Keep Memories Alive in my Diary
[Life&Travel #12] .. เหยียบไปบนพื้นทราย คลอเสียงคลื่นที่ Rasananda Resort เกาะพะงัน ..

....

นิตยสาร Life & Travel นี้ ผมตั้งใจเป็นแม็กกาซีนออนไลน์
สำหรับคนรักการท่องเที่ยว อยากให้เป็นทั้งคู่มือการเที่ยวแบบง่ายๆ
ตรงไปตรงมา ดีไม่ดีก็ว่ากันไปตามที่เห็น

พร้อมเป็นทั้งสมุดภาพบันทึกความทรงจำ
และเป็นทั้งแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้ออกเดินทาง

เช่นเคย ... ถ้าชอบ Life &Travel แวะไปกด Like ให้กำลังใจกันได้ครับที่



นอกจากจะไม่พลาดทุกการอัพเดทของ Life & Travel
ยังมีข่าวสารการท่องเที่ยวที่น่าสนใจด้วยน่ะครับ
...............................................................................................




ขอวางแผงนิตยสารออนไลน์ Life & Travel
ซึ่งฉบับนี้เป็นฉบับที่ 12 แล้วครับ


4 เดือนกับ 12 ฉบับเฉลี่ยแล้ว เดือนละ 3 ฉบับ
ถือว่าเยอะเหมือนกันน่ะเนี่ย

ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมกันอยู่เสมอน่ะครับ


ทำรีวิวออกมาบ่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเบื่อกันบ้างรึเปล่า
ก็พยายามพัฒนาการรีวิวอยู่ตลอดครับ

ใจจริงอยากฟังฟีดแบ็คของคนอ่านด้วยน่ะครับ
ว่าคิดเห็นเช่นไรบ้าง ชอบหรือไม่ชอบ ตรงไหน อยากจะให้เพิ่มเนื้อหา
หรือมุมมองตรงไหนบ้าง ก็แนะนำกันมาได้น่ะครับ

ทั้งทาง เมลล์ ทาง หน้าเฟซบุค หรือจะ หลังบ้านมาก็ได้ ยินดีรับฟังครับ


เชิญรับชมได้ครับ



01 ...

ฉบับนี้ยังเป็นรีวิวเก่าๆ ที่เป็นทริปติดพันตอนไปสมุยครั้งก่อนครับ

คราวนั้นลาพักร้อนไปหลายวันให้คุ้มค่าตั๋วเครื่องบินที่แพงกว่ารูทอื่น
ก็เลยได้หาโอกาสแวะไปเกาะพะงันมาด้วย

เสียดายที่เวลาไม่ลงตัวเท่าไหร่ไม่ได้เป็นช่วงพระจันทร์เต็มดวง
เลยพลาดที่จะสัมผัสงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่ตั้งใจว่าสักครั้งในชีวิตต้องไปให้ได้


แต่กระนั้นทริปนี้ก็ยังเป็นทริปที่มีความสุขไม่น้อยครับ ...

ผมได้หลบความวุ่นวายของเมืองใหญ่
ไปนอนพักผ่อนชาร์จพลังเต็มๆ ริมหาดท้องนายปานน้อยที่แสนสงบ

มุมเล็กๆ บนเกาะพะงันที่หลายคนอาจจะเคยผ่านตามาบ้างแล้วกับ
รสานันดา รีสอร์ท แอนด์สปา หนึ่งรีสอร์ทสวยๆบนเกาะพะงัน




02 ...

การเดินทางไปรสานันนดานั้น

จะเริ่มจากท่าเรือของรีสอร์ทแถวย่านบางรักตอนบนของเกาะสมุยครับ
จะเป็นมุมเล็กๆให้ได้นั่งพักผ่อน มีบริการทั้งเครื่องดื่มรวมทั้งห้องน้ำไว้สามารถอาบหลังจากกลับมาจากเกาะได้ด้วย

โดยเรือจะมีสองรอบคือประมาณ 11.30 กับช่วงบ่าย 4 โมงเย็น
(ถ้าผมจำไม่ผิดน่ะ ยังไงลองสอบถามตอนจองห้องพักกันอีกทีละกันครับ)

ซึ่งถ้าเดินทางจากกรุงเทพนั้นก็ต้องคำนวณเวลาที่จะมาถึงให้เหมาะสม
กับเรือสปีดโบ้ทที่จะข้ามไปด้วยครับ

ใช้เวลาในการเดินทางจากเกาะสมุยไปยังหาดท้องนายปานน้อย
ประมาณ 40 นาทีครับ



03 ...

แหงนหน้ามองฟ้า วันนี้ฟ้าไม่ค่อยใสเท่าไหร่
ค่อนข้างมีเมฆเยอะพอสมควร

ปีนี้อากาศบ้านเราแปรปรวนต่อเนื่องมากๆ ...
ไปเที่ยวตอนนี้ปักตะไคร้อย่างเดียวไม่พอ
ต้องพกดวงมาด้วยถ้าจะให้ฟ้าฝนเป็นใจ



04 ...

นั่งหน้าโต้ลมอยู่พักใหญ่ๆ....

เรือก็ค่อยๆ เบาเครื่องยนต์ลง มองไปไกลๆยังริมชายหาดด้านหน้า
ก็จะเห็นร่มสีแดงวางเรียงแนวยาวทอดไปตามชายหาด
เป็นสัญลักษณ์บอกได้ว่ามาถึง "รสานันดา" แล้วครับ

มีเดินลุยน้ำนิดหน่อย
เนื่องจากเรือไม่สามารถเข้าไปชิดกับชายหาดได้มากนัก

ซึ่งพนักงานเค้าก็จะเตรียมให้เราถอดรองเท้า
ไว้ตั้งแต่ตอนลงเรือแล้วละครับ



05 ...

ด้วยเรือมาส่งแขกเป็นรอบๆ แบบนี้...

ทำให้รีสอร์ทสามารถทราบเวลาที่แขกมาถึงได้อย่างแน่นอนครับ

ดังนั้นทันทีที่มาถึง ก็จะเจอกับพนักงานของรีสอร์ท
มายืนรอรับกันอย่างพร้อมเพรียง
พร้อมเสิร์ฟเวลคั้มดริงดับกระหายอย่างทันที (ถ่ายรูปไม่ทันครับ)


ที่นี่เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ผมอยากมาพักนานแล้วครับ

ตั้งแต่สมัยตอนที่เริ่มเปิดตลาดใหม่ๆ
ไปออกงานท่องเที่ยวเมื่อสัก 2-3 ปีก่อน

เพราะการเดินทางที่อาจจะลำบากนิดนึงทำให้ต้องคิดหลายทอด
ต้องมาเกาะสมุยก่อน แล้วต่อเรือมาอีกทอดเพื่อมาพะงัน

แต่กระนั้นถ้ามีคนถามผมว่า เลือกไปพักที่นี่ดีมั้ย
ผมจะตอบว่าถ้ามีโอกาสไปแล้วจะไม่ผิดหวังครับ
รสานันดา ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ
ทั้งการบริการ และกิมมิกเล็กๆน้อยๆที่แสดงถึงความเอาใจใส่




06 ...

เช็คอินด้วยความรวดเร็ว ...เดี๋ยวพาไปชมห้องพักก่อนเลยละกันครับ

ห้องที่ผมเข้าพักวันนี้ คือ Garden Suite with Terrace Pool ครับ
เป็นห้องประเภทแรกๆ เลย อยู่ชั้นสองครับ ต้องเดินขึ้นบันไดนิดนึง




07 ...

ห้องพักทั้งหมด รสานันดา
จะมีห้องพักหลักๆ คือ Suite กับ Villa ครับ มีทั้งหมด 44 ห้อง


เริ่มจาก Garden Suite แบบที่ผมพัก
ไปจนถึงห้องแพงสุดคือ Ocean Pool Villa ซึ่งมีอยู่หลังเดียว

ขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างที่สุดคือราว 260 ตารางเมตร
และมีสระว่ายน้ำส่วนตัวริมหาด


โดยรวมผมถือว่าออกแบบได้ดีมากนะครับ
พื้นที่ใช้สอยกำลังดี ไม่ได้คับแคบยจนอึดอัด หรือกว้างขวางจนเกินไป

ส่วนของห้องนอนจะรวมเอาโซฟานั่งเล่นไว้เป็นมุมเล็กๆ อย่างในรูปด้วยครับ

ตรงนี้น่าจะเป็นจุดเดียวของการออกแบบในห้องที่ผมว่ายังไม่ดีนัก
เนื่องจาก จะไกลจากทีวีพอสมควรเลยละครับ
ส่วนถ้าจะนอนดูบนเตียงก็ต้องออกแรงหันทีวีไปทางเตียงแทนครับ




08 ...

ทีวีจะเป็นแอบเปิ้ลทีวีครับ หรูหราใช้ได้
มีเพลงและหนังอยู่พอสมควรครับ เปิดฟังและดูหนังได้เพลินๆ




09 ...

หันมาดูตรงมินิบาร์ครับ ผมชอบมากครับ
มีขนมกล้วยฉาบให้กินได้ฟรีครับ


ถ้าหมดแม่บ้านก็จะมาเติมให้ตอนมาทำความสะอาดห้องด้วย
น้ำแข็งก็มีให้ครับถ้าหมดก็โทรขอได้ตลอด ที่เด็ดกว่านั้น ...

3 ขวดข้างๆ นั่นก็เป็น Complimentary ครับ
มี Gin Vodka แล้วก็ Whiskyเรียกว่าจะให้แขกที่มาพักเมากันไปข้างนึงเลย

จุดนี้แนะนำว่าให้ติดน้ำผลไม้กล่องใหญ่ไปพวกน้ำส้ม
แล้วมาผสมกินเป็นคอกเทลนั่งจิบริมระเบียงจะเพลินมาก
รู้ตัวอีกทีก็เมาไปแล้ว 555+

หรือใครลืมตอนเย็นๆ แวะไปเดินซื้อตรงร้านขายของชำ
ในชุมชนหลังรีสอร์ทได้ครับ



10 ...

ผนังบริเวณหัวเตียง เป็นงานดีไซน์ที่มีลูกเล่นของปูน
ที่ทำพื้นผิวเป็นคลื่นเล็กๆ ทาสีด้วยสีแดง

สวยงามไม่น้อย ผมพึ่งจะเคยเจอครั้งแรกด้วย ชอบมาก
ในรูปนี่ถ่ายตอนกลางคืนหลังจากแม่บ้านมา Turn Down
ก็จะมีน้ำดื่มวางไว้ที่หัวเตียงด้วย



11 ...

ห้องน้ำครับ ....

รู้สึกผมจะลืมถ่ายอีกด้านมาเลยอาจจะดูไม่ชัดเจนมากนัก

สิ่งอำนวยความสะดวกและ Amenities ต่างๆ
ก็มีมาให้ครบตามฉบับรีสอร์ทดาวเยอะๆ แชมพู สบู่ หอมดีครับ...

มีการแบ่งส่วนของส่วนถ่ายหนักและส่วนของห้องอาบน้ำ
อย่างเป็นสัดส่วนครับ ขนาดห้องน้ำกว้างขวางดี

ในห้องน้ำจะมีจุดน้ำมันหอมระเหยไว้ด้วย เดินเข้ามาครั้งแรกก็ปลื้มครับ
เพราะใช้กลิ่นตะไคร้ที่ผมชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว




12 ...

ภาพมุมกว้างภายในห้องนอนครับ





13 ...


เข้ามาในห้องตอนแรก
บนเตียงก็จะเจอจดหมายต้อนรับจาก GM ครับ


ผมชอบน่ะเวลาไปรีสอร์ทขนาดไม่ใหญ่มาก
หลายที่มักจะใช้วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีเพิ่มกิมมิกในการต้อนรับแขก

ตามรูปแบบทั่วไปจดหมายนี้ก็จะเป็นการแนะนำ รีสอร์ท
แนะนำร้านอาหาร ไฮไลท์ต่างๆที่แขกควรทราบ เช่นพวก
เวลา happy hour หรือ afternoon tea

สำหรับผมชอบใจ ตรง Barefoot Luxury Experience
ในประโยคท้ายๆนี่แหละครับ ที่เค้าแนะนำให้แขกที่มาพักเดินเท้าเปล่า
ในบริเวณรีสอร์ท มันทำให้เรารีแลกซ์และกลมกลืนกับธรรมชาติ
อย่างแท้จริง

เป็นคอนเซ็ปที่หยิบเอาเรื่องง่ายๆ มาทำให้ดูเก๋และเท่ในความคิดของผม




14 ...


เดี๋ยวพาออกไปชมตรงระเบียงห้องกันบ้าง



15 ...

ห้องชั้นสองแบบที่ผมพักจะดีตรงระเบียงจะมีความเป็นส่วนตัวครับ

พื้นที่ค่อนข้างกว้างและมีเตียงผ้าใบให้เราสามารถนอนเล่นได้
แต่จะมองไม่ค่อยเห็นวิวทะเลน่ะ

เพราะจะโดนห้องแบบ Ocean Beach front บังไว้เกือบหมด

ไฮไลท์ก็จะมีสระจากุชชี่เล็กไว้แช่ตัวดับร้อนได้ครับ
ขนาดไม่ใหญ่มากประมาณ 2 * 3 เมตร





16 ...


หลังจากสำรวจห้องพักได้สักพัก ก็เริ่มออกเดินสำรวจหากท้องนายปานน้อยครับ



17 ...

เดินผ่านวิลล่าแบบ Beachfront พอดี
ยังไม่มีแขกมาพักเลยขอแง้มๆ ถ่ายรูปมาให้ชม

สังเกตจากรูปจะเห็นว่า ที่นี่เค้าจะไม่ได้สร้างรั้วกั้นแต่ละวิลล่าแบบมิดชิด

จะเป็นแค่โครงประตูมาตั้งแล้วก็ปลูกต้นไม้มาบังสายตาครับ
ก็จะค่อนข้างโปร่งโล่งและกลมกลืนไปกับธรรมชาติ

ในส่วนของวิลล่าด้านติดหาดเค้าก็จะปล่อยโล่งไปเลยครับ
สระว่ายน้ำด้านหน้าของทุกวิลล่าจึงสามารถว่ายไปมองทะเล
พร้อมๆกันได้หมด


18 ...

ข้างๆ วิลล่าเค้าก็ทำทางเดินออกไปยังทะเลสำหรับ
แขกท่านอื่นแบบง่ายๆอย่างนี้ไว้ด้วยครับ


คือเราไม่ต้องเดินย้อนไปทางล็อบบี้เพื่ออกไปทะเลเลยครับ
จะมีทางเดินเล็กๆแบบนี้แทรกตามวิลล่าอยู่หลายจุด
เดินจากห้องแล้วตรงออกไปชายหาดได้เลย สะดวกดี





19 ...

ค่อยๆเดินทอดน่องไปตามชายหาดท้องนายปานน้อย

นักท่องเที่ยวค่อนข้างบางตา ค่อนข้างสงบเหมาะแก่การมาพักผ่อนมาก

สำหรับรีสอร์ทบนหาดท้องนายปานน้อยนี่จะมีชื่อดังๆ อยู่ 3 แห่งคือ
สัญธิยา รสานันดา และปานวิมาน ครับ


แต่ละที่ก็มีจุดเด่นการออกแบบและรูปแบบแตกต่างกันไป




20 ...

ลูกค้าส่วนใหญ่ของรสานันดาจะเป็นชาวต่างชาติครับ
และก็มักจะไม่ใช่กลุ่มชาวต่างชาติที่รักปาร์ตี้เพื่อมางานฟูลมูน

ส่วนใหญ่จะเป็นผู้รักการพักผ่อน มาหามุมสงบๆ อ่านหนังสือ
อาบแดดริมหาด โดยจะอยู่เป็นระยะเวลานานๆ มากว่า 3-4 วันขึ้นไป

ซึ่งแทบเป็นเรื่องปกติของต่างชาติ
ในขณะที่คนไทยมักจะมาแบบ 3 วัน 2 คืน

เป็นแพกเกจกำลังสวย
ลางานได้สะดวกใจทั้งเจ้านายและลูกน้องมากกว่า 555+




21 ...


เดี๋ยวจะพาไปชมบรรยากาศยามเย็นสวยๆ รอบๆรีสอร์ทครับ


มองย้อนจากตรงหน้าหาดเข้าไปจากรูปด้านซ้ายจะเป็นห้องอาหาร

ถัดไปเป็นส่วนของห้องครัว
ขวามือจะเป็นส่วนของเลาจน์โดยมีชั้นบนเป็นห้องประชุมขนาดเล็กครับ



22 ...

เริ่มจาก Bistro @ The Beach ซึ่งเป็นห้องอาหารไฮไลท์ของที่นี่ครับ



23...

Bistro จะเป็น All day Dining ซึ่งส่วนของที่ประทานอาหารเช้าด้วยครับ

จริงๆจะมีสองชั้นน่ะครับ แต่แขกส่วนใหญ่ก็จะเลือกนั่งด้านล่าง
เพื่อสัมผัสกับฟิลลิ่งของห้องอาหารบนพื้นทรายมากกว่า

ตรงนี้เป็นจุดที่รีสอร์ทได้พาแขกไปยังคอนเซ็ป Barefoot Luxury Experience ได้อย่างที่พูดไว้ตอนต้นครับ

ผมลองสังเกตและได้ลองจริงๆก็เป็นเช่นนั้นน่ะ
เราสามารถเดินเท้าเปล่าได้ตลอดเวลาที่เดินอยู่รอบๆ รีสอร์ทเลย

ยิ่งในส่วนของล็อบบี้ที่เชื่อมกับหาดด้านหน้า รวมถึงต้องห้องอาหารนี้
ความกลมกลืนที่ต่อเนื่อง
สร้างบรรยากาศของการเป็นรีสอร์ทติดชายหาดได้ดีมากๆ



24 ...

การดีไซน์เหมือนบ้านในชนบทของไทยแถบภาคเหนือ

ที่จะมีการยกใต้ถุนขึ้นสูง งานโครงสร้างที่เป็นไม้แบบเก่าๆดั้งเดิมแบบนี้
ยิ่งทำให้บรรยากาศที่ออกมาละมุนละไมมากๆครับ



25 ...

เดินเลยถัดเข้าไปด้านใน จะเจอกับส่วนของเลานจ์ครับ
ซึ่งมีห้องเก็บไวน์เป็นงานตกแต่งสวยๆอยู่ด้านข้าง



26 ...


แอบเดินเข้าไปในห้องเก็บไวน์ ถ่ายรูปมาหนึ่งใบ เห็นสีสันมันสวยดี


27 ...


มองจากเลาจน์ ออกไปทางชายหาดครับ
ก็จะเห็นส่วนของสระว่ายน้ำส่วนกลาง และห้องอาหารด้านหน้า



28 ...

ชั้นสองของเลาจน์นี้ จะเป็นส่วนของห้องประชุมขนาดเล็ก
อันนี้ผมตั้งกล้องมองมุมเงยขึ้นไปจากตรงแถวๆ สระว่ายน้ำ




29 ...

ถัดจากห้องประชุมเล็กก็จะมีห้องสมุดครับ ...

ในห้องสมุดก็มีบริการคอมพิวเตอร์ด้วย

จริงๆ ก็มีสัญญาณ WIFI ให้ฟรีทั่วทั้งรีสอร์ทครับ
สามารถใช้งานได้เลยผมลองเล่นผ่านไอแพดในห้อง
สัญญาณสิ่งอยู่ที่สองขีด ก็ถือว่าพอใช้งานได้ครับ




30 ...

ห้องสมุดจะอยู่ชั้นสองซ้ายมือในรูปครับ




31 ...

พอได้ขึ้นมาบนชั้นสองเลย...
เหมือนฟลุ้คนิดๆ เพราะตอนแรกว่าจะไปกินข้าวแล้ว

หันไปได้เห็นมุมที่สวยมากๆ ของรีสอร์ทบนนี้ครับ
ชอบมากจนยืนถ่ายมาหลายรูปจนฟ้ามืดสนิทเลย



32 ...

ถ่ายมุมกว้างไปแล้วก็เปลี่ยนเลนส์มาถ่ายแบบเจาะดูบ้าง
รูปนี้ชอบที่สุดของทริปแล้วครับ ทุกอย่างลงตัวทั้งแสง และมุมมอง



33 ...

เดินลงจากชั้นสองลงมายังบริเวณเลาจน์อีกครั้ง
มองผ่านไปก็จะเจอส่วนของล็อบบี้ครับ



34 ...

โซนล็อบบี้ครับ เป็นแบบโอเพ่นแอร์



35 ...

ติดกับล็อบบี้จะเป็นร้านขายของที่ระลึกครับ ก็มีทั้งของไทยๆ

แล้วก็พวกผลิตภัณฑ์ในห้องอย่างพวกแชมพู สบู่
หรือของในห้องพักต่างๆก็มี




36 ...

มุมมองไปยังสระว่ายน้ำและ Bistro


37 ...


ริมสระว่ายน้ำในตอนเย็นก็จะมีการตั้งโต๊ะไว้สำหรับแขกมานั่งดินเนอร์ครับ
ก็มีไว้ทั้งแขกแบบ Walk In และแขกของรีสอร์ทเอง

ผมไม่ได้ลองดินเนอร์ของรสานันดาสักมื้อเลยครับ
ออกไปกินร้านอาหารข้างนอก ทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่ารสชาติ
อาหารเป็นอย่างไร ได้ดูราคาคร่าวๆ ก็ถือว่าไม่สูงมากครับ
เมื่อเทียบกับเป็นอาหารบนเกาะ



38 ...

บรรยากาศยามเย็นสงบและโรแมนติกมากครับ




39 ...

สักพักแขกที่จองโต๊ะเอาไว้ก็เริ่มทยอยมานั่งครับ



40 ...

เอารูปนี้ลงเพื่อจะบอกว่า รีสอร์ทจะมีมุม Sport Center เล็กๆ ด้วย
สามารถยืมเรือคายัคพายตอนเย็นๆ ได้ ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรครับ



41 ...

ขอรูปโต๊ะอาหารริมสระว่ายน้ำอีกสักใบครับ


42 ...


ตรงบริเวณริมหาดในช่วงเย็นๆไปจนถึงค่ำๆ
ทางพนักงานก็จะเอาบีนแบ็คมาตั้งไว้ให้แขกได้มานั่งชิลล์ได้ครับ

ช่วงเย็นก็มี Happy Hour ตรงบาร์ริมสระว่ายน้ำด้วย ...


ในภาพจริงๆมืดแล้วครับ อาศัยว่าเปิดหน้ากล้องราวๆ 10 กว่าวินาทีได้ ภาพเลยยังดูสว่าง



43 ...

จากตรงหน้าหาดมองย้อนเข้าไป ทางห้องอาหาร Bistro

จะเห็นบาร์ริมสระว่ายน้ำอยู่ด้านขวามือ



44 ...


ผมชอบบรรยากาศยามหัวค่ำของบริวเณห้องอาหารเป็นพิเศษครับ

การจัดแสงทำได้อย่างลงตัว เมื่อได้เฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากัน
เคียงข้างกับพื้นทราย โดยมีฉากหลังไกลๆเป็นทะเลยามค่ำ

ทำให้มุมนี้สวยงามมากๆในความคิดผม



45 ...


มุมของห้องอาหาร Bistro เคียงข้างสระว่ายน้ำอีกสักใบ
ก่อนจะพาเพื่อนๆไปเดินเล่นชุมชนเล็กๆของ หาดนายปานน้อย ครับ




46 ...

"อาลี บังอารมณ์ดี"

....

ผมเดินเล่นในชุมชนท้องนายปานน้อยหลังรีสอร์ทอยู่พักใหญ่ๆ ...


พอเห็นเป็นนักท่องเที่ยว แปลกหน้า ...
"อาลี" เรียกเชิ้อเชิญผมให้ลิ้มลองโรตีร้านของตัวเองโดยทันที


ในวัย 21 ปี ของอาลี ดูจะเชี่ยวชาญและคล่องแคลว
ในการทำโรตีรสชาติเยี่ยมให้ผมกิน


อาลีบอกว่า การทำโรตีเป็นเหมือนอาชีพที่ถูกส่งผ่านดีเอนเด
ในครอบครัวเขา เขาทำเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ ...

นั่น ....

