สวัสดีครับทุกท่าน ........................... ก่อนอื่นต้องไตเติ้ลขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอุดหนุนในกระทู้เกี่ยวกับกับการรีวิวรักษาสิวของผม จากกระทู้นี้ //www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q8909118/Q8909118.html และช่วยกันโหวตจนติดกระทู้แนะนำตลอดสัปดาห์ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทู้ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ในการเป็นแนวทางเพื่อต่อสู้กับสิวต่อไปนะครับ ต้องขอขอบพระคุณจริงๆ ครับ (อ้อ! เจอผมที่ไหนทักได้เลยนะครับ ผมอยู่แถวสยามประจำครับ) วันนี้ผมเลยขอตอบแทนเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านด้วยการรีวิวตัวช่วยดีดีที่ช่วยลดอาการหน้าแห้ง หรือ ลอก จากการรักษาสิว เชื่อว่าใครหลายๆ คนที่กำลังรักษาสิวอยู่ ก็เคยประสบปัญหาเช่นนี้เหมือนกับผมครับ เพราะในระหว่างการรักษาสิว ผิวของเราต้องโดนการ peeling ซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่าง BHA, Benzac , differin,Retin A ฯลฯ หน้าก็ต้องแห้ง ลอก เป็นธรรมดา ครั้นจะหาครีมบำรุงที่เนื้อข้นๆ หนาๆ มาใช้ ก็อาจจะเสี่ยงต่อการอุดตันอีก แล้วเราจะใช้อะไรดีล่ะ? ยังไงไปชมวิธีการแก้ไขปัญหาของผมพร้อมๆ กันเลยครับ ^_^ หมายเหตุ 1.การรีวิวผลิตภัณฑ์ของผม ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณา แต่เป็นการรีวิวจากประสบการณ์ส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมนะครับ 2. ผมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการแก้ไขปัญหาผิวในรูปแบบต่างๆ จาก ส่วนผสม, ราคา, ปริมาณ และ แพกเกจ เป็นหลัก
มาเริ่มกันที่ตัวล้างหน้ากันก่อนครับ ตัวนี้ผมก็เคยรีวิวไปในกระทู้ก่อนหน้านี้แล้ว นั่นคือ One Step Face Cleanser Normal to Oily/Combination Skin นั่นเองครับ เพราะในยามที่ผิวเราถูก peeling ออกไปมาก เราก็ควรหาคลีนเซอร์ที่ไม่พรากความชุ่มชื่นไปจากผิว ในขณะเดียวกันก็ควรเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วยครับ คลีนเซอร์ตัวนี้มีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวมากมาย ที่เป็นสารให้ความชุ่มชื่นในรูปแบบ water-binding agent อย่าง Glycerin , Sodium PCA , Sodium Lactate, Glycine, Fructose, Urea, Niacinamide, Inositol Lactic Acid และ Sodium Hyaluronate หลังล้างหน้าจึงรู้สึกไม่แห้งตึงเลยครับ ปล. สำหรับคนที่มีผิวแห้งเป็นพิเศษจริงๆ อาจจะไม่เหมาะกับตัวนี้ เพราะอาจจะแรงไปครับ แนะนำเป็น One Step Face Cleanser Normal to Dry Skin แทนครับ
ขั้นตอนการมาส์คหน้า ความจริงแล้วขั้นตอนการมาส์คหน้า ไม่ได้เป็นสิ่งที่จำเป็นเลย หากเราบำรุงผิวทุกวัน แต่สำหรับคนที่มีการ peeling ผิวบ่อยๆ ก็คงต้องหาอะไรทีชุ่มชื่นเป็นพิเศษมาเสริมกันบ้าง สำหรับมาร์คที่ผมใช้ในการแก้ไขปัญหานี้มันมีชื่อว่า Dermar Moisture Facial Essence Mask for men (จะเพศไหนก็ใช้ได้เหมือนกันแหละครับ) เพราะจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็เป็น ผิวของคน เหมือนกัน หลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นกับมาส์คตัวนี้ในตลาดสักเท่าไหร่ จะบอกว่าก่อนหน้านี้ผมก็ไม่คุ้นเหมือนกัน ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆ ที่แถวบ้านผมมีคาร์ฟูร์อยู่ใกล้ๆ เลยได้อานิสงนี้ทำให้ผมไปเดินบ่อยๆ และทำให้เจอมาส์คตัวนี้เข้านั่นเอง ยังไงไปดูหน้าตาของเจ้าตัวนี้กันก่อนครับ
