Group Blog
 
All blogs
 

ขนมเข่ง ร้อนๆ มาแล้วจร้า พร้อมตั้งไหว้ต้อนรับตรุษจีนปี 2555


เรื่องทำขนมเข่งนี่ ที่บ้านเราชำนาญมาก เพราะทำไหว้เองทุกปีเลยค่ะ มะม้าบอกว่าซื้อข้างนอกเค้าใส่เนื้อมะพร้าวขูดให้น้อย หรือบางที่ก็ไม่ใส่เลยก็มี (แล้วแต่สูตร บางที่ ใส่ไส้ก็มี) มันไม่ค่อยถูกปากคนที่บ้านอ่ะ สู้ทำเองไม่ได้ ใส่เครื่องได้ถึงใจกว่า เอิ๊กๆ



อ้อ เราเพิ่งจะรู้ความหมายของขนมเข่งก็วันนี้เอง แอบสงสัย ทำให้ต้องไปถามอากู๋เกิ้ล ได้ความมาว่า


“ขนมเข่ง คือ ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต ขนมเข่งที่ใส่ในชะลอม หมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์”



ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่มาเข้าครัวช่วยมะม้านวดแป้งทำขนมเข่ง แม่เราอายุก็ย่างห้าสิบล่ะ กำลังวังชาก็ลดลง ลูกๆ จึงต้องมาเป็นลูกมือให้ท่าน


สูตรนี้ จะได้ขนมเข่งที่มี สีขาวนวลสวย เนื้อเนียนนุ่ม รสชาติหวานๆ ตามสไตล์ขนมเข่ง ฮิฮิ เก็บไว้ได้นานด้วย (ใครชอบหวานน้อย ก็ลดน้ำตาลลงไป 1 ถ้วยตวง)


สูตรนี้ ทำได้ 180 เข่ง 5-6 ชิ้นใหญ่ (น้อยไปหน่อย อย่างเราต้องเพิ่ม ฮ่าๆๆๆ ในรูป เราอบทีเดียว 3 สูตร ได้ทั้งหมด 24 ชิ้นใหญ่ค่ะ)


ส่วนผสม


แป้งข้าวเหนียว 5 กิโลกรัม (ถุงละ 1/2 กิโลกรัม)


น้ำตาลทราย 6 กิโลกรัม


น้ำเปล่า 3 ลิตร กับอีกนิดหน่อย


มะพร้าวขูดฝอย 8 ลูก (เราซื้อเป็นลูกๆ แล้วมาขูดเอาเองจร้า)


กระทงแห้ง ไว้ตักขนมเข่งใส่เข้าหม้อซึ้งนึ่ง


เข่ง สำหรับใส่กระทง


น้ำมันพืช สำหรับเช็ดกระทง ขนมจะได้ไม่ติดกระทง จึงไม่เป็นอุปสรรคในการกิน อิอิ


สีผสมอาหาร สีแดง สำหรับแต้มหน้าขนมเข่ง


วิธีทำ


ตั้งหม้อซึ้ง ใส่น้ำครึ่งหม้อ ปิดฝาไว้ ตั้งไฟปานกลาง ต้มน้ำให้เดือด


ในหม้อใบใหญ่ เทแป้งข้าวเหนียวลงหม้อ ค่อยๆ เทน้ำตามลงไปทีละน้อย พร้อมกับใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันดี



เนื้อแป้งที่ได้ จะนุ่มเนียน ไม่ติดหม้อและมือ เนื้อแป้งจะไม่แห้งแตก


ถ้าเนื้อแห้งเกินไป จนรู้สึกว่ามีก้อนแป้ง ให้ค่อยๆ เติมน้ำลงไป นวดจนเนียนสวย


จากนั้น ใส่น้ำตาลทรายลงไปประมาณ 2 กิโลกรัม นวดต่อไป อีกสักพัก



คราวนี้
น้ำตาลจะเริ่มละลาย ส่วนผสมแป้งจะค่อยๆ เหลวเป็นน้ำข้นๆ มากขึ้น


เมื่อน้ำตาลเริ่มละลาย ไม่จับตัวเป็นก้อน ก็ใส่น้ำตาลที่เหลือลงไปให้หมด



คนไปเรื่อยๆ จนไม่มีเกร็ดน้ำตาลเป็นก้อน



ต่อไปก็นำมะพร้าวที่ขูดไว้ แล้วใส่ลงไป กะพอประมาณให้เนื้อมะพร้าวพอดีกับส่ววนผสมของแป้งขนมเข่ง



