Keep Memories Alive in my Diary
[Life&Travel #31] ... ซีอาน คืนชีวิตกองทัพทหารดินเผา Xi'an & Terracotta Warriors ...(ตอนแรก)

.....



[the Sixth Floor ... Life&Travel #31] ...
ซีอาน คืนชีวิตกองทัพทหารดินเผา Xi'an & Terracotta Warriors ...

สวัสดีครับ วันนี้หยิบเอารีวิวทริปแบบยาวๆมาฝากสักกระทู้ครับ จะค่อนไปในทางทริปรีวิวพาเที่ยวเพลินๆ
จริงๆ แล้วตลอดทริปนั้น ผมถ่ายรูปมาเยอะมากครับ   ก็คัดออกมาให้กำลังดี พยายามไม่ให้เยิ้นเย้อมาก ...  
แต่ก็จะสรุปเนื้อหาและสิ่งที่จำเป็นสำหรับการจะตามรอยไปเที่ยวเองได้ พร้อมจะสอดแทรกแนวคิดการถ่ายภาพเพิ่มเติมลงไปด้วย

จุดหมายปลายทางในวันนี้ จะพาไปเที่ยวเมืองมรดกโลกอย่าง ซีอาน ประเทศจีนครับ

ชมกันไปเรื่อยๆน่ะครับ ผมหอบเอาทั้งรูปและเนื้อหาจำนวนมากมายมาฝากกัน อมยิ้ม05
กระทู้นี้เป็นกระทู้ SR ได้รับการสนับสนุนการเดินทางจากสายการบินแอร์เอเชียครับ

หวังว่าคงมีความสุขกับการรับชมภาพและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ผมตั้งใจถ่ายทอดความงดงามของเมืองซีอานมาฝากน่ะครับ
เช่นเคย สำหรับท่านที่ชอบผลงานสามารถแวะไปพูดคุยหรือติดต่อผมได้ตามช่องทางที่เพื่อถนัดเลย ....

//www.facebook.com/thesixthfloorgallery  เยี่ยม
//500px.com/theSixthFloor
//instagram.com/thesixthfloor
.....



เมืองซีอานสำหรับคนไทยเคยบูมมากๆ หลายคนอยากไปสัมผัสเมื่อสักหลายปีก่อนตอนที่สายการบินนึงบินตรงไปลงยังซีอาน
พอปิดรูทไปก็เหมือนซีอานจะถูกห่อหุ้มด้วยผ้าทอยุคโบราณเก็บงำความงดงามและเสน่ห์เอาไว้

ปีที่ผ่านมาสายการบินไทยแอร์เอเชียมาบุกตลาดจีนในหลายเส้นทาง และเปิดรูทซีอานซึ่งทำให้เส้นทางนี้น่าสนใจมากๆ
และทำให้จะกลับมาถูกจับตาอีกครั้ง แน่นอนว่าราคาตั๋วโปรโมชั่นหลักพันทำให้เราไปเที่ยวได้อย่างง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากๆ

ซีอานมีครบทั้งวัฒนธรรมที่น่าศึกษา มรดกโลกที่ควรค่าไปเห็นด้วยตาสักครั้งในชีวิต ....
อาหารหลากหลายกินง่ายกว่าที่คิด การคมนาคมต่างๆสะดวก การเดินทางเที่ยวทั้งในตัวเมืองหรือเดินทางไปยังเมืองรอบๆ
อยู่ในระดับที่สะดวกกว่าเที่ยวบางจังหวัดในไทยเสียอีกครับ




ลิสต์ข้อดีมาหว่านล้อมเสียแบบนี้ ยอมใจอ่อนตามผมมาเที่ยวสักครั้ง
สอยตั๋วราคาดีๆ เก็บกระเป๋า ออกไปตามหากองทัพหุ่นดินเผาระบือโลกกัน !!!!



ผมเดินทางไปช่วงปลายปีที่แล้วครับ  ร่วมไปกับการเปิดรูทของแอร์เอเชียซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการเดินทางครั้งนี้ด้วย
ตอนนั้นไฟล์ทขาไปยังเป็นไฟล์ทเช้าอยู่เลย ไปขึ้นดอนเมืองนี่ มุมในภาพนี้หลายคนคงถ่ายรูปมา
แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปดอนเมืองพื้นที่ตรงนี้เค้าทำเป็นบูทบังวิวไปแล้วครับ  
สำหรับไฟล์ทเดินทางนั้น เมื่อกี้ผมเข้าไปดูไฟล์ทรู้สึกจะมีการ รีไทม์ใหม่เปลี่ยนเป็นขาไปและกลับเป็นรอบเย็นๆแทนแล้วครับ
ขาไป 1625  (DMK)  2135  (XIY)  
ขากลับ 2225  (XIY) 0140  (DMK) เวลาแบบนี้ ก็อาจจะต้องจัดเวลาไปเที่ยวดีๆ วันสุดท้ายจะมีเวลาทั้งวันเต็มๆเลยครับ



ไปเที่ยวซีอานกี่วันดี ?

