ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
20 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
จันทน์กะพ้อ บทที่ ๗


เขตชลพาสองสาวมาถึงสนามบินได้ทันและพอมีเวลาคุยกันเล็กน้อยก่อนที่จะถึงเวลาขึ้นเครื่องส่วนเนตรากับสิริลักษณ์นั้นแยกกันที่หน้าคอนโดมิเนียมขึ้นแท็กซี่กลับหอพักของสิริลักษณ์เขาพาจันทน์กะพ้อกับพะนอขวัญไปเก็บของแล้วรีบบึ่งมาที่สนามบินทันที

“ตกลงแกจะมาอาทิตย์หน้าใช่ไหม”พะนอขวัญถามย้ำเพื่อนสาว

จันทน์กะพ้อพยักหน้า ขณะที่เขตชลเลิกคิ้วเขายังไม่มีโอกาสได้คุยกับเธออย่างจริงจังเลย แล้วนี่ก็ต้องกลับไปแล้ว

“สรุปว่าเรื่องทายาทเจ้าคุณปู่อะไรนั่น...เรื่องจริง”พะนอขวัญถามเพื่อนอีกครั้ง จันทน์กะพ้อพยักหน้านิดๆ“นี่แกมีปานแดงรูปหัวใจที่แก้มก้นด้านซ้ายกลายเป็นทายาทมหาเศรษฐีพันล้าน”

จันทน์กะพ้อหัวเราะคำพูดเพื่อนสาว

“ไม่ได้ละครขนาดนั้น”

“แล้วขนาดไหน”

“เออน่ะ...เดี๋ยวเล่าให้ฟัง” ถ้าเล่าตอนนี้คงยาวได้ตกเครื่องแน่นอน

“เออๆ งั้นก็เดินทางปลอดภัย อาทิตย์หน้าเจอกัน”พะนอขวัญพยักหน้า ไม่เซ้าซี้เพื่อนสาวต่อเดี๋ยวจันทน์กะพ้อก็เล่าให้ฟังอย่างที่พูด

“ขอบใจแกมากนะแพง” จันทน์กะพ้อเอ่ยกับเพื่อนสาวถ้าไม่ได้พะนอขวัญเธอก็คงยุ่งยากไม่น้อย ก่อนจะหันไปสบตาคมที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว

“เทคแคร์ครับคุณนาย” เขตชลเอ่ยพร้อมกับยิ้มกว้าง

จันทน์กะพ้อหรี่ตา

“ไม่ต้องตามมานะ”

“อ้าว...รู้ทันอีก” เขตชลหุบยิ้ม หัวเราะแห้งๆที่ถูกดักไว้ก่อน

พะนอขวัญเลิกคิ้ว มองดูทั้งสองเงียบๆคิดว่าตัวเองเป็นจิ้งจกเกาะผนังสักพัก ท่าทางจะได้เห็นอะไรดีๆ

เพื่อนสนิทอะไร...ยังไม่ทันพูดก็รู้ใจกันแล้ว

“ก็ที่จริง วันนี้จะไปหาอ้ายอยู่แล้ว” แต่ได้มาเจอกันเสียก่อนที่กรุงเทพฯนี่ หากคุยกันได้ไม่กี่คำ จันทน์กะพ้อก็ถูกเรียกไปทำงานแล้ว ก็เข้าใจได้อยู่หรอก...จันทน์กะพ้อบอกว่าคนที่ดูแลโครงการนั้นเกิดอุบัติเหตุขาหักต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวันคุณนารีจึงให้เธอไปดูแทนก่อนที่เจ้าตัวจะกลับ

แต่เขาก็ยังอยากเจอจันทน์กะพ้ออยู่นี่...แล้วไฟลท์บินไปอุดรก็มีทั้งวัน

“จะไปทำงาน...เข้าใจนะ” จันทน์กะพ้อไม่เออออด้วย

“แหะๆ เขตรอที่กรุงเทพฯ ก็ได้ แต่อ้ายรับโทรศัพท์เขตด้วยนะ”เขตชลรีบเปลี่ยนใจก่อนที่จะทำให้จันทน์กะพ้อเคือง เห็นยังนิ่งๆอยู่ก็วางใจไม่ได้หรอก เดี๋ยวโมโหขึ้นมาจะแย่

จันทน์กะพ้อเลิกคิ้ว...

เขตชลรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขโทรศัพท์ของจันทน์กะพ้อแล้วโทรออกจันทน์กะพ้อยังใช้หมายเลขเดิม ซึ่งก็เป็นหนึ่งในไม่กี่หมายเลขที่เขาตั้งใจจำ

“ไม่ใช้เบอร์เดิมแล้ว เปลี่ยนเป็นเบอร์นี้...อ้ายรับด้วยนะ”เขาเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ เพราะช่วงไปเรียนต่างประเทศ แต่พวกเพื่อนๆก็มีเบอร์ใหม่นี้ทุกคน

จันทน์กะพ้อหยิบโทรศัพท์ตัวเองที่ส่งเสียงว่ามีสายเข้าขึ้นมาดูกดตัดสายไปแล้วเก็บไว้เหมือนเดิม

พะนอขวัญกลั้นหัวเราะแทบแย่เพราะเหลือบไปเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของเพื่อนสาวทันพอดี ท่าทางเขตชลคงจะไม่รู้ว่าจันทน์กะพ้อก็มีหมายเลขโทรศัพท์ที่เขาบอกว่าเป็นเบอร์ใหม่บันทึกไว้อยู่แล้ว

มีเบอร์กันอยู่ทั้งคู่...แต่ไม่ยอมคุยกัน

แหม...สมเป็น ‘เพื่อนสนิท’กันจริงๆ



เขตชลมองตามร่างโปร่งที่เดินเข้าไปข้างในเพื่อขึ้นเครื่องจนลบตาพอหันมาก็พบกับแววตายิ้มๆ เชิงเย้าแหย่ของพะนอขวัญรู้สึกเหมือนจะต้องโดนเจ้าตัวเอาคืนที่เขาเคยแซวเรื่องเธอกับพี่ใหญ่ไว้แน่

“มองตามเพื่อนสนิทตาละห้อยเลยนะคะ”

“แหม...คุณแพงก็” เขตชลหัวเราะเขินๆก็คงต้องยอมโดนแซวแต่โดยดีนั่นแหละ

พะนอขวัญหยุดยิ้ม...ลังเลนิดหน่อยว่าจะพูดดีไหมแต่ยังไงทั้งคู่ก็เป็นคนใกล้ตัวของเธอ

“ตกลงคุณกลางจริงจังเรื่องอ้ายหรือเปล่าคะ”

เขตชลหยุดหัวเราะ สบตาคมจัด

“จริงจังมากครับ”

พะนอขวัญพยักหน้าแม้จะรู้จักกันไม่นานแต่เธอก็เชื่อคำพูดของเขาแม้ภาพลักษณ์ของเขตชลจะไม่ได้เหมือนกันน่านฟ้าที่ดูเป็นคนจริงจังมากกว่า แต่ลึกๆแล้วก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไร รวมถึงแดนดินด้วยก็คงขึ้นอยู่กับจันทน์กะพ้อแล้วล่ะว่าจะทำอย่างไร



เขตชลไปส่งพะนอขวัญที่อพาร์ตเมนต์แล้วกลับมาที่คอนโดมิเนียมเพื่อจัดการเก็บข้าวของที่ยังไม่ได้เก็บเพราะต้องรีบออกไปส่งจันทน์กะพ้อ แม้ว่าจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องชุดเป็นประจำแต่เขาก็ไม่อยากทิ้งไว้ หากเมื่อมาถึงก็มีเด็กสองคนกำลังจัดการของที่เหลืออยู่

“พี่กลาง...อยากกินออมเล็ต”แดนดินยิ้มกว้างเมื่อเห็นพี่ชายกลับมา

เขตชลรับไหว้รุ่นน้องของแดนดินแล้วหันไปแยกเขี้ยวให้น้องชาย

“ทำเองสิ”

“โห...ถ้าทำเองเป็น จะให้พี่ทำให้เหรอนะ...นะ...พี่กลางสุดหล่อใจดีที่สุดในสามโลก”ตอนที่ขึ้นมาเอาของบนห้องแล้วเห็นในห้องครัวมีของกินเหลืออยู่นี่ดีใจแทบตายจะได้ไม่ต้องพึ่งบะหมี่สำเร็จรูปเขารีบโทรศัพท์ไปบอกให้คมคิดขึ้นมา