ใช้ทัพพีคนจนเข้ากันดี



นำกะทง มาทำความสะอาด ใช้ผ้าขาวบาง เช็ดด้วยน้ำเปล่า ผึ่งให้แห้ง


เมื่อกระทงแห้งดีแล้ว ให้ใช้ผ้าขาวบาง ชุบน้ำมันพืช เช็ดที่ด้านในของกระทง (เวลาสุก ตัวขนมจะได้ไม่ติดกับกระทง)



เตรียมจัดกระทงใส่เข่งละ1 เข่ง วางเรียงไว้ก่อน


จากนั้น ตักแป้งขนมเข่ง(ที่ผสมไว้แล้ว) หยอดใส่ลงทีละกระทง เรียงลงในชั้นหม้อซึ้ง


ตักหยอดใส่ครบแล้ว มาดูน้ำที่ตั้งไว้ ถ้าเดือดได้ที่ ก็ยกชั้นหม้อซึ้งตั้งเป็นชั้นๆ ได้เลยจ้า


นึ่งนาน
ประมาณ
40 นาที ยกหม้อซึ้งลงจากเตา ค่อยๆ หยิบขนมออกมาทีละเข่ง


สุดท้าย
เตรียมสีผสมอาหารสีแดง ใส่น้ำเล็กน้อย ใช้ด้านหัวตัดของตะเกียบ หรือไม้เสียบลูกชิ้นก็ได้


จุ่มลงสีผสมอาหาร ค่อยๆ แต้มเป็นจุดลงไป ทีละกระทง



เสร็จแล้วจร้า


สำหรับตรุษจีนปี 2555 นี้ ก็ขอให้


ซิง เจีย หยู่ อี่ ซิง นี้ ฮวด ไช้
 กันถ้วนหน้านะค่ะ 



โยส...ซ่าส์...Yotzza!




 

Create Date : 21 มกราคม 2555    
Last Update : 21 มกราคม 2555 15:07:15 น.
Counter : 2728 Pageviews.  

ขนมหน้าแตก ขนมทานเล่นๆ ที่อยู่คู่กับคนจีนมานาน


ที่มาของการเริ่มค้นหาสูตรขนมหน้าแตกนี้ ก็เพราะว่าคุณแม่อยากกิน จะหาซื้อมาทานก็ลำบาก ไม่ค่อยมีร้านค้าที่เค้าจะขายกันเท่าไหร่ (ถ้าไม่ใช่พวกร้านขายขนมเปี๊ยะจีนแท้ๆ  ไม่มีวางขายหรอกนะเธอ) ไอ้เราก็เข้าหาอากู๋ก่อนเลย ว่ามีใครโพสสูตรไว้บ้าง แล้วก็มาเจอสูตรนี้เข้าค่ะ ของคุณแตงไทย ลองทำทานดูนะ อร่อยดี 




สูตรนี้ รสชาติกำลังดีไม่หวานเกินไป (เราเป็นคนไม่คนชอบกินหวานๆ) ถ้าชอบหวานก็เพิ่มน้ำตาลเข้าไปตามสมควรค่ะ

สูตรนี้ ทำได้ 5-6 ชิ้นใหญ่ (น้อยไปหน่อย อย่างเราต้องเพิ่ม ฮ่าๆๆๆ ในรูป เราอบทีเดียว 3 สูตร ได้ทั้งหมด 24 ชิ้นใหญ่ค่ะ)


ส่วนผสม


  • แป้งเอนกประสงค์ (แป้งว่าว) 1 ถ้วยตวง

  • น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง (พอดีตอนั้น มีแต่น้ำมันถั่วเหลือง)

  • ไข่ไก่ 2 ฟอง (ฟองแรกไว้ทำตัวขนม อีกฟองตอกใส่ชามแยกไว้ เพื่อใช้ทาหน้าขนมก่อนเข้าอบ)

