"Never a failure, always a lesson !"

งาน :: เมื่อได้งานเมืองผู้ดี (แล้วดันลาออก) ภาคจบ



ได้ฤกษ์มาต่อให้จบซะทีละทีนี้ หลังจากดองมานานจนเหม็นเบื่อ จขบ.มีเวลาซักทีหลังจากได้หยุดงานจากห้าง Marks&Spencer ที่ทำอยู่ค่ะ เฮ้อ...

เท้าความก่อน ว่ากว่าจะได้งานนี้ (ที่ลาออกไปแล้ว) มานั้น จขบ.ต้องฝ่าด่านทดสอบหินๆเดือดๆ มาหลายด่าน เช่น

เมื่อได้งานเมืองผู้ดี ภาค 1 --> //www.bloggang.com/viewblog.php?id=sorrow-sucker&date=01-04-2010&group=5&gblog=5

เมื่อได้งานเมืองผู้ดี ภาค 2 --> //www.bloggang.com/viewblog.php?id=sorrow-sucker&date=01-04-2010&group=5&gblog=6

เมื่อได้งานเมืองผู้ดี ภาค 3 --> //www.bloggang.com/viewblog.php?id=sorrow-sucker&date=02-04-2010&group=5&gblog=7

หลังจากฝ่าด่าน 18 อรหันต์มาได้ ก็ได้ทราบข่าวว่าเนื่องจากธรรมชาติของงานที่ทำ จขบ.จะต้องโทรศัพท์ไปที่องค์กรและบริษัทต่างๆในไทย เวลาทำงานที่ตรงกับเวลาราชการที่ไทยก็คือ "กะดึก" ของที่นี่นั่นเอง ด้วยเหตุนี้จขบ. จึงต้องกลายมาเป็นผู้หญิงกลางคืน เข้างานตีสอง ออกจากงานสิบโมงเช้า.. เป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก เพราะเวลาไปทำงานต้องนั่งแท็กซี่ไปทำ คนขับแท็กซี่ก็ชอบพูดแซวแปลกๆ ประกอบกับเวลางานแปลกๆ ที่ทำให้ชีวิตประจำวันแปลกไปด้วย (ทำตัวอย่างกะพี่คริส กะพี่เคน รถไฟฟ้ามหานะเธอ) นอนตอนกลางวัน ตื่นมากินข้าวตอนเที่ยงคืน ที่รักเองก็สะดุ้งตื่นไปด้วยเพราะตั้งนาฬิกาปลุกตอนดึก ตื่นขึ้นมาก็ทำอะไรต่ออะไรกุกๆกักๆ เวลาที่เคยมีให้กันก็ลดลง กับข้าวก็ไม่ได้ทำให้ฝาชี ด้วยเหตุนี้ หลังจากเวลาหนึ่งเดือน (ซึ่งเป็นประสพการณ์ที่ดีมากๆ) จขบ.และที่รักก็เห็นพร้องกันว่า "แบบนี้ต้องลาออก" ค่ะ

เข้าไปทำงานแล้วเจอเพื่อนร่วมงานดีๆหลายคน เป็นคนกลางคืนกันทั้งนั้น แต่คนที่กระดี๊กระด๊าเรื่องไทยๆ ชอบคนไทย (สาวไทย) อาหารไทย เมืองไทย พริกไท.. (เอ๊ะ เกี่ยวมั๊ย?) ก็คือคนนี้เลย หนุ่มน้อย Brandon (แบรนด้อน) ซึ่งพอบอกว่าจะถ่ายรูปเธอไปลงบล็อค เธอบอกว่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง อย่าลืมลงอีเมล์ไอไปด้วยนะ I love Thai girls.. (หูดำจริงๆนายแบรนด้อน)



ส่วนบรรยากาศการทำงานนั้นก็เรียบง่าย เพราะคนกะดึกจะอยู่กันไม่กี่คน แต่ละคนมีสิ่งที่เหมือนกันก็คือชอบหิวตออนดึกๆ จขบ.เลยทำข้าวผัดหรือผัดไทยไปฟาดปากคนละกล่อง ติดใจไปตามๆกัน เรื่องงานเลยไม่ติดๆขัดๆ เพราะ "มีเส้น(ผัดไทย)" นั่นเอง

รูปนี้ถ่ายแถวๆ reception area ในบริษัทค่ะ



ส่วนนี่เป็นออฟฟิศยามดึก เอากล้องมาถ่ายได้ตามใจไม่ต้องเขิน เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มาทำงานกันตอนเช้า ดึกๆก็เลยเงียบซะแบบนี้



โต๊ะทำงานรังหนูของจขบ.ตอนนั้น..



