coffeelover
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วิสัญญีแพทย์แม่ลูกหนึ่ง ที่พยายามทำหน้าที่ทั้ง "หมอ" และ "แม่" ที่ดีในเวลาเดียวกัน

รักการอ่าน ถ่ายภาพ และท่องเที่ยว และกำลังเริ่มจะรักการเขียนจากการเขียน blog นี่ล่ะ


Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add coffeelover's blog to your web]
Links
 

 
Austria 2013: Snail trip..Slow life เลียบไหล่ Alps#1

ปะป๊าเกริ่นตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า จะไปประชุมที่ออสเตรียช่วงเดือนมิถุนายนนะแม่ ไปด้วยกันไหม???

ที่ต้องถามก็เพราะว่าถ้าปะป๊าไปคนเดียวก็คงบินไปประชุม 3-4 วันแล้วกลับเลย

แต่ถ้าไปด้วยกัน แพลนเที่ยวคงไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ ...และเหมือนทุกครั้ง แม่ต้องเป็นคนจัดการ (คนอยากเที่ยวก็ต้องรับผิดชอบใช่มะ)

กว่าจะคอนเฟิร์มแน่นอนก็กลางเดือนเมษา เหมือนมีเวลาเตรียมตัวเยอะนะแต่พอต้องจัดการเรื่องตั๋ว วีซ่า โรงแรมเอง สองเดือนนี่พอดีๆ เลย

ก่อนสงกรานต์รีบไปจองคิววีซ่าของสถานทูตออสเตรีย ได้คิวเร็วที่สุดต้นเดือนพฤษภาคม

เพราะให้บริการแค่วันละ 30 คนเท่านั้น!!!

แนะนำว่าให้เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมค่ะ ตั๋วเครื่องบิน ที่พักให้ครบทุกวัน หลักฐานการเงิน แผนการเดินทาง ประกันสุขภาพ

เพราะถ้าไม่ครบจะต้องมานัดคิวเพื่อยื่นเอกสารใหม่ ซึ่งถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยว คิวอาจจะยาวมากจนฉุกละหุก

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

วางแผนเที่ยว

เริ่มที่เป้าหมายหลักคือ เวียนนา แล้วชื่อเมืองยอดฮิตอื่นๆ ก็ตามมา เช่น Salzburg, Hallstatt, Innsbruck รวมถึงการเดินทางไปประเทศใกล้ๆ อย่างเชค ฮังการี

แต่หลังจากอ่านรีวิวใน pantip.com และ  trekkingthai.com แล้วก็พบว่า เป้าหมายหลักที่เราอยากไปให้ถึงคือ Glossglockner Alpine Road ถนนแสนสวยเลียบเทือกเขาแอลป์ ซึ่งเปิดให้บริการแค่ไม่กี่เดือนในหนึ่งปี

ดังนั้นแผนเที่ยวก็ลงตัวที่การขับรถวนเป็นวงกลมแบบนี้...

Vienna -- Melk -- Salzburg -- Hallstatt -- Zell am see -- Glossglockner alpine road -- St. Wolfgang -- Vienna

Screen Shot 2556-06-27 at 10.07.34 PM

Road trip ใช้เวลาทั้งหมด 8 วัน จากนั้น 4 วันสุดท้ายส่งปะป๊าประชุมที่เวียนนา รวมทริปนี้ 12 วันจ้า

หลายคนเห็นแล้วอาจจะเสียดายว่า เวลาขนาดนี้ถ้าไปทัวร์น่าจะได้สัก 5 ประเทศ หรือเที่ยวในออสเตรียเองก็น่าจะเก็บได้หมดทุกเมืองใหญ่ ไม่น่าพลาด Innsbruck

แต่แม่วางแผนเที่ยวในเวลาที่รู้สึกว่าชีวิตเหนื่อยสุดๆ ยุ่งสุดๆ งานเยอะไม่มีเวลาหายใจ

แม่ต้องการชีวิต ช้า-ช้า ถึงช้ามาก....เลยออกมาเป็น "Snail Trip" แบบนี้ล่ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

12 มิถุนายน 2556

เที่ยวบิน OS 026 Austrian Airline ออกจากสุวรรณภูมิเกือบเที่ยงคืน เด็กหลับตั้งแต่สี่ทุ่ม อุ้มขึ้นเครื่องก็ยังหลับต่อ

มาปลุกแม่เสียงแจ๋วๆ ตอนเวลา 7 โมงเช้าของเมืองไทย ตื่นตรงเวลาเหมือนเดิมเป๊ะ !

ทานมื้อเช้าบนเครื่องซึ่งมีแค่แซนด์วิชร้อนหนึ่งชิ้นกับเครื่องดื่ม คิดถึงอาหารเช้าอลังการของสายการบินรักคุณเท่าฟ้าสุดๆ เลย

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

13 มิถุนายน 2556

เครื่องลงจอดที่ Vienna Schwechat Airport ตามเวลาคือตีห้าครึ่ง...ผ่าน ตม. ออกมาแบบใสๆ ไร้ความเข้มงวด (คนละฟีลกับตอนขอวีซ่า)

ยังมีเวลาอีกสองชั่วโมงในสนามบิน เพราะนัดรับรถเช่าคือแปดโมงเช้า ถ้าต้องการรับเร็วกว่านั้นจะต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 50 euro...แน่นอนว่าเรายินดีรอ เก็บตังค์ไว้กินไว้เที่ยวดีกว่าน่ะ

+ Departure & Arrival Hall กิ๊บเก๋ดี แต่สายตาระดับป้าแบบแม่คงต้องเพ่งหน่อย +

+ ภาพนี้ถ่ายตอนขากลับ +

IMG_2437

+ บรรยากาศสนามบินเช้าตรู่เงียบเหงา แต่มีร้านกาแฟ เบเกอรี่และแมคโดนัลด์ที่เปิด 24  ชั่วโมง +

IMG_1969

+ Supermarket ชื่อ SPAR มีสาขาทั่วออสเตรีย ขายทั้งของกินของใช้ ของฝาก

เปิดสิบโมงเช้าไปจนถึงค่ำ เหมาะกับ last minute shopping ก่อนโหลดกระเป๋า

ถึงอยู่ในสนามบินแต่ราคาไม่ได้โหดร้าย ภาพนี้ถ่ายตอนขากลับ  +

IMG_2254

+ รถไฟ City Airport Train (CAT) เข้าเมือง ใช้เวลาเพียง 16 นาที ออกทุกครึ่งชั่วโมง

เที่ยวเดียว 12 euro ไปกลับ 19 euro และสามารถ check-in โหลดกระเป๋าได้ที่สถานีในเมืองด้วย +

IMG_2251

+ ตารางรถบัส มีทั้งเข้าเมือง และไปเมืองต่างๆ รวมถึง Prague และ  Bratislava +

IMG_2252

+  เด็กนอนเต็มอิ่ม แจ่มใส พร้อมเที่ยว +

IMG_1968

ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า จิบกาแฟ เล่นกับลูก แป๊ปๆ ก็ได้เวลารับรถค่ะ

จองมาเป็น Mid-size car เพราะกระเป๋าเราเยอะ แถมมีรถเข็นลูกอีก หวยออกที่ Peugeot 3008...

ปะป๊าทำความคุ้นเคยกับคุณรถอยู่แป๊ปนึงก็ออกเดินทางกันได้

เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง (และลูกเราก็ช่างเลือกกิน) จุดหมายแรกคือ Billa Supermarket ใกล้ๆ สนามบิน

ปกติเวลาไปต่างประเทศ แม่กับปะป๊าชอบสำรวจตลาด เดินเที่ยว supermarket ดูของกินของใช้อยู่แล้ว

รอบนี้เช่ารถเลยตุนเสบียงได้สบาย คิดแล้วสะดวกและประหยัดกว่าแวะกินตามร้านแน่ๆ

IMG_1977

IMG_1970

IMG_1973

IMG_1976

IMG_1972

รถพร้อม คนพร้อม เสบียงพร้อม ก็ได้เวลามุ่งสู่จุดหมายท่องเที่ยวแห่งแรกของทริปนี้...เมือง "Melk"

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เที่ยวเมือง Melk

Melk เป็นเมืองเล็กริมแม่น้ำ Danube ห่างจากเวียนนาประมาณ 90 กิโลเมตร เราขับรถบนเส้นทาง A1 ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึง

Melk เป็นเมืองมรดกโลก มีโบสถ์ใหญ่สไตล์ Baroque คือ "Melk Abbey" เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว

+ ถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ที่จัตุรัสกลางเมือง วันนี้ฟ้าใสอากาศดีมาก +

IMG_1980

+ เดินขึ้นเนินเพื่อไป Melk Abbey ซึ่งจริงๆ ขับรถไปจอดใกล้ๆ ทางเข้าได้เลยค่ะ

แต่เราไม่รู้เลยต้องเดินไกลหน่อย ถือว่าชมวิวดูเมืองด้วยละกัน +

DSC_5857

+ ถึงทางเข้าแล้วค่ะ ดูจากแผนที่ Melk Abbey กินอาณาเขตใหญ่โตมโหฬาร +

DSC_5923

DSC_5922

+ แวะซื้อตั๋วกันก่อน ค่าเข้าชม 9.50 ยูโร ถ้ามีไกด์ราคา 11.50 ยูโร จัดเป็นรอบตามเวลาที่กำหนด +

+ หนูพราวฟรีค่ะ +

DSC_5862

DSC_5860

DSC_5863

DSC_5864

DSC_5868

IMG_1981

IMG_1983

DSC_5869

+ เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ ส่วนแรกจัดแสดงเกี่ยวกับคริสตศาสนาและการสร้าง Melk Abbey +

DSC_5872

DSC_5871

DSC_5874

DSC_5875

DSC_5881

+ ผ่านเข้าสู่ Marble Hall ห้องจัดเลี้ยงที่พื้นและผนังประดับด้วยหินอ่อน

เพดานมีภาพวาด fresco สวยงาม +

DSC_5882

DSC_5885

+ เฉลียงเชื่อมจาก Marble Hall มายัง Library มุมนี้มองเห็นวิวเมือง Melk สวยๆ ได้เลย +

DSC_5893

DSC_5887

+ Library ห้องที่สำคัญเป็นอันดับสองรองจากโบสถ์ บรรจุหนังสือกว่า 100,000 เล่ม +

+ ภายในห้องสมุดห้ามถ่ายภาพ รูปนี้ถ่ายจาก postcard ค่ะ +

DSC_5916

+ แล้วเราก็มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดของ Melk Abbey นั่นก็คือ Abbey Church +

+ ถึงจะไม่ใหญ่โตเหมือน St. Peter ในวาติกัน แต่ความประณีตสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว +

DSC_5898

DSC_5901

DSC_5904

DSC_5913

DSC_5912

DSC_5910

ออกจากโบสถ์ เราหาที่นั่งเพื่อทานอาหารกลางวันที่แพคมา พราวชอบมาก พูดแต่ว่าพราวชอบปิคนิคแบบนี้ แม่พามาบ่อยๆ นะ ^^

ท้องอิ่มก็เที่ยวต่อ ยังเหลือส่วน Garden Pavillion และ Stiftpark ให้เดินเล่น ส่วนแรกจะเป็นสวนจัดสวย มีน้ำพุ ไม้ดอกไม้ประดับ ส่วน Stiftpark มีลักษณะเป็นสวนป่าร่มรื่น

ค่าเข้าชมรวมอยู่ในบัตรที่ซื้อเข้า Melk Abbey แล้ว แต่ต้องเก็บบัตรไว้เพื่อสแกนเข้าชมสวนอีกครั้งหนึ่ง

แดดแจ๋มากแต่ลมพัดเย็นสบาย พราวเลยวิ่งเล่นซะหนำใจ  

DSC_5929

DSC_5932

DSC_5935

IMG_1995 (1)

IMG_1997

ปล่อยพลังแล้วท้องก็ว่างพอให้ชิมขนมเล็กๆ น้อยๆ ก่อนออกจาก Melk

ขนมที่ว่าคือ "Kolomanitorte" ว่ากันว่ามีขายเพียงที่นี่ที่เดียว ลักษณะเป็นเค้กชอคโกแลตผสมกับ Elderberry jam

ส่วนตัวคิดว่าแปลกดีค่ะ แต่ไม่ได้ถึงขั้นอร่อยน้ำตาไหล ส่วนปะป๊าไม่ชอบเลยทั้งเพราะไม่ชอบ berries และติว่าหวานไปหน่อย

DSC_5937

+ Kolomanitorte: Coloman cake ราคาชิ้นละ 3.10 ยูโร +

DSC_5938

บ่ายคล้อย...ท้องอิ่ม ใจอ่ิม ก็ได้เวลาเดินทางต่อ ค่ำนี้เราจะนอนที่ Salzburg ค่ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


Tips

วีซ่าท่องเที่ยวออสเตรีย (ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน) ค่าธรรมเนียม 60 ยูโร เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบได้รับการยกเว้น

ตั้งแต่ 16 กันยายน 2556 สามารถนัดหมายการทำวีซ่าผ่านเอเจนซี่ VFS ได้แล้วค่ะ ไม่ต้องไปลงชื่อจองด้วยตนเองที่สถานทูตแล้ว

ข้อมูลเที่ยวเมือง Melk




Create Date : 02 ตุลาคม 2556
Last Update : 2 ตุลาคม 2556 15:47:53 น. 0 comments
Counter : 1111 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.