มาตัดหน้าม้า เพิ่มความแบ๊วกันเถอะ
“ผมหน้าม้า” เป็นทรงผมที่ได้รับความนิยมมานาน นอกจากจะช่วยอำพรางจุดด้อยบนใบหน้าได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มความแบ๊วให้กับคุณได้ ทำให้คุณดูเด็กลง และสดใสขึ้นได้มาก

ผมหน้าม้าที่คนนิยมตัดกันในยุคปัจจุบันนี้ มีมากมายหลายประเภท ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบ และรสนิยมของแต่ละคน ผมหน้าม้ามีหลายแบบดังนี้

หน้าม้าตรง
หน้าม้าตรง
คือผมหน้าม้าที่ตัดตรง อาจสไลด์บางๆ หรือเป็นหน้าม้าตรงหนา ซึ่งเหมาะกับสาวๆ ที่มีผมตรงและเส้นเล็ก เพราะจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติ และตรงสวย ไม่แหวก สำหรับสาวๆ ที่ผมเส้นหนาก็สามารถตัดได้เช่นกัน แต่ควรสไลด์บางเพื่อไม่ให้ดูหนาจนเกินไป หรืออาจเพิ่มความเก๋โดยตัดเหนือคิ้วขึ้นไปเล็กน้อย

หน้าม้าปัด
หน้าม้าปัด

คือการตัดหน้าม้าแบบสไลด์ปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง หน้าม้าปัดเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นหรือเกาหลี เพราะตัดอย่างไรก็ดูแบ๊ว และดูอ่อนกว่าวัยได้มาก

หน้าม้าโค้ง
หน้าม้าโค้ง
เป็นหน้าม้าที่เหมาะกับเด็กแนวเป็นอย่างมาก โดยการตัดโค้งไปจนถึงข้างหูทั้งสองข้าง ยิ่งถ้าใครมั่นใจ แนะนำว่าตัดเป็นหน้าม้าโค้งแบบสั้นเต่อไปเลย และตัดผมบ๊อบสไลด์ด้วยแล้วล่ะก็ รับรองแนวสุดๆ แต่แนะนำว่าทรงนี้ไม่เหมาะกับสาวหน้ากลมนะคะ เพราะจะยิ่งทำให้หน้าคุณดูกลมไปใหญ่

หน้าม้าเต่อ
หน้าม้าเต่อและหน้าม้าแฟชั่น

ปัจจุบันนี้มีสาวๆ ที่มีแนวเป็นของตนเองและมีความมั่นใจในตนเองแบบสุดๆ จึงเลือกตัดหน้าม้าที่แหวกแนวไม่ซ้ำใครอย่างม้าเต่อสุดๆ อยู่แถวไรผม หรือม้าเฉียง ม้าทแยง ม้าซิกแซก เป็นต้น ถือได้ว่า ผมหน้าม้าเป็นทรงที่ทำให้สาวๆ ได้สนุกในแบบของตนเองได้เลยทีเดียว ใครมั่นใจก็ลองตัดหน้าม้าแปลกๆ ที่ดูเหมาะกับคุณดูสักทรงสิคะ รับรองว่าเกิด

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับทรงผมหน้าม้าแบบต่างๆ ที่นำมาฝากในวันนี้ สาวๆ คนไหนที่ยังไม่เคยลองหน้าม้า ต้องลองสักครั้งแล้วล่ะค่ะ ส่วนสาวๆ คนไหนที่ตัดหน้าม้าอยู่แล้ว ก็ลองตัดหน้าม้าแบบใหม่ๆ ดูบ้างนะคะ คุณอาจจะพบหน้าม้าที่เหมาะกับคุณที่สุดก็ได้

ผมหน้าม้า อย่างไรก็ไม่เคยตกเทรนด์ นอกจากช่วยให้ทรงผมดูมีลูกเล่น แล้วยังช่วยให้คุณดูสดใส อ่อนกว่าวัยขึ้นได้อีกด้วยนะคะ

ที่มา  //www.beautyshopdd.com



Create Date : 10 พฤษภาคม 2558
Last Update : 10 พฤษภาคม 2558 23:54:10 น.
Counter : 3514 Pageviews.

