Group Blog
 
All Blogs
 
Little Forest : Slow life / City life / ชนบท / เมืองใหญ่...คนละด้าน หรือ คนละโลก?


ชนบท : สังคมเล็กๆ ที่ประกอบด้วยประชากรจำนวนไม่มาก โดยมากประกอบอาชีพเกษตกรรม มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมมีผลต่อวิถีชีวิตและการดำเนินชีวิต...

เมือง  :  สังคมขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วยประชากรจำนวนมาก โดยมากประกอบอาชีพการค้าพาณิชยกรรม ไม่ต้องพึ่งพาธรรมชาติมากนักเพราะสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมามีอิทธิพลกับชีวิตมากกว่า...



"ชีวิตในเมืองมันหมุนเร็วเกินไปรึเปล่า?"
"เราอยู่ห่างไกลจากธรรมชาติเกินไปไหม?"
"จะเป็นยังไง ถ้าเราลองใช้ชีวิตให้ช้าลง และอยู่กับธรรมชาติให้มากขึ้น?"

"Little Forest" ช่างเป็นหนังที่เหมาะกับช่วงนี้เสียเหลือเกิน ช่วงที่ชีวิตเนิบช้าแบบ "Slow life" กำลังเป็นที่กล่าวถึงในสังคมไทย 



"Little Forest" เป็นเรื่องราวของ อิจิโกะ สาวน้อยผู้เคยเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ แต่ตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดของเธอซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ อันห่างไกลในเขตโทโฮขุ ห่างไกลขนาดไหน? ขนาดที่ว่าถ้าจะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ถึงกับต้องขี่จักรยานลงเขานานกว่าครึ่งชั่วโมง และถ้าจะไปซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้ที่สุดก็ถึงกับต้องขับรถไปยังเมืองข้างๆ เลยทีเดียว ประชากรส่วนใหญ่ล้วนเป็นเกษตรกร เธอเองก็เช่นกัน...



หนังแบ่งออกเป็น 2 ภาค ภาคแรก Summer & Winter (2014) ฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ร่วง ส่วนภาคสอง Winter & Spring (2015) ฤดูหนาวกับฤดูใบไม้ผลิ โดยเล่าถึงชีวิตประจำวันของอิจิโกะในแต่ละฤดูผ่านเมนูอาหารของเธอแต่ละจาน 

แม้ว่าภาพในหนังจะดูฟุ้งฟริ้งหวานไหว และอาหารแต่ละจานจะน่ากินแบบสุดๆ แต่ดูๆ ไปแล้วกลับไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตในชนบทสบายกว่าชีวิตมนุษย์เงินเดือนในเมืองเลย...



...ในเมือง เราต้องเร่งรีบตื่นเช้า ฝ่าฝันการจราจรที่แออัดเพื่อไปทำงานให้ทันเวลา 
ในชนบท ที่ทำงาน คือ แปลงผักข้างบ้าน แต่ก็ใช่ว่าจะตื่นสายได้ เพราะต้องอาศัยแสงอาทิตย์ในการทำงาน...

...ในเมือง เรานั่งอยู่กับที่ พิมพ์เอกสารงานแล้วงานเล่าจนปวดหลังไปหมด 
ในชนบท ก็ต้องก้มๆ เงยๆ เตรียมดิน ปลูกผัก ถอนวัชพืชแปลงแล้วแปลงเล่าจนปวดหลังเช่นกัน...

...ในเมือง เวลาพัก มีแค่ 1 ชั่วโมงตอนเที่ยง
ในชนบท อยากพักตอนไหนก็ได้...

...ในเมือง เราต้องเร่งรีบกินอาหารจานด่วนจากร้านค้าซ้ำๆ ซากๆ 
ในชนบท เราได้กินอาหาร  Homemade ปรุงเองสดๆ จากไร่ทุกวัน...