ส่วนตัวแล้ว สามวันสองคืน ก็เที่ยวได้ครับ .... สำหรับท่านที่สอยโปรมาแบบลางานง่ายๆไป ศุกร์เสาร์อาทิตย์ ก็สามารถจัดรูทได้

วันแรก  : เดินเล่นชมเมือง ย่านหอคอยระฆัง หอกลอง ปั่นจักรยานชมเมืองจากกำแพงเมืองซีอาน เดินเล่นย่านมุสลิม ค่ำๆกินเกี๊ยวซีอานอันโด่งดัง ก่อนปิดวันด้วยการไปชมโชว์ราชวงศ์ถัง
วันที่สอง : ครึ่งเช้าออกไปเที่ยวชมกองทัพหินดินเผา กลับมาถึงบ่าย ๆ แวะไปเที่ยววัดห่านป่ายักษ์ ชมน้ำพลุดนตรีตอนกลางคืน
วันที่สาม : อาจจะนั่งรถไฟความเร็วสูงออกไปเที่ยวนอกเมืองเช่น ลั่วหยาง ไปเช้าเย็นกลับได้

ด้านบนลิสต์มาครบไฮไลท์หลักครับ ... ครบตามที่ผมบอกหมด สามวันสองคืนเนียนมากๆ
ค่าใช้จ่ายต่อคนผมไม่รวมค่าที่พักจะราวๆ ห้าถึงเจ็ดพันบาทไม่เกินนี้

แต่ถ้ามีเวลาหน่อย อยากให้ไปสักสี่วันเป็นอย่างน้อยครับ

เพราะอะไร ? เพราะตอนนี้เมืองจีนมีรถไฟหัวจรวดความเร็วสูงที่เชื่อมระหว่างเมืองระหว่างมณฑลเข้าด้วยกัน
ดังนั้นเราสามารถออกไปเที่ยวเมืองสวยๆ รอบเมืองซีอานได้ในวันเดียวแบบไม่น่าเชื่อครับ
โปรแกรมที่เราจะจัดทริปก็จะเป็นเหมือนแบบสามวันสองคืนแรกที่ผมบอกไว้  โปรแกรมอาจจะหลวมๆมากขึ้นไม่เร่งรีบ
แต่ในวันที่สี่หรือที่ห้าเราจะเพิ่มออกไปเที่ยวนอกเมืองกัน แล้ววันสุดท้ายก็กลับไทยตามปกติครับ





ข้อมูลจีนเบื้องต้น
: เวลา เวลาประเทศจีน เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
: ภาษา ภาษาจีนกลาง และภาษาท้องถิ่น ภาษาอังกฤษทั่วไปพูดได้น้อยมากครับ แต่เยาวชนรุ่นใหม่ๆก็พอจะคุยได้นิดหน่อย ป้ายบอกทางพอมีภาษาอังกฤษบอกทางบ้าง แต่รถเมล์มีแต่ภาษจีนบอก รถไฟใต้ดินมีภาษาอังกฤษบอกครับ
: ไฟฟ้า 220 โวลต์ สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์มือถือ หรือกล้องถ่ายรูปได้ตามปกติ
: ระบบเงินตรา สกุลเงินของจีนคือ หยวน มีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 5 บาท / 1 หยวน



การทำวีซ่าเมืองจีน
ตอนนี้ถือว่าการทำวีซ่าเมืองจีนมีเงื่อนไขที่เยอะมากขึ้นกว่าสมัยผมไปเที่ยวเมื่อหลายปีก่อนเยอะครับ
โดยจากข้อบังคับของสถานทูตจีนล่าสุดนั้น การจะขอวีซ่าเมืองจีน เพื่อการท่องเที่ยว (Tourist Visa) นั้นต้องใช้เอกสารดังนี้ครับ

1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า 

2. หนังสือเดินทาง (Passport) ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับจากวันเดินทาง

3. รูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 ใบ แนะนำเป็นพื้นขาวหรือสีอ่อนไว้เป็นดีครับ 

4. ใบจองตั๋วเครื่องบิน  ใบจองที่พัก / โรงแรม ที่พำนักในประเทศจีน

5. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก ที่มีเงินเหลือในบัญชีอย่างน้อย 50,000 บาท (เฉพาะผู้ที่ไม่เคยยื่นขอวีซ่าจีนมาก่อน) หลายคนอาจจะมีปัญหาตรงนี้
เท่าที่ลองสอบถามข้อมูลของเอเจนซี่และหลายคนที่ไปยื่นขอวีซ่ามา อาจะใช้วิธีโอนเงินก้อนเข้าบัญชีก่อนเดินทางสักระยะนึงแล้วถ่ายสำเนาสมุดบัญชีหน้าแรกและหน้าสุดท้ายที่มียอดเงินเยอะๆก็สามารถใช้ประกอบการขอวีซ่าได้เหมือนกันทางสถานทูตเค้าไม่ได้เช็คที่มาที่ไปของเงินครับ จริงๆผมว่าสถานทูตคงจะดูว่าไปเที่ยวแล้วมีเงินไปใช้จ่ายที่นู้นมากน้อยแค่ไหน

ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าออกครั้งเดียว 1,000 บาท : ระยะเวลาในการดำเนินการ 4 วันทำการ
แต่สามารถขอวีซ่าเรง่ด้วนด่วน 1 หรือ 2 วันได้ โดยจ่ายค่าธรรมเนียม 2200 บาท ครับ

แผนกวีซ่า สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนประจำประเทศไทย

57 ถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์ 02 2457044 โทรสาร 02 2468247 อีเมล์ chinaemb_th@mfa.gov.cn

เข้าไปอ่านข้อมูลเบื้องต้นได้ที่  //th.china-embassy.org/th/
เวลาทำการ รับยื่นวีซ่า จันทร์-ศุกร์ 09.00-12.00 น.
เวลารับหนังสือเดินทางคืน จันทร์-ศุกร์ 15.00-16.00 น.




