All Blog
ร้านอาหารกรีกซูลาฟสกี้ กินเนื้อย่างอย่างเทพเจ้ากรีก!?
ชื่อร้าน : ซูลาฟสกี้
รายการอาหาร : อาหารกรีก หมูไก่เนื้อแกะกิโร(ย่าง), สลัดกรีก, ขนมหวานบัคคาว่า
เวลาเปิดบริการ : 11.00-02.00 น.
ที่ตั้งร้าน : สีลม ซอย 4 ตรงข้ามร้าน spanish, กรุงเทพมหานคร บางรัก Thailand
พิกัด GPS : 13° 43' 41.72" N 100° 31' 57.96" E


นี่เป็นภาพบรรยากาศการไปมีทติ้งกับเพื่อนกลุ่มเว็บไซต์สำนักพิมพ์ ASKMEDIA จ้า เป็นผู้หญิงทั้งกลุ่ม มีเอวันกับบีทู(ฝาแฝด) กับเจ๊นก ซึ่งเป็นพี่ใหญ่สุด...และข้าน้อยก็เป็นน้องเล็กสุดของกลุ่มนั้นเอง โห่ๆ ดีใจได้เป็นเด็กอีกครั้ง!?



ความเดิมจากที่ป๋าขับรถหลงทางจนทำให้กลับถึงโรงแรมตั้ง 6 โมงครึ่ง จากที่ข้าน้อยคาดว่าจะนอนหลับเอาแรงหน่อย (หลับบนรถแต่ปวดคอมาก) ทำให้ไม่มีเวลานอนหลับเลย เพราะต้องไปเข้าห้อง ตรวจผมเผ้า แต่งหน้าแต่งตาไปพบเพื่อน ไม่ใช่เป็นอีเพิ้งเซอร์ติสต์แบบนี้



1 ทุ่ม เป็นเวลาที่ข้าน้อยนั่งแท็กซี่ออกไป นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ข้าน้อยนั่งแท็กซี่ออกไปข้างนอกคนเดียวด้วย!



แต่ป๋าบอกว่า ถึกอย่างลูก ไม่ต้องกลัวแท็กซี่มันจี้ปล้นหรอก มันเห็นขาเธอเขาก็กลัวแล้ว



ป๋านี่!



ออกจากโรงแรมไปถึง BTS อารีย์ ใช้เวลาเพียงค่าโดยสาร 45 บาทเองจ้า แล้วข้าน้อยก็กดตู้ซื้อตั๋วไปลงสถานีศาลาแดง ซึ่งต้องลงจากสถานีสยามแล้วไปขึ้นสถานีที่จะไปอ่อนนุช



มาถึงที่หมาย 19.37 น.



มองไปยังเบื้องล่าง อันเป็นย่านสีลม ย่านที่ได้ชื่อว่าเป็นย่านคนรวยและชาวสีม่วง แต่วันนี้เป็นวันเสาร์ เพื่อนบอกว่ามีถนนคนเดิน



...แต่คนปริมาณคนแล้ว...ข้าน้อยอยากกลับบ้านจึงแฮะ คนเยอะไม่ชอบอ่ะ





ข้าน้อยโทรหาเพื่อนๆ คาดว่าเขาน่าจะมาถึงก่อนข้าน้อย(นะ) เพราะทั้งกลุ่มอยู่แถวสะพานตากสิน น่าจะออกมาเร็วกว่าข้าน้อย แต่ปรากฎว่า...



"รอพี่ก่อนเน้อ กำลังออกไป" นั้นคือเสียงเจ๊นกบอกมาตามสาย



...คือ ข้าน้อยเข้าใจว่าเจ๊เขามาถึงแล้ว กำลังออกจากร้านไปตามข้าน้อย ซึ่งข้าน้อยก็ยืนรอตรงสะพานทางเดินเชื่อมสีลมคอมเพล็ก ซึ่งเป็นจุดหาคนได้ง่าย...แต่คนเดินผ่านหน้าเราเยอะๆ แบบนี้ มันทำให้กลัวพวกกรีดกระเป๋ายังไงไม่รู้



