bloggang.com mainmenu search
แต่งบ้านด้วยของเก่า


คำว่า “ของเก่า” บางคนฟังแล้วส่ายหน้า คืออาจไม่ชอบของเก่า หรือกลัวของเก่า อย่างใดอย่างหนึ่ง

ไม่ชอบของเก่า เพราะความที่มันเก่า มันไม่ทันสมัย

ไม่ชอบของเก่า เพราะเห็นจนชาชิน จนเบื่อ

ไม่ชอบของเก่า เพราะมีความรู้สึกแปลกๆ

หรือไม่ชอบของเก่า เพราะกลัวเจ้าของเดิม

สารพัด ฯลฯ




แต่งเรือนไทย หรือห้องแบบไทยