Group Blog
 
 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
2 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
หลวงพระบาง เมืองในฝัน (ตอนที่ 1)

ในที่สุด ผมก็ได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนเมืองหลวงพระบาง หลังจากเฝ้าฝันที่จะไปมาหลายปี
นี่นับเป็น 1 ใน 4 สุดยอดความสุข ในช่วงปีใหม่ของผมครับ

การเดินทางครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 29/12/2006 เวลา 19.30น. ถึง เย็นวันที่ 01/01/2007 เวลา 18.00น.

ใช้กล้อง Nikon รุ่นกระป๋อง ผมตั้งให้ชื่อมันเองแหละครับ
จริงๆแล้วฝีมือถ่ายรูปผมก็กระป๋องพอๆกับกล้องแหละครับ


มีผู้ร่วมเดินทาง 3 คน คือ พี่เด่น ไอ้ป๋อม และ ตัวผมเอง

โฉมหน้าผู้ร่วมขบวนการ เอ๊ย!!! ผู้ร่วมเดินทาง

คนใส่แว่นคือพี่เด่น อีกคนก็ไอ้ป๋อมนั่นเอง

วันนั้นคนจะไปหลวงพระบางเยอะมากจนต้องมีเก้าอี้เสริม
เป็นเก้าอี้พลาสติกแบบไม่มีพนักพิง โอ้ว ทรมานสุดๆ ต้องนั่งจากเวียงจันทน์ไปหลวงพระบาง
เกือบๆ 11 ชั่วโมง (รวมเวลาจอดพัก)

รถออกเวลา 19.30น. พอดี หลังจากนั้น ผมก็ติดต่อหาที่พักกับคนรู้จัก รวมถึงคุณโทมัสด้วย
พอดีได้เบอร์คุณโทมัสมาจากพันทิบ สุดท้ายได้มากอดไว้ 1 ที่ แต่ราคาแพงมาก 30$ ต่อคืน เพื่อนๆที่ให้ช่วยหาที่พักต่างก็บอกว่าเต็มกันหมดแล้ว
เอาวะ แพงหน่อย ดีกว่านอนวัด หลังจากได้ที่พักแล้ว ก็หลับเอาแรง เดินทางกลางคืน รถจะจอดบ่อยมากๆ ได้แต่หลับๆ ตื่นๆ



ถึงกาสีประมาณเที่ยงคืนครึ่ง นี่เพิ่งมาได้ครึ่งทางเอง
หลังจากนี้ จะเป็นภูเขาอย่างเดียว เตรียมเมารถได้เลย
ถ้าใครรู้ตัวว่าเมารถบ่อยอย่างผม นอนเลยครับ ไม่งั้นเสร็จแน่ๆ

เย้ๆ ถึงหลวงพระบางแล้ว ท่ารถเมืองหลวงพระบางชื่อว่า "สถานีจอดรถ บ้านนาหลวง"
หรือถ้าจะนั่งสามล้อเครื่องมา ก็บอกว่า "ไปคิวรถสายใต้" ก็ได้ครับ



เพื่อนที่อยู่หลวงพระบางมารับและพาตระเวณหาที่พัก
หาอยู่หลายที่ ในที่สุดก็ได้ที่พักราคาถูก
เป็นบ้านที่เค้ากำลังจะทำเป็นบ้านพักแต่ยังตกแต่งไม่เสร็จ ตกแต่งภายเสร็จไป 1 ห้อง ถือว่าเป็นโชคดี
ข้างในก็พออยู่ได้ ราคา 10$ ต่อคืน จากนั้นก็โทรไปแจ้งทุกคนที่ให้ช่วยจองที่พักว่าได้ที่พักแล้ว
(ช่วงที่ไป ห้องพัก 98% จะเต็มหมด นอกนั้นก็อยู่นอกๆตัวเมือง)



จากระเบียงห้องพัก สามารถเห็นพระธาตุพูสีได้ด้วยตาเปล่า แต่หมอกเยอะมาก ภาพเลยออกจะลางเลือนซักหน่อย

