To Live a Slow Life | น่าน เนิบ เนิบ 03
20 - 2 - 2015 เสียงเพลงของการเดินทางดังขึ้นมาในหัว วันนี้ตื่นเช้ากว่าประจำวันที่เคยๆ ต่อมกระตือรือร้นทำงานอัตโนมัต หลังจากนัดคืนรถและเอาสัมภาระที่เกินจำเป็น ไปฝากไว้ที่ "ศรีนวลลอร์ด" เรียบร้อยแล้ว เรายังเหลือเวลาพอที่จะออกไป หาอาหารเช้ารองท้องก่อนออกเดินทางขึ้นดอย
จากตลาด "ตั้งจิตนุสร" นั่งรถสามล้อถีบไป บ.ข.ส. ด้วยน้ำหนักทั้งคนทั้งสัมภาระที่มีของเรา ดูเหมือนจะเป็นภาระที่หนักเอาเรื่องสำหรับคุณลุงวัยเฉียด 60 ปั่นเนิบๆ จนมาถึงที่หมาย จ่ายค่ารถคนละ 20 บาท แต่เราเพิ่มพิเศษให้คุณลุงไปอย่างไม่ลังเล แกจะได้มีแรงใจปั่นต่อไป
รถที่เราจะขึ้นคือรถท้องถิ่น น่าน-เวียงสา รอบเช้า 9.00 น.
นั่งรอกว่าครึ่งชม. ถึงจะได้ขึ้นรถ
นั่งรถหวานเย็นออกไปนอกเขตเมืองประมาณ 30 นาทีก็ถึง อ.เวียงสา เราตั้งใจว่าจะเดินเที่ยว อ.เวียงสา ก่อนที่จะต่อรถไป อ.นาน้อย
เดินออกมาจากท่ารถเวียงสาก็เดินเรื่อยมาถึง 4 แยกมองหาวัดบุญยีนแวะเข้าไปไหว้พระ ขอพรก่อนเดินทาง แล้วก็เดินถามทางไป "เฮือนรถถีบ" โรงรถจักรยานโบราณ ตั้งอยู่บนเส้นทางจากอ.เวียงสาไปอ.นาน้อย ที่คุณสุพจน์ เต็งไตรรัตน์ ผู้สะสมจักรยานโบราณ เปิดให้เยี่ยมชมวันละสองช่วง คือ 09.00 - 11.00 น. และ 14.00-16.00 น.
เราเดินดูจักรยานโบราณหลายร้อยคันจอดเรียงรายในโรงรถ ก่อนจะออกมายืนรอรถ ไป อ.นาน้อย ที่คนแถวนั้นบอกว่าจะผ่านมาแน่ๆ
จากที่เราคาดว่าจะทันรถรอบ 11.00 น. ซึ่งจะผ่านมาถึงที่ๆ เรารออยู่ประมาณ 11.30 ก็ไม่เห็นวี่แวว รอต่อไปจนเที่ยงกว่า ถึงได้ขึ้นรถ
เวลาประมาณบ่ายกว่าๆ เราก็ถึง รร.บ้านนาราบ จุดที่จะหารถไปดอยเสมอดาว เราเหมารถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ไปดอยเสมอดาว แวะเที่ยว เสาดินนาน้อยและคอกเสือ แถมผาชู้ให้อีก นับว่าคุ้มมากสำหรับเรา 2 คนและเพื่อนใหม่อีก 3 คนที่บังเอิญนั่งรถนาน้อยมาด้วยกัน
และก่อนจะเดินทางต่อ เราก็แวะซื้อของกินของใช้กันที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มก่อนทางเข้า ว่าแล้วก็จัดเสบียงกันไปเบาทั้งมื้อเช้าเย็น
ขับเข้าไปประมาณ 7 กม. ที่แรกที่แวะคือ เสาดินนาน้อยและคอกเสือ เจอต้นดิกเดี่ยมที่เค้าว่ากันว่า มันจะสั่นเวลาคนไปจั๊กจี้มัน แต่ลองแล้วก็ไม่เห็นว่ามันจะสั่นให้เห็นเท่าไหร่นะ
เมื่อเข้าไปภายในบริเวณเสาดิน ก็จะพบดิน... ที่มีรูปร่างเหมือนจอมปลวกขนาดใหญ่ สูงต่ำลดหลั่นกันไป เสาดินพวกนี้เกิดจาการที่ดินตะกอน ทับถม ถูกเลื่อนตัวสูงขึ้นจากผิวดิน ผ่านเวลานานหลายล้านปี ถูกน้ำและฝน กัดเซาะ จนทำให้เกิดรูปร่างประหลาด แปลกตาอยางที่เห็น
ทุกอย่างรอบตัวเป็นสีเหลือง ส้ม ไปทั่วบริเวณ
ใช้เวลาเดินดูความแปลกตาของธรรมชาติสักพักฝนฟ้าก็ทำท่าจะตก เราเลยต้องรีบออกเดินทางต่อ ก่อนที่ฝนจะตกซ้ำอีก
รถไต่ระดับความสูงขึ้นมาถึงผาชู้ในเวลาบ่าย 3 หลังฝนตกทำให้อากาศเย็นสบาย ไอเย็นจากฝนลอยขึ้นเหนือพื้น เหมือนมีใครมาเปิด dry ice ไว้ข้างทาง
ผาชู้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นผ่านทะเลหมอกที่สวยแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่วันนี้ขึ้นมาตอนเย็นก็ยังเป็นวิวที่สวยไม่แพ้ใครเลยทีเดียว
ยอดผาชู้เป็นที่ตั้งของเสาธงที่สูงที่สุด ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานศรีน่าน มีตำนานความรักที่เชื่อมโยงกับชื่อ "ผาชู้" ไว้ให้เล่าต่อกันด้วยนะ
ถึงดอยเสมอดาวก็เข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องเต้นท์พร้อมอุปกรณ์หมอนผ้าห่มที่จองไว้ เจ้าหน้าที่ชี้เต้นท์ของเราท่ามกลางเต้นท์ที่กางเรียงกันเป็นหมู่บ้านจัดสรร แล้วก็มาทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านใหม่สักหน่อย
เก็บข้าวของในเต้นท์เสร็จก็ได้เวลาอาหารเย็น ไม่ต้องแคร์ว่าเต้นข้างหลังจะย่างหมูกะทะกัน หรือเต้นท์ข้างหน้ากำลังเปิดครัวแบบครบเครื่อง
เมื่อท้องฟ้ามืดสนิทก็ถึงเวลานอน คืนนี้พิเศษตรงที่เราจะนอนเสมอดาวกัน
ตามที่เจ้าหน้าที่อุทยานบอกเราว่าเราอาจโชคดีได้เห็นทางช้างเผือกในตอนตี 2 แต่รออยู่นานนอกจากดาวนับร้อยก็ยังไม่เห็น galaxy ไหนเลย อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ กลับไปนอนแล้วค่อยตื่นมาต้อนรับพี่อาทิตย์ตอนเช้ามืดดีกว่า
ค่าใช้จ่าย - รถสามล้อคุณลุง 100 บาท
- รถน่าน-เวียงสา 20 บาท
- รถนาน้อย-นาหมื่น 40 บาท
- รถกระบะพี่ดิเรก 400 บาท
- อุทยานศรีน่าน 20 บาท
- เต้นท์พร้อมเครื่องนอน 300 บาท
- อาหาร 500 บาท
Create Date : 13 สิงหาคม 2558 | | |
Last Update : 16 สิงหาคม 2558 14:51:03 น. |
Counter : 781 Pageviews. |
| |
|
|
|