จันทน์กะพ้อ บทที่ ๗
เขตชลพาสองสาวมาถึงสนามบินได้ทันและพอมีเวลาคุยกันเล็กน้อยก่อนที่จะถึงเวลาขึ้นเครื่องส่วนเนตรากับสิริลักษณ์นั้นแยกกันที่หน้าคอนโดมิเนียมขึ้นแท็กซี่กลับหอพักของสิริลักษณ์เขาพาจันทน์กะพ้อกับพะนอขวัญไปเก็บของแล้วรีบบึ่งมาที่สนามบินทันที ตกลงแกจะมาอาทิตย์หน้าใช่ไหมพะนอขวัญถามย้ำเพื่อนสาว จันทน์กะพ้อพยักหน้า ขณะที่เขตชลเลิกคิ้วเขายังไม่มีโอกาสได้คุยกับเธออย่างจริงจังเลย แล้วนี่ก็ต้องกลับไปแล้ว สรุปว่าเรื่องทายาทเจ้าคุณปู่อะไรนั่น...เรื่องจริงพะนอขวัญถามเพื่อนอีกครั้ง จันทน์กะพ้อพยักหน้านิดๆนี่แกมีปานแดงรูปหัวใจที่แก้มก้นด้านซ้ายกลายเป็นทายาทมหาเศรษฐีพันล้าน จันทน์กะพ้อหัวเราะคำพูดเพื่อนสาว ไม่ได้ละครขนาดนั้น แล้วขนาดไหน เออน่ะ...เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ถ้าเล่าตอนนี้คงยาวได้ตกเครื่องแน่นอน เออๆ งั้นก็เดินทางปลอดภัย อาทิตย์หน้าเจอกันพะนอขวัญพยักหน้า ไม่เซ้าซี้เพื่อนสาวต่อเดี๋ยวจันทน์กะพ้อก็เล่าให้ฟังอย่างที่พูด ขอบใจแกมากนะแพง จันทน์กะพ้อเอ่ยกับเพื่อนสาวถ้าไม่ได้พะนอขวัญเธอก็คงยุ่งยากไม่น้อย ก่อนจะหันไปสบตาคมที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว เทคแคร์ครับคุณนาย เขตชลเอ่ยพร้อมกับยิ้มกว้าง จันทน์กะพ้อหรี่ตา ไม่ต้องตามมานะ อ้าว...รู้ทันอีก เขตชลหุบยิ้ม หัวเราะแห้งๆที่ถูกดักไว้ก่อน พะนอขวัญเลิกคิ้ว มองดูทั้งสองเงียบๆคิดว่าตัวเองเป็นจิ้งจกเกาะผนังสักพัก ท่าทางจะได้เห็นอะไรดีๆ เพื่อนสนิทอะไร...ยังไม่ทันพูดก็รู้ใจกันแล้ว ก็ที่จริง วันนี้จะไปหาอ้ายอยู่แล้ว แต่ได้มาเจอกันเสียก่อนที่กรุงเทพฯนี่ หากคุยกันได้ไม่กี่คำ จันทน์กะพ้อก็ถูกเรียกไปทำงานแล้ว ก็เข้าใจได้อยู่หรอก...จันทน์กะพ้อบอกว่าคนที่ดูแลโครงการนั้นเกิดอุบัติเหตุขาหักต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวันคุณนารีจึงให้เธอไปดูแทนก่อนที่เจ้าตัวจะกลับ แต่เขาก็ยังอยากเจอจันทน์กะพ้ออยู่นี่...แล้วไฟลท์บินไปอุดรก็มีทั้งวัน จะไปทำงาน...เข้าใจนะ จันทน์กะพ้อไม่เออออด้วย แหะๆ เขตรอที่กรุงเทพฯ ก็ได้ แต่อ้ายรับโทรศัพท์เขตด้วยนะเขตชลรีบเปลี่ยนใจก่อนที่จะทำให้จันทน์กะพ้อเคือง เห็นยังนิ่งๆอยู่ก็วางใจไม่ได้หรอก เดี๋ยวโมโหขึ้นมาจะแย่ จันทน์กะพ้อเลิกคิ้ว... เขตชลรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขโทรศัพท์ของจันทน์กะพ้อแล้วโทรออกจันทน์กะพ้อยังใช้หมายเลขเดิม ซึ่งก็เป็นหนึ่งในไม่กี่หมายเลขที่เขาตั้งใจจำ ไม่ใช้เบอร์เดิมแล้ว เปลี่ยนเป็นเบอร์นี้...