HotBlog ^___^ บล็อกร้อนๆ

+++ วิธีกินยาก่อนอาหาร และ ยาหลังอาหาร ที่ถูกต้อง +++





คนส่วนมากกินยาก่อนอาหารและกินอาหารทันที และถ้าเป็นยาหลังอาหาร พอกินอาหารอิ่มก็กินยาเข้าไปทันที ทั้งสองกรณีนี้มีผลเหมือนกันคือ กินยาพร้อมอาหาร ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง



ทำไมต้องกินยาก่อนอาหาร ทำไมต้องกินยาหลังอาหาร

เวลาที่เรารับประทานยาเข้าไป ยาจะผ่านปากเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร และดูดซึมบริเวณผนังของทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อไปออกฤทธิ์ในบริเวณที่เจ็บป่วย ยาแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการดูดซึมที่แตกต่างกัน ดังนั้นการกินยาก่อนหรือหลังอาหารจะมีผลต่อการดูดซึมของยา และยังมีผลต่ออาการข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาอีกด้วย


ทำไมต้องกินยาก่อนอาหาร...

ยาส่วนใหญ่ที่ให้ก่อนอาหารจะเป็นยาที่ถูกดูดซึมได้ดีในช่วงท้องว่างซึ่งจะเป็นช่วงก่อนที่เราจะรับประทานอาหาร หรือ ตัวยาเองมีฤทธิ์รักษาอาการที่จะเกิดเมื่อรับประทานอาหาร เช่น ยาต้านอาเจียน ยาเหล่านี้ให้ทานก่อนรับประทานอาหาร 15-30 นาที ยาบางกลุ่ม เช่น ยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนนิซิลลิน แอมพิซิลิน จะถูกกรดในกระเพาะอาหารทำลายได้ ดังนั้นจึงควรทานยาเหล่านี้ก่อนรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมง

ยาก่อนอาหารคือ ยาที่จะละลายได้ดีในสภาวะเป็นกรด ทุกครั้งที่เรากินยา มันจะลงไปรออยู่ที่กระเพาะเป็นด่านแรก กระเพาะคนเราขณะที่ว่างจากอาหารจะมีน้ำย่อยซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกรด เมื่อยาลงไปถูกกรดในกระเพาะ ก็จะละลายแล้วดูดซึมได้ดี ทำให้เป็นผลดีในการรักษา



ทำไมต้องกินยาหลังอาหาร...

โดยทั่วๆไป ยาที่ให้กินหลังอาหาร จะหมายถึงทานหลังรับประทานอาหาร 15 นาที แต่มียาบางชนิดที่อาจมีอาการข้างเคียงคือ ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและปวดท้องได้ เช่น ยาแอสไพริน, ยาแก้ปวดบางชนิด, ยาสเตียรอยด์ ยาเหล่านี้ให้ทานหลังจากรับประทานอาหารทันที และดื่มน้ำตามมากๆ

ยาหลังอาหาร ส่วนมากมักมีฤทธิ์เป็นกรดหรือมีฤทธิ์กัดกระเพาะ ถ้ากินยาเข้าไปขณะท้องว่าง ยาก็จะกัดกระเพาะ ทำให้อาจเป็นแผลและเป็นโรคกระเพาะได่ หรือยาหลังอาหารบางชนิดเมื่อกินขณะท้องว่ากรดจากกรพาะจะไปฆ่าฤทธิ์ยา ทำให้ยาขาดประสิทธิภาพ นี่เป็นเหตุผลว่าต้องกินยาหลังอาหาร



ดังนั้นแล้วเมื่อท่านได้รับยาให้รับประทานยาตามที่เขียนบนฉลากอย่างเคร่งครัด
การกินยาที่ถูกต้องมีวิธีปฏิบัติง่ายๆดังนี้



กินก่อนอาหาร คือ รับประทานขณะท้องว่าง ก่อนรับประทานอาหาร ครึ่งชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมง

กินหลังอาหาร คือ รับประทานหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ 15 - 30 นาที

