Firenze 2019 Part1: เดินทางด้วย premium economy Lufthansa+Uffizi Gallery
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาเป็นเดือนเพื่อเตรียมงาน 3 talk ใน2สัปดาห์ ตอนนี้ได้เวลาปิดจ๊อบกับงานสุดท้ายที่Florence และถือโอกาสเที่ยวต่อฉลองเลย tripนี้แทบไม่มีเวลาเตรียมตัว เพราะต้อง เตรียมงานเป็นหลัก แต่ก็ถือว่าเก็บได้ครบพอควรFly with Lufthansa (premium economy) ตอนcheck-in รอบนี้เสียเวลามาก เพราะไปเจอ trainee ซึ่งหน้าเครียดตลอดเวลา คอยถามพี่เป็นระยะ แถมมีบางตอนพี่หนีไปcounterอื่น ตอนทำกระเป๋าให้น้อง มีการฉีก badgeแล้วรื้อทำใหม่ด้วยแบบลุ้นมากว่ากระเป๋าจะไปถึงมั้ยนี่เพิ่งได้ลองpremium economy ของLufthansa ครั้งแรก ราคาเพิ่มไปหมื่นกว่าบาท สิ่งที่ได้เพิ่มคือที่นั่งใหญ่ขึ้นและเอนได้มากขึ้น ส่วนอื่นๆเล็กน้อยเช่นเสิร์ฟน้ำตอนขึ้นเครื่อง น้ำขวดแถม กับเมนูอาหาร อันนี้ถือว่าเล็กน้อย อย่างอื่นเหมือนeconomy ทุกอย่าง ไม่มีpriority check-in, เข้าเกท หรือlounge แต่นับว่าที่ที่เพิ่มขึ้นมาก็มีส่วนให้นอนได้สบายขึ้นกว่า eco แน่นอน ซึ่งสำหรับเราถือว่าคุ้มมาก สำหรับlounge โชคดีรอบนี้มีบัตรpriority pass เลยได้ไปนั่งที่Miracle lounge อาหารใช้ได้ กินเกี๊ยวกุ้งร้อนตอนดึก สบายท้องดีขึ้นเครื่อง23.00น. บนเครื่องจะมีกระเป๋าAmenity kit ให้ เครื่องขึ้นซักพักก็เสิร์ฟอาหารเลย ตอนแรกว่าจะไม่กิน กะว่ากินแต่ขนม แต่มันเสิร์ฟเป็นsetเลยกินข้าวไปด้วยเลยแหะๆ เป็นข้าวหน้าไก่เผ็ดนิดหน่อย ส่วนขนมเป็นapple strudelอร่อยดี นับว่าportionไม่ใหญ่มาก เลยไม่จุกกินเสร็จทำงานนิดหน่อยก็นอน เอาหมอนรองคอมาด้วย เลยพอไหว นอนหลับแต่ไม่ค่อยสบายเพราะเมื่อย ตื่นมาอีกทีก็เสิร์ฟอาหารเช้าแล้วเป็น scramble egg กับไส้กรอกไก่ อร่อยดีจากนั้นมาต่อเครื่องที่ Frankfurt เพิ่งรู้ว่าที่นี่ตรวจละเอียดมากกกก แต่ดีที่มีเครื่องscanหลายอัน ไม่งั้นคนคงตกเครื่องเพียบ เราเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชม. ก่อนจะboarding flightต่อไป เลยไม่ได้ไปนั่งlounge เครื่องไป Florence เป็นเครื่อง2-2 มีเสริฟคุกกี้ชิ้นใหญ่ แปบเดียวก็ถึงออกจากairport เลี้ยวไปทางซ้ายจะมีสถานีtramเลย ขึ้นสายT2ไป unitaแต่เราจะไปลงหน้ารร. Alamanni Stazione ก่อนขึ้นต้องไปกดตั๋วก่อน ราคา1.5€ ถ้ามีเหรียญจะสะดวกมาก เพราะถ้าไม่มีต้องไปแลกเหรียญ รถมาตรงเวลาเป๊ะ คนโล่ง ขึ้นไปอย่าลืม validate ตั๋วที่เครื่องเหลืองๆ รถวิ่งแบบเอื่อยเฉื่อยไปลงหน้ารร. พอดีAmbasciatori hotelรร. นี้จัดว่าดีงามมากอยู่หน้าสถานีพอดีเป๊ะ ห้องใช้ได้ อาหารเช้าอลังการ ใกล้ที่ประชุม