AS Roma Per Sempre

 
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
19 กุมภาพันธ์ 2557
 

Tokyo Trip Part1: Narita to Machida รีวิวแบบละเอียด :)

เราเดินทางไป Tokyo เพื่อไปดูงาน เลยได้ไปในช่วงที่อากาศไม่เป็นใจเท่าไหร่ คือเดือน กพ. ซึ่งปีนี้ถือว่าเป็นปีที่หิมะหนักที่สุดในรอบ 13 ปี (บางสื่อก็บอก 20 ปี) ถือว่าโชคร้ายมากๆ แต่ก็เอาเหอะ ถือว่าฝึกการเอาตัวรอด
 ก่อนอื่นต้องบอกว่า เราเคยไป Tokyo แค่ครั้งเดียว เมื่อประมาณ 10ปีก่อน แถมตอนนั้นไปกับพี่ที่คล่องมากๆ การมาตะลุย Tokyo ครั้งนี้เลยต้องเตรียมตัวเยอะมากๆๆ แต่ก็ได้ข้อสรุปว่าทุกอย่างไม่เกินความสามารถค่ะ
Trick คือ print ทุกอย่างทั้งแผนที่ และรายละเอียดเรื่องการเดินทาง ตั๋ว ออกมา จะทำให้การสื่อสารง่ายขึ้นมากค่ะ แค่ยื่นให้เจ้าหน้าที่ ก็จะเข้าใจได้ทันทีค่ะ 

From Narita to Machida
การเดินทางจาก Narita มีได้หลายวิธี แต่เราต้องเดินทางไป Machida ซึ่งอยู่ชานเมืองโตเกียว เลยหาวิธีที่เร็วและประหยัดที่สุด ซึ่งจากการทำการบ้านเราได้มา 2 options คือ

1) N'ex จาก Narita ไป yokohama แล้วต่อ JR ไป Machida อีกที ข้อดีคือตอนนี้มี promotion ราคาแค่ 1,500 yen จากราคาเต็ม 4พันกว่า yen แล้วยังสามารถนั่งรถต่อไปได้โดยไม่เสียตังค์เพิ่มด้วย (คนที่ืซื้อ JR pass ก็มักจะใช้ N'ex เนื่องจากขึ้นได้ฟรีค่ะ) ดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ //www.jreast.co.jp/e/pass/nex_oneway.html
    เราติดแค่ flight เราไปถึง 6 โมงเช้า แต่ counter JR ที่เดินออกมาแล้วเจอเลย มันเปิด 9.30 น.ค่ะ ต้องไปซื้อตั๋วที่ JR ticket office ตรงสถานีเลย ซึ่งพยายามหา map ก็ไม่รู้อยู่ตรงไหน แล้วก็ไม่รู้จะจองที่นั่งได้รึเปล่า เพราะ N'ex จาก Narita จะบังคับให้จองที่นั่งค่ะ เลยต้องเตรียมแผน 2 ค่ะ 

2) Bus เป็นของ Keisei ค่ะ จะไปลง Machida เลย ราคาประมาณ 3,500 yen ค่ะ ข้อเสียคือนอกจากแพงกว่าแล้ว ยังขับช้า แล้วถ้าเจอรถติดหรือ snow ก็อาจยิ่งแย่ค่ะ

เรามาถึงสนามบิน terminal2 ก็เริ่มเสี่ยงดวง โดยเดินตามทางที่เค้าเขียนว่าไปขึ้นรถไฟค่ะ ต้องเดินลงไปชั้นนึง จากนั้นเราก็เจอสิ่งนี้ค่ะ



ด้านขวามือเห็นคนต่อแถวยาวๆ ตรงตู้แดงๆ ใช่แล้วค่ะ JR ticket office



เราต่อคิวแล้วก็ยื่นเอกสารหน้า web ที่ print มา ว่าจะเอาตั๋ว 1,500 yen ไป yokohama...เรียบร้อยค่ะ เค้าจัดการให้ทันที แล้วบอกว่ารถออกประมาณ 8 โมง 10 นาที ทำให้เรามีเวลาซื้ออาหารเช้า ล้างหน้าแปรงฟันอีกนิดหน่อย ติดกับcounter JR ticket ด้านซ้ายจะมีป้ายแดงๆ (ตามรูปแรก) เราเดินผ่านตรงนั้นไปขึ้นรถได้เลยค่ะ

ภารกิจอีกอย่างที่ต้องทำที่ Terminal คือรับ pocket wifi ซึ่งเราสั่ง online ล่วงหน้า โดยเค้าคิดตามจำนวนวันค่ะ รายละเอียด เราเลือกแบบ 75Mbp ใช้ได้ 10 device โดยcounter จะเปิด 8.30 น. เราเลยต้องจ่ายค่า premium delivery เพิ่ม 525 yen ซึ่งจะรับได้ตั้งแต่ 6.30 น.ค่ะ...ถือว่าคุ้มมากๆ เวลาส่งคืนก็ง่ายๆโดยเอาใส่ mailbox ที่ airport ได้เลยค่ะ



