นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

<<
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
23 กันยายน 2558
 

[เล่ห์วายุ] 4 : ขอมือเธอหน่อย




ตอนที่ 4

ขอมือเธอหน่อย



วายุมาอยู่ที่รื่นริมธารรีสอร์ทได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว เป็นสองอาทิตย์ที่เขาอยู่กับนรีกานต์มากกว่าสิบห้าชั่วโมง คือตั้งแต่เช้าจนกระทั่งเข้านอน เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทและชีวิตของเธอ แม้ในช่วงแรกเธอจะไม่คุ้นชินนักที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันเพิ่งวันเดียว แต่วายุก็มีความเป็นสุภาพบุรุษเต็มเปี่ยม เขาไม่เคยล่วงเกินเธอเลยสักครั้ง และตั้งแต่ที่เธอเปรียบเทียบเขากับพงศกรไป เขาก็ไม่เคยมาเคาะประตูห้องนอนของเธออีกเลย

นรีกานต์ยอมรับว่าไว้ใจเขามากขึ้น น่าแปลกที่เธอเกิดความรู้สึกแบบนั้นขึ้น ทั้งที่ปกติแล้วเธอไม่เคยไว้ใจใครนัก ขนาดพงศกรที่รู้จักกันมาเป็นสิบปี เธอยังไม่ค่อยไปไหนมาไหนหรืออยู่กับเขาตามลำพังเลย
แต่กับวายุไม่ใช่

เธอรู้ไว้ใจเขา แม้จะไม่รู้ก็ตามว่าเขาเป็นใคร

ตอนนี้บาดแผลที่ศีรษะของเขาหายดีแล้ว ทำให้นรีกานต์คิดเรื่องตามหาตัวตนของเขาอีกครั้ง

“คุณพอจำอะไรได้บ้างหรือยังคะ” หญิงสาวถามวายุในเที่ยงวันหนึ่ง

“ยังเลยครับ ทุกครั้งที่ผมพยายามนึก ผมจะปวดหัวตลอด ผมเลยไม่อยากนึกถึง”

“แล้วนี่เมื่อไหร่คุณจะจำได้ล่ะคะว่าตัวเองเป็นใคร”

“ผมจะเป็นใครก็แล้วแต่ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือผมรักคุณครับ” น้ำเสียงทอดนุ่มบอกมาพร้อมดวงตาคมที่จ้องเธอนิ่ง ทำเอานรีกานต์ต้องหลบอมยิ้มและพยายามทำหน้าขรึม

“เรากำลังพูดถึงเรื่องซีเรียสอยู่นะคะคุณลม อย่าทำเป็นเล่นค่ะ”

“ผมไม่ได้พูดเล่นครับ ผมพูดจริงๆ” น้ำเสียงของเขาจริงจัง “ถ้าเรื่องระหว่างผมกับคุณไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย และที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดไปฝ่ายเดียว ถ้าอย่างนั้น ผมขอสร้างมันขึ้นมาตั้งแต่วันนี้เลยได้มั้ยครับ”

“คุณลม” ใบหน้าของนรีกานต์เริ่มร้อนอีกครั้ง

“หรือว่าตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเลย” เขาถามเสียงหม่น

“คือ....”

“ถ้าอย่างนั้น อะไรที่ผมทำแล้วคุณพอใจครับ บอกผมได้เลยนะครับ ผมยินดี” วายุเริ่มเร่งเร้าแต่น่าแปลกที่นรีกานต์ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนตอนที่อยู่กับพงศกรเลย

“เท่าที่คุณเป็นอยู่ฉันก็พอใจแล้วค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น คุณจะตกลงคบกับผมมั้ยครับ” เขาโน้มตัวมาใกล้แล้วถามเสียงเบา ยิ่งทำให้ใบหน้าหวานของนรีกานต์ออกสีมากขึ้น เธอเมินไปทางอื่นแล้วยิ้มเขิน

“ไม่ต้องตอบเป็นคำพูดก็ได้ครับ ขอแค่...” เขาเอ่ยพร้อมแบมือออกมา “ถ้าคุณตกลงขอให้วางมือบนมือผมแต่ถ้าไม่ ก็ปล่อยมันไปครับ”

วายุแทบกลั้นหายใจระหว่างที่พูด เขาไม่เคยต้องต่อรองแบบนี้กับใครเลย ถูกใจใครก็แค่ถามไปตรงๆ ซึ่งเท่าที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขาเลย

นี่เป็นครั้งแรกที่วายุรู้สึกตกเป็นรองอีกฝ่ายแถมยังต้องเป็นฝ่ายถูกเลือกอีกด้วย ทั้งที่เขาเคยเป็นฝ่ายเลือกเองมาโดยตลอด

เงียบกันไปไม่กี่วินาที แต่ในความคิดของวายุ เขารู้สึกเหมือนผ่านไปเนิ่นนานจนแทบนับเวลาไม่ได้ ชายหนุ่มแบมืออยู่อย่างนั้น ถ้าเธอไม่ลุกหนีไปเสียก่อน เขาก็จะไม่ดึงมือกลับ

นรีกานต์เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาและเห็นนัยน์ตาคมมองมาอย่างมั่นคงจนเห็นเงาตัวเองในดวงตาของเขา เธอขยับมือและค่อยๆ ยื่นออกมา

เป็นช่างเป็นช่วงเวลาที่บีบหัวใจเหลือเกิน...วายุคิด

และแล้ว ช่วงเวลาแห่งการรอคอยก็ผ่านพ้น เมื่อเธอค่อยๆ วางมือบางลงบนอุ้งมือของวายุ เขากุมมือเธอไว้ทันทีเหมือนกลัวเธอจะเปลี่ยนใจ ทั้งสองยิ้มให้กัน ชายหนุ่มรู้สึกโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกก็ไม่ปาน

“ขอบคุณครับ” เขาเอ่ยเสียงเบาก่อนโน้มตัวไปหอมแก้มเธอเบาๆ นรีกานต์เบี่ยงตัวเล็กน้อยแต่ไม่ได้ห้ามเขา จมูกโด่งแตะแก้มเนียนเบาๆ เขาสูดลมหายใจลึกเพื่อรับกลิ่นกายหอมๆ เข้าปอด

“คุณลมน่ะ” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดดังมา

“อย่าโกรธผมเลยนะครบ ผมขอแค่นี้จริงๆ” เขาบอกแล้วขยับตัวถอนห่างจากเธอแต่ยังกุมมือเล็กไว้ไม่ยอมปล่อย ขณะที่นรีกานต์ก็ไม่ได้ดึงมือกลับแต่อย่างใด

ใบหน้าของทั้งสองกระจ่างใสและเต็มไปด้วยความรักที่ล้นออกมา แม้ไม่มีคำพูดเอ่ยเอื้อนสักคำ





พงศกรกลับมาที่รื่นริมธารรีสอร์ทอีกครั้งพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนสี่ห้าคนที่เขาขอฝากมาพักที่นี่ เนื่องจากรีสอร์ทของเขาห้องพักเต็มหมดแล้ว ความจริงเขาอยากให้เพื่อนมาพักที่นี่ทั้งหมด แต่ที่รีสอร์ทของนรีกานต์มีลูกค้าจองไปแล้วสามห้อง จึงมีห้องว่างรองรับได้อีกแค่สามห้องเท่านั้น

“น่าเสียดายที่ไม่มีห้องว่างเลย แต่ก็น่าดีใจที่รีสอร์ทของตาลมีแขกเข้าพักจนเต็มทุกวัน” พงศกรชวนคุย หลังจากส่งเพื่อนเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว

“รีอสร์ทตาลเล็กๆ นี่คะ รับลูกค้ากลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มนึงก็เต็มแล้วค่ะ ไม่เหมือนของพี่พงศ์ มีห้องพักเป็นสิบๆ ห้อง แถมยังมีหลายขนาดอีก ของตาลเป็นแค่ห้องพักคู่เองค่ะ” เธอบอก

“ถ้าตาลอยากขยายงานก็ได้นี่ครับ ที่ดินตาลยังมีอีกตั้งหลายไร่ ถูกปลูกเป็นบ้านพักก็จะเพิ่มรายได้ให้อีก ดีกว่าปล่อยให้เป็นป่านะครับ”

“ขอบคุณค่ะ แต่ตาลชอบเล็กๆ แบบนี้ ดูแลง่ายดีค่ะ และตาลก็ชอบบ้านที่มีต้นไม้เยอะๆ ด้วย แขกที่มาก็ชมกันนะคะว่าชอบที่นี่เพราะมีต้นไม้เยอะ ไม่ใช่มองไปทางไหนก็เป็นบ้านพักและนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด”

