การเรียนการสอนถึงแม้ว่านักศึกษาต่างชาติจะได้ชื่อว่าเป็น 留学生 = ryugakusei= international student แต่ก็ไม่ได้บังคับว่าวิชาที่เรียน หรือทิสิสที่เขียนจะต้องเป็นภาษาอังกฤษเสมอไป หากภาษาญี่ปุ่นกล้าแข็งพอ ก็สามารถลงเรียนวิชาที่บรรยายด้วยภาษาญี่ปุ่น หรือ พรีเซนต์งาน หรือ เขียนทิสิสเป็นภาษาญี่ปุ่นได้เช่นกันโดยส่วนตัวแล้วฉันเชื่อว่า หากมีความสามารถที่จะเรียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้นั้นนับเป็นเรื่องที่วิเศษทีเดียว เพราะวิชาที่บรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่นจะได้ความรู้แน่นกว่า ไม่ได้มองว่าอาจารย์หวงวิชาแก่นักศึกษาต่างชาติหรืออย่างไร แต่กำแพงภาษาก็เป็นอุปสรรคให้กับผู้บรรยายหลายท่านเช่นกันในระบบการเรียนการสอนแล้ว ฉันอยากจะแบ่งเป็น 2 อย่าง (ซึ่งต้องทำให้ดีทั้งสองอย่างนั่นแหละ) คือ การเรียน (วิชาต่างๆ) กับ การทำวิจัย (研究= kenkyu)การเรียน (วิชาต่างๆ)สำหรับการเรียนแล้ว จากประสบการณ์ที่ฉันได้สัมผัสมาสองปีของการเรียนระดับปริญญาโท (ฉันเลือกเรียนแต่วิชาที่บรรยายด้วยภาษาอังกฤษ เพราะว่าภาษาญี่ปุ่นของฉันห่วย )การสอนของที่นี่ก็สามารถแบ่งได้อีก 2 อย่าง คือ แบบที่หนึ่ง มีอาจารย์มาบรรยายแบบการเรียนการสอนในบ้านเรา โดยอาจารย์ทุกคนจะใช้ power point ในการบรรยาย แน่นอนต้องมีการบ้าน หรือรายงาน แต่เชื่อไหมว่าทุกวิชาที่ฉันลงเรียนไม่มีการสอบเลย มีเพียงแต่ การ present ปลายเทอมเท่านั้น และเชื่ออีกหรือเปล่าว่า ส่วนใหญ่จะได้ A กันหมดทุกคน มีอยู่ครั้งหนึ่งฉันได้รับเมล์จากอาจารย์ประจำวิชาท่านหนึ่งซึ่งส่งถึงนักเรียนทุกคนในคลาสว่าให้ส่งงานด้วย "อาจารย์จะตัดเกรดแล้ว อาจารย์ไม่อยากถูกตำหนิจากนักเรียนอีกถ้าจะให้ B สำหรับคนที่ไม่ส่งงาน " เพราะเทอมที่แล้วอาจารย์ท่านนี้เคยถูกตำหนิจากนักศึกษาคนหนึ่งว่าการที่เค้าไม่ส่งงานแสดงกว่าเค้า Drop วิชานี้แล้ว เค้าไม่ต้องการเกรดใดๆ บน transcrip ของเขาทั้งสิ้นนอกจาก Aจะว่าไปแล้วที่นี่จะไม่ค่อยซีเรียสเรื่องเกรดกันเท่าไหร่ แต่จะค่อนข้างซีเรียสในเรื่องของกระบวนการ และผลการทำวิจัยมากกว่า แต่ก็อย่างที่เกริ่นไว้ในบล๊อกแรกของเรื่องนี้อ่ะนะคะว่า นี่เป็นประสบการณ์ของฉันซึ่งอาจจะแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ก็ได้ค่ะแบบที่สอง เป็นวิชาเรียนแบบที่ทุกคนมีส่วนร่วม วิชานี้จะมีอาจารย์ มาบรรยายถึงลักษณะและเนื้อหาวิชาในคาบแรกเท่านั้น จากนั้นจะเป็นการแบ่งหัวข้อกันไปศึกษา คาบถัดๆ ไปจนถึงปลายเทอม จะเป็นการบรรยายจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน ซึ่งเมื่อบรรยายเสร็จใจแต่ละคาบจะมีการเปิดโอกาสให้ซักถาม แสดงความคิดเห็นได้ อาจารย์ที่ฉันปลื้มท่านหนึ่ง จะใช้โอกาสนี้ในการสรุปเรื่องที่เพื่อนๆ ของฉันบรรยาย ว่าผิดถูกอย่างไร รวมทั้งแสดงความคิดเห็นของอาจารย์เองต่อเรื่องนั้นๆ ด้วยวิชาลักษณะนี้ที่นี่จะเรียกว่า ริงโค (輪講)ซึ่งในภาควิชาของฉัน จะเป็นนักศึกษา หรือ อาจารย์ก็ได้ที่จะเปิดวิชาลักษณะนี้ขึ้นมาหากนักศึกษาสนใจที่จะเปิดวิชานี้เอง ก็ต้องคุยกับอาจารย์ที่เค้าสนใจจะให้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาประจำวิชา เลือกหนังสือ ตำรา ที่จะนำไปใช้ในวิชา และหาเพื่อนร่วมชั้นที่มีจำนวนเพียงพอถือว่าการเปิดวิชานี้เป็นการหาเพื่อนมาช่วยอ่านหนังสือที่เราสนใจก็คงจะไม่ผิดนัก แถมยังได้ 2 เครดิตถ้าลงทะเบียบเรียนอีกต่างหากการทำวิจัยนับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับการเรียนที่นี่เลยทีเดียว หัวข้อการทำวิจัยที่นี่ก็หลากหลาย อาจจะขึ้นอยู่กับเรื่องที่เราสนใจ (แต่ต้องเกียวข้องกับแลปที่เราอยู่) หรือเป็นเรื่องที่อาจารย์สนใจแล้วให้เราทำ สำหรับตัวฉันเองแล้วเลือกได้เลือกหัวข้อเรื่องที่ตัวเองสนใจ ก็เลยเลือกเมืองไทยเป็น case study ซะเลย หนึ่งเพื่อจะได้ผลมาใช้กับบ้านเราได้จริงๆ สอง เพื่อจะได้กลับมาเก็บข้อมูลที่เมืองไทยไง อิ อิ ยิ่งบางทีฟลุ๊กๆ อาจจะได้ค่าเดินทางและค่าเก็บข้อมูลจากแลป หรือโปรเจคต่างๆ ที่สนับสนุนทิสิสเราอยู่ด้วยแต่ก็มีเพื่อนๆบางคนที่ต้องทำหัวข้อที่อาจารย์สนใจ มีเพื่อนของฉันคนหนึ่งต้องทำแลปเกี่ยวกับการปนเปื้อนของน้ำดื่มในญี่ปุ่น อาจารย์จะเป็นคนนำตัวอย่างน้ำจากแต่ละที่มาให้ โดยที่นักเรียนจะไม่รู้เลยว่าตัวอย่างน้ำนั้นๆ มาจากที่ไหนในญี่ปุ่นบ้าง