...ในเมือง ซื้อผัก ซื้อเนื้ออาจได้สารเคมี ยาฆ่าแมลงเป็นของแถม
ในชนบท เราปลูก เลี้ยงเอง ปลอดสารพิษ...

...ในเมือง อยากกินผักปลอดสารพิษต้องจ่ายแพงขึ้นหลายเท่า
ในชนบท อยากกินผักปลอดสารพิษ แค่เดินไปเด็ดมาจากแปลงปลูกข้างบ้าน...



...ในเมือง อยากกินมะเขือเทศก็ไปซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ใช้เวลา 10 นาที
ในชนบท อยากกินมะเขือเทศ ต้องเตรียมแปลงปลูกตั้งแต่ฤดูหนาว กว่าจะได้กินก็ฤดูร้อน ใช้เวลา 6 เดือน...

...ในเมือง อยากกินเนื้อก็ไปซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ต ใช้เวลา 10 นาที
ในชนบท อยากกินเนื้อ ต้องเลี้ยงสัตว์ ล้มสัตว์ แล่เนื้อสัตว์เอง ใช้เวลาเป็นปี...

...ในเมือง เราทำงาน ปลายเดือนก็ได้เงินใช้ เอาไปซื้อของที่อยากได้
ในชนบท ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องลงมือลงแรงสร้าง หรือ ทำขึ้นมาเอง

...ในเมือง เราเข้าออฟฟิส ทำงานซ้ำๆ ซากๆ เดือนแล้วเดือนเล่า 
ในชนบท ก็ต้องลงแปลงผัก ปลูกผักซ้ำๆซากๆ ฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่าเหมือนกัน...



...มันเหมือนเป็นอีกด้านนึง...เป็นคู่ตรงข้ามของกันและกันมากกว่า หนังไม่ได้พยายามจะเคลือบน้ำตาลให้ชีวิตชนบทดูสวยงามจนไม่สมจริง แต่กำลังจะบอกว่านอกจากชีวิตในเมืองใหญ่ มันยังมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งอยู่นะ ซึ่งชีวิตแบบชนบทนั้นก็มีด้านดีๆ ที่ชีวิตในเมืองไม่มี ในขณะเดียวกันก็มีความลำบากแบบที่จะไม่มีในชีวิตเมืองเช่นกัน..



หลังจากดูจบ ลองหันไปคุยกับเพื่อนว่า 
"ที่ชนบทญี่ปุ่นในหนังเรื่องนี้ดูน่าอยู่ไม่แพ้สังคมเมือง เพราะนางเอกน่ารัก บวกกับการถ่ายภาพสีฟุ้งๆ รึเปล่า?" 
"ถ้าลองเปลี่ยนตัวนางเอกเป็นลุงแก่ๆ มาทำกับข้าวให้ดูล่ะ...มันก็ยังดูสวยๆ ฟุ้งๆ อยู่ดีนั่นแหละ" 
"แล้วถ้าเป็นหนังไทยบ้างล่ะ จะนำเสนอภาพชนบทไทยจะออกมาเป็นแบบไหน?"....



...ในหนังไทย ถ้าไม่เป็นภาพชนบทแบบที่เคลือบน้ำตาลซะสวยสด นำเสนอชีวิตช้าๆ ไทยๆ โดยจงใจละเลยการนำเสนอด้านที่ไม่โสภา เช่น สภาพของสถานพยาบาล หรือสถานศึกษาในชนบทซึ่งขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือ และองค์ความรู้ที่ครับครัน...ไม่ก็คงเป็นภาพผู้เฒ่าผู้แก่ที่อัตคัดขัดสน มีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากเต็มทน แล้วภาพก็คงตัดไปที่ผืนนาแห้งแตกระแหงเสียมากกว่า... 