...แล้วข้าน้อยก็เห็น เจ๊นก เอวัน บีทู มา...แต่ออกมาทางทางออกรถไฟฟ้านะ



แสดงว่าข้าน้อยมาถึงก่อน



แล้วข้าน้อยก็เดินตามพวกเจ๊ๆไปยังสีลมซอย 4 ผ่านกลุ่มผู้คนมากหน้าหลายตา รวมถึงกับได้เห็นแล้วว่า พวกคนขาย DVD โป๊แบบพูด "โป๊ไหมเพ่" กับตาตัวเองก็วันนี้แหละ



แฮะๆ บอกก่อนว่ามีทติ้งนี่ ข้าน้อยเด็ก(อายุน้อย)ที่สุดในทีมนะ



ภาพสีลมซอย 4 ช่างเป็นซอยแห่งแสงสียิ่งนัก





ข้าน้อยเกือบเดินหลงแล้ว เพราะเหล่าเจ๊เดินเร็วกันมาก จนกระทั่งเลี้ยวซ้ายเข้าร้านที่ติดป้ายสีฟ้านี่แหละ



ร้านซูลาฟสกี้ ร้านอาหารกรีกต้นตำรับแท้ดั้งเดิม ต้องเป็นสีฟ้า สีประจำชาติชาวกรีก





พนักงานที่นี่แต่งชุดขาวสะอาดตา ให้เข้าคอนเสร็ปธงชาติกรีกเลยค่ะ มีนิสัยสุภาพ ต้อนรับขับสู้ดีมาก



ที่หน้าเคานเตอร์ต้อนรับแขก มีเคบับ เนื้อย่างหมุนขายกันให้เห็นจะๆเลย





เจ๊นกได้จองโต๊ะไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ แถมเป็นชั้นบนสุดที่กึ่งไพรเวทที่สุดด้วย



ร้านนี้เป็นตึกแถวที่ดัดแปลงเป็นร้าน บันไดทางเดินเลยแคบสักหน่อย แต่สหายASKเคยแบกกระเป๋าหนักเท่าหินขึ้นโรงแรมกาลาโต้ที่เชียงใหม่มาแล้ว ดังนั้นงานนี้เลยชิวๆใช่ไหมเจ๊



ร้านตกแต่งได้ขาวสะอาดตามากค่ะ ออกแนวโมเดิร์นชายทะเล เพราะกรีกเขามีจุดขายที่เป็นประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน



จุดประสงค์ที่มากินอาหารกรีก เพราะอยากเปลี่ยนและเพิ่มประสบการณ์ชีวิตบ้าง อยากจะลองอาหารกรีกเพราะตัวเองชอบเทพนิยายกรีก และกำลังเขียนฟิคกรีกด้วย อีกอย่าง เชียงใหม่ไม่มีร้านอาหารกรีกดั้งเดิมเลย (มีแต่ร้านอาหารเมดิเตอร์เรเนียนทั่วไป)



บรรยากาศร้านชั้นบน ร้านตรงข้ามเป็นร้านอาหารสเปน





แม้แต่ผ้าปูโต๊ะยังเป็นลายผ้าขาวม้า เอ๊ย ลายตารางสีฟ้าเลย





ประตูที่เห็นนั้นไม่ใช่มีชั้นต่อไปนะงับ อันนั้นเป็นห้องน้ำ





เตาย่างหลังเคานเตอร์คาดว่าน่าจะใช้ย่างในวันที่ลูกค้าแน่นจัด





เบื้องหลังเพลงเพราะบนชั้นบนโนคบุคนั้นเอง





ชั้นวางน้ำมันมะกอก ของคุณภาพดี ต้อง extra virgin นะฮ้า





ภาพติดผนัง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพทะเลค่ะ เพราะประเทศกรีกมีจุดขายด้านการท่องเที่ยวทางทะเลนีแหละ เพราะประเทศเค้ามีพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินน้อยมาก





ตรงข้างๆ บันไดทางลง ก็ตู้แช่ไวน์ด้วยค่ะ...แต่ข้าน้อยลืมถ่าย เพราะมัวตะลึงเห็นที่พื้นมีของเกลื่อนกลาด นึกว่าขยะเกลื่อนหล่นจากถังขยะ...แต่ปรากฎเป็นว่า...



ดังภาพ...





