หนังสือของด้วง
เวลาที่ใครเจอด้วง ก็มักจะเห็นเขาถือหนังสือเล่มนี้ติดตัวอยู่เป็นประจำ
ด้วงเป็นเด็กที่มีนิสัยรักการอ่าน แต่จะผิดแผกไปบ้างก็เพียงว่า
ด้วงวนอ่านหนังสืออยู่เพียงไม่กี่เล่ม
รวมถึงเล่มนี้ที่ด้วงถูกใจมากที่สุด
สำหรับเด็กวัยสิบเอ็ดขวบอย่างด้วง ซึ่งการอ่านควรจะพัฒนาจนสามารถอ่านหนังสือที่หลากหลาย
และมีความยาวมากกว่านี้ได้แล้ว หากไม่นับหนังสือเรียน หรือหนังสือ(บังคับ)อ่านนอกเวลาแล้ว
ด้วงก็จะใช้เวลาที่เหลืออ่านแต่หนังสือที่ตัวเองชอบ จำพวกหนังสือภาพสำหรับเด็ก
ที่มีภาพวาดสวยงาม และเนื้อหาที่สนุกสนานชวนติดตามอย่างเล่มนี้เป็นต้น
บางครั้งที่แม่ลองซื้อหนังสือเล่มใหม่ๆมาให้ หลายเล่มเป็นวรรณกรรมเยาวชนจากต่างประเทศ
ที่มียอดขายมากมายและเป็นที่ถูกใจกับเด็กทั่วโลก แต่เด็กคนหนึ่งในประเทศเล็กๆอย่างด้วง
กลับไม่เคยสนใจ
หลายครั้งที่แม่บ่นซ้ำๆ ในยามที่ด้วงไม่ยอมอ่านหนังสือที่ซื้อมาให้
ด้วงก็จะแสร้งทำเป็นหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่าน
สายตาที่ดูเหมือนจับจ้องอยู่กับบรรดาตัวหนังสือเหล่านั้น
แท้ที่จริงกลับกลายเป็นสายตาที่ลอยผ่าน โดยไม่สามารถจับใจความใดๆได้เลย
จนเมื่อแม่คล้อยหลัง หรือด้วงทำให้แม่เข้าใจได้ว่า เขาอ่านหนังสือที่แม่ซื้อมาให้จบแล้ว
ด้วงก็จะคว้าเอาหนังสือเล่มเก่า ออกมาพลิกอ่านไปทีละหน้าช้าๆ อย่างสุขใจ
ด้วงไม่เคยบอกแม่หรอก (จะว่าไปแล้ว แม่ก็ไม่เคยถามด้วงเหมือนกัน)
ว่าทำไมเขาถึงไม่อยากอ่านหนังสือเล่มอื่นๆ
ด้วงรู้แต่เพียงว่า เขาเกลียดช่วงเวลาในการเริ่มต้นอ่านหนังสือเล่มใหม่
เขาไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้ความอดทนมากมายแค่ไหน
และนานเท่าไร กว่าที่เขาจะเริ่มคุ้นเคย จนสนุกไปกับมัน
ด้วงกลัว หากเขาต้องทนอ่านต่อไปเรื่อยๆจนจบ
แต่กลับไม่รู้สึกชอบมันเลย
สู้เอาเวลาที่ต้องทนใช้ในตรงนั้น
กลับไปอ่านหนังสือเล่มที่เขาคุ้นเคยมาโดยตลอด
และมั่นใจได้ว่ามันจะสร้างความสุขให้เหมือนกับทุกครั้งที่ได้อ่าน
จะไม่ดีไปกว่าหรือ
แต่หากจะว่าไปแล้ว ไม่แต่เพียงหนังสือหรอกที่ด้วงมีไม่กี่เล่ม
แม้แต่เพื่อนเอง ด้วงก็เลือกคบอยู่เพียงไม่กี่คน
คนหนึ่งเป็นเด็กหญิงที่ด้วงถูกจับให้นั่งคู่กันตั้งแต่วันแรกของการเข้าโรงเรียน