กินหลังอาหารทันทีหรือพร้อมอาหาร คือ รับประทานยาทันทีหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ หรือ จะรับประทานยาระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารก็ได้

กินก่อนนอน คือ รับประทานก่อนเวลาเข้านอนตอนกลางคืน 15 - 30 นาที

กินเมื่อมีอาการ คือ รับประทานเมื่อมีอาการของโรค หากไม่มีอาการก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยา



ขอบคุณ
//www.yaandyou.net/druglist2.php?id=&title=ทำไมต้องกินยาก่อนอาหาร%20ทำไมต้องกินยาหลังอาหาร

//rueanthai2.lefora.com/2009/01/08/-/




เหตุผลที่ยาบางชนิดต้องกินก่อนอาหารนั้น เนื่องจากยาถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดีตอนท้องว่าง นั่นคือ ก่อนอาหารประมาณครึ่ง-หนึ่งชั่วโมง หรือหลังกินอาหารไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากถ้ามีอาหารในกระเพาะหรือลำไส้จะทำให้การดูดซึมยานั้นลดลง



ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดควรกินก่อนอาหารประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง เช่น แอมพิซิลลิน (ampicillin), คลอกซาซิลลิน (cloxacillin), ไดคลอกซาซิลลิน (dicloxacillin) อีริโทรไมซิน (erythromycin), นอร์ฟลอกซาซิน (norfloxacin) ดังนั้นถ้าลืมกินยาก่อนอาหารก็สามารถกินยาหลังจากกินอาหารไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง แต่หากนึกขึ้นได้ตอนใกล้จะกินยามื้อต่อไป ควรข้ามยามื้อนั้นไปและรอกินยามื้อต่อไปตามเวลาที่ควรกินตามปกติ



อย่างไรก็ตามหากกินยาตอนท้องว่างแล้วมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนก็สามารถกินยาหลังอาหารได้ แม้การดูดซึมยาเข้าสู่กระแสเลือดจะลดลง แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่สามารถกินยาได้เลย



ยาที่ให้กินหลังอาหารทันทีหรือกินยาพร้อมอาหาร อาจมีหลายเหตุผล เช่น ยาทำให้เกิดการระคายเคืองในทางเดินอาหาร หากกินยาตอนท้องว่างจะทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะหรือลำไส้ และแสบท้อง หรือยาบางชนิดถูกดูดซึมได้ดีในอาหารที่มีไขมัน



ตัวอย่างยาที่ให้กินหลังอาหารทันที มักเป็นยาที่มีฤทธิ์ต้านอักเสบ (anti-inflammatory drug) เช่น ไดโคลฟีแนก (diclofenac), อินโดเมทาซิน (indomethacin), ไอบิวโพรเฟน (ibuprofen), แอสไพริน (aspirin), เพรดนิโซโลน (prednisolone), เดกซาเมทาโซน (dexamethasone) หรืออาจเป็นยากลุ่มอื่น เช่น เมตฟอร์มิน (metformin) ซึ่งเป็นยารักษาโรคเบาหวานที่มีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะ



ยาบางชนิดกินก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เพราะอาหารไม่มีผลต่อการดูดซึมยา ยาไม่มีฤทธิ์ระคายเคืองทางเดินอาหาร และไม่มีปัญหาเรื่องความคงตัว เช่น พาราเซทามอล (paracetamol) ซึ่งกินยาได้ทุก 4-6 ชั่วโมง ยาปฏิชีวนะอะมอกซิซิลลิน (amoxicillin) ซึ่งกินยาทุก 8 ชั่วโมงแต่เพื่อไม่ให้ลืมกินยา บางครั้งแพทย์และเภสัชกรจึงให้ผู้ป่วยกินอะมอกซิซิลลินหลังอาหารเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยลืมกินยา แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการกินยาทุก 8 ชั่วโมงเพราะทำให้ระดับยาในเลือดคงที่ทำให้ทำลายเชื้อได้ตลอดเวลา


ขอบคุณ
//healthy.in.th/categories/healthful/news/482






ยากินก่อนอาหารหรือหลังอาหารต่างกันอย่างไร ?