ได้เวลาเดินทางแล้วค่ะ ตั๋ว Nex จะเป็นตั๋ว lock ที่นั่ง ต้องระวังอย่านั่งผิดเด็ดขาด เพราะจะมีสถานีที่แยกรถเป็น 2 ส่วนคือไป yokohama กับไป Tokyo..ถ้าไม่แน่ใจ ใช้วิธีเราก็ได้ค่ะ คือถามจนท. ตรงชานชาลาเลย เค้าจะชี้ๆว่าให้เราไปโบกี้ไหน
บรรยากาศบนรถค่ะ นั่งสบาย คนน้อยมาก



อึดใจเดียวเราก็ถึง yokohama ค่ะ ต้องนั่ง JR yokohama line ไป Machida 
ความงงบังเกิดอีกครั้งเพราะที่ชานชาลามันมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเป็น2สีแบบนี้ 



เราเดาว่ามันน่าจะมี 2 ขบวน โดยดูสีข้างรถไฟเอา เราจะไปสีเขียวปแต่เอ๊ะรอไปรอมามีแต่รถสีฟ้ามา 2 ขบวน เริ่มไม่มั่นใจแระ หรือมันจะให้อ่าน??
เถึยงไปมากับแฟน ในที่สุดสีเขียวก็มา...เฮ้อ รอดมาได้

เราไปลงสถานี JR machida ค่ะ ซึ่งอยู่ตรงห้าง Lumine จากแผนที่จะเห็นว่ามี 2 station คือ JR กับ Odakyu นอกจากนั้นยังมีห้างอื่นๆเช่น Marui, 109Men, Tokyu สำหรับที่พักเราอยู่ที่ Flexstay inn Machida ค่ะ



อันนี้ภาพของจรืง แต่มาถ่ายเก็บวันที่3 ของการเดินทางซึ่งหิมะลงเยอะแล้ว



โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีพอสมควร ถ้าปกติก็ไม่เท่าไหร่ แต่ช่วง snow ลงแรงๆเนี่ย รู้สึกไกลมาก โรงแรมถือว่าใช้ได้ มี wifi ให้ใช้ฟรี แต่เค้าจะไม่มา clean ห้องให้ทุกวันนะคะ อาหารการกินหาไม่ยากเลยค่ะ ร้านอาหารเยอะมากๆ ตามถนนที่คู่ขนานไปกับ JR Station ทั้ง 2 lock
เราไปเก็บของที่โรงแรมแล้วหาอะไรกินกัน ร้านที่เราไปกินบังเอิญเจออยู่ข้างทางค่ะ ซึ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นร้านดัง อันนี้เป็นหน้าร้านค่ะ ชื่อร้าน "Tenya"



มีเมนูมากมายให้เลือก แต่เราสั่งอันนี้ค่ะ



เทมปุระทอดกรอบๆ และที่เด่นน่าจะเป็นน้ำราดที่อร่อยมาก
อ่อ เค้าว่าเมืองไทยนำเข้ามาแล้วที่ central บางนา แต่รสชาติจะเหมือนกันรึเปล่า ต้องรอไปพิสูจน์คะ
พิกัดร้านอยู่ตรงรูปดาวค่ะ



กินข้าวเสร็จเราเดินไปขึ้นรถตรงสถานี Odakyu ซึ่งมีห้าง Odakyu ตรงนั้นค่ะ





ถ้าขึ้นบันไดจะเป็นห้าง แต่ด้านขวาจะเป็นทางไปสถานีค่ะ
พอมาถึงหน้าสถานีก็ต้องมึนงงกันบการซื้อตั๋ว ทางที่ดีควรเตรียมหาข้อมูลมาจาก internetก่อนว่าไปกี่สถานี ราคาเท่าไหร่ เพราะบางครั้งป้ายจะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น แล้วเราต้องเลือกว่าจะซื้อตั๋วกี่yen (ถ้าอับจนหนทางจริงๆมีคนแนะนำให้ซื้อราคาต่ำสุด แล้วก่อนออกสถานีไปเข้าเครื่อง fare adjustment สีเหลืองๆ เพื่อจ่ายตังค์เพิ่มเอาค่ะ)





ปัญหาอีกอย่างคือที่ชานชาลา ซึ่งจะมี 2 ฝั่ง ถ้ามาชานชาลาถูก สาย Odakyu 2 ฝั่งจะไปทางเดียวกันค่ะ คือขึ้นด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ แต่ที่สำคัญต้องดูว่าเป็นรถ local, rapid, หรือexpress ซึ่งจะจอดสถานีต่างกัน และถ้าจะให้ชัวร์ ดูชื่อจุดหมายด้วย ว่าไปไหน เพราะบางสายจะแยกไปคนละทาง



อันนี้เป็นแผนที่ load จาก net ล่วงหน้าได้ รถแต่ละชนิดจะมีสีต่างกันและจุดกลมๆคือแต่ละสถานี



เราขึ้นไป 2 สถานีค่ะ คือ Odakyusagamihara ซึ่งมีห้าง Racal ลงมาจะเห็นบันไดสีส้มๆ



เดินไป 1.2 km ก็จะถึงรพ. ถือว่าไกลพอควรเลย ยิ่งวันที่ snow ตกหนัก ถือว่าทรมานสุดๆ หน้ารพ.



หลังจากไปเจออาจารย์ที่นู่น และดูคนไข้ในช่วงบ่าย เย็นๆเรากลับโรงแรมเพื่อไปเที่ยว Yokohama ต่อค่ะ



Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2557 15:38:35 น. 0 comments
Counter : 2449 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Trunk
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add Trunk's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com