“ก็จริงครับ ถือเป็นทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนจริงๆ” เขาเห็นด้วยก่อนกวาดตามองรอบๆ รีสอร์ทก่อนสะดุดตากับวายุที่กำลังคุยกับน้อยหน้าอาคารสำนักงาน

“คนที่อ้างเป็นแฟนของตาลยังไม่กลับไปอีกหรือครับ”

“ค่ะ” เธอรับสั้นๆ

“เขาไปๆ มาๆ หรือว่าอยู่ที่นี่ตลอดครับ” พงศกรถาม นรีกานต์ไม่ได้บอกความจริงว่าวายุความจำเสื่อมและไม่ปฏิเสธเรื่องที่วายุอ้างเป็นคนรัก เขาเพียรถามย้ำว่าเจอกันได้อย่างไร รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่นรีกานต์ก็ตอบเลี่ยงๆ ว่าเป็นเรื่องของเธอกับวายุ
แม้เธอจะบอกว่ามีคนรักอยู่แล้วก็ตาม แต่ถึงกระนั้นพงศกรก็ยังไม่เลิกตามตื๊อเธอ ทำให้นรีกานต์อ่อนใจสุดจะบรรยาย

“อยู่ตลอดค่ะ” เธอบอกตามความจริง

“ทำไมตาลให้เขาอยู่ที่นี่ได้ครับ งานการเขาไม่มีทำหรือยังไง ถึงได้มาเกาะตาลแบบนี้”

“คุณลมไม่ได้มาเกาะตาลนะคะ” เธอออกรับแทน

“แล้วที่มาอยู่เฉยๆ แบบนี้เรียกอะไร ถ้าไม่ได้เรียกเกาะ เขาคงไม่มีงานทำสิท่า หรือไม่ก็คงเป็นพวกตกงาน ตาลคบคนแบบนี้ได้ยังไงครับ พี่มองไม่เห็นอนาคตเลย”

“คุณลมไม่ได้เกาะตาลและเขาก็ไม่ได้ตกงานค่ะ ส่วนเขาจะทำงานอะไร ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาเถอะค่ะ” เธอตัดบท พงศกรอ้าปากจะค้านก่อนนิ่งไป

เอาเถอะ ตอนนี้เธอยังหล่อไอ้หนุ่มหน้าหล่อนั่น แต่ถ้าผ่านคืนนี้ไป เธอต้องคิดใหม่ มองใหม่และต้องเห็นว่าใครคือคนที่เธอพึ่งพาได้จริงๆ

“ก็ได้ครับ พี่มากวนเวลาตาลนานแล้ว ยังไงพี่กลับก่อนนะครับแล้วคืนนี้พี่จะแวะมาหาเพื่อนอีกครั้ง ฝากตาลดูแลเพื่อนๆ พี่ด้วยนะครับ”

“ได้ค่ะ ตาลดูแลลูกค้าทุกคนดีอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเพื่อนพี่พงศ์ ตาลยิ่งต้องดูแลค่ะ” เธอรับปากและยิ้มให้ก่อนเดินไปส่งพงศกรที่รถของเขา




ประมาณทุ่ม กลุ่มเพื่อนของพงศกรก็เริ่มออกลายด้วยการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่ม ทั้งที่มีกฎอยู่แล้ว น้อยเข้าไปขอร้อง เพราะเกรงจะเป็นการรบกวนแขกกลุ่มอื่น แต่พวกเขาก็ไม่ฟังและบอกว่าขอสังสรรค์กันนิดหน่อยเท่านั้น พอสามทุ่มก็จะกลับเข้าห้องพักแน่นอน น้อยไม่รู้จะทำอย่างไร จึงต้องให้นรีกานต์จัดการ

“รอดูท่าทีก่อนก็ได้ค่ะพี่น้อย ถ้าเขาเสียงดังหรือสามทุ่มแล้วยังไม่เลิก ตาลจะเข้าไปห้ามเองค่ะ” เธอบอก

“แต่ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ ถ้าแขกกลุ่มนั้นเขาทักขึ้นมาจะทำยังไง ห้ามทุกคนแต่พอเป็นเพื่อนเจ้าของกลับเอาเข้ามากินได้ แบบนี้มันไม่ดีนะคะ” น้อยเตือน ขณะที่นรีกานต์มีสีหน้าลำบากใจ

