Keep Memories Alive in my Diary
ไปฮอกไกโดกันเถอะ ... กินหนักจัดเต็ม ฟินมากกกกกกก



สวัสดีครับทุกท่าน ... วันนี้มีทริปรีวิวที่อยากนำเสนอมากๆมาฝากครับ
เป็นทริปไปเที่ยวฮอกไกโด ครับ 

แรกเริ่มเหมือนจะเป็นทริปถ่ายรูปวิวสวยๆ ไปๆมาๆ ...
กลายเป็นทริปตะลุยกินพุงแตกทุกมื้อครับ ...

เป็นไงมาไง เดี๋ยวตามอ่านกันเลยครับ ค่อนข้างยาว เอาให้จบทริปในรีวิวเดียว
รับประกันรูปสวยเช่นเคย ของกินอุดมเต็มรีวิวเช่นกัน 
ระวังน้ำลายหกหน้าจอน่ะครัช ...



ทริปมันเริ่มจากเพื่อนสนิทครับ ...ถามว่าเคยไปฮอกไกโดมั้ย อยากไปมั้ย
เอ้า ...อยากสิครับ ... ไปญี่ปุ่นมาหลายรอบ ยังไม่เคยมาภูมิภาคฮอกไกโดเลย

และความพิเศษของทริปนี้คือทริปตามรอยหม่อมอิงค์ ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ ...
กูรูด้านอาหารการกินชื่อดังของไทย ... ทริปนี้จัดโดย Napira Travel Stylist
บริษัททัวร์แนวใหม่ที่ออกแบบทริปตามใจลูกค้า อยากได้อะไรทีมงานจัดให้ได้หมด
ผมก็พึ่งจะได้รู้จักกับ Napira Travel Stylist ครั้งแรก 
ซึ่งดูจากเฟซแล้วมีเซเลป คนดัง ใช้บริการอยู่บ่อยๆในรูปแบบกรุ้ปพิเศษส่วนตัวๆ ครับ


แถมทริปนี้เป็นกรุ้บเล็กๆครับ แค่ 10 คน เน้น Exclusive และความเป็นกันเองครับ
เสียงหัวเราะตลอดการเดินทางเราพบได้ในทริปนี้ครับ ... 

เพลิดเพลินทั้งกินทั้งเที่ยว

ตามชมกันได้เลยครับ ...
.

.
จริงๆทริปรูทเดินทางจะเป็น 6 วัน ในฮอกไกโด

จากกรุงเทพบินตรงด้วยการบินไทยไปลงสนามบินชิโตเซ่ ...
เมืองซับโปโร-โอบิฮิโระ-คุชิโระ-อาบาชิริ-ซับโปโร ... แล้วกลับไทย

ถ้าดูแผนที่จะพบว่าเราเดินทางกันเป็นวงกลมครับ ...
ซึ่งอาจจะใช้เวลาเดินทางที่ค่อนข้างเยอะในสองวันแรก

แต่เนื่องจากผมติดงานทำให้ต้องบินตามไปในวันที่สองของทริป 
ดังนั้นรีวิวนี้จะเริ่มที่เมืองอาบาชิริ ซึ่งเป็นวันที่สองของทริปครับ ... 

เท่าที่ดูไม่ค่อยมีทัวร์จัดรูทแบบนี้เท่าไหร่ครับ  ...
ดังนั้นทริปนี้จึงพิเศษกว่าใคร และแน่นอน....ว่าเด็ดกว่าใครด้วย




.
ล่องเรือตัดน้ำแข็ง (Sightseeing Ice Breaker)
ตามโปรแกรมเราจะต้องมานั่งเรือตัดน้ำแข็ง Ms Aurora 
บริเวณทะเลเปิดอาบาชิริ ซึ่งจะเต็มไปด้วยแผ่นน้ำแข็งที่ลอยมาจากทางรัสเซีย 
ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งเดียวในญี่ปุ่นครับ

แต่ปรากฎว่าปีนี้อากาศอุ่นเร็วขึ้น หรือเรามาช้าไปหน่อยก็ไม่ทราบ ...
น้ำแข็งละลายไปหมดแล้วครับ ... น่าเสียดายเหมือนกันครับ 

แนะนำว่าใครจะมา น่าจะมาสัก มกราคม - กุมภาพันธ์ นี่
จะได้เห็นได้ตัดน้ำแข็งกันแบบจริงจังแน่ๆ ...


