นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

<<
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 กันยายน 2558
 

[เหลี่ยมเมฆา] 1 : หาที่อยู่ใหม่




ตอนที่ 1

หาที่อยู่ใหม่



ประตูห้องพักเปิดออกพร้อมด้วยร่างเพรียวระหงของกีรติก้าวเข้ามา ด้านหลังของเธอคือชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทดูภูมิฐาน สีหน้าของเธอดูเหน็ดเหนื่อยขณะที่ใบหน้าของเมฆินทร์มีแววขรึม

หญิงสาวผายมือเชิญเขานั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าครัวเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง เปิดโอกาสให้เมฆินทร์มองสำรวจห้องของเธอ ภายในห้องไม่ใหญ่แต่มีการจัดแบ่งอย่างเป็นสัดส่วนเหมือนที่คอนโดสมัยใหม่นิยมกัน ไม่นานเจ้าของห้องก็กลับมาพร้อมน้ำเย็นหนึ่งแก้ว

“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ “คุณเลยต้องเสียเวลา ไม่ได้กลับบ้านเลย” เธอพูดต่อ

“ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ยังไม่ดึก ผมนั่งเป็นเพื่อนคุณได้” เมฆินทร์บอกแล้วยิ้มให้เธอแบบไม่ใช่ปัญหาใหญ่ “แล้วนี่คุณแน่ใจหรือว่าเขาจะไม่ตามขึ้นมาถึงบนนี้”

“เขาไม่มีคีย์การ์ดค่ะ”

“แต่ถ้าเขาอาศัยจังหวะที่คนอื่นเปิดประตูเข้ามาล่ะครับ เขาอาจโกหกก็ได้ว่าอยู่ที่นี่และลืมเอาคีย์การ์ดลงไป” ข้อสังเกตของเมฆินทร์ทำให้กีรติหน้าเซียวไปถนัด เธอลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย

“คุณกำลังทำให้ฉันกลัว” เธอบอกคล้ายกล่าวหา

“แต่ผมคิดว่าที่นี่น่าจะมีระบบรักษาความปลอดภัยพอสมควร คุณได้บอกยามหรือยัง” เขาช่วยคลี่คลายสถานการณ์

“บอกแล้วค่ะ แต่ถ้าเกิดยามเผลอแล้วเขาอาศัยจังหวะแบบที่คุณบอก เขาก็คงเข้ามาได้”

“ดูคุณกลัวๆ เขานะครับ เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ” เมฆินทร์สงสัย เขาชักอยากรู้เรื่องของเธอขึ้นมาแล้วสิ

“กับคนอื่นฉันไม่รู้ค่ะ แต่สำหรับฉัน เขาน่ากลัว”

“ผมช่วยคุณจากเขาแล้ว ถ้าผมอยากรู้เรื่องของเขา จะเป็นการเสียมารยาทมั้ยครับ” ชายหนุ่มเอ่ย ขณะที่กีรตินิ่งเงียบ “เผื่อว่าต่อไปผมมาส่งคุณอีก ผมจะได้ประเมินสถานการณ์ถูก” เขาขยายความ

“ฉันกับสิต...ผู้ชายคนนั้นน่ะค่ะ” เธอเสริมเมื่อเห็นเขาเลิกคิ้ว “เราสองคนรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหา’ลัยแต่ไม่สนิทกัน หลังจบมาได้สองสามปี เราเจอกันอีกครั้งในงานเลี้ยงรุ่น เลยได้พูดคุยทำความรู้จักกัน จากนั้นก็ตกลงเป็นแฟนกัน สถานะที่เปลี่ยนไปทำให้เราสองคนรู้จักกันมากขึ้นและฉันก็คิดฉันกับเขาคงเข้ากันไม่ได้ สิตเป็นคนขี้หึง ขี้ระแวงและเรียกร้องมากเกินไปจนฉันรู้สึกอึดอัด พอทักไปเขาก็ปรับปรุง แต่อีกสักพักก็กลับไปเป็นแบบเดิมอีก กระทั่งเมื่อสองสามเดือนก่อน ฉันทนไม่ไหวเลยขอเลิก จากนั้นก็ย้ายที่อยู่ แต่เขาก็ยังตามเจอ”

“เขารู้มั้ยว่าคุณทำงานอยู่ที่ไหน”

“รู้ค่ะ เขาเคยไปที่นั่นตอนที่เราเลิกกันใหม่ๆ แต่ยามไม่ได้เข้าและขู่ว่าจะแจ้งความ เขาเลยไม่กล้าไปอีกและมาดักรอที่นี่แทน”

“คุณน่าจะเป็นแฟนกับเขาประมาณสองสามปี” เขาเปรย หลังลำดับช่วงเวลา

“ใช่ค่ะ เป็นช่วงเวลาสามปีที่ฉันไม่มีความสุขเลย ไม่เหมือนตอนที่เป็นเพื่อนกันเลย ถ้าย้อนกลับไปได้ ฉันจะไม่ตอบตกลงเป็นแฟนเลย” เธอบอก

“แต่คบกันมานานขนาดนี้ น่าจะปรับตัวกันได้นะครับ”

“แต่ฉันปรับให้เข้ากับเขาไม่ได้ค่ะ”

“ขอโทษครับ ผมไม่ได้จะก้าวก่ายการตัดสินใจของคุณ” เมฆินทร์เอ่ยแล้วก้มศีรษะให้เธอ

“ฉันไม่ได้จะว่าคุณนะคะ แค่บอกเท่านั้นเอง” เธอรีบบอก

“แล้วนี่ปกติเขาจะมาดักรอคุณนานหรือเปล่า ผมอ้างว่าเป็นแฟนคุณแบบนี้ จะทำให้คุณลำบากมั้ย” เขาถาม

เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน เขามาส่งเลขาที่คอนโดหลังไปงานด้วยกันและได้เจอกับแฟนเก่าของเธอ แม้จะไม่รู้รายละเอียดนักแต่เขาก็รู้ว่าทั้งสองจบกันแบบไม่ดี เขาช่วยคลี่คลายความลำบากใจให้เธอด้วยการอ้างว่าเป็นคนรักก่อนรีบพาเธอเข้าอาคาร

“ก็คงมีนิดหน่อยค่ะ” เธอยอมรับ “แต่ฉันไม่ได้ว่าคุณนะคะ ฉันดีใจที่คุณทำแบบนั้น กลัวก็แต่จะทำให้คุณลำบากมากกว่าค่ะ”

“ไม่ครับ ผมไม่ลำบากเลย” เขารีบบอกก่อนแนะนำ “ทางที่ดีผมคิดว่าคุณน่าจะย้ายที่อยู่”

“ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ แต่ช่วงเดือนที่ผ่านมา ฉันไม่ว่างเลย” กีรติบอกแล้วถอนใจ ทำเอาคนฟังมีสีหน้ารู้สึกผิด เพราะช่วงที่เธอเลิกกับภาสิตเป็นช่วงที่เขาเข้ารับตำแหน่งรองประธานบริษัทพอดี ในตอนนั้นกีรติต้องทำงานจันทร์ถึงเสาร์ เพราะต้องบอกรายละเอียดของงานต่างๆ ให้เจ้านายทราบ

“ผมขอโทษ ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุให้คุณลำบาก”

“ฉันไม่ได้จะโทษคุณนะคะ” เธอบอก “ตอนนี้คุณทำงานได้คล่องขึ้นแล้ว ฉันคิดว่าอาทิตย์หน้าคงเริ่มหาที่อยู่ใหม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะคะคุณเมฆ เรื่องนี้คุณไม่ผิดเลย”

“ให้ผมช่วยหาที่อยู่ใหม่ให้นะครับ คุณจะได้ย้ายเร็วขึ้น พรุ่งนี้หยุด ผมจะมารับคุณแต่เช้าเลย” เมฆินทร์เสนอ

“คะ พรุ่งนี้เลยหรือคะ” เธอทวนเพื่อให้แน่ใจ

“ครับ คุณย้ายเร็วเท่าไหร่ก็จะปลอดภัยเร็วเท่านั้น พรุ่งนี้เราจะไปตะลุยหาที่พักกัน” เขายืนยันก่อนลุกจากโซฟา

“ตอนนี้ดึกแล้วและคุณคงเหนื่อย เอาเป็นว่าพักผ่อนให้สบายนะครับ ผมจะกลับแล้ว”

“เดี๋ยวฉันลงไปส่งนะคะ คนจะเข้าออกต้องมีคีย์การ์ดค่ะ” เธอบอกแล้วเดินไปเปิดประตู

เมื่อลงมาด้านล่าง เมฆินทร์ก็ยังไม่ได้ออกจากคอนโดของเลขา เพราะภาสิตยังไม่ยอมกลับ เขายังนั่งรออยู่หน้าอาคาร ตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว ด้านนอกค่อนข้างเงียบไร้ผู้คน ภาสิตคอยชะเง้อคอมองไปที่ถนน คล้ายรอให้ผู้พักอาศัยผ่านมา เขาคงจะอาศัยช่วงที่มีคนเปิดประตูสวมรอยเข้ามาด้วยแน่ๆ

เมฆินทร์ยืนอยู่ในอาคารกว่าครึ่งชั่วโมงก็ตัดสินใจโทรหาป้อมยามเพื่อเรียกให้มาเชิญตัวภาสิตออกไป ตอนแรกชายคนนั้นก็ฮึดฮัดไม่ยอมไป จนยามต้องไปเรียกเพื่อนอีกคนเข้ามาช่วยพูดทำให้ภาสิตยอมล่าถอยไปเมื่อใกล้เที่ยงคืน กีรติพร่ำขอโทษเจ้านายไม่หยุดที่ทำให้กลับบ้านดึกขนาดนี้ แต่เขาก็ยิ้มรับและบอกว่าไม่เป็นไร เรื่องนี้แค่เขาทำได้ เหมือนที่เธอเคยช่วยสอนงานเขา



เช้าวันเสาร์ เมฆินทร์มารับเลขาตั้งแต่เก้าโมงเช้า กีรติยืนรออยู่ด้านหน้าแล้วเพราะเขาโทรบอกเธอ เขาจอดรถเพื่อรับเธอขึ้นรถก่อนขับออกไปทันที

“คุณดูไว้หรือยังว่าอยากพักแถวไหน”

“ไม่ไกลจากที่ทำงานมากค่ะเดินทางง่ายๆ หน่อย จริงๆ ฉันก็ดูในเนตไปบ้างแล้วนะคะ แต่ราคาสูงเกิน” ท้ายเสียงเธอเอ่ยเบาๆ

“แล้วห้องที่คุณอยู่ตอนนี้ คุณเช่าหรือเป็นของคุณเอง”

“เช่าค่ะ นี่ถ้าออกก่อนก็ไม่รู้ว่าจะได้เงินค่ามัดจำคืนหรือเปล่า เขามีสัญญาว่าต้องอยู่เกินหกเดือนถึงจะคืนมัดจำ”

“แล้วคุณจะอยู่ให้ถึงเลยเหรอ” เขาถามและได้ยินเสียงถอนหายใจดังมา สีหน้าของเธอมีรอยกังวล

“ถ้าไม่ถึงก็ไม่ได้เงินคืนสิคะ แต่ถ้าอยู่ถึงก็ต้องรออีกตั้งสองเดือน เงินตั้งห้าพันฉันไม่อยากทิ้งไปเลยค่ะ”

“แต่ถ้าแลกกับความปลอดภัยผมก็ถือว่าคุ้มนะครับ ผมอยากให้คุณย้ายออกภายในสัปดาห์นี้เลย เรื่องค่ามัดจำผมจะรับผิดชอบเอง”

“ไม่ได้ค่ะ ทำไมคุณต้องรับผิดชอบค่ามัดจำของฉันด้วยล่ะคะ” เธอรีบพูด

“เพราะผมทำให้คุณลำบาก”

“จริงๆ มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณหรอกค่ะ เพราะที่ฉันยังไม่ยอมย้ายออกเพราะห่วงเรื่องค่ามัดจำด้วย ส่วนเรื่องงานที่ต้องทำวันเสาร์ก็แค่เหตุผลรองเท่านั้น”

“ถึงยังไงผมก็ต้องมีส่วนช่วยคุณรับผิดชอบครับ ตามนี้นะครับ”

“แต่”

“ผมเป็นเจ้านายของคุณ ผมสั่งอะไรคุณต้องทำตาม” เมฆินทร์เล่นบทขรึม น้ำเสียงจริงจังของเขาทำให้กีรติต้องเงียบ และทำได้เพียงแสดงความไม่พอใจออกทางสีหน้า
ภายในรถไร้การสนทนา เมฆินทร์เหลือบมองเลขาหน้าอ่อนแล้วยิ้มนิดๆ เพราะท่าทางปั้นปึงแสนงอนแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ

ก่อนหน้านั้นเขาเคยติดใจรอยยิ้มหวานๆ ใสๆ ของเธอที่ทำให้ใบหน้าเรียวดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง จนบางครั้งก็ลืมไปว่าเธออายุมากกว่าเขา โดยปกติเขาไม่ค่อยเห็นเธอทำหน้าปั้นให้เห็นนัก เพราะสถานภาพของเธอไม่เหมาะที่จะแสดงกริยาแบบนั้นกับเขา
แต่ในตอนนี้ เธอคงรู้ว่าไม่ใช่เวลางานจึงกล้าแสดงความพอใจใส่เขาแต่ก็ถือว่าเธอเป็นคนเก็บอารมณ์ได้ดีที่ไม่โวยวายใส่ ถ้าเป็นคนอื่น เขาอาจโดนสวนกลับไปแล้วก็ได้ว่าอย่ามาวางอำนาจใส่ นี่ไม่ใช่เวลางาน

“ผมหวังดีกับคุณ” เมฆินทร์เป็นฝ่ายยอมแพ้ง้อเธอก่อน

“ค่ะ” เธอรับคำสั้นๆ

“คุณเป็นเลขาของผม” เขาย้ำสถานะ

“ฉันขอโทษค่ะที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสมออกไป แต่ฉันไม่อยากรบกวนคุณจริงๆ แค่คุณมาเป็นเพื่อน ฉันก็เกรงใจจะแย่แล้วค่ะ” เธอบอก

“บอกแล้วไงครับว่าผมมาได้ ถ้าคุณคิดว่าการไปทำงานวันเสาร์ไม่ลำบาก การมาเป็นเพื่อนคุณวันนี้ผมก็ไม่ลำบากเหมือนกันครับ”

“ขอบคุณค่ะ” เธอหมดข้อโต้แย้ง



ที่แรกที่เมฆินทร์แวะไปดูคือคอนโดหรูเสียดฟ้าใกล้รถไฟฟ้าและมีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม มองจากภายนอกก็รู้ว่าราคาไม่ใช่น้อยแน่ๆ เธอทักเขาแล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังยืนยันที่จะเข้าไปดูห้องตัวอย่างให้ได้

“ฉันว่าที่นี่ไม่น่าจะมีให้เช่าเป็นรายเดือนนะคะ” เธอบอก

“ลองเข้าไปดูก่อนสิครับ อย่าเพิ่มตัดสิน” เขาพูดแล้วเดินไปติดต่อกับเคาน์เตอร์ และเป็นจริงอย่างที่กีรติบอก ห้องชุดที่นี่ขายเพียงอย่างเดียว ไม่มีการให้เช่า หรือถ้ามีต้องติดต่อกับเจ้าของห้องเอง ซึ่งราคาจะสูงกว่าการซื้อเองหลายเท่าเพราะเจ้าของต้องบวกกำไรเข้าไปด้วย แต่หากลูกค้าจะซื้อเองก็ต้องรอยื่นเรื่องทำสัญญา ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเข้าอยู่ได้

“มีวิธีไหนที่จะเข้าอยู่ได้ภายในสัปดาห์นี้มั้ยครับ”

“คุณเมฆคะ ฉันว่า...” กีรติขัดแต่ยังไม่ทันพูดจบประโยค เมฆินทร์ก็ยกมือห้ามและส่งสายตาปรามให้เธออยู่เฉยๆ

“ต้องซื้อสดค่ะ แต่กว่าจะส่งมอบห้องได้ก็น่าจะสองสัปดาห์ค่ะ”

“ผมขอดูห้องตัวอย่างได้มั้ยครับ ถ้าถูกใจก็จะซื้อสดเลย” เขาบอก ทำให้พนักงานขายรีบกุลีกุจอเข้ามาแนะนำ รูปร่างท่าทางของเขาบ่งบอกว่าเป็นคนมีเงินและพูดจริง ขณะที่กีรติมีสีหน้าลังเล

“จะซื้อสดเลยหรือคะ ฉันไม่มีเงินเป็นหลักล้านขนาดนั้นนะคะ” เลขาสาววกระซิบบอกระหว่างเดินไปดูห้องตัวอย่าง

“แล้วใครบอกว่าคุณต้องจ่ายล่ะครับ ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องนี้ผมจัดการให้เอง”

“คุณเมฆ!” เธออุทาน “แต่...คือ ฉันคิดว่า”

“บอกแล้วไงครับว่าเรื่องนี้ผมจัดการเอง คุณอย่าพูดอะไร รอออกความเห็นว่าชอบหรือไม่ชอบแค่ไหนก็พอครับ” เขาตัดบทแล้วสาวเท้าให้ยาวขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการคุยกับเธอ

ห้องตัวอย่างถูกใจเมฆินทร์มาก ภายในห้องมีการจัดวางอย่างเหมาะเจาะเข้าชุด เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นทางคอนโดแถมให้ ซึ่งทางมีการโอนห้องเรียบร้อย เธอสามารถหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย และหากตัดเรื่องตัวเงินออกไป กีรติก็ยอมรับว่าชอบห้องนี้มาก เพราะความปลอดภัยดีเยี่ยม ใกล้ห้าง ใกล้รถไฟฟ้า ไม่ไกลจากที่ทำงาน แต่พอนึกถึงราคาแถมยังต้องจ่ายสดอีกด้วย ทำให้หญิงสาวลดความชอบลง