ไฮไลท์ซีอาน  .... ที่เมื่อมาเที่ยวก็ต้องมากันทุกคน และไม่ควรพลาดก็ตามลิสต์นี้ครับ
Army of Terracotta Warriors : กองทัพหินดินเผา  Great Mosque : มัสยิดกลาง
City Walls : กำแพงเมืองซีอาน  Muslim Quarter : ชุมชนมุสลิม  Big Wild Goose Pagoda : เจดีย์ห่านป่าใหญ่

อันนี้คือสามวันกำลังสนุกครับ แต่ถ้ามีเวลามากกว่านี้เราก็สามารถไปเที่ยวเพิ่มได้เช่น พระราชวังอาฝางกง , พิพิธภัณฑ์ซีอาน
หรือจะเที่ยวเทือกเขาฮัวซาน อะไรได้อีกพอควรครับ ....






Accommodation ที่พัก :
ที่ซีอานมีที่พักหลากหลายให้เราได้เลือกครับ มีตั้งแต่เกสเฮาส์ราคาถูก โรงแรมสามดาวสะอาดราคาประหยัดจนไปถึงเชนหรูห้าดาว

ผมนั่งหาข้อมูลที่พักอยู่หลายวันครับเปรียบเทียบจากหลายๆเว็บอ่านคอมเม้นท์ รวมทั้งปรึกษาไกด์ทัวร์เมืองจีนที่เคยไปเที่ยวซีอานมาหลายครั้ง

ปัจจัยสำคัญของผมในการจะเลือกที่พักเวลาไปเที่ยวเมืองนอกอันดับแรกคือ โลเคชั่นครับ อันนี้ให้ความสำคัญมากสุด ควรจะอยู่ใกล้สถานที่เที่ยว อยู่ใกล้พวกรถไฟใต้ดิน ซึ่งทำให้เราสามารถประหยัดเรื่องการเดินทางและมีเวลาเดินเที่ยวได้มากขึ้น
โรงแรมหลายโรงอยู่รอบๆ จตุรัสหอระฆัง ซึ่งโรงแรมที่ติดตรงจตุรัสหอระฆังเลยคือ Bell Tower Hotel ครับ ราคาแรงกว่าที่ผมจะแนะนำด้านล่างพอสมควรเลยครับ ก็แลกกับวิวที่ไม่เหมือนใครและโลเคชั่นที่ดีมากๆ ใครกระเป๋าหนักแวะไปนอนเก็บภาพสวยๆมาฝากผมด้วยนะครับ

หยิบมาแนะนำสัก สามสี่ที่นะครับ

1 Lemon Hotel Xi’an อันนี้ขอแนะนำไว้อันแรกเลยครับ โรงแรมมีดีไซน์สร้างใหม่เอี่ยมห้องพักสะอาดได้มาตรฐานเตียงนุ่มหลับสบายบรื๋อ ตอนหาดูในเนตไม่มีข้อมูลเลยเพราะใหม่มากแต่ตัดสินใจจองไปเพราะอย่างน้อย ถ้าเป็นโรงแรมใหม่ๆ พวกผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัวใหม่ๆก็น่าจะโอเค แล้วก็พบว่าโรงแรมดีเกินคาดครับ ข้อเสียเดียวคือไกลจากใจกลางเมืองเก่าอย่าง Bell Tower ไปนิดราวๆ ห้าร้อยเมตรได้ครับ แต่ส่วนตัวก็เดินเล่นชิลๆ ได้ครับ เดินไปกลับจากย่านเมืองเก่าอยู่หลายรอบก็สนุกดีไปอีกแบบ







2 City Hotel Xi’an อันนี้ก็อยากแนะนำครับ เพราะอยู่แถวๆจตุรัส Bell Tower เลย สะดวกกับการเดินทางมากๆ ยิ่งถ้าเป็นพวกต้องการประหยัดการเดินทาง เราสามารถมาจากสนามบินด้วยรถบัส แล้วรถบัสจะมาส่งแถวๆหน้า Melody Hotel ก่อนถึงหอระฆังก็ลากกระเป๋ามาอีกราวๆ สองร้อยเมตร เช็คอินต่อได้เลย แต่ถ้าจะไปพักที่ Lemon ที่ผมแนะนำไปข้างบนอาจจะต้องนั่งสามล้อไปอีกประมาณ ห้าสิบบาท หรือบางทีเปิดมายี่สิบหยวนก็ได้
ห้องพักของที่นี่จะเล็กกว่าเลมอน มาตรฐานต่างๆก็จะต่ำกว่าลงมาครับ คือเป็นโรงแรมที่เปิดมานานแล้วยังดีที่ห้องก็พึ่งทาสีและปรับปรุงใหม่เหมือนกัน ราคาถูกว่าเลมอนพอสมควรครับ





3. Citadines Xi'an อันนี้ตอนแรกอยากจะไปพักครับ คอมเม้นท์จากนักท่องเที่ยวค่อนข้างไปในทางที่ดี เกรดจะต่ำกว่า Lemon Hotelสุดท้ายชั่งใจไปนอนเลมอน ลองของใหม่แทนครับ ท่านไหนสนใจก็ลองไปพักกันดูน่ะครับ ไว้มีโอกาสไปรอบหน้าก็จะขอลองเหมือนกัน

นอกจากนี้จะมีโรงแรมที่ทัวร์มักจะชอบพานักเที่ยวไปนอนครับ คุณภาพพอได้ ราคาไม่แรงนั่นคือเครือ Day Inn และ Star Way Xi'an ครับ เป็นโรงแรมกลางๆ ที่ใช้เป็นที่นอนได้ไม่น่าเกลียด ลองดูเรทตามเว็บจองชื่อดังๆกันดูได้ครับ