พูดกันถึงระดับพันธุกรรม



ผมก็เห็นด้วยกับบังอาลี

เพราะการกินโรตีให้ได้รสชาติต้องผ่านมือของอาบังเท่านั้น
จนวันนี้เป็นอาชีพที่เค้าใช้เลี้ยงปากท้องบนเกาะพะงันมาหลายปีแล้ว




47 ...


อาลี บอกว่าตอนมาเกาะพะงันใหม่ๆ พูดไทยไม่ได้
ไปซื้อข้าวสารก็สั่งก็ไม่เป็น ต้องนอนหิวอยู่ในบ้านเช่าเล็กๆ เกือบอาทิตย์

ใครหนอสอนภาษาไทยให้บังอาลี....
ถึงตอนนี้ ....ต่อล้อต่อเถียงกับผมซะเป็นฟืนเป็นไฟ ไปซะแล้ว

ผมถามไปอีกว่า ทำไม ถึงมาขายโรตีบนเกาะพะงัน
ทำไมไม่ขายบนเกาะสมุย

บังบอกว่า จะไปขายแข่งกับคนอื่นทำไม....
ขายตรงนี้สิ ตรงนี้ยังไม่มีคนขาย

โดนย้อนกลับมาอีกเรา …
ดูขำๆ แต่เป็นเคล็ดลับการตลาดในเรื่อง บลู โอเชี่ยน ผ่านบังอาลี !!

.
.
.
เหมือนว่าจะจบด้วยดี
.
.
.

คุยกันอยู่นานสองนาน ยังกับเพื่อนซี้สมัยตั้งแต่อยู่นิวเดลี
ผมสั่งโรตีใส่ไข่อันที่สอง มากิน บอกลดให้ 5 บาท ได้มั้ย กินสองอันแล้ว

.
.
.

บังอาลียิ้มพิมพ์ใจเห็นฟันขาว บอก ....ไม่ได้ !!

(การทำโรตีระดับเทพอาลี คุยไป ทอดโรตีมือเดียวไม่ต้องมอง - -')




48 ...

"ป้าแสวง.... 80 ปี ยังสาว"

.
.
.

ไม่ไกลจากหัวมุมถนน ซึ่งมีรถเข็นบังอาลีจอดขายอยู่ทุกวัน


เราจะพบกับร้านขายของที่ระลึกจำพวกสร้อยคอ
เครื่องปะดับฮิปปี้ คาวบอย ตั้งอยู่เป็นร้านที่เปิดมานานแล้วละครับ
แต่ก็คงไม่นานเท่าประสบการณ์ชีวิตกว่า 80 ปีของ "ป้าแสวง"

ป้าแสวงเคยอยู่กรุงเทพมาก่อน
ตอนนี้แกก็ช่วยลูกสาวขายของพวกสร้อยคอ
เครื่องประดับบนหาดท้องนายปานน้อยแห่งนี้


ป้าแสวงมีมุมมองการทำการค้าที่น่าสนใจมากๆครับ

ป้าแสวงจะไม่มีการเชียร์แขก จะไม่มีการกล่าวต้อนรับแขกใดๆทั้งสิ้น
ลูกค้าจะหยิบจะดู จะลองสวมใส่ ก็ตามสบาย ไม่มีการไปยืนกดดันใกล้ๆ


ป้าจะนั่งเฉยๆ อยู่บนเก้าอี้แบบในรูป ...นิ่งๆ แบบนี้เท่านั้น !!
ป้าบอกว่า .... ถ้าฝรั่งมันจะซื้อ มันก็จะเดินมาถามราคาเอง

เราก็แค่ชี้ให้ดูป้ายราคา .... ตามนั้น !!


ของดีจริง ยังไงก็ขายได้ ...ว่างั้น ?







49 ...

สำหรับคนที่เป็นห่วงว่าป้าแสวงจะเบื่อหรือไม่ ถ้าไม่มีลูกค้ามาซื้อ




ไม่ต้องห่วงครับ ....

เพราะป้าแสวงจะเดินข้ามถนนมานั่งคุยกับ บังอาลี




แล้วปล่อยให้ร้านมันขายด้วยตัวมันเอง !!!

.
.
.
.

ป้าแสวงน่ารักจนผมต้องขออนุญาตถ่ายรูปมาเล่าสู่กันฟังนี่แหละครับ




50 ...

ความประทับใจกับการมาเยือนเกาะพะงันครั้งนี้ของผม
จึงไม่ได้อยู่ที่ตัวที่พักอย่างเดียว

มีได้รอยยิ้มน่ารักๆ จากคนพื้นที่ด้วยนี่แหละครับ


.
.
.

