L'Oréal เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1909 แน่นอนว่าตลอด 100 ปีที่ผ่านมา สินค้าในเครืิ่อ L'Oréal มีมากมายหลากหลายจนนับไม่หวาดไม่ไหว แต่ถ้าจะดูกันที่ Brand ที่้เราคุ้นเคยกันดี ก็ยกตัวอย่างเช่น ระดัีบ Mass อย่าง L'Oréal, Garnier, MAYBELLINE New york เป็นต้น หรือถ้าจะเป็นแบบ Luxury Brand ก็อย่างเช่น Kiehl's, Biotherm, Lancome เป็นต้นครับ
สำหรับในครั้งนี้ไตเติ้ลจะรีวิวเครื่องสำอางใน Brand L'Oréal ซึ่งเป็นเครื่องสำอางที่ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้อยู่ในระดับ Mass แต่ส่วนผสมนั้น แทบเหมือนกับเครื่องสำิอาง Luxury Brand เกือบทุกประการเลยก็ว่าได้ และเครื่องสำอางที่ไตเติ้ลจะรีวิวนั่นก็คือ L'Oréal "YOUTH CODE" นั่นเองครับ
L'Oréal "YOUTH CODE" เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมคล้ายกับ Lancome Genifique Youth Activating Concentrate ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของ Anti-Aging ที่ขายดีที่สุดของ Lancome แถมยังได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย โดยส่วนผสมหลักๆ และเด่นๆ ของ L'Oréal และ Lancome ที่มีเหมือนกัน และ ใช้เป็นจุดขายก็เห็นจะเป็น Bifida Ferment Lysate และ Salicyloyl Phytosphingosine
Bifida Ferment Lysate - เป็นชนิดของแบคทีเรียแกรมบวกพบในระบบย่อยอาหาร ออกแนวเดียวกับ SK-II หรือ น้ำป้าเจี๊ยบเลยเนอะ ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังไม่มี ผลการวิจัยจากสถาบันที่เป็นกลางออกมายืนยันว่าจะเป็นประโยชน์ในด้านใดเมื่อใช้กับผิว ? แต่ถ้าหากว่าคุณศรัทธา และรู้สึกว่าเจ้าแบคทรีเรียชนิดนี้จะทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้ ก็ไม่ว่ากันครับ
Salicyloyl Phytosphingosine - เป็นส่วนผสมลิขสิทธิ์ในเครือของ L'Oréal ที่ผ่านการ * จดสิทธิบัตร ไว้ถึง 7 ฉบับด้วยกัน!!! ซึ่งเขาก็บอกว่ามีประโยชน์กับผิวสารพัด แต่เท่าที่จับความได้นั้น สารตัวนี้ทำหน้าที่เป็น Cell-Communicating ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมเซลล์ผิวให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งเครื่องสำอางที่เน้นการเป็น Anti-Aging มักจะมีส่วนผสมที่ทำหน้าที่เป็น Cell-Communicating อยู่แล้วครับ
*หมายเหตุ ส่วนผสมในเครื่องสำอางที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ที่บรรดา Brand ต่างๆ โหมโฆษณาอย่างหนัก(โดยเฉพาะแบรนด์ขายตรง)นั้น ไม่ได้หมายความว่าใช้แล้วจะได้ผลดีตามที่เขาโฆษณาไว้นะครับ เพราะเงื่อนไขการจดสิทธิบัตรคือ
1. ต้องเป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ คือ เป็นการประดิษฐ์ที่แตกต่างไปจากเดิม ยังไม่เคยมีใช้หรือแพร่หลายมาก่อนในประเทศ หรือไม่เคยเปิดเผยสาระสำคัญในเอกสารหรือสิ่งพิมพ์มาก่อนทั้งในและนอกประเทศ หรือไม่เคยได้รับสิทธิบัตรมาก่อน
2. ต้องเป็นการประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น คือ มีลักษณะที่เป็นการแก้ไขปัญหาทางเทคนิค หรือไม่เป็นการประดิษฐ์ที่อาจทำได้โดยง่ายต่อผู้ที่มีความรู้ในระดับธรรมดา
3. ต้องเป็นการประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรือหัตถกรรม
ตอนนี้เรามาดูส่วนผสมของทั้งสองตัวเปรียบเทียบกันเลยครับ
L'Oréal "YOUTH CODE"
Ingredients
Aqua/Water, Bifida Ferment Lysate, Glycerin, Alcohol Denat., Dimenthicone, Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid , Peg-20 Methyl Glucose Sesquisterate, Sodium Hyaluronate, Salicyloyl Phytosphingosine, Palmitoyl Oligopeptide, Palmitoyl Tetrapeptide-7 , Adenosine, Ammonium Polyacryldimethyltauramide, Disodium Edta, Caprylyl Glycol, Citric Acid, Xanthan Gum, N-Hydroxysuccinimide, Chrysin, Octyldodecanol, Sodium Benzoate, Phenoxyethanol , Limonene, Parfum/Fragrance.