ตัวงานจริงๆก็คือหาผู้ที่สนใจในโปรเจ็กท์ต่างๆที่ทางลูกค้าของจขบ.นำเสนอ (ไม่ได้ขายบัตรเครดิตนะคะ) ส่วนใหญ่จะเป็นอะไรๆก็ตามที่เกี่ยวกับ IT Product เช่น ระบบโทรศัพท์ IP telephony หรือ ซอฟแวร์ต่างๆ ก็ว่ากันไป




เมื่อได้ผู้ที่สนใจก็ทำรายงาน Lead Generating ส่งต่อไปที่หัวหน้าแผนก ส่งต่อไปยัง Q.C. ถ้าผ่านก็ส่งต่อไปให้เซลล์ประจำภาคพื้นแปซิฟิกไปติดต่อผู้ที่สนใจกันเองค่ะ

(พูดเหมือนง่าย แต่ที่ยากๆก็คือเวลาที่ปลายสายไม่อยากรู้ ไม่อยากฟัง ไม่เอาๆๆๆๆ อะไรทั้งนั้น วันนี้มู๊ดดี้ แบบนี้ก็ยากค่ะ)

จขบ.ทำยอดได้ทะลุ 100% ทุกสัปดาห์ ตอนที่ลาออกจากงานจึงมีการคุยเครียดกันหลายยก เพราะไม่อยากให้ไป (ก็ใครเล่าจะอยากมาทำงานดึกๆทุกวัน)

แต่ยังไงนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำค่ะ
หากใครชอบนอนกลางวัน และเป็นค้างคาวยามดึก และชอบเม็าท์ข้ามทวีปละก็ น่าจะสนใจงานนี้นะคะ รับรองว่าค่าแรงดีทีเดียว สมกับที่ต้องแปลงร่างเป็นแพนด้าแน่นอน !!!



ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะค้า

With loads of love

Sorrow's Sucker




 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 13:36:16 น.
Counter : 2329 Pageviews.  

งาน :: Marks&Spencer เล่าสู่กันฟัง

โทรไปหาใครๆที่ไทย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
"ร้อนก็ร้อนอยู่แล้ว แต่ใจมันร้อนยิ่งกว่า"

เห็นใจทุกคนที่ต้องได้รับความเดือดร้อนกัน
สิ่งเดียวที่ จขบ.ทำได้ก็คือ "ภาวนา" ให้ทุกอย่างสงบซักที..

วันนี้หยุดอยู่บ้านหลังจากที่ได้ไปเทรนด์งานมา 2 วัน

สุขาพนักงานที่ M&S มีถ้อยคำปลูกฝังจิตสำนึกรักองค์กรไว้ให้เห็นทั่วไป เช่นสองอันนี้



หรืออันนี้



ตกลงว่าสัญญาที่ได้มาเป็น permanent ไม่ใช่ temporary อย่างที่คิด
ได้อยู่ด่านแรกของห้าง ก็คือ "ปากท้อง" ของห้างนี่เองค่ะ

ได้เสื้อโปโลมาสองตัว ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูเพราะยังปั่นอยู่ในเครื่องอบผ้า แล้วก็ได้กางเกงดำ กับเสื้อ fleece มีอีกหนึ่ง



ด้านหลัง



ในซองก็เป็นสัญญาว่าจ้างงานกับแบบฟอร์มสมัครส่วนลด 20% ให้คนที่ชอบๆ อีกใบ.. ของราคาปกติจะได้ลด 20% และที่ลดราคาแล้ว ก็ลดไปอีก 20% ค่า

เดี๋ยววันจันทร์จะเริ่มงานวันแรก ถ้ามีอะไรเด็ดๆจะนำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ

ส่วนตอนนี้... ขอไปมีความสุขแบบเรียบง่ายกับอ่างก่อนนะคะ



ส่วนเรื่องภาคจบของ "เมื่อได้งานเมืองผู้ดี แล้วดันลาออก" จะมาต่อแน่นอน ไม่เกินสองวันเน้ออออ

With loads of love

Sorrow's Sucker




 

Create Date : 23 เมษายน 2553    
Last Update : 20 มิถุนายน 2553 19:55:08 น.
Counter : 979 Pageviews.  