เช้านี้ผมตื่นเช้าอีกครั้ง แม้หมอนและเตียงนอนนุ่มๆ
จะพยายามดึงผมให้กลับสู่โลกของการนอน

แต่ก็กัดฟันตื่นแต่โดยดี เพื่อหวังจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น
อย่างที่บอกไปแต่ตอนต้นว่า รสานันดาจะออกแบบวิลล่าแบบโปร่งโล่งครับ

ไม่มีรั้วกั้นมีเพียงไม้ไผ่ซี่เล็กๆ ที่กั้นพอบอกอาณาเขตเท่านั้น
ทำให้เราสามารถเดินจากห้องเพียงไม่กี่ก้าวก็ออกมาถึงหาดได้อย่างง่ายดาย

แต่โชคไม่ดีเลย วันนี้เมฆเยอะแต่เช้าครับ อดได้
สวัสดีทักทายพระอาทิตย์อ้วนกลม


51 ...


มองไปอีกด้านไกลๆ พบ พระกำลังเดินบิณฑบาตอยู่

เห็นแล้วรู้สึกอบอุ่นดีครับ ถ้ารู้ล่วงหน้าคงเตรียมของมาบิณฑบาตรพระไว้เหมือนกัน





52 ...

เดินเล่นไปมา นั่งเล่นริมทะเลอยู่พักนึง
ก็เดินไปยังห้องอาหารครับ เตรียมกินอาหารเช้า



53 ...

ก็จับจองที่นั่งกันก่อนครับ
เช้านี้แขกห้องอื่นๆ ยังออกมากินไม่ค่อยเยอะนัก



54 ...

วันที่ผมไปจะเป็นอาหารเช้าแบบอะลาคาร์ทครับ
ซึ่งปกติถ้าแขกวันไหนเยอะเค้าก็จัดบัฟเฟต์ให้



55 ...

แต่เราก็สามารถสั่งได้เรื่อยๆน่ะครับ...
อยากกินอะไรก็ดูเมนูแล้วสั่งจนกว่าเราจะอิ่ม

ตรงนี้ถือว่าได้ใจแขกไปครับ
บางรีสอร์ทวันที่แขกน้อยเป็นอะลาคาร์ทแต่จะสั่งเพิ่มเรื่อยๆไม่ได้

ก็ลองเฟรนโทช กับผัดไทกุ้งสดครับ ...
ผัดไทอร่อยถูกปากผมใช้ได้เลยครับ





56 ...

ช่วงเวลาที่อยู๋รสานันดา ไม่มีอะไรมากไปกว่า
นอนอืด กิน เดินไปมาถ่ายรูป แวะไปกินโรตีบังอาลี เล่นน้ำ นอนดูทะเล

เป็นช่วงเวลาที่อยากจะหยุดเข็มนาฬิกาไว้จริงๆครับ
ตอนไปเที่ยวนี่ยังไงก็แฮบปี้กว่าทำงานเยอะ - -'



57 ...

ขอถ่ายร่มแดงสัญลักษณ์ของที่นี่สักใบ
เสียดายฟ้าไม่แจ่ม ไม่งั้นสีจะตัดกันสวยมากแน่ๆ





Final ...


Life & Travel พาทุกท่านมารับดับเบิ้ลประสบการณ์ท่องเที่ยว
ถึงหน้าสุดท้ายแล้ว

สองคืนที่เต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็วครับ....
รสานันดาทำให้วันพักผ่อนของผมเป็นวันพักผ่อนจริงๆ

ไม่ต้องทำอะไรมากนอกจากเอนจอยกับการเดินเท้าเปล่าบนพื้นทราย
และทอดอารมณ์กับการนอนมองทะเลริมชายหาดไปอย่างสโลว์โมชั่น


มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ล้วนแต่ทำให้ผมอมยิ้มเมื่อได้รับ
สัมผัสได้ถึงความใส่ใจในการบริการซึ่งเป็นหัวใจหลักของงานด้านโรงแรม...

รีวิวในบอร์ด BP 9มนี้ครับ
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10499036/E10499036.html

หวังว่าทุกท่านคงมีความสุขไปกับการเดินทางครั้งนี้ด้วย

อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับรีวิวนี้ทำให้ผู้ชมยิ้มได้
และมีความสุขในการรับชม แค่นี้คนทำรีวิวก็หายเหนื่อยแล้วละครับ


ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่แวะมาชมเสมอ

มีความสุขกับการท่องเที่ยวในทุกวันครับ







Create Date : 19 มิถุนายน 2554
Last Update : 19 มิถุนายน 2554 20:46:24 น. 7 comments
Counter : 7115 Pageviews.

 
สวัสดียามค่ำคืนวันหยุดค่ะ
ขอตามมาเที่ยวเหยียบไปบนพื้นทราย คลอเสียงคลื่นที่ Rasananda Resort เกาะพะงัน ..ด้วยคนค่ะ
ที่พัก สวยงามมากค่ะ
คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ


emoemoemoemoemo


โดย: iamorange วันที่: 19 มิถุนายน 2554 เวลา:22:51:34 น.  

 
มาเยี่ยมชม ครับ


โดย: Kavanich96 วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:7:31:18 น.  

 
ภาพสวยมากคะ


โดย: ASDK_MK วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:17:20:32 น.  