สำหรับซีอานนั้น ถ้าดูแผนที่จะมีส่วนของเมืองเก่าที่อยู่ภายในกำแพงเมือง และเมืองใหม่ด้านนนอกกำแพงครับ
ก็ควรจะเลือกอยุ่ในเมืองเก่าไว้ครับโดยศูนย์กลางของเมืองเก่าจะอยู่ที่ Bell Tower หรือหอระฆังครับ
รวมไปถึงรถบัสจากสนามบินก็จะมาส่งเราที่แถวๆ จตุรัสหอระฆังนี้ด้วยเช่นกัน ก่อนเดินทางก็แนะนำให้โหลดแผนที่เมืองไว้ในไอแพดหรือมือถือก็ได้ครับ



การเดินทางในซีอาน

แท็กซี่ที่เมืองซีอานเวลาจะเปิดมิเตอร์ให้มิเตอร์เดินเค้าจะจับป้ายตรงมิเตอร์ลง เครื่องจึงจะทำงาน
ป้องกันการไม่เปิดมิเตอร์และมาเนียนทีหลังก็ลองสังเกตกันดูน่ะครับ แต่ตลอดเวลาที่ผมเดินทางไปมาหลายรบก็ไม่เจอการตุกติกเล็กน้อยตรงนี้ เริ่มต้นที่ 5Y ครับ จริงๆแล้วถ้าเดินทางไปมาราคาจะถูกกว่าพวกสามล้อด้วยครับ



สามล้อปั่น ยังคงมีให้เลือกใช้บริการ ได้อารมณ์ตุ๊กตุ๊กบ้านเรา หรือริกซอว์ของเมืองอินเดีย
วัดกันตามระยะทางมักจะแพงกว่าแท็กซี่ครับ เหมือนบ้านเราเลย เปิดราคามาด้วยใจล้วนๆ เราก็ควรจะใจแข็งสู้ต่อราคาไปเหมือนกัน
ผมใช้บริการอยู่สองสามครั้งครับ ก็ลองใช้เอาฟิลลิ่ง เปิดรับลมนั่งชมเมืองได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ เหมาะกับระยะทางสั้นๆ ถ้าจะไปไหนไกลๆโบกแท็กซี่เอาดีกว่า



รถไฟใต้ดิน สะดวกสบายครับซื้อตั๋วด้วยตู้อัตโนมัติแบบบ้านเรา ซื้อครั้งแรกอาจจะงงกับหน้าจอหน่อยครับ ค่อยๆกดเลือกสถานีแล้วก็หยอดตังไปก็เหมือนบ้านเราครับ ผมจำได้แค่สถานทีตรง  Bell Tower ชื่อสถานีจงโหลว 钟楼 Zhong Lou เอาไว้เป็นจุดมาร์คกการเดินทางไปที่อื่น

รถเมล์โดยสาร อันนี้ถือว่าตายไปเลยสำหรับคนพูดจีน อ่านเขียน ไม่ได้เลยแบบผมครับ ... ต้องใช้ความพยายามในการเดินทางหน่อยครับ
ต้องเตรียมข้อมูล ตัวหนังสือจีนของจุดที่จะลง แล้วเทียบกับป้ายรถเมล์กันแบบตัวต่อตัว แต่ก็จะมีบางเส้นทางที่สามารถขึ้นไปลองใช้บริการได้ง่ายครับ เพราะไปสุดสายที่นั่น หรือผ่านแค่สายเดียว


อารัมภบทมาตั้งนานครับ ก็เป็นเนื้อหาโดยทั่วไปที่ควรจะรู้ก่อนออกเดินทาง จริงๆแล้วเวลาไปเที่ยวไหนควรจะอ่านประวัติศาสตร์หรือข้อมูล
เป็นเบื้องต้นมาก่อนนะครับ จะทำให้เรารู้สึกอินและสนุกเพิ่มมากขึ้นครับ  ....

ต้องบอกไว้ก่อนว่า ข้อมูลทั้งหมดในกระทู้นี้ อาจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นจากการจดจำมาผิดบ้าง จดผิดบ้าง ต้องขออภัยไว้ก่อน
ผมเดินทางไปแบบนักท่องที่ยวทั่วไป ข้อมูลคงไม่รอบด้านสมบูรณ์เหมือนหนังสือท่องเที่ยวชั้นนำ
ยังไงลองเช็คจากหลายๆช่องทาง และเหนือสิ่งอื่นใด การท่องเที่ยวต้องออกไปลุยเองครับ หลงบ้าง มั่วบ้าง เป็นเสน่ห์ของการเดินทางนี่แหละ





ออกเดินทางโดยสายการบินแอร์เอเชียครับ ... สั่งอาหารออนไลน์มาก่อน โดยเฉพาะไฟล์ยาวๆ แบบนี้ แนะนำให้สั่งมาก่อนเลยครับ
อิ่มสบายแล้วก็นอนพักผ่อนกันยาวๆ เท่าที่ลองมาหลายเมนูที่ถูกปากก็จะเป็นกระเพราไก่ แกงเขียวหหวานแล้วก็สปาเก็ตตี้ครับ หมุนวนๆ สั่งไปตามทริป  กินอิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นทักทายกับน้องๆพนักงานต้อนรับบนเครื่อง เลยขอถ่ายรูปกลุ่มมาซะเลยครับ ของขายบนเครื่องเยอะดี แต่ไม่รู้จะซื้ออะไรเหมือนกัน ฮ่าๆ