  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา

  • เบ็คกิ้งโซดา 1/8 ช้อนชา

  • เกลือ 1/4 ช้อนชา ปรับเพิ่มนิดหน่อย

  • งาขาว หรือว่า งาดำก็ได้ค่ะ (เราว่า รสชาติของงาดำอร่อยกว่า แต่เวลาเข้าอบแล้วดูยาก แถมหน้าขนมจะดูสวยสู้งาขาวไม่ได้)


วิธีทำ


เปิดเตาอบที่ 200C


ในชามใบใหญ่ ให้เริ่มร่อนแป้ง ผงฟู เบ็คกิ้งโซดา เกลือ ให้เข้ากันดี  


ใส่น้ำตาลทรายตามลงไป พักไว้ก่อน



จากนั้น ชามใบกลาง ใส่น้ำมันพืช และตอกไข่ใส่ลงไป 1 ฟอง


คนเบาๆ ให้ไข่ไก่เข้ากันดีกับน้ำมัน แล้วเทลงใส่ชามแป้ง (ที่ร่อนไว้)



ใช้ไม้พาย ปาดไปมาเบาๆ รอบๆ ชาม เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันจนเนียน



จะเห็นว่าส่วนผสมจะเป็นก้อนขึ้นรูป ไม่เหลว


ถ้ารู้สึกว่าส่วนผสมเหลวเกินไป ให้ใส่แป้งเพิ่มเข้าไปทีละเล็กน้อยค่ะ


ตัดแบ่งชิ้นมา เริ่มจับเบาๆ ให้เป็นก้อนกลม วางเรียงบนถาดอบที่รองด้วยระดาษไข



จากนั้น ใช้นิ้วมือค่อยๆ กดทับให้แบนลงไป ความหนาประมาณน้อยกว่า 1ซม.ค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวพอเข้าอบมันจะไม่กรุบกรอบ




ทาหน้าขนมด้วยไข่แดง และโรยตามด้วยงาดำและงาขาว





ไม่ต้องกลัวเปลืองค่ะ โรยเยอะๆ ให้ทั่ว แบบเต็มอัตรา แต่อย่าโรยเพลิน เยอะเกินจนเป็นก้อนนะจ๊ะ


จากนั้น ให้มาปรับเตาอบเหลือที่ 190C เอาเข้าอบได้เลยค่ะ


อบนานประมาณ 8 – 9 นาที (เตาอบเราใช้เวลา 9 นาทีเป๊ะ) อบเสร็จหน้าขนมจะเหลืองสวย



ยกออกจากเตา วางพักไว้ก่อนซัก 1 นาที เพื่อให้ขนมเซ็ทตัว แล้วค่อยแซะออกเบาๆ


วางลงบนตะแกรง จนขนมเริ่มเย็น ก็เก็บใส่กระปุกได้เลยจร้า ขนมอบกรอบๆ เก็บได้นานถึงหนึ่งอาทิตย์เลยเน้อ


ที่บ้านเรา แค่สองวันก็หมดแล้วล่ะ ทานเพลินๆ กับชาร้อนๆ




อู้ว.....อร่อยจัง


ไปก่อนล่ะจร้าาา 


โยส...ซ่าส์...Yotzza!











 

Create Date : 21 มกราคม 2555    
Last Update : 21 มกราคม 2555 0:49:18 น.
Counter : 19330 Pageviews.  

Clam Spaghetti : สปาเกตตี้หอยลาย ซี๊ดซ๊าดดด


Smileyหน้าตาไม่สวย แต่รสชาติใช้ได้นะฮ่ะ
สูตรนี้ รสชาติออกเผ็ด มัน และได้ความหวานจากน้ำของหอยลาย ดับกลิ่นคาวด้วยผักชีฝรั่ง ตัวเส้นสปาเก็ตตี้จะกรุบนิดๆ ออกแนวกึ่งสุกกึ่งดิบ ไม่อืด(อันนี้เป็นความชอบส่วนตัว สังเกตจากที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน เส้นเค้าจะออกแนวนี้ อร่อยดี)

Smiley อุปกรณ์ที่ใช้ในการผัด:- เราใช้กระทะเหล็กทั่วไปค่ะ และตะหริว (ที่บ้านไม่มีกระทะแทฟล่อนอ่ะนะ)