 
เป็น Blog ที่มีภาพสวยมากๆ Blog หนึ่งเลยครับ


โดย: แลเยี่ยมเยือนสุข วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:23:06:26 น.  

 
แวะมาชมค่ะ สวยมากๆ


โดย: P r i m t a a วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:21:34 น.  

 
ตามมาชมรูปสวยๆ บรรยากาศดีๆค่ะ


โดย: สาวหน้าใส วันที่: 1 สิงหาคม 2554 เวลา:8:24:05 น.  

 
Family Music สอนกีต้าร์และเปียโน
สำหรับเด็ก-ผู้ใหญ่ เริ่มต้น-พื้นฐาน-สามารถแกะเพลงทำโน้ตได้
อยู่ถนนสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ
0865658433 022339951


โดย: T.Visit IP: 58.11.69.132 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:4:31:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the Sixth Floor
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่ theSixthfloor Studio ครับ

บทความและภาพถ่ายทั้งหมดในบล็อคนี้
สงวนลิขสิทธิ์หากถ้าต้องการนำไปใช้หรือ
เผยแพร่เพื่อการศึกษาหรือการกุศล
ก็ยินดีครับแต่ก็ขอความกรุณาติดต่อผม
เพื่อให้ทราบรายละเอียด

สำหรับท่านที่ต้องการติดต่อเรื่องบริการ
ด้านการถ่ายภาพสามารถติดต่อโดยตรง
ได้ด้วยเช่นกันครับ

ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านแวะมาเยี่ยมชม
บล็อคของผมครับ
q( ^o^ )p
Click to





count web site traffic
Visitor


■ L&T 01 .. รอยยิ้มปนคราบน้ำตา บนท้องนาแห่งชีวิต ..
■ L&T 02 .."เชียงคาน" เวลายังคงเท่าเดิม ที่เพิ่มเติมคือความสุข ..
■ L&T 03 .. ผืนน้ำจรดขอบฟ้า ตะวันลับตาที่ Hilton Pattaya Hotel ..
■ L&T 04 .. นอนฟังเสียงสายน้ำคลอเคลียที่ Bamboo Hut Resort@ทองผาภูมิ ..
■ L&T 06 .. สโลโมชั่นชีวิตในวันที่เร่งรีบ ณ Anantara Bangkok Sathorn ..
■ L&T 07 .. ความสุขในมุมเล็กๆที่ Mimosa Resort & Spa @ Koh Samui ..
■ L&T 08 .. ออกไปลอยคอกลางทะเล ที่ มก.สุรินทร์ และ เกาะตาชัย ..
■ L&T 09 .. ความอบอุ่นถักทอบนความทรงจำสีจางที่ Villa Nalinnadda เกาะสมุย ..
■ L&T 10 .. บรรยากาศสบายๆที่ the Baths Medi Cottage Resort @ Cha-Am ..
■ L&T 11 .. สูดหายใจพร้อมรับ"ดับเบิ้ล"ประสบการณ์ที่ W Retreat @ Koh Samui . .
■ L&T 12 .. เหยียบไปบนพื้นทรายคลอเสียงคลื่นที่ Rasananda Resort เกาะพะงัน ..
■ L&T 13 ..ปัดฝุ่นความทรงจำที่ Cape Panwa Hotel ภูเก็ต#Day 1 ..
■ L&T 14 .. เก็บรอยยิ้มจากเกาะปันหยี เติมเต็มความสุขที่ Le Meridien เขาหลัก ..
■ L&T 15 .. สะกดทุกสายตา เวลาหมุนช้าที่ Villa Maroc @ Pranburi ..
■ L&T 16 .. จินตนาการแห่งที่สุดของการสร้างสรรค์ ณ Casa de La Flora Resort ..
■ L&T 17 .. ลำปาง ปลายทางแห่งความสุข ..
■ L&T 18 .. สัมผัสมะลิงามที่เบ่งบานในวันหยุด Malisa Villa Suite @ Phuket ..
■ L&T 19 .. " เชียงใหม่ " . . . พอดีคำ กำลังดี . . . . .
■ L&T 20 .. มิอาจคลาดสายตาจากความงามของ the Baray Villa @ Phuket ..
■ L&T 21 .. Siam Kempinski Hotel เพชรเม็ดงามใจกลางมหานคร ..
■ L&T 23 .. เกาะตาชัย . . . จะไปด้วยกันรึเปล่า ?..
■ L&T 24 .. Ramada Resort Khaolak กับวันสบายริมหาดเขาหลัก ...
■ L&T 28 .. สงขลา ... เวลาใหม่ในขวดโหลใบเดิม ...
■ L&T 29 ... เนปาล Endless Journey ตอนจบ
■ L&T 31 ... ซีอาน กองทัพทหารดินเผาแห่งจิ๋นซีฮ่องเต้
■ L&T 32 ... เดินเล่นใน "สุโขทัย" เนิบช้าและทรงคุณค่า
■ L&T 33 ... ยุโรปครั้งแรก "เนเธอร์แลนด์ และอัมสเตอร์ดัม
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
19 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add the Sixth Floor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.