แต่ก็ถือว่าเป็นจุดน่ารักในการตกแต่งร้านนะแบบตกใจนิดหน่อย



ถ่ายเพลินล่ะ กลับมานั่งโต๊ะต่อ ข้าน้อยนั่งโต๊ะแบบเก้าอี้นะ



...คือ อยากบอกเอวันกับบีทูมากว่า วันนั้นข้าน้อยอยากนั่งโซฟา เพราะตอนกลับจากราชบุรี นอนในรถแล้วปวดคอ อยากพิงโซฟามาก...แต่สองเจ๊เขารีบชิงนั่งไปก่อนอ่ะ ข้าน้อยจะพูดว่าจะนั่งโซฟาก็กระไรอยู่เลยต้องทนปวดคอไปตลอดงาน





ถ้วยไหตะไหลหม้อกรีกโบราณบนชั้นวางของงับ เจ๊นกบอกให้ถ่ายด้วย





ซูมอีกหน่อย (แหม ไม่ปรับแสง ให้อึมครึมแล้วได้อารมณ์จริงแฮะ)

















สั่งออร์เดอร์เตอะ ทั้งคนโพสคนชมกระทู้หิวแล้ว



ผู้จัดการร้านเป็นหนุ่มใหญ่ร่างท้วม หน้าตาอารมณ์ดี นำเมนูมาให้พวกเราเลือก...แต่พอข้าน้อยเห็นหนังสือเมนู...ป๊าดครับภาษาอังกฤษทั้งเล่ม(ดีไม่เขียนภาษากรีกดั้งเดิมมานะ)



ข้าน้อยปล่อยให้พวกเจ๊อ่านไป ส่วนตัวเองควักกระดาษจดลิสต์อาหารแนะนำ(แปลไทย)ที่เช็คจากเว็บไซต์มาสั่งแทน เล่นเอาทั้งโต๊ะฮาซะงั้นทำไมย่ะ อ่านภาษาอังกฤษไม่คล่องมันผิดเรอะ



แล้วเมนูแรกก็ประเดิมด้วย สลัดกรีกค่ะ (160 บาท) หน้าตาก็เหมือนสลัดทั่วไป แต่เขาจะเน้นการใส่ชีส (ก้อนเหลี่ยมขาวๆ เหมือนเต้าหู้) เป็นชีสนมแพะ เพราะการกินแบบชาวกรีกดั้งเดิมนั้น เขาจะทานผักสลัดก่อนกินมื้อหนักค่ะ 

 ข้าน้อยลองทานดูแล้ว...รสชาติมันแปลกๆ นะ แต่เห็นพวกเจ๊ทานอย่างมีความสุขกัน เลยไม่กล้าขัดกลางวงแฮะ ยังดีมีหัวหอมผสมด้วย เลยอร่อย



เจ๊นกคอมเฟิร์มว่า สลัดกรีกนั้นใส่น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์แท้ชั้นดี Extra Virgin (ย้ำจริง) ซึ่งเป็นน้ำมันบริสุทธิ์คุณภาพดีที่สุด ชั้นจากน้ำมันที่อยู่ผิวชั้นบน ส่วนกากมะกอก เขานำไปทำขัดเงาอย่างอื่นค่ะ



...และ Extra Virgin ก็เป็นการสื่อถึง เทพีอธีนา เทพีกรีกที่มีต้นมะกอกเป็นต้นไม้ประจำพระนาง แล้วยังสื่อถึงความที่พระนางเป็นเทพีพรหมจรรย์ที่เหนียวแน่นแบบ Extra Virgin นะซิ 



เม็ดมะกอกที่ใส่มากับสลัดและเนื้อพิต้าด้วย เจ๊นกบอกให้ลองชิมดู จะได้รู้รสชาติความเป็นกรีก(แท้) ซึ่งข้าน้อยลองชิมเนื้อแล้ว...โอ เค็มโครตๆ เลยงับพี่น้องเข็ดจนวันตายเลย รู้ซึ้งเลยว่า ทำไมเขาไม่ค่อยใช้เม็ดมะกอกไปปรุงอาหารกัน

ให้คะแนนไป สลัดกรีกนี่ 8/10 ค่ะ



รายการต่อไป เป็นแป้งพิต้าเนื้อแกะ (พิต้าแผ่นละ 30 บาท) จิ้มซอสถั่วชิกพี่(ถั่วหัวช้าง)เรียกว่า โฮมุทหรือฮัมมูท ที่จริงควรจะเป็นไข่ปลาสีชมพูค่ะ แต่มื้อนี้สงสัยไข่ปลาหมดเลยได้ถั่วไปแทน 