เขตชลหัวเราะในลำคอ ทีนี้ทำเป็นประจบเชียวนะแต่ก็เดินไปล้างมือแล้วลงมือทำออมเล็ตให้น้องชาย

“มากันสองคน” เขาถามเพื่อความแน่ใจ

“ครับผม” แดนดินพยักหน้า

เขตชลตอกไข่ใส่ชามแล้วเทนมลงไปแม้จะแค่สองคนแต่ก็เป็นเด็กโข่งตัวใหญ่เขาก็เลยทำเยอะเป็นพิเศษโรยเกลือกับพริกไทยนิดหน่อยก่อนจะตีให้เข้ากัน แล้วหยิบแฮมกับไส้กรอกที่ยังเหลือรอดจากเด็กทั้งสองมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ“เอาแบบธรรมดาๆ ไม่ต้องวิลิศมาหรานะ”

“แบบไหนก็ได้...แค่พี่กลางทำให้ก็ปลื้มสุดๆ แล้ว”

“เรื่องกินนี่ประจบแก่งนะ”เขตชลทั้งขำทั้งหมั่นไส้ยิ้มแป้นของน้องชาย เขาเหลือบไปเห็นคมคิดที่กลั้นหัวเราะแบบสุดๆความจริงคมคิดน่าจะเป็นรุ่นพี่ของแดนดินมากกว่านะดูสุขุมเป็นผู้เป็นคนผิดกับผมทรงเดรตล็อกมาก

“แล้วเมื่อเช้าพี่กลางทำเลี้ยงสาวที่ไหนล่ะ”สงสัยจะหลายสาวด้วยเพราะเขาเห็นจานที่เก็บวางไว้ในอ่างล้างจานหลายใบทีเดียว

“พี่นางของนายไง”

“หา...เจ๊แพงมาค้างที่นี่เหรอ”

“กับเพื่อนด้วย”

“อ๋อ...เจ๊อ้ายน่ะเหรอ” แดนดินพยักหน้าหงึกหงักแต่มุมปากยกยิ้ม

เขตชลเหลือบมองน้องชายหากมือก็ยังหยิบกระทะมาวางบนเตาไฟฟ้า ใส่เนยลงไป รอให้เนยละลายก่อนจะเทไข่ลงในกระทะ

“ท่าทางจะรู้จักดีนะเรา”

แดนดินแกล้งสะดุ้ง

“ก็รู้จักเมื่อวันก่อน...เห็นเจ๊เขาน่ารักดีเนอะคม”

“ครับ...” คมคิดเหลือบมองรุ่นพี่กับพี่ชายสลับกันก็ใช่อยู่ที่ว่ารุ่นพี่สาวที่พูดถึงนั้นน่ารักดีแต่รู้สึกว่าคำพูดระหว่างสองพี่น้องน่าจะมีอะไรๆ มากกว่านั้น

แดนดินยิ้มกว้าง แสดงว่าเพื่อนเจ๊แพงเป็นคนเดียวกับผู้หญิงในภาพเหล่านั้น

เขตชลรู้สึกอยากใช้ตะหลิวไม้ในมือเคาะหน้าผากน้องชายแต่เดี๋ยวไข่ไหม้ไปเสียก่อน...เสียดายของ เขาตักออมเล็ตที่เสร็จแล้วใส่จานส่งให้น้องชาย

“พี่กลางว่า...ผมลองจีบเจ๊อ้ายดีไหม”

เขตชลชะงัก ก่อนจะถาม

“เอาจริง...”