Lancome Genifique Youth Activating Concentrate
Ingredients
Aqua/Water, Bifida Ferment Lysate, Glycerin, Alcohol Denat, Dimethicone, Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid , Sodium Hyaluronate, Phenoxyethanol , Peg-20 Methyl Glucose Sesquistearate, Peg-60 Hydrogenated Castor Oil, Salicyloyl Phytosphingosine, Ammonium Polyacryloyldimethyltauramide, Ammonium Polyacryloyldimethyl Taurate, Limonene, Xanthan Gum, Caprylyl Glycol, Disodium Edta, Octyldodecanol, Citric Acid, Citronellol, Fragrance, Ethylparaben, Methylparaben, Butylparaben.
เรามาเจาะลึกส่วนผสมกันเลยครับ จากที่เปรียบเทียบกันเราจะเห็นว่า ถ้าไม่วัดกันในแง่ %ปริมาณของส่วนผสม นั้น เราจะเห็นว่าส่วนผสม 6 รายการแรกนั้น ทั้ง L'Oréal "YOUTH CODE" และ Lancome Genifique Youth Activating Concentrate เหมือนกันทุกประการเลยครับ โอ้ว!! มายก้อด!!!! เป็นไปได้เยี่ยงไรกัน
สำหรับส่วนผสมลำดับต่อไปของ Lancome Genifique Youth Activating Concentrate นั้นคือ สารให้ความชุ่นชื่นอย่าง Sodium Hyaluronate และ Phenoxyethanol หรือสารกันเสีย นั่นหมายความว่า ส่วนผสมที่อยู่หลังจากสารกันเสียเหล่านี้ จะมีปริมาณน้อยมาก ซึ่งใส่ไว้เพื่อให้เป็นสารแฟนซีจะได้เพิ่มมูลค่าทางการตลาดนิดหน่อย
มาดูกันที่ L'Oréal "YOUTH CODE" กันต่อเลย มีส่วนผสมของ Phenoxyethanol หรือสารกันเสีย อยู่ในลำดับเกือบท้ายสุดเลย นั่นหมายความว่าส่วนผสมก่อนหน้านั้นก็มีปริมาณมากกว่า เข้มข้นกว่า Lancome Genifique Youth Activating Concentrate นั่นเอง! Wow!!!
ส่วนผสมที่น่าสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ L'Oréal "YOUTH CODE ที่ทำให้เด่นกว่า Lancome Genifique Youth Activating Concentrate นั่นก็คือ
palmitoyl oligopeptide และ palmitoyl tetrapeptide-7 ซึ่งเป็นอนุพันธ์หนึ่งของโปรตีน เป็น Cell-Communicating Ingredients แน่นอนว่าช่วยสื่อสารกับเซลล์ผิวให้ทำงานอย่างเป็นปกติ ทั้งยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ยิ่งมารวมตัวเข้ากับส่วนผสมลิขสิทธิ์ของ L'Oréal อย่าง Salicyloyl Phytosphingosine ที่ทำหน้าที่คล้ายกัน ก็จะยิ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Anti-Aging ที่ดีตัวนึงเลยก็ว่าได้ครับ
สู้กันยิบตา ทีนี้เรามาเปรียบเทียบราคากันดีกว่าครับ
เท่าที่ไตเติ้ลวิเคราะห์ส่วนผสมมาข้างต้นจะเห็นว่า L'Oréal "YOUTH CODE นั้นมีส่วนผสมที่ดีกว่า Lancome Genifique Youth Activating Concentrate แน่นอน เพราะฉะนั้นหลายคนก็คงจะคิดว่า L'Oréal "YOUTH CODE นั้นต้องราคาแพงกว่าแน่นอนเลย .......