สำหรับแป้งพิต้าที่นี่กรอบมากค่ะ แตกต่างจากพิต้าที่ร้านกินเส้นที่เคยไปกินที่มีทติ้งเชียงใหม่ที่นุ่มเหมือนแป้งพิซซ่า...แต่ก็ยังถือว่าอร่อย เวลาเขากินก็ให้ช้อนซอสถั่วตรงกลางกินพร้อมแป้งพิตต้าที่ทำเป็นสามเหลี่ยม จะได้ช้อนได้ง่าย



ให้คะแนน 9/10





จานต่อไปเป็นใบองุ่นห่อเนื้อแกะและข้าวค่ะ (100 บาท) ดูคล้ายๆ เมี่ยงคำบ้านเรา กินแล้วไส้ไหลไปหน่อย ให้คะแนน 8/10





อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรค่ะ คาดว่าจะเป็นเกมิสต้า (320 บาท) ลักษณะคล้ายพาย แต่ยัดไส้ผักขมและเนื้อแกะ (ทำไมมีทุกงานเลยฟ่ะ คาดว่าฆ่าตัวเดียวกินทั้งโตีะเลยเนี่ย)



คะแนนความอร่อย 9/10





จานนี้อร่อยมากงับ สูตว์แกะ เพราะเนื้อติดมันเหนียวเคี้ยวกำลังอร่อยเลย ตอนที่เราสั่งเนื้อแกะนั้น ต้องเสี่ยงว่าเนื้อจะเหม็นไหม เพราะเจ๊นกเตือนไว้ก่อนว่า เนื้อแกะนั้นมีโอกาสเหม็นได้ง่ายกว่าเนื้อแบบอื่น...แต่เพราะพวกเราไม่เคยทานเนื้อแกะเลย...ก็เลย เสี่ยงก็เอาว่ะ 

ให้คะแนน 10/10







เพราะอร่อยมาก เลยถ่ายได้แต่ภาพตอนทำลายล้างเกือบหมดจานหมดแล้วส้อมไปก่อนซัตเตอร์



แต่...เห็นสั่งเยอะๆแบบนี้...ที่เห็นนี่เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยนะค่ะ ยังไม่ใช่มื้อหลั(นั)ก



แล้วก็มาถึงจานใหญ่จนข้าน้อยตะลึงนี่เป็นเหล่าบรรดาเนื้อกิโร(แกะ, วัว, ไก่, หมู) เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม เฟรนซ์ฟรายส์ แป้งพิต้า สำหรับกิน 4 คน (480 บาท) มีเนื่อให้เลือกสรรมากมาย พร้อมสลัดกรีกถ้วยเล็ก(อีกแล้วคร้าบท่าน) ซอสนั้นอร่อยมาก แต่เนื้อนี่ซิ...คาดว่าเรามาเป็นรายแรก เขาเลยเฉือนเนื้อกิโรที่เป็นเนื้อย่างจากเคบับเนื้อในผิวแรกๆ ที่ย่างจนเกรียมแห้ง จนทางไปแล้วติดคอ...เห็นกองเนื้อแล้วนึกถึงตำนานกรีกโบราณ ที่โพธิมีอุส หลอกเอาหนังสัตว์หุ้มกระดูกถวายมหาเทพเลย



เห็นมีกระดูกแกะติดมาด้วย เฉือนซะกระดูกเรียบกริบ แบบเจสัน ศุกร์ 13 อายเลย



จานนี้เหมาะไปกินกัน 4 คนพอดีค่ะ ดีกว่าจะแยกสั่งเนื้อมาทีละอย่าง



ส่วนคะแนนให้ 9/10 (ถ้าเนื้อไม่แห้งติดคอสักก่อน)





แน่นอนค่ะ เพราะสั่งออร์เดอร์น้ำย่อยมาเยอะ ทำให้เรากินมื้อหนักได้น้อย ส่วนข้าน้อยขอกำจัดเฟรนฟรายกับแป้งพิต้าให้หมด เพราะย่อยง่าย (จริงๆ แป้งอร่อยต่างหาก) เจ๊นกเลยขอให้พนักงานห่อเนื้อกลับบ้านให้ ซึ่งทางร้านก็น่ารักมากค่ะ ห่อให้อย่างดีเลย ข้าน้อยไม่ขอแบ่งกลับด้วย เพราะเก็บที่โรงแรมได้ยาก อยู่ไม่นาน...และยังมีรายการทัวร์มิตติ้งทีอื่นอีก