งาน :: ได้งานที่ Marks&Spencer ไม่ต้องลุ้นอีกแล้ว :)

แทนที่จะได้เขียนตอนจบ "เมื่อได้งานเมืองผู้ดี..แล้วดันลาออก"
จขบ.ขอมาแชร์ประสบการณ์ และส่งข่าวว่า ได้งานแล้ว..ไม่ต้องอยู่บ้านนั่งอ้วน ตกงานอีกต่อไปค่ะ



ช่วงที่ผ่านมา จิตตก เนื่องจากจขบ.ไปสัมภาษณ์งานตำแหน่ง Leisure Receptionist ที่เมือง Basingstoke มาแล้วได้งาน แต่ด้วยกรรมบัง ไม่มีรถเมล์นั่งไปทำงาน ก็เลยต้องนั่งเก็กซิมด้วยเหตุฉะนี้..

พักใจด้วยการกินอิ่ม กลับก่อน นอนหลับอยู่เป็นเดือน ในที่สุดก็ฮึดขึ้นมา..หางานดีกว่า..จขบ.เริ่มคิด ต่อไปนี้ไม่เอาแล้วงานต่างเมือง ต่อไปนี้ไม่เอาแล้วงานที่โดนบังคับทำวันเสาร์ และอาทิตย์...อืม จะสมัครอะไรดีหล่ะนี้.

ว่าแล้ว Marks&Spencer ก็ผลุ่บเข้ามาในสมองอันน้อยๆค่ะ

ว่าแล้วก็เข้าเน็ท หาตำแหน่งว่าง เข้า Google พิมพ์คำว่า Marks&Spencer careers และคลิ้ก Apply now

เหมือนพระเจ้าจะมีตา !!! มีตำแหน่งงานพาร์มทาร์มว่างในเมืองที่จขบ.อยู่พอดีค่ะ.. ว่าแล้วก็ Apply !

เข้าไปเจอแบบทดสอบความดีงามเรียกว่า Screening test เหมือนเค้าจะดูว่าเรามี service-mind หรือไม่... จขบ.สวมวิญญาณพจมานต์และดาวพระศุกร์ทันที !!! พยายามคิดว่าตัวเองเป็นคนดีที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน.. และทำแบบทดสอบที่ว่า ความยาวประมาณ 15 ข้อ ไม่จำกัดเวลา...

ผลออกมา "ผ่านนะพจมานต์ เธอมาที่สาขาเราได้เลย เลือกวัน เวลาตามนี้" มันออกมาเลยอัตโนมัติค่ะ.. เลยเลือกวันสัมภาษณ์ และไปมาเมื่อวานนี้ค่ะ

ไปถึง ผู้สัมภาษณ์สุดหล่อให้ข้อมูลมาสามแผ่น ให้เวลาอ่านห้านาที ติ๊ต่างว่าให้จขบ.ทำงานเป็น Customer Assistant ห้างนี้ ผู้สัมภาษณ์สุดหล่อ จะสวมบทบาทนักแสดงรางวัลออสการ์ เข้ามาในร้าน และชี้ๆๆๆๆว่าจะเอาอีโซฟา Red Velvet Gothic Collection ให้ได้ แต่ทางร้านไม่มีสินค้า ที่มีก็มีแต่ตัวใหญ่ ลูกค้าจะเอาตัวกลาง ผู้จัดการร้านก็ไปกินข้าว ไม่มีใครเหลืออยู่ให้ถามเลย แล้วก็มีเบอร์สาขาใกล้เคียงมาให้ มีตัวอย่างผ้าโซฟาสีอื่นๆให้ ให้โจทย์มาแบบนี้...พจมานต์จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ?