.
เมื่อจองมาแล้ว ก็ต้องลงเรือครับ 

ก็เป็นเหมือนได้ล่องเรือชมวิวทิวท์ศน์ผ่อนคลายจากการนั่งเครื่องมาหลายชั่วโมงครับ บนเรือก็มีบริการเครื่องดื่ม ของกินเล่นนิดหน่อย 

ใช้เวลาราวๆชั่วโมงนึงก็กลับขึ้นฝั่งครับ ... 
สงสัยรอบหน้าต้องกลับมาซ่อมมุมนี้ครับ ยังคาใจ 555+

ผมไปหารูปจากเนตมาให้ดูว่า มันสวยมากกกกก ถ้ามาถูกเวลา 5555+


credit : www.helloholidays.com.my



จากนั้นเดินทางกลับสู่ที่พักแสนสบายของเราครับ
ทริปนี้กิน 5 ดาว นอน 5 ดาว ตลอดทริปครับ

ที่พักของผมคืนแรกนี้คือที่ Hokuten No Oka Lake Abashiri Tsuruga Resort 
อยู่ใน อาบาชิรินี่ แหละครับ ตั้งอยู่บนเนินเขา วิวสวยยยยยย ...




บรรยากาศภายในโรงแรมครับ โรงแรมสวยและหรูหรามากๆครับ
ถ่ายรูปกันสนุกเลย 


..



ภายในห้องพักครับ ได้กลิ่นอายตามแบบฉบับญี่ปุ่น 
แล้วเติมความหรูหราด้วยชุดเครื่องนอนระดับพรีเมียม
เตียงและผ้านวมนุ่มเกินหน้าเกินตาโรงแรมญี่ปุ่นทั่วๆไปครับ

วิวด้านนอกระเบียงเปิดออกไป ... สวยแต่หนาวครับ 5555+

เป็นเทือกเขาห้อมล้อม สวยเลยย 
แต่ออกไปยืนชิลได้ 5 วินาทีก็ต้องรีบกลับเข้าห้องอุ่นๆ



.
.


มื้อเย็นนี้ เสิร์ฟเป็นเซ็ทไคเซกิ ... 
แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มีความพิถีพิถันในการเสิร์ฟอาหารครับ
ในเซ็ทมีอาหารหลากหลายมากครับ เท่าที่พอจำได้มีทั้ง เนื้อปลากระเบนต้ม 
หม้อไฟชาปู มันปูอบเกลือ เนื้อย่างฮอกไกโด ข้าวอบหอยลาย ซุปหอย



พิถีพิถันทั้งวัตถุดิบและพรีเซนเทชั่นของอาหารครับ ...

เหลือบไปดูฝั่งตรงข้าม 
หม่อมอิงค์ดูกำลังเพลิดเพลินกับการกินไม่ต่างกับผมเช่นกัน 555+... 

กลุ่มเราเล็กๆครับ 10 คน .. พอเริ่มเข้าวันที่สองที่สาม จะสนิทกันละ ...
เหมือนมาเที่ยวกับเพื่อนๆด้วยกันเลยครับ
หม่อมอิงค์ก็น่ารักเป็นกันเองมากๆ
คอยแนะนำเรื่องน่ารู้ด้านอาหารให้เราเปิดโลกใหม่ๆ ได้ตลอดครับ ...





ถ้าแบคแพคมาเองอาจจะไม่ได้มีประสบการณ์แบบนี้ครับ ... 





ตื่นเช้ามาลงมากินข้าวเช้ากันที่มุมนี้ครับ โรงแรมนี้สวยทุกมุมดีจริงๆครับ ..

อาหารเช้าหลากหลายเช่นเคย มีหม้อซุบนาเบะให้เราได้ทำกินเอง 
รวมทั้งอาหารแบบตะวันตกและแบบญี่ปุ่นครบครันครับ ... 

อันนี้คือข้อดีของการพัก 5 ดาว ครับ ไม่ต้องกังวลกับมื้อเช้ามากนัก จัดเต็มได้เลย



วิวด้านนอกโรงแรม ... ขาวโพลนนนนน

สารภาพแต่โดยดีว่า ไม่ค่อยถูกจริตกับหิมะครับ 
ใจนึงอยากกลิ้งเล่น แต่เป็นคนแพ้ความหนาวมากๆ

มารอบนี้ถอยเสื้อกันหนาวตัวใหม่มา จัดเต็มทั้งถุงมือทั้งหมวก 
ช่วยให้อุ่นขึ้นเยอะครับ 

แต่คนมาฮอกไกโด ส่วนใหญ่ก็อยากมาเจอหิมะแบบนี้กันทั้งนั้นเนอะ ...



เราเดินทางออกจาก อาบาชิริ แต่เช้าครับ เพื่อกลับเข้าสุ่เมืองซับโปโร ..

ระหว่างทางก็ต้องแวะเที่ยวกันครับ ...
จุดแรกที่แวะคือ หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก ครับ ... (Hokkaido Fox Village) 
ซึ่งหาดูได้ยากมากๆในปัจจุบัน

ถ้าเราอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมาเยอะๆ 
จะพบว่า ญี่ปุ่นมีตำนานเกี่ยวกับสัตว์อยู่เยอะมาก 

หนึ่งในนั้นคือเรื่องของ สุนัขจิ้งจอกในเมืองหิมะครับ ...



