(Review) ร้านอาหารไทยโฮมเมดสไตล์ปักษ์ใต้ อร่อย บรรยากาศเลิศ @ Love Eat Bistro(Central Embassy)
ชื่อร้าน : เลิฟอีท บิสโทร (เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่)
รายการอาหาร : อาหารไทยโฮมเมดสไตล์ปักษ์ใต้
เวลาเปิดบริการ : เปิดบริการทุกวัน 11.00 - 22.00 น.
ที่ตั้งร้าน : เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ชั้น5 เลขที่1031 ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม 10330, กรุงเทพมหานคร ปทุมวัน Thailand
พิกัด GPS : 13° 44' 38.25"N 100° 32' 38.92"E





สวัสดีครับพี่น้องชาว BLOGGANG
Smiley
วันนี้ขอพาไปร้านอาหารบนห้างหรูใจกลางเมืองอย่าง Central Embassy ครับ




ถ้ามาทางรถไฟฟ้าBTSก็ลงสถานี"เพลินจิต" ครับผมสะดวกเดินสบาย




ร้านที่จะแนะนำวันนี้คือร้าน "Love Eat Bistro Restaurant" ครับอยู่ชั้น5


มาถึงหน้าร้านละครับ บรรยากาศน่าเข้ามากครับ





มีจัดset Promotion ด้วยครับน่าสนใจอยู่ 






ขอส่องเมนูหน้าร้านเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยครับ น่าทานทั้งนั้น ราคาก็โอเคเลยสำหรับระดับEmbassyนี้


ขอเก็บภาพบรรยากาศร้านบางส่วนหลบๆๆ ลุกค้าที่นั่งอยู่มาให้ชมสักหน่อยละกันครับผม



ตกแต่งบรรยากาศร้านได้สวยดีมากๆครับ



เน้นสไตล์ๆเรโทรสบายๆ 


ชมวิวสวยๆในตัวเมืองไปทานอาหารอร่อยๆไป คุ้มค่าเกินราคาละครับ


อาหารที่สั่งไว้เมนูแรกมาถึงละครับ เน้นแซ่บๆเลยวันนี้ ตัดกับบรรยากาศจริงๆ เมนูนี้คือ "ทอดมันเครื่องแกงชาวใต้" 
หรือในชื่อที่ชาวใต้เรียกว่า "ลูกชิ้น" จานนี้ราคา 235 บาทครับ หนึ่งจานมี 5 ลูกด้วยกัน 

ตัวทอดมันนั้นทำจากเนื้อปลากรายล้วน โขลกจนละเอียด แล้วเชฟจะทำการฟาดจนเนื้อเหนียวนุ่ม ผสมกับเครื่องแกงสูตรพิเศษจากใต้ 


ด้านในผสมด้วยมะพร้าวคั่ว เพิ่มความหอมมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มอาจาด ผมว่ารสชาติจะออกหวานนิดๆจากมะพร้าวคั่ว 
แต่พอทานรวมกันกับเนื้อทอดมันแล้วเข้ากันดีมากๆครับ


มาต่อกันที่เมนูน้ำๆบ้าง "ต้มยำกุ้ง" ราคา 245 บาท ของทางร้านจะทำเป็นต้มยำกุ้งน้ำข้นนะครับ 


กุ้งที่ใช้เป็นกุ้งแชบ๊วย หรือท่านใดชอบกุ้งแม่น้ำ ก็มีต้มยำกุ้งแม่น้ำให้บริการครับ สำหรับความพิเศษของต้มยำร้านนี้คือ 


น้ำสต็อกที่ใช้ในการทำต้มยำ เป็นน้ำสต็อกสูตรพิเศษที่นำเปลือกกุ้งและหัวกุ้งไปเคี่ยว แล้วกรองนำน้ำมาใช้ 
ต้มยำก็จะมีความหอมและความเข้มข้นของมันกุ้งอยู่ด้วยครับ อร่อยชอบมากๆครับ ห้ามพลาดเลย