ที่ผมชอบมาส์คตัวนี้ ก็ด้วยเหตุผลที่ผมได้บอกไปแล้วในข้างต้น นั่นก็คือ เลือกจาก ส่วนผสม, ราคา, ปริมาณ และ แพกเกจ มาส์คตัวนี้มีส่วนผสมที่น่าประทับใจมาก เรามาชำแหละส่วนผสมอย่างละเอียดกัน โดยเรียงจากส่วนผสมที่มาก ไปหา น้อย ดังนี้ครับ Water น้ำ Glycerin ให้ความชุ่มชื่น BUTYLENE GLYCOL ให้ความชุ่มชื่น HYDROLYZED COLLAGEN ให้ความชุ่มชื่น ALOE BARBADENSIS leaf JUICE ให้ความชุ่มชื่น portulaca oleracea extract ให้ความชุ่มชื่น camellia sinensis leaf extract เป็นสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่ช่วยเสริมคุณสมบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเติมเต็มช่องว่างของผิวที่เกิดขึ้นจากแห้งลอกทำให้ผิวนุ่ม ลื่น ขึ้นทันที, ให้ความชุ่มชื่น , เสริมประสิทธิภาพของครีมกันแดด ฯลฯ morus alba bark extract ให้ความชุ่มชื่น ARBUTIN เป็นแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ และสาร whitening Beta-glucan เสริมความแข็งแรงให้กับผิว Panthenol ให้ความชุ่มชื่น tocopheryl acetate วิตามิน E POLYSORBATE 80 ตัวทำละลาย ทำให้ส่วนผสมไม่แยกตัว Disodium EDTA สารปรับความเสถียร XANTHANGUM สารเติมแต่ง ทำให้ส่วนผสมข้นขึ้น perfume น้ำหอม methylparaben สารกันเสีย อ้างอิงข้อมูลส่วนผสมจาก //www.cosmeticdatabase.com/ และ //ec.europa.eu/enterprise/cosmetics/cosing/index.cfm?fuseaction=search.simple
จะเห็นได้ว่า มาส์คตัวนี้เต็มไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวอย่างอลังการงานสร้างมาก เมื่อเทียบจากเกณฑ์ที่ผมบอกมาคือ ส่วนผสม ส่วนผสมเน้นเรื่องความชุ่มชื่นให้กับผิว ช่วยลดปัญหาผิวแห้ง ลอก จากการรักษาสิวได้อย่างดี ถึงแม้จะมีส่วนผสมของน้ำหอมที่อาจระคายเคือง แต่มันใส่มาหลังสารปรับความเสถียร (Disodium EDTA) ที่ในเครื่องสำอางส่วนใหญ่จะใส่มาไม่เกิน 1% อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น น้ำหอมมันจึงมีน้อยมากเช่นกัน จึงสบายใจได้ แต่อย่างไรก็ตาม การแพ้นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ยังไงควรทดสอบอาการแพ้ด้วยนะครับ ราคา มาส์คหน้าทั่วไปที่ขายตามท้องตลาด เฉลี่ยแล้ว 1 แผ่น ราคาประมาณ 100 บาทขึ้นไป แต่ Dermar Moisture Facial Essence Mask for men นี้ราคาแค่ 59.75 บาท ต่างกับมาส์คทั่วไปครึ่งต่อครึ่งแบบนี้ จะไม่ให้ถอยมาใช้ได้ไงล่ะคร๊าบบบบ
. ปริมาณ ต่อ 1 ซอง ถือว่าคุ้มมากแล้วครับ แพกเกจ บรรจุอยู่ในซองทึบแสง ปิดไว้อย่างสนิท ถือเป็นแพกเกจที่ดีมากแล้วครับ สรุปความพึงพอใจ ตามเกณฑ์ที่ผมบอกมาข้างต้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วที่ผมจะต้องกังวลใจ เลยรีบคว้าหมับมาใช้ในทันใดครับ ^_^
ข้อมูลเพิ่มเติม สารช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นที่ใส่มาหลายรายการ จะช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ นอกจากนี้สารบางตัวยังอุ้มน้ำและดึงน้ำจาชั้นหนังแท้ ขึ้นไปสู่ชั้นผิวชั้นนอก ผลที่ได้ก็คือผิวชั้นนอกของเรามีความชุ่มชื้นมากขึ้น นอกจากนี้เมื่อความชื้นในอากาศมากกว่า 70% ขึ้นไป สารเหล่านี้ ยังจะทำการดึงความชื้นในอากาศเข้ามาสู่ผิวของเราอีกด้วย มันยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ O_o!
