Paula’s Choice

Moisture Boost Hydrating Treatment Cream for Normal to Dry Skin

ที่ตัดสินใจรีวิว Moisture Boost Hydrating Treatment Cream ของป้าพอลล่า ก็เพื่อที่ไม่อยากให้ครีมบำรุงดีดีแบบนี้ต้องถูกลดเลือนหายไปในตลาด ซึ่งต้องบอกว่า มันเป็นครีมบำรุงที่เหมาะกับการดูแลผิวที่ผ่านสมรภูมิรบการใช้ผลิตภัณฑ์ exfoliates หรือ ผลัดเซลล์ผิวบ่อยๆ อย่าง AHA, การสครับผิว หรือ การใช้ยาในกลุ่มของกรดวิตามินเอ อย่างที่สุดเลยครับ

แต่ก่อนจะไปชมการ Deep Review มาทำความเข้าใจกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับผิวกันดีกว่าครับ

ผิวชั้นนอกของเรามีชั้น Keratin หรือ ชั้นขี้ไคลสะสมอยู่ (รายละเอียดเรื่องชั้นผิว ขอไม่ลงลึกนะครับไม่งั้นเดี๋ยวจะยาว อิอิ) การใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม exfoliates หรือ การผลัดเซลล์ผิวนั้นจะช่วยทำให้ Keratin หลุดออกได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ริ้วรอยต่างๆ ก็จะจางไวขึ้น และยังลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันอีกด้วย 

หลายคนที่เห็นประโยชน์ของการ exfoliates เลยกระหน่ำใช้วิธีการนี้กัน จนลืมที่จะหาอะไรมาเสริมเพื่อเคลือบปกป้องผิว ผลก็คือ ผิวใสก็จริงอยู่ แต่ก็มีความไวต่อสภาพแวดล้อม แสง ฝุ่น และมลภาวะมากขึ้นกว่าเดิม สูญเสียความยืดหยุ่น และความชุ่มชื้นในผิวง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา  ดังนั้นเราจึงควรมาเล็งเห็นความสำคัญของการสร้าง Skin Barrier ควบคู่กับการผลัดเซลล์ผิวไปด้วยกันครับ

การสร้าง Skin Barrier ให้กับผิว เป็นเสมือนกับการสร้างเกราะคุ้มกันให้ผิวมีความแข็งแรงยืดหยุ่นมากขึ้น เรียกว่า ใช้ AHA หรือ ยาในกลุ่มของกรดวิตามินเอ เสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ + ป้องกันผิวใหม่นั้นด้วย SkinBarrier (สร้าง + เสริม) ก็จะยิ่งทำให้ผิวของเราสุขภาพดีสวยสมบูรณ์แบบมากขึ้นนั่นเอง  ซึ่งจะวัยไหนๆ ก็ควรให้ความสำคัญในการเสริมสร้าง Skin Barrier ให้แข็งแรงไว้นะครับ 

Ingredients :
Water, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Ethylhexyl Stearate, Butylene Glycol, Glycerin, Petrolatum, Cetearyl Alcohol, Dipentaerythrityl Hexacaprylate/ Hexacaprate, Tridecyl Trimellitat, Sodium Hyaluronate, Ceramide 3, Cholesterol, Tocopherol, Squalane, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Dimethicone, Niacinamide, Polysorbate 60, Hydrolyzed Jojoba Protein, Hydrolyzed Wheat Protein, Hydrogenated Lecithin, Whey Protein, Tridecyl Stearate, Neopentyl Glycol Dicaprylate/Dicaprate, Phenyl Trimethicone, Myristyl Myristate, Linoleic Acid, Linolenic Acid, Phospholipids, Decarboxy Carnosine HCI, Hydroxyethyl Acrylate/Sodum Acryloyldimethyltaurate Copolymer, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Cetearyl Glucoside, Cetyl Alcohol, Polyglyceryl-3 Beeswax, Triethanolamine, Disodium EDTA, Benzoic Acid, Chlorphensin, Sorbic Acid, Phenoxyethanol. 

Paula’s Choice  Moisture Boost Hydrating Treatment Cream for Normal to Dry Skin ชื่อนั้นบอกว่าเหมาะกับผิวธรรมดา – แห้ง  แต่อย่างที่อธิบายไปข้างต้นนั้น คนที่ใช้การ exfoliates เป็นประจำ ก็ควรหามาใช้กันนะครับ เพราะครีมนี้มีส่วนผสมที่เน้นเสริมสร้าง Skin Barrier ของผิว ด้วยส่วนผสมและองค์ประกอบที่ลงตัวเป๊ะมาก! คือ เสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นที่เคลือบและปกป้องผิวของเราให้สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งป้าพอลล่าอัดส่วนผสมสุดอลังการมามากถึง 17 รายการ* O_o! เรียกว่าเยอะเว่อร์ เยอะมากอลังการงานสร้างสุดๆ แล้วจะมีเหตุผลอะไรอีกล่ะ ที่ไม่ใช้  ใช่มะ?

* 1. Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil 2. Glycerin 3. Petrolatum 4. Dipentaerythrityl Hexacaprylate/ Hexacaprate 5. Tridecyl Trimellitate  6. Sodium Hyaluronate 7. Ceramide 3  8. Cholesterol  9. Tocopherol  10. Squalane  11. Magnesium Ascorbyl Phosphate  12. Niacinamide 13. Hydrolyzed Jojoba  14. Linoleic Acid  15. Linolenic Acid 16. Phospholipids 17. Decarboxy Carnosine HCI 

ส่วนผสมทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้าง Skin Barrier ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ  จะมีครีมไหนกล้าใส่ส่วนผสมมาเยอะ และราคาถูกแบบนี้อีกล่ะ!!!