“เป็นยังไงบ้างครับ” เมฆินทร์ถามเลขาระหว่างที่อยู่ตามลำพัง

“ยังไม่ถูกใจค่ะ เราไปดูที่อื่นกันดีกว่านะคะ” เธอปด

“แต่เมื่อกี้ผมเห็นคุณยิ้ม สีหน้าก็ดูชอบมาก” เขาเลิกคิ้วถาม

“ก็อยู่ต่อหน้าเซลล์นี่คะ จะให้ทำหน้าบูดบึ้งหรือพูดตรงๆ กับเขาได้ยังไง น่าเกลียดแย่”

“อะไรที่ไม่ถูกใจคุณครับ ผมขอเหตุผล” เขาถาม

“ก็...คือ” กีรติหันซ้ายมองขวาเพื่อหาข้อติแต่ก็ไม่เจอสักข้อ ยกเว้น “ราคาค่ะ ราคามันสูงและต้องจ่ายสด” เธอตัดสินใจบอกความจริง

“นอกนั้นล่ะครับ”

“ไม่มีค่ะ”

“โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นผมตกลงให้คุณอยู่ที่นี่” เมฆินทร์บอกแล้วเดินออกจากห้องตัวอย่าง ขณะที่กีรติยืนงง เธอบอกเหตุผลสำคัญกับเขาไปแล้ว ทำไมเขายังดึงดันที่จะเอาที่นี่อีก

“เดี๋ยว เดี๋ยวค่ะคุณเมฆ ฉัน...”

“เรื่องนี้ผมตัดสินใจไปแล้ว เรามาดูและถามเขาถึงขนาดนั้น ถ้าบอกปฏิเสธรับรองว่าโดนนินทาไปสามวันเจ็ดวันแน่ๆ ผมไม่ชอบให้ใครมานินทาและดูถูกครับ”

“แต่ห้องตั้งห้าล้านเลยนะคะ คุณเมฆจะมาจ่ายทำไม”

“ผมอยากได้” เขาบอกสั้นๆ ง่ายๆ “ผมซื้อ คุณเช่า ทุกอย่างก็ลงตัวแล้วนี่ครับ”

“คุณไม่น่าจะต้องมาเสียเงินเพื่อฉันเลย ความจริง เราไปหาห้องพักราคาไม่กี่พันก็ได้นะคะ พวกหอพักหญิงหรืออพาร์ทเม้นท์รายเดือนก็มีเยอะแยะ”

“ผมอยากให้คุณอยู่ที่นี่ ผมซื้อแล้ว และอยากให้คุณเช่าต่อ อย่าให้ผมเสียความตั้งใจสิครับ”

“แต่ฉันคงสู้ราคาไม่ไหว ห้องขนาดนี้ การเดินทางสะดวกขนาดนี้ ค่าเช่าต้องเท่าไหร่คะ อย่างน้อยก็หลักหมื่น บอกตรงๆ ว่าฉันไม่มีจ่ายถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ห้องเดิมของฉันเดือนละเกือบห้าพัน ฉันก็คิดว่าแพงมากแล้ว”

“งั้นผมคิดคุณสามพัน”

“คุณเมฆ! ทำไมต้องทำขนาดนี้คะ” เธอไม่เข้าใจ

นั่นสิ ทำไมเขาต้องทำให้เธอถึงขนาดนี้...

“คุณคือพนักงานของผม” เขาตอบแล้วเดินไปคุยกับพนักงานขาย

นั่นคือเหตุผลง่ายๆ ที่เขาจะหามาตอบได้ แต่ถ้าจะเอาเหตุผลที่ยากและลึกกว่านั้นก็คือ เขาอยากทำให้เธอ เขาอยากให้เธออยู่ในสายตา ที่สำคัญคือ...เขาชอบเธอ

เมฆินทร์ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะกลายเป็นสมภารกินไก่วัดแถมไก่ตัวนั้นยังอายุมากกว่าเกือบสามปี แต่...มันก็เกิดขึ้นแล้ว


.........................................





Create Date : 28 กันยายน 2558
Last Update : 28 กันยายน 2558 12:24:15 น. 2 comments
Counter : 533 Pageviews.  
 
 
 
 
ลงทุนมากๆเลย บอสสุดหล่อ
 
 

โดย: Kwantal IP: 58.8.155.102 วันที่: 28 กันยายน 2558 เวลา:22:47:02 น.  

 
 
 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:17:03:42 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com