แล้วก็สั่งของหวานตบท้าย...มาถึงบัคคาว่า ขนมกรีก แป้งอบกรอบสอดไส้ถั่วราดน้ำผึ้ง ผสมมะนาวกับชินนามอน (180 บาท) ที่เจ๊นกเตือนไว้ว่ามันหวานเจี๊ยบมากเป็นอันตรายมาก...แต่ในเมื่อเรามาถึงที่หมายแล้ว ไม่กินอาหารกรีกไม่ครบถ้วน มันก็จะไม่ถึงที่สุด...ก็เลยสั่งมาในที่สุดเพราะข้าน้อยกินหวานเป็นของชอบ จะต้องขอลองสักตั้ง มันหวานเจี๊ยบแค่ไหนสักเชียว



แล้วมันก็มางับ...เจ๊นกเห็นครั้งแรกแล้วว่า ทำไมคราวนี้ชิ้นเล็กจัง (แสดงว่าคราวก่อนชิ้นใหญ่กว่านี้) แต่ข้าน้อยเห็นว่า...ให้มันเล็กเหอะ เดี๋ยวถ้ามันหวานเข้าจริงๆ จะกินไม่หมด



เมื่อลองชิม...โอ๊ย มันหวานเจี๊ยบมาก หวานกว่าของหวานที่เคยกินมาก่อนในชีวิต...แต่ในเมื่อสั่งแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบกินให้หมดข้าน้อยจึงต้องค่อยๆ ละเลียดงับ นี่ดีที่ป๋าบังคับให้กินน้ำผึ้งทุกวัน เลยคุ้นลิ้นรสน้ำผึ้งมาบ้างแล้ว



ส่วนคะแนนให้ 7/10 ค่ะ (แต่ถ้าคนชอบหวานอาจให้คะแนนสูงได้นะ) แนะนำว่าถ้าใครอยากไปลองดี เอ๊ย ไปกิน แนะให้สั่งกาแฟกรีกรสขมๆ มาทานแกล้มลบรสหวานด้วยนะค่ะ (ข้าน้อยไม่ได้สั่งมาดื่มด้วย เพราะช่วยกันโช้ยกันเกือบหมดจานแย้ว)



ของหวานชิ้นสุดท้ายคือ โยเกิร์ตกรีก (160 บาท) ซึ่งจะใส่ผลไม้ตามฤดูกาล คราวนี้เป็นมะม่วงค่ะ เราสั่งมาถ้วยเดียว แล้วมารุมยำกินด้วยกัน โยเกิร์ตนี่ทำจากนมควายค่ะ



ไส้ตรงก้นถ้วยนั้นเป็นมะม่วงปั่น แต่กว่าจะตักผ่านโยเกิร์ตชั้นบน เล่นเอาต้องกินโยเกิร์ตให้หมดหลายอึกเลยทีเดียว



ถ้วยนี้ให้คะแนน 9/10 ค่ะ



มื้อนี้หมดไป 1,690 บาท (หรือเปล่า? จำไม่ได้) แต่เจ๊นกช่วยเป็นสปอนเซอร์ให้ ต้องขอขอบคุณมากค่ะ เจ๊นก ข้าน้อยก็มีของฝากเป็นกางเกงสดอจากเชียงใหม่ฝากสามเจ๊ด้วย



เมื่อลงบันไดเตรียมออกจากร้านลงไปชั้นล่าง เราก็ได้เจอเจ้าของร้านพอดีค่ะ ชื่อคุณ ฟอตินี่ เป็นหญิงชาวกรีกโดยแท้เลย เธอเป็นคนอารมณ์ดีค่ะ เจ๊นกก็ทักทายอย่างเป็นกันเอง ไม่แปลกเลยว่าทั้งเจ้าของร้านและพนักงานต่างอารมณ์ดีและให้บริการลูกค้าดีมาก แถมยังแจกนามบัตรและโปรชัวร์กลับบ้านไปด้วย



ให้คะแนนร้านนี้ 10/10 เลยค่ะ เพื่อนๆ คนไหนอยากไปลองทานอาหารกรีกดั้งเดิม ดูข้อมูลได้จากลิงค์นี่นะค่ะ