จขบ.ไปหาในพี่กูเกิ้ล เค้าว่าจะให้ช่วยลูกค้าเลือกซื้ออาหารไปงานปาร์ตี้... เจอแบบนี้เลยหน้าตึงเป็นอย่างยิ่ง.. แต่ก็สวมบทบาทนักขายบวกกับแม่ชีเทเรซ่า ที่เข้าใจความรู้สึกของคนที่อยากได้โซฟาตัวนี้แทบตายๆๆๆๆ ก่อนอื่นขอโทษอย่างสุภาพก่อน (ขายไม่ได้อ่ะเซอร์) ต่อไปก็กดโทรศัพท์สาขาใกล้ๆถามว่ามีมั๊ย ต่อไปก็บอกลูกค้าว่ามี ลูกค้าบอกแต่อยากได้วันนี้อ่ะ..ตอนนี้เลย จขบ.พยายามขายตัวใหญ่ให้แทน ลูกค้าบอกไม่แน่ใจว่าจะเข้ากับห้องได้รึเปล่า จขบ.เอาตัวอย่างผ้าสีอื่นๆให้ลูกค้าดู ลูกค้าไม่เอา.. สุดท้าย จขบ.งัดกลยุทธว่า ถ้าสั่งออนไลน์ ลดค่าส่ง 20% นะสนมั๊ยคะ..สุดท้ายก็ซื้อจนได้... เฮ้อ..

คนสัมภาษณ์หายไปสองนาที กลับมาบอกว่ายินดีด้วย..ประเมินผ่าน แต่ขอตินิดนึง รู้สึกว่า Role play ของยูจะดูการ์ตูนไปนิดส์นะ.. เพราะตอนกดโทรออกไปสาขาอื่นน่ะ ยูทำเสียง "ตู๊ดดดดๆๆๆๆๆๆ" ตอนกดด้วย.. (ฮ่าๆๆๆๆๆ)

พอผ่านเจ้าหน้าที่ก็พาไปอีกห้องนึงค่ะ เอาตัว P45 ใบผู้เสียภาษีไปถ่ายเอกสาร และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลบอกว่า เราจะ 'Put you on hold' ไว้ก่อน ประมาณว่าต้องเข้าใจว่าเรายังมีผู้สมัครท่านอื่นอีก..และเราต้องการคนที่ดีที่สุดจริงๆ.. ยังไงวันพุธจะโทรมาบอกผลนะจ๊ะ

แต่ยังไงก็ตามวันถัดมาเจ้าหน้าที่ท่านนี้ก็โทรมาเลย (ไหนบอกรอวันพุธไง)

จขบ.ได้งานค่ะ ทำ 16 ชม.ต่อสัปดาห์ ไม่ต้องทำวันเสาร์และอาทิตย์ ต่อไปนี้ก็จะไม่ต้องอดตายแล้ว +++ ที่สำคัญจะมีเวลาทำกับข้าวให้ที่รักด้วย...

เฮ้อ...ผ่านน้ำตามาเป็นเหยือก สุดท้ายก็ได้งาน "ที่ใช่" ซักทีนึง

No more กะดึก
No more ไม่มีรถไปทำงาน
No more ทางเดินเปลี่ยวๆ
No more บังคับทำงานเสาร์ อาทิตย์..

แบบนี้...จะเรียกว่าจบแบบ Happy Ending ได้รึยังคะนี่ !!

จขบ..เป็นกำลังใจให้คนไทยต่างแดนทุกท่านที่หางาน ขอให้มีความมั่นใจ ความตั้งใจ ซักวันนึง ต้องได้งานที่หวังนะคะ

With loads of love

Sorrow's Sucker




 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 1:34:01 น.
Counter : 1120 Pageviews.  

งาน :: เมื่อได้งานเมืองผู้ดี (แล้วดันลาออก) ภาค 3



รีบมาต่ออย่างไวค่ะ ความคิดกำลังพลุ่งพล่าน !

ภาคนี้ และภาคหน้า จะรวบให้จบภาคหน้านี่หล่ะค่ะ พยายามแล้วจริงๆที่จะทำให้มันสั้น แต่ขั้นตอนที่ว่ากว่าจะได้มานั่งทำเสียงสวยนี่มันเยอะซะจริงๆ..

