รีวิวท่องเที่ยวเมืองสงขลา สเน่ห์ที่น่าสัมผัส

บันทึกการเดินทางย้อนเวลาสู่ความทรงจำสีชาวัยเด็กภาคแรก
สงขลา ... เวลาใหม่ในขวดโหลใบเดิม

เชื่อว่าหลายคนคงมีความทรงจำในวัยเด็กกันทั้งนั้น
แต่เมื่อเราเติบโตขึ้น ดูเหมือนฮาสดิสของสมองเราจะไม่เหมือนคอมพิวเตอร์ที่สามารถแยกการจดจำ
และบันทึกใหม่ได้ตลอด เรื่องบางเรื่องพอนานไปเค้า ความทรงจำจากสีสันสดใสก็ดูจะเลือนรางลง

สีสันที่เคยเจิดจ้าก็อาจจะเปลี่ยนสี และถูกพนักงานในธนคารสมองของเรายกใส่ขวดโหลความจำเอาไปเก็บเอาไว้อยู่ในห้วงความคิดลึกๆ

มีหลายความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมทันทีที่ล้อเครื่องบินสัมผัสรันเวย์
หนึ่งในนั้นเป็นความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน เพราะจุดหมายปลายทางของการเดินทางครั้งนี้คือ จ.สงขลา

เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ดูเหมือนว่า แม้โลกยุคนิ้วสัมผัสจะหมุนไปไวเพียงใด
สงขลาก็ยังคงเลือกจะวิ่งไปด้วยสมการของกาลเวลาของตัวเองที่ใช้ค่าตัวแปรตัวเดียว
กับเวลาเมื่อหลายปีก่อน นั่นทำให้หลายๆอย่างยังคงงดงามในแบบฉบับที่ควรจะเป็น



01 ...
อาจเพราะเป็นจังหวัดที่ผมเกิดและใช้ชีวิตอยู่หลายปีสมัยเด็ก
ทำให้ผมเลือกจะไม่หาข้อมูลอะไรเลย แต่ใช้การสอบถามจากคนสงขลา

เค้าว่าคนใต้หน้าดุ เสียงดัง แต่จริงๆแล้วใจดี ซึ่งผมเห็นด้วยและเห็นด้วยมานาน
พนักงานที่สนามบินชี้ให้ผมเดินไปขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่ไกลๆ เพื่อเตรียมจะต่อรถไปยัง อ.เมืองจังหวัดสงขลา

รถตู้ที่เอกชนได้สัมปทานพานักท่องเที่ยวเข้าเมืองสนามบินต้องถือว่ารถใหม่และน่าใช้บริการ

ผมมาลงตรงแถวหอนาฬิกา ... คนขับเรียกแบบนั้นเพราะมีหอนาฬิกาตั้งตระหง่านอยู่
สิบกว่าปีที่จากกันมา ผมสารภาพว่าจำไม่ได้แล้วสมัยก่อนมันเป็นอย่างไร  บ้านเรือนเปลี่ยนไปแค่ไหน
แต่ตลอดทางที่รถตู้ขับเข้ามาในเมืองก็พอจะรับรู้ได้ว่าตัวเมืองหาดใหญ่เจริญเติบโตไปพอสมควรเลย





02 ...

ระยะทางราวๆ 30 กิโลเมตรใช้เวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมง รถตู้ก็มาส่งถึงท่ารถในเมืองสงขลา
สำหรับจังหวัดสงขลาแล้ว อ.หาดใหญ่ดูจะเป็นพื้นที่หน้าร้านขายของในขณะที่ตัวอำเภอเมืองนั้น
เป็นสวนหย่อมและห้องนอน ดังนั้นถ้าจะหามุมสงบ มุมท่องเที่ยวง่ายๆ มีเวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน

การหาตั๋วเครื่องบินมาลงหาดใหญ่แล้วต่อรถตู้ หรือเช่ารถขับมาเที่ยวเล่นและค้างคืนใน อ.เมืองสงขลาก็เป็นไอเดียที่ดีมากๆ




03 ...