ราสามารเดินทางจากสนามบินเข้าสู่เมืองซีอานได้หลายทางครับ ไม่ว่าจะเป็น Shutter Bus หรือเหมาแท็กซี่เข้าเมืองมา
สำหรับชัตเตอร์บัสนั้น ค่าตั๋วอยู่ที่  26Y ต่อคนครับ เดินออกจากประตูมาก็จะจเอท่ารถครับ ใช้เวลาเดินทางราวๆ 45 นาที รถบัสจะมาจอดอยู่ตรงหน้า Melody Hotel ครับ โดยจากเมโลดี้ โฮเมลนั้นเดินอีกราวๆ สองร้อยเมตรก็จะเป็นหอระฆังครับ ... หลังจากนั้นก็แล้วแต่ละครับว่าพักที่ไหนต่อรถกันเอง

สำหรับแท็กซี่นั้นจอดอยู่ลานใกล้ๆกับที่จอดชัตเตอร์บัสนี่แหละครับ ผมไม่แน่ใจว่ามีราคามาตรฐานหรือไม่
เดินถามราคาสามคัน ราคามันไม่เท่ากันเลย 200, 160 , 220Y ครับ อันนี้ไปส่งถึงดรงแรมที่เราพักเลยน่ะครับ
ลองพิจารณาดูละกันครับจะใช้บริการแบบไหน ถ้ากระเป๋าไม่ใหญ่ๆ ชอบลุยๆ ก็นั่งรถบัสก็สบายดีครับ อ้อ รถบัสติดแอร์เน้อ



หลังจากไปเช็คอินที่โรงแรมแล้วครับ ก้ออกมาเดินเล่นตรงแถวย่านหอระฆังครับ ...
บรรยากาศยามเย้นอากาศไม่ร้อน ไม่หนาวเกินไป เหมาะกับการเริ่มทำความคุ้นเคยบ้านเรือนและแผนที่ครับ

ในรูปด้านล่างเป็นหอระฆัง  Bell Tower ถือเป็นแลนมาร์คของซีอานครับ อยู่ใกล้กับหอกลอง
ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วแบบเข้าชมสองที่พร้อมกันได้เลยในราคา 50Y ต่อท่าน เคาเตอร์ขายตั๋วจะอยู่ที่ทางเดินใต้ดินครับ


บริเวณสี่แยกรอบๆ หอระฆังนั้น ทางการซีอานเค้าทำทางเดินลอดใต้ไว้เป็นวงกลมรอบเลยโดยจะเชื่อมกับ MRT รถไฟใต้ดินด้วยครับ
สังเกตป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับทางเข้าหอระฆังครับ



รูปนี้แว้บมาถ่ายช่วงเวลาทไวไลท์ด้วยเลนส์ฟิชอาย EF8-15 F4L ครับ ถือถ่ายด้วยมือใช้ดัน ISO สูงๆ แทนครับ


ทางเข้าหอระฆังนั้นให้เดินลงไปทางเดียวกับจะไปขึ้นรถไฟใต้ดินนี่แหละครับ แล้วก็สังเกตป้ายบอกทาง  Bell Tower ไว้
จะเจอกับเคาเตอร์ขายบัตรครับ ก็ซื้อแบบเข้าได้สองที่ที่หอกลองด้วยเลย



หอระฆังของซีอาน ( 西安钟楼) สร้างขึ้นในปี 1384 ในช่วงต้นราชวงศ์หมิงเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซีอานและเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นทรงคุณค่าของยิ่งใหญ่ประเทศจีน ภายในหอระฆังยังมีระฆังสำริดหล่อหลากหลายขนาดในราชวงศ์ถังจัดแสดงอยู่ ฐานหอคอยเป็นรูปทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่และครอบคลุมพื้นที่ 1,377 ตารางเมตร หอคอยเป็นโครงสร้างอิฐและไม้มีความสูงวัดจากฐานล่างไปจบที่ยอดหลังคาที่ 40 เมตร



หลังจากเดินชมหอระฆังได้สักพักใหญ่ เราก็เดินลอดออกมาด้านนอก เดินผ่านสวนสาธารณะขนาดย่อม ไปอีกนิดก็จะเจอกับหอกลองครับ
หอกลองสร้างขึ้นในปี 1380 ในช่วงต้นราชวงศ์หมิง ต่อมาในสมัยราชวงศ์ชิงได้ทำการบูรณะขึ้นมาใหม่สองครั้ง โดยรักษารูปแบบเดิมไว้ มีความสูง 33 เมตร หน้ากว้าง 9 เมตร โครงสร้างหลังคาเป็นไม้ 3 ชั้น สร้างในสมัย พระจักรพรรดิหงหวู่ (จูหยวนจาง) ซึ่งเป็นพระจักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์หมิง หอกลองตั้งสูงตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองและเมื่อขึ้นไปด้านบนก็จะได้เห็นมีมุมสูงที่สวยงามของเมืองซีอาน

Drum Tower ได้ชื่อมาจากกลองใหญ่ตั้งอยู่ภายในอาคาร หอกลองนั้นในสมัยก่อนถูกทำหน้าที่ตรงข้ามกับหอระฆัง
นั่นคือหอระฆังจะถูกตีเพื่อบอกเวลาตอนย่ำรุ่ง ส่วนหอกลองนั้นเป็นเครื่องมือใช้ตีบอกเป็นจังหวะเพื่อบอกเวลาพระอาทิตย์ตกดิน