ภาคที่แล้ว เจ้าหน้าที่โทรมา Congrats สุดฤทธิ์ สมองกลวงๆที่เลือกจะฟังแต่สิ่งที่ตัวเองอยากฟังมันสั่งการให้บอกตัวเองว่า ได้งานแล้ว (เฟ้ย) ไปเม้าท์น้ำลายแตกฟองให้พ่อแม่ฟัง..พ่อแม่ดีใจแทบปิดซอยเลี้ยง.. ความจริงก็คือ ทาง Recruiter นัดไป ให้ไปในบริษัท B2B (Business 2 Business) ที่ว่าเพื่อไปประเมินขั้นสุดท้าย หรือที่เรียกว่า "Assessment Day" นั่นเองค่ะ

วันนั้นไปถึงแต่เช้า ไปถึงคนแรก ก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมง ไปช่วยภารโรงเปิดประตูบริษัท นั่งๆไปก็มีคนทยอยมากันเรื่อยๆ ที่แปลกก็คือมีตัวเองหัวดำกระเหรี่ยงอยู่คนเดียว ที่เหลือ (เท่าที่เสวนามา) เป็นคนฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน แทนซาเนีย หรือไม่ก็คนอังกฤษที่พูดได้มากกว่าหนึ่งภาษา นับรวมกันแล้วได้ประมาณ 12 ชีวิต.. อายุเท่าที่สังเกตุมีตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปยัน 40 กว่าๆ ประมาณ 10 โมงทุกคนถูกเรียกไปรวมตัวกันในห้องประชุมค่ะ แต่ให้นั่งดู Presentation เกี่ยวกับบริษัท จขบ. จดๆๆๆๆๆๆ ไม่ยั้ง ทำตัวเหมือนตอนเรียน จะมี top note มีดอกจันทร์เยอะมากๆ จดไปแบบแก้เขิน

จำได้ว่าวันนั้นเข้าไปถึงบริษัท 9 โมงเช้า และออกจากบริษัทมาเกือบๆ สองโมงเย็น.. มันเป็นอะไรที่หินมาก จขบ. มารู้ที่หลังว่าไม่ใช่ทุกคนใน 12 คนที่คัดตัวมาแล้ว จะได้เข้าไปทำงานจริงๆ บางคนก็กินแห้ว.. เป็นที่น่าเศร้าใจ เพราะเหมือนทุกคนก็ลงทุนลงแรงมากันทั้งนั้น กว่าจะมาถึงจุดนี้..

วันนั้น เราถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มๆละ 6 คน ทุกคนได้รับ information ความยาว 12 หน้ากระดาษ เกี่ยวกับข้อมูลของโรงหนังแห่งหนึ่ง เป็นที่ตั้ง ประเภทหนังที่ฉาย ราคาตั๋ว ราคาเครื่องดื่มและของว่าง รายได้ของโรงหนังในไตรมาสต่างๆ และรายได้ที่ต้องการ

โจทย์ :: ให้ทำ Presentation ความยาว 5 นาที จากข้อมูลที่ให้ไป ใครที่คุณต้องโทรไปเพื่อชักชวนให้มาดูหนังที่โรงหนังนี้ โทรกี่สายต่อวัน ต่อคน กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็นใคร เมื่อโทรไปคุณจะพูดอย่างไร มีอะไรที่จะเป็น Selling point ตรงนี้ และอื่นอีกเพียบ (ให้ 5 นาทีเนี่ยนะ !!!)

จขบ.ลืมบอกว่า Information ที่เค้าให้มา เค้าให้อ่านโดยให้เวลา 10 นาที จากนั้นเค้ามายึดคืนไปเฉยเลยตอนที่ให้ทำงานกลุ่ม.. ตรงนี้เลยที่นิสัยบ้าจดของ จขบ. กลายมาเป็นประโยชน์ เพราะจขบ.จดเอาไว้เยอะมาก (ขอบคุณอาจารย์ นวลน้อย ผู้สอนวิชา Summary การจดแบบเอาใจความสำคัญ..หนูได้ใช้จริงๆก็วันนี้ค่ะอาจารย์) จดไว้แม้กระทั่ง ราคาป็อปคอร์น หรืออายุเฉลี่ยของคนที่เข้าไปดูหนัง..