1 comment
กฎเหล็ก 4 ข้อ ชอปปิ้งได้อย่างมีความสุข
การชอปปิ้ง เป็นความสุขของสาวๆ เป็นอย่างมาก นอกจากจะได้ผ่อนคลาย สบายอารมณ์แล้ว ยังได้เดินดูของสวยๆ งามๆ ที่ดูน่าซื้อไปเสียหมด

แต่หลังจากเดินชอปปิ้งอย่างสนุกสนาน สุขกาย สบายกระเป๋าสตางค์ไปแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านพร้อมข้าวของพะรุงพะรังที่ได้มาจากการจับจ่ายใช้สอย ก็แทบเป็นลมล้มทั้งน้ำตา เมื่อมีสติขึ้นมาได้ว่า เงินที่เหลืออยู่น่าจะใช้ไม่ถึงสิ้นเดือน และของบางอย่างก็แทบไม่ได้จำเป็น และไม่ค่อยได้ใช้ด้วยซ้ำ

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป หากคุณตั้งกฎเหล็ก 4 ข้อในการชอปปิ้งให้กับตนเอง ดังนี้



1. วางแผนการชอปปิ้ง
เริ่มจากการจดว่าในหนึ่งเดือนคุณต้องใช้จ่ายอะไรบ้างเป็นประจำ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น จากนั้นแบ่งสิ่งของที่ต้องซื้อออกเป็นกลุ่มๆ เช่น ข้าวของเครื่องใช้ที่ต้องซื้อ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า อื่นๆ ตามความต้องการ เป็นต้นจะช่วยให้วางแผนการใช้เงินได้ง่าย

2. จดรายการที่จะซื้อลงกระดาษ
เมื่อได้กลุ่มที่จะซื้อแล้ว คุณจะสามารถคำนวณได้ด้วยว่าคุณเหลือเงินที่ใช้ได้ในเดือนนั้นเท่าไร และควรซื้อของในแต่ละกลุ่มอย่างไรบ้าง และใช้งบเท่าไร เมื่อได้รายการที่จะซื้อเรียบร้อยแล้ว ให้คุณนำกระดาษที่จดรายการที่จะซื้อ รวมทั้งงบประมาณในการซื้อของแต่ละกลุ่มแผ่นนั้นไปชอปปิ้งกับคุณด้วย

3. เลือกที่จะไปเดินช้อปปิ้งคนเดียว
การชอปปิ้งเพียงคนเดียว จะทำให้คุณสามารถควบคุมงบไม่ให้บานปลายได้ง่าย หากคุณติดเพื่อน ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินชอปปิ้งคนเดียวบ้าง รับรองว่าสนุกเหมือนกัน และช่วยคุมงบได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

4. ค่อยๆ คิดไตร่ตรอง
เมื่อเจอสิ่งที่ถูกใจ คุณจะรีบตรงปรี่เข้าไปหามันอย่างรวดเร็ว และโดยส่วนมาก ราคาของมันจะสูงจนคุณสามารถตัดรายการที่จำเป็นอื่นๆ ออกไปได้อย่างง่ายดาย คุณควรตั้งกฎกับตนเอง โดยให้เวลาไตร่ตรองถึงของที่อยากได้ว่าอยากได้จริงหรือไม่ หากคุณมักลังเลง่าย ควรเดินเลยไปก่อน หรือตั้งใจว่าจะเก็บไปคิดหนึ่งวัน หากอยากได้จริงๆ จะกลับมาซื้อใหม่ เวลาเพียงสั้นๆ อาจทำให้คุณรู้สึกว่าไม่ได้อยากได้จริงๆ หรือไม่ได้ชอบจริงๆ ก็ได้

การชอปปิ้ง เป็นของคู่กันกับสาวๆ และยากต่อการควบคุมเป็นอย่างมาก แต่หากเรารู้จักวางแผน และควบคุมงบประมาณเอาไว้ แม้ว่าจะไม่สามารถทำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ช่วยให้คุณสามารถควบคุมงบไม่ให้บานปลายออกไปใหญ่ รวมถึงสามารถคำนวณเงินที่เหลือได้ง่ายขึ้นด้วย

ติดตามสาระดีๆ  //www.beautyshopdd.com


Tag :  ชุดเดรสเช่าชุดแต่งงาน



Create Date : 05 เมษายน 2558
Last Update : 5 เมษายน 2558 17:30:30 น.
Counter : 587 Pageviews.