อ้ายรับด้วยนะเขาเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ เพราะช่วงไปเรียนต่างประเทศ แต่พวกเพื่อนๆก็มีเบอร์ใหม่นี้ทุกคน จันทน์กะพ้อหยิบโทรศัพท์ตัวเองที่ส่งเสียงว่ามีสายเข้าขึ้นมาดูกดตัดสายไปแล้วเก็บไว้เหมือนเดิม พะนอขวัญกลั้นหัวเราะแทบแย่เพราะเหลือบไปเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของเพื่อนสาวทันพอดี ท่าทางเขตชลคงจะไม่รู้ว่าจันทน์กะพ้อก็มีหมายเลขโทรศัพท์ที่เขาบอกว่าเป็นเบอร์ใหม่บันทึกไว้อยู่แล้ว มีเบอร์กันอยู่ทั้งคู่...แต่ไม่ยอมคุยกัน แหม...สมเป็น เพื่อนสนิทกันจริงๆ
เขตชลมองตามร่างโปร่งที่เดินเข้าไปข้างในเพื่อขึ้นเครื่องจนลบตาพอหันมาก็พบกับแววตายิ้มๆ เชิงเย้าแหย่ของพะนอขวัญรู้สึกเหมือนจะต้องโดนเจ้าตัวเอาคืนที่เขาเคยแซวเรื่องเธอกับพี่ใหญ่ไว้แน่ มองตามเพื่อนสนิทตาละห้อยเลยนะคะ แหม...คุณแพงก็ เขตชลหัวเราะเขินๆก็คงต้องยอมโดนแซวแต่โดยดีนั่นแหละ พะนอขวัญหยุดยิ้ม...ลังเลนิดหน่อยว่าจะพูดดีไหมแต่ยังไงทั้งคู่ก็เป็นคนใกล้ตัวของเธอ ตกลงคุณกลางจริงจังเรื่องอ้ายหรือเปล่าคะ เขตชลหยุดหัวเราะ สบตาคมจัด จริงจังมากครับ พะนอขวัญพยักหน้าแม้จะรู้จักกันไม่นานแต่เธอก็เชื่อคำพูดของเขาแม้ภาพลักษณ์ของเขตชลจะไม่ได้เหมือนกันน่านฟ้าที่ดูเป็นคนจริงจังมากกว่า แต่ลึกๆแล้วก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไร รวมถึงแดนดินด้วยก็คงขึ้นอยู่กับจันทน์กะพ้อแล้วล่ะว่าจะทำอย่างไร
เขตชลไปส่งพะนอขวัญที่อพาร์ตเมนต์แล้วกลับมาที่คอนโดมิเนียมเพื่อจัดการเก็บข้าวของที่ยังไม่ได้เก็บเพราะต้องรีบออกไปส่งจันทน์กะพ้อ แม้ว่าจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องชุดเป็นประจำแต่เขาก็ไม่อยากทิ้งไว้ หากเมื่อมาถึงก็มีเด็กสองคนกำลังจัดการของที่เหลืออยู่ พี่กลาง...อยากกินออมเล็ตแดนดินยิ้มกว้างเมื่อเห็นพี่ชายกลับมา เขตชลรับไหว้รุ่นน้องของแดนดินแล้วหันไปแยกเขี้ยวให้น้องชาย ทำเองสิ โห...ถ้าทำเองเป็น จะให้พี่ทำให้เหรอนะ...นะ...พี่กลางสุดหล่อใจดีที่สุดในสามโลกตอนที่ขึ้นมาเอาของบนห้องแล้วเห็นในห้องครัวมีของกินเหลืออยู่นี่ดีใจแทบตายจะได้ไม่ต้องพึ่งบะหมี่สำเร็จรูปเขารีบโทรศัพท์ไปบอกให้คมคิดขึ้นมา เขตชลหัวเราะในลำคอ ทีนี้ทำเป็นประจบเชียวนะแต่ก็เดินไปล้างมือแล้วลงมือทำออมเล็ตให้น้องชาย มากันสองคน เขาถามเพื่อความแน่ใจ ครับผม แดนดินพยักหน้า เขตชลตอกไข่ใส่ชามแล้วเทนมลงไปแม้จะแค่สองคนแต่ก็เป็นเด็กโข่งตัวใหญ่เขาก็เลยทำเยอะเป็นพิเศษโรยเกลือกับพริกไทยนิดหน่อยก่อนจะตีให้เข้ากัน แล้วหยิบแฮมกับไส้กรอกที่ยังเหลือรอดจากเด็กทั้งสองมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเอาแบบธรรมดาๆ ไม่ต้องวิลิศมาหรานะ แบบไหนก็ได้...