แต่ราคาอาจจะแพงหน่อยถ้าต้องออกตังค์เอง55เราไปถึงก็ฝากของไว้รร. แล้วเริ่มงานแรกคือไป Uffiziจากรร. ไปUffizi เราสามารถใช้ตั๋วtramได้เลย เพราะอยู่ใน 90นาที เดินไปตรงป้ายรถเมล์ไม่ไกลมาก รถเป็นของataf ซึ่งเล็กมากขนาดเหมือนห้อง1ห้อง นั่งได้ซัก10คน นั่งไปประมาณ3ป้ายก็ถึง Piazza della signoria ที่ๆมีรูปปั้นมากมาย รวมถึง Davidจำลองและ Perseusด้วย แต่เรากะมาวันหลังเลยรีบตรงไป Uffiziเค้าให้เอาตั๋วที่จองออนไลน์ไปแลกบัตรเข้า ก่อนเวลา15นาที พอมีเวลาเล็กน้อย เราเลยรีบไปซื้ออาหารกลางวัน เป็นpaniniง่ายๆ จากนั้นเราก็รีบไปขึ้นตั๋วตรงประตู3 เพื่อไปเข้าmuseum โดยไม่ต้องต่อคิว UffiziMuseumมี3ชั้น ส่วนที่มีผลงานเยอะสุดเป็นชั้น3 จะเป็นทางเดินยาวๆและมีห้องเก็บงานศิลปะแยกไปPortrait of the Duke and Dutchess of Urbinoศิลปินที่เพิ่งค้นพบในทริปนี้คือ Filippo Lippi ซึ่งเป็นอาจารย์ของ Botticelli ภาพของ Lippi จะมีความละมุนมาก อันนี้คือรูป Madonna and child with two angelsHighlight ของ Uffizi ก็คืองานของ Botticelli ชอบลายเส้นและความละมุนของภาพ ดูละมุนไปคนละแบบกับภาพของ LippiSpringBirth of VenusPallas and the CentaurAnnunciationCalumny of Apellesต่อมาเป็นห้อง8เหลี่ยม Tribuna of Uffizi ต้องต่อคิวถ่ายรูปข้างนอก เค้าไม่ให้เข้าไป ข้างนมีรูปปั้นและภาพเขียนมากมายเดินต่อมาจะเจอ she-wolf ซึ่งต่างจากที่Rome มาก เพราะมีแต่ตัวไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย มโนล้วนๆ55มองออกไปข้างนอก จะเห็นแม่น้ำ Arno สวยงามชมงานต่อ งานนี้เป็นงานของ Leonardo Da Vinci ที่ยังวาดไม่เสร็จ "Adoration of the Magi" The Baptism of ChristAnnunciation by Da VinciThe portraits of Agnolo and Maddalena Doni by RaphaelThe Holy Family by MichelangeloMadonna of the Goldfinch by RaphaelSt. John the Baptist by RaphaelLaocoonชั้นล่างสุดมีhighlightคือ medusaของCaravaggio Bacchus by Caravaggioออกจากmuseumเรายังพอมีเวลา เลยเดินไป pointe vecchioใกล้ๆ ถ่ายรูปแม่น้ำArno แล้วก็เดินไปกลางสะพาน มีรูปปั้นของ Benvenuto Celiniเริ่มเหนื่อย ปัญหาคือตอนกลับ เพราะตั๋วเดิมหมดอายุ แต่ตั๋วใหม่ไม่รู้ไปหาตรงไหน เพราะตรงป้ายรถเมล์ไม่มี ปกติต้องหาตามร้านกาแฟ เลยเดินไปเรื่อยๆจนถึงรร. กลับไปcheck-in แล้วไปที่ประชุม Fortezza de Basso สถานที่ประชุมดูลึกลับมากลงทะเบียนเสร็จก็ไปเข้าฟังเล็กน้อย จากนั้นไปกินอาหารเย็นที่ร้านแถวแม่น้ำArno เลยได้ถ่ายรูปอาหารเย็นอีกรอบ กลับมาเตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้น