มาถึงเมนูร้อนแรงที่พลาดไม่ได้เมื่อมาร้านอาหารใต้นะครับ "คั่วกลิ้งคอหมูกับผักแนม" ราคา 255 บาท 
แค่เห็นสีสันก็น่าจะพอรู้แล้วว่าจัดจ้านขนาดไหน 


ทางร้านจะใช้มันหมูผสมกับเนื้อหมู เพื่อเวลาที่ไปผัดในกระทะจะได้ไม่แห้งจนเกินไปครับ และแน่นอนว่าเครื่องแกงสำหรับคั่วกลิ้งจานนี้ 
เป็นเครื่องแกงจากทางใต้ 100% เช่นเดียวกับอาหารจานอื่นๆครับสำหรับท่านใดที่ไม่ทานหมู สามารถสั่งคั่วกลิ้งไก่ได้นะครับ มีให้บริการครับ


มาต่อกันที่เมนูเบาๆกันบ้าง "แหนมคลุกข้าวทอดกับผักแนม" ราคา 255 บาทครับ 


จานนี้ใช้ข้าวหอมมะลิชั้นดี ผสมกับมะพร้าวคั่ว ปั้นเป็นก้อนแล้วชุบแป้งทอดจนเหลืองกรอบ แล้วนำมาคลุกรวมกับแหนม 
เสริมรสชาติด้วยเครื่องแกงใต้ คงความจัดจ้านเช่นเคยครับ


อีกหนึ่งเมนูแกงรสชาติดีที่ห้ามพลาด "แกงเขียวหวานเนื้อตุ๋น" 285บาท 
(หรือถ้าไม่ทานเนื้อก็สามารถสั่งเป็นแกงเขียวหวานไก่ตุ๋นได้ครับ ราคา 245บาท) 


โดยแกงเขียวหวานจานนี้ นอกจากพริกแกงเขียวหวานตามปกติแล้ว ก็มีเพิ่มเติมเครื่องเทศสูตรลับ ที่ช่วยเพิ่มความหอมของแกง 
และดับกลิ่นคาวของเนื้อ ในส่วนของเนื้อก็ใช้เวลาตุ๋นถึงหกชั่วโมงด้วยกันครับ อร่อยสมคำล่ำลือครับไม่ผิดหวังเลย ชอบมากๆ


มาถึงเมนูสำคัญที่ห้ามพลาดเมื่อมาทานร้าน Love Eat Bistro นะครับ "แกงปูสูตรบ้านพังงา กับกะทิคั้นสดและเครื่องแกงสูตรลับ เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่" 


สำหรับเมนูนี้จะมีให้เลือกสองแบบนะครับ คือ แบบที่ใส่เนื้อปูและตัวปู จะอยู่ที่ 450 บาท หรือใส่เนื้อปูล้วน จะอยู่ที่ 495 บาท 


ในวันนี้ผมสั่งแบบเนื้อปูล้วนครับ น้ำแกงรสชาติเข้มข้นจากกะทิสดเคี่ยวผสมกับเครื่องแกงใต้
เนื้อปูเองก็มาเป็นก้อนๆ ได้ทั้งรสสัมผัสและกลิ่นหอมๆของเนื้อปู
เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ แนมด้วยสับปะรด ซึ่งสับปะรดนี้มีไว้สำหรับแก้เผ็ด รสชาติก็จะหวานฉ่ำครับ



ตักน้ำมาพร้อมกับเนื้อปูก้อนใหญ่ๆที่มีอยู่เต็มถ้วย แล้วราดลงบนเส้นหมี่ลวก อร่อยฟินครับ ห้ามพลาดอีกเมนูครับ


เบรคความเผ็ดกับสักนิดด้วยเมนู "ปอเปี๊ยะทอดบ้านโคกขนุนกับน้ำจิ้มแดง" ราคา 195 บาทครับ เป็นปอเปี๊ยะทอดกรอบ
ไส้ผักล้วนที่ใส่มันแกวลงไปด้วยเพื่อเพิ่มสัมผัสเวลาเคี้ยว คนทานเจสั่งได้สบายเลย


