดตัวในส่วนของความยาวตลอดคันอยู่ที่ 4,850 มม. ความกว้าง 1,825 มม. และความสูง 1,470 มม. ระยะฐานล้อ 2,775 มม. ความกว้างฐานล้อหน้า/หลัง 1,580/1,570 มม. น้ำหนักตัว 1,475 กก.

แคมรี่โฉมใหม่ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ พร้อมไฟตัดหมอกซึ่งมีมาให้ในทุกๆ รุ่น อุปกรณ์อื่นๆ รอบคัน ไฟหน้าเป็น HID แบบ Single Projector ภายในโครมติดตั้งไฟDRL หรือ Daytime Running Light แบบ LED มาให้ด้วย และมีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้ายเป็นแบบ LED (ในรุ่น 2.0G Extremo จะรมดำ) กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว

อุปกรร์พื้นฐานภายนอกระหว่างรุ่น 2.0G และ 2.0G Extremo มีให้มาเหมือนๆ กัน สิ่งที่ต่างคือ ในรุ่น 2.0G Extremo จะมีชุดแต่งมาให้รอบคัน สำหรับคนที่ชอบแนวสปอร์ตที่เป็นชุดแต่งจากโรงงาน มาพร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้วและยางขนาด 215/55 R17 ส่วนรุ่น 2.0G จะเป็นล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว และยางขนาด 215/60 R16

new toyota camry 12 copy

ภายในสีเบจ-ลายไม้ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า

โทนสีของห้องโดยสารในรุ่น 2.0G ซึ่งเหมือนกับรุ่น 2.5G จะเป็นโทนสีเบจตกแต่งด้วยลายไม้ ส่วนรุ่น 2.0G Extremo จะเป็นโทนสีดำตามสไตล์สปอร์ตตกแต่งด้วยลายไม้เช่นกัน สีเบจแบบนี้ก็ให้อารมณ์ที่ดูหรูและภูมิฐานเข้ากับสไตล์ของรถดี อีกทั้งดูสบายตาด้วย

เบาะนั่งออกแบบได้ค่อนข้างดีและนั่งได้ค่อนข้างสบาย วัสดุหุ้มเบาะเป็นหนังและวัสดุสังเคราะห์ ในรุ่น Extremo จะเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดงตามสไตล์สปอร์ตอีกเช่นกัน เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า ปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะฝั่งคนขับจะมีฟังก์ชันปรับดันหลังด้วยไฟฟ้าหรือ Lumbar Support มาให้ด้วย เบาะฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าจะมีปุ่มปรับอยู่ที่ด้านข้างของพนักพิง

เบาะนั่งด้านหลังขนาดใหญ่ องศาของพนักพิงอยู่ในระดับและองศาที่นั่งได้สบาย พนักพิงตรงกลางสามารถกางออกเป็นที่ท้าวแขนได้ พร้อมทั้งมีช่องวางแก้วน้ำที่ตกแต่งลายไม้ให้ 2 ช่อง และด้านหลังของพนักพิงตรงกลางเมื่อกางออกจะเห็นฝาปิดที่สามารถเปิดออกเพื่อหยิบของที่ฝากระโปรงท้ายได้

ระบบปรับอากาศเป็นแบบดิจิตอลแยกปรับอุณหภูมิอิสระฝั่งซ้าย-ขวา และมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังอยู้บริเวณด้านหลังที่ท้านแขนของผู้โดยสารด้านหน้า และผู้โดยสารด้านหลังยังสามารถลดความร้อนได้โดยใช้แผงบังแดดที่กระจกประตู และที่กระจะบังลมหลัง แผงบังแดดที่กระจกบังลมจะเป็นระบบไฟฟฟ้า เมื่อเข้าเกียถอยหลังแผงบังแดดจะเก็บอัตโนมัติเพื่อไม่ให้บดบังทัศนวิสัย

อ่านต่อได้ที่ www.carthaimedia.com




 

Create Date : 04 เมษายน 2558    
Last Update : 4 เมษายน 2558 16:14:21 น.
Counter : 5878 Pageviews.  