“ไม่จริง...” แดนดินตอบเร็วพร้อมกับหัวเราะกับสีหน้าของพี่ชาย ความจริงว่าจะลองแกล้งพี่ชายเล่นสักหน่อยแต่ไม่เอาดีกว่า...พี่กลางมือหนัก

“คุณหนูเล็ก...” เขตชลลากเสียงหนัก

“ก็พี่เขาน่ารักดี...ท่าทางยังไม่มีแฟนด้วยพี่กลางไม่ลองจีบดูเหรอ เออเนอะ...ไม่ใช่สเปกพี่กลางนี่ เจ๊อ้ายเขาไม่ได้ขาวหมวยสวยเซ็กซี่...โอ๊ะ”ยังไม่ทันจบประโยคแดนดินก็ร้อง เพราะจู่ๆ จานออมเล็ตก็ถูกดึงไป

“พูดมาก...ไม่ต้องกินแล้วมั้ง”

“โห...พี่กลาง อย่าแกล้งสิ นี่น้องนะ”

“คมรำคาญไหม...มีรุ่นพี่พูดมากขนาดนี้”เขตชลหันไปทางคมคิด

“ทำไงได้ล่ะครับ...พี่รหัสผมนี่” คมคิดหัวเราะ

“อ้าว...ไอ้สมคิด” แดนดินหันไปโวยวายรุ่นน้องและแกล้งเรียกชื่อผิด แต่คมคิดก็ยังหัวเราะร่วน

“หึๆ...พี่ชอบนายว่ะ เอานี่” เขตชลวางจานออมเล็ตตรงหน้าคมคิด“กินเสร็จแล้วก็ช่วยกันเก็บล้างด้วยล่ะ”

“ครับ” คมคิดรับคำเขาตั้งใจจะเก็บล้างจานอยู่แล้ว

“แล้วพี่กลางจะไปไหน”แดนดินร้องถามเมื่อพี่ชายเดินออกไปจากห้องครัว เขตชลไม่ได้หันมาตอบหากสักครู่ก็มีเสียงเปียโนดังขึ้นมาเป็นคำตอบ

“อื้อหือ...มืออาชีพเลยนะ” คมคิดเอ่ยเขาไม่รู้ว่าเพลงที่เขตชลเล่นอยู่นั้นคือเพลงอะไรแต่เดาว่าน่าจะเป็นเพลงคลาสสิคแต่ที่รู้ก็คือเสียงเปียโนนั้นหนักแน่นหากอ่อนหวาน

“พี่กลางอารมณ์ดีสุดๆ เลยแฮะ” แดนดินยิ้มกว้าง

เสียงเปียโนหวานขนาดนี้...คิดเป็นอื่นไม่ได้หรอก



จันทน์กะพ้อกวาดสายตามองหาคนที่นัดเธอมายังร้านอาหารซึ่งติดกับโรงแรมที่เธอพักขณะอยู่อุดรธานีบรรยากาศร้านอาหารเป็นกึ่งผับหากเปิดโล่ง มีวงดนตรีกำลังเล่นเพลงขับกล่อมขณะนี้ยังหัวค่ำ ลูกค้ายังไม่เยอะนัก

“พี่อ้าย...” หญิงสาวคนหนึ่งลุกขึ้นโบกมือเรียกจันทน์กะพ้อรีบก้าวไปหาทันที

“หวัดดีค่ะพี่อ้าย”

จันทน์กะพ้อรับไหว้รุ่นน้องสาวสวยแล้วทรุดนั่งลงตรงข้ามเมื่อตอนบ่ายที่เธอมาถึงเธอก็ไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมผู้จัดการโครงการซึ่งพักรักษาตัวอยู่เจ้าตัวบอกว่าดีขึ้นมากแล้วหากต้องเข้าเฝือกอีกพักใหญ่ คงจะต้องอยู่โรงพยาบาลอีกสักพักเธอได้พบกับอรนิภา รุ่นน้องที่สนิทกันซึ่งฝ่ายนั้นมาเยี่ยมพี่สะใภ้ที่เพิ่งคลอดลูกแต่ก็ไม่มีเวลาคุยกันเพราะเธอต้องไปดูไซต์งานต่อ จึงนัดกันมาทานข้าวเย็นด้วยกัน

“อ้อสั่งของโปรดพี่อ้ายมาแล้ว...เอาอะไรเพิ่มไหมคะ”

จันทน์กะพ้อมองอาหารทั้งหลายจานบนโต๊ะแล้วส่ายหน้า

“พอแล้วจ้ะ”

“เบียร์ไหมคะ”

จันทน์กะพ้อหัวเราะ ก่อนปฏิเสธ “น้ำเปล่าดีกว่า”