ส่วนน้ำจิ้มแดงนี้ทำมาจากพริกชี้ฟ้าแดงที่นำไปแช่น้ำจนเปื่อย ปั่นให้เหลวแล้วต้มจนสุกครับ 
ปอเปี๊ยะผมว่าทานเปล่าๆก็อร่อยครับ ทานกับแกงเผ็ดต่างๆก็เข้ากันเพลินอร่อยดีครับ


เมนูถัดมาคือ "ปูนิ่มผัดผงกะหรี่" หนึ่งจานจะมีปูนิ่ม 1ตัวครึ่งครับ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ผัดคลุกเคล้ากันได้ลงตัวมากๆ
อร่อยจนลืมถ่ายรูปราคา 295 บาทเท่านั้นครับคุ้มเลยจานนี้

"ผัดสามเหม็น" ราคา 295 บาทครับ จากชื่อสามเหม็นคิดว่าน่าจะทราบนะครับว่ามาจากอะไรบ้าง ส่วนประกอบของเมนูนี้คือ 
ชะอม สะตอ และกระเทียมโทนดองครับ 


นำเครื่องปรุงสามอย่างนี้ไปผัดให้เข้ากันกับวุ้นเส้นและกุ้งแชบ๊วยตัวโตๆ กลิ่นอาจจะแปลกๆ แต่ไม่ถึงขั้นเหม็นตามชื่อ


ออกหอมด้วยซ้ำ ส่วนตัวผมชอบมาก วุ้นเส้นก็ผัดมาไม่แห้งจนเกินไป อร่อยครับจานนี้


มาดูกันที่เมนูฟิวชั่นกันบ้าง "สปาเกตตี้ไส้อั่ว" ราคา 295 บาทครับ สปาเกตตี้จานนี้ผัดกับน้ำพริกอ่องนะครับ


และเพิ่มมะกอกดำกับไส้อั่วลงไป ไส้อั่วนี้ก็สั่งมาจากเชียงใหม่ครับ


เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องเทศ จานนี้ฟิวชั่นได้ลงตัว อร่อยเพลินมากครับ


"เคปเปลินี่ผัดเนื้อปู" ราคา 285 บาทครับ เส้นแองเจิ้ลแฮร์ลวกจนสุกได้ที่ ผัดกับพริกแห้ง


 สมุนไพรต่างๆ พริกไทยและพาสลี่ย์ เสริมรสชาติด้วยเนื้อปูก้อนเน้นๆ จานนี้ก็อร่อยครับ


"สปาเกตตี้ต้มยำกุ้ง เสิร์ฟคู่กับกุ้งแม่น้ำ" ราคา 395 บาท สำหรับจานนี้เป็นสปาเกตตี้ที่นำไปผัดกับซอสต้มยำที่โขลกเครื่องต้มยำ
ที่มีทั้งข่า ตะไคร้ พริกไทยดำแล้วเติมน้ำซุปที่ได้จากการต้มหัวกุ้งและเปลือกกุ้งเพิ่มลงไปลงไป 
เติมครีมลงไปอีกนิดเพื่อเพิ่มความหนืดให้ซอสเกาะติดกับเส้น เสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำทั้งตัวครับ ตัวเส้นนี้ก็
จะมีซอสสปาเกตตี้เกาะอยู่รวมไปถึงมีมันกุ้งด้วย กุ้งแม่น้ำที่ให้มาก็ตัวใหญ่ เนื้อนุ่ม ที่หัวกุ้งมีมันกุ้งด้วยนะครับ ฟินกันเลย


น้ำ"โซดาเย็นรสพีชสไตล์อิตาเลี่ยน"(Italian Soda รสพีช)แก้วนี้ 135 บาท ครับ
เวลาจะทานก็คนให้น้ำพีชที่อยู่ด้านล่างผสมเข้ากันดีกับน้ำโซดานะครับ รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน อร่อยสดชื่นครับ


"ชาลิ้นจี่เย็น" 135 บาท เช่นกัน ดูเข้มข้นน่าทานจัง ไม่ได้ลองชิมอีก55+


ส่วนของผมจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบครับ"Sweet Melon" 185 บาทเท่านั้น คุ้มมากๆ