แค่พี่กลางทำให้ก็ปลื้มสุดๆ แล้ว เรื่องกินนี่ประจบแก่งนะเขตชลทั้งขำทั้งหมั่นไส้ยิ้มแป้นของน้องชาย เขาเหลือบไปเห็นคมคิดที่กลั้นหัวเราะแบบสุดๆความจริงคมคิดน่าจะเป็นรุ่นพี่ของแดนดินมากกว่านะดูสุขุมเป็นผู้เป็นคนผิดกับผมทรงเดรตล็อกมาก แล้วเมื่อเช้าพี่กลางทำเลี้ยงสาวที่ไหนล่ะสงสัยจะหลายสาวด้วยเพราะเขาเห็นจานที่เก็บวางไว้ในอ่างล้างจานหลายใบทีเดียว พี่นางของนายไง หา...เจ๊แพงมาค้างที่นี่เหรอ กับเพื่อนด้วย อ๋อ...เจ๊อ้ายน่ะเหรอ แดนดินพยักหน้าหงึกหงักแต่มุมปากยกยิ้ม เขตชลเหลือบมองน้องชายหากมือก็ยังหยิบกระทะมาวางบนเตาไฟฟ้า ใส่เนยลงไป รอให้เนยละลายก่อนจะเทไข่ลงในกระทะ ท่าทางจะรู้จักดีนะเรา แดนดินแกล้งสะดุ้ง ก็รู้จักเมื่อวันก่อน...เห็นเจ๊เขาน่ารักดีเนอะคม ครับ... คมคิดเหลือบมองรุ่นพี่กับพี่ชายสลับกันก็ใช่อยู่ที่ว่ารุ่นพี่สาวที่พูดถึงนั้นน่ารักดีแต่รู้สึกว่าคำพูดระหว่างสองพี่น้องน่าจะมีอะไรๆ มากกว่านั้น แดนดินยิ้มกว้าง แสดงว่าเพื่อนเจ๊แพงเป็นคนเดียวกับผู้หญิงในภาพเหล่านั้น เขตชลรู้สึกอยากใช้ตะหลิวไม้ในมือเคาะหน้าผากน้องชายแต่เดี๋ยวไข่ไหม้ไปเสียก่อน...เสียดายของ เขาตักออมเล็ตที่เสร็จแล้วใส่จานส่งให้น้องชาย พี่กลางว่า...ผมลองจีบเจ๊อ้ายดีไหม เขตชลชะงัก ก่อนจะถาม เอาจริง... ไม่จริง... แดนดินตอบเร็วพร้อมกับหัวเราะกับสีหน้าของพี่ชาย ความจริงว่าจะลองแกล้งพี่ชายเล่นสักหน่อยแต่ไม่เอาดีกว่า...พี่กลางมือหนัก คุณหนูเล็ก... เขตชลลากเสียงหนัก ก็พี่เขาน่ารักดี...ท่าทางยังไม่มีแฟนด้วยพี่กลางไม่ลองจีบดูเหรอ เออเนอะ...ไม่ใช่สเปกพี่กลางนี่ เจ๊อ้ายเขาไม่ได้ขาวหมวยสวยเซ็กซี่...โอ๊ะยังไม่ทันจบประโยคแดนดินก็ร้อง เพราะจู่ๆ จานออมเล็ตก็ถูกดึงไป พูดมาก...ไม่ต้องกินแล้วมั้ง โห...พี่กลาง อย่าแกล้งสิ นี่น้องนะ คมรำคาญไหม...มีรุ่นพี่พูดมากขนาดนี้เขตชลหันไปทางคมคิด ทำไงได้ล่ะครับ...พี่รหัสผมนี่ คมคิดหัวเราะ อ้าว...ไอ้สมคิด แดนดินหันไปโวยวายรุ่นน้องและแกล้งเรียกชื่อผิด แต่คมคิดก็ยังหัวเราะร่วน หึๆ...พี่ชอบนายว่ะ เอานี่ เขตชลวางจานออมเล็ตตรงหน้าคมคิดกินเสร็จแล้วก็ช่วยกันเก็บล้างด้วยล่ะ ครับ คมคิดรับคำเขาตั้งใจจะเก็บล้างจานอยู่แล้ว แล้วพี่กลางจะไปไหนแดนดินร้องถามเมื่อพี่ชายเดินออกไปจากห้องครัว เขตชลไม่ได้หันมาตอบหากสักครู่ก็มีเสียงเปียโนดังขึ้นมาเป็นคำตอบ อื้อหือ...