หลังจากนั้นในแทบทุกที่ที่มีเธอ จะต้องเห็นด้วงอยู่ด้วยไม่ไกล
วาดกับด้วงสนิทกันมาก
อันที่จริงแล้ววาดยังสนิทกับเพื่อนอีกหลายๆคน
อาจจะเป็นเพราะวาดเป็นเด็กที่หน้าตาน่ารัก เรียนดี
และดูเก่งไปเสียทุกเรื่อง ตรงกันข้ามกับด้วงอย่างขาวกับดำ
วาดเคยชวนให้ด้วงมาเล่นกับเพื่อนคนอื่นๆอยู่เหมือนกัน
แต่ก็ดูเหมือนว่าด้วงจะปฏิเสธแทบทุกครั้ง
วาดเคยเล่าให้ฟังถึงสุภาษิตอินเดียนแดงอันหนึ่งที่เธอเคยอ่านเจอว่า
คนเราควรจะหัวเราะให้ได้วันละครั้ง ร้องเพลงให้ได้วันละหน
และรู้จักคนเพิ่มขึ้นให้ได้วันละคน
ด้วงก็ได้แต่ยิ้ม และนึกดีใจอยู่เหมือนกัน ที่เขาไม่ได้เป็นอินเดียนแดง
จนเมื่อเปิดเทอมใหม่ในปีนี้
วาดดูเหมือนจะมีอะไรใหม่ๆที่ต้องทำมากมาย
จนเริ่มที่จะไม่มีเวลาคุยเล่นกับด้วงเหมือนเคย
เธอถูกเลือกจากบรรดาครูให้เป็นประธานนักเรียนชั้นป.6
การกวดขันจากทางบ้านให้เรียนพิเศษสำหรับเตรียมสอบเข้าโรงเรียนมัธยมมีชื่อ
ยังไม่นับการฝึกซ้อมสำหรับตัวแทนเขตในกีฬาเยาวชนแห่งชาติตอนปลายปี
เมื่อวาดเริ่มไม่มีเวลาให้
นอกจากในเวลาเรียนแล้ว ด้วงจำต้องเริ่มนั่งอยู่คนเดียว
บ่อยครั้งเข้า เขาจึงเฝ้าติดตามวาดไปตามที่ต่างๆ
วาดก็ทำได้แค่หันมายิ้มให้เขาบ้างเป็นบางที แต่แทบไม่ได้คุยกัน
ด้วงรู้สึกว่า วาดไม่สนิทกับเขาเหมือนเคย
แล้ววันหนึ่งวาดกลับเป็นฝ่ายที่เดินเข้ามาหาด้วงหลังเลิกเรียน
ด้วงไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมวาดไม่ไปซ้อมกีฬาเหมือนทุกวัน
วาดยิ้มเหมือนกำลังดีใจกับอะไรอยู่สักอย่าง
ก่อนจะบอกถึงข่าวดี
วาดได้สิทธิ์โควตานักกีฬาในการเข้าเรียนต่อโรงเรียนมัธยมที่เธอใฝ่ฝัน
ด้วงยิ้ม และดีใจกับวาดไปด้วย
ทั้งที่ในใจได้แต่คิดว่า
ทำอย่างไรเสีย เขาก็คงไม่มีความสามารถพอที่จะตามวาด
เข้าไปเรียนในโรงเรียนชื่อดังแห่งนั้นได้อย่างแน่นอน
ด้วงเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง
หรือบางที อาจจะถึงเวลาแล้ว
ที่เขาควรจะเริ่มอ่านหนังสือเล่มใหม่ๆ ดูบ้าง
Create Date : 02 มกราคม 2552 |
Last Update : 2 มกราคม 2552 2:47:32 น. |
|
0 comments
|
Counter : 190 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|