จะเป็นพื้นที่กว้างๆ แล้วมีรั้วกั้นรอบๆไว้ครับ 
เราก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ ได้ใกล้ชิดสุนัขจิ้งจอกกันเลย

ก็มีป้ายห้ามไปสัมผัสตัวจิ้งจอกด้วยน่ะครับ 
แต่ถึงไม่มีป้ายห้าม ผมว่าก็คงไม่มีใครกล้าไปแตะเท่าไหร่

มาดูหน้าหนาวแบบนี้ผมมว่าได้อารมณ์ดีครับ  ...
สุนัขจิ้งจอก นั่งบนกองหิมะ มันเหมือนภาพในการ์ตูนเลย
นั่งหลับตากันพริ้มมากกกกกก .... 

อ้อ เดินๆ บนหิมะระมัดระวังจะลื่นกันด้วยน่ะ ผมลื่นมาละ 555+










หลังจากนั้นเราออกเดินทางกันต่อครับ ... 
มองดูเวลาก็บ่ายโมงละ ได้เวลาหิวพอดี 555+

เราแวะกันที่ Asahikawa Ramen Village ... 

หมู่บ้านราเม็งในตำนานนนนนน



คือสารภาพอีกรอบว่าตอนแรก  ...

อ่านโปรแกรมว่า แวะกินหมู่บ้านราเม็งนี่นึกว่า เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาหิมะ ...
แล้วมีคุณป้ามาทำราเมงตามบ้านแต่ละหลัง 
เดินเข้าบ้านทีละหลังเลือกกิน 5555+

จริงๆแล้วคือ อารมณ์ร้านราเม็งติดๆกันเป็นห้องๆ ...
รอบๆ ร้านเป็นลานกว้างๆไว้ให้จอดรถ

เซอไพรส์กันได้ตลอดญี่ปุ่น 555+ แต่เอาน่า ... 
อะไรก็ไม่สำคัญเท่า รสชาติของราเม็งระดับตำนาน

ที่หม่อมอิงค์ บอกว่า ...
เค้าคัดสูตรมาจากทั่วญี่ปุ่นมาลงไว้เราเลือกชิม 8 ร้าน ด้วยกัน 

หลากหลายสไตล์ ... ทั้งน้ำข้น น้ำใส ...




หม่อมอิงค์ มล.ภาสันต์ บอกว่า พี่มากินทีไรได้แค่สองร้านก็อิ่มก่อน ... 

ดังนั้น คัดมาให้ละ 2 ร้านเด็ด ...
ร้านแรกคือร้านสีแดงครับ ดูตามรูปเลย ....



พ่อคุณเอ้ยยยย เด็ดดวงมากกกกกกกกกกกกกก

น้ำข้น หมูชาชูส่วนคอ .. นิ่มมากกก ติดมันกำลังดี ... 
อร่อยถึงกับต้องสั่งหมูแยกออกมากินเล่น

อากาศเย็นๆ แบบนี้ การได้ซดน้ำซุปเข้มข้นของราเม็งนี่คือสวรรค์ชั้นเจ้ดเลยครับ  ....


.



ต่อกันที่ร้านที่สองครับ ... อยู่คนละฝั่งกับร้านแรก ต้องเดินอ้อมมมไปอีกด้าน
ร้านนี้คือ ต้นตำรับ โชยุ ราเม็งครับ .... ขายกันมาหลายสิบปีดีนัก ... 
สูตรโบราณตามแบบฉบับฮอกไกโดเลย

แต่จริตปากผมไม่ค่อยถูกกับโชยุราเม็งเท่าไหร่ครับ 555+ 
ผมว่าร้านแรกอร่อยถูกปากมากกว่า ...





อิ่มพุงแล้วก็ออกเดินทางกลับเข้าสุ่ซับโปโร ครับ ...

มาแวะกันที่โรงงานช็อคโกแลท ชิโรอิ โคอิบิโตะ อันแสนสุดโด่งดัง
ท่านใดมาฮอกไกโดแล้วไม่ได้ลองชิมคุ้กกี้สอดไส้ช็อคโกแลทขาวยี่ห้อนี้
ท่านว่ามาไม่ถึง ... พูดไปนั่น แต่มันก็อร่อยจริงๆครับ ... 

ที่สนามบินก็มีขายครับ 

อาจจะไม่ต้องรีบซื้อไปให้หนักกันตั้งแต่ตอนนี้ ... 
พวกผลิตภัณฑ์จากนมของฮอกไกโดนี่บอกเลยว่าสุดยอดแห่งความอร่อยจริงๆ

ไม่รู้ผมคิดไปเองมั้ย ขนม นม เนย 
ของฮอกไกโดนี่อร่อยแทบทุกอย่าง มาแล้วอ้วนท้วนกลับไทยกันทุกคน



หน้าหนาว จะมืดเร็วครับ ... 