ตอนทำงานกลุ่ม ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์มากจริงๆ เพราะในคน 6 คน มีแต่จขบ.และสาวเยอรมันอีกคนที่จดเอาไว้ นอกนั้นอ่านแล้วหายไปในอากาศเรียบ !! ระหว่างที่เตรียมงาน และพรีเซ็นต์งานนั้น มีเจ้าหน้าที่ 3 ท่านคอยดูเราอยู่แบบระยะเผาขน ดูว่าใครทำงานอย่างไร จขบ.ไม่เก่งเลขและคำนวณ จึงทำหน้าที่ตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อสรุป และทำหน้าที่เป็นผู้ประสานคนไม่ช่างพูดให้พูดแสดงความคิดเห็นออกมา ด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงกระเหรี่ยงเหวี่ง Self สุดท้าย งาน presentation ของกลุ่มเราดีมาก และได้เป็นทีมที่ชนะจากสองกลุ่ม... (เหงื่อแตกซิก)

บอกผลเสร็จ ช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ให้เราประเมินกันเอง มีเกมส์กำจัดจุดอ่อนให้เล่น โดยที่ทางบริษัทให้ทุกคนเขียนชื่อคนในกลุ่มที่คุณคิดว่า Weakest และ Strongest ออกมา และให้ประเมินตัวเองด้วยในแต่ละหัวข้อ ยกตัวอย่างเช่น "คุณคิดว่าเมื่อทำงานในกลุ่ม คุณมีความเป็นผู้นำมากแค่ไหน 1 = น้อยสุด 5= มากสุด) ถึงตอนนี้ถ้าไม่เห็นว่าฝ่าฟันมานานคงเดินออกไปแล้ว เพราะจขบ.ไม่ชอบ criticize คนอื่นโดยที่ไม่รู้จักคนๆนั้นดีจริงๆ สุดท้าย ข้อที่เค้าให้เขียนว่าคนที่อ่อนที่สุดในกลุ่มคือใคร จขบ.เขียนไปว่า 'N/A' Everybody worked with their own paces equally....

กลับมาบ้าน เจอหน้า ฝาชีเข้ามากอดสุดฤทธิ์ ถามว่าเป็นยังไงบ้างวันนี้ กลับช้านะ รอแทบแย่.. ไม่มีคนทำกับข้าว จขบ. ไม่พูดมาก เพราะพลังงานหมดไปแล้วตอนบ่ายโมง เมื่อหัวถึงหมอน ก็น็อคไปเลยสามชั่วโมงค่ะ

ผ่านไปหนึ่งวัน.. เจ้าหน้าที่บริษัทจัดหางานหน้ามน ก็โทรมาบอกว่า "You've nailed it !!" คุณทำด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ทางบริษัทชอบการทำงานของคุณมาก ให้ไปเทรนด์งานสองวันแรก เราจะจ่ายให้ในวันเทรนด์งานด้วย... ส่วนค่าแรงก็ตามที่ตกลง 1x.xx ปอนด์ ต่อชั่วโมงนะจ๊ะ...

ในที่ซู๊ดก็ได้... จำได้ไม่ลืมค่ะ !!!



ภาคหน้าจะเป็นภาคสุดท้าย การเทรนด์งาน การทำงาน และการลาออกจากงานภายในเวลาอันรวดเร็ว

ขอบคุณทุกๆท่านที่ยังอ่านอยู่จนถึงตอนนี้นะคะ

With lots of love

Sorrow's Sucker




 

Create Date : 02 เมษายน 2553    
Last Update : 2 เมษายน 2553 1:11:45 น.
Counter : 1231 Pageviews.  

งาน :: เมื่อได้งานเมืองผู้ดี (แล้วดันลาออก) ภาค 2

ต่อจากภาคที่แล้ว..
หลังจากที่จขบ.ได้ทราบข่าวจากบริษัทจัดหาคนทำงานว่าผ่านการ Screen ขั้นแรก จขบ.คิดว่าทำข้อสอบ online ที่ว่า ผ่านแล้วก็คงได้งาน (คิดผิดไปเยอะมาก) และโดนคุณ recruiter ใจร้าย แต่ว๊ายหล่อ โดนกระทุ้งๆๆๆให้เข้าไปทำข้อสอบ จขบ.เข้าไปอ่านตัวอย่างข้อสอบแบบผ่านๆ แล้วคิดกับตัวเองว่า สงสัยจะไม่รอด แต่ต้องลองซักตั้ง จขบ.ก็เริ่มทำข้อสอบที่ว่า โดยมีคำถามรวมกันประมาณห้าสิบข้อ ให้เวลาทำไม่เกินสี่สิบนาที หน้าจอข้อสอบจะถูกปิดเองโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะทำเสร็จหรือไม่ก็ตาม