สำหรับทริปนี้ผมเลือกจะมาพักที่โรงแรมบีพีสมิหลาบีชแอนด์รีสอร์ท ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่พอจะมีมาตรฐานสำหรับนักท่องเที่ยว ในราคาเริ่มต้นที่พันกว่าๆต่อคืน

จริงๆก็ด้วยตัวเมืองสงขลานั้นขนาดไม่ใหญ่มาก และดูจะไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญเหมือนเมืองอื่นๆในภาคใต้
ทำให้ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทของสงขลาก็จะค่อนข้างนิ่งๆ
พวกบูติกรีสอร์ทนั้นโบกมือลาไปได้เลย 

จะมีที่น่าสนใจในความคิดของผมเห็นจะเป็นการเลือกไปนอนโฮมสเตย์ที่เกาะยอ
ซึ่งมีจุดขายทีบรรยากาศสวยๆรอบทะเลสาบสงขลา






04 ...
ข้อดีสูงสุดของโรงแรมบีพีสมิหลาคืออยู่ติดหาดสมิหลาเลย ทำให้เราสะดวกจะเดินเล่น
หรือจะตื่นขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้ามากๆ แม้ว่าภาพของห้องนอนและตัวโรงแรมก็ไม่ได้ใหม่อะไรมากก็ตาม


......

.....

.....

05 ...
หลังจากเก็บของเรียบร้อย
ผมก็เลือกจะใช้เวลาสบายๆ ช่วงเย็นๆ ลงมาเดินเล่นริมหาดสมิหลา ชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดสงขลา
ชายหาดที่มีรูปปั้นนางเงือกสีทองตั้งอยู่ริมหาด  รูปปั้นนางเงือกเป็นอีกหนึ่งหมุดความทรงจำในวัยเด็ก
ผมกลับรูสึกว่าตอนสมัยเด็กรูปปั้นดูน่ากลัวมาก และผมก็ยืนทำหน้าเหยเกจะร้องไห้เมื่อถูกแม่บังคับให้มายืนถ่ายรูปกับนางเงือก 

แต่สิบกว่าปีผ่านไปผมโตขึ้นและได้มายืนอยู่ตรงที่เดิม
แม้รูปปั้นจะมีร่องรอยความเก่าตามกาลเวลาไปบ้าง
แต่นางเงือกก็ยังพราวสเน่ห์พอที่จะถูกเลือกเป็นนางแบบถ่ายรูปคู่กับนักท่องเที่ยวทุกเวลา


....

06 ...
มีหลายชายหาดที่สวยงามกว่าชายหาดสมิหลาเยอะแยะทั่วฟ้าเมืองไทย
แต่สำหรับเด็กๆแถวนี้ เพียงแค่ปั่นจักรยานมาจากบ้าน แล้วลงวิ่งเล่นก็ดูจะมีความสุขดีแล้ว





.....

07 ...
ดูเด็กๆจะมีความสุขกับการได้วิ่งเล่น ได้อยู่ใกล้ทะเลมากๆ




.....
08 ...
คุณป้าในรูปเดินทางมาจากปัตตานีครับ
มาทำธุระกับครอบครัวที่สงขลาและก็เลยแวะมาเที่ยวที่หาดสมิหลา
ถามว่าไม่ไปเที่ยวไกลๆ บ้างเหรอ คุณป้าก็บอกว่ามาเที่ยวที่นี่แหละ ไปที่อื่นกลัว ไกลบ้านเกินไป



.....

09 ...
ชายหาดสมิหลาวันนี้ดูเงียบเหงากว่าที่ผมคาดการณ์เอาไว้
มีกลุ่มเด็กมัธยมวิ่งเล่นเตะบอลกันอยู่กลุ่มนึง หันไปอีกทางก็มีนักท่องที่ยวถ่ายรูปเล่นกับนางเงือก
พื้นที่ส่วนตัวเพื่ออยู่ใกล้กับธรรมชาติมีเยอะมากๆ จนเหมาะกับการนั่งอยู่เฉยๆริมทะเล


.....

......

11 ...

เห็นเด็กน้อยแล้วก็นึกถึงวัยเด็กเข้าไปอีกครั้ง
เพราะว่าสมัยก่อนเด็กๆต่างจังหวัดจะชอบเล่นว่าวกันมาก ซื้อตามตลาด 5 บาท แล้วก็ออกไปวิ่งเล่น
และก็เป็นประจำที่ว่าวมักจะไม่ลอยติดลมเพราะวิ่งไม่เป็นได้แต่ถือวิ่งไปมาจนในที่สุดว่าวก็ขาด ร้องไห้กลับบ้าน



....
12 ...

หากรู้สึกว่าเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเล่นริมหาดสมิหลา
ก็แวะมาอุดหนุนกับไอติมกะทิรสชาติดีพร้อมเครื่องเคียงหลากหลายได้



......