รีวิว All New Mazda 2 ซีดาน เครื่องเบนซิน

ผมเพิ่งมีโอกาสที่ได้สัมผัสตัวจริงของ All New Mazda 2 ก็คราวนี้เอง ที่ผ่านมายังไม่ได้เจอตัวรถจริงๆ เลย และยังไม่เคยได้ขับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเลย ไม่รู้ว่าสมรรถนะเป็นอย่างไรบ้าง แต่คิดว่า ..น่าจะดี

ในส่วนของตัวถังระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินนั้นไม่มีอะไรแตกต่างกัน มีให้เลือกทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู และรุ่นแฮชท์แบ็ก 5 ประตู และมี 3 รุ่นย่อยให้เลือกคือ Standard, High และ High Plus (ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลจะเป็นรุ่น XD, XD High และ XD High Plus)

ถ้าใครสนใจรถรุ่นนี้อยู่แล้ว คิดว่าคงไปดูรถตัวจริงมาแล้ว โดยอาจจะดูในเรื่องของตัวถังและออปชั่นเอาไว้ก่อน แล้วรอซื้อรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน สำหรับผมที่เพิ่งได้สัมผัสตัวเป็นๆ ของ All New Mazda 2  ครั้งแรก ก็ขอถือโอกาสรีวิวแบบรวมๆ ทั้งภายนอก ภายใน ออปชั่นต่างๆ และเครื่องยนต์

ดูปราดเปรียวตามสไตล์ลูกเสือวัยคะนอง

อย่างที่ทราบกันว่า All New Mazda 2 มีการออกแบบตามแนวคิดและแรงบันดาลใจเดียวกับ All New Mazda 3 และ Mazda 6 คือ นำเอาเส้นสายจากท่าที่เตรียมจะกระโจนออกล่าเหยื่อของเสือชีต้าร์มาใช้ เส้นสายดีไซน์ตามแนวคิดนี้เราได้เห็นครั้งแรกกันใน All New Mazda 3 ซึ่งออกมาดูสวยงามจนใครต่อใครก็เอ่ยปากชม เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะขนาดตัวของ All New Mazda 3 ที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้เส้นสายที่ว่าดูมีพลัง ดูสง่า และสปอร์ต

all new mazda 2 60 copy

เมื่อมาถึง All New Mazda 2 ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดตัวเล็กกว่าพอสมควร เส้นสายซึ่งถ่ายทอดมาจากถ่วงท่าของเสือชีต้าร์ยังคงถ่ายทอดออกมาได้ดี ใน All New Mazda 3 อาจจะได้ทั้งความสปอร์ตและความสง่า แต่ใน All New Mazda 2 จะให้ความรู้สึกที่ต่างไปคือ ดูสปอร์ตและปราดเปรียวในลักษณะของวัยรุ่นมากกว่า เปรียบเหมือนช่วงอายุคน All New Mazda 2 ก็น่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษาที่กำลังคึกคะนอง ส่วน All New Mazda 3 ก็คงเป็นวัยรุ่นวัยทำงานที่มีวัยวุฒิสูงขึ้นอีกหน่อยประมาณนั้น

ในภาพรวมแล้วถือว่าน่าประทับใจในเรื่องของดีไซน์ ส่วนใหญ่เวลาเห็นที่มีให้เลือกทั้งตัวถังแบบซีดานและแฮชท์แบ็ก ตัวถังแบบแฮชท์แบ็กมักจะได้รับความนิยมมากกว่า คาดว่าใน All New Mazda 2 ก็คงเป็นเช่นนั้น แต่อยากจะบอกว่ารุ่นซีดาน ซึ่งเป็นรุ่นที่ผมมีโอกาสได้สัมผัสและนำมารีวิวในครั้งนี้ก็สวยไม่เบาเลยเหมือนกัน

ในส่วนของอุปกรณ์ภายนอกระหว่างรุ่น 1.3 Standard กับรุ่น High และ High Plus แถวไม่ต่างอะไรกันมาก ไฟหน้าเป็นไฟรีเฟลคเตอร์แบบฮาโลเจนเหมือนกัน กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า แต่ไม่มีระบบพับเก็บอัตโนมัติ สิ่งที่รุ่น Standard จะไม่มีคือ ไฟตัดหมอกคู่หน้า กระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน ปลายท่อไอเสียโครเมียม และล้อกับยางของรุ่นนี้จะเป็นล้อกะทะขนาด 15 นิ้วในขณะที่รุ่นอื่นเป็นล้ออัลลอยด์

อ่านต่อได้ที่ www.carthaimedia.com





 

Create Date : 03 เมษายน 2558    
Last Update : 3 เมษายน 2558 20:46:44 น.
Counter : 10506 Pageviews.  

พรีวิว Toyota Alphard 2015

สำหรับผู้ที่สนใจหรือต้องการ Toyota Alphard 2015 คงกำลังรออย่างใจจดใจจ่อว่าผู้นำเข้าอิสระรายใดจะนำรถรุ่นนี้เข้ามาจำหน่ายได้ในเร็วๆ นี้ หรือว่าโตโยต้าประเทศไทยจะนำเข้ามาจำหน่ายเองหรือไม่และเมื่อไร เพราะรุ่นใหม่ซึ่งนับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 นี้ สวยและหรูหรากว่าเดิมไม่น้อยเลย

carlineup_alphard_grade_grade2_22_pc

กระจังหน้าใหม่หรูหราและโดดเด่นสุดๆ

Toyota Alphard 2015 มาพร้อมกระจังหน้าแบบใหม่ทขนาดใหญ่ที่แฝงไว้ด้วยความหรูหรา ภูมิฐาน และโดดเด่นอย่างที่สุด เส้นสายรอบคันยังคงหรูหราตามสไตล์ MPV ระดับวีไอพีที่ตอบโจทย์การเดินทางได้เป็นอย่างดี