1 comment
แฟชั่นกางเกงหลากสไตล์ คู่ใจหนุ่มหล่อเนี้ยบ
ไม่ใช่แค่คุณผู้หญิงอย่างเดียวที่สนใจเรื่องแฟชั่นเสื้อผ้าการแต่งกาย หนุ่มๆ ก็มีของเขาเช่นกันค่ะ แม้ไอเท็มจะไม่มหาศาลเหมือนสาวๆ แต่ก็ช่วยดึงความโดดเด่นออกมาได้มาก จึงเป็นเรื่องสำคัญที่บรรดาหนุ่มๆจะใส่ใจ และหนึ่งในแฟชั่นที่ฮอตฮิตคือ กางเกงขายาว หลายคนเอียงคอสามสิบองศาด้วยความสงสัยว่า ก็แค่กางเกงผู้ชาย มันมีแฟชั่นอะไรด้วยหรือ คุณคิดผิดถนัดเลยค่ะ เพราะแต่ละแบบก็เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันไป เอ๊ะ แล้วมีอะไรบ้างล่ะ?

1. เลือกใส่กางเกงที่เหมาะสม
 - ดูที่เนื้อผ้าแบบต่างๆ ว่าแบบไหนสวมใส่สบายกว่ากัน
- ทรงของกางเกงก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะแต่ละทรงให้ลุคที่แตกต่างกันไป หากคุณไม่ได้แต่งตัวด้วยสูทเพื่อออกงานแบบทางการแล้วล่ะก็ ให้เลี่ยงการใส่กางเกงที่มากับชุดสูทจะดีกว่า เพราะมันอาจทำให้ดูเชย หันมาเลือกใส่กางเกงที่มีสีสันสดใสโดยไม่ต้องใส่เข็มขัดก็ได้

2. พิจารณาความละเอียดของการตัดเย็บและขนาดที่พอดี
- พิจารณาที่การตัดเย็บว่าเนี้ยบหรือไม่
- ดูว่าขนาดที่เลือกนั้นพอดีกับตัวเองหรือไม่
- ไม่ควรเลือกกางเกงที่รัดแน่นเกินไป
- ความยาวของขากางเกง ต้องไม่สั้นหรือยาวเกินไป

3. เลือกชุดท่อนบนแบบไหนดี
- เลือกเสื้อยืดแขนสั้นหรือแขนยาวแบบเบสิก ที่มีสีพื้นที่ดูเรียบแต่เท่
- เลือกเสื้อยืดลายกราฟิกต่างๆ รวมถึงสวมเบลเซอร์หรือแจ็คเก็ตทับสักตัวก็ได้

4. เลือกรองเท้าเข้ากับกางเกง
- เลือกใส่กับรองเท้าผ้าใบสวยๆ
- เลือกรองเท้าหนังที่ดูมีสไตล์
- อาจเป็นรองเท้าแตะเท่ๆ ซึ่งจะช่วยเสริมชุดที่ใส่ให้ดูดี

นอกจากเครื่องแต่งกายพื้นฐานเหล่านี้แล้ว คุณผู้ชายอาจเพิ่มออพชั่นเสริมอื่นๆ ตามความเหมาะสม หรือรสนิยมส่วนบุคคล เช่น แว่นกันแดดสีชา เพิ่มความลึกลับ น่าค้นหา หรือ โซ่คล้องกระเป๋าสตางค์ สไตล์หนุ่มแบดบอย เป็นต้น อย่าคิดว่า ผู้ชายที่ใส่ใจความหล่อเนี้ยบ หรือติดจะสำอางไปสักนิดจะกลายเป็นชายแอ๊บแมนนะคะ เพราะการดูแลบุคลิกให้ดูดีเสมอ ควรเกิดขึ้นกับทุกเพศทุกวัยค่ะ

Tag : ลดน้ำหนัก , ลดความอ้วน , คอลลาเจน



Create Date : 28 มีนาคม 2558
Last Update : 28 มีนาคม 2558 0:09:22 น.
Counter : 605 Pageviews.