“จริงครับ ผมเห็นด้วยกับพี่น้อย ถ้าคุณไม่อยากเข้าไปห้ามพวกเขา ผมเข้าไปจัดการให้ครับ” วายุอาสา

“ก็ดีค่ะ ยังไงรบกวนคุณลมด้วยนะคะ” นรีกานต์บอก

“คุณลมระวังตัวด้วยนะคะ เมื่อกี้พี่เข้าไปเตือน พวกเขาก็เหมือนจะเมาๆ อยู่แล้ว คงกินกันตั้งแต่อยู่ในห้องน่ะค่ะ”

“ครับ ทุกคนรออยู่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปขอร้องเอง โตๆ กันแล้วน่าจะคุยกันรู้เรื่อง” วายุบอกแล้วตรงไปยังกลุ่มเพื่อนของพงศกร

ลานกว้างหน้าห้องพักมีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน กลุ่มคนจำนวนห้าคนนั่งล้อมวงดื่มเหล้าและเล่นดนตรีสดกันอยู่เป็นที่ครื้นเครง

“ขอโทษด้วยนะครับ ทางรีสอร์ทไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาครับ” วายุพูดเสียงสุภาพ

“อะไรกันคุณ นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น”

“คุณร้องเพลงเสียงดังรบกวนแขกคนอื่นๆ ด้วยนะครับ นี่ก็สองทุ่มแล้ว ผมว่าคุณพักผ่อนดีกว่าครับ”

“ก็แค่สองทุ่ม ถ้าเป็นที่กรุงเทพก็ถือว่ายังหัวค่ำอยู่ มาๆ มาดื่มกันดีกว่า” คนหนึ่งยื่นแก้วให้

“ไม่ครับ ผมอยากให้คุณเลิกดื่มแล้วกลับเข้าห้องพัก”

“แบบนั้นก็ได้ แต่พวกเราอยากฟังเพลงก่อน คุณเล่นกีตาร์เป็นมั้ย เล่นให้พวกเราฟังสักเพลงสิ แล้วพวกเราจะเลิกกิน” อีกคนต่อรองแล้วยื่นกีตาร์ให้ด้วยอาการยักคิ้วหลิ่วตา วายุรับมา

“เอาเพลงแจ่มๆ เจ๋งๆ นะครับ ไม่งั้นพวกเราไม่เลิก”

นักดนตรีหนุ่มลองไล่เสียงอยู่ครู่ก็เริ่มบรรเลงเพลงโปรดที่ต้องใช้ทักษะในการเล่นพอสมควร ทำเอากลุ่มเพื่อนของพงศกรตาค้าง ไม่คิดว่าไอ้หนุ่มหน้าหล่อจะเล่นกีตาร์เป็น
เมื่อจบเพลง วายุก็ส่งกีตาร์คืน เขายิ้มนิดๆ แสดงถึงความเหนือกว่า “ตอนนี้ผมเล่นแล้ว หวังว่าพวกคุณจะเลิกดื่มและกลับเข้าห้องพักนะครับ”

“เดี๋ยวๆ ยังไม่พอ” เจ้าของกีตาร์ไม่ยอมแล้วผลักกีตาร์ให้วายุอีกครั้ง

“เพลงเพราะๆ เราฟังเบื่อแล้ว ตอนนี้เราอยากฟังเพลงร็อกๆ โซโล่กีตาร์รัวๆ คุณเล่นให้พวกเราฟังหน่อยสิ”

“ผมทำไม่เป็นครับ” วายุปฏิเสธ ความจริงเรื่องโซโล่กีตาร์แบบพื้นๆ เขาทำได้อยู่แล้ว แต่ที่เลือกปฏิเสธเพราะเขาไม่ชอบเล่นเพลงหนักๆ และเสียงที่บาดหูก็จะเร่งเร้าอารมณ์ให้ฮึกเหิม ยิ่งเล่นให้คนเมาฟัง แทนที่จะแยกย้ายกันกลับคงได้กลายเป็นการวางมวยแน่ๆ

“อ่อนว่ะ แค่นี้ก็เล่นไม่ได้” คนหนึ่งบอก

“ถ้าไม่เล่นก็กลับไป พวกเราจะกินกันต่อ”