ตามสเป็คของโตโยต้าญี่ปุ่น โตโยต้า อัลพาร์ด รุ่นใหม่นี้มีให้เลือกมากถึง 8 รุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่น Hybrid 4 รุ่น และรุ่นธรรมดาอีก 4  รุ่น ดังนี้

- รุ่น HYBRID Executive Lounge
- รุ่น HYBRID G
- รุ่น HYBRID X
- รุ่น HYBRID SR
- รุ่น GF
- รุ่น X
- รุ่น SA
- รุ่น S

ในแต่ละรุ่นยังมีการแบ่งเป็นรุ่นย่อยๆ อีกตามออปชั่น เช่น พิกัดของเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง บอดี้พาร์ท และอื่นๆ สำหรับสีภายนอกมีให้เลือก 5 สีคือ สีขาว ขาวมุก สีเทา สีน้ำเงิน และสีดำ

หรูหรา สะดวกสบายสมเป็น MPV ระดับวีไอพี

ห้องโดยสารของ Toyota Alphard 2015 ได้รับการออกแบบใหม่ให้หรูหราและภูมิฐานขึ้น ที่สำคัญสะดวกสบายขึ้น ทุกตำแหน่งที่นั่งทั้ง 6 ตำแหน่ง เบาะนั่งถูกออกแบบอย่างดีเป็นเก้าอี้แบบวีไอพีขนาดใหญ่พร้อมระบบปรับไฟฟ้าในทุกองศา พร้อมด้วยการตกแต่งอย่างหรูหรา

carlineup_alphard_grade_grade2_02_pc

โดยเฉพาะเบาะนั่งแถวที่สอง ถือว่าเป็นตำแหน่งที่นั่งได้อย่างสบายที่สุด เบาะนั่งมีออปชั่นต่างๆ ครบครันที่สุด ไม่ว่าจะเป็นที่ท้าวแขนส่วนตัว พนักรองขา ท้าวแขนขนาดใหญ่ เบาะนั่งแถวที่สามสามารถปรับและพับขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่วางสัมภาระได้

ที่พิเศษที่สุดเกี่ยวกับการออกแบบเบาะนั่งของ Toyota Alphard 2015 คือ การออกแบบให้เบาะนั่งแต่ละตำแหน่งสามารถปรับเลื่อนตำแหน่งได้ค่อนข้างมาก เช่น การปรับเลื่อนระยะห่างระหว่างเบาะนั่งด้านหน้าซ้ายกับเบาะนั่งแถวที่สองสามารถเลื่อนระยะห่างได้มากถึง 1,160 มิลลิเมตร


อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.carthaimedia.com





 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2558 11:31:04 น.
Counter : 3727 Pageviews.  

รีวิว All New Nissan X-Trail 2.0E

All New Nissan X-Trail รุ่นที่จำหน่ายในไทยมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่นตามที่มีข้อมูลมาล้วก่อนหน้านั้น เป็นเครื่องยนต์เบนซินทั้ง 2 รุ่น แต่ต่างความจุและต่างระบบกันคือ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร จะเป็นเครื่องแบบ GDI หรือระบบฉีดตรง และเครื่องเบนซินขนาด 2.5 ลิตร เป็นเครื่องยนต์หัวฉีดแบบเดิม เป็นเครื่องรหัส QR25DE เครื่องตัวเดียวกับที่ใช้ใน Nissan Teana รุ่นใหม่ ส่วนเครื่อง 2.0 GDI เป็นเครื่องรหัส MR20DD

สำหรับรูปแบบของห้องโดยสารรุ่นที่จำหน่ายในไทยจะเป็นรุ่น 7 ที่นั่ง เบาะนั่ง 3 แถว ซึ่งบางประเทศจะมีรุ่น 5 ที่นั่ง เบาะนั่ง 2 แถวด้วย สำหรับ All New Nissan X-Trail รุ่นที่ผมมีโอกาสได้สัมผัสเป็นรุ่น 2.0E CVT 2WD

เปลี่ยนโฉมใหม่ไม่ทำให้ผิดหวัง

มาคราวนี้ All New Nissan X-Trail ออกแบบได้ดีทีเดียว ถ้าใครเป็นแฟน X-Trail อยู่แล้วคงไม่ผิดหวัง และใครที่กำลังพิจารณารถยนต์ประเภท SUV อยู่พอดี ได้เห็นแบบนี้จากที่กำลังจะตัดสินใจเลือกรุ่นอื่นอาจจะต้องชะลอและหันมาพิจารณา X-Trail รุ่นใหม่นี้ดูสักหน่อย

