Harbin Ice Wonderland เมืองน้ำแข็งสำหรับคนรักความเย็น(แบบสะใจ)
 
สวัสดีครับเพื่อนๆ
 
ช่วงนี้ หายหน้าหายตากันไปนาน ม่เคยได้อัพเดตกันเลย แบบว่า...นะ พายุงานโหมกระหน่ำ แต่ตอนนี้เริ่มซาแล้ว เพราะฉะนั้นก็ได้เวลามาเขียนบล็อกกันแล้ว โย่ว!!!! แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูหนังเลย แต่ได้ไปเที่ยวมาครับ คือ เพื่อนต้าได้บัตรมาเลยเอามาให้ต้า เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เลยขอให้เป็น Sponsor Review แล้วกันเน้อ ไปเที่ยวมาคราวนี้ก็เลยอยากจะเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันครับ  ยิ่งตอนนี้หน้าหนาวกำลังมา แต่เมืองไทยก็ยังหนาวไม่สะใจ ขอแนะนำที่นี้เลยครับ
 
Harbin Ice Wonderland
 
 
เมืองน้ำแข็งแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ด้วยอุณหภูมิติดลบ (-15 องศา) ภายใต้แนวคิด “เอ็ดดูเทนเมนท์ ซิตี้” ภายใต้การดูแลของ บริษัท ซีไอดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย คุณเมียว เซียง เยา กรรมการผู้จัดการทั่วไป ขอชวนคนไทยมาสัมผัสปรากฏการณ์ UNSEEN กับความหนาวแบบสุดขั้วกัน บอกได้เลยครับว่า ใครที่ชอบอากาศหนาวๆแบบสะใจๆ มาที่นี้ไม่มีผิดหวังแน่นอน การเดินทางก็ไม่ยากครับ นั่ง BTS มาลง แบริ่ง ออกทางออกที่ 2 เจอเลยครับ! ภาพล่างนี้เอามายืนยันครับว่าหาไม่ยากเลย ลงทางออก 2 มาก็เห็นเลยครับ
 
 
ที่บริเวณต้อนรับด้านหน้าก็สามารถซึ้งตั๋วเข้าได้เลยครับ โดยจะมีเรทราคาสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ท่านละ 350 บาท ส่วนเด็กน้อยสูงไม่เกิน 120 cm. 250 บาท ผู้สูงอายุ 300 บาท และชาวต่างชาติ 550 บาท ซึ่งในราคานี้จะมีเสื้อและถุงมือให้ด้วยครับ อันนี้ ต้องบอกก่อนครับว่า ด้านในจะมีโซนสวนสนุกอยู่ ซึ่งเราสามารถเล่นได้ทุกอย่างเลย แต่จะมี Ice Cable Car ที่จะต้องเสียค่าเล่นเพิ่มคนละ 20 บาท ครับ และถ้าหากต้องการเข้าและออก เพื่อพักหนาวจะต้องซื้อเพิ่มอีก 75 บาทครับ นอกจากนี้ก็จะมีค่าเช่าเสื้อหนาว 80 บาท และซื้อถุงมืออีก 60 บาท(ส่วนนี้ ถ้าเพื่อนๆไม่ต้องเช่าก็ได้ครับ ถ้าเตรียมมา ก็ใส่ของตัวเองไปได้เลยจะได้ไม่ต้องเสียเพิ่มครับ)
 
ได้ตั๋วเรียบร้อยก็ไปรับชุดกันหนาวกันเล้ยยยยย ตาได้เสื้อสีส้มครับ แต่ถุงมือนี่....เอาน่า ชมพูฟรุ้งฟริ้งเลย 55555
 
 
 
เมื่อแต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อย ห้องต่อไป ก็จะเป็นห้องถ่ายภาพครับ ทาง Harbin ice wonderland ก็จะถ่ายรูปเราใสกรอบไว้ให้เป็นที่ระลึกครับ (สามารถซื้อได้ตอนออกเลยครับ) และก็เข้าสู่ห้องปรับอุณหภูมิครับ
 
 
ในห้องนี้ก็จะเป็นห้องที่ช่วยให้เราปรับสภาพร่างกาย ให้เตรียมพร้อมกับอากาศแบบหนาวเย็นสุดขั้วกันครับ ซึ่งในห้องนี้ ก็จะมีป้ายกฏระเบียบและคำอธิบายต่างๆอยู่ครับ แนะนำให้อ่านศึกษาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ อย่างเรื่องนึงที่ควรจะต้องระมัดระวังเลยก็คือกล้องและมือถือครับ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ  ใครที่อุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้ก็ระวังไว้สักนิดก็ดีครับ (แต่ภาพป่วยสุด แบบว่าลืมเอากล้องใหญ่มา ฮือ....)
 
 
 
 
และก็ได้เวลาเข้าไปลุยใน Harbin Ice Wonderland กันแล้ว เย้!!!! โซนแรกก็จะเป็นน้ำแข็งแกะสลักแสดงถึงวัฒนธนนมต่างๆครับ
 
 
 
 
ความยิ่งใหญ่ของที่นี้ บอกเลยครับว่าพอใช้ได้เลยทีเดียวเพราะใช้น้ำแข็งในการสร้างสรรรค์ครั้งนี้ถึง 600 ตัน บนเนื้อที่ 3,360 ตารางเมตร จริงๆต้ามองว่าก็แอบเล็กไปหน่อยนะครับ แต่ถ้าเทียบกับได้เข้ามาเดินถ่ายภาพ สัมผัสความเย็นแบบสะใจ ก็โอเคแหละเน้อ เข้าโซนที่ 2 มาเจอบรรยากาศแบบไทยๆบ้างครับ
 
 
 
โซนต่อมากับโซนใต้ทะเลบ้างครับ
 
 
 
 
โซนต่อมาครับเป็นโซนที่ต้าตั้งชื่อให้เองละกันว่า โซนหิมาลัย เพราะน้ำแข็งมันเหมือนยอดเขาหิมาลัยเลย ฮ่าๆๆ ที่สำคัญมีโซนหิมะให้สัมผัสกันด้วย งานนี้ เกลื้อกกลิ้งกันสุดพลัง
 
 
 
ต่อไปก็จะเป็นโซนสถานที่สำคัญของโลกครับ สวยใช่ย่อยเลยทีเดียว
 
 
 