จัดการอาบน้ำ แต่งตัวเตรียมไปเที่ยวเสร็จ
จากนั้นก็ตระเวณหาอะไรเข้าท้องซะหน่อย ไปเจอร้านขาย "ข้าวจี่" โดยบังเอิญ
แต่ขอบอกว่าร้านนี้ ฝีมือสุดยอดมากๆ ตั้งแต่กินข้าวจี่มา ร้านนี้อร่อยที่สุด

ร้านนี้อยู่ตรงข้ามกับตลาดดาลา (ตลาดดาลาตอนนี้กำลังสร้างใหม่) อยู่บนถนน เจ้าสีสุพัน หาง่ายครับ


อร่อยมาก อิอิ


วางแผนกันว่าวันนี้จะเที่ยวนอกๆก่อน คือถ้ำติ่งและน้ำตกตาดกวางซี
วันรุ่งขึ้นถึงเที่ยวในเมือง แล้วเดินทางกลับในวันที่ 3

9 โมงครึ่งก็เหมารถไปเที่ยวกัน
ไม่รู้เพื่อนมันหารถมาจากไหน มันบอกว่าคันนี้ถูกมากๆ
คิดค่าพาเที่ยว 2 ที่ คือ ถ้ำติ่งและน้ำตกตาดกวางซี ทั้งวัน คิด 3,000 บาท
แถมยังบอกอีกว่า ถ้าเป็นคนอื่นคิด 5,000 บาท

ไปถ้ำติ่งได้ 2 ทาง คือทางเรือและทางรถ
ทางเรือจะเสียเวลาในการเดินทางมากหน่อย
คุยกับคนไทยที่เจอกันที่ร้านขายข้าวจี่ว่า
ค่าเรือประมาณ 800 - 1000 บาท

ระหว่างทางไปถ้ำติ่ง โชคดี ได้เห็นประเพณีการละเล่นปีใหม่ของชาวเขา เลยลงรถแวะถ่ายรูป


จับคู่โยนบอล เดี๋ยวถ้ารูปชื่อการละเล่นจะมาแก้ให้ใหม่นะครับ


พ่อ แม่ กำลังซื้อขนมให้ลูก


ลูกสาวใครทำไมถูกใจจริงๆ ส่งสายตาให้กัน ปิ๊งๆๆ


เหมือนๆบ้านเรา ที่หนุ่ม สาวจะมาเที่ยวปีใหม่ แล้วก็เกี้ยวพาราสีกัน อย่าง 2 คู่ข้างหน้านี้ กำลังจีบกันอยู่

เดินทางต่ออีกราวๆ 30 นาทีก็ถึงท่าเรือที่จะข้ามไปถ้ำติ่ง
คำว่าติ่ง มาจากติ่งหินหรือที่บ้านเรา
เรียกว่าหินงอก หินย้อยนั่นเองครับ


ภูเขาที่เห็นด้านหลังคือ ผาแอ่น

แวะซื้อของที่ชาวบ้านเอามาขายกัน




เดินไปตามทาง ก็จะเจอท่าเรือ
เค้าคิดคนละ 15,000 kip ราวๆ 37 บาท
พาไปดูผาแอ่นและถ้ำติ่ง

จุดเล็กๆ สีขาว นั่นคือที่ตั้งของถ้ำติ่งครับ



สถานที่แรก ผ่าแอ่น First Station Pha Ant



ที่ถ้ำติ่ง ต้องซื้อปี้เข้าชม
อ่านไม่ผิดหรอกครับ ซื้อปี้ครับ ซื้อปี้ อิอิ
ปี้ ภาษาลาว แปลว่า ตั๋วน่ะครับ



ภายในถ้ำติ่งลุ่ม (แปลว่า ถ้ำติ่งล่าง)





สำหรับถ้ำติ่งเทิง (ถ้ำติ่งบน) ต้องเดินต่ออีกหลายขั้นบันได



ระหว่างทางจะมีเด็กชาวบ้านแถวนั้น
มานั่งขายของริมทาง ส่วนมากจะเป็นนกให้
นักท่องเที่ยวปล่อยเอาบุญ (แต่ผมว่าเอาบาปซะมากกว่า)
และแล้วไอ้ป๋อมก็ติดกับ แล้วแต่จิตใจครับ ว่ากันไม่ได้