13 ...
หลังจากอุ่นเครื่องอยู่ริมหาดสมิหลาพักใหญ่ๆ
เย็นนี้ผมวางแผนจะไปชมบรรยากาศริมทะเลที่คุ้นเคยเมื่อสมัยก่อน บนเกาะยอ



......

14 ...
เกาะยอเป็นเกาะเล็กๆที่มีชื่อเสียงของจ.สงขลา
เราสามารถเดินทางไปยังเกาะยอได้ง่ายๆโดยการขับรถข้ามสะพานติณสูลานนท์
สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของเกาะยอก็คือวิถีชชีวิตชุมชนชาวเล
เมื่อมาที่นี่ภาพของกระชังปลานับร้อย ภาพของเรือหาปลาวิ่งไปมา อยู่ในทะเลสาบทำให้หลายๆคนต้องหยุดมองด้วยความสุข



......


15 ...
กระชังปลาที่นี่เลี้ยงปลาหลากหลาย
หนึ่งในปลายอดนิยมนั้นคือการเลี้ยงปลากกะพง ในแต่ละวันชาวประมงก็จะต้องออกเรือนำหัวปลาหลายสิบกิโล
เพื่อไปโยนให้เป็นอาหารของปลากะพงที่เลี้ยงเอาไว้ในกระชัง


....

16 ...
ปลากระพงไซส์มาตรฐานที่มีขนาดกำลังน่ากินที่เราๆท่านๆนิยมสั่งมากินกันนั้นต้องใช้เวลาเลี้ยงอยู่ร่วมๆเกือบสองปี
จึงจะสามารถจับมาขายได้ ในภาพชาวประมงกำลังเก็บเรือที่เค้าใช้ในการล่อง



17 ...
แม้เกาะยอยังคงดูมีมุมของวิถีชีวิตที่ยังเรียบง่าย แต่ในปัจจุบันมีหลายๆครัวเรือนก็เริ่มหันมาให้บริการโฮมสเตย์ โดยสร้างบ้านไว้กลางน้ำ
พร้อมบริการอาหารและเครื่องดื่มกัน นอกจากนี้บางโฮมสเตย์ก็ยังมีบริการคาราโอเกะด้วย
ซึ่งฟังจากรุ่นพี่ที่เป็นคนท้องถิ่นก็รู้สึกไม่ค่อยชอบกับการร้องรำทำเพลงอันเสียงดังในบางกลุ่มเวลามาพักเหมือนกัน


....

....
18 ...
ชาวบ้านที่นี่ดูจะคุ้นตาและคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวมากๆ ไมตรีจิตที่มีให้คนแปลกหน้านั้นมีเต็มเปี่ยม
จะว่าไปแล้วสำหรับคนรักถ่ายรูปในพื้นที่ จ.สงขลา เกาะยอ ก็ดูจะเป็นแบบฝึกหัดการถ่ายรูปวิวยามเย็นได้ดีมากๆ


....

19 ...
นอกจากจะเลี้ยงปลาและสัตว์ทางทะเลเป็นหลัก ชาวบ้านก็ยังพอจะเลี้ยงเป็ดและไก่ไว้ให้เราเห็นเหมือนกัน


.....

....
20 ...
ตะวันยิ่งคล้อยต่ำลง  ... ความเงียบสงบของเกาะยอก็ดูจะเพิ่มมากขึ้น



21 ...
กระชังปลาเค้าก็จะตั้งต่อๆกัน แต่ละบ้านก็เหมือนมีพื้นที่ทำมาหากินของตัวเอง
ผมค่อยๆเดินเล่นไปตามทางรอบเกาะเรื่อยๆ จนมาถึงกระชังตรงนี้ ในรูปนั้นเป็นปลาทับทิมทะเล
....


22 ...
สำหรับเกาะยอนี้เหมาะจะมาช่วงเย็นๆมานั่งรถกินบรรยากาศสบายๆ
มีร้านอาหารทะเลตามรายทางอยู่เป็นระยะๆ ครับ ซึ่งความสดของอาหารจำพวกปลานั้นต้องขอการันตีได้เลยว่าสดใหม่ถูกใจคนรักซีฟู้ด

....



23 ...
ค่ำวันนี้ผมเลือกจะนั่งกินข้าวเย็นชมบรรยากาศสบายๆ ของเกาะยอในมุมสูงจากร้านน้ำเคียงดิน
ซึ่งถือเป็นร้านที่ผู้คนจะมานั่งในช่วงเย็นกันเยอะเนื่องจากได้กินบรรยากาศในมุมสูงแบบในภาพ
แนะนำว่าถ้าอยากจะจับจองที่นั่งวิวสวยๆ ควรจะมาตั้งแต่ช่วงเย็นจะดีที่สุด สำหรับรสชาติอาหารนั้น
ทำได้ถูกอกถูกใจถูกปากนัก ตามฉบับรสชาติอาหารใต้ที่เข้มข้นรื่องเครื่องแกง
....

