คนขี่เสือ - ดร.ภวานี ภัฏฏาจารย์ (เขียน) ทวีป วรดิลก (แปล) [RBC#2014]

**SPOILERALERT**







ดร.ภวานี ภัฏฏาจารย์ได้เล่าถึงปัญหาสังคมของอินเดียถึงประเด็นว่าด้วยวรรณะและความเคารพบูชาเทพเจ้า อันเป็นวัฒนธรรมหนึ่งที่ฝังรากลึกในสังคมอินเดียอย่างลึกซึ้ง โดยเล่าเรื่องผ่านตัวละครสองพ่อลูกวรรณะกมาร ชนชั้นแรงงานที่เป็นฐานใหญ่ของสังคมอินเดีย ผู้ซึ่งเผชิญหน้ากับการกดขี่ ข่มเหง และถูกเหยียดหยามต่อความเป็นมนุษย์จากบุคคลในวรรณะสูงขึ้นไปได้กระทำต่อพวกเขา

ช่างตีเหล็กวรรณะกมารชื่อกาโลและลูกสาวเพียงคนเดียวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจชื่อจันทรเลขา กาโลเลี้ยงดูอบรมให้บุตรสาวได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะหาได้รวมถึงการศึกษา จันทรเลขาเป็นเด็กฉลาดแต่เพราะเป็นเพียงเด็กสาวจากวรรณะล่างจึงไม่ได้รับการยอมรับ กระนั้นจันทรเลขาก็ไม่เดือดร้อน เธอภูมิใจและบูชาในตัวพ่อที่เป็นช่างตีเหล็ก พ่อที่ทำมาหากินเลี้ยงลูกสาวโดยสุจริต

ทุพภิกขภัยอันเกิดจากสงครามทำให้พ่อลูกต้องอดยาก กาโลตัดสินใจมุ่งหน้าสู่กัลกัตตาเมืองหลวงที่รุ่งเรืองเพื่อหางานทำจุนเจือครอบครัว ระหว่างทางเขาบังเกิดความหิวโหยและได้ขโมยอาหาร กาโลถูกตัดสินจำคุกสามเดือน คำพิพากษานั้นทำให้กาโลคล้ายสูญเสียจิตวิญญาณส่วนหนึ่งของเขาไป

ภายหลังถูกปล่อยตัวจากเรือนจำ กาโลมุ่งหน้าสู่กัลกัตตาเพื่อพบความจริงที่เพื่อนร่วมคุกบอกว่าเบงกอลไม่ได้เป็นแผ่นดินสีทองอีกต่อไป มีผู้คนอดยากอยู่ทุกหัวถนน ภาพของผู้คนตัวผอมซูบซีดเพราะขาดอาหาร ผู้คนที่ว่างงานไม่มีจะกิน มีคนล้มตายนับสิบนับร้อยต่อวัน แต่เหล่าผู้ร่ำรวยมีเงินเต็มกระเป๋า มีข้าวเต็มกระสอบ กระทั่งโครงกระดูกของคนที่ตายไปแล้วยังทำเงินได้มากมายกว่ารายได้ของคนเป็นที่ยังอยู่ แต่เพื่อท้องที่อดอยากและลูกสาวในชนบทกาโลละทิ้งศักดิ์ศรีไปทำงานในซ่องโสเภณี

จุดเปลี่ยนที่ทำให้กาโลก้าวขึ้นสู่หลังเสือคือการที่วันหนึ่งเขาได้พบว่าจันทรเลขาถูกหลอกมายังซ่องที่เขาทำงาน และแม้ว่าจะช่วยเหลือจันทรเลขาออกมาได้ แต่บาดแผลได้จารึกลงบนร่างกายและจิตใจของจันทรเลขาอย่างไม่อาจลบล้าง ความเคียดแค้นผลักดันให้กาโลตัดสินใจแก้แค้นคืนเหล่าชนชั้นสูง