เอาตัวอย่างข้อสอบมาให้ดู ปกติคำนวณก็ยากอยู่แล้ว แหม๊ !! นี่ให้คำนาณเป็นภาษาปะกิดอีก จ๊ากส์ !!



อย่างข้อนี้.. เงินที่ต้องชำระคืนในแต่ละเดือน ของเงินกู้ 2400 ปอนด์ ในเวลาหนึ่งปี (พระเจ้าช่วยกล้วยแขก)



หรือข้อนี้.. ถามประมาณว่า คนๆหนึ่งออกเดินทางจากสเตอริ่งเวลาแปดนาฬิกา เดินทางด้วยความเร็วเฉลี่ย 50 ไมล์ต่อชั่วโมงไปยังAviemore แล้วเธอก็หยุดพักเป็นเวลา 20 นาทีก่อนออกเดินทางต่อไป เธอจะออกจาก Aviemore เวลากี่โมง (กรี๊ดสสสสสสสสสสสสส์)



ตัวอย่างข้อสุดท้าย (นี่แค่ตัวอย่างนะคะ) ให้อ่าน Passage แล้วตอบคำถาม (ให้เวลาอ่านข้อละไม่เกินสามนาที)



ตอนทำข้อสอบ ระดับไทรอยด์น่าจะสูงขึ้นไปถึงเพดาน พระเจ้าาาา จะให้ทำไปทำไมเนี่ย จะได้เอาไปใช้ในงานจริงๆเหรอ จขบ. คิด.. ทาง Recruiter หนุ่มหล่อย้ำว่าอย่าไปเครียดซิยู ทำได้หกสิบเปอร์เซนต์ก็ผ่านแล้ว ง๊าย ง่าย เน๊อะ (เน๊อะอะไร !! อย่ามาเน๊อะนะ)

... เนี่ยหล่ะน้า..แทนที่จะอ่านตัวอย่างข้อสอบให้ดีก่อนทำข้อสอบ.. มักง่าย อ่านผ่านๆแล้วเข้าไปทำของจริงเลย.. ใครอย่าทำแบบจขบ.นะคะ ไม่ดี)

สุดท้ายทำข้อสอบเสร็จแล้วเก็กซิม ก็เลยไปต้มมาม่ารสหมูสับกินเป็นการด่วนสองซองด้วยกัน.. ฝาชีที่รักคอยให้กำลังใจ บอกว่า "i told you to prepare !" ... นะ.... ยังไงก็ตาม เวลาผ่านไป อีกหนึ่งวันถัดมา Recruiter ก็โทรศัพท์มายินดีด้วย !!! บอกว่าเธอทำข้อสอบผ่านหล่ะ ยินดีด้วย ! (จนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าเค้าโกหกรึเปล่า ผ่านจริงๆเหรอ เฮ้ยเอาจริงดิ.. มั่วไปเยอะเลยนะ)

จขบ.ดีใจ กระโดดตึงๆๆๆ พื้นบ้านยุบ รีบโทรบอกฝาชี.

" I've got a job BABE !!"

หารู้ไม่..

ว่านี่เป็นการเข้าใจผิดไปอย่างเยอะ..

ใครบอกหล่อนว่าได้งานจ๊ะ Sorrow's Sucker?

(โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ)

(ใครยังอ่านกันอยู่ขอเสียงหน่อยค่า)

With Lots of love

Sorrow's Sucker




 

Create Date : 01 เมษายน 2553    
Last Update : 2 เมษายน 2553 0:06:14 น.
Counter : 905 Pageviews.  

1  2  

Sorrow Sucker
Location :
Around UK United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ใช้ชีวิตให้เต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าชีวิตจะจบลงเมื่อไหร่"

"Live my life just like today is the last day"
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Sorrow Sucker's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.