ไม่ค่อยเห็นใครมาโรงงานช็อคโกแลทยามเย็นแบบนี้เท่าไหร่ 
เลยได้รูปในมุมที่สวยไม่เหมือนใครดีครับ แสงไฟที่ประดับประดา 
ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลหิมะยังคงสร้างสีสันในยามค่ำคืนของมันอย่างดี



ด้านในก็เป็นส่วนทั้งพิพิธภัณฑ์และส่วนของร้านขายขนมด้วยครับ
ซื้อหา เดินชมกันได้ตามสบายเลย ...

จริงๆจะมีส่วนของไลน์การผลิตให้เราดูด้วยครับ 
แต่คณะเรามาถึงโรงงานกันช้าไปนิด เลยอดดูข้างใน ... 

ซึ่งสมาขิกในกรุ้ปก็ดูจะเอนจอยกับการเลือกกินขนมด้านนอกมากกว่าด้วย 
เอ้าาา อ้วนนนนนน กันทุกมื้อต่อไป 555+





แนะนำเลยครับ 

อันนี้เลิฟมากกครับ ช็อคโกแล็ทพร้อมดื่มมมม
หาที่เมืองอื่นไม่เจอเลยครับ เพื่อนเคยซื้อมาฝาก อร่อยมากกกกกก
ใครเจอที่เมืองไทยช่วย ระบุพิกัดหน่อยน่ะครับ












จากนั้นก็เข้าพักที่โรงแรม Grand Sapporo Hotel ครับ เราอยู่กันสองคืนเต็มๆ
5 ดาว ใจกลางเมือง โลเคชั่นชนะเลิศศศศ เดินเที่ยวยามค่ำคื่นสะดวกสบาย
อยู่ใกล้ห้างใหญ่ๆ ช็อบปิ้งกันเพลินมากครับ ...







และแล้วก็มาถึงมื้อค่ำที่ผมต้องแนะนำแรงๆ ให้กับเพื่อนๆที่จะตามรอยครับ ..
ถ้าชอบปิ้งย่าง รักเนื้อลายยย  ...

เห็นลายหินอ่อนแล้วใจสั่นเป็นต้องปิ้งๆๆ มันให้หมดจาน 555+ 

ออกแนวซาดิสต์





มาเลยครับ ร้านนี้ ... Sekai Yakiniku World Champion แชมเปี้ยนนนนน

ปากซอยเป็นรูปด้านบนครับ ... 55+ 

มีป้ายรูปวัวดำตัวใหญ่ๆอยู่ กดลิฟท์ไปชั้นสองได้เลย   ...
เข้ามาด้านในไม่เน้นหรูครับ ร้านนี้คนญี่ปุ่นท้องถิ่นกินกันนี่แหละครับ

เหมือนจะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษน่ะครับ
ไม่ยากอะไรจิ้มตามรูปเลยยยย ....



มีทั้งเมนูที่เป็นบัฟเฟต์และแบบอะลาคาร์ทครับ ...


รออะไรกันอยู่ สั่งแบบบัฟเฟต์สิครับ ... ตามธรรมเนียมของร้านที่ญี่ปุ่น ถ้ากินบัฟเฟต์ก็ต้องบัฟเฟต์หมดทั้งโต๊ะน่ะครับ เค้าจะได้ไม่งงและง่ายต่อการสั่ง ...

เมนูบัฟเฟต์มี สาม ราคาครับ 3250 , 4250 และ 5250 พรีเมียมสุด
เลือกตามงบประมาณท่านเลย ... ขอผมเลือกตัวท็อบ เนื้อดีสุด





ร้านนี้เสิร์ฟเนื้อวากิวระดับ A5 
ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในร้านที่ความนุ่มเนื้อระดับเทพ
เรียกว่า อากงอาม่าไม่ต้องใส่ฟันปลอมก็กินได้ครับ 
นุ่มแบบไม่ต้องเคี้ยวกันเลยเถอะ 555+

เห็นลายของไขมันที่แทรกอยู่ในชิ้นเนื้อแล้ว ก็ได้แต่ครางฮือครับ ...

จัดไปสิครับ รออะไรกันอยู่ .... 

สั่งเบียร์ซับโปโรด้วยครับ เพราะมันเข้ากันดีมากกกก
ยังกับเกิดมาคู่กัน เนื้อย่างกับเบียร์เนี่ย ...



การย่างเนื้อพรีเมียมพวกนี้ ..ผมใช้สูตร 10 วิ กลับ 2 ...
นั่นคือ ย่างข้างละ 10 วินาที สองข้าง แล้วจิ้มซอส เอาเข้าปากเลยครับ ...

ความหนาของเนื้อประมาณนี้ ย่าง 10 วิ กำลังดีครับ 
ความสุกเนื้อจะมีเดียมๆ

โอ้ยยยยย ... น้ำลายไหล อีกแล้วววว

ไม่อ้วนครับ อย่าไปฟังคนข้างๆ กินไปเถอะ 5555+










หลังจากนั้นก็เดินเล่นสำรวจเมืองกันครับ ...
ญี่ปุ่นความปลอดภัยค่อนข้างสูงกว่าประเทศอื่นๆในเอเชีย ...