L'Oréal "YOUTH CODE ขนาด 30 ml. ราคาประมาณ 16 ปอนด์ หรือ ที่ผมฝากเพื่อนซื้อหิ้วมาก็ 800 บาทพอดี
Lancome Genifique Youth Activating Concentrate ขนาด 30 ml. ที่เมืองไทยขายประมาณ 3 ,900 บาท !!!!!!!!!!!!! แพงเว่อร์มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก เห็นแบบนี้แล้วยังไง L'Oréal "YOUTH CODE ก็ชนะเลิศ!!
มาดูที่เนื้อสัมผัสกันดีกว่าครับ
เนื้อของผลิตภัณฑ์จะเป็นสีขาวข้น เมื่อทาไปแล้วจะให้ความรู้สึกที่บางเบา แถมยังเย็นสดชื่นมาก (เพราะผมเอาแช่ตู้เย็นไว้ อิอิ) เมื่อแห้ง ก็จะรู้สึกว่าเหมือนมีฟิล์มบางๆ เคลือบไว้นิดเหน่อย ซึ่งส่วนตัวเคยใช้ Lancome Genifique Youth Activating Concentrate มา ให้ความรู้สึกที่คล้ายกันกับ L'Oréal "YOUTH CODE มากครับ และที่ต่างกันชัดเจนคงจะเป็นที่กลิ่น เพราะทั้งสองตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอมนั่นเอง โดยรวมสำหรับคนที่มีผิวผสมถึงมันอย่างผม เหมาะไว้ใช้เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ในลำดับแรกและก็ตามด้วยกันแดดได้เลย แต่ถ้าใครที่ผิวแห้ง อาจจะต้องหามอยเจอร์ไรเซอร์ตัวอื่นมาเสริมด้วยนะครับ
สรุป
ของดีดีมักไม่มีขายในเมืองไทย ของดีในไทยมักขายราคาแพง และบางทีของไม่ดีก็ขายแพงด้วยก็มี ถือเป็นวัฎจักรของวงการเครื่องสำอางไทยที่เราจะต้องประสบพบเจอต่อไป
LOréal "YOUTH CODE" เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Anti-Aging ที่จะช่วยทำให้ผิวของคุณกลับมา YOUTH ได้หรือไม่นั้นผมไม่สามารถบอกได้เนื่องจากยังไม่มีปัญหาในเรื่องของริ้วรอยแห่งวัย แต่หลังจากที่ใช้มาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็ไม่ได้แพ้อะไร ผิวหน้าชุ่มชื่นดี ซึ่งก็ต้องดูผลกันยาวๆ นะครับ และสำหรับที่ใครใช้ Lancome Genifique Youth Activating Concentrate อยู่ และมีเพื่อนหรือคนรู้จักอยู่เมืองนอก ไตเติ้ลแนะนำให้คุณใช้ LOréal "YOUTH CODE" ดีกว่าครับ เพราะทั้งประหยัดเงินในกระเป๋าคุณหลายเท่า! แถมยังได้เซรั่มที่มีส่วนผสมดีกว่าของเดิมแบบนี้ ควรอย่างยิ่งที่จะต้อง "เปลี่ยน! " ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
ด้วยภูมิใจนำเสนออย่างยิ่ง
title Wisdom of social
ปล .หากใครมีคำถามเพิ่มเติม รบกวนสอบถามมาที่ทาง Facebook นะครับ