“ผมเล่นเพลงให้พวกคุณฟังแล้ว” วายุท้วง

“เพลงที่คุณเล่นพวกเราไม่อยากฟัง เพลงที่อยากฟังคุณไม่เล่นเอง”

“งั้นผมเล่นให้ฟังก็ได้” วายุเอ่ยแล้วคว้ากีตาร์ไป แต่โดนเจ้าของตัวจริงดึงไว้

“เดี๋ยวก่อน อีกสักชั่วโมงคุณค่อยเล่น”

“ผมจะเล่นตอนนี้ครับ” วายุบอกเสียงเรียบและพยายามข่มอารมณ์ไว้

“อยากเล่นงั้นเหรอ ไปเอาสิ” ชายคนนั้นบอกแล้วโยนกีตาร์ลงพื้น เพื่อนๆ เริ่มโห่ฮาและยุให้วายุก้มเก็บ

“เอ้าเร็วๆ พวกเราอยากฟังแล้ว”

“เก็บเลยๆๆๆ”

“อยากเล่นก็หยิบขึ้นมาเลย” เจ้าของกีตาร์บอกแล้วใช้เท้าเขี่ยกีตาร์ วายุกำมือแน่น เขาเป็นนักดนตรีเป็นคนเล่นกีตาร์ และไม่ชอบให้ใครมาทำกับเครื่องดนตรีสุดรักแบบนี้ แม้กีตาร์ตัวนั้นจะไม่ใช่ของเขา แต่เขาก็ไม่ชอบ

“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง” วายุถามเสียงสั่นอย่างโกรธๆ

“ของๆ ผม ผมจะทำยังไงก็ได้ จะทุบให้มันพังก็ยังได้” เพื่อนของพงศกรตอบเสียงเย็นแล้วคว้ากีตาร์ขึ้นมาก่อนฟาดกับพื้น ทำเอาเพื่อนๆ อ้าปากค้าง

“ทำบ้าอะไรของคุณ” วายุรีบดึงกีตาร์มาแล้วตรงเข้าผลักชายคนนั้น

เกิดขึ้นชุลมุนขึ้นเมื่อเพื่อนๆ ของพงศกรกรูเข้ามากันวายุออกไป แต่แล้วก็มีคนหนึ่งทำเรื่องให้ยุ่งยากขึ้นเมื่อเขาสวนหมัดเข้าใส่ใบหน้าของวายุ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะยืนนิ่งเป็นเป้าอย่างเดียว เขาสวนหมัดกลับไปบ้าง จนเกิดการตะลุมบอนย่อมๆ

“เฮ้ยๆๆๆๆ หยุดๆๆๆ หยุดครับๆ” ธงที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆ รีบเข้ามาห้ามทัพแล้วจับวายุแยกออกมา ไกลออกไป นรีกานต์กับน้อยกำลังตามมาสมทบ

“ทำไมถึงทำอะไรรุนแรงแบบนี้คะ” นรีกานต์ถามเสียงสูงไม่พอใจ เธอหันไปสำรวจวายุเป็นลำดับแรกและต้องโมโหอีกคำรบเมื่อเห็นใบหน้าของเขาแตกยับ มีเลือดซิบ

“เขาคิดจะแย่งกีตาร์ไปเล่น มันเรื่องอะไรที่เราต้องให้” เพื่อนของพงศกรบอก

“แต่ที่ตาลเห็นมันไม่ใช่นะคะ คุณฟาดกีตาร์ลงพื้น คุณลมเลยเข้าไปห้าม และคุณก็ทำร้ายคุณลมก่อน” นรีกานต์บอก

“เอาละๆ เรื่องเข้าใจผิดกัน เลิกๆ กันไปนะ” อีกคนเข้ามาไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นว่าใกล้จนแต้ม

“ฉันจะบอกพี่พงศ์ ให้เขามาจัดการ” เจ้าของรีสอร์ทบอกเสียงเฉียบขาดแล้วหยิบมือถือออกมา แต่ยังไม่ทันโทร แสงไฟจากรถคันหนึ่งก็สาดเข้ามา นรีกานต์หันไปมองและจำได้ว่าเป็นรถของพงศกร เธอเก็บมือถือแล้วยืนกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์ ขณะที่น้อยกับธงพยุงวายุไว้