ที่น่าสนใจ คือ ชีวิตชนบทของญี่ปุ่นดูจะไม่ได้แปลกแยกจากชีวิตเมืองมากนักในแง่ของความเท่าเทียมในการเข้าถึงองค์ความรู้ บริการสาธารณะ และความสามารถในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ 



แม้นางเอกจะอาศัยอยู่ในชนบทที่ห่างไกล แต่ก็สามารถนำสูตรอาหารต่างประเทศมาประยุกต์เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นเพื่อทำอาหารหน้าตาน่าทานได้  รู้จักวิธีถนอมอาหารโดยการทำแยม สามารถทำพาสต้า อบขนมปังมันฝรั่งและเรียกมันในภาษาฝรั่งเศสได้ เพื่อนนางเอกก็สามารถหาซื้อเครื่องแกงกะหรี่อินเดียยี่ห้อดังได้ คุณลุงคุณป้าก็สามารถหาซื้อไวน์มาลองต้มกับเกาลัดป่าจนเป็นที่นินมไปทั่วหมู่บ้านได้ รวมถึงฉลองเทศกาลต่างชาติอย่างคริสต์มาสร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างเป็นปกติธรรมดา 

ส่วนในชนบทไทย...คงยากที่จะมีภาพผู้เฒ่าผู้แก่ไปหาซื้อไวน์มาลองดองผลตะขบจากต้นหลังบ้าน คงยากจะมีภาพสาวน้อยมาลองทำพาสต้าปลาหลดทอด หรือภาพเพื่อนบ้านอบพายส้มโอเมอร์แรงมาฝาก และเรียกมันในภาษาฝรั่งเศส



ดูเหมือนว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาซื้อไวน์ หรือเส้นพาสต้าจากร้านค้าในชนบท แต่ถึงมีขาย ชาวชนบทก็อาจรู้สึกไม่คุ้นเคยที่จะบริโภคอาหารเหล่านั้น ทำไม? ทำไมมันถึงดูแปลกๆ ถ้าชาวชนบทจะลองประยุกต์การปรุงอาหารสไตล์ตะวันตกกับวัตถุดิบท้องถิ่นบ้าง? เพราะความสามารถในการเข้าถึงองค์ความรู้ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ระหว่างชาวเมืองกับชาวชนบทแตกต่างกันมาก จนราวกับอยู่กันคนละโลก...รึเปล่า?



ลองดูภาพของโรงเรียนในชนบทไทย "โรงเรียน" ซึ่งสมควรจะเป็นบริการสาธารณะ ที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน เป็นที่ๆ เด็กๆ อนาคตของชาติ สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ รวมทั้งได้เรียนรู้เกี่ยวกับตนเอง และโลกกว้าง...สมมุติว่าเด็กชนบทคนหนึ่งฝันอยากเป็นนักกีฬา เขามีโอกาสเข้าถึงความฝันนั้นได้มากแค่ไหน? มีครูสอน มีสนามกีฬาหรืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยให้ฝึกซ้อมมากเพียงใด? เทียบกับโรงเรียนในเมือง หรือโรงเรียนในชนบทของญี่ปุ่น... 







นี่อาจเป็นอะไรที่จะต้องแลก หากตัดสินใจไปใช้ชีวิต Slow life ในชนบทไทย...
.
..
...
.... ถ้าชีวิตในเมืองหมุนเร็วเกินไป?
แล้วชีวิตในชนบทของเราล่ะ หมุนช้าเกินไปรึเปล่า? 



ตัวอย่างหนังภาค Summer / Autumn



ตัวอย่างหนังภาค Winter / Spring



ข้อมูลอ้างอิง / ภาพประกอบ

//www.theguardian.com/world/2015/may/11/japan-rural-schools-dwindling-students
//www.dek-d.com/education/37139/
//teched.rmutp.ac.th/new/2013/02
//mcpswis.mcp.ac.th/html_edu/cgi-bin/mcp/main_php/print_informed.php?id_count_inform=9558



Create Date : 10 กรกฎาคม 2558
Last Update : 10 กรกฎาคม 2558 15:53:00 น. 0 comments
Counter : 1861 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระหว่างบรรทัด
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ระหว่างบรรทัด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.