//writer.dek-d.com/Anemone2526/story/viewlongc.php?id=235961&chapter=16







บรรยากาศสีลมยามขากลับ คึกคักมากยิ่งนัก





เมื่อออกมานอกซอย 4 เราก็เจอกับร้านแผงลอยขายเสื้อผ้าในโครงการช่วยชาติ เป็นเสื้อยืดสีดำที่นำมาสกรีนโลโก้ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดค่ะ แหม เจอของโปรดข้าน้อยเลย



ที่นี่มีเสื้อโลโก้หนังเกือบทุกเรื่อง มีไซต์ให้เลือกมากมาย แต่ก็ไม่ครบทั้งหมด ข้าน้อยเลือกของ 300 กับ Phantom ไป แต่คนขายบอกว่าให้เลือกอีกตัว เพราะซื้อ 3 ตัว 500 บาท (ถ้าซื้อเดี่ยวตัวละ 199 บาท) เลยให้บีทูเลือก ทรานฟอเมอร์ไปอีกตัว



เจ้าของร้านเป็นคนอารมณ์ขันมากค่ะ เจอหน้าลูกค้าอย่างกะเคยเจอกันมาหลายร้อยชาติงั้นล่ะ ไม่แปลกว่าจะขายดีเพราะวาทศิลป์ของเขา



ถ้าใครได้แวะแผงนี้ แนะนำสำหรับคนไทยตัวใหญ่ไม่มากอย่างข้าน้อย เลือกไซต์ L ก็พอนะค่ะ เพราะ XL นั้นเป็นไซต์ฝรั่งใหญ่โครต แบบคลุมขาข้าน้อยนอนได้เลย



ให้คะแนนร้านนี้ 10/10 ค่ะ



ตอนแรกว่าจะเดินดูถนนคนเดินสีลม(ใหญ่กว่าถนนคนเดินเชียงใหม่ 3 เท่า) แต่ 3 ทุ่ม กาดก็วาย(เลิก) แล้ว ข้าน้อยก็คิดว่ารีบกลับโรงแรม เดี๋ยวป๋าเป็นห่วง โดยจะกลับไปทาง BTS ศาลาแดง ไปลงอารีย์ ต่อแท็กซี่แบบที่มาขามาค่ะ



ตอนที่มากรุงเทพฯ คราวก่อน ให้เจ๊นกนั่งแท็กซี่กลับเป็นเพื่อนด้วย แต่คราวนี้ต้องลองกลับเองบ้าง จะได้ไม่รบกวนคนอื่น เพราะบ้านเจ๊นกอยู่คนละโยชน์กับอารีย์เลย...เจ๊นกแนะนำว่า ถ้าขึ้นแท็กซี่แล้ว ให้โทรหาพ่อบอกว่ากำลังกลับ และส่งข้อความทะเบียนรถแท็กซี่กลับไปที่เจ๊นกด้วย เพราะนี่เป็นวิธีป้องกันภัยโจรแท็กซี่ ซึ่งมีสติกเกอร์ติดที่ประตูด้านผู้โดยสารด้วย



ข้าน้อยก็ทำตามที่เจ๊นกว่าค่ะ ขึ้นแท็กซี่ไปก็มองหน้าพิจารณาแท็กซี่...ดูก็เป็นคนดี แต่ไว้ใจไม่ค่อยได้แฮะแล้วก็ทำอย่างที่เจ๊ยกว่าทุกอย่างค่ะ จนกระทั่งกลับถึงโรงแรมโดยปลอดภัย




Create Date : 17 มกราคม 2554
Last Update : 8 กรกฎาคม 2555 6:22:11 น.
Counter : 3139 Pageviews.

4 comments
  
มาเจิม blog ให้ คริๆ
โดย: NoxNoctis IP: 58.8.219.199 วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:15:57:39 น.
  
วาย เจ๊นกเจอจนได้
โดย: Anemone2526 วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:16:02:44 น.
  
โอ้..น่ากินค่ะ น่าจะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่

เพิ่งรู้ว่าสีฟ้าเป็นสีประจำชาติกรีก

อ่านแล้วได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเยอะเหมือนกันนะคะนี่
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:19:10:27 น.
  
ใบองุ่นห่อเนื้อแกะและข้าว ไม่เคยทานแบบกรีกคะ แต่หน้าตาคล้ายของตุรกีมากเลย อร่อยดีคะ น่าทานดีจัง
โดย: We Are FroM BeLGiUM วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:0:23:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวเหนือเซาะกิ๋น
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวย ถึก และบึกบึน