“โอ๊ย...คิดถึงพี่อ้ายจังเราไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้ว” อรนิภายิ้มกว้าง เธอเป็นรุ่นน้องของจันทน์กะพ้อหนึ่งปีอยู่คนละคณะกัน เธอรู้จักจันทน์กะพ้อเมื่อตอนแข่งกีฬาระหว่างคณะ ขณะที่ไปเชียร์คณะตัวเองแข่งบาสเก็ตบอลกับวิศวกรรมศาสตร์ก็กลายเป็นว่าไปเทใจให้นักบาสอีกฝ่ายไปแล้ว

“นั่นสิ...ตั้งแต่เข้าไปเป็นสาวกรุงเทพฯก็ไม่ได้เจอกันเลย” จันทน์กะพ้อเย้านิดๆ พอเรียนจบอรนิภาก็เลือกเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯแม้ว่าทางบ้านซึ่งมีธุรกิจหลายอย่างในอุดรธานีจะอยากให้กลับมาทำงานที่บ้านจึงไม่ได้เจอกันอีกแต่ก็ยังติดต่อกันบ้าง “อ้อสวยขึ้นนะนี่”

“แหม...พี่อ้ายปากหวานอีกแล้วเดี๋ยวอ้อก็เปลี่ยนใจกลับมารักอีกหรอก” อรนิภายิ้มเขินๆ ตอนที่เห็นจันทน์กะพ้อในสนามบาสเก็ตบอลครั้งแรกเธอก็รู้สึกหลุมรักสาวเท่คนนั้นอย่างจังเธอประทับใจรอยยิ้มกว้างตอนที่จันทน์กะพ้อชู้ตลูกลงห่วงเอามากๆจากนั้นเธอก็แทบจะไปนั่งเกาะขอบสนามบาสเก็ตบอลของวิศวะอยู่ตลอด

แม้กระทั่งตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกว่าสาวรุ่นพี่เท่เหมือนเดิม...ไม่ใช่เรื่องรูปร่างหน้าตา เพราะจันทน์กะพ้อไม่ได้หน้าตาหล่อละม้ายผู้ชายหากพิศดูดีๆ รุ่นพี่สาวออกจะสวยด้วยซ้ำ แต่เพราะบุคลิก ลักษณะท่าทางรวมถึงการแต่งกายด้วยทำให้รุ่นพี่ดูเป็น ‘สาวเท่’ แต่ที่เธอประทับใจก็คือนิสัยใจคอจันทน์กะพ้อนั้น ‘แมน’ กว่าผู้ชายหลายคนมาก

“พี่พูดเรื่องจริง...แต่ไม่ต้องเปลี่ยนใจเดี๋ยวแฟนอ้อมาต่อยพี่” จันทน์กะพ้อกระเซ้า ไปทำงานที่กรุงเทพฯได้สักพักอรนิภาก็บอกกำลังมีความรักอีกครั้ง เธอยังไม่เคยเห็นตัวจริงแต่ว่ารูปที่อรนิภาส่งมาให้ดูก็เป็นผู้หญิงที่สวยทีเดียว

“แหม...รีบปฏิเสธเชียวนะคะ” อรนิภาทำแก้มป่องเธอรู้ตัวเองตั้งนานแล้วว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย พอได้เจอจันทน์กะพ้อก็รู้สึกว่าใช่เลยแม้จันทน์กะพ้อจะไม่ได้แสดงออกว่าเป็นทอมอย่างชัดเจนแต่เธอก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เท่มากเธอก็ตามตื้ออยู่นานแต่ก็ไม่สำเร็จจันทน์กะพ้อบอกว่าไม่ได้ไม่ชอบเพราะเธอเป็นผู้หญิง แต่เพราะไม่ได้รู้สึกอะไรเกินกว่าพี่น้อง

จันทน์กะพ้อหัวเราะเบาๆ

“แล้วเป็นไงบ้าง ความรักแฮปปี้ดี งานดี”