มืออาชีพเลยนะ คมคิดเอ่ยเขาไม่รู้ว่าเพลงที่เขตชลเล่นอยู่นั้นคือเพลงอะไรแต่เดาว่าน่าจะเป็นเพลงคลาสสิคแต่ที่รู้ก็คือเสียงเปียโนนั้นหนักแน่นหากอ่อนหวาน พี่กลางอารมณ์ดีสุดๆ เลยแฮะ แดนดินยิ้มกว้าง เสียงเปียโนหวานขนาดนี้...คิดเป็นอื่นไม่ได้หรอก
จันทน์กะพ้อกวาดสายตามองหาคนที่นัดเธอมายังร้านอาหารซึ่งติดกับโรงแรมที่เธอพักขณะอยู่อุดรธานีบรรยากาศร้านอาหารเป็นกึ่งผับหากเปิดโล่ง มีวงดนตรีกำลังเล่นเพลงขับกล่อมขณะนี้ยังหัวค่ำ ลูกค้ายังไม่เยอะนัก พี่อ้าย... หญิงสาวคนหนึ่งลุกขึ้นโบกมือเรียกจันทน์กะพ้อรีบก้าวไปหาทันที หวัดดีค่ะพี่อ้าย จันทน์กะพ้อรับไหว้รุ่นน้องสาวสวยแล้วทรุดนั่งลงตรงข้ามเมื่อตอนบ่ายที่เธอมาถึงเธอก็ไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมผู้จัดการโครงการซึ่งพักรักษาตัวอยู่เจ้าตัวบอกว่าดีขึ้นมากแล้วหากต้องเข้าเฝือกอีกพักใหญ่ คงจะต้องอยู่โรงพยาบาลอีกสักพักเธอได้พบกับอรนิภา รุ่นน้องที่สนิทกันซึ่งฝ่ายนั้นมาเยี่ยมพี่สะใภ้ที่เพิ่งคลอดลูกแต่ก็ไม่มีเวลาคุยกันเพราะเธอต้องไปดูไซต์งานต่อ จึงนัดกันมาทานข้าวเย็นด้วยกัน อ้อสั่งของโปรดพี่อ้ายมาแล้ว...เอาอะไรเพิ่มไหมคะ จันทน์กะพ้อมองอาหารทั้งหลายจานบนโต๊ะแล้วส่ายหน้า พอแล้วจ้ะ เบียร์ไหมคะ จันทน์กะพ้อหัวเราะ ก่อนปฏิเสธ น้ำเปล่าดีกว่า โอ๊ย...คิดถึงพี่อ้ายจังเราไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้ว อรนิภายิ้มกว้าง เธอเป็นรุ่นน้องของจันทน์กะพ้อหนึ่งปีอยู่คนละคณะกัน เธอรู้จักจันทน์กะพ้อเมื่อตอนแข่งกีฬาระหว่างคณะ ขณะที่ไปเชียร์คณะตัวเองแข่งบาสเก็ตบอลกับวิศวกรรมศาสตร์ก็กลายเป็นว่าไปเทใจให้นักบาสอีกฝ่ายไปแล้ว นั่นสิ...ตั้งแต่เข้าไปเป็นสาวกรุงเทพฯก็ไม่ได้เจอกันเลย จันทน์กะพ้อเย้านิดๆ พอเรียนจบอรนิภาก็เลือกเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯแม้ว่าทางบ้านซึ่งมีธุรกิจหลายอย่างในอุดรธานีจะอยากให้กลับมาทำงานที่บ้านจึงไม่ได้เจอกันอีกแต่ก็ยังติดต่อกันบ้าง อ้อสวยขึ้นนะนี่ แหม...พี่อ้ายปากหวานอีกแล้วเดี๋ยวอ้อก็เปลี่ยนใจกลับมารักอีกหรอก อรนิภายิ้มเขินๆ ตอนที่เห็นจันทน์กะพ้อในสนามบาสเก็ตบอลครั้งแรกเธอก็รู้สึกหลุมรักสาวเท่คนนั้นอย่างจังเธอประทับใจรอยยิ้มกว้างตอนที่จันทน์กะพ้อชู้ตลูกลงห่วงเอามากๆจากนั้นเธอก็แทบจะไปนั่งเกาะขอบสนามบาสเก็ตบอลของวิศวะอยู่ตลอด แม้กระทั่งตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกว่าสาวรุ่นพี่เท่เหมือนเดิม...