ทางเข้าถ้ำติ่งเทิง

ออกจากถ้ำติ่ง ก็มุ่งหน้าสู่บ้านซ่างไห (สร้างไห)
เป็นหมู่บ้านที่ต้มเหล้า(เถื่อน)ขาย
มีเหล้าที่ขึ้นชื่อ คอเหล้าชอบนักหนา คือ เหล้า "กงสะเด็น"



สินค้าที่ขายที่หมู่บ้านนี้







กำลังซื้อเหล้าไปฝากพี่ที่ทำงานครับ
ไม่ใช่เหล้าดองสัตว์ประหลาดนะครับ อันนั้นกินไม่ลง
เหล้าที่ซื้อ เป็นเหล้าดองรากไม้ สมุนไพรครับ



กลับมาถึงตัวเมือง ราวๆ บ่ายโมง
แวะทานข้าวที่ร้าน "บัวกลางบึง" เป็นร้านอาหารของคนไทยครับ



สนามเปตอง กีฬาที่คนลาวเกือบทั้งประเทศชอบเล่น
น่าจะเนื่องจากประเทศลาวเป็นแชมป์เบตอง ซีเกมส์นั่นเอง



ทางเข้าร้านบัวกลางบึง



นั่งรออาหาร (หิวแล้วนะ หุหุ)



หลังอาหารเที่ยง ก็เดินทางไปน้ำตก "ตาดกวางซี"
ระหว่างทาง คนขับรถแวะทำอะไรไม่รู้ที่
ศูนย์กลางบริการรถตู้



ที่นี่แหละครับ ทำให้พวกผมตาสว่าง



ที่กระดานสีขาวบอกว่า
รถตู้ไปตาดกวางซี 30,000 kip ราวๆ 100 กว่าบาท ต่อคน
ส่วนไปถ้ำติ่ง ก็ตกราวๆ 100 กว่าบาทอีกเช่นกัน
นั่นเป็นเพราะไม่หาข้อมูลมาก่อนเอง โสน้าหน้า Y_Y



ทางไปตาดกวางซี ครึ่งหนึ่งจะเป็นอย่างภาพนี่แหละครับ
ฝุ่นตลบ ดีที่มารถตู้ ถ้ารถตุ๊กๆ ได้เป็นโรคปอดแน่ๆ
ส่วนอีกครึ่งเป็นทางยางแล้ว
คิดว่าปลายเดือน มกราคม 2550 น่าจะเป็นทางยางทั้งหมด



นั่งรถไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงทางเข้าตาดกวางซี

ระหว่างทางไปน้ำตก จะมีกรงหมีดำและกรงเสือให้ชมด้วยครับ

เดินประมาณ 10 นาทีก็ถึงครับ
ถึงแม้น้ำจะน้อยไป แต่ก็ยังคงความสวย



ปีนขึ้นมาชั้น 2 ของน้ำตกกับไอ้ป๋อม
พี่เด่นบอกไม่ไหว แก่แล้ว ใครที่ไม่แน่ใจ อย่าขึ้นนะครับ ตอนลง ยากกว่าตอนขึ้นเยอะเลย



ไหนๆก็ขึ้นชั้น 2 แล้ว ไปให้สุดๆไปเลย
มาชั้นที่ 3 บนสุดของน้ำตกครับ
ทางขึ้นชันมากๆ ยิ่งตอนลงอันตรายมากครับ
จริงๆถ้ารู้ว่าข้างบนไม่สวยเท่าชั้น 2 ไม่ขึ้นดีกว่า



อาหารเย็นวันนี้ ไปกินที่ "ตลาดมืด" ครับ
ชื่อน่ากลัวไหม 555+
จริงๆ เค้าตั้งตามชื่อน่ะครับ คือ ตลาดที่เปิดกลางคืน กลางคืนมืด ก็เลยกลายเป็นตลาดมืด -*-



นี่น่าจะเป็นเมี่ยงคำครับ แม่ค้าจะทำเป็นคำๆไว้ให้แล้ว ขายกระทงละ 2,000 kip
ได้ราวๆ 6-7 ก้อน