1 comment
ใส่บิ๊กอายอย่างไร ให้สวยอย่างปลอดภัย
สาวๆ ที่มีดวงตากลมโต ช่างดูมีเสน่ห์และน่าค้นหาเป็นอย่างมาก สาวๆ ในปัจจุบัน จึงนิยมที่จะใส่บิ๊กอายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันมีขายมากมาย และหลากหลายแบบให้เลือก



การใส่บิ๊กอายให้ปลอดภัย มีวิธีการดังนี้

- เลือกร้านบิ๊กอายที่ไว้ใจได้ ควรหลีกเลี่ยงบิ๊กอายตามตลาดนัด และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่เกินจริงที่สำคัญ ต้องเลือกที่มีอ.ย. รับประกันด้วย
- เมื่อซื้อมาควรแช่บิ๊กอายทิ้งไว้ 1 คืนก่อนใส่ เพื่อล้างสารกันบูดออกไป
- ล้างมือและถูสบู่ก่อนใส่ และถอดบิ๊กอายทุกครั้ง และควรใส่หรือถอดอย่างถูกวิธี
- ห้ามใช้น้ำประปา หรือน้ำเกลือล้างบิ๊กอายเด็ดขาด เพราะมีคลอรีนทำให้เนื้อคอนแทคเลนส์เสื่อมสภาพและฉีกขาดง่าย
- ควรใส่บิ๊กอายก่อนแต่งหน้า
- ห้ามใส่บิ๊กอายเกินวันละ 8 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ดวงตาขาดออกซิเจน ซึ่งเป็นอันตรายมากๆ ต่อดวงตา
- หากคุณใส่บิ๊กอายเป็นประจำ ไม่ควรที่จะไว้เล็บยาว เพราะอาจทำให้บิ๊กอายฉีกขาด หรือมีรอยขีดข่วน ซึ่งทำให้ตาอักเสบได้ นอกจากนี้เล็บยาวยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ซึ่งจะเข้าสู่ดวงตาได้ง่าย
- หมั่นสำรวจวันหมดอายุ เพราะการใส่บิ๊กอายที่หมดอายุ เป็นอันตรายต่อดวงตาของคุณ โดยปกติ การใส่คอนแทคเลนส์หรือบิ๊กอาย ไม่ควรใช้นานเกิน 1 เดือน
- ทำความสะอาดตลับใส่บิ๊กอายเป็นประจำเพราะอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ นอกจากนี้ คุณควรเปลี่ยนตลับใส่บิ๊กอายทุก 3 เดือน เพื่อรักษาความสะอาด
- อย่าลืมแช่บิ๊กอายทิ้งไว้จนน้ำยาแห้ง เพราะจะทำให้บิ๊กอายเสียหาย คุณจึงควรหมั่นเอาออกมาเปลี่ยนน้ำยา และทำความสะอาดอยู่เสมอ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของบิ๊กอายออกไปได้
- อย่าใส่บิ๊กอายที่แห้ง หรือแข็งแล้ว เพราะคุณภาพของมันจะเสื่อมไป และเป็นอันตรายต่อดวงตาของคุณ
- หากตาเจ็บ หรือมีปัญหา ไม่ควรใส่บิ๊กอายเด็ดขาด ควรรอให้ดวงตากลับสู่ภาวะปกติก่อน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อดวงตาของคุณได้
- ควรใส่บิ๊กอายเมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่น ออกไปข้างนอก ไปเที่ยว หรือมีกิจกรรมที่ต้องการสวยเป็นพิเศษ เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก และบอบบาง

สาวๆ ที่ใส่บิ๊กอาย หรือกำลังคิดจะใส่ ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดี และใส่ใจในความสะอาดให้มาก เพราะดวงตาเป็นสิ่งสำคัญ ที่เมื่อเกิดอะไรขึ้นแล้ว ยากที่จะแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิมได้ 100 เปอร์เซ็นต์ -

See more at : //www.beautyshopdd.com



Create Date : 26 มีนาคม 2558
Last Update : 26 มีนาคม 2558 11:25:37 น.
Counter : 578 Pageviews.