น้ำแตงโมคั้นเข้มข้นหวานหอมธรรมชาติมากๆ มีเหลือรอบปากขวด มาเป็นถังใหญ่ พร้อมเนื้อแตงโมหั่นมาทานเล่นหวานๆดับเผ็ดได้อีกฟินๆ


แน่นพุง(ห่อกลับด้วยอีก)แล้วมาลองของหวานขึ้นชื่อของร้านนี้สักหนน่อยครับ มาเสิร์ฟเร็วมากๆ รีบถ่ายรีบทานละลายหมด


"เต้าทึงกรานิต้า" หรือ "เตาทึงหิมะนมสดใส่แปะก๊วยถั่วแดง" ถ้วยนี้ 175 บาทครับ เป็นของหวานที่ครีเอทดีครับ 
นำน้ำเต้าทึงไปแช่แข็งแล้วนำมาทำเป็นไอศกรีมเนื้อนุ่มเนียน 


เสิร์ฟกับถั่วแดง แปะก๊วย พุทราจีนเชื่อม เฉาก๊วย และน้ำตาลทรายแดง ทานแล้วช่วยคลายความเผ็ดจากอาหารจานหลักได้ดีมากๆครับ
ท่านใดชอบหวานๆ ก็มีน้ำตาลเคี่ยว(มั้ง)เทเพิ่มรสชาติไปได้อีกฟิน สุดๆ ครับถ้วยนี้ไม่ได้สั่งเองแต่แย่งมาทานเกลี้ยงเลยหอมทุกอย่างลงตัวมากๆ


"ลาวาใบเตย" เค้กใบเตยเนื้อนุ่ม ด้านในมีครีมลาวาใบเตยหอมๆ 


ทานคู่กับไอศกรีมวานิลาของทางร้าน อร่อยมากครับ


"กล้วยเชื่อมไอศกรีมมะพร้าวเผา คาราเมลน้ำตาลโตนด" ราคา 185 บาทครับ 
ขอบอกเลยว่าไม่เคยทานไอศกรีมมะพร้าวเผาที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน

ตัวไอศกรีมเนื้อนุ่มเนียน กลิ่นก็หอม รสชาติหวานอ่อนๆ เสริมความอร่อยด้วยคาราเมลเคี่ยวเองที่ทำจากน้ำตาลโตนดแท้ๆ 
เสิร์ฟพร้อมกล้วยเชื่อม ทานไอศกรีมแล้ว ทานกล้วยเชื่อมตาม อร่อยลงตัวมากๆครับ


อิ่มแน่นพุงกันทั้งควาหวานครบอร่อยสะใจสุดๆ ก็นั่งชมวิวสถานทูตอังกฤษที่ถือว่าเป็นสถานทูตที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง
จากมุมร้านนี้ได้สวยๆสบายๆ อาหารร้านนี้สมชื่อสมราคามากครับไม่ผิดหวังเลย เพื่อนพี่น้องพาคนรักพาครอบครัวมาลองทานกันได้ครับ
ที่Central Embassyชั้น 5 ร้าน"Love Eat Bistro" รายละเอียดลองสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจของร้านนะครับ

เจอกันโอกาสหน้าครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและCommentครับ









Create Date : 14 กันยายน 2560
Last Update : 26 กันยายน 2560 2:00:05 น.
Counter : 4458 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณMaeboon

  
ร้านนี้คือดีงาม บรรยากาศดีมาก ต้องไปลองบ้างล่ะ
โดย: น้องน้ำ IP: 171.97.99.133 วันที่: 14 กันยายน 2560 เวลา:20:00:44 น.
  
อาหารแต่ละอย่างจัดได้สวยงาม น่าชม น่าชิมไปหมดเลยค่ะ แบบนี้ต้องขอไปลองมั่งแล้ว
โดย: Maeboon วันที่: 17 กันยายน 2560 เวลา:10:33:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

akuchan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]







Group Blog
All Blog