อิ่มแล้วก็เดินตลาดมืดครับ
เป็นตลาดที่เอาของพื้นเมืองมาวางขายตามถนน
แผงที่มาวางขาย ยาวกว่า 100 เมตร
น่าจะเกือบๆ 500 แผงได้มั้งครับ
วันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปตลาดมืด ไว้ดูต่อในตอนที่ 2 นะครับ



ร้านขายโปสการ์ดแถวตลาดมืด ชื่อ mimipost
เท่าที่สืบราคา ร้านนี้ขายโปสการ์ดถูกที่สุดในหลวงพระบาง
(ไม่นับที่ไปรษณีย์นะครับ เพราะช่วงที่ไป ไปรษณีย์ปิด)
ราคาการ์ดตกใบละ 1,500 kip ก็ราวๆ 5 บาท 50 สตางค์
แสตมป์ที่ใช้ส่งไปไทย 6,500 kip ก็ราวๆ 24 บาท

แล้วก็สิ้นสุดการเที่ยวหลวงพระบางวันนี้เพียงเท่านี้

จริงๆแล้วหลังจากนี้ พวกผมไปเที่ยวเธคครับ 555+
ที่หลวงพระบาง มีเธค 2 ที่
แบ่งเป็นเธคคนแก่ ชื่อ เมืองซวา กับเธควัยรุ่น ชื่อ ดาวฟ้า
วันนี้เลือกเที่ยวเธคคนแก่ เพราะเขาว่าเธควัยรุ่นตีกันบ่อย

เมืองซวา เปิดกี่โมงไม่รู้ แต่ว่าปิด 23.30น. เพลงที่เปิด ส่วนมากจะเพื่อคนมีอายุ และเป็นเพลงที่ใช้เต้นจังหวะของลาว เช่นบาซะโล้บ, ม้าย่อง ก็คล้ายจังหวะแทงโก ประมาณนี้
มีเพลงวัยรุ่นมาปนบ้างนิดหน่อย

ส่วนดาวฟ้า รู้สึกจะปิดตี 2 ครับ

ติดตามวันที่ 2 ต่อได้ที่
หลวงพระบาง เมืองในฝัน (ตอนที่ 2)



Create Date : 02 มกราคม 2550
Last Update : 6 มกราคม 2550 13:46:03 น. 5 comments
Counter : 2575 Pageviews.

 
อยากดูรูปอีกเยอะๆอ่ะค่ะ เอามาลงอีกจิ ยุ้ยอยากเห็นบ้านเมืองเขาจังเลยค่ะ แค่สาวน้อยคนนี้ยังไม่จุใจเลยค่ะ


โดย: กระพรวนน้อยเสียงใส วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:0:00:21 น.  

 
หวัดดีปีใหม่คะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ อิจฉาจังได้ไปเที่ยว อยากไปบ้างงงงงงงงงง ชอบเที่ยวสุดๆ เลย


โดย: diary_cs วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:9:10:09 น.  

 

ขอให้มีความสุข

คิดสิ่งใดให้สมปราถนา ทุกๆประการ

สุขภาพร่างกาย แข็งแรง

ร่ำรวย ยิ่งๆๆขึ้นไป

นะค่ะ

ได้ไปเที่ยวไหนบ้างป่าวค่ะนี่

เริ่มต้นการทำงาน

อย่าง มีความสุข นะค่ะ



โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:18:04:57 น.  

 
โฮบบาย : ทานข้าว อิ อิ วันนี้เอาไปคำเดียวก่อนนะ เอ็ดบล็อกแล้วนะ แล้วจะมากวนเรื่อยๆจ้า...


โดย: fonrin วันที่: 4 มกราคม 2550 เวลา:18:51:32 น.  

 
อ้อ..รูปเพิ่งขึ้น ขอเม้นท์อีกรอบน้า
เด็กในรูปน่ารักน่าชังจังค่ะ น่าอิจฉาคนได้ไปเที่ยว...


โดย: fonrin วันที่: 4 มกราคม 2550 เวลา:18:54:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kiaman22
Location :
นครหลวงเวียงจันทน์ Laos

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Kiaman22's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.