ทำไมเด็กไทยไปเรียนอินเดีย


หลังเรียนจบกลับมาจากอินเดียใหม่ๆแล้วไปสมัครงาน คำถามที่ถูกสัมภาษณ์ทุกครั้งคือ ทำไมไปเรียนที่อินเดีย ทุกคนที่ถามจะไม่มีภาพการศึกษาในอินเดียเลย มีแต่ภาพความยากจนที่นั่น เราจะต้องอธิบายถึงเหตุผลแรกที่ตัดสินใจไปเรียนอินเดียก่อน แล้วค่อยร่ายเรื่องประเทศอินเดียและการศึกษาที่นั่นให้เขาเห็นภาพตามมา ทุกคนจะฟังอย่างสนใจและเหมือนเราเปิดหน้าต่างอีกบานให้เขาได้รู้จักอินเดียมากขึ้น

ราไม่เคยรู้สึกเบื่อที่จะเล่าเรื่องเมืองอินเดียเลย เพราะมันมีเรื่องราวมากมายอยู่ในความทรงจำ ทุกรายละเอียดที่เราบันทึกไว้ เมื่อนำมาเล่าคราใดก็ทำให้คนฟังประหลาดใจ หัวเราะ สนุกสนานได้ทุกครั้ง

อินเดีย ประเทศที่คนไทยมองว่ายากจน มีขอทานเต็มไปหมด จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าที่นั่นเป็นแหล่งอารยธรรมยุคแรกๆของโลก ภูมิปัญญาที่สั่งสมมาบนความแตกต่างของวัฒนธรรมในดินแดนเดียวกัน และยังเต็มเปี่ยมอยู่ในสังคมอินเดียทุกวันนี้ ทำให้เราที่ตัดสินใจมาถึงนี่แล้ว รู้สึกว่าคิดไม่ผิดและรู้สึกท้าทายในทุกวันที่ก้าวออกจากที่พัก

แน่นอนว่าช่วงเทอมแรกที่เข้าคลาส เราเด็กไทยที่เพิ่งจะได้ใช้ชีวิตต่างเมืองครั้งแรก จะฟังอาจารย์เล็คเชอร์ไม่ออกเลย พูดกับเพื่อนร่วมห้องนับครั้งได้ ก่อนจะสอบต้องขอซีร็อกซ์เล็คเชอร์ที่เพื่อนจด คืนก่อนสอบไม่เคยได้นอนเพราะอ่านหนังสือยันเช้า วันไปสอบนั่งรถผ่านวัดฮินดูต้องขอพรให้ท่านช่วยทุกวัน ท้อ เหนื่อย ร้องไห้ แต่แล้วมันก็ผ่านไปจนได้ เพราะได้กำลังใจจากเพื่อนและอาจารย์ วันที่ไปดูผลคะแนนเทอมสุดท้าย มันภูมิใจว่าเราก็ทำได้แฮะ โอย โล่งที่สุดอ่ะ

วันนี้ยังจำได้ภาพศาสตราจาย์ทั้งหลายที่มาสอน ท่านใส่ชุดคูร์ต้า กางเกงปล่อยๆแบบพื้นเมือง คีบรองเท้าแตะทั้งนั้น ไม่ถือหนังสือสักเล่ม แต่ทุกท่านยืนบรรยายเรื่องราวความรู้ให้เราฟังได้ถึง 3 ชั่วโมงอย่างต่ำ บางท่านชอบแถมเกือบ 4 ชั่วโมง ทำเราเดินมึนกลับไปสลบที่หอ แต่ละท่านเป็นด็อกเตอร์ทั้งนั้น แต่ท่าทางดูธรรมดาสุดๆ พอท่านเริ่มบรรยายเท่านั้นละ โห มันดูน่าตื่นเต้น มือไม้ท่าทางประกอบครบ ส่วนเพื่อนในห้องก็คอยยกมือถาม เถียง อภิปรายแย่งกัน ส่วนเราก็หันซ้ายขวาตามจนเมื่อยคอ

บรรยากาศในห้องเรียนมันน่าสนใจชวนให้ติดตามตลอด ไม่ต้องมีอุปกรณ์ทันสมัยใดๆ เรียนกันแบบบ้านๆนี่แหละ แต่ความรู้อัดแน่น จากเทอมแรกที่ฟังไม่รู้เรื่อง พอต่อมาชักได้ละ เริ่มเข้าใจบ้าง จดเล็กเชอร์เองบ้าง ไปหาหนังสืออ่านเพิ่ม เวลาเข้าห้องจะได้ทันเพื่อนเขา เรียกได้ว่าสภาพแวดล้อมมันบังคับให้เราต้องตั้งใจเรียนโดยปริยาย กระตือรือร้นและพยายามมากกว่าตอนอยู่ไทยเยอะ เพราะเราเป็นเด็กไทยคนเดียวในห้อง จะพึ่งใครได้มากละ ก็ต้องพึ่งตัวเองเอาตัวให้รอดนี่ละ

ตอนอยู่ไทยได้อ่าน text book ไม่กี่เล่มเพราะมันแพง แต่ที่อินเดียตำราเรียนและหนังสือต่างๆราคาถูกมาก แล้วอยู่ว่างๆไม่มีอะไรทำก็ต้องอ่านหนังสือแก้เหงา ทุกวันเสาร์ไปเดินตลาดหนังสือมือสอง ซื้อพ็อคเกตบุค นิยายภาษาอังกฤษที่ราคาเล่มละ 10-30 รูปีมาอ่านทุกวัน อ่านๆๆๆ ไม่ต้องเปิดดิกให้เสียเวลา ยิ่งอ่านยิ่งรู้ศัพท์รู้ประโยค ไปใช้พูดในชีวิตประจำวัน เรามีเวลาเรียนและอ่านอย่างเต็มที่ เพราะที่นั่นค่าใช้จ่ายไม่แพง ไม่ต้องออกไปทำงานพิเศษ

วันสุดท้ายที่เดินทางออกจากอินเดีย เราถามตัวเองว่าสองปีกว่ากับที่นี่ คุ้มไหม ตอบตัวเองว่าคุ้มนะ แลกกับเวลาและค่าใช้จ่ายที่น่าจะพอๆกับอยู่ในไทย เราได้กลับมาจากอินเดียเยอะมาก และยังจะได้อะไรอีกมากมายกับอนาคตที่รอเราอยู่ที่เมืองไทย

อินเดียมันมีอะไรมากมายรอให้เด็กไทยไปรู้จัก ถ้าคิดว่าเมืองไทยมันเริ่มแคบไปละ ก็เตรียมแพ็คกระเป๋าสู่โลกกว้างกันเลย ไม่ไปไม่รู้ ลองซะ

สนใจปรึกษาเรียนภาษาอังกฤษ ไอที เรียนต่อประถมและมัธยมในอินเดีย ติดต่อ Diya Education ที่ Line ID: diyaedu
เรายินดีให้ข้อมูลและพาไปชมโรงเรียนก่อนตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้บุตหลานท่าน






Create Date : 03 กันยายน 2556
Last Update : 9 กันยายน 2559 12:21:08 น.
Counter : 1075 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกม้าสีชมพู
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



แนะแนวเรียนต่ออินเดีย โรงเรียนประจำ มหาวิทยาลัย คอร์สภาษาอังกฤษ คอร์สอบรมครูและบุคลากร

ให้คำปรึกษาการเลือกโรงเรียน สมัครเรียน ย้ายโรงเรียน ขอวีซ่า ความเป็นอยู่ การเดินทางมาอินเดีย จัดหาการ์เดี้ยน และจัดทริปอินเดีย