“ความรักก็โอเคค่ะ...อยากให้พี่อ้ายได้เจอกับพี่หญิงจัง”อรนิภายิ้มหวานถึงจะไม่ได้เป็นแฟนกันแต่เธอก็ได้จันทน์กะพ้อมาเป็นพี่สาวเพิ่มอีกคนจึงอยากจะให้รู้จักกับคนรักแต่ก็ยังไม่มีโอกาส ก่อนจะย่นจมูกเมื่อพูดถึงเรื่องงาน “แต่เรื่องงานพักนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร...ผู้จัดการคนใหม่ขี้หลีอ้อไม่ชอบ” เธอทำงานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนแรกก็ชอบมากเพราะงานสนุกแต่ผู้จัดการคนใหม่ชอบมาทำกะลิ้มกะเลี่ยกับเธอ

จันทน์กะพ้อมองใบหน้าหวาน...อรนิภานั้นเข้าสเปกของผู้ชายส่วนใหญ่ในประเทศนี้เสียด้วยทั้งผิวขาวเพราะที่บ้านมีเชื้อสายจีน ตัวเล็กบอบบางแต่ก็ทำให้ต้องยุ่งยากกับผู้ชายบางจำพวก...น่าเตะผ่าหมากให้รู้แล้วรู้รอดไป

“ไหวไหมล่ะ...” จันทน์กะพ้อถามอย่างเป็นห่วง“ถ้ามากไปก็อย่าอยู่เลยนะ” เธอคิดว่าไม่ควรจะอดทนทำงานอยู่กับพวกที่จ้องจะข่มเหงผู้หญิงถึงจะระวังตัวมากแค่ไหนก็มีโอกาสพลาดได้ เพราะอีกฝ่ายจ้องจะฉวยโอกาสอยู่เสมอ

เธอเองก็ทำงานกับผู้ชายมากมายถึงแม้จะไม่เคยมีปัญหา แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องระวังตัว

“อ้อก็พยายามระวังตัวอยู่ค่ะถ้าหนักข้อล่ะก็คงไม่อยู่...แต่ก่อนหน้าจะออกคงต้องขอซัดเปรี้ยงให้หายแค้นก่อน” ถ้าถึงเนื้อถึงตัวละก็...เธอก็คงไม่เอาไว้เหมือนกัน

จันทน์กะพ้ออดหัวเราะไม่ได้แม้จะตัวเล็กแต่เรื่องใจสู้นี่อรนิภาไม่แพ้ใคร

“แล้วพี่อ้ายล่ะ...มาประจำอยู่ที่นี่หรือเปล่าคะเห็นพ่อบอกว่าพี่นารีมาเปิดโครงการใหม่ หมู่บ้านใหญ่มากเลย”อรนิภาเปลี่ยนมาเป็นเรื่องรุ่นพี่สาวบ้าง

“พี่มาช่วยดูงานแทนสองสามวันน่ะ ไม่ได้อยู่ประจำ”

“ว้า...แบบนี้ก็ไม่ได้เจอพี่อ้ายอีกสิอ้อลางานมาได้แค่สามวันเอง พรุ่งนี้เย็นก็ต้องกลับกรุงเทพฯ แล้ว”

“อืม...อาจจะได้เจอก็ได้นะ”

อรนิภาเลิกคิ้ว

“พี่จะไปเรียนป.โทที่กรุงเทพฯ น่ะ”

“จริงเหรอคะ...อยากร้องกรี๊ด”อรนิภาอยากจะกระโดดร้องเลยทีเดียว แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มกว้างๆ อย่างดีใจมากเท่านั้น

จันทน์กะพ้อหัวเราะท่าทางของรุ่นน้องก่อนจะหยุดเพราะเสียงโทรศัพท์เข้า เธอหยิบมาดู

“อ้ายรับโทรศัพท์เขตด้วยนะ”...เสียงทุ้มๆดังเตือนความจำ

ระบายลมหายใจช้าๆ ก่อนจะแตะหน้าจอรับสาย

“เขตเองนะ” เสียงทุ้มๆ ดังมาแทบจะทันที

อรนิภาหยิบแก้วน้ำมาจิบ รอรุ่นพี่สาวรับโทรศัพท์

“ฮื่อ...เดี๋ยวค่อยคุยนะ”

“อ้าว...ยุ่งเหรอ” น้ำเสียงผิดหวังดังมาทีเดียว

“อือ...กินข้าวอยู่”

“หื้อ...กินกับหนุ่มที่ไหน คุณนายนอกใจเขตเหรอ”

“เพ้อเจ้อ...แค่นี้นะ”

อรนิภามองรุ่นพี่สาวตาวาวเธอได้ยินเสียงผู้ชายจากในโทรศัพท์นะ

“แฟนพี่อ้ายเหรอคะ”

จันทน์กะพ้อชะงักมือที่กำลังจะหยิบแก้วน้ำหันไปมองอรนิภาก็เห็นประกายตาระยิบระยับ

“คนบ้าน่ะ...”