กลเม็ดที่กาโลได้รู้มาจากเพื่อนร่วมคุก ทำให้เขาเกิดใหม่ในวรรณะพราหมณ์ กาโลสร้างเทพเจ้าขึ้นมาและความศรัทธาก็ไหลหลั่งจากชนทุกชั้นวรรณะทั้งพ่อค้าร่ำรวย ข้าราชการระดับสูง ผู้พิพากษา แม้แต่คนยากจนต่างก็มุ่งตรงมาที่เทวาลัย เพราะใช้ความเท็จในการก้าวขึ้นหลังเสือ ตัวกาโลเองก็ขับควบเสือด้วยความหวาดหวั่นใจ และอีกมุมหนึ่งกาโลเองก็ไม่ได้มีอำนาจควบคุมเสือได้อย่างเด็ดขาด แม้เขาจะอยู่บนหลังเสือก็จะต้องปล่อยให้เสือมุ่งไปยังทิศทางที่มันต้องการ

มีบุคคลสองคนที่ทำให้ตัวกาโลหรือพราหมณ์มงคล อธิการีได้คิดทบทวนถึงจุดยืนของตัวเอง นั่นคือวิศวนาถและบิเตน ช่างตีเหล็กชราวิศวนาถ เดินทางจากบ้านเกิดเพื่อหาเลี้ยงปากท้องครอบครัว เมื่อมองดูวิศวนาถ กาโลเห็นตัวเองเมื่อตอนที่มาถึงกัลกัตตา ช่างตีเหล็กที่มีความภาคภูมิในฝีมือวิชาชีพของตน แต่ไม่สามารถใช้ความรู้ทำให้ปากท้องอิ่ม

บิเตนหรือบี-10เพื่อนร่วมคุก บิเตนนั้นมาจากครอบครัวพราหมณ์ เขาคือคนสอนกลเม็ดในการสร้างเทพเจ้าปลอมให้แก่กาโล แต่ตัวของเขาเองนั้นต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิ์เสียงให้แก่เพื่อนร่วมประเทศ บิเตนก้าวผ่านเส้นแบ่งที่เรียกว่าชนชั้นวรรณะมาแล้ว

คนเดียวที่ทำให้กาโลต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาดคือจันทรเลขา หญิงสาวได้รับการทาบทามสู่ขอแต่งเป็นภรรยาจากหนึ่งในคณะผู้อุปถัมภ์เทวาลัย หากยอมรับข้อเสนอแต่งงานนั่นหมายถึงความมั่นคงปลอดภัยในการครอบครองเทวาลัยต่อไป แต่หากปฏิเสธสถานะของเขาก็คงถูกทางคณะผู้อุปถัมภ์บีบบังคับในทางใดทางหนึ่ง นี่คือสิ่งที่กาโลจำต้องเลือก หากเขาเลือกความสุขของจันทรเลขา กาโลจะต้องหาวิถีทางเพื่อในการลงจากหลังเสือที่ไม่ทำให้เสือหันมาแว้งทำร้ายตัวเขาและลูกสาว

หมายเหตุ – หนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์ RBC#2014 หัวข้อ The Book that more than 10 years old คนขี่เสือ ฉบับแปลโดยคุณทวีป วรดิลก ปีที่พิมพ์ 2521 โดยสำนักพิมพ์การเวก

ปล. ชื่อหรือคำเฉพาะได้อิงตามการถอดคำแปลของคุณทวีป วรดิลกผู้แปลฉบับนี้ อาจจะแปลกจากฉบับของคุณจิตร ภูมิศักดิ์ไปบ้าง





Create Date : 25 พฤษภาคม 2557
Last Update : 25 พฤษภาคม 2557 17:23:00 น.
Counter : 2092 Pageviews.

1 comments
  
เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับอินเดียๆ ที่อ่านเป็นเรื่องแรก ผมอ่านฉบับจิตร ภูมิศักดิ์ เป็นหนังสือที่ชอบมากๆ ครับ อีกเรื่องที่อ่านเกี่ยวกับอินเดียๆ คือ ข้าคือไอ้ตัวตลก... ส่วน White Tiger, Life Of Pie, Q&A ที่สร้างเป็นหนังอย่าง Slumdog Millionaire ก็น่าอ่านนะครับ
โดย: leehua (สมาชิกหมายเลข 755059 ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2557 เวลา:13:44:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

a murder suicide
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



fat NEET and sometimes Hikki.
living in the small and blind world, kind of closed mind, a light level of bipolar, not much friendly with human.