บนชั้นแรกของ Drum Tower เราะพบห้องโถงซึ่งแขวนกลองขนาดใหญ่จำนวนมากอยู่
ถัดไปจะเป็นเหมือนห้องโชว์กลองในยุคเก่าๆรวมทั้งจะมีการแสดงโชว์ตีกลองให้เราดูฟรีด้วย โชว์สั้นๆครับประมาณสิบห้านาทีก็เสร็จสิ้น

นอกจากนี้ ภายในหอกลองยังมีพิพิธภัณฑ์กลองที่แสดงรูปแบบอันหลากหลายของกลอง
กลองบางแบบนั้นถือว่ามีคุณค่ามากๆเพราะเป็นกลองที่ใช้กันเมื่อเกือบนับพันปีก่อน



รอบหอกลองก็จะเป็นทางเดินให้เราสามารถชมเมืองได้รอบด้านครับ ....

อากาศเย็นๆในช่วงต้นหน้าหนาวของจีนอาจทำให้ใครหลายคนต้องการความอบอุ่นมากเป็นพิเศษ หัวใจ



ช่วงที่ผมมาเที่ยวเป็นช่วงที่เมืองจีนเริ่มจะเข้าหน้าหนาวแล้วครับ
เป็นช่วงปลายปีอากาศค่อนข้างจะขมุกขมัวชอบกล

อากศเย็นๆแดดไม่แรงทำให้เที่ยวไม่เหนื่อยมากแต่ถ่ายรูปมาไม่สวยเท่าไหร่เพราะไม่มีแดดเลย




รอบๆพื้นที่ของหอกลองและหอระฆังจะเป็นอีกมุมที่เต็มไปด้วยคนซีอานท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ
ฟ้ามืดลงก็กลับยิ่งคึกคักครับ มีมุมให้นั่งเล่นชมบรรยากาศแบบชิลๆ นักท่องเที่ยวที่เดินเหนื่อยมาทั้งวันก็สามารถนั่งพักผ่อนหรือจะนั่งจิบกาแฟร้านดังอย่างสตาร์บั๊คตรงนี้ก็มีสาขาอยุ่ด้วยออกแบบได้สวยงามไม่เบาครับ



ผมมาเดินเล่นโซนนี้ไม่ต่ำกว่าสี่รอบเลยครับ ด้วยใกล้ที่พักมากด้วย ....
เลยได้ภาพมาหลายมุมหน่อย แปะให้ชมกันครบๆเลยละกันครับ



นักท่องเที่ยวที่รักการถ่ายภาพผมถือว่าซีอานมีอะไรให้เราได้ถ่ายภาพเยอะเหมือนกัน
อาจจะไม่มีมุมซีตี้สเขปแบบอลังการ แต่ก็ยังมีวัฒนธรรมดีๆ วิถีชีวิตสวยๆให้ได้เก็บภาพกลับบ้าน

ภาพช่วงหัวค่ำเซ็ทไวท์บาลานซ์โทนเย็นๆ สักหน่อยช่วง  3200-3600K ก็จะได้ฟ้าสีสวยๆ ติดกลับบ้านมา


หลังจากเดินชมความงามของหอกลองและหอระฆังแล้ว

ใกล้กันจะเป็นอีกมุมที่นักท่องเที่ยวต้องมาสัมผัส นั่นคือ ย่านมุสลิมครับ Muslim Quarter

สำหรับเมืองซีอานซึ่งถือเป็นเส้นทางสายไหมที่สำคัญในอดีต ผลพวงจากการเป็นเมืองค้าขาย นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนสินค้าแล้ว ก็ยังทำให้มีการเคลื่อนที่ของทั้งวัฒนธรรมและผู้คนหลั่งไหลผ่านร้อนผ่านหนาวมานับร้อยๆ ปี
ชุมชนมุสลิมก็เช่นกันที่อาศัยกลมกลืนไปกับคนจีนท้องถิ่น จนมุมนี้เป็นชุมชนที่สำคัญของเมืองไปในปัจจุบัน



ถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นยาวตรงๆ กำลังเดินสนุก แถมยังสามารถเดินทะลุออกซอกซอยไปได้อีกหลายทางเลย
เวลาที่เหมาะกับการมาเดินก็จะเป็นช่วงหัวค่ำไปครับ ร้านรวงต่างๆจะเริ่มเปิด ร้านอาหารก็มีเยอะเลย

สามารถมาฝากท้องได้ทั้งของหนักและขนมกินเล่น อากาศเย็นๆ เดินไปชมบรรยากาศไป ชิลมากกก




ชุมชนมุสลิม เป็นถนนสายที่ควรจะมาสัมผัสกับบรรยากาศในยามเย็นไปจนถึงหัวค่ำมากที่สุด

สองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของ ขนมแปลกตาที่น่าลิ้มลอง เดินเล่นเพลิดเพิลนดีจริงๆครับได้สองบรรยากาศทั้งจีนและกลิ่นอายของวิถีชีวิตมุสลิม ผมได้ฝากท้องไว้ร้านอาหารร้านนึงด้วย ก็ดูจากคนนั่งกินเยอะๆ เลยเข้าไปจะขายพวกข้าวผัดที่คลุกเครื่องเทศตามฉบับมุสลิมอร่อยมากๆเลย ถ้าไม่มีแปลนจะฝากท้องไว้ที่ไหนลองมาเดินดูเดินกินที่ถนนเส้นนี้ได้ครับ