แต่ตัวนี้ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะ คือ ความยาวของแผ่นมาค์สมันปิดหน้าผากไม่หมดอ่า
..ผมเลยต้องเกลี่ยเนื้อเจลใสๆ มาทาส่วนหน้าผากบ่อยๆ และพอมาส์คเล้ว หน้าของคุณจะออกมาเป็นเยี่ยงนี้ครับ
ผ่างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
มาดูที่มาส์คตัวที่ 2 ที่ผมใช้เป็นตัวช่วย นั่นก็คือ Skin Balancing Carbon Mask Normal to Oily/Combination Skin ของป้าพอลล่าอีกแล้วครับ อย่าเพิ่งเบื่อป้าแกนะ อิอิ ส่วนผสม Water, Glycerin (water-binding/slip agent), Bentonite (white clay/absorbent), Magnesium Aluminum Silicate (mineral-based absorbent) Decyl Oleate (emollient) Sorbitan Stearate (emulsifier), Xanthan Gum, Glyceryl Stearate (thickeners), Sea Whip Extract (anti-inflammatory and anti-bacterial agent), Silt (Sea Mud) (absorbent), Fucus Vesiculosus (Bladderwrack) Extract (antioxidant), Camellia Sinensis (Green Tea) Extract (antioxidant/anti-irritant), Carbon Black (charcoal/absorbent), Salix Alba (Willow Bark) Extract (anti-inflammatory), Phenoxyethanol, Methylparaben, Ethylparaben, Butylparaben, Propylparaben, Isobutylparaben (all preservatives). ไม่ผิดหวัง สมกับที่เป็นของป้าแกแหละครับ เพราะส่วนผสมก็ยังอัดแน่นไปด้วยสารที่ให้ความชุ่มชื่น แอนตี้อ๊อกซิแดนท์ สารต้านการระคายเคือง เนื้อจะเหมือนโคลนเลย สีดำๆ วิธีใช้ ใช้หลังจากล้างหน้าครับ เวลาทาไปแรกๆ จะรู้สึกเหมือนอยู่ในนรก เพราะมันแสบบบบบบ ทรวงงงงง สุดๆ (เป็นเรื่องปกติของผลิตภัณฑ์ที่เติมความชุ่มชื่นให้กับผิวอย่างรวดเร็ว) แต่พอทิ้งไปสักพัก จะรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์ คือ เย็น สบาย ผ่อนคลาย ครับ (สรุปวันนี้ผมพาไปทัวร์นรกกับสวรรค์ -_-) ทาทิ้งไว้ 15 20 นาที แล้วก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงผิวตามปกติครับ มาร์สตัวนี้ราคาประมาณ 600 บาท ต่อ ปริมาณ 118 ml ถือว่าไม่แพงเลยครับ ราคา ส่วนผสม ปริมาณ และแพกเกจ ที่น่าคบหาแบบนี้ ไม่ใช้ไม่ได้แล้ว
ปล.ถ้าเทียบประสิทธิภาพ ของมาร์สทั้ง 2 ตัวนี้ ผมชอบ Dermar Moisture Facial Essence Mask for men มากกว่าครับ เพราะมันช่วยลดอาการผิวแห้ง ลอก ได้ดีกว่าของป้า แต่ถ้าจะใช้บ่อยๆ ก็ไม่ไหว จนพอดี เพราะใช้มาค์ส 10 แผ่น ก็เท่ากับราคาของป้าแล้ว
จบแล้วครับ สำหรับ 3 ตัวช่วย ที่ผมใช้เพื่อลดอาการผิวแห้ง และลอก จากการรักษาสิว ยังไงถ้าใครมีวิธีดีดีแนะนำ ก็สามารถมาเล่าสู่กันฟังได้ในกระทู้นี้นะครับ อ้อ! สำหรับใครที่อยากสอบถามปัญหาเรื่องสิว สามารถทิ้งคำถามไว้ในกระทู้นี้ได้เลยนะครับ ถ้าผมช่วยเหลือได้ จะช่วยเต็มที่เลยครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม have a good day ครับ ^_^ a>
|