When the Devil Calls Your Name / สัญญาปีศาจ
หากชีวิตของคุณตกต่ำจนถึงขีดสุด หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง  ปีศาจตนหนึ่งยื่นข้อเสนอให้คุณขายวิญญาณแลกกับสิ่งที่คุณต้องการนาน 10 ปี  คุณจะรับข้อเสนอนั้นไหม ?



      ซอดงชอน อดีตนักดนตรีวงดูโอ Liver and Gallbladder วัย 50 กว่า ผู้เคยมีชื่อเสียง แต่เมื่อหมดยุคของเขา ไม่ว่าจะไปเสนอขายเดโม่เพลงที่ไหน ก็ไม่มีใครรับ ไม่มีงาน ย่อมไม่มีรายได้ ไปเล่นดนตรีริมถนน ก็ถูกคนวิ่งราวกระเป๋ากีตาร์ที่ใช้ใส่เงินเสียอีก  เขาวิ่งไล่ตามหัวขโมยไปจนตกหลุมกลางถนน... นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาพบปีศาจ และทำสัญญาขายวิญญาณ
     ซอดงชอน ถูกช่วยขึ้นมาจากหลุมในร่างใหม่ หนุ่มกว่าก่อน จึงเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น ฮาริบ และเข้าไปเป็นโปรดิวเซอร์-นักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จจนร่ำรวย ได้รับความนิยม กวาดรางวัลมามากมาย มีชื่อเสียงโด่งดัง

     สิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อฮาริบได้จดหมายแจ้งเตือนว่า อีก 6 วันสัญญาที่เขาทำไว้กับปีศาจจะหมดลง ! แน่นอน ฮาริบพยายามหาวิธีต่าง ๆ ที่จะทำให้ปีศาจยกเลิกสัญญาหรือขอต่อรองยืดเวลาออกไป แต่ปีศาจก็ยื่นข้อเสนอให้หา “วิญญาณชั้นดี” มาเซ็นสัญญาแทน ซึ่ง คิมอีคยอง (นางเอก) คือ เป้าหมายของเขา...



 
        ฉันดูซีรีส์เรื่องนี้ เพราะชอบอีซอล (นางเอก) แต่กว่าจะตัดสินใจดู ก็ถูกดองไว้หลายเดือน ฉันกลัวจะเป็นซีรีส์เศร้าเคล้าน้ำตา เลยได้แต่เปิดเพลงประกอบซีรีส์ฟังวนไปวนมาจนติดหู ... ในที่สุดฉันก็ดูซีรีส์จนจบ 3


           
     “When the Devil Calls Your Name” ไม่ใช่ซีรีส์โศกนาฏกรรมอย่างที่ฉันกลัวตอนแรก แต่ออกแนวโหด ลึกลับ อย่างที่ฉันชอบ เพิ่มความพิเศษที่เป็นซีรีส์แนวละครเพลง ที่ผสมผสานระหว่างเมโลดราม่ากับแฟนตาซี มีความเป็นคอมเมดี้แทรกอยู่บางตอน

ความโดดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ ได้แก่
1. เพลงประกอบละคร – ไพเราะ มีหลากหลายแนว ซึ่งแนวเพลงก็เหมาะกับยุคในเรื่อง ที่เล่าถึงยุคอดีตกับปัจจุบัน เหมาะกับเหตุการณ์ เนื้อหาของเพลงมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเรื่อง

2. พล็อตเรื่อง – ใต้ร่มของปัญหาใหญ่ที่พระเอกไม่อยากให้สัญญาที่ทำกับปีศาจหมดลง ก็มีการสร้างปมเล็กปมน้อยไปเรื่อย ๆ แล้วค่อย ๆ คลายปมไปจนจบ ทำให้คนดูคอยลุ้นว่าแต่ละปัญหา จะถูกแก้ไขยังไง ? และรอดูว่าสุดท้ายซอดงชอนจะยอมกลับไปเป็นชายชราวัยหกสิบกว่าผู้ยากจนไหม ? หรือจะยอมมอบวิญญาณให้ปีศาจ ? หรือหาวิธียกเลิกสัญญาสำเร็จ ? หรือจบด้วยความตาย ? (ซึ่งตอนจบจริง ๆ ของเรื่อง คนเขียนก็เลือกวิธีจบที่เซอร์ไพรส์คนดูแบบ “อิหยังวะ !” พอสมควร)