Smiley ส่วนผสมและเครื่องปรุงรส:- สำหรับ 2-3 คนทานนะค่ะ (คนละ 1 จานย่อมๆ ไม่ใหญ่มาก)
- เส้นสปาเก็ตตี้แห้ง เบอร์ 2 เราชอบแบบเส้นเล็ก 1 กำมือ (ความหนาเท่าเหรียญห้าบาทไทย)
- หอยลายที่ยังไม่แกะเปลือกออก ล้างเอาโคลนออกให้สะอาด (ถ้าไม่มีใช้หอยตลับก็ได้จ๊ะ) ประมาณ 1/2 กิโล
- น้ำมันมะกอก Extra Virgin 2-3 ช้อนโต๊ะ (ยี่ห้ออะไรก็ได้ ที่บ้านมีของ Bertolli อยู่ กะว่าพอหมดขวดนี้แล้ว จะเปลี่ยนยี่ห้อดู)
- เนยสดนิดหน่อย (ไว้เพิ่มความหอม จะไม่ใส่ก็ได้)
- กระเทียมกลีบใหญ่ หั่นสไลด์ 3-4 กลีบ
- พริกแห้ง 2-3 เม็ด (ถ้าชอบรสจัดก็เพิ่มได้อีกนะ)
- ไวน์ขาว (ยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ) 1/3-1/2 ถ้วยตวง (อย่าใส่เยอะ เดี๋ยวไวน์จะระเหยไม่หมด แล้วทำให้รสชาติเฝื่อนๆ)
- เกลือสมุทรละเอียด เล็กน้อย
- ผักชีฝรั่ง ซอยละเอียด 1-2 ต้นเล็ก
- พริกไทยดำเม็ดบด (ตำพอแหลก ไม่ต้องถึงกับป่น) เล็กน้อย


วิธีเตรียมเส้นสปาเก็ตตี้ (เส้นต้องทำเสร็จทีหลังนะค่ะ ไม่งั้นเส้นจะอืดและไม่ดูดน้ำซุป)
1. เตรียมหม้อสะอาดต้มน้ำให้เดือด หย่อนเกลือลงไปนิดหน่อย ระหว่างรอน้ำเดือด ก็ให้อ่านที่ซอง จะมีระบุจำนวนนาทีที่ใช้ในการต้มเส้นสปาเก็ตตี้ค่ะ ต้มเร็วกว่าที่ระบุไว้หน้าซองประมาณ 1-2 นาที พอน้ำเดือดก็ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไป ใช้ตะเกียบคนเบาๆ 2-3 รอบ เส้นจะได้ไม่ติดกัน (เส้นแต่ละชนิดแต่ละขนาด ใช้เวลาในการต้มไม่เท่ากันนะ ของปอยเลือกเส้นเบอร์2 ใช้เวลาประมาณ 10นาที แต่ปอยจะต้มแค่ประมาณ 8 นาที เพื่อที่ว่าเส้นจะไม่อืดเกินไป และสามารถดูดซับน้ำซุปจากหอยลายเวลาเราผัดไว้ได้)

2. จากนั้น ก่อนจะครบ 8 นาที ก็หนีบเส้นขึ้นมาชิม 1 เส้น เพื่อดูความยืดหยุ่น (แฟนเราบอกว่า จะให้ดี ต้องปาเข้าที่กำแพง ถ้าติดหนึบที่กำแพง แสดงว่าใช้ได้แล้ว...ฮ่าๆ ฟังดูแล้วขำ แต่อันนี้พูดจริงนะเธอ) หลังจากที่ชิม จะรู้สึกว่ายังกรุบๆ อยู่ตรงกลางเล็กน้อยก็แสดงว่าใช้ได้ อย่างที่บอกไว้ว่า เราต้องการให้น้ำจากหอยลายซึมเข้าไปในเส้น เพื่อให้ได้เส้นที่มีรสชาติกลมกล่อม)