 
ในส่วนของส่วนสนุกจะอยู่ในโซนี้แหละครับ จะมีให้เล่นอยู่ 3 อย่างครับ คือ
  1. สไลเดอร์น้ำแข็ง มีให้เล่นอยู่ 3 เส้นทางครับ จะอยู่ตรงกลาง ธัชมาฮาล 2 เส้นครับ และจากสถานีปล่อยรถด่วนอีก 1 เส้นครับ
  2. ล่องแก่งหิมะ เป็นสไลเดอร์นั่งบนห่วงยางครับ นั่งได้ทีละ 1 คน แอบสนุกนะครับ ฮ่าๆๆๆ
  3. รถด่วนน้ำแข็ง อันนี้เป็นรถรางน้ำแข็งครับ อันนี้ต้องเสียค่าเล่นอยู่ที่คนละ 20 บาท ซื้อบัตรตั้งแต่หน้าทางเข้าครับ สนุกใช้ได้เลยครับ

นอกจากนี้ ด้านหน้าก็มี Ice Bar เปิดให้บริการด้วยครับ เพื่อนๆที่อยาก Hangout บรรยากาศชิลๆ คูลก้มาจอยกันได้ เข้าไปโซนหน้าก็จะเป็นเหมือนโซนร้านทั่วไป อาจจะไม่ได้ต่างกับร้านทั่วไปเท่าไหร่ แต่ทีเด็ดมันอยู่ข้างในครับ!

ทีเด็ดอยู่ตรงนี้เลยครับ เพราะว่าตรงนี้นี่แหละ Ice Bar ของจริง ด้านในเป็นน้ำแข็งทั้งหมดเลย ทั้วโต๊ บาร์ เก้าอี้ รวมถึงแก้วด้วย! ด้วยอุณหภูมิ -15 องศาครับ แก้วน้ำแข็งที่กินถ้าอยากระบายอารมณ์ก็มีโซนให้เขวี้ยงแก้วได้ด้วยครับ แหม แลดูเป็นโซนสำหรับคนเก็บกดนะ ฮ่าๆๆๆ

สรุปความประทับใจหลังจากมัวร์เรียบร้อย ส่วนตัวต้าชอบนะครับ สนุกดี ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแปลกใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ใครที่ชอบอากาศเย็นๆหนาวๆ อยากสัมผัสกับหิมะบ้าง ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ ส่วนตัวต้ามองว่าอาจจะเล็กไปสักหน่อย อาจจะชดเชยกับที่มีกิจกรรมให้ได้ทำเยอะหน่อยครับ แถมด้วยมุมถ่ายรูปสวยๆก็โอเคนะครับ บรรยากาศแปลกใหม่ ขาเที่ยวขาดื่ม Ice Bar น่าโดนมากๆ นี่ก็กำลังคิดอยู่นะครับว่า อาจจะไปกันอีก ถ้าอยากหาที่เที่ยวใหม่ๆ ไปลองเปลี่ยนบรรยากาศ ก็อย่าลืมแวะไปกันนะครับ

ใครที่อยากไปก็แวะไปติดตามข่าวสารกันได้เลยครับที่ https://www.facebook.com/HarbinIceWonderland

 

วันนี้จบแล้ว ขอลาไปแต่เพียงเท่านี้นคร้าบบบบบบบบบ




Create Date : 17 ตุลาคม 2557
Last Update : 17 ตุลาคม 2557 16:33:38 น.
Counter : 966 Pageviews.

1 comment
Carlsberg Kick Off Party ปาร์ตี้สำหรับคอบอลเช่นคุณ ...และคุณเท่านั้น!

สวัสดีครับเพื่อนๆ

วันนี้ต้าจะมาอัพเดตงานล่าสุดที่ต้าเพิ่งไปมาครับ กับงาน Carlsberg Kick Off Party เป็นงานแถลงข่าว และการคิกออฟเปิดฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2014-15 โดยแบรนด์เบียร์พรีเมี่ยมระดับโลกอย่าง คาร์ลสเบิร์ก(Carlsberg) กับปีที่ 2 ในฐานะพันธมิตรการแข่งขันฟุตบอล บาร์เคลย์ส พรีเมียร์ลีก(Barclays Premier League) ประเทศอังกฤษอย่างเป็นทางการอย่าง พร้อมเปิดตัว Carlsberg ผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ งานนี้ ขอบอกเลยครับว่ามันมาก! อินสุดๆ แต่บรรยากาศจะสนุกสนานขนาดไหน งั้นไม่เสียเวลา มาดูภาพบรรยากาศกันเลย

งานนี้ในวันนี้จัดที่ร้าน Bottoms Up ที่ทองหล่อ ซอย 18 ครับ บรรยากาศหน้างานจัดยิ่งใหญ่อลังการมากๆ เรียกว่าหาไม่ยาก แถมคนผ่านไปมาต้องสะดุดตาอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นเราก็ได้เวลาลงทะเบียนกันแล้วครับ ลงทะเบียนปุ้บก็ได้รับเป็นริสต์แบนด์บัตรเข้างาน, บัตรสำหรับรับเครื่องดื่มจาก Carlsberg และอันสุดท้ายร้องดังสุดครับ เป็นแฟลชไดร์ฟของที่ระลึกจาก Carlsberg ถือเป็นแฟลชไดร์ฟที่เหมาะกับคนรักการดื่มจริงๆ (ถูกใจส่วนตัวครับ เลยร้องดังไปหน่อย อิอิ)

ได้เวลาเริ่มงานกันแล้ว เหล่าบรรดาเซเลบริตี้ชื่ดังก็เริ่มทะยอยเข้างานกันแล้ว งานนี้คนดังมาร่วมกันมากหน้าหลายตาเลยครับ นำทีมโดยผู้บริหารไฟแรง คุณเบียร์ ธิตินันท์ ชุ่มภาณีผู้จัดการฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จํากัด ผู้จัดจําหน่าย แบรนด์เบียร์พรีเมี่ยมระดับโลก คาร์ลสเบิร์ก(Carlsberg) และตัวแทนผู้บริหารจาก Carlsberg มาร่วมงานเปิดตัวครั้งนี้ด้วยครับ รวมถึงดาราคอบอลอย่าง คุณเวียร์ ศุกลวัฒน์, คุณกันต์ กันตธาวร และคุณลิเดีย พร้อม เพื่อนๆพี่ๆบล็อกเกอร์ก็มาจอยกันด้วย งานนี้จัดเต็มมากๆครับ

 ตอนนี้ มาเดินดูบรรยากาภายในงานก่อนงานเริ่มงานกันดีกว่า นอกจากโซนลงทะเบียนต้อนรับด้านหน้าแล้ว ภายในงานก็สนุกสนาน มองซ้ายมองขวารู้เลยว่าคอบอลเหมือนกัน มองตาก็รู้ใจนะ กิจกรรมต่างๆก็เตรียมไว้แบบรู้ใจคอบอลมากๆครับ

 โซนระเบียงด้านนอกก็มีการจัดมุมไว้ให้ถ่ายรูปสไตล์คนรักฟุตบอลครับ ที่สำคัญมีจุดเล่นเกมไว้ให้ประลองฝีมือกันด้วย ใครฝีเท้าดีก็รับรางวัลไปเลยครับ

และแน่นอนครับ มาปาร์ตี้ทั้งที ไฮไลท์เด็ดๆก็ต้องเป็นอาหารนั้นเอง(ถึงเวลาแล้วเน้อ ^0^) ในงานนี้จัดมาหลากหลายเลยครับ ทั้งเบอร์เกอร์, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, มันบดทอด รวมถึงทีรามิสุที่เป็นเมนูหวานด้วย จริงๆมีอีกเยอะครับ แต่เก็บภาพมาได้ไม่หมด แต่ไฮไลท์เด็ดเลยต้อง เบียร์ Carlsberg ที่ให้ผู้ร่วมงานได้ดื่มกันแบบไม่อั้นทานกับอาหารที่เตรียมไว้แล้ว เข้ากันลงตัวทีเดียว

 จริงๆก็ไม่ถึงกับบุฟเฟ่ต์นะครับ เพราะว่าก็จะใช้คูปองแลกเบียร์ที่ได้มาตอนลงทะเบียนเอาไปแลกนั้นแหละครับ แต่ที่บอกไม่อั้นเพราะทาง Carlsberg เขาจัดเต็มจริงๆเตรียมไว้ต้อนรับผู้ร่วมงานเพียบเลย

ระหว่างที่นั่งๆชิลไปเรื่อยๆ ก็มีสาวๆมาขอแสกนริสแบนด์ครับ อยู่ดีๆก็โชคดีเจอโลโก้ตอนแสกน เลยได้รับหมวกจาก Carlsberg มาอีก 1 ใบ วู้! เฮงจริงๆ

และแล้วก็ได้เวลาเปิดงานกันแล้วครับ เริ่มต้นด้วยโชว์เปิดงานครับ

คุณนิกกี้ รับหน้าที่พิธีกรของงานในค่ำคืนนี้ ดำเนินงานในส่วนของพิธีการและเชิญคุณเบียร์ ธิตินันท์ ชุ่มภาณีขึ้นกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติภายในงานและเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมแนะนำ Carlsberg ผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ ให้ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ

หลังจบพิธีการเรียบร้อย ก็ได้เวลาชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกพร้อมกันแบบสดๆภายในงานครับ งานนี้บอกเลยครับว่าแอบเซ็งเล็กน้อยเพราะ Man U แพ้ไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว (เศร้าแปบ T^T) ก็นั่งชิลดูบอล นั่งคุยกันตามประสาคอบอลกันไปครับ

ระหว่างนี้ก้มีน้องพริตตี้ให้ทดลองแอพเล่นเกมด้วยครับ ซึ่งเป็น Application Official จากทาง Carlsberg  ขอแนะนำกันหน่อยแล้วกันนะครับ เพราะ 2 แอพนี้ น่าจะถูกใจคอบอลแน่นอน

ตัวแรก คือ Carlsberg Real Fans เป็นเกมพินบอลสนุกๆสไตล์คอบอลครับ เป็นแอพเกมที่สามารถโหลดมาเล่นได้ทั้งใน Tablet และ Smartphone เลยครับ คราวนี้ ระหว่างรอพักครึ่งหรือรอคู่ต่อไปก็คงไม่น่าเบื่อแล้วละครับ ^_^ ตรงนี้มีการแข่งขันสนุกๆกันภายในงาน ใครที่ได้รับคะแนนสูงสุดก็รับรางวัลตอนท้ายงานไปครับ

ส่วนอีกแอพหนึ่ง มีชื่อว่า Carlsberg Feeling App เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับคอบอลตัวจริง สามารถอัพเดตผลคะแนนได้แบบสดๆ พร้อมตารางการแข่งขัน พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษ สามารถถ่ายภาพสไตล์มันส์ๆ พร้อมกับผลคะแนนอัพเดตสดๆ ส่งไปเย้ยเพื่อนๆใน Social Media ได้ทันที! เจ๋งไหมล้า... โหลดได้ฟรีเลยทั้ง IOS และ Androids

มาถึงช่วงท้ายก็ได้เวลามอบรางวัลและแจกของที่ระลึกกันครับ แอบลุ้นของแอพเกม Real fans นะครับ เพราะต้าทำแต้มไว้ได้หมื่นกว่า แต่ที่ 1 ได้ไป 15,390 โอเคยอมครับงานนี้ ฮ่าๆๆๆ

ส่งท้ายงานนี้ บอกเลยครับว่า เป็นงานที่ประทับใจคอบอลมากๆครับ บรรยากาศชิลๆ สนุกสนาน ให้คอบอลตัวจริงได้มาเจอกัน บรรยากาสแบบนี้ สุดยอดครับ ตัวต้าเชียร์แมนยูครับ ส่วนตัวอาจจะไม่ได้ติดงอมแงมจนต้องดูทุกแมตช์ แต่ก็เกมฟุตบอลคราวนี้ก็พลาดไม่ได้จริงๆ ถึงจะเปิดฤดูกาลมาแล้วแพ้เลยก็ตามนะ -*- เพื่อนๆคนไหนที่เป็นคอบอล และติดตามฟุตบอลพรีเมียรลีกเหมือนก็สามารถติดตามข่าวสารกันได้นะครับ ที่ www.facebook.com/Carlsbergthailand และทาง Instagram @CarlsbergThai ครับ

ขอขอบคุณ Carlsberg ผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ

สำหรับงานและกิจกรรมในค่ำคืนนี้ครับ ^_^




Create Date : 29 สิงหาคม 2557
Last Update : 29 สิงหาคม 2557 12:34:07 น.
Counter : 444 Pageviews.

0 comment
Grand opening Play House @ Siam-One : อาณาจักรของเล่นแห่งใหม่ที่แฟนๆดิสนีย์ไม่ควรพลาด
สวัสดีครับเพื่อนๆ! วันนี้ต้าขอเอาภาพบรรยากาศจากงาน
Grand Opening Play House @ Siam One มาฝากเพื่อนๆกันครับ
ถ้าใครจำได้ ต้าเคยเขียนรีวิว ตอนเปิดวันแรกของ Play House ไปแล้ว
อยากอ่านก็ไปดูได้เลยครับ ที่นี้เลย ^_^
ถือเป็นการเปิดตัวอาณาจักรของเล่นระดับเวิลด์คลาสได้อย่างยิ่งใหญ่ทีเดียว
งานนี้จัดยิ่งใหญ่ทีเดียวครับ มีทั้งพี่ๆสื่อมวลชน เซเลบ รวมถึงดารานักแสดงเพียบ!
และแน่นอน... ซูปตาร์จากโลกอนิเมชั่นก็มารอต้อนรับเราเหมือนกันน้า
อ๊ากกกก! อยากได้ Minion อะ ฮ่าๆๆ
แถมภายในงานยังมีโปรโมตของ Guardians of the galaxy ด้วย
ว้าวๆๆๆๆๆ ถ่าย Rocket ไม่ได้อะ เสียใจ T^T
แล้วก็ได้เวลาเริ่มงานแล้วบนเวทีแล้วครับ
พิธีกรในงานนี้ได้พี่ออมและพี่โด่งรับหน้าที่ครับ
พร้อมเหล่าผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติขึ้นกล่าวขอบคุณ
และแสดงความยินดีครับ
คราวนี้ก็มาถึงช่วงของการทอล์คแล้วครับ
ในงานนี้มีดาราและนักแสดงที่รักในการ์ตูนดิสนีย์มาเจอกันเพียบ
แต่ได้เชิญตัวแทนเซเลบริตี้ขึ้นมา 5 ท่าน เพื่อคุยกันถึงของสะสมสุดรัก
นำทีมโดย คุณแจน-พัทธมน เตชะรรงค์, มัดหมี่-พิมดาว,
หมูตั้ง-หม่อมหลวงอรรถดิ, พลอย-หอวัง และคุณพงศธร ธรรมวัฒนะ
ที่ไม่ว่าใครๆเห็นก็ต้องกรี๊ด งานนี้ แฟนๆดิสนีย์กรี๊ดมากๆ
เพราะแต่ละชิ้นที่นำมา อื้อหือ! Exclusive สุดๆ
ต้าเก็บภาพมาได้ไม่ครบอะครับ(เบียดมวลมหาประชาชนเข้าไปสู้ไม่ได้ ฮ่าๆๆ)
จากนั้นก็ต่อด้วยแฟชั่นโชว์พิเศษจากเหล่าตัวละคร Disney และ Marvel พาเหรดกันมาเพียบ
พร้อมกับเหล่าเซเลบตัวน้อยก็มาร่วมเดินแบบด้วย น่ารักมากๆครับ
มีใครบ้างลองดูภาพกันนะครับ
และเซอร์ไพร์สพิเศษสุด! (อันนี้ เซอร์ไพร์สจริงครับ เพราะไม่รู้มาก่อน ฮ่าๆๆ)
กับนักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกร
กับบทบาทเจ้าหญิงออโรร่า สวยสง่ามากๆ สวยจริงๆนะ
คือ ขนาดสัมภาษณ์ยังดูเป็นเจ้าหญิงเลยอ่ะ ปลื้ม...(ส่วนตัวอีกล่ะ)
และก็ถึงเวลาที่พวกเรารอคอย....นั้นก็คือ การเปิดร้านอย่างเป็นทางการนั้นเอง!
และแน่นอน เมื่อม่านเปิดก็หมายความว่า...ถึงเวลาช๊อปคร้าบบบบบบบบ
ภายในร้านก็จะมีการจัดโซนเป็น 3-4 โซนใหญ่ๆครับ
อันนี้ขอเล่าเพิ่มเติมจากบล็อกที่แล้วแล้วกันนะครับ ^_^
เพราะคราวก่อนไปแบบไม่รู้เลยเปิดวันแรก วันนี้เล่าให้ฟังแบบขยายอีกนิด
  1. โซนนักออกแบบ - โซนนี้เป็นโซนที่รวบรวมผลงาน และจำหน่ายของเล่นจากฝีมือของนักออกแบบของเล่นครับ แต่ละชิ้นในโซนนี้หายากจริงๆนะ คือ งานละเอียดจริงๆ ถึงไม่ซื้อแค่มาดูก็ฟินครับ พูดเลย!
  2. โซนเครื่องเขียนและเครื่องใช้ - เป็นโซนอันตรายที่ห้ามคุณพ่อคุณแม่พาลูกหลานเดินผ่านเด็ดขาด ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นนะครับ มันไม่อันตรายหรอก แต่ของมันน่ารักมากๆ ถูกใจเด็กแน่นอน
  3. โซนของที่ระลึก - ตรงนี้ มีทั้ง Marvel และ Disney หลากหลายครั้ง ทั้งเสื้อ ตุ๊กตา พวงกุญแจ ไปจนถึงน้ำหอมก็มี รวมถึง Disney Collector เป็นตุ๊กตาปั้นจากการ์ตูน Disney เรื่องต่างๆสำหรับนักสะสมโดยเฉพาะ (รีบเดินๆ เดี๋ยวตังค์หมด!)
  4. โซน Funko - โซนนี้ ถูกใจขา Funko แน่นอน แถมในโซนนี้ ยังมี Disney Pixar Moter และ Weckky Wobler ด้วย อ๊าก! กระเป๋าฉีกแล้วคร้าบบบบบ
ไม่อยากเล่ามาก ดูภาพเอาเลย
สุดท้าย สรุปความเสียหายได้มา 2 ชิ้นครับ
เป็น Funko เจ้า Carl Minion จาก Despicable Me และ
Disney Pixar Motor ลาย Sully จาก Monster University ครับ
โอ้วววว


ขอตัวไปเศร้าแปบ....มีเจ้าเขี้ยวกุดมองนิ่งๆด้วย ฮ่าๆๆๆ
หึ! มองนัก จับกลับบ้านแม่ม!
เขี้ยวกุด ฉันเลือกนายแล้วนะ (เอ๊ะ ผิดเรื่อง ฮ่าๆๆๆ)
ทิ้งท้ายกันสักนิดนะครับ ใครที่อยากแวะไปบ้าง
เจอกันได้เลยที่ Siam One ชั้น 3 ครับผม!!!
หรือเข้าไป Like กันได้ที่ facebook.com/playhouseth
ไปไลค์กันเยอะๆนะครับ ^_^
วันนี้ จบบล็อกละค้าบ เดี๋ยวถ้าได้ไป Event ไหนอีก
จะมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ!!!



Create Date : 16 กรกฎาคม 2557
Last Update : 16 กรกฎาคม 2557 20:29:39 น.
Counter : 909 Pageviews.

0 comment
ApoVenture : It's Scuba Time!!!
สวัสดีครับ ส่งท้ายซัมเมอร์แบบนี้ ขอแอบหนีมาเที่ยวพักร้อน ไม่สิ!
ต้องบอกว่ามาเที่ยวท้าร้อนต่างหาก เพราะวันนี้ต้ามาดำน้ำกัน
ต้าเดินทางมากัน 5 คนครับ รวมต้าด้วย ออกเดินทางกันแต่เช้าจากกรุงเทพ
ขึ้นมอเตอร์เวย์มา ถึงตอน 9 โมงพอดี ลงจากรถก็บรรยากาศแบบนี้เลย โอ้ว...
วันนี้พวกเราเลือกทัวร์ของ The toy tour ครับ แต่ 599 บาท
แต่ได้ไปทัวร์ตามโปรแกรมก็ถือว่าโอเคอยู่นะครับ จริงๆถ้าจองที่พัก
ของ The toy art resort ด้วย ก็จะมีรถบริการรับส่งที่ท่าด้วย ก็ถือว่าสะดวกดี
แต่ถ้าซื้อทัวร์อย่างเดียวก็ขับรถไปที่ท่าเองครับ อยู่ไม่ไกลครับ
เมื่อถึงเวลา ก็ออกเดินทางได้เลย!!! เริ่มต้นไปเกาะมันในก่อนครับ
มาถึงเกาะแล้ว วันนี้โชคดีมาก เพราะคนขับเรือบอกว่าวันนี้น้ำลดเยอะมาก
จะเห็นทะเลแหวกเยอะที่สุดเลย อิอิ โชคดีเน้อ
แหวกเยอะขนาดไหนดูเลยด้วยภาพดีกว่า
ยืนยันด้วยภาพอีกสักรูปครับ รูปนี้ก็คือ ถ่ายจุดเดียวกับที่ยืนหันหลังรูปบนตะกี้ครับ
เขาบอกปกติมาได้แค่ครึ่งเดียว วันนี้มาไกลมากกกกกก
อีกสักมุมแล้วกัน การันตีอีกภาพครับ

บนเกาะมีศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่า เราก็แวะทักทายน้องเต่ากันหน่อย
หลังจากพักทานข้าว เราก็เดินทางกันต่อไปที่เกาะมันกลางครับ และก็ได้เวลาที่เรารอคอย
ก็คือ การดำน้ำนั้นเอง เย้!!!! ว่าแล้วก็โดดโล้ด แต่เสียดายที่ไม่มีอุปกรณ์กันน้ำให้น้อง Iphone 5c
เลยอดเก็บภาพมาฝาก แต่บอกเลยครับ วันนี้น้ำลดเยอะมากกกก
ขนาดลงมายืนได้ เลยได้สัมผัสกันแบบจับได้เลย 5555

Selfie อีกรูป อ้อ ลืมบอก อันนี้ใช้กล้องของพี่เขานะครับ เลยได้มีภาพกลางทะเลกัน


และแล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอย นั้นคือ....การกิน!!!!(ฮา) หลังจากเราขึ้นฝั่งแล้ว
ล้างน้ำล้างตัวก็ไปหาที่พักแถวๆสัตหีบครับ ใกล้ๆหน่วยรบพิเศษกองทัพเรือสัตหีบเลย
จากนั้นเราก็มาหาอะไรกินกันที่หาดน้ำหนาว สวัสดิการท่าเรือสัตหีบครับ
ที่นี้อยู่ในส่วนการดูแลของทหารครับ บรรยากาศดี๊ดี กลางคืนชิลมาก
มีดนตรีด้วย ฟินมากกกกกกกก
มาแล้วครับ ที่สุดของความฟิน!!! เมนูที่สั่งวันนี้เราจัดปลาหมึกย่าง
ปลาหมึกนึ่งมะนาว ข้าวผัดปู(ในภาพตักจานเล็กมานะครับ จอนข้าวมาเพิ่งนึกได้ แหะๆ)
กุ้งชุบแป้งทอด กุ้งแช่น้ำปลา แกงส้มปลาช่อน และตบท้ายด้วยเหล้าปั่นบลูสตอเบอรี่
โอ้ย....ตัวแตก ทั้งหมด(รวมน้ำและน้ำแข็งด้วย) บิลออกมารวมๆแล้ว
ประมาณ 1,200 บาท ซึ่งถูกมากกกกกก เมื่อเทียบกับปริมาณและรสชาติ
พี่แนน @nanmoment บอกเลยว่า ข้างนอกกินขนาดปริมาณนี้ ไม่ได้ราคานี้แน่นอน
ไม่ต้องพูดถึงกรุงเทพ อันนั้นหนักเลย! ลองดูราคาได้เลยครับ
ยืนยันว่าอิ่มคุ้มค่าความอร่อยแน่นอน
ที่พักของเราในคืนนี้ เราพักที่ พฤกษาธารารีสอร์ทครับ อยู่ไกลกันมาก
ต้องบอกก่อนว่าเรามาแบบไม่ได้จองล่วงหน้าด้วย หลายๆที่ก็เลยเต็มไปแล้ว
แถมอีกรีสอร์ทก็ดูเหมือนจะโดนเหมาไปแล้ว เพราะมีแถวๆนั้นจะจัดงานแต่งพอดี T_T
ไม่เป็นไรครับ มาเจอที่นี้ก็โอเคหน่อย เป็นรีสอร์ทแบบธรรมดามากกกกกกก
ไม่มีอะไรพิเศษเลยครับ ที่นอน ทีวี แอร์ น้ำอุ่น คืนละ 600 บาท
จริงๆก็โอเคนะครับ แค่มันไกลจากถนนเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆ
นอนได้ แอร์เย็นสบายดี มีน้ำอุ่นด้วย พอแล้วล่ะครับ
อันนี้ ห้องที่เราพักกันครับ แต่ดั๊น...ลืมถ่ายในห้องมาให้ดู
ข้าน้อยสมควรตายยยย T-T
คืนนี้ ก่อนนอนเลยแอบฝึก #Cupsong ซะหน่อย
เห็นเด็กน้อยจาก #TheVoiceKidsGermany ทำได้ เราก็ต้องทำได้เด้!!!
ขอแปะต้นฉบับเขาให้ดูด้วย ฮ่าๆๆ






SmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmiley


ตื่นเช้าต่อมาก็ลุยต่อเลย วันนี้ เรามาขึ้นเรือกันที่หน่วยรบพิเศษของฐานทัพเรือ
ซึ่งจะมีส่วนที่บริการนักท่องเที่ยวที่อยากไปเที่ยวเกาะแสมสารและเกาะขาม
แต่วันนีพลาดไป เขาปิดเกาะขาม เลยไปที่เกาะแสมสารแทน
ก่อนอื่นก็มาซื้อบัตรกันก่อน ราคาบัตรอยู่ที่คนละ 250 บาท แต่ราคานี้รวมทุกอย่างครับ
ทั้งเรือไปกลับ ค่าอุปกรณ์ดำน้ำ ชูชีพ ใช้บริการเพิ่มได้เลย ไม่เสียเพิ่มแล้ว
แต่ถ้าอยากกินเพิ่ม ก็ไปซื้อบนเกาะได้ ราคาปกติครับผม ส่วนเรือก็มีทุกชั่วโมงครับ
เริ่มที่ 9 โมงซื้อบัตรเสร็จก็รอที่ท่าได้เลย แต่ถ้าพลาด ก็หลบไปนั่งทานกาแฟ ทานข้าวก่อนก็ได้นะ


บนเกาะแสมสารมีหาด 2 หาดที่คนจะไปดำน้ำกัน ที่แรกก็หาดเทียน
กับหาดลูกลมครับ แต่ถ้ามาครั้งแรกจริงๆ จะมีทีมทหารบรรยาย
ให้ความรู้เรื่องการใช้อุปกรณ์อย่างดีครับ แต่อันนี้ เรามาถึงช้าหาดเทียน
มีคนเตรียมดำน้ำเพียบเลย เลยหลบไปดำที่หาดลูกลมก่อน
ที่หาดลูกลมมี 2 กิจกรรมครับ คือ ดำน้ำกับนั่งเรือท้องกระจก
เราก็เลยขอเริ่มที่เรือท้องกระจกก่อนเลย ใครอยากมาแต่ไม่อยากดำน้ำ
ก็นั่งเรือท้องกระจกนี่แหละครับ สัมผัสความงามใต้ทะเลกัน


ก่อนลุยรอบนี้ ขอใช้ตัวช่วยหน่อยล่ะกันครับ ไม่ไหวตัวแดงหมดแล้ว ฮ่าๆๆๆ
วันนี้ต้าหยิบ NIVEA Sun Spray มา ใช้ง่ายมาก
อย่างตัวนี้ คือ คือสะดวกดีครับ เป็นสเปรย์เย็นๆ พ่นแล้วทาได้เลย
ใช้ได้ทั้งหน้าและตัวครับ แต่ไม่ใช่พ่นหน้าตรงๆนะ พ่นใส่มือแล้วทาหน้าครับ
เหนียวๆ มันๆนิดหน่อย แต่ดีตรงพร้อมออกแดดนี่แหละครับ ชอบ ปลื้มๆ
แหม่ Tie in สุด ฮ่าๆๆ
แต่อันนี้แนะนำจริงๆนะครับว่า เตรียมเสื้อและอุปกรณ์กันแดดมาหน่อยก็ดีนะครับ
แดดแรงใช้ได้เลยครับ เข้าขั้นมากด้วย เดี๋ยวจะถ่ายภาพ After ให้ดู แอบช็อกหลังตัวเอง
ขึ้นฝั่งจากเรือท้องกระจกมา พักแปบนึงก็พร้อมสำหรับการดำน้ำแล้ว ลุยกันเลย!!!
โซนนี้ ปลาเยอะมากครับ ถ้าอยากดำน้ำดูปลา แนะนำมาดำที่นี้เลย สัมผัสแบบใกล้สุดๆ แถมวันนี้โชคดี น้ำลงเยอะมาก เลยสัมผัสได้แบบใกล้มากกกกก เจอ #Nemo ด้วย ขอลายเซ็นแปบ ฮา.....


สวยไม่สวย อันนี้ต้องมาสัมผัสกันเองนะครับ แต่บอกเลยว่ามันยอดมากกกกก
เสร็จแล้วเราก็กลับมาลุยที่หาดเทียนต่อครับ พี่แนนบอกว่า ครั้งก่อนที่มา
ตอนที่ลงเรือตอนมาถึงที่เกาะ ต้องวิ่งไปแย่งอุปกรณ์กัน
อย่างกับหนัง The hunger Games แย่งอาวุธใน Cornucopia เลย ฮ่าๆๆ
แต่จริงๆมันมีวิธีครับ อันนี้วิธีของพี่แนนครับ
คือ ถ้าเพื่อนๆมาถึงแล้ว คนที่หาดเทียนเยอะมากๆ ให้นั่งรถ 2 แถวไปหาดลูกลมเลย
พอคนเริ่มไปหาดลูกลม เราค่อยกลับมาที่หาดเทียนแทน
เจ๋งมะ ^_^ เทคนิคนี้ยกความดีให้พี่พันและพี่แนนผู้นำทริปเลยครับ
อันนี้เป็นภาพมุมที่ให้ไปรับอุปรณ์ดำน้ำ และเสื้อชูชีพครับ
ที่เห้นเป็นถังๆ คือ เวลาเราเอามาคืน ก็จะต้องจุ่มน้ำล้างก่อนด้วย ตามเลขเลย
เป็นน้ำเดตตอลผสมน้ำเพื่อฆ่าเชื้อ และถังน้ำเปล่าล้างน้ำสะอาดครับ
ว่าแล้วก็ลงรูป The Gang บ้าง สวยไหมล่ะ!!!


ฟ้าสวย แดดใส แดดแรงเกินห้ามใจ แต่ถ่ายรูปแล้วสวยมาก ยอม....

และก็ถึงเวลาลุยดำน้ำต่อ สวยขนาดไหน ดู VDO ดีกว่าครับ


อ้าว มีนานุชนี่นา ฮ่าๆๆ มุขขำๆของพี่ๆทหารที่ไว้ต้อนรับแขกนะครับ
เสร็จแล้วก็มาอาบน้ำล้างตัวกัน มีทั้งแบบ Open และแบบส่วนตัวครับ
ไม่ต้องห่วงแยกชาย-หญิงครับ ฮ่าๆๆๆ และภาพนี้ คือ ผลงาน After ครับ
แดงซ่า.... ตอนดำไม่เท่าไหร่ครับ ที่แสบซ่าสุดคือตอนนั่งเรือนี่ละ โอ้ว ก็อด.....
แนะนำว่าให้ติดโลชั่นหรือเจลว่านหางจระเข้มาด้วยจะช่วยได้มากครับ
เพราะอย่างน้อยก็คลายร้อน บรรเทาอาการแสบร้อนได้อยู่ระดับหนึ่งเลย


และก็ถึงเวลกลับแล้วครับ เรือรอบสุดท้ายนี้ จะมีถึง 5 โมงเย็นครับ
แต่ดำน้ำจะดำได้ถึง บ่าย 3 ครับ เพราะพี่ๆทหารก็จะขึ้นมาพักกันแล้ว
แหม่... ดูแลแขกตั้งแต่รอบแรกยันรอบเย็น ให้เวลาพักกันบ้างเน้อ
พี่ๆเขาดูแลเราแบบ Non Stop เลยนะ ฮ่าๆๆๆ เพราะฉะนั้นใครอยากดำแบบอิ่มๆ
รีบมาเช้าๆนะครับ คนๆม่เยอะ แถมได้ดำหน่ำใจแน่นอน
ขากลับก็เข้ามอเตอร์เวย์ จัดของฝากที่นี้เลย เยอะเชียวล่ะครับ
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้รวมค่าน้ำมันค่ากินค่าที่พักทุกอย่าง เบ็ดเสร็จอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท
คุ้มค่ามากๆเลยครับ แฮปปี้ๆๆ ซึ่งเคยไปทริปก่อนหน้านี้ เที่ยวน้อยกว่า กิจกรรมน้อยกว่า
แต่จ่ายแพงกว่าซะอีก (คืออะไรเนี่ย? -*-) สรุปแล้ว แฮปปี้ มีความสุขโพดดดดดดด


จบแล้ว เอาวิวยามเย็นมากฝากกันหน่อย ทริปน้ำดำน้ำแบบอิ่มหน่ำมากจริงๆ
ขอบคุณพี่แนนและพี่พันด้วยนะครับสำหรับการนำทริปนี้ ชอบมากกกกกกก
มีพี่ๆมาด้วยแบบนี้ แฮปปี้สุดๆ
ทิ้งท้ายกันสักนิดครับ เวลาไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมช่วยกันดูแลความสะอาดกันนะครับ
ยังไงก็บ้านเราเมืองเรา ประเทศของเรา เราไม่ดูแลใครจะดูแลละครับ จริงไหม?
ตอนกลับจากเกาะได้คุยกับพี่ทหารท่านนึงบอกว่าขยะกองพะเนินมาก
กลับทีขยะเต็มลำเรือเลย ช่วยกันดูแลนะครับ เราจะได้มีที่เที่ยวสวยๆไว้เที่ยวกัน
ฝากไว้ครับนักเที่ยวทั้งหลาย ^_^

“ไปเที่ยวเมืองไทย แล้วจะรู้ว่าเมืองไทยเรา สวยงามขนาดไหน...”




Create Date : 01 กรกฎาคม 2557
Last Update : 1 กรกฎาคม 2557 15:14:44 น.
Counter : 2363 Pageviews.

0 comment
ApoVenture : สัมผัสหมู่บ้านโฮมสเตย์แห่งแรกของประเทศไทย ณ บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่
สวัสดีครับ วันนี้ต้าขอเอาประสบการ์ท่องเที่ยวมาเล่ากัน
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้าเคยไปแล้วประทับใจมากๆๆๆๆๆๆ(ถึงมากที่สุดเลย)
เพราะว่าเป็นการท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติที่ต้าว่ามันสวยมาก!!!
เหมือนฝันเลยล่ะ ใครที่เคยฝันว่าอยากจะมีบ้านอยู่ในเขา เงียบๆ บรรยากาศดี
เย็นๆตลอดปี มีน้ำตกไหลผ่าน ฝันเป็นจริงแล้วครับ
ขอเชิญเลยที่ "บ้านแม่กำปอง" จ.เชียงใหม่...
 
 
บ้านแม่กำปองอยู่ห่างจากตัวเมืองมาพอสมควรครับ
เอาตรงๆถ้าขับรถมาต้าบอกทางไม่ถูกเหมือนกัน แต่ถ้าเหมารถแดงมาเลย
ก็ตกเที่ยวละ 1,000 บาทครับ อันนี้ เป็นข้อมูลจากเพื่อนต้าครับ
ถ้าไปกันหลายคนก็อาจจะถูกหน่อย
 
อ้อ! สำคัญสุด อย่าลืมขอเบอร์พี่รถแดงไว้นะครับ ไม่งั้นโดนทิ้งเคว้ง
กลับบ้านไม่ได้นะ ฮ่าๆๆ แต่จริงๆ คือ ที่หมู่บ้านก็มีเบอร์รถบริการอยู่แหละ
แต่ก็กันเหนียวนะ
 
 
 
ตอนที่ต้าไป เพื่อนก็ขับรถพาไปครับ ไปแบบเช้าเย็นกลับ ไม่ได้ค้าง
เพราะตอนนั้นมีหลายโปรแกรมเลย แอบเสียดายเหมือนกันนะ เพราะอากาศดีมาก
ไปตอนหน้าหนาวพอดี มันฟินสุดๆ สองข้างทางแบบ อากาศดี เย็นสบาย
แบบว่าเปิดกระจกรถ แต่อากาศเย็นเหมือนเปิดแอร์ มันเจ๋งไหมล่ะ!
 
 
 
เมื่อมาถึงก็บอกเลยครับว่าประทับใจสุดๆ เพราะนอกจากอากาศจะดีแล้ว
บ้านที่หมู่บ้านนี้ยังเป็นแบบเก่า คลาสสิคสุดๆ แถมยังอยู่บนเขาอากาศดีตลอดปี
มีน้ำตกไหลผ่านหมู่บ้านตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของหมู่บ้าน
ก็จะได้ยินเสียงน้ำตกตลอดทั้งวันทั้งคืน มันฟินไหมล้าาาาาาา!!!!
 
 
ที่บ้านแม่กำปองแบ่งออกเป็นโซนๆครับ ก็จะมี ปางกลาง ปางนอก ปางขอน ปางโตน และปางใน ซึ่งก็สามารถเลือกพักได้ตามชอบเลย โดยจะมีศูนย์บ้านพักโฮมสเตย์ไว้คอยบริการทุกท่านที่มาเยือน อันนี้ต้าต้องบอกก่อนว่าที่นี้เป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ตัวอย่าง ที่มีการจัดระบบดูแลนักท่องเที่ยวพร้อมกับรักษาความเป็นธรรมชาติของชุมชนหมู่บ้านเป็นอย่างดี ไม่แปลกที่ใครไปใครมาก็ประทับใจกันทุกๆคน ใครที่เคยหลงรักเมืองปาย อัมพวา หรือเชียงคาน ลองมาดูครับ อาโปการันตี
 
แลนด์มาร์คของที่นี้ ที่เหมือนใครไปใครมาก็ต้องไปให้เห็นกับตา ก็คือ โบสถ์ของวัดกลางน้ำนั้นเอง ต้าจำชื่อวัดไม่ได้ แต่มาเห็นกับตาแล้ว โคตรประทับใจครับเพราะสวยงามจริงๆ ต้าใช Galaxy S3 ถ่ายครับ ไม่ได้ใช้กล้องใหญ่นะครับ ภาพเลยอาจจะเก้บความประทับใจมาฝากได้ไม่หมด แต่ถ้าดูจากภาพนี้ ก็ว้าวแล้ว!
 
 
 
 
หลังจากประทับใจกับโบสถ์สวยๆแล้ว เราก็เดินไปชมหมู่บ้านของที่นี้กันบ้าง
อากาศดีมากๆ ตอนที่ต้าไปก็ประมาณ 16-17 องศาครับ ดูอุณหภูมิตอนบ่าย 2
ย้ำ! บ่าย 2 อากาศดีมาก แอบถามคุณป้าบอกว่าร้อนที่สุดของที่นี้ คือ 25 องศาครับ
โห เก็บของย้ายบ้าน ด่วน!
 
เดินไปเรื่อยๆเราก็จะเจอกับ น้ำตกแม่กำปองครับ
 
 
 
 
น้ำตกนี้มีประมาณ 7 ชั้นครับ ตอนที่ต้าไป ต้าไปได้แค่ 3 ชั้นเอง เพราะกลัวจะเดินดูได้ไม่ครบ
แล้วก็ดันใส่รองเท้าแตะมา(ไม่พร้อมลุยเล้ยยยย) เพื่อความปลอดภัยด้วยล่ะเน้อ -*-
 
น้ำตกที่นี้สวยมากๆเลย ส่วนใหญ่คนที่ชอบเดินป่า ก็จะชอบมาเดินขึ้นไปกันครับ
เพราะที่ชั้นบนสุดจะมีทุ่งพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยนั้นเอง
คนรักการเดินป่าถูกใจแน่นอน แต่อาจจะต้องเผื่อเวลาเป็นวันเลยครับ
เพราะกว่าจะขึ้นไปถึงชั้น 7 ใช้เวลานานครึ่งวันเลย ถ้าใครอยากลองสักครั้ง
ก็เตรียมเต้นท์มากางนอนข้างบนได้เลยครับ
 
ด้านล่างก้มีน้ำตกไหลผ่านถนนด้วย สวยสุด ฟินสุด เลยขอสักแอ็คละกัน
แต่ตอนถ่ายเสร็จนี่เท้าชาเลยครับ 5555
 
 
หลังจากเดินไปชมน้ำตกเสร็จ ก็กลับมานั่งจิบชานมร้อนๆชมวิวสักหน่อยครับ
ที่ไหล่เขาจะมีร้านกาแฟร้านนึงวิวดี สวยมาก ราคากันเองสุด
แถมวิวดี ชิลมากจริงๆ ใครที่อยากได้ร้านกาแฟ โลเคชั่นเฟี้ยวๆแบบนี้
มาเลยครับ คือ สวยจริงๆ
 
อย่างตอนที่ต้าไปก็ได้คุยกับพี่เจ้าของร้าน คือ แฟนพี่เขาเป้นคนที่นี้
แต่ไปเรียนจบและเจอกันจากในเมือง ตัดสินใจเข้ามาเปิดร้านกาแฟที่นี้
และคนส่วนใหญ่ที่นี้ ก็เข้าเรียในเมืองกันทั้งนั้น แต่ก็กลับมาช่วยกันพัฒนา
ดูแลหมู่บ้าน ช่วยงานที่บ้านของตัวเองกัน ที่นี้ไม่เปิดให้นายทุน
เข้ามาซื้อที่หรือทำกิจการนะครับ ที่นี้เขาดูและจัดสรรกันเองครับ
ก็เลยได้ชื่อว่าเป้นหมู่บ้านโฮมสเตย์ตัวอย่างเลยก็ว่าได้
 
 
 
 
คนที่นี้ อยู่แบบบ้านๆครับ วันดีคืนดี พวกนกยูง สัตว์ป่า ก็ลงมาเดินเล่นกันแบบนี้แหละครับ
อยู่กับเงียบๆแบบชีวิตเรียบง่าย จริงๆมีผู้ป่วยที่ต้องการที่พักสงบๆ
เขาก็มาขอเช่าบ้านพักกันที่นี้ก็มีนะครับ เพราะสภาพแวดล้อมที่นี้เอื้ออำนวยจริงๆครับ
 
 
 
ต้าอยู่จนเย็นสุดท้ายก็ต้องลากลับแล้วครับ แอบเสียดายเล็กๆ
เพราะว่าใจจริงๆอยากนอนค้างสักคืนมากๆ ผู้ที่หมู่บ้านนี้ใจดีมาก
คือ เขาต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองดีสุดๆ วันนั้นที่ไป
ก็บอกว่าจะไปทานข้าว คุณป้าก็เลี้ยงข้าวอีก แถมกับข้าวที่กินกัน
เป็นแบบพื้นเมืองแบบคนเมืองดั้งเดิมมากๆ ซึ่งในเมืองหากินยากแล้ว
แต่ต้ากินฟรี!!!!! ตลกรับประทานล่ะ.....
 
ที่นี้ มีของขึ้นชื่ออย่างหมอนใบชาด้วย ถือเป็นของดีของที่นี้
ที่ใครไปใครมาก็ต้องแวะซื้อกลับไปฝากติดไม้ติดมือกันครับ
 
รูปสุดท้ายที่อยากฝากไว้นี้ คือ กลุ่มเพื่อนๆที่ได้เดินเที่ยวกันในแม่กำปองครับ
จะบอกว่า 4 คนที่เห้น ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอกันมาก่อน
แต่มาเจอกันที่นี้ ได้เจอและพูดคุยกันตลอดทาง ประทับใจมากๆครับ
(มีแค่ต้ากับเพื่อนเสื้อขาว 2 คนที่รู้จักกันนะครับ เอ้า พากันมานี่นา)
 
อย่างพี่ที่ใส่เสื้อแจ็คเกตหนัง เป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยที่ตอนนี้ไปเรียนต่อ
ที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ไปๆมาๆระหว่างเมืองไทยเพราะอยู่ในช่วงทีสิส
ต้าได้คุยกับพี่เขา ตอนที่เดินไปดูน้ำตกกัน
เดินมาทางเดียวกัน ก็เลยชวนกันคุยไปเรื่อยๆ(ซะงั้น)
ส่วนพี่อีกท่าน ไปเจอกันตรงร้านกาแฟครับ
นั่งอยู่ข้างกัน เพื่อนก็เลยชวนคุยสุดท้ายก็มาเดินเที่ยวด้วยกันนี่แหละครับ
เป็นไงครับ เหลือเชื่อไหม แต่มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่จริงๆนะครับ
 
 
เป็นทริป Backpack ที่ทั้งประทับใจ และได้มิตรภาพที่ดีกลับมาด้วย
คุ้มมากๆ ...อาโปพูดเลย
 
ใครที่อยากไปสัมผัสบ้านแม่กำปองบ้าง ก็เข้าไปดูข้อมูลที่เว็บนี้ได้เลยครับ



Create Date : 01 กรกฎาคม 2557
Last Update : 1 กรกฎาคม 2557 12:19:39 น.
Counter : 1037 Pageviews.

1 comment

Apotastyle
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]