กลางคืนออกมาเดินเล่น สะพายกล้อง รู้สึกปลอดภัยมากๆครับ ...
จริงๆคือเดินย่อยมื้อเย็นที่ซัดไปเมื่อกี้ด้วย ....









ตื่นเช้ามา อากาศดีมากกกครับ

จากโรงแรมเราสามารถเล่นเล่นมายังบริเวณ ที่ทำการรัฐบาลเก่า เมืองซับโปโรได้ครับ

สร้างขึ้นในปี 1888 เป็นสถาปัตยกรรมทรงแบบโดมแปดเหลี่ยม 
ซึ่งสไตล์การสร้างนำมาจากที่ทำการรัฐแมซซาซูเสทในอเมริกา

มีกองหิมะอยู่ข้างหน้าเพิ่มความสวยงามอีกนิดนึง ...




.
เช้าวันนี้ เราเปลี่ยนแผนกันครับ เบื่ออาหารเช้าในโรงแรมเลยไปหาอะไรกินกันที่
ตลาดปลาซับโปโร ครับ ...







.
และก็เหมือนกันแทบทุกเมืองครับ ที่รอบๆตลาดปลา ก็จะมีร้านอาหารคอยต้อนรับเราแต่เช้า ซึ่งแน่นอนว่าความสดของวัตถุดิบก็จะเนียนมากกกกครับ 



เข้าร้านนี้เลยยย เดี๋ยวนี้หลายร้านมีป้ายภาษาไทยเชิญชวนหมดละครับ 555+





บรรยากาศแบบเรียบง่ายครับ เข้ามาถึงก็ขอเมนูสั่งกันเลย
วันนี้มื้อเช้าขอเป็นแบบข้าวหน้าซาซิมิครับ ...



ผมบอกให้เลยครับว่า ถ้าคุณกินได้ทุกอย่าง และรักซาซิมิ มาถึงญี่ปุ่น
ยิ่งถ้ามาฮอกไกโด ให้เลือกสั่ง หน้าปู หน้าอูนิ ครับ โดยเฉพาะปูนี่ฟินมากกกก

คือตอนผมกินครั้งแรกเนี่ย ปูทาราบะฮอกไกโดนี่ไม่อร่อยเลย เย็นๆ 
ไม่คุ้นบ้านเราที่กินแบบร้อนๆ พวกปูม้านึ่ง กับน้ำจิ้มซีฟู้ด

แต่พอได้ลองกินหลายครั้ง พบว่า ปูทาราบะ นี่อร่อยไปอีกแบบครับ
เนื้อแน่นๆ หวานๆ จะปิ้ง จะนึ่ง จะเอามาต้ม นี่ก็ถูกปากไปหมด ...

ดังนั้นลองกินกันดู .... 
ถูกจริตปากเมื่อไหร่ ...เตรียมกระเป๋าแฟ้บ 555+





ผู้คนนิยมมาเที่ยวฮอกไกโดกันในช่วงหน้าหนาวนี่แหละครับ
มาเล่นสกีบ้าง มาเทศกาลหิมะ มาหาอะไรกินอร่อยๆ 
เป็นอีกภูมิภาคที่ครบเครื่องมากๆ ของญี่ปุ่นครับ
ผมมาครั้งแรกนี่ก็ประทับใจดีจังครับ เดี๋ยววันหลังต้องหาโอกาสกลับมาเที่ยวอีก 





ช่วงเที่ยง คณะเรา ย้ายกองกันมาที่ เมือง โอตารุ ครับ 
มาฮอกไกโด ไม่มาโอตารุ ก็กระไรอยู่ .... พี่อิงค์บอกผมมา

ผมก็ว่าไปตามนั้น 555+

โอตารุเป็นเมืองตากอากาศที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว
เป็นศูนย์กลางการประมงของฮอกไกโด 

และมีเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ผสมกับญี่ปุ่นด้วย 
คงเพราะเนื่องจากอยู่ติดกับรัสเซีย การทำการค้าในตั้งแต่สมัยก่อน 
ก็เหมือนศิลปะวัฒนธรรมได้เคลื่อนย้ายผ่านมากับการค้าด้วยนี่เองครับ



มุมนี้มุมมหาชนเลย ถ่ายภาพกันเป้นที่ระลึกหน่อย

หม่อมอิงค์กับคุณบี ณพีศ์รา เตชาชาญ เจ้าของทัวร์ ซึ่งทริปนี้เป็นผู้นำทริปด้วยตัวเองเลยครับ
ยังวัยรุ่นอยู่เลย ก็รุ่นๆผมนี่แหละ 555+ 
นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ Napira Travel Stylist ทำทริปได้สนุกแบบนี้



มาถึงท้องร้องละครับ จัดกันเลยดีกว่าเพราะนี่คืออิ่มพุงแตก แดกไม่ยั้งครับ
ร้าน Tatsumi Sushi ... มื้อกลางวัน เราสั่งเป็นชุด Omakase Nigiri ครับ

เป็นเซ็ทที่เชฟจะรังสรรค์ออกมาให้เรากินเอง 
เรานั่งเฉยๆรอกินเลยครับ เซ็ทนี้เบาๆมี 10 คำ ... 