....
24 ….
จากร้านอาหารเราสามารถมอเห็นสะพานติณฯได้สวยงามระยะไกล
สะพานติณสูลานนท์ เป็นสะพานคอนกรีตที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นสะพานที่เชื่อมเกาะยอ 2 ด้าน ระหว่างฝั่งบ้านน้ำกระจาย
อำเภอเมืองสงขลา และบ้านเขาเขียว อำเภอสิงหนคร ความยาวของสะพานช่วงแรก 940 เมตร และ ช่วงสองยาว 1,700 เมตร ตามลำดับ
 รวมเป็นระยะทางทั้งสิ้น  2,640 เมตร ก่อสร้างขึ้นในสมัย ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

มาเห็นด้วยตาอีกครั้งเลยพึ่งจะนึกได้ว่าสะพานติณฯมีสองช่วง
สมัยเด็กๆจำได้ว่ามีช่วงเดียว นั่งรถข้ามมาเกาะยอนี่ก็ว่ายาวจังเลย ทำไมไม่ถึงอีกฝั่งสักทีน้อ

....

....

25 ....
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อจะมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหาดสมิหลา
สมัยยังเป็นเด็กยังไม่รู้จักการเที่ยว ยังไม่รู้จักการนอนโรงแรม มาถ่ายรูปคู่กับนางเงือกเสร็จก็บึ่งรถกลับบ้าน
กลับมาคราวนี้มาเติมเต็มในมุมมองที่กว้างมากขึ้น มุมที่เติบโตขึ้นพร้อมกับประสบการณ์เดินทางที่มากขึ้น


....

26 ...

สาเหตุหลักที่จองมาพักโรงแรมบีพีสมิหลา ก็ตรงความสะดวกสบายในการเดินลงมายังชายหาดสมิหลายามเช้าแบบนี้


....


27 ....
เมื่อตะวันค่อยๆบิดขี้เกียจลุกขึ้นจากเตียงมาทำหน้าที่ของมันทุกวัน
ก็เป็นเหมือนเครื่องหมายที่ทำให้หลายๆชีวิตเริ่มดำเนินกิจกรรมตามหน้าที่ของตัวเอง

....
28 ....
การหาปลาโดยใช้การเหวี่ยงแหยังคงพอให้เห็นที่ริมชายหาดสมิหลา ซึ่งจะเป็นช่วงเช้าๆแบบนี้เท่านั้น
แต่วันนี้ดูจะไม่ใช่วันที่ดีของนักเหวี่ยงแหเมื่อน้ำลงค่อนข้างเยอะและน้ำนิ่งมาก
หลังจากยืนมองอยู่นานสองนานไม่มีปลาว่ายไปมาตรงริมหาดทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเองไป

....


29 ...
เช้าๆ แบบนี้ริมชายหาดสมิหลาก็ยังถูกใช้เป็นสนามวิ่งออกกำลังกายแก่วัวแข่งด้วย
การแข่งวัวชนนั้นเป็นอีกกิจกรรมที่ได้รับความนิยม ไม่แพ้การแข่งนกเลย



....30 ...
ในตัวเมืองสงขลานั้นมีถนนสายเก่าแก่อยู่ 3 เส้นที่วางตัวขนานและแนบติดกันแบบไม่เคยห่างกันมานับสิบนับร้อยปี
เรียกได้ว่าถ้าอยากสัมผัสกลิ่นอายในอดีตที่งดงามของสงขลาก็ไม่ควรพลาดจะมาเดินเล่นถนนสามเส้นนี้
นั่นคือ ถนนนางงาม ถนนนครนอก ถนนนครใน



....