มีอีกอย่างที่แนะนำนั่นคือก๊วยเตี๊ยวเส้นมหึมาแบบฉบับซีอานซึ่งเส้นจะใหญ่มากๆ ขนาดกว้างสองถึงสามนิ้วเลยครับ แต่บางร้านเนี่ย
พวก๊วยเตี๋ยวจะใส่เครื่องเทศหมาร่าตามแบบฉบับเสฉวนด้วย จะมีกลิ่นมีรสชาติฝาดๆลิ้นหน่อยครับ บางคนอาจจะไม่ถูกปากหรือไม่คุ้นไปบ้าง



จริงๆ ร้านต้นตำรับของเจ้าก๊วยเตี๊ยวเส้นมหึมานี่คือร้าน the First Noodle under the sun ครับ อยู่ในถนนก่อนถึงหอระฆัง
มีจานเด็ดที่ชื่อว่า  Biang Biang Mian ซึ่งเป็นเส้นเตี๊ยวยาว 3.8 เมตร ราคาชามละ 10Y รสชาติก็ไมไ่ด้ถูกปากผมมากเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าแปลกตาดี
ส่วนที่ถูกปากเห็นจะเป็นเป็ดทอด  BBQ  ร้านนี้ครับ 28Y อร่อยชนะเลิศศศศศศ ...




ตรงทางเข้าสู่ถนนย่านมุสลิมนั้นจะมีซอยเล็กๆ เบี่ยงไปทางซ้ายครับ

เดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ สองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก... ราวๆ ร้อยเมตร


เราก็จะเจอกับ มัสยิดใหญ่ หรือ Great Mosque ครับ ค่าเข้า 25Y ในช่วง มีค ถึง พย และ 15Y สำหรับช่วง ธค ถึง กพ
อาจจะมาเดินเล่นชมในช่วงเย็นๆก่อนฟ้ามืดได้ครับเพราะที่นี่ปิดราวๆทุ่มนิดๆ ในช่วงหน้าท่องเที่ยว




สำหรับมัสยิดแห่งนี้ ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนกันอยู่ร่วมกันของวัฒนธรรมจีนและวัฒนธรรมอิสลามได้เป็นอย่างดีครับ




เราจะเก็น เก๋งจีน ลวดลายแกะสลักในรูปแบบจีน การจัดสวน การแกะสลักหิน ภาพเขียนบนกำแพง
ก่อนจะเดินไปดานในก็จะพบกับหอสวดของชาวมุสลิมครับ งดงามด้วยงานแกะสลักในยุคเก่าที่ยังรักษาเอาไว้ได้อย่างดี

คนทั่วไปเข้าไปด้านในไม่ได้นะครับ ชมได้แต่ภายนอกเท่านั้น





ทริปนี้ได้ความอนุเคราะห์จากรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่แคนนอนมาเก็ตติ้ง
หอบเอาเลนส์ 8-15 F4L Fisheye และ 40 F2.8 STM Pancake ไปลองใช้งานจริงด้วย ...



สำหรับฟิชอายนั้นโดยรวมโอเคมาก คมเนียนตั้งแต่ F4 ได้มุมแปลกตามาหลายใบ
ส่วนแพนเคกนั้นกลับมาไทยปุ้บ ไปถอยเองมาติดกระเป๋าเลยครับ ข้อดีที่เจอเลยเป็นเรื่องความคม และคอนทราสที่ทำได้ดีจนต้องแปลกใจ ถ่ายคนใกล้ๆอาจจะบวม แต่ผมมักจะชอบเอามาถ่ายอาหารเพราะโคลสอัพได้ใกล้ดี ที่โดนใจสุดๆเห็นจะเป็นน้ำหนักที่เบามากกกกก ติดกับ 5D3 ระยะกำลังสวย เบา ดูน่ารักเป็นตากล้องวัยใส เฟรนลี่กับผู้คน รูปด้านบนก็ถ่ายด้วย 40 F2.8 นี่แหละ



พูดถึงของกินจะไม่พูดถึงเกี๊ยวซีอานก็กระไรอยู่ครับ
มาซีอานแล้วไม่ได้ลิ้มลองเกี๊ยวซีอานเหมือนมาเมืองไทยไม่ได้ซดน้ำต้มยำกุ้งประมาณนั้น ....



ร้านที่แนะนำเห็นจะเป็นร้านดังติดกับหอระฆังครับ .... จะแวะกินก่อนไปเดินเล่นย่านมุสลิมหรือเดินเล่นก่อนแล้วเดินย้อนมากินได้ครับ
ร้านนี้ชื่อร้านเต๋อฟ่าฉาง ครับ เดินเข้ามาในร้านไปยืนสั่งที่เคาเตอร์ได้เลยครับ



เมนูอยู่ที่ป้ายในรูปครับ ผมถ่ายมาแล้วก็ลองแปลตามไกด์ที่ไปด้วย ไม่รู้มันบอกถูกรึเปล่านะ ฮ่าๆ
ไล่จากบนลงล่าง เกี๊ยวไส้เห็ด + ต้นหอม 22Y, เกี๋ยวไส้หัวกุ้ง 26Y , เกี๊ยวเห็ดอย่างเดียว  34Y ,  เกี๊ยวผักรวม 28Y ,  เกี๊ยวกุ้ง 38Y  เกี๋ยวปู  56Y เกี๊ยวครีบปลา 98Y  หรือไม่ก็สั่งแบบรวมเก้าลูกครับ จะราคา 28Y นอกจากนี้ก็จะมีผักเครื่องเคียง ผัดผักต่างๆ มาเป็นจานเล็กๆ ก็ชี้ๆเอาเลยก็ได้ครับ


เกี๊ยวของซีอานมีจุดเด่นอยู่ที่ความหลากหลายของไส้เกี๊ยวและการปั้นเกี๊ยวเป็นรูปสัตว์ต่างๆ
เริ่มต้นสั่งแบบเบสิค เซ็ทเกี๊ยวรวมเก้าลูก ราคา 28Y ครับ มาร้อนๆ รสชาติดีมากกกก จริงๆแล้วคนเดียวกินจานเดียวก็แทบจะอิ่มแล้วครับ


อ่านต่อ ตอนจบ



Create Date : 24 มิถุนายน 2556
Last Update : 24 มิถุนายน 2556 22:34:03 น. 2 comments
Counter : 10231 Pageviews.