แต่กินไปกินมานี่ไม่เบาน่ะ อิ่มเลยยยยยย







สามทหารเสือตระกูลโทโร่ .... 
เดี๋ยวนี้ชอบกินชูโทโร่ครับ ความมันของเนื้อกำลังดี ไม่เลี่ยนเกินไป ...



กินคาวแล้วไม่กินหวานได้ไงครับ ...

เราเดินกันต่อครับ ... ไปตามทางนี่แหละ 
เส้นทางหลักที่นักท่องเที่ยวเดินเล่นกันในโอตารุ
.

.
แวะก่อนเลยจุดแรก ... ชูครีม ที่อร่อยที่สุดในโลก อยู่ที่โอตารุนี่แหละครับ
จำไว้ๆ Kitakaro เห็นเมื่อไหร่ รีบวิ่งไปซื้อชูครีมไส้ทะลักมากินซะ



เสียดายมันเก็บได้แค่วันเดียวเองครับ
ไม่งั้นจะซื้อกลับไทยมาฝากเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ไปว่ามันโคตรรรรอร่อยแค่ไหน





.


สำหรับท่านที่ชอบนั่งกินแบบเป็นเรื่องเป็นราว นั่งจิบชาร้อนๆ ...

จิ้มเค้กนุ่มๆเข้าปากคำนึง หันไปอัพไอจีรูปนึง 
ก็เดินเลยไปอีกหน่อย แล้วมานั่งที่ LeTAO ละกันครับ

อร่อยครับ ... แต่ตอนนี้ตัวผมจะแตกแล้ว 

ไม่เคยไปทัวร์ไหนแล้วกินไม่หยุดไม่หย่อนขนาดนี้ครับ 
กินจริงจัง ถ้าลูกทัวร์ไม่อิ่ม หัวหน้าทัวร์จะไม่พอใจ 555+

แล้วสั่งได้ไม่อั้นจนกว่าจะพุงแตกครับ ... รักเลย Napira Travel Stylist 

.


โชคดีมากกก เดินมาถึงจังหวะที่นาฬิกาโบราณบอกเวลา ปู้นๆๆ 
พ่นไอน้ำพอดีเลยครับ

ตั้งอยู่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ไม่ไกลจากร้าน LeTAO ครับ






ว่าแล้วก็เดินเข้ามาในพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีหน่อยครับ ...

ที่นี่สร้างมาตั้งแต่สมัยสร้างเมืองโอตารุใหม่ๆครับ 
โดยได้รับอิทธิพลมาจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกร้างในยุคนั้น 

จนปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยครับ



น่ารักและหลากหลายรูปแบบมากๆครับ ... ราคาก็สมเหตุสมผลดีครับ 
ซื้อติดไม้ติดมือฝากคนที่บ้านได้เลยครับ



และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ 555+

มาญี่ปุ่นทั้งที ... มาฮอกไกโด ...
มากับทัวร์กินแหลกห้าดาวด้วย

มันก็ต้องส่งท้ายกันด้วย ปูยักษ์ทาราบะ !!!!



ร้าน Sekkatei อยู่ใจกลางซับโปโรไม่ไกลจากโรงแรมที่เราพักครับ

ร้านนี้แยกห้องส่วนตัวเอาไว้เรียบร้อยครับ
บรรยากาศญี่ปุ่นๆ กันเลย ...



เมนูมีหลากหลายมากครับ มีให้เลือกหลายเซ็ท
มีเมนูภาษาอังกฤษกำกับไว้ครับ ไม่น่าจะยากอะไร 
ใครจะตามรอยมาก็เลือกตามงบประมาณเลยครับ ... 
มีเซ็ทตั้งแต่ไม่กี่พัน ไปจนเรือนหมื่น

ส่วนทริปนี้ของผม ... นั่งเฉยๆ เพราะเค้าจัดแบบพรีเมียมมาให้ละครับ







เซ็ทที่สั่งมากินวันนี้ ... ทุกจานจะมีปูมาประกอบหมดครับ
บางอย่างผมก็พึ่งเคยกินครั้งแรกในชีวิตเลย ...

ไล่ตั้งแต่ซาชิมิขาปูทาราบะ ขาปูทาราบะย่าง ซูชิปู เทมปูระขาปู
และมีสุกี้หม้อไฟขาปูทาราบะเป็นจานหลัก ...