31 ...
ดอกผลจากการที่สงขลาเคยเป็นเมืองท่าการค้าขายที่รุ่งเรืองในสมัยก่อน
ทำให้รับเอาศิลปวัฒนธรรมของจีนและยุโรปผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
และบนถนนทั้งสามเส้นที่กล่าวไปก็มีสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์เท่าที่เห็นด้วยตาตัวเองไม่ว่าจะจีนแบบดั้งเดิม จีนร่วมสมัย หรือชิโนโปรตุกีส
แม้ปัจจุบันจะมีบ้านบางหลังอาคารบางหลังรื้อทำใหม่โดยไม่ได้เก็บของเก่าเอาไว้
แต่ผมก็ยังดีใจที่มากกว่าครึ่งยังคงรักในรากเหง้าและจิตวิญญาณเดิมๆอยู่


....
32 ...
แต่ยังไม่ทันจะได้ซึมซับกับบรรยากาศอะไรมาก ก็เลือกจะเลี้ยวเข้าร้านก๊วยจั๊บเพื่อเติมพลังกันในยามเช้าเสียก่อน
สำหรับถนนสายเก่าทั้งสามเส้น ถ้ามีเวลามากพอ สามารถเดินเล่นได้ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น
 สิ่งนึงที่ได้รับการคอนเฟิร์มนอกเหนือจากกลิ่นอายของความคลาสสิคเห็นจะเป็นเรื่องของ ร้านค้าของกิน
มีให้เลือกลิ้มลองกันหลากหลาย ผมกะดูด้วยสายตา มาอยู่สักอาทิตย์นึงไม่แน่ใจจะกินได้ครบทุกร้านรึเปล่า


....
33 ..
ในมุมเล็กๆ ของถนนสายเก่านี้ ผมก็ยังได้เห็นผู้คนหลากหลายวัยใช้ชีวิตด้วยกัน
ตรงนี้เป็นโรงเรียนสอนพิเศษที่ไม่จำเป็นต้องเป็นห้องเรียนหรูติดแอร์ก็สามารถช่วยพัฒนาเด็กๆรุ่นใหม่ได้

....

34...
จริงๆแล้วมีร้านรวงต่างๆมากมายที่ตั้งอยู่บนถนนสามสายยุคคลาสสิคเหล่านี้ทั้งถนนนางงาม ถนนนครนอก และถนนนครใน
ถ้าให้ลองลิสขึ้นมาก็เยอะแยะมากๆ เช่น บ้านขนมไทยสอง-แสน ,ร้านไอศกรีมโอ่ง, ร้านฮับเซ่งขนมปังสังขยาสูตรไหหลำ
ร้านก๊วยจั๊บเก้าห้อง ร้านเกียดฟั่ง ข้าวสตูรสเด็ด ...เป็นต้น ... ซึ่งต้องบอกว่าร้านเหล่านี้เป็นร้านเก่าแก่ที่การันตีถึงความคลาสสิค
และรสชาติถูกปากของผ็คนมานักต่อนักแล้ว ผมจะไม่ขอลงรูปหน้าร้านและหน้าตาจานอาหาร อยากให้ไปลองค่อยๆเดินเท้าเปล่า
ทะลุซอยโน้นออกซอยนี้ เหมือนเล่นเกมตามหาร้านอร่อยกันเอง เชื่อว่าคุณจะสนุกกับกิจกรรมนี้
....

....
35 ...
หลายคนไปเดินเล่นน่าจะสะดุดตากับโรงสีแดงหลังนี้ 
ชื่อจริงๆ โรงสี หับโห้หิ้น ซึ่งเดิมเป็นโรงสีข้าวรุ่นแรกๆในพื้นที่ของจังหวัดสงขลาที่รุ่งเรืองมาหลายสิบปี
ต่อมากิจการก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพการณ์เรื่อยมา เคยเป็นทั้งโรงเก็บยางพารา โรงทำน้ำแข็งจนมาถึงปัจจุบันที่เป็นท่าจอดเรือ
รวมทั้งพวกเรือประมงมาใช้เป็นที่พักสินค้า แม้เนื้อในจะเปลี่ยนไปมากมายแต่ผมก็ยังรู้สึกดีใจที่เจ้าของยังคงเก็บความทรงจำของจุดเริ่มต้นของโรงสีแดงไว้อย่างดี
และสีแดงในวันนี้ก็ยังได้รับการทาใหม่ให้สีสันสดใส เป็นโรงสีแดงที่ตั้งตระหง่านเคียงข้างถนนนครนอกต่อไป



....