นอกจากนี้ Moisture Boost Hydrating Treatment Cream ยังปราศจากสี น้ำหอม และแอลกอฮอล์ตามมาตรฐานของป้าพอลล่า เลยยิ่งทำให้สามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกายอย่างไม่ต้องกังวลอีกด้วย ส่วนตัวผมเลยกล้าที่จะบอกว่า ส่วนผสมของ Moisture Boost Hydrating Treatment Cream นี้ “ดีจนไร้ที่ติจริงๆ”  ถือเป็นครีมบำรุงที่ช่วยเสริมเสริมสร้าง Skin Barrier ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาตอนนี้ครับ  (ปล.เขียนชมเหมือนรับเงินเขามาเขียนเลยเนอะ 555++) และด้วยส่วนผสมที่ช่วย เสริมสร้าง Skin Barrier ให้กับผิวคุณแบบนี้ หากใช้เป็นประจำ ผิวคุณจะสุขภาพดีแน่นอนครับ

ผลทางคอสเมติก

ขึ้นชื่อว่าเป็น “เนื้อครีม” คนผิวมันคงจะขยาดว่า มันต้องหนักและเหนอะมากๆ แน่เลย แต่หลังจากที่ผมใช้แล้วต้องบอกว่า เปลี่ยนความคิดทันที เพราะเนื้อครีมสีขาว กับสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำสะใจ เมื่อทาลงไป จะซึมหายลงไปในผิวไวมาก จนลืมไปเลยว่า นี่เนื้อครีมหรอ? เพราะไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้เลย  แต่อาจจะทิ้งความมันวาวไว้บ้างนิดหน่อย ซึ่งถือว่าเป็น “ครีม” บำรุงที่ให้ผลทางคอสเมติกดีมากกกกกกกกกกกกกกกก   ปลื้มสุดๆ ไปเลย

สำหรับใครที่ชอบความบางเบาเป็นพิเศษ สามารถใช้ RESIST Barrier Repair Moisturizer All Skin Types ได้เหมือนกันนะครับ

วิธีใช้ของผม

 ผมจะใช้ก่อนนอนทุกคืนครับ ถ้าหากว่าช่วงไหนหน้าแห้งกว่าปกติ ก็จะใช้ตอนเช้าด้วย

 ถ้ามีครีมบำรุงตัวอื่นอยู่ แนะนำให้ใช้ Moisture Boost Hydrating Treatment Cream หลังสุด หรือ เรียงตามความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ก็ได้

 ถ้าวันไหนที่ใช้ Retin A ก็จะทาหลังจากใช้ Retin A ประมาณ 30 นาที

ผลหลังการใช้

ผิวมีความนุ่ม ชุ่มชื้นถึงขีดสุด! ยืดหยุด และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น  อาการผิวมันแต่ขาดน้ำนั้นลดลงจนน่าประทับใจ น่อร๊อกอ๊ะ!

ราคา และ ปริมาณ

Paula’s Choice  Moisture Boost Hydrating Treatment Cream for Normal to Dry Skin ราคา 860 บาท กับ ปริมาณ 60 มล. ถือว่าไม่แพงเลยกับสิ่งที่ได้รับจากส่วนผสมสุดอลังการแบบนี้ครับ

ข้อดี

เป็นครีมบำรุงที่เหมาะกับทุกสภาพผิวที่ต้องการเสริมสร้าง Skin Barrier

ปราศจากสี น้ำหอม และแอลกอฮอล์

ราคา เทียบกับส่วนผสม และปริมาณถือว่าไม่แพงเลย!

สามารถใช้เป็น Eye Cream และ บำรุงริมฝีปากได้เลย

เป็นครีมสำหรับผิวแห้งที่ผลทางคอสเมติกดีมาก! ไม่เหนอะ และหนักเลย ไม่น่าเชื่อ! คนผิวมันอย่างผมใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา ยิ่งใกล้หน้าหนาวแล้ว ควรหามาติดตัวไว้เลย

ข้อเสีย

หาซื้อยาก เพราะปัจจุบันป้าพอลล่าเปิด Shop อย่างเป็นทางการที่สยามดิส, จามจุรีสแควร์ และ เอสพลานาด นอกนั้นต้องสั่งซื้อทางออนไลน์

 ความคิดเห็นส่วนตัว อยากให้ป้าพอลล่าเพิ่มปริมาณ Ceramide อีก อิอิ

หมายเหตุ  อาการอุดตันนั้นเป็นลักษณะเฉพาะของผิวแต่ละคน ซึ่งจะไวต่อสารหรือส่วนผสมที่ไม่เหมือนกัน ไม่มีหน่วยวัดใดๆ ที่จะสามารถบอกได้ว่าใช้ครีมตัวนี้แล้วจะอุดตันหรือไม่?  นอกจาก “ประสบการณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล” นะครับ 

Paula’s Choice  Moisture Boost Hydrating Treatment Cream for Normal to Dry Skin คือ ครีมบำรุงที่ช่วยเสริมสร้าง Skin Barrier ได้อย่างแท้จริง  หากเรายึดหลัก เสริมการผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA หรือยาในกลุ่มของกรดวิตามินเอ (Differin , Retin A) + สร้าง Skin Barrier เพื่อปกป้องเซลล์ผิวที่เกิดใหม่ แล้วล่ะก็ รับรองเลยว่า ผิวเราจะสวยสมบูรณ์แบบไร้ที่ติแน่นอนครับ

ด้วยความปรารถนาดียิ่ง

Title Wisdom of social