เป็นอีกมื้อที่มีความสุขมากกกกก ...

อ้อ เบียรซับโปโรๆๆ อย่าลืมสั่งมากินคู่กันครับ
ไม่รู้ทำไมกินเบียร์กับอาหารญี่ปุ่นที่นี่อร่อยกว่ากินที่เมืองไทย 
สงสัยบรรยากาศมันให้ด้วย



อันนี้แหละ ตัวเด็ดอีกอย่างสำหรับซูชิขาปูฮอก ... ในไทยถ้าไม่ใช่ร้านหรูๆจริงๆ
หากินไม่ค่อยได้ครับ แต่สำหรับที่ญี่ปุ่น เหมือนจะเป็นเมนูเบสิค พื้นๆ น่ะ 555+


.
คือผมก็ไม่รู้จะบรรยายอะไรละ 555+ ... 

ประทับใจกับทริปนี้มากๆครับ
หลายปีมานี่ผมเที่ยวเกือบทุกเดือนทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งแบบแบกเป้เที่ยวเองและแบบทัวร์ครับ แล้วแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย

มากับทัวร์จะสบายหน่อย และได้เที่ยวครบๆ ซึ่งกับ Napira Travel Stylist
ทีมออกแบบการเดินทางนี้ ..น่าจะถูกจริตกับคนรุ่นใหม่ครับ 

เพราะอยากทำอะไร  อยากกินอะไร อยากแวะตรงไหน 
บอกกันได้ตลอดครับ ยืดหยุ่นได้ 

และทุกอย่างก็คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้เดินทางจริงๆ .... 
เชียร์เลย ไปเองมาแล้ววววว




ครอบครัวใหญ่ๆ อยากเที่ยวต่างประเทศแบบอบอุ่น และคุ้มค่า 
จัดกรุ๊ปส่วนตัวอยากไปไหน บอกเค้าได้ เดี่ยวเค้าจัดให้ ...

ใครสนใจจัดทริปสุดพิเศษกับ Napira Travel Stylist 
ลองติดตามและสอบถามได้ที่ ...

Instagram : napiratravelstylist

โทร. 662 -719-8009 (อัตโนมัติ)
อีเมล์ info@napiratravel.com

***********************************************************
รูปแบบ Package ของ Napira Travel Stylist มี 3 รูปแบบได้แก่

Napira Travel Stylist LUXE
เป็น Package ที่เน้นการท่องเที่ยวแบบหรูหรา เหมาะสำหรับ
ผู้ที่รักการท่องเที่ยวสถานที่ในฝัน เข้าพักในห้องพักสุดพิเศษ
ของโรงแรมระดับ 5 ดาว เดินทางด้วยรถรับส่งสุดพิเศษ 
พร้อมผู้ให้บริการส่วนตัวตลอดการเดินทาง 
(ทริปฮอกไกโดผม เป็นแบบนี้ครับ)

Napira Travel Stylist UNIQUE
เป็น Package ที่เน้นการท่องเที่ยวแบบพิเศษ และสามารถปรับเปลี่ยนการท่องเที่ยวได้ตลอดเวลา 
โดยลูกค้าสามารถแจ้งรูปแบบ ในการท่องเที่ยว 
แล้วทาง Napira Travel Stylist จะ Design โปรแกรมการท่องเที่ยว เฉพาะบุคคลให้ 

Napira Travel Stylist TOGETHER
บริการ Package การท่องเที่ยวแบบกลุ่มใหญ่ เหมาะสำหรับองค์กรรัฐบาล
รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน ตลอดจนบริษัมหาชน ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว
ต่างประเทศอย่างประทับใจ
.


สิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจกับทริปนี้คือ มิตรภาพใหม่ๆครับ ...
เราได้รู้จักกันมากขึ้น ได้ทั้งรุ่นพี่ ทั้งน้องใหม่ ที่ร่วมทริปไปด้วยกัน
กลับมาไทยก็ยังนัดเจอ นัดคุยกัน ตามประสาคนคอเดียวกันที่รักการท่องเที่ยว



.

ส่งท้ายกันด้วยภาพมุมสูงจากชิงช้าในเมืองซับโปโรครับ ...

ถ้าสังเกตจะพบว่า ในเมืองใหญ่ๆของญี่ปุ่นจะมีชิงช้าสวรรค์อยู่เกือบทุกเมืองครับ
เราสามารถนั่งชมวิวกลางคืนกันได้เลย ชิลลและโรแมนติกไม่เบาน่ะ ...

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมกันอยู่ตลอดครับ ....
ขอบคุณทริปสุด Exclusive by Napira Travel Stylist คุณเจ๋งมากกก ..