3. การสร้างตัวละคร – ผู้เขียนสร้างให้ตัวละครเหมือนมนุษย์จริง ๆ ที่มีทั้งดี ทั้งเลวอยู่ในคนเดียวกัน แม้แต่ตัวปีศาจเองยังมีปมส่วนตัว และแอบมีอารมณ์อ่อนไหวบาง ๆ  
ตัวละครที่มีความพีคทั้งสองด้านชัดเจน ก็คือพระเอกที่โดยพื้นฐานเป็นคนมีเมตตา ช่วยเหลือแมว ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ รักลูก แต่เมื่อถูกสถานการณ์บางอย่างบีบบังคับ เขาก็เห็นแก่ตัวที่สุดเหมือนกัน
     ยกเว้นนางเอก ที่เป็นตัวละครฝ่ายดี ดีสุดขั้วจนพระเอกเชื่อว่า เธอคือสเป็ควิญญาณแบบที่ปีศาจต้องการ แต่เมื่อเธอเซ็นสัญญากับปีศาจ เธอก็กลายเป็นอีกคนที่ไม่เหลือความเป็นนางฟ้าผู้แสนดีอีกเลย  

4. การแสดง – บทหนักที่สุดอยู่ที่พระเอก นอกจากต้องเล่นเป็นคน 2 วัย ซอดงชอน กับ ฮาริบ ก็ยังมีซีนอารมณ์หนัก ๆ ที่บีบหัวใจคนดู มีซีนตลกแบบโอเว่อร์แอคติ้ง ซีนแฟนตาซี  ซีนเล่นเครื่องดนตรีต่าง ๆ และร้องเพลง  โดยเฉพาะซีนที่ต้องเถียง ทะเลาะ ใส่อารมณ์ จองคยองโฮ (ที่เล่นเป็นพระเอก) สามารถแร็ปบทพูดที่ยาวมากได้รัวเร็ว แถมมีการเล่นระดับเสียงสูงแปร่ง ๆ ได้ด้วย ซึ่งทำให้ฉันทึ่งมาก

5. เทคนิคการถ่ายทำ – การตัดต่อและเลือกมุมกล้องเหมาะ ลงตัว บางจังหวะดูแปลกตา โดยเฉพาะฉากโบ๊ะบ๊ะตอนพระเอกพยายามหาวิธีจัดการกับสัญญาและปีศาจ  นอกจากนี้ การใช้ซีจีในฉากแฟนตาซี ก็ดูเนียน สวย ไม่หลอกตา

... เรียกได้ว่ามีครบทุกรส ดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็ว ตอนหนึ่ง ๆ อัดแน่นไปด้วยเรื่องราว หลายเหตุการณ์ก็ทำให้ฉันเสียน้ำตา บางเหตุการณ์ก็ทำให้ฉันยิ้ม รู้สึกอบอุ่น และมีความสุข ซึ่งละครน้อยเรื่องจะทำให้รู้สึกอย่างนี้ได้



     “When the Devil Calls Your Name”  สะท้อนปัญหาหลายประเด็นที่พบทั่วไปทั้งในสังคม วงการเพลง การเซ็นสัญญาทั่วไป และชีวิตมนุษย์ ผู้ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตนเองมีหรือเป็นอยู่...
     เมื่อชีวิตสิ้นหวัง ถึงทางตัน บางคนเลือกทำในสิ่งที่ผิดต่อศีลธรรมและกฎหมาย บางคนเลือกพึ่งพาสิ่งที่มองไม่เห็น บางคนยอมแพ้ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง มีไม่กี่คนที่สู้สุดฤทธิ์ และมีไม่กี่คนที่กล้าเสียสละความสุขของตัวเองแทนคนอื่น แล้วต้องไปต่อสู้ในโลกที่โหดร้ายเพียงลำพัง
     
“สัญญาปีศาจ” เปรียบเหมือนตัวช่วยหรือเครื่องมือแก้ปัญหา ที่แต่ละคนจะตัดสินใจเลือกใช้ มันอาจจะช่วยเราได้จริง แต่ก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ตัวช่วยบางอย่างหมดคุณค่าเมื่อหมดเวลาของมัน ตัวช่วยบางอย่างเป็นเหมือนดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทำลายเราเอง
ความอยู่รอดที่ยั่งยืนและน่าภูมิใจที่สุดของมนุษย์ ก็คือการใช้สติปัญญาพยายามพึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ทำร้ายหรือเบียดเบียนชีวิตอื่น.



Cr. รูปจาก mydramalist.com , blog.asianwiki.com
Cr. เพลงประกอบจาก
https://www.youtube.com/watch?v=hsZAQl5GH68&t=1452s

---------
ออกอากาศปี 2019
นักแสดงหลัก
Jung Kyoung Ho เป็น ฮาริบ / ซอดงชอน
Park Sung Woong เป็น โมแทคัง / รยู
Lee Seol เป็น คิมอีคยอง


 



Create Date : 12 เมษายน 2567
Last Update : 12 เมษายน 2567 18:06:33 น.
Counter : 159 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnewyorknurse

ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

skywriter
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาๆ ที่ขี้เล่า ^^
New Comments