IG@litaparis

ต่อจากคราวที่แล้วเลยนะคะ ที่ว่าเรามาถึงโดฮาแล้วก็จะมีเวลาหยุดว่าง1วันเต็ม เพื่อปรับตัว เพื่อทำใจ เพื่ออะไรๆก็แล้วแต่ แนะนำว่า ขาดเหลืออะไรหลังจากที่แกะกระเป๋าแล้ว ให้จดๆไว้ค่ะ ไม่มีแรงไปซื้อวันนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงก็ยังกินบุญเก่าจากสังฆทานที่ได้มาได้อยู่ กระเป๋าหลายใบ ของเยอะ ก็ค่อยๆจัดไปก่อน จัดให้เรียบร้อย แกะกระเป๋าให้หมดทุกใบวันแรกที่หยุดว่างได้เป็นดีค่ะ เพราะวันถัดไปเราต้องเริ่มเทรนแล้ว 3วันแรกจะได้เทรนเช้าหมดค่ะ จะออกไปไหนก็รีบกลับมาหน่อยนะคะ วันแรกยังไม่ต้องซื้อของก็ได้ค่ะ ค่อยไปซื้อหลังจากเลิกเรียนวันแรกวันที่สองก็ได้ เพราะจะเทรนแค่ช่วงเช้าถึงบ่ายสอง หลังจากนั้นก็ว่าง ค่อยไปvillagio, city center ,land mark ซักวันที่สามที่สี่ก็พอไหวค่ะ แต่ที่น้องๆจะต้องการสุดคือปลั้กพ่วงค่ะ เพราะต้องชาร์จนั่นนี่


ปลั้กเป็นสามขาแบบนี้ค่ะ มาซื้อปลั้กพ่วงแบบนี้ที่นี่ก็ได้ จะเสียบแบบของบ้านเราได้หมดค่ะ หัวแบน หัวกลม เสียบปลั้กพ่วงแบบนี้ สะดวกค่ะ ไม่ต้องซื้อadapterต่อให้ของเราเป็นสามขาหรอกค่ะ ใช้ปลั้กพ่วงเอา ต้องใช้สองสามอัน ชาร์จคอม มือถือ ไฟหัวเตียง ไดร์เป่าผม อะไรพวกนี้ หาซื้อได้ตามห้างทั่วไปค่ะ

สามวันแรกรถจะมารับประมาณ7-8โมง ให้ลงมาให้ตรงเวลาเป้ะ หรือก่อนเวลาซัก5นาทีค่ะ ล่างตึก ตรงที่ยามนั่งจะมีตารางบอกเวลารถมารับ เรียกว่า Pick up time ค่ะ ก็ตะมีชื่อเรา มีเวลาที่มารับ และเวลาที่ควรถึงที่ตึก เวลา report ซึ่งถ้าเราบินแล้ว เค้าก็จะมี หมายเลขไฟลท์ รหัสประจำตัว ชื่อเรา เวลารถมารับ เวลาที่ไปถึง และเวลาreportสำหรับไฟลท์นั้นๆค่ะ ต้องตางเวลาสุดๆนะคะ เพราะรถจะมาตรงเวลาเป้ะตามนาทีเลยค่ะ ถ้าลงมาช้า ก็พลาดเลยค่ะ หารถแท้กซี่ไปเองยากค่ะ สามวันแรกจะเป็นเรื่องง่ายๆ ไร้สาระ ดราม่ากันไป เรื่องการทำงานเป็นทีม ประวัติบริษัท จับกลุ่มกันให้เล่าความหลัง เหมือนกรุ้ปเลิกเหล้าในหนังฝรั่งอ่ะค่ะหนู ที่นั่งเป็นวงกลมเล่าเรื่อง ร้องไห้กันนั่นแหละ อารมณ์ประมานนั้นค่ะ ก็ได้ทำแบบฝึกหัดจิตวิทยาติ่งๆ ทำไปค่ะ อย่าไปเครียดกับมัน เข้าเรียนนั่งฟังชิวๆ อย่าไปคิดมากตามเค้า พูดจริงๆ เพราะมันไม่ได้มีอะไรมากมาย ice breaking มากกว่าค่ะ ดีที่ว่าสามวันแรกเรียนเช้าแบบนี้ น้องจะมีเวลาไปแรดทั้งบ่ายเลยค่ะ วันแรกๆ เค้าจะให้ส่งพาสปอร์ตเพื่อทำบัตรต่างด้าว