ผมยกนิ้วให้ในคุณภาพของทัวร์เล็กๆแต่อบอุ่นมากๆครับ

*********************************************************


มีอะไรสงสัย ....
สอบถามได้ในข้อความแฟนเพจ theSixthFloor Gallery ตามนี้เลยครับ

หรือติดต่อทาง Line/ IG : thesixthfloor ได้ตลอดเวลาครับ
.




Create Date : 04 สิงหาคม 2558
Last Update : 4 สิงหาคม 2558 19:53:31 น. 1 comments
Counter : 11837 Pageviews.

 
ภาพสวยมากเลยค่ะ เห็นแล้วอยากไปฮอกไกโดเลยย


โดย: Kook Jutamas IP: 58.8.154.171 วันที่: 4 สิงหาคม 2558 เวลา:20:25:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the Sixth Floor
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่ theSixthfloor Studio ครับ

บทความและภาพถ่ายทั้งหมดในบล็อคนี้
สงวนลิขสิทธิ์หากถ้าต้องการนำไปใช้หรือ
เผยแพร่เพื่อการศึกษาหรือการกุศล
ก็ยินดีครับแต่ก็ขอความกรุณาติดต่อผม
เพื่อให้ทราบรายละเอียด

สำหรับท่านที่ต้องการติดต่อเรื่องบริการ
ด้านการถ่ายภาพสามารถติดต่อโดยตรง
ได้ด้วยเช่นกันครับ

ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านแวะมาเยี่ยมชม
บล็อคของผมครับ
q( ^o^ )p
Click to





count web site traffic
Visitor


■ L&T 01 .. รอยยิ้มปนคราบน้ำตา บนท้องนาแห่งชีวิต ..
■ L&T 02 .."เชียงคาน" เวลายังคงเท่าเดิม ที่เพิ่มเติมคือความสุข ..
■ L&T 03 .. ผืนน้ำจรดขอบฟ้า ตะวันลับตาที่ Hilton Pattaya Hotel ..
■ L&T 04 .. นอนฟังเสียงสายน้ำคลอเคลียที่ Bamboo Hut Resort@ทองผาภูมิ ..
■ L&T 06 .. สโลโมชั่นชีวิตในวันที่เร่งรีบ ณ Anantara Bangkok Sathorn ..
■ L&T 07 .. ความสุขในมุมเล็กๆที่ Mimosa Resort & Spa @ Koh Samui ..
■ L&T 08 .. ออกไปลอยคอกลางทะเล ที่ มก.สุรินทร์ และ เกาะตาชัย ..
■ L&T 09 .. ความอบอุ่นถักทอบนความทรงจำสีจางที่ Villa Nalinnadda เกาะสมุย ..
■ L&T 10 .. บรรยากาศสบายๆที่ the Baths Medi Cottage Resort @ Cha-Am ..
■ L&T 11 .. สูดหายใจพร้อมรับ"ดับเบิ้ล"ประสบการณ์ที่ W Retreat @ Koh Samui . .
■ L&T 12 .. เหยียบไปบนพื้นทรายคลอเสียงคลื่นที่ Rasananda Resort เกาะพะงัน ..
■ L&T 13 ..ปัดฝุ่นความทรงจำที่ Cape Panwa Hotel ภูเก็ต#Day 1 ..
■ L&T 14 .. เก็บรอยยิ้มจากเกาะปันหยี เติมเต็มความสุขที่ Le Meridien เขาหลัก ..
■ L&T 15 .. สะกดทุกสายตา เวลาหมุนช้าที่ Villa Maroc @ Pranburi ..
■ L&T 16 .. จินตนาการแห่งที่สุดของการสร้างสรรค์ ณ Casa de La Flora Resort ..
■ L&T 17 .. ลำปาง ปลายทางแห่งความสุข ..
■ L&T 18 .. สัมผัสมะลิงามที่เบ่งบานในวันหยุด Malisa Villa Suite @ Phuket ..
■ L&T 19 .. " เชียงใหม่ " . . . พอดีคำ กำลังดี . . . . .
■ L&T 20 .. มิอาจคลาดสายตาจากความงามของ the Baray Villa @ Phuket ..
■ L&T 21 .. Siam Kempinski Hotel เพชรเม็ดงามใจกลางมหานคร ..
■ L&T 23 .. เกาะตาชัย . . . จะไปด้วยกันรึเปล่า ?..
■ L&T 24 .. Ramada Resort Khaolak กับวันสบายริมหาดเขาหลัก ...
■ L&T 28 .. สงขลา ... เวลาใหม่ในขวดโหลใบเดิม ...
■ L&T 29 ... เนปาล Endless Journey ตอนจบ
■ L&T 31 ... ซีอาน กองทัพทหารดินเผาแห่งจิ๋นซีฮ่องเต้
■ L&T 32 ... เดินเล่นใน "สุโขทัย" เนิบช้าและทรงคุณค่า
■ L&T 33 ... ยุโรปครั้งแรก "เนเธอร์แลนด์ และอัมสเตอร์ดัม
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add the Sixth Floor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.