สัดส่วนตัวถังของ All New Nissan X-Trail มีความยาวตลอดคันอยู่ที่ 4,640 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,820 มม. ความสูง 1,720 มม. อุปกรณ์ภายนอกที่น่าสนใจได้แก่ ไฟหน้าแบบ LED โปรเจ็คเตอร์ พร้อมระบบปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันหรือ Daytime Running Lights แบบ LED, และระบบปัดน้ำฝนแบบตั้งหน่วงเวลา ปัดตามความเร็วรถแบบอัตโนมัติ (ในรุ่นท็อปจะมีซันรูฟแบบพาโนรามิคพร้อมระบบเปิด-ปิดแบบ One-Touch และประตูท้ายเปิดอัตโนมัติให้ด้วย)

อื่นๆ นอกจากนี้ก็เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ไม่ได้มีอะไรปลกใหม่ เช่น มือจับประตูโครเมียม, ไฟตัดหมอกคู่หน้า, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ฯลฯ

สำหรับสีภายนอกมีให้เลือก 6 สี คือ สีแดง เรเดียนท์ เรด, สีเขียว มิดไนท์ เจด, สีขาว สตอร์ม ไวท์, สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์, สีเทา ดีพ ไอริส เกรย์ และสีดำ แบล็ค สตาร์

nissan-x-trail-07

ภายในมีทั้งสิ่งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ

มาดูที่ภายในห้องโดยสารกันบ้าง ในรุ่น 2.0S และรุ่น 2.0E ที่ผมกำลังรีวิวอยู่นี้ ภายในห้องโดยสารจะเป็นโทนสีเบจ ส่วนรุ่นท็อปและรองท็อปจะเป็นโทนสีดำ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ CarThaiMedia.com




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2557    
Last Update : 2 ธันวาคม 2557 23:56:58 น.
Counter : 3255 Pageviews.  

รีวิว Honda HR-V สวยน่าใช้ ออปชั่นดี ขับสนุก

หลังจากที่ Honda HR-V เปิดตัวได้ประมาณสัปดาห์กว่าๆ ผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสตัวจริง พร้อมทั้งมีโอกาสได้ทดลองขับด้วยจึงนำข้อมูลมารีวิวให้ทราบกันในครั้งนี้ สำหรับ Honda HR-V รุ่นที่ผมจะรีวิวต่อไปนี้เป็นรุ่น EL หรือรุ่นท็อปนั่นเอง

ดีไซน์สวย ออปชั่นจัดเต็ม

มาว่ากันที่ภายนอก สำหรับเรื่องดีไซน์คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากฮอนด้าออกแบบ Honda HR-V ออกมาได้สวยและดูลงตัวดีทีเดียว ภายใต้ขนาดตัวที่มีสัดส่วนความยาวตลอดคันอยู่ที่ 4,294 มม. ความกว้าง 1,772 มม. ความสูง 1,605 มม.ดูสมส่วนและลงตัว

ในรุ่นท็อปออปชั่นต่างๆ จัดมาให้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ไฟขับขี่ในเวลากลางวันหรือ Daylight แบบ LED, ไฟตัดหมอกคู่หน้า, ไฟท้ายแบบ LED ซึ่งเป็นแบบ Tube, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว, ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ, สปอยเลอร์หลัง, หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา และล้ออัลลอยด์ลายสปอร์ตขนาด 17 นิ้ว

ฮอนด้าให้คำจำกัดความกับ Honda HR-V ว่าเป็น Sport Crossover ซึ่งด้วยดีไซน์และขนาดตัวก็ตอบรับความรู้สึกดังกล่าวนั้น ตัวรถดูปราดเปรียวและกระฉับกระเฉง

ในส่วนของภายนอกนี้ระหว่างรุ่น E ซึ่งเป็นรุ่นกลางกับรุ่น EL ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ออปชั่นแทบไม่ต่างกัน มีเพียงหลังคาซันรูฟและไฟท้าย LED ที่เป็นแบบ Tube เท่านั้น ถ้าใครไม่สนใจหลังคาซันรูฟก็ประหยัดไปได้ 70,000 บาท

honda-hrv-24

honda-hrv-28

honda-hrv-09

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ CarThaiMedia.com




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2557    
Last Update : 2 ธันวาคม 2557 16:41:14 น.
Counter : 4671 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  

สมาชิกหมายเลข 971259
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มีความสนใจในหลายๆ เรื่อง เวลาที่คิดอะไรได้หรือไปเจออะไรมาก็อยากจะเล่าอยากจะแชร์ อยากจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 971259's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.