“อะไรกัน เกิดอะไรขึ้น” พงศกรถามงงๆ เมื่อเห็นคนเจ็บและสีหน้าไม่พอใจของนรีกานต์

“เพื่อนพี่พงศ์ทำร้ายคุณลมค่ะ” นรีกานต์บอกทันที

“เรื่องเข้าใจผิดกันน่ะพงศ์ ไม่มีอะไรหรอก”

“ไม่มีอะไรไม่ได้ค่ะ พวกคุณก่อเรื่องที่รีสอร์ทจนวุ่นวาย...ตาลขอโทษด้วยนะคะที่ต้องขอให้เพื่อนๆ ของพี่พงศ์ย้ายออกไปพักที่อื่น”

“ตาล” พงศกรเรียกเสียงตกใจ

“ตาลพูดจริงๆ ค่ะ เพื่อนพี่พงศ์เอาเหล้ามากินทั้งที่มีข้อห้ามติดอยู่ แถมยังส่งเสียงดังรบกวนลูกค้าคนอื่น และยังทำร้ายคุณลมอีกด้วย ตาลยอมไม่ได้ค่ะ ตาลให้เพื่อนๆ พี่พงศ์พักที่นี่ไม่ได้”

“ตาลครับ”

“บอกเพื่อนๆ ของพี่ให้เก็บของออกจากรีสอร์ทด้วยค่ะ” นรีกานต์บอก แล้วเดินเลี่ยงไปยืนใกล้วายุ พงศกรยืนอึ้งกับความเด็ดขาดของเธอและพยายามทำหน้าอ้อนวอนเพื่อเรียกคะแนนความสงสาร แต่ดูเหมือนว่าจะยิ่งเพิ่มความไม่พอใจให้เธอ ทำให้เขาต้องหันไปเล่นงานเพื่อนแทน

“ไป เข้าไปเก็บของเร็วๆ”

เพื่อนๆ ต่างทำหน้าจ๋อยกันเป็นแถบก่อนเดินเข้าห้องพักเพื่อเก็บของ จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าออกมาและตรงไปที่รถของพงศกร

“พี่ขอโทษแทนเพื่อนๆ ด้วยนะครับ แล้วพี่จะจัดการพวกมันเอง”

“ขอบคุณค่ะ”

“หวังว่าตาลจะไม่เอาเรื่องพวกมันนะครับ”

“เรื่องนี้ต้องถามคุณลมค่ะ เขาเป็นคนเจ็บไม่ใช่ตาล” เธอบอกห้วนๆ

“ไม่ครับ ผมไม่เอาเรื่อง” วายุบอก

“แต่คุณเจ็บมากนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ ใส่ยาก็หายแล้ว อย่าให้ต้องมีเรื่องเลยครับ” เขาบอกแล้วฝืนยิ้ม

“ตรงนี้หมดเรื่องแล้ว พี่ธงกับพี่น้อยพยุงคุณลมเข้าไปพักก่อนนะคะ ตาลจะไปดูความเรียบร้อยในห้องและจะไปบอกแขกห้องอื่นด้วย”

“ได้ค่ะ”

“เชิญพี่พงศ์กับเพื่อนกลับด้วยค่ะ” นรีกานต์หันไปพูดกับพงศกรเสียงเรียบ

“พี่ขอโทษตาลด้วยนะครับที่เพื่อนๆ ก่อเรื่องขึ้น”

“คนที่พี่พงศ์ต้องขอโทษคือคุณลมค่ะ” เธอเอ่ย ขณะที่พงศกรมีท่าทางลังเล

“ตอนนี้เขาเจ็บอยู่คงอยากพักผ่อนมากกว่า ยังไงพี่จะมาขอโทษเขาวันหลังนะครับ วันนี้พี่ขอตัวกลับก่อน”

“เชิญค่ะ ตาลไม่ส่งนะคะ” จบประโยคนั้น นรีกานต์ก็เดินแยกออกตัวออกไป




“บ้าที่สุด! ใครบอกให้พวกนายทำแบบนี้” พงศกรตะโกนใส่เพื่อนเมื่อเข้ามาในรถโฟร์วีลเจ็ดที่นั่ง เพื่อนๆ ของเขานั่งมองหน้ากันไปมา คนที่นั่งหลังสุดดูจะสบายกว่าเพื่อน เพราะไม่ต้องเห็นแววตาคาดคั้นของคนขับ