โดยหลักทางเภสัชวิทยา การกินยาก่อนอาหาร (เวลาท้องว่าง) มีข้อดีที่ลำไส้จะดูดซึมยาเข้าร่างกายได้เต็มที่ เนื่องจากไม่มีอาหารคอยขัดขวาง ดังนั้นถ้าเป็นยาที่ไม่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร หมอนิยมให้กินก่อนอาหาร เช่น ยาลดความดันเลือด ยารักษาเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันมักให้กินวันละ 1 ครั้ง ตอนเช้าก่อนอาหาร (ผู้ผลิตยาพยายามผลิตยาที่ออกฤทธิ์ได้นานทั้งวันให้กินวันละครั้งเพื่อความสะดวก)

แต่อย่างไรก็ตาม ยาส่วนใหญ่หมอยังนิยมให้กินหลังอาหาร ทั้งนี้ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ



1. ยาบางชนิดอาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร (ไซ้ท้อง หรือกัดกระเพาะ) เช่น ยาแก้ปวดลดไข้แอสไพริน ยาแก้ปวดข้อบางชนิด ยาปฏิชีวนะ เช่น เตตราไซคลีน อีริโทรไมซิน เป็นต้น ยาเหล่านี้ถ้ากินก่อนอาหารอาจทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง จึงให้กินหลังอาหารซึ่งบางครั้งร่างกายอาจดูดซึมยาได้น้อยกว่าการกินก่อนอาหารแต่ก็ยังมีผลในการรักษาโรคได้ดีเช่นกัน (ปริมาณยาที่ดูดซึมในการกินหลังอาหารเพียงพอที่จะออกฤทธิ์ทางยา)



2. เป็นเรื่องของความสะดวก การกินยาก่อนอาหารคนไข้มักจะลืม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าต้องกินวันละหลายมื้อ หมอแนะนำให้กินหลังอาหารคนไข้จะเคยชิน นึกได้ว่าเมื่อกินอาหารต้องกินยาตาม

ดังนั้นสำหรับยาที่ต้องกินวันละหลายมื้อ ถึงแม้ไม่มีปัญหาเรื่องการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารก็ยังนิยมให้กินหลังอาหาร ยากลุ่มนี้จะกินก่อนอาหารได้ก็ยิ่งดี (ถ้าแน่ใจว่าไม่ลืม) และกินตอนท้องว่าง เช่น มื้อก่อนนอนก็ไม่มีปัญหา

ส่วนยาที่อาจจะระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร ควรกินหลังอาหารดีกว่าก่อนอาหาร ถ้าจำเป็นต้องกินมื้อก่อนนอน ก่อนกินยาอาจกินของว่างหรือดื่มนม แล้วค่อยกินยา เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร





เมื่อลืมกินยาตามที่หมอสั่ง ควรทำอย่างไร ?



ก่อนอื่นต้องดูว่ายาที่กินนั้นอยู่ในกลุ่มไหน เป็นกลุ่มที่ใช้บรรเทาอาการหรือกลุ่มที่ใช้รักษาจำเพาะ ถ้าเป็นกลุ่มบรรเทาอาการเช่น แก้ไข แก้ปวด แก้ไอ แก้ปวดเท้า แก้แพ้ แก้คัน เป็นต้น ก็ไม่จำเป็นต้องกินให้หมดหรือครบทุกมื้อ ก็ได้ให้กินตามอาการถ้าอาการหายก็หยุดได้ ถ้ามีอาการกำเริบใหม่ก็ได้กินใหม่ ส่วนการเว้นช่วงห่างระหว่างมื้อยาที่กินก็ขึ้นกับระยะเวลาการออกฤทธิ์ของยา เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ มักจะเว้นประมาณ 4 ถึง 6 ชั่วโมง บางอย่างอาจให้กินวันละครั้ง (เช่น ยาแก้แพ้บางชนิด) ยากลุ่มนี้ถ้าลืมกิน หากไม่มีอาการก็เว้นไปได้เลย