ไม่ใช่เรื่องรูปร่างหน้าตา เพราะจันทน์กะพ้อไม่ได้หน้าตาหล่อละม้ายผู้ชายหากพิศดูดีๆ รุ่นพี่สาวออกจะสวยด้วยซ้ำ แต่เพราะบุคลิก ลักษณะท่าทางรวมถึงการแต่งกายด้วยทำให้รุ่นพี่ดูเป็น สาวเท่ แต่ที่เธอประทับใจก็คือนิสัยใจคอจันทน์กะพ้อนั้น แมน กว่าผู้ชายหลายคนมาก พี่พูดเรื่องจริง...แต่ไม่ต้องเปลี่ยนใจเดี๋ยวแฟนอ้อมาต่อยพี่ จันทน์กะพ้อกระเซ้า ไปทำงานที่กรุงเทพฯได้สักพักอรนิภาก็บอกกำลังมีความรักอีกครั้ง เธอยังไม่เคยเห็นตัวจริงแต่ว่ารูปที่อรนิภาส่งมาให้ดูก็เป็นผู้หญิงที่สวยทีเดียว แหม...รีบปฏิเสธเชียวนะคะ อรนิภาทำแก้มป่องเธอรู้ตัวเองตั้งนานแล้วว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย พอได้เจอจันทน์กะพ้อก็รู้สึกว่าใช่เลยแม้จันทน์กะพ้อจะไม่ได้แสดงออกว่าเป็นทอมอย่างชัดเจนแต่เธอก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เท่มากเธอก็ตามตื้ออยู่นานแต่ก็ไม่สำเร็จจันทน์กะพ้อบอกว่าไม่ได้ไม่ชอบเพราะเธอเป็นผู้หญิง แต่เพราะไม่ได้รู้สึกอะไรเกินกว่าพี่น้อง จันทน์กะพ้อหัวเราะเบาๆ แล้วเป็นไงบ้าง ความรักแฮปปี้ดี งานดี ความรักก็โอเคค่ะ...อยากให้พี่อ้ายได้เจอกับพี่หญิงจังอรนิภายิ้มหวานถึงจะไม่ได้เป็นแฟนกันแต่เธอก็ได้จันทน์กะพ้อมาเป็นพี่สาวเพิ่มอีกคนจึงอยากจะให้รู้จักกับคนรักแต่ก็ยังไม่มีโอกาส ก่อนจะย่นจมูกเมื่อพูดถึงเรื่องงาน แต่เรื่องงานพักนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร...ผู้จัดการคนใหม่ขี้หลีอ้อไม่ชอบ เธอทำงานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนแรกก็ชอบมากเพราะงานสนุกแต่ผู้จัดการคนใหม่ชอบมาทำกะลิ้มกะเลี่ยกับเธอ จันทน์กะพ้อมองใบหน้าหวาน...อรนิภานั้นเข้าสเปกของผู้ชายส่วนใหญ่ในประเทศนี้เสียด้วยทั้งผิวขาวเพราะที่บ้านมีเชื้อสายจีน ตัวเล็กบอบบางแต่ก็ทำให้ต้องยุ่งยากกับผู้ชายบางจำพวก...น่าเตะผ่าหมากให้รู้แล้วรู้รอดไป ไหวไหมล่ะ... จันทน์กะพ้อถามอย่างเป็นห่วงถ้ามากไปก็อย่าอยู่เลยนะ เธอคิดว่าไม่ควรจะอดทนทำงานอยู่กับพวกที่จ้องจะข่มเหงผู้หญิงถึงจะระวังตัวมากแค่ไหนก็มีโอกาสพลาดได้ เพราะอีกฝ่ายจ้องจะฉวยโอกาสอยู่เสมอ เธอเองก็ทำงานกับผู้ชายมากมายถึงแม้จะไม่เคยมีปัญหา แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องระวังตัว อ้อก็พยายามระวังตัวอยู่ค่ะถ้าหนักข้อล่ะก็คงไม่อยู่...แต่ก่อนหน้าจะออกคงต้องขอซัดเปรี้ยงให้หายแค้นก่อน ถ้าถึงเนื้อถึงตัวละก็...