“พี่เขตกลายเป็นคนบ้าไปแล้ว” อรนิภาหัวเราะขำเธอได้ยินแว่วๆ นะเสียงผู้ชายคนนั้นแทนตัวเองว่าเขตแล้วก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจากพี่เขตชล หนุ่มวิศวะสุดฮ็อต

ส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอตัดใจจากจันทน์กะพ้อได้ก็คงจะเพราะ‘เพื่อนสนิท’ สุดหล่อของจันทน์กะพ้อนั่นแหละ

จันทน์กะพ้อโคลงศีรษะโทรศัพท์ยังส่งเสียงดังเป็นจังหวะอยู่หลายครั้งบอกว่ามีข้อความส่งมาทางโปรแกรมสนทนา

พอไม่ปฏิเสธนี่...เอาใหญ่เลยนะ

“แล้วเมื่อไหร่พี่อ้ายกับพี่เขตจะเปิดตัวกันสักทีละคะ...แฟนคลับคู่วาเลนไทน์เชียร์กันมานานแล้วนา”

จันทน์กะพ้อกะพริบตา

คู่วาเลนไทน์อย่างนั้นเหรอ...ไม่ได้ยินนานแล้วนะคำนี้

มันทำให้ต้องนึกถึงครั้งแรกที่ได้รู้จักกับเขตชล


===================================================




Create Date : 20 เมษายน 2558
Last Update : 20 เมษายน 2558 11:10:24 น. 9 comments
Counter : 2925 Pageviews.

 
แหน่ะ วันนี้ สาวอ้ายมาทันใจหายคิดถึงเลยค่ะ

เมื่อคืนเพิ่งกลับไปอ่านสาวแพง รอ รอสาวอ้ายกับหนุมเขต


โดย: จิงโกะ IP: 115.31.137.10 วันที่: 20 เมษายน 2558 เวลา:11:53:27 น.  

 
อ๊ายย อยากอ่านต่อออ เขินนน


โดย: thebes IP: 27.145.31.96 วันที่: 20 เมษายน 2558 เวลา:12:01:37 น.  

 
น่าร้ากกกกก

:)

รออ่านต่อนะคะ


โดย: Comet IP: 101.109.206.208 วันที่: 20 เมษายน 2558 เวลา:15:33:52 น.  

 
อยากรู้เรื่องสมัยเค้าอยู่มหาลัยกันจริงๆ คู่นี้ ท่าจะสนุกและน่าลุ้นน่าดู


โดย: nasa IP: 110.77.199.74 วันที่: 20 เมษายน 2558 เวลา:19:44:57 น.  

 
พี่เขตอยู่ในโอวาทดีจัง ฮา


โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 วันที่: 20 เมษายน 2558 เวลา:20:08:11 น.  

 
อยากอ่านนเป็นเล่มแล้วค่ะ รู้สึกว่าแค่นี้ไม่พออ่ะ รีบๆๆมานะคะ


โดย: จุลีพร IP: 223.206.248.143 วันที่: 20 เมษายน 2558 เวลา:20:51:32 น.  

 
เมื่อไหร่อ้ายจะยอมคุยกับเขตเสียที อยากรู้เรื่องของทั้งสองคนจังเลย มาเขียนต่อเร็วๆนะค่ะ ส่งกำลังใจไปช่วย


โดย: สายลม IP: 110.171.56.16 วันที่: 21 เมษายน 2558 เวลา:7:03:12 น.  

 
ยิ่งอ่านก็ยิ่งอยากให้รวมเล่มเร็วๆ


โดย: wow IP: 110.77.155.75 วันที่: 21 เมษายน 2558 เวลา:8:18:12 น.  

 
เป็นลูกแมวเชื่องๆนี่เองนายเขต55555


โดย: Sugar IP: 122.154.28.114 วันที่: 21 เมษายน 2558 เวลา:16:22:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.