น้ำมันมะพร้าว มหัศจรรย์คุณค่าสารพัดเพื่อความงาม

ประโยชน์น้ำมันมะพร้าว

สาวๆ ที่รักสวยรักงาม คงเคยได้ยินสรรพคุณอันเลื่องชื่อของน้ำมันมะพร้าวมาบ้างแล้ว ว่าน้ำมันมะพร้าวนั้น มีคุณค่าต่อความสวยความงามมากมายหลายหลาก ซึ่งคุณค่าที่ว่า มีดังนี้

ทำให้ผิวนุ่มขึ้น ด้วยการลูบไล้ผิวกายด้วยน้ำมันมะพร้าววันละ 2 ครั้งในตอนเช้าและเย็น เพียงเท่านี้ ผิวก็จะนุ่มชุ่มชื้น ที่สำคัญไม่เหี่ยวย่นอีกด้วย

ใช้เป็นน้ำยากลั้วปาก เพียงเทน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชากลั้วปากสัก 5-10 นาที แล้วบ้วนตามด้วยน้ำอุ่น ช่วยลดอาการแฮงก์ ปรับสมดุลในร่างกาย ลดสิว อาการปวดหัว และช่วยให้ฟันขาวขึ้นด้วย
บำรุงผม แค่ใช้น้ำมันมะพร้าวเพียง 2 หยด เทลงบนฝ่ามือ และลูบที่ปลายผม ก็ช่วยให้ผมที่แห้งเสีย สุขภาพดีขึ้นมาได้อย่างแน่นอน

เป็นสครับขัดผิว เพียงผสมน้ำมันมะพร้าวกับเม็ดขัดผิว เช่น น้ำตาลทราย ผงนมขัดผิว ก็ช่วยสครับผิวได้ในราคาประหยัด และได้ผลดีอีกด้วย

บรรเทาอาการคัดจมูก หากคุณมีอาการคัดจมูก ก็แก้ด้วยการแต้มน้ำมันมะพร้าวในโพรงจมูกเล็กน้อย จะช่วยให้หายใจคล่องขึ้นได้ด้วยนะคะ

เป็นลิปบาล์ม เพียงทาน้ำมันมะพร้าวก่อนนอนทุกคืน จะช่วยให้ริมฝีปากอวบอิ่ม นุ่ม ชุ่มชื้น น่าสัมผัสอย่างแน่นอน

เป็นเมคอัพ รีมูฟเวอร์ แค่ใช้ก้อนสำลีชุบน้ำมันมะพร้าวและล้างมาสคาร่า รับรองว่าออกง่าย ไม่เหลือคราบเลยล่ะ แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำมันเข้าตานะคะ

ใช้แทนครีมโกนหนวด ช่วยป้องกันผิวที่บอบบางของคุณจากการโกนได้ดีมาก และยังช่วยให้ทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

ป้องกันริ้วรอย น้ำมันมะพร้าวช่วยป้องกันริ้วรอยรอบดวงตาและส่วนต่างๆ ได้อย่างอัศจรรย์ เพียงแค่ทาน้ำมันมะพร้าวรอบๆ ดวงตา และบริเวณที่มักเกิดริ้วรอยเท่านั้นเอง

รักษาสิว หากคุณมีสิว ให้แต้มน้ำมันมะพร้าวบนสิว ทิ้งไว้ 15 นาที และล้างออกด้วยน้ำอุ่น ปล่อยให้แห้ง แบคทีเรียในสิวก็จะถูกต้านออกไปอย่างง่ายดาย

ปลูกผม น้ำมันมะพร้าวช่วยกระตุ้นการเกิดใหม่ของเซลล์ผม และแนวคิ้ว เพียงแค่ทาทิ้งไว้ในส่วนที่ผมหรือคิ้วบาง

บรรเทาผิวไหม้จากแดด คุณสามารถทาน้ำมันมะพร้าวต่อจากครีมกันแดด เพื่อป้องกันผิวไหม้จากแดดได้อีกชั้นหนึ่งด้วย

เห็นไหมล่ะคะ ว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นสุดยอดคุณค่าจากธรรมชาติ ที่เกิดมาเพื่อความสวยความงามอย่างแท้จริง อย่างนี้สาวๆ ต้องมีไว้ติดบ้านแล้วล่ะค่ะ

ที่มา   //www.beautyshopdd.com



Create Date : 02 พฤษภาคม 2558
Last Update : 2 พฤษภาคม 2558 22:06:33 น.
Counter : 769 Pageviews.