“เราตกลงกันว่ายังไง นายจำได้มั้ย พวกนายจำได้มั้ย!” เขาถามเสียงดัง

“จำได้”

“จำได้ว่าอะไร”

“ให้พวกเราทะเลาะกับลูกค้าอีกห้องที่นายจ้างมา และประมาณสองทุ่มครึ่งนายก็จะมาถึงและเข้ามาห้าม”

“แล้วไหน...ไหนเพื่อนอีกห้อง ไหนทะเลาะกันสองทุ่มครึ่ง อยู่ไหน พวกนายบอกฉันสิ”

“พงศ์ พวกเราขอโทษ คือ...มันคึกไปหน่อยน่ะ ไอ้หนุ่มนั่นมันอวดเก่ง เล่นกีตาร์ดีกว่าฉัน ฉันเลยท้าให้มันโซโล่กีตาร์ แต่มันไม่ยอมทำ ฉันรู้ว่ามันทำได้แต่มันเล่นตัว พอฉันจะฟาดกีตาร์มันเลยเข้ามาผลักฉัน แต่ฉันไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน”

“ไอ้พลเป็นคนเริ่ม” คนหนึ่งพูดแล้วชี้มือไปที่เพื่อนที่นั่งอยู่ท้ายสุด เขาคงรู้ตัวเลยหนีไปนั่งเสียไกล

“ใช่ๆ ไอ้พลเป็นคนเริ่ม จากนั้นไอ้หนุ่มนั่นก็สวนหมัดใส่ แล้วฉัน...เอ่ออ ฉันก็เป็นคนจัดการมันต่อเอง”

“เสียแผนหมด ใครบอกให้พวกนายเอาเหล้ามากินก่อนเวลา”

“โธ่! พงศ์ เหล้าขวดใหญ่ๆ วางอยู่ใกล้มือขนาดนั้น จะปล่อยไว้เฉยๆ ได้ยังไง เสียของหมด แล้วพวกเราก็กินกันไปแค่นิดๆ หน่อยๆ เอง”

“ถ้านิดหน่อยแล้วเกิดเรื่องได้ยังไง”

“ก็ไอ้หนุ่มคนนั้นนั่นแหละที่เขามายุ่ง พวกเราคุยกับแม่บ้านเรียบร้อยแล้ว เขาก็บอกว่าได้ แต่อย่าทำเสียงดังรบกวนคนอื่น แถมมันยังทำเป็นอวดเก่งเล่นกีตาร์ระดับเทพใส่พวกเราอีก ใครมันจะไปทนได้วะ”

“ไม่ต้องมาอ้างนู่นอ้างนี้ แผนที่ฉันใช้เวลาร่วมเดือนต้องพังหมด รู้มั้ยว่ากว่าจะหาวันที่มีห้องพักครบทุกห้องมันยากแค่ไหน ฉันอุตส่าห์เหมารีสอร์ทให้พวกนายและเพื่อนอีกห้องให้พักฟรีๆ แล้ว แผนแค่นี้ยังทำไม่สำเร็จอีก โธ่เอ๊ย!” พูดจบ เขาก็ตบพวงมาลัยระบายความอัดอั้น ขณะที่เพื่อนยิ้มแห้ง

“ไว้โอกาสหน้าแล้วกันพงศ์ พวกเราจะทำให้เต็มที่เลย”

“ไม่มีคราวหน้าคราวไหนอีกแล้ว ไม่รู้ว่าตาลจะโกรธฉันแค่ไหน แทนที่จะกลายเป็นฮีโร่ดันกลายเป็นหมาหัวเน่าไปได้ แถมยังไปเพิ่มคะแนนสงสารให้มันอีก เจ็บใจจริงโว้ยยย” พงศกรตะโกนลั่นรถ




...........................................

ตอนนี้ เล่ห์วายุ วางแผงในรูปแบบอีบุ๊กแล้วนะคะ สามารถโหลดได้ตามช่องทางต่างๆ ค่ะ 

 


โหลดจากเมพ -->> เล่ห์วายุ

โหลดจากอีบุ๊กส์ -->>  เล่ห์วายุ

โหลดจากอุ๊คบี -->> เล่ห์วายุ



Create Date : 23 กันยายน 2558
Last Update : 23 กันยายน 2558 11:15:07 น. 1 comments
Counter : 566 Pageviews.  
 
 
 
 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:17:04:42 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com