 
ขอบคุณมากค่ะ รายละเอียดชัดเจนเห็นภาพเลย


โดย: กัญญา สุทัศน์ IP: 124.121.78.181 วันที่: 5 มีนาคม 2557 เวลา:14:41:02 น.  

 
จะไปเดือน พ.ย. นี้ ตอนแรกไม่อยากเท่าไหร่ แต่เห็นรูปสวยๆแล้ว กรีดๆๆ ไปๆๆๆ


โดย: อ๋อค่ะ IP: 171.98.48.47 วันที่: 17 กรกฎาคม 2557 เวลา:8:40:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the Sixth Floor
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่ theSixthfloor Studio ครับ

บทความและภาพถ่ายทั้งหมดในบล็อคนี้
สงวนลิขสิทธิ์หากถ้าต้องการนำไปใช้หรือ
เผยแพร่เพื่อการศึกษาหรือการกุศล
ก็ยินดีครับแต่ก็ขอความกรุณาติดต่อผม
เพื่อให้ทราบรายละเอียด

สำหรับท่านที่ต้องการติดต่อเรื่องบริการ
ด้านการถ่ายภาพสามารถติดต่อโดยตรง
ได้ด้วยเช่นกันครับ

ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านแวะมาเยี่ยมชม
บล็อคของผมครับ
q( ^o^ )p
Click to





count web site traffic
Visitor


■ L&T 01 .. รอยยิ้มปนคราบน้ำตา บนท้องนาแห่งชีวิต ..
■ L&T 02 .."เชียงคาน" เวลายังคงเท่าเดิม ที่เพิ่มเติมคือความสุข ..
■ L&T 03 .. ผืนน้ำจรดขอบฟ้า ตะวันลับตาที่ Hilton Pattaya Hotel ..
■ L&T 04 .. นอนฟังเสียงสายน้ำคลอเคลียที่ Bamboo Hut Resort@ทองผาภูมิ ..
■ L&T 06 .. สโลโมชั่นชีวิตในวันที่เร่งรีบ ณ Anantara Bangkok Sathorn ..
■ L&T 07 .. ความสุขในมุมเล็กๆที่ Mimosa Resort & Spa @ Koh Samui ..
■ L&T 08 .. ออกไปลอยคอกลางทะเล ที่ มก.สุรินทร์ และ เกาะตาชัย ..
■ L&T 09 .. ความอบอุ่นถักทอบนความทรงจำสีจางที่ Villa Nalinnadda เกาะสมุย ..
■ L&T 10 .. บรรยากาศสบายๆที่ the Baths Medi Cottage Resort @ Cha-Am ..
■ L&T 11 .. สูดหายใจพร้อมรับ"ดับเบิ้ล"ประสบการณ์ที่ W Retreat @ Koh Samui . .
■ L&T 12 .. เหยียบไปบนพื้นทรายคลอเสียงคลื่นที่ Rasananda Resort เกาะพะงัน ..
■ L&T 13 ..ปัดฝุ่นความทรงจำที่ Cape Panwa Hotel ภูเก็ต#Day 1 ..
■ L&T 14 .. เก็บรอยยิ้มจากเกาะปันหยี เติมเต็มความสุขที่ Le Meridien เขาหลัก ..
■ L&T 15 .. สะกดทุกสายตา เวลาหมุนช้าที่ Villa Maroc @ Pranburi ..
■ L&T 16 .. จินตนาการแห่งที่สุดของการสร้างสรรค์ ณ Casa de La Flora Resort ..
■ L&T 17 .. ลำปาง ปลายทางแห่งความสุข ..
■ L&T 18 .. สัมผัสมะลิงามที่เบ่งบานในวันหยุด Malisa Villa Suite @ Phuket ..
■ L&T 19 .. " เชียงใหม่ " . . . พอดีคำ กำลังดี . . . . .
■ L&T 20 .. มิอาจคลาดสายตาจากความงามของ the Baray Villa @ Phuket ..
■ L&T 21 .. Siam Kempinski Hotel เพชรเม็ดงามใจกลางมหานคร ..
■ L&T 23 .. เกาะตาชัย . . . จะไปด้วยกันรึเปล่า ?..
■ L&T 24 .. Ramada Resort Khaolak กับวันสบายริมหาดเขาหลัก ...
■ L&T 28 .. สงขลา ... เวลาใหม่ในขวดโหลใบเดิม ...
■ L&T 29 ... เนปาล Endless Journey ตอนจบ
■ L&T 31 ... ซีอาน กองทัพทหารดินเผาแห่งจิ๋นซีฮ่องเต้
■ L&T 32 ... เดินเล่นใน "สุโขทัย" เนิบช้าและทรงคุณค่า
■ L&T 33 ... ยุโรปครั้งแรก "เนเธอร์แลนด์ และอัมสเตอร์ดัม
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
24 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add the Sixth Floor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.