1 comment
รูปร่างแบบนี้ ใช้กระเป๋าแบบไหนดีนะ
สาวๆ คงเข้าใจกันเป็นอย่างดีว่า กระเป๋าไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์ใส่ของ แต่ยังสื่อถึงรสนิยม ความดูดี มีเสน่ห์ ซึ่งคุณผู้ชายคงไม่เข้าใจเท่าไหร่ใช่ไหมคะ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะเหมาะกับกระเป๋าทุกแบบ วันนี้เราจึงนำเทคนิคในการเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับความเป็นตัวคุณมาแชร์กันค่ะ


1. สาวตัวสูง
สาวตัวสูงค่อนข้างได้เปรียบ เพราะใส่อะไรก็ดูดี แต่การเลือกกระเป๋าก็ต้องใส่ใจเช่นกัน ควรเลือกทรงที่ต้องสะพาย แนบลำตัว หรือหนีบไว้ที่รักแร้ เพราะจะทำให้รูปร่างกะทัดรัดมากขึ้น

สาวตัวสูงไม่ควรสะพายกระเป๋าที่มีสายยาว ปล่อยให้ตัวกระเป๋าตกลงมาอยู่ในช่วงเอว หรือสะโพก เพราะจะทำให้รูปร่างดูเกะกะเทอะทะมากขึ้น กระเป๋าทรง ที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดคือ กระเป๋าถือ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ เจอไฟลท์บังคับ แนะนำให้ใช้กระเป๋าถือใบบางๆ แบบหนีบข้างลำตัวค่ะ


2. สาวไซส์มินิ
จะเรียกว่า สาวตัวเตี้ยก็ดูหยาบกระด้าง ทำร้ายจิตใจกันเกินไป เอาเป็นว่า สาวไซส์มินิ ก็แล้วกันค่ะ สาวกลุ่มนี้ควรเลือกใช้กระเป๋าแบบที่มีสายสะพายยาวๆ ให้ตัวกระเป๋าตกลงมาอยู่ประมาณเอว หรือสะโพกบน หรือถ้าอยากปรับลุคเป็นสาวเท่ล่ะก็ ไม่ยากค่ะ เพราะสาวกลุ่มนี้เหมาะกับกระเป๋าเป้แบบสะพายข้างมาก และห้ามซื้อกระเป๋าแบบสายสะพายสั้นมาใช้เด็ดขาด เพราะจะทำให้คุณดูตัวเตี้ยลงไปอีก


3. สาวตัวหนา
เกิดเป็นสาวหุ่นหนา ก็หลีกเลี่ยงกระเป๋าหรือเป้แบบหนาๆ ไปเลยค่ะ เพราะจะทำให้คุณดูตันยิ่งขึ้น อีกอย่างการแบกกระเป๋าหนัก ส่งผลถึงอาการปวดหลังด้วยค่ะ


4. สาวเพรียวบาง
แม้สาวหุ่นหนา ต้องใช้กระเป๋าบาง แต่ใช่ว่าสาวหุ่นบาง ต้องใช้กระเป๋าแบบหนาๆ ลองนึกภาพ ตัวบางนิดเดียว แต่กระเป๋าใหญ่เทอะทะ คงดูตลกมากกว่า สำหรับสาวหุ่นบาง แนะนำให้ใช้กระเป๋าขนาดปานกลาง ไม่เล็กหรือแบนเกินไป จนทำให้คุณพร้อมกระเป๋า กลายร่างเป็นจิ้งจกแปะฝาผนัง ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่เอากระเป๋าใบใหญ่จนดูเหมือนแบกหีบมหาสมบัติติดกายมาด้วย เอาแค่พอเหมาะก็ทำให้คุณดูสมส่วนได้

เห็นไหมคะ ว่าแค่กระเป๋าใบเล็กๆ ที่หนีบข้างกาย ก็ทำให้คุณกลายร่างเป็นสาวพราวเสน่ห์ได้ ดังนั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วก้าวออกนอกบ้าน สำรวจความพร้อมกันนิดหนึ่งนะคะ จะได้ไม่พลาด

See more at : //www.beautyshopdd.com



Create Date : 23 มีนาคม 2558
Last Update : 23 มีนาคม 2558 19:31:59 น.
Counter : 1619 Pageviews.

1 comment
1  2  

pongpun143
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับสู่สาระบทความน่ารู้ทั้งเรื่อง ความงาม สุขภาพ แฟชั่น และเรื่องเกี่ยวกับ ผู้สูงอายุ เพื่อความเข้าใจในครอบครัวครับ