0 comment
การเลือกครีมกันแดดพื้นฐาน ควรเลือกอย่างไร


ครีมกันแดด เป็นครีมประเภทหนึ่ง ที่หนุ่มๆ และสาวๆ ไม่ควรละเลยเด็ดขาด เพราะผิวของคนเรา ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ล้วนต้องการการปกป้องจากแสงแดดทั้งสิ้น ยิ่งชอบใส่ ชุดเดรส สายเดี่ยว ยิ่งต้องใส่ใจ
มารู้จักแสงแดดกันเถอะ


ทำไมแสงแดดจึงทำร้ายผิวได้ ?
ในแสงแดด หรือแสงจากดวงอาทิตย์ ประกอบไปด้วยรังสี 3 ประเภท คือ
- รังสีอินฟราเรดหรือความร้อน
- รังสีที่มองเห็น คือ แสงสว่าง
- รังสีที่มองไม่เห็น คือ UV
รังสี UV ที่สามารถผ่านโอโซนลงมายังพื้นโลกได้ คือ
- UVA1 มี 75 %
- UVA2 มี 20 %
- UVB มี 5 %
จะเห็นได้ว่าในแสงแดดมีรังสี UVA1 ถึง 75 % ซึ่งนอกจากจะมากที่สุดแล้ว ยังเป็นรังสีที่สามารถทำลายโครงสร้าง DNA ของผิวและยังทำร้ายผิวได้ลึกที่สุด ซึ่งเป็นอันตรายถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้ และยังสามารถทะลุกระจก ผนัง เสื้อผ้าได้อีกด้วย

การเลือกผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดพื้นฐาน
แม้ว่าหนุ่มๆ สาวๆ บางคนจะไม่ชอบใช้ครีมกันแดด และไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเลือกครีมกันแดดมากนัก แต่ก็สามารถเลือกซื้อครีมกันแดดโดยมีหลักพื้นฐานดังนี้
1. SPF ควรมีค่า 30 ขึ้นไป แต่หากค่าSPF สูงมากเกินไป เนื้อครีมจะเหนียวเหนอะหนะ ไม่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันเท่าใดนัก
2. มีค่า PA เพื่อป้องกัน UVAด้วย
3. มีสาร Avobenzone และ Zince Oxide ควบคู่กันด้วย เพื่อป้องกันผิวสวยจากอันตรายของรังสีUVA1 โดยเฉพาะ ก็จะช่วยป้องกันผิวจากการทำร้ายลึกได้เป็นอย่างดี

ได้รู้ว่าแสงแดดทำร้ายลึกสู่ชั้นผิวหนังได้ขนาดนี้แล้ว ต่อไปนี้ หนุ่มๆ สาวๆ คนไหน ที่ไม่ชอบทาครีมกันแดด หรือรู้สึกว่าครีมกันแดดไม่สำคัญ ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วนะคะ เพราะนอกจากเรื่องของสีผิวแล้ว ยังช่วยในเรื่องของสุขภาพอีกด้วย



Create Date : 06 เมษายน 2558
Last Update : 6 เมษายน 2558 10:01:36 น.
Counter : 758 Pageviews.

0 comment
อยากหน้าเด็กแบบไม่พึ่งครีมใช่ไหม มาทางนี้เลย
ใครๆ ก็อยากดูเด็ก หน้าอ่อนกว่าวัย ดูอมตะ เป็นหนุ่มสาวสองพันปีกันทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่เราจะยอมเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ไปกับการบำรุงดูแลตัวเองเพื่อรักษาใบหน้าที่อ่อนเยาว์ไว้ให้นานที่สุด

นอกจากการพึ่งพาครีม คุณก็สามารถหน้าอ่อนเยาว์ได้เช่นกัน ด้วยวิธีดังต่อไปนี้


พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอ คือการฟื้นบำรุงผิวที่ดีที่สุด ในยามที่นอนหลับ ร่างกายจะฟื้นฟูตัวเองได้ดี ทำให้ผิวหนังแข็งแรง ไม่เหี่ยวย่น ซึ่งการนอนหลับที่ดี ควรนอนตั้งแต่ 22.00 น. เป็นต้นไป และนอนให้ได้ 6-8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ


นอนให้ถูกท่า
นอกจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และในเวลาที่ถูกต้องแล้วคุณยังต้องนอนให้ถูกท่าด้วย ซึ่งท่าที่ดีที่สุดในการนอน คือการนอนหงาย เพราะไม่ทำให้หน้ากดทับกับหมอนตลอดทั้งคืน จึงไม่ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น


สัมผัสผิวหน้าอย่างเบามือ
หากต้องสัมผัสผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเช็ดเครื่องสำอาง การล้างหน้า หรือการสัมผัสหน้าระหว่างวัน ควรทำอย่างเบามือ เพราะการเช็ดหน้าล้างหน้าอย่างแรง ทำลายเซลล์ผิว และทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุด


หลีกเลี่ยงอากาศเย็นจัด
โดยเฉพาะการเปิดแอร์เย็นจัด และชอบอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ซึ่งทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน และเกิดริ้วรอยในที่สุด


ทานแครอทเป็นประจำ
แครอทมีส่วนประกอบของแคโรทีนอยด์ ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวหนังจากการถูกทำลาย และป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นต่าง ๆ ได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานแครอทบ่อย ๆ เพื่อที่ผิวพรรณของเราจะได้สวยเปล่งปลั่งมากขึ้น


หลีกเลี่ยงการดูดน้ำจากหลอด
การดูดน้ำจากหลอดบ่อยๆ ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบริเวณริมฝีปากได้


ห่างไกลจากแสงแดด
แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายผิวของคุณได้อย่างล้ำลึก ทั้งเกิดริ้วรอย ความแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ และอีกสารพัดปัญหาผิว รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย ดังนั้น คุณจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากเท่าที่จะทำได้ และทาครีมกันแดดทุกครั้ง

นอกจากการดูแลตนเองอย่างที่กล่าวไปแล้ว อย่าลืมออกกำลังกาย และไม่ทำคิ้วขมวดบ่อยๆ กันด้วยนะคะ จะได้มีผิวสวยครบสูตรโดยไม่ต้องพึ่งครีมแพงๆ กันแล้วล่ะ

ติดตามสาระดีๆ   //www.beautyshopdd.com



Tag :  etudeเรียนเพ้นท์เล็บ



Create Date : 05 เมษายน 2558
Last Update : 5 เมษายน 2558 17:43:24 น.
Counter : 429 Pageviews.

0 comment
ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาต่อร่างกาย


เบกกิ้งโซดา นอกจากจะมีประโยชน์หลายอย่างในชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอีกด้วย ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ ดังนี้

ช่วยในการดูดซึมอาหาร
เพียงผสมเบกกิ้งโซดาครึ่งช้อนชา กับน้ำดื่ม 1 แก้ว และจิบในตอนเช้าและเย็น

ป้องกันการติดเชื้อในร่างกาย
โดยการผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชากับน้ำ 2 ถ้วยตวง และจิบน้ำเบกกิ้งโซดาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง

บรรเทาอาการแสบร้อนกลางอก และช่วยย่อยอาหาร
เพียงจิบน้ำเบกกิ้งโซดาหลังอาหารทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ก็จะช่วยบรรเทาความทรมานจากอาการกรดไหลย้อน และอาหารไม่ย่อยได้แล้ว

ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
ด้วยการล้างแผลด้วยน้ำเบกกิ้งโซดา โดยผสมผงเบกกิ้งโซดา 1-2 ช้อนชากับน้ำ 1 แก้ว คนให้เข้ากัน ใช้ล้างแผลทุกวันในตอนเช้าและเย็น ทำติดต่อกันประมาณ 2-3 วัน หรือจนกว่าแผลจะหายดี

ดูแลสุขภาพในช่องปาก
สารโซเดียมไบคาร์บอเนตช่วยลดการสะสมของคราบพลัคได้และทำให้ฟัน ขาวขึ้นด้วย  เพียงแค่ใช้เบกกิ้งโซดาครึ่งช้อนกับน้ำครึ่งแก้ว หรือผสมเพิ่มในยาสีฟันที่ใช้ประจำ แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน เพราะจะทำให้เหงือกร่นและอักเสบได้

บรรเทาอาการหวัด
โดยผสมผงเบกกิ้งโซดาครึ่ง ช้อนชากับน้ำ 1 แก้ว ใช้จิบทุกๆ 2 ชั่วโมง จิบตอนเช้าและตอนเย็น หรือจนกว่าอาการหวัดจะหายขาด น้ำเบกกิ้งโซดาช่วยลดอาการเรื้องรังของภาวะติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราที่ทำให้อาการหวัดหายเร็วขึ้น

สลายเสมหะชนิดเหนียวข้น
โดยจิบน้ำเบกกิ้งโซดาอุ่นๆ ให้ได้6 แก้ว หรือถ้ามีเสมหะน้อยก็จิบประมาณ 2 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยบรรเทาอาการคันคอ และมีเสมหะได้

เรียกได้ว่าเบกกิ้งโซดา เป็นสารที่สารพัดประโยชน์เสียจริง นอกจากช่วยจัดการความสะอาดของบ้านได้แล้ว ยังช่วยรักษาอาการต่างๆ ของร่างกายได้อีกด้วย

See more at : //www.beautyshopdd.com



Create Date : 01 เมษายน 2558
Last Update : 1 เมษายน 2558 0:20:47 น.
Counter : 1025 Pageviews.

0 comment
เคล็ดลับดีๆ ในการล้างเครื่องสำอางให้เกลี้ยงเกลา
การแต่งหน้า เป็นของคู่กันกับสาวๆ แม้ว่าสาวๆ คนไหนจะไม่ชอบการแต่งหน้า ก็ยังคงต้องแต่งสักเล็กน้อย หรือแต่งบางๆ เพื่อให้ดูดี ดูสวยขึ้นมา

การแต่งหน้าที่ล้างเครื่องสำอางออกไม่หมด จะทำให้เกิดสารเคมี หรือเครื่องสำอางอุดตันตามรูขุมขน ทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมา เช่น เกิดสิว ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดริ้วรอย เป็นต้น วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการล้างเครื่องสำอางที่ออกยากมาฝากกันค่ะ


การเช็ดมาสคาร่าแบบกันน้ำ
มาสคาร่า เป็นเครื่องสำอางที่ได้รับความนิยมมากในหมู่สาวๆ สาวๆ บางคน ไม่ชอบแต่งหน้าจัด ก็เพียงแค่ปัดมาสคาร่ากับทาปาก ก็พร้อมที่จะออกไปทุกที่ได้แล้ว มาสคาร่าจึงมีการพัฒนาให้เหมาะกับการใช้งาน รวมถึงมาสคาร่าแบบกันน้ำ ยิ่งหากดีเท่าไร ยิ่งล้างออกยากเท่านั้น

แต่จะยากเพียงใด เพียงแค่คุณใช้ออยล์ก็สามารถเช็ดมาสคาร่ากันน้ำของคุณได้แล้วล่ะค่ะ เพียงแค่คุณนำสำลีแบบแผ่น หยดออยล์ลงไป แล้วนำไปเช็ดที่มาสคาร่าโดยให้สำลีประกบขนตาบน ซับค้างไว้ประมาณ 5 วินาทีแล้วเช็ดออก มาสคาร่าก็สามารถหลุดออกได้อย่างง่ายดายแล้ว วิธีนี้ยังสามารถใช้ได้กับการเช็ดอายไลเนอร์ได้อีกด้วยนะ


การเช็ดกาวติดขนตาปลอม
การติดขนตาปลอม เป็นขั้นตอนหนึ่งของการแต่งตาที่ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยเฉพาะสาวๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับความงาม หรือต้องพบปะผู้คน ต้องสวยไว้ก่อน แต่ในตอนที่เราดึงขนตาปลอมออกนี่สิ กาวกลับติดอยู่ที่ขอบตาของเรา และยากต่อการเอาออก

หากคุณมีปัญหาเช่นนี้ น้ำมันมะกอกช่วยคุณได้ค่ะ เพียงแค่คุณเทน้ำร้อนใส่ชามไว้ เมื่อจัดการเช็ดเครื่องสำอางออกแล้ว (ยกเว้นรอบดวงตา) ให้คุณเอาหน้าไปอังไอร้อนจากน้ำร้อนในชาม ทิ้งไว้สัก 2-3 นาที หรือถ้าสามารถทนได้ ก็ทิ้งไว้ 5 นาทีกำลังดี จากนั้นจึงค่อยๆ ดึงขนตาปลอมออก และนำสำลีที่หยดน้ำมันมะกอกไว้แล้วมาเช็ดบริเวณที่กาวติด เพียงเท่านี้ก็ไม่เหลือคราบกาว และไม่ดึงจนเจ็บตาแล้วล่ะ


การเช็ดลิปสติก
การทาลิปสติก เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ไม่ว่าสาวคนไหนที่แต่งหน้า เป็นต้องทากันทุกคน สาวๆ บางคนไม่แต่งหน้า ก็ยังทาลิปสติกได้ เพราะสีปาก ช่วยให้หน้าของเราดูสดใสขึ้นได้อย่างมาก แต่ก็มักจะประสบปัญหาลิปสติกเหลือเป็นคราบอยู่บนปาก ซึ่งอาจทำให้ปากดำและแห้งได้

การเช็ดลิปสติกที่ออกยาก วาสลีนสามารถช่วยคุณได้ค่ะ เพียงแค่ใช้ทิชชูซับลิปสติกออกอย่างเบามือ แล้วพอกวาสลีนไว้ ระหว่างนั้นนวดริมฝีปากเบาๆ แล้วเช็ดออก ล้างหน้าตามปกติ หากยังหลงเหลือคราบอยู่ สามารถใช้วาสลีนนวดซ้ำแล้วซับออกได้

เมื่อได้ทราบเคล็ดลับดีๆ อย่างนี้แล้ว อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันนะคะ จะได้ไม่เกิดปัญหาเครื่องสำอางตกค้างบนผิวหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้

See more at : //www.beautyshopdd.com



Create Date : 26 มีนาคม 2558
Last Update : 26 มีนาคม 2558 11:22:56 น.
Counter : 655 Pageviews.

0 comment
1  2  

pongpun143
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับสู่สาระบทความน่ารู้ทั้งเรื่อง ความงาม สุขภาพ แฟชั่น และเรื่องเกี่ยวกับ ผู้สูงอายุ เพื่อความเข้าใจในครอบครัวครับ