เธอก็คงไม่เอาไว้เหมือนกัน จันทน์กะพ้ออดหัวเราะไม่ได้แม้จะตัวเล็กแต่เรื่องใจสู้นี่อรนิภาไม่แพ้ใคร แล้วพี่อ้ายล่ะ...มาประจำอยู่ที่นี่หรือเปล่าคะเห็นพ่อบอกว่าพี่นารีมาเปิดโครงการใหม่ หมู่บ้านใหญ่มากเลยอรนิภาเปลี่ยนมาเป็นเรื่องรุ่นพี่สาวบ้าง พี่มาช่วยดูงานแทนสองสามวันน่ะ ไม่ได้อยู่ประจำ ว้า...แบบนี้ก็ไม่ได้เจอพี่อ้ายอีกสิอ้อลางานมาได้แค่สามวันเอง พรุ่งนี้เย็นก็ต้องกลับกรุงเทพฯ แล้ว อืม...อาจจะได้เจอก็ได้นะ อรนิภาเลิกคิ้ว พี่จะไปเรียนป.โทที่กรุงเทพฯ น่ะ จริงเหรอคะ...อยากร้องกรี๊ดอรนิภาอยากจะกระโดดร้องเลยทีเดียว แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มกว้างๆ อย่างดีใจมากเท่านั้น จันทน์กะพ้อหัวเราะท่าทางของรุ่นน้องก่อนจะหยุดเพราะเสียงโทรศัพท์เข้า เธอหยิบมาดู อ้ายรับโทรศัพท์เขตด้วยนะ...เสียงทุ้มๆดังเตือนความจำ ระบายลมหายใจช้าๆ ก่อนจะแตะหน้าจอรับสาย เขตเองนะ เสียงทุ้มๆ ดังมาแทบจะทันที อรนิภาหยิบแก้วน้ำมาจิบ รอรุ่นพี่สาวรับโทรศัพท์ ฮื่อ...เดี๋ยวค่อยคุยนะ อ้าว...ยุ่งเหรอ น้ำเสียงผิดหวังดังมาทีเดียว อือ...กินข้าวอยู่ หื้อ...กินกับหนุ่มที่ไหน คุณนายนอกใจเขตเหรอ เพ้อเจ้อ...แค่นี้นะ อรนิภามองรุ่นพี่สาวตาวาวเธอได้ยินเสียงผู้ชายจากในโทรศัพท์นะ แฟนพี่อ้ายเหรอคะ จันทน์กะพ้อชะงักมือที่กำลังจะหยิบแก้วน้ำหันไปมองอรนิภาก็เห็นประกายตาระยิบระยับ คนบ้าน่ะ... พี่เขตกลายเป็นคนบ้าไปแล้ว อรนิภาหัวเราะขำเธอได้ยินแว่วๆ นะเสียงผู้ชายคนนั้นแทนตัวเองว่าเขตแล้วก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจากพี่เขตชล หนุ่มวิศวะสุดฮ็อต ส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอตัดใจจากจันทน์กะพ้อได้ก็คงจะเพราะเพื่อนสนิท สุดหล่อของจันทน์กะพ้อนั่นแหละ จันทน์กะพ้อโคลงศีรษะโทรศัพท์ยังส่งเสียงดังเป็นจังหวะอยู่หลายครั้งบอกว่ามีข้อความส่งมาทางโปรแกรมสนทนา พอไม่ปฏิเสธนี่...เอาใหญ่เลยนะ แล้วเมื่อไหร่พี่อ้ายกับพี่เขตจะเปิดตัวกันสักทีละคะ...แฟนคลับคู่วาเลนไทน์เชียร์กันมานานแล้วนา จันทน์กะพ้อกะพริบตา คู่วาเลนไทน์อย่างนั้นเหรอ...ไม่ได้ยินนานแล้วนะคำนี้ มันทำให้ต้องนึกถึงครั้งแรกที่ได้รู้จักกับเขตชล
===================================================
Create Date : 20 เมษายน 2558 |
Last Update : 20 เมษายน 2558 11:10:24 น. |
|
9 comments
|
Counter : 2925 Pageviews. |
|
|
เมื่อคืนเพิ่งกลับไปอ่านสาวแพง รอ รอสาวอ้ายกับหนุมเขต