36 ...
ผมเดินเล่นลัดเลาะไปมาอยู่บนถนนสามเส้นนี้อยู่นานสองนาน
ได้พบปะพูดคุยกับคนหลากหลายรุ่น ทั้งคนเฒ่าคนแก่ที่อยู่มานาน ทั้งคนหนุ่มที่พึ่งย้ายมาตั้งรกร้างใหม่

ในเชิงการท่องเที่ยวแล้วการหยิบยกเอาแง่มุมประวัติศาสตร์ออกมาเป็นจุดขายก็ทำให้มุมเล็กๆแห่งนี้
ดูจะมีอะไรพิเศษกว่ามุมอื่นในสงขลา แต่ผมกลับรู้สึกว่าแม้ไม่ต้องมีประวัติศาสตร์ที่หวือหวามาเป็นจุดขาย 
ความเรียบง่ายและวิถีชีวิตของผู้คนบนถนนสายคลาสสิคนี้ก็เต็มไปด้วยสเน่ห์ให้ต้องมาขลุกตัวอยู่หลายชั่วโมง
และยิ่งถ้ารวมเอาเมนูความอร่อยอันหลากหลายที่พร้อมเสิร์ฟแก่นักเดินทาง ทำให้คุณไม่สามารถจะพลาดการมาสัมผัสย่านเมืองเก่าสงขลาได้เลย



....
37 ...
ร้านนี้ไม่มีป้ายชื่อร้าน แต่คนแถวนั้นเรียกกันว่าร้านกาแฟบังเลาะห์ ผมเดินผ่านรอบแรกคนนั่งเต็มร้านจนไม่สามารถจะเข้ามาสำรวจความเป็นไปได้ 
ใช้เวลาจนเกือบสายๆ เมื่อเดินวนกลับมาอีกรอบพึ่งพอจะมีโต๊ะให้ได้นั่ง และก็พบว่าร้านกาแฟร้านนี้อบอุ่นและได้อารมณ์ของคนสงขลาดีจริงๆ
 เป็นร้านกาแฟแบบเก่าๆ มีบรรยากาศแบบสภากาแฟในยามเช้า


....
38 ....

ก่อนจะย้ายตัวเองออกจากย่านเมืองเก่าสงขลา ... กล้องโพราลอยด์ของผมก็ได้ทำงานอีกครั้ง ...
ค่าใช้จ่ายของฟิล์มอาจจะไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่มันได้บันทึกลงไป และรูปก็ตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่า
มิตรภาพเล็กๆของการเดินทางก็พร้อมจะเกิดขึ้นได้เสมอ หากเราเปิดใจกว้างๆ กว้างให้มากกว่าที่เจ้าบ้านเค้ายิ้มให้เรายิ่งดี



....

40 ....
แม้เป็นการเดินทางกลับบ้านเกิดที่ยังไปไม่ถึงบ้านเกิดเสียทีเดียว เพราะจริงๆผมเกิดและใช้ชีวิตวัยเด็กอาศัยอยู่อีกอำเภอนึง
แต่ตัวเมืองสงขลา เกาะยอ หาดสมิหลา สิ่งเหล่านี้คือภาพทรงจำที่เลือนรางในวัยเด็กของผมทั้งสิ้น

ภาพที่ได้รับกับภาพที่อยู่ในความทรงจำอาจจะมีต่างกันไปบ้างแต่ผมก็ไม่ได้จะคาดหวังให้ต้องสวยหรูแต่อย่างใด
เพราะเข้าใจดีกว่าปัจจัยของเรื่องอายุที่มีประสบการณ์แตกต่างของเด็กและผู้ใหญ่นั้น ทำให้มุมมองของเรื่องนึงๆเปลี่ยนไป

แต่ครั้งนี้ก็ถือเป็นความทรงจำบทใหม่ที่ถูกขีดเขียนขึ้นเพิ่มเติมในขวดโหลใบเดิม ซึ่งเป็นเรื่องดีๆที่น่าประทับใจทั้งสิ้น

ขอบคุณพี่พงศ์ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแค่เห็นกันในแฟนเพจและมอบไมตรีจิตขับรถมารับพาผมเที่ยวรอบเกาะยอ
สุดท้ายคงได้แต่บอกผู้อ่านที่อยากจะหามุมเล็กๆเที่ยวในภาคใต้ลองแวะไปเที่ยวสงขลากันสักคืนสองคืน จะรู้ว่า
เมืองสงขลา สงบ เที่ยวง่าย เจ้าบ้านเป็นกันเองอุดมไปด้วยรอยยิ้ม ที่สำคัญของกินอร่อย

มีโอกาสคงได้กลับไปเยือนสงขลา
และเติมเต็มความทรงจำให้ครบเต็มขวดโหลอีกครั้ง

(จบตอนแรก)

....

Create Date : 30 มิถุนายน 2555
Last Update : 31 ธันวาคม 2555 12:59:41 น.		4 comments
Counter : 12476 Pageviews.
Share Tweet