แต่ถ้าเป็นกลุ่มยาที่ใช้รักษาจำเพาะ เช่นยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ) ยาเบาหวาน ยาลดความดันเลือด ควรกินให้ครบทุกมื้อทุกครั้งไม่ควรเว้น ถ้าลืมกินถ้านึกได้ทันที (เช่นลืมกินก่อนอาหาร มานึกได้หลังทานข้าวห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง) ก็ให้กินยานั้นได้ทันทีไม่ควรเว้น แต่ถ้าลืมจนใกล้มื้อถัดไปที่ต้องกินยาก็ให้กินยามื้อถัดไปตามปกติ ไม่ควรเพิ่มเป็น 2 เท่า อาจทำให้ยาออกฤทธิ์มากเกินไปก็ได้

ดังนั้น ทุกครั้งที่กินยาต้องเรียนรู้ว่ายากลุ่มบรรเทาอาการ (ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของยาที่หมอให้มา) หรือเป็นยากลุ่มที่ใช้รักษาจำเพาะ ถ้าเป็นกลุ่มหลังก็ต้องหาวิธีเตือนตัวเองอย่างให้ลืมเป็นดีที่สุด



ขอบคุณ
//dek-d.com/content/all/11492/



Create Date : 17 มกราคม 2553
Last Update : 19 มกราคม 2553 21:58:55 น. 9 comments
Counter : 104706 Pageviews.  

 
เคยรู้และลืมไป ขอบคุณที่เตือน


โดย: p_tham วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:23:47:44 น.  

 
กินยาทุกๆ 4-6 ชม มีผลอะไรหรือเปล่า


โดย: เจี๊ยบ IP: 110.49.170.237 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:05:40 น.  

 
ขอบคุณนะคะ

เราไม่เข้าใจยาพร้อมอาหารอะคะ

แต่ตอนนี้เราเข้าใจละคะ


โดย: ploy IP: 180.183.18.210 วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:15:22:03 น.  

 
ยาลดความดันปกติกินหลังอาหาร แต่ถ้าเรายังไม่ทานอาหาร เราทานตอนท้องว่างได้มั้ย


โดย: ไพทูรย์ มะลิ IP: 115.67.103.179 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:36:14 น.  

 
ดี ๆ


โดย: อิอิ IP: 171.6.232.198 วันที่: 15 กรกฎาคม 2560 เวลา:17:11:31 น.  

 
ขอบคุณค่ะสำหรับความรุ้เเต่ว่าอยากรุ้ว่า ถ้าปวด ป.จ.ด กินยาเเก้ปวดควรกินก่อนหรือหลังอาหารค่ะ


โดย: แขนเป็นฝอ ขอเป็นเเฟน IP: 114.109.15.22 วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:7:14:42 น.  

 
ขอบคุณค่ะสำหรับความรุ้เเต่ว่าอยากรุ้ว่า ถ้าปวด ป.จ.ด กินยาเเก้ปวดควรกินก่อนหรือหลังอาหารค่ะ


โดย: แขนเป็นฝอ ขอเป็นเเฟน IP: 114.109.15.22 วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:7:14:57 น.  

 
ยาลดกรดบางยี่ห้อกินก่อนอาหารก็ได้หลังอาหารก็ได้ มีผลกับโรคไหม


โดย: เต๋า IP: 49.237.208.36 วันที่: 4 เมษายน 2561 เวลา:9:06:23 น.  

 
https://hellokhunmor.com/drug/%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99/

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยา Amoxicillin ใครสนใจสามารถคลิกเข้าไปอ่านเพิ่มได้ค่ะ


โดย: cartoon (สมาชิกหมายเลข 4984277 ) วันที่: 4 ธันวาคม 2561 เวลา:16:51:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

HotBlog
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add HotBlog's blog to your web]