3. ใช้กระชอนช้อนเส้นขึ้นให้สะเด็ดน้ำ แล้วแช่ลงในน้ำเย็นหรือน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้องทันที พอเส้นเย็นปุ๊บ ก็ค่อยตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำอีกครั้ง ใส่น้ำมัมะกอกเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เส้นเกาะติดกัน พักไว้ก่อน (การล้างเส้นด้วยน้ำเปล่าอีกหนึ่งครั้งหลังจากต้มเสร็จ เส้นสปาเก็ตตี้จะมีอุณหภูมิคงที่ ไม่สุกไปมากกว่านี้)

วิธีทำ
1. ตั้งไฟอ่อนถึงปานกลาง จนกระทะอุ่นๆ ใส่น้ำมันมะกอกลงไป (ถ้ามีเนย ให้ใส่ตอนนี้เลย) ตามด้วยกระเทียม พอกระเทียมเริ่มส่งกลิ่มหอม (กระเทียมสียังไม่ถึงกับเหลือง) ใส่พริกแห้ง ผัดไปมาแป๊ปเดียว (ตอนนี้ ระวังกระเทียมไหม้นะ) เทไวน์ขาวลงไปรอบกระทะ อาจจะตกใจกับเสียงฟู่ฟ่า เป็นเรื่องปกติเมื่อแอลกอฮอล์โดนความร้อนจ๊ะ ให้น้ำไวน์เริ่มระเหยออกไปเกือบหมด

2. จากนั้น ใส่หอยลาย พร้อมเหยาะเกลือพอประมาณ (อย่าใส่เยอะ เดี๋ยวจะเค็มปี๋) ผัดต่อไปอีกนิดหน่อย (พอให้น้ำซุปคลุกคลิก)

3. ใส่เส้นสปาเก็ตตี้(ที่เพิ่งเตรียมไว้)ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วใช้ฝาหม้อมาปิดกระทะ ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที

4. จากนั้น เปิดฝาหม้อ ผัดไปมา 2-3 ครั้ง ให้น้ำซุปเริ่มแห้ง ใส่ผักชีฝรั่ง ชิมรสชาติ แล้วตักใส่จาน โรยด้วยพริกไทยดำเม็ดบด พร้อมหม่ำจ้า

ลองทำกันทานดูนะ คราวหน้าจะลองทำคาโบนาร่า ถ้าได้สูตรที่น่าพอใจแล้วจะมาโพสนะจ๊ะ

Smiley
เข้าครัวเพนกวิน ชิมอาหารจานอร่อย สุขสนุกกับการทำอาหารนะค่ะ

ขอบคุณค่า...จุ๊บ จุ๊บ






Free TextEditor




 

Create Date : 30 มกราคม 2554    
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 19:40:19 น.
Counter : 1038 Pageviews.  


Orangy Penguin
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ใครแว๊บผ่านเข้ามา แวะมาทักทายกันนะ คริคริ...ส่วนโพสที่มาขายของ ขออนุญาตลบทิ้งโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้านะค่ะ

แวะเข้าไปดูเว็ปใหม่เราได้ค่ะ รูปภาพตลกๆ น่ารักๆ คลิปวิดีโอขำขำ และหนังสั้นแปลกๆ เพิ่งลองสร้างเอง
Yotzza

เราชอบตะลุยท่องเที่ยว ลัลล้าไปทั่ว...สรรหาขนมอร่อยๆ ไว้กระแทกปากแก้เหงา...

ของโปรดที่ปฏิเสธไม่ลง ก็พวกสารพัดตระกูลถั่ว ชีสและช็อคโกแลตขมๆ...

ฝึกหัดอบขนมเค้ก คุกกี้ และอื่นๆ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากก้นครัวและมีครอบครัวที่น่ารักเป็นนักชิมประจำตัวจ้า...

สนใจหลายอย่าง ชอบลองของใหม่ๆ อย่างพวกเครื่องสำอางค์ บำรุงผิว และอื่นๆ...

ชอบเป็นผู้ฟัง ไม่ค่อยพูด ไม่ชอบโม้ เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่มากเรื่อง ถ้ารู้จักกันดีเมื่อไหร่ ถึงไหนถึงกันเลย

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ โดย Poy Pitakpaisarnsin ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ต้นฉบับ.

free counters






Friends' blogs
[Add Orangy Penguin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.