เอ้ย ไม่ใช่ แต่คล้ายกันแหละค่ะ คือทางบริษัทก็จะเอาพาสปอร์ตส่งให้ทางราชการเพื่อทำ Residence Permit (RP)ให้เรา (จะมาในรุปแบบของสติ้กเกอร์ในพาสปอร์ต และบัตรIDค่ะ )เพื่อเราเข้าออกจะได้ไม่ต้องขอวีซ่าอยู่นั่นเอง แต่ๆๆๆๆ ออกนอกประเทศต้องทำexit permit ล่วงหน้านะคะ ไม่ใช่อยากออกก็ออก เมื่อก่อนทำที่บริษัทเท่านั้นค่ะ เสียเวลาไปๆมาๆมาก กว่าจะได้กลับบ้านหรืออกนอกประเทศ เดี๋ยวนี้เก๋ ขอในระบบserviceของลูกเรือผ่านเน็ตได้เลย และ เก๋กว่า คือ มีบัตร E-gate ซึ่งเป็นบัตรที่เอาไว้ใช้เข้าออก โดยไม่ต้องผ่าน ต.ม ที่โดฮา มีล้อกข้างๆ ต.ม ให้รูดบัตร สแกนนิ้ว ผ่านเลย ไม่ต้องต่อคิว แต่ของเจ้เก๋กว่า เพราะมีsmart card คือ บัตร qatari ID(RP) อันเดียวกับ E-Gate อ่านผ่านชิป ไม่ต้องพกสองใบ อันนี้เป็นรุ่นใหม่ ลูกเรือน่าจะได้เปลี่ยนเป็นsmart cardหมด เร็วๆนี้ แต่ยังไง เข้าออกก้อต้องทำเรื่องexit permitก่อนอยู่ดี ถ้าผ่าน เค้าจะส่งเมลล์มาให้ค่ะ ว่าโอเค หรือไม่ก้อให้ไปติดต่อที่บริษัทถ้ามันมีอะไรขัดข้อง ของนักบินเค้าจ่ายmulti exit กันค่ะ เพื่อจะได้ไม่ต้องขอทุกครั้งที่ออกนอกประเทศ แต่คนทำงานบริษัทที่กาตาร์หลายๆๆๆๆบริษัท จะออกนอกประเทศต้องขอexit permitจากบริษัทเค้าแทบทั้งนั้นค่ะ นอกจากระดับสูง ๆ อย่างของเรานักบินก้อไม่ต้องขอ คนไม่ทำงานอย่างพี่ก็ไม่ต้องขอ เพราะคนรับรองเราหรือ sponcer คือสามี นอกจากสามีไปบอกทางการว่า ห้ามนางเมียออกนอกประเทศโดยสามีไม่อนุญาติ พี่ก้อห้ามออกนะเออ !!! ถ้าเป็นอย่างนั้นคงได้สับกบาลกันเล็กๆ--"
เอ้า เข้าเรื่องเทรนต่อ ตอนแรกๆจะแอบเซี่ยมน้องว่า เนื่องจากบริษัทจะเอาพาสปอร์ตเราไปในวันที่เราไปเทรนแรก ๆ ให้น้องเอาพาสปอร์ตไปสมัคร member ที่ผับให้ครบก่อน ในคืนที่มาถึง แต่ตอนนี้กฎเปลี่ยนค่าาาาา ต่อให้น้องมีเมมเบอร์ น้องก้อเที่ยวไม่ได้ เพราะกฎรุ่นหลังคือ ในช่วงเทรน2เดือน ถ้ายังไม่ได้บินให้กลับบ้าน4ทุ่ม กรี้ดดดดดดดดดด แม้แต่วันหยุดนะยะ!!! มะก่อน จะไปไหนก็ไป กลับตีสามครึ่งเหมือนลูกเรือปกติค่า ไม่มีกล้อง ไม่มีรูดบัตรเข้าตึก เดี๋ยวครบ คุกอัซคาบันเลยค่า!!! หลังจากที่เทรนดราม่าไปสามวันแรก เค้าจะบอกในวันที่สามค่ะ ว่าน้องจะได้เรียนเช้าหรือบ่าย ถ้าเช้า จะเริ่ม 7-8โมง ถึงบ่ายสอง ส่วนใครได้เรียนช่วงบ่ายก็จะเริ่มบ่ายสองถึงสามทุ่ม เอ้า แล้วถ้าต้องกลับหอสี่ทุ่มอ่ะ หนูจะเอาเวลาไหนไปข้างนอก ?! หมดสิทธิ์ค่ะ คนเรียนบ่าย ไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวัน แค่ตื่นมาและไปเรียน จบ วงจรชีวิตสั้นดั่งยุงลายค่ะ แต่คนเรียนเช้า อาจจะทรมานตื่นเช้าหน่อย แต่ได้เที่ยวเล่น ซื้อของ ผ่อนคลาย หลังเรียน แล้วกลับบ้านมาอ่านทวนเล็กน้อยตอนสามทุ่มก็ได้ค่ะ (อย่าลืม ต้องกลับ4ทุ่มนะฮ้ะว์)

กับเพื่อนเซเลบ ตาว @cafe tasseเจ้าประจำ

ร้านอาหารอียิปต์ อร่อยจริงจัง ลูกเรือลด10% เพิ่งรู้! @souq

IG@litaparis

เด็กมาใหม่ เข้าใจว่า Souq คือตลาด ค่ะ คำแปลของซูค ภาษาอราบิคคือตลาด แต่จริงๆแล้วมันคือตลาดเก่า ซึ่งผันมาเป็นบาซาร์นั่งชิชา คาเฟ่ ร้านอาหารค่ะ มีของขายเยอะนะคะ ของแม่สาย จีนแดง อยู่ในตรอก แต่ไม่แนะนำให้น้องไปเดินมั่วซั่วในซอยๆนั้น ดูดีก็จริง ของเยอะ แต่ร้านรวงมันแคบและสายตาอินเดียที่จับจ้องมา มันอึดอัดค่ะ จริงๆ น้องซื้อของพวกนี้ตามคาฟูร์เถิดค่ะ อย่าไปหาซื้ออะไรที่ซูคคนเดียว นอกจากมีเจ้าถิ่นพาไป ใครมาโดฮาก็ติดต่อพี่มาก่อน เดี๋ยวพี่พาไป จะดีกว่าค่ะ เพราะร้านอาหาร หรือ ร้านขายของ พี่แนะนำให้ได้ อาหารอราบิค หรือข้อพึงกระทำ การวางนัวที่นี่ ต้องไม่แสดงตัวให้เค้ารุมากค่ะ ว่าเราใหม่กับที่นี่ จะสั่งอาหาร จะกิน ดื่ม ร้านไหน มีคนคอยแนะนำจะดีกว่าค่ะ ถ้าไปหลายๆคนก็ค่อยยังชั่ว แต่ถ้ามาสองสามคน อย่าสุ่มไปเรื่อย จะผิดหวังค่ะ เพราะแต่ละร้านที่ซูค มันคนละthemeกัน อย่างน้องไปร้านโมรอคกัน แต่ตัวเองไม่เคยกินอาหารอราบิค แล้วดูหน้าร้านก็ดูไม่ออกงี้ น้องจะลุกออกแทบไม่ทันค่ะ หรือบังเอิญไปนั่งร้านที่เป็นคาเฟ่ แต่อยากกินข้าวงี้ น้องก็ลุกแทบไม่ทันเหมือนกันค่ะ ดูจากหน้าร้านไม่รุเลยจริงๆ ว่าเข้าไปจะเจออะไรบ้าง

เล่าเรื่องซูคมาเยอะละ กลับมาต่อเรื่องเทรนค่ะ เดือนแรกจะได้เทรนเรื่องการบริการ Service ค่ะ แน่นอนว่าเป็นชั้น Economy หรือ EY นั่นเองค่ะ ว่าอะไรเป็นอะไร อุปกรณ์ การแบ่งหน้าที่ การจัดคาร์ท ขั้นตอนการบริการ รูปแบบต่างๆ อาหารเช้ายังไง อาหารกลางวันยังไง เย็นยังไง ได้เรียนภาษาอราบิคเล็กน้อย น้อยมากกกก แทบไม่ได้ความอะไรมาก เพราะเอาตามตรงค่ะ ภาษาอราบิคที่เค้าสอน มันเป็นแบบเป็นทางการจัด จนเจ้าของภาษาที่พูดอราบิคฟังไม่รุเรื่อง น้องก็ท่องไว้สอบก็พอค่ะ แต่พูดจริง ใช้จริงได้แค่ไม่กี่คำ เพราะภาษาอราบิคแบ่งเป็นหลายอราบิค มีทั้งอราบิคแถบGulf คืออ่าวทะเลอาหรับ กาตาร์ อิมิเรต คูเวต ซาอุ อะไรพวกนี้ มี ฟาร์ซี มีอียิปต์ มีอะไรต่อมิอะไร ที่น่างกัน ตามที่เราเรียนคนฟังมักไม่รุเรื่องเพราะเราไม่ได้เรียนจากเจ้าของภาษา การออกเสียงจะไม่ได้ เช่นคำว่าไก่ เนื้อ ตามภาษาอังกฤษที่เค้าเขียนมันเขียนว่า Dajaj, Laham แต่พอน้องออกเสียงตามตัวสะกดแล้ว เค้าไม่รุเรื่องหรอกค่ะ มีแต่ครูที่สอนเราเค้าให้พูดแบบนั้น เพราะเค้ารุเรื่องเอง เพราะเค้าไม่ได้เป็นเจ้าของภาษา แต่จริงๆแล้วมันออกเสียงยากกว่าที่เขียนค่ะ บางตัวหลบใน บางตัวออกครึ่งเสียง อันนี้ต้องอาศัยประสบการ์ณค่ะ:) เคยมีลูกเรือเด็กใหม่ เรียนมา แต่พอผู้โดยถามพูดไม่รุเรื่องแต่ทำเป็นเหมือนรุเรื่อง ออกเสียงตามที่เรียน แต่ผู้โดยโวยวาย พี่ต้องไปพูดแทน แค่ว่าไก่หรือเนื้อ ชา กาแฟ นม น้ำตาล แต่น้องเค้าออกเสียงตามภาษาอังกฤษ เลยฟังกันไม่รุเรื่อง พี่ต้องไปพูดแทน คำเดียวกัน แต่เค้าเข้าใจพี่ แล้วบอกว่า พี่พูดรู้เรื่อง เด็กนั่นพูดไม่รุเรื่อง ดังนั้นภาษาอราบิคในห้องก้อท่องเพื่อสอบก้อพอค่ะ แต่ในชีวิตจริง ลองให้ลูกเรืออราบิคสอนออกเสียงก่อนเราเอาไปใช้เองดีกว่าค่ะ :) ด้วยความปราถนาดี
หลังจากเทรนserviceแล้ว ก็จะเป็นsafety อันนี้ต้องท่องจำค่ะ ก็จะเป็นเรื่อง general SEP วันแรก ประณมาว่าองค์กรต่างๆในAviationมีอะไรบ้างที่เกี่ยวกับสายการบินเรา ก่อตั้งทำไม เมื่อไหร่ เรื่องข้อจำกัดต่างๆก่อนและหลังลงเครื่อง เนื่องจากว่าเราทำงานที่สูง 35,000ฟุต ความกดอากาศก็จะต่างจ่กข้างล่าง ดังนั้นก็จะมีข้อจำกัดในการ ดำน้ำ การดื่มแอลกอฮอลล์ การบริจาคเลือด อะไรพวกนี้เป็นต้นค่ะ เรามีLay overที่ทะเล เราจะไปว่ายน้ำ ดำน้ำ เราต้องรู้ว่าเราดำได้กี่เมตร (พี่แพร! หนูดำทั้งบนบกและในน้ำ เออ! อันนั้นก็ใช้ซิตร้าไวท์ไปเถิดนะน้อง) เพราะถ้าดำลึกเกิน เส้นเลือดเราจะขยายจนแตกได้ หรือเรื่องการบริจาคเบือด ควรบริจาคมั้ยหลังหรือก่อนทำไฟลท์ อะไรเทือกนี้ หลังจากนั้นเราก็จะเริ่มๆด้เรียนรูเรื่องของอุปกรณ์ช่วยชีวิตบนเครื่องซึงมีเยอะแยะ จารไนไม่ถ้วน เช่น หน้ากากกันไฟ ถังออกซิเจน เครื่องดับไฟ ขวานจามผนัง(?!) เสื้อชูชีพ ร่มชูชีพ (เอ้ย ไม่ใช่ค่ะ ฮั่นแน่ สมัยก่อนเป็นเหมือนกันมั้ยคะ ที่นึกว่าใต้ที่นั่งมีร่มชูชีพไว้ให้กระโดดลงจากเครื่องอ่ะ ใครไม่คิดอย่างงั้นแต่แพรคิด ฮ่าๆๆๆ) หน้ากากออกซิเจน แล้วก็บลาๆๆๆๆๆ สารพัดค่ะ เราต้องรู้หมก แบบว่าต้องท่องตามตำราได้ ตัวต่อตัว คำต่อคำ เลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถังออกซิเจน ในตำราเค้าก็จะมีรูปมาให้ ในที่เทรนเค้าก้อจะมีของจริงมาให้ลูบคลำ สักการะ (ห้ามขูดขอหวย) เราต้องบอกได้ว่า Pre flight check ของอิอุปกรณ์เนี่ย มีอะไรบ้าง มันก็จะมีอยู่7-8 ข้อ ต้องไล่มาให้ได้หมด อยากจะบอกนะ แต่กลัวว่าใครเอาไปรีพอทว่าเอาความลับของชาติมาเผยแพร่เอาไว้น้องมานี่พี่จะสอนให้เน้อ :) แล้ววิธีการใช้ ต้องไล่เรียงมาข้อ1-5ได้อย่างถูกขั้นตอน ห้ามใช้ภาษาตัวเองด้วย ต้องตามตำราเป้ะ มโนเอาเองไม่ได้ค่ะ ตก! แล้วยังต้องรู้ด้วยว่า สามารถใช้ได้กี่นาที เข็มมันชี้ถึงเลขอะไรให้หยุดแล้วเปลี่ยนอันใหม่ เพราะอะไร แล้วบนเครื่องแต่ละเครื่องเนี่ย มันอยู่ตรงไหน เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา เราต้องรู้โดยสัญชาตดานว่าควรวิ่งไปเอามาจากไหน ไม่ใช่วิ่งสะเปะสะปะ หาไม่เจอ แล้วไปหยิบถังดับเพลิงมาแทน เพราะมันเป็นถังๆเหมือนกัน--" ผู้โดยแข็งตายพอดีค่ะ
อันนี้ก็แค่1ในล้านแปด เครื่องมือบนเครื่องนะคะ นอกนั้นก็ไปเรียนเอาเอง ฮิๆๆๆ
พอหมดเรือ่งอุปกรณ์แล้ว ทีนี้เราจะเริ่มเรียนเรื่องเครื่องบินล่ะค่ะ อันนี้ไม่ยากเท่าอุปกรณ์นะ จะว่าไปแล้ว เพราะเราไม่ได้เรียนให้ไปขับเครื่องบินได้ เค้าจะสอนแค่2-3วัน ต่อเครื่องแต่ละแบบ จะเริ่มได้เรียนเครื่องตระกูล Airbus 320 แล้ววันถัดๆมาก็จะสอนว่าแล้ว A319, A321 มันมีอะไรเพิ่ม หรือลดลงมาจาก A320 หลังจากนั้น ก็สอบค่ะสอบบบบบบ แล้วต่อมาถึงจะเป็นเครื่องwide body หรือเครื่องที่มีทางเดินสองฝั่งน่ะแหละค่ะ คือ Airbus330 ง่ายๆ ค่ะ เรื่องเครื่องบินเนี่ยเค้าจะแค่ให้รู้ว่ามีประตูกี่ประตู เวลาอพยพผู้โดยทำยังไง ต้องตะโกนว่าอะไร ไม่ใช่ help me help me! นะจ้ะ เราต้องมีสติ แล้วจำให้ได้ ว่าเราต้องทำอะไรก่อน หลัง อันนี้เรียกว่า Drillsค่ะ ต้องท่องให้ได้ เคยเขียนไว้ในบล้อกแรกๆๆๆๆตอนที่เทรนอยู่ ประมานว่า เครื่องตกลงบนน้ำเนี่ย เราต้องทำอะไร 1-2-3 ตะโกนยังไง ลูกเรือต้องลงเครื่องคนสุดท้ายนะคะ ไม่ใช่เอาตัวรอด กระโดดลงไปก่อนแล้วหันมาว่า who pushed me! (ใครผลักข่อยยย!?) ผู้โดยทั้งลำ หวังพึ่งเราอยู่นะคะ ถ้าเราไม่จัดระเบียบ หรือไม่รู้ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง เรานี่แหละค่ะ ซวย เพราะผู้โดยด้วยอารามตกใจจะผลักเราออกนอกประตูทั้งๆที่slide ยังไม่ทันพองลม อันนี้สำคัญค่ะ ในเหตุฉุกเฉิน ต้องดุ ตะคอก ตะโกน เด็ดขาด อย่ามาทำเสียงงุ้งๆงิ้งๆบอกให้เค้าใส่เสื้อชูชีพ แล้วรอ ใครมันจะรอคะคุนน้อง ต้องทำหน้าเหี้ย(ม)ๆ ตะคอกได้ตะคอก ถ้ามใครดื้อด้าน แล้วตอนเปิดประตูอย่าไปยืนขวางกลางประตู แล้วบอกให้ผู้โดยรอให้slideพองลมก่อน จะโดนถีบตกเครื่องแล้วตายหมู่เนื่องจากslideพัง ดิ่งพสุธาลงมาจากเครื่อง มันสูงนะจ้ะ จากปากประตูสู่พื้นเนี่ย หลายเมตรค่ะ (น้องจะได้ไปกระโดดslideที่ดูไบค่ะ ห้องจำลองของอิมิเรตส์) เค้าจะสอนว่า เปิดประตูแล้วควรยืนแอบตรงไหน รอ3-4วิ มันถึงจะพองเต็มที่ กระโดดได้ทีละคน อะไรก็ว่ากันไป ต้องมีสติค่ะ อย่าลน แต่ต้องเร็ว ดังนั้นก่อนเครื่องขึ้น เราถึงต้องเช็คว่าอุปกรณ์ทุกอย่างอยู่ตามสภาพดีตามที่เราท่องมามั้ย แล้วตอนนั่งก่อนTake offเนี่ย ต้องลองนึก drillไปด้วย มัน"ต้อง"นะคะ เค้าเรียกว่า silence review แปลตรงตัวเลยคือ การทบทวนแบบเงียบๆ ไม่ใช่่มางึมๆงัมๆท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง ผู้โดยที่นั่งมองอยู่จะขวัญเสีย (บางทีที่นั่งลูกเรือก็อยู่ตรงข้ามผู้โดยเลย) หรือมันนั่งคิดเงียบๆ เรื่องจะไปช้อปปิ้งที่ไหนดี เอ..แฟนจะมารับมั้ยน้า จะกินไรดีน้า อันนี้ ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมาระหว่างนั้น น้องจะเอาไม่อยู่นะคะ เพราะขวัญกระเจิง ในห้องบรีฟฟิ่ง หัวหน้าจะย้ำว่า ขอเหอะ แค่ซัก1นาที ทำsilence reviewซะหน่อย เกิดอะไรขึ้นมาตอนนั้น จะได้ตั้งตัวทัน (พูดง่ายๆคือ เตรียมตัวเตรียมใจ นั่นเอง) จากนั้นใครจะสวดภาวนา อาราธนาศีลอะไรก้อแล้วแต่เลย
หลังจากที่เทรนเรื่องsafetyเรียบร้อยแล้ว (ซึ่งความจริงมันมีเยอะกว่านั้นอีกค่ะ เล่าคร่าวๆ) น้องก็จะต้องมาเรียนเรื่องการปฐมพยาบาล ฮั่นแน่ ไม่ง่ายนะจ้ะ "ปฐม"พยาบาลในที่นี้ มันยากมว้ากกกกกก จำเยอะมาก โดยส่วนตัว พี่ว่าอันนี้ยากกว่าเรื่องที่ผ่านๆมาทั้งหมด เรียนแค่2อาทิตย์ หัวจะระเบิด เพราะมันแค่สองอาทิตย์ที่ต้องจำตำราแพทย์แผนโบราณให้ได้ครบหมด (แผนปัจจุบันนี่แหละ ล้อเล่น ไม่ได้จบมาเป็นหมอตี๋) อันนี้สาธยายสรรพคุณแทบไม่หมด เพราะเนื้อหาย่อยๆๆๆเยอะมาก ต้องรู้อาการ ดูสีหน้าคนไข้เป็น ท่องตามตำรา จำชื่อยาให้ได้หมด โรคหัวใจหน้าเป็นยังไง หัวใจเต้นยังไง จับชีพจรตรงไหน อัตราการหายใจคนปกติคือเท่าไหร่ อัตตราการเต้นของหัวใจเท่าไหร่ เด็กทารก เด็ก ผู้ใหญ่ ต่างกันอีก เอ้า เอาเข้าไป การทำ mouth to mouthที่เค้าเรียกกัน ทำยังไง (CPR) การใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจที่อยู่บนเครื่องบิน ใช้ยังไง1-2-3-4-5 โอ้ยยย ขนาดนั่งเขียนนี่ยังมึนหัวเลยค่ะ ดังนั้น ใครที่เรียนพยาบาลมา จะได้เปรียบเรื่องนี้ แต่ยังไงก็ดี ก็ต้องท่องเป็นภาษาอังกฤษ ตามตำราของสายการบินอยู่ดี ศัพท์ของแต่ละสายการบิน บางทีก็ไม่เหมือนกัน และบางที การรักษาบนเครื่องบิน กับการรักษาบนพื้นดินก็ต่างกันเล็กน้อง เพราะความกดอากาศต่างกัน เรามีเครื่องมือผ่าตัดบนเครื่องบินค่ะ จะเครื่องเล็กเครื่องใหญ่เราก็มีเครื่องช้อตหัวใจและเครื่องมือผ่าตัดหมด มีกระเป๋าสำหรับการแพทย์ทั้งหมด3ชนิด ตั้งแต่ปฐมพยาบาลยันทำคลอด ลองมาเรียน จะรู้ว่า เอิ่มมมม เป็นแอร์เมิงต้องทำอะไรขนาดนี้เลยเรอะ ก็นั่นแหละค่ะ ทำไมเงินเดือนถึงเยอะกว่าอาชีพอื่น ดูสวยๆอย่างเดียว แต่ความจริงมันมีเบื้องหลังค่ะ ห้องน้ำก็ต้องทำความสะอาด อาหารก็ต้องหาให้พร้อม หน้าตาต้องดูดีตลอด เป็นได้ทั้งรักษาความปลอดภัย พี่เลี้ยง พยาบาล แม่ครัว นางฟ้ายันซาตาน (ยามจำเป็น) ที่สำคัญ ต้องทำได้หมดในทุกไฟลท์โดยไม่เหน็ดเหนื่อย หรือแสดงออกมาว่า "กุเหนื่อย" เอ้า ก้องานเรานี่คะ ถูกมั้ย ^^
เอาล่ะค่ะ แค่นี้ก็คงเริ่มขวัญเสียกันพอหอมปากหอมคอแล้ว พี่แพรขู่ เอ้ย บอกต่อ แค่นี้ก่อนละกันนะจ้ะ เดี๋ยวไปตอบคำถามในเพจแล้วก็จะลองเขียนแนะนำคำตอบของVDO interviewอีกเซ็ทนึงก่อน ใครถามอะไรพี่มา ใจเย็นๆหน่อยเน้อ พี่พยายามตอบภายใน3วันทำการ ^^ (ทำการ คือ เวลาอารมณ์ดี ถ้าอารมณ์เหวี่ยงเดี๋ยวธาตุแท้ออก) เรื่องสวัสดิการ พี่ไปเขียนในเพจเอาละกันเนอะ เพราะมีไม่มาก 555555 อ้ะล้อเล่น (ไม่มากจริงๆ เอาจริงๆนะ แค่ตั๋วถูกที่ใช้การไม่ค่อยจะได้ --")

มีอะไรถามมาที่ //www.facebook.com/ComeFlyWithMeByLaila นะจ้ะ ถ้าถามมาในเฟสส่วนตัวพี่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เพราะมันตอนนี้ข้อความล้นสุมหัว T-T กลัวตอบไม่ทันการ

ปล, ใครที่ถามอะไรในคอมเม้นท์ของบล้อก แพรจะตอบตามบล้อกนั้นๆเลยนะ ย้อนอ่านได้ค่า ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆที่ติดตามกันนะคะ ซึ้งใจจริงๆค่ะ จากใจจริง

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2556 19:24:20 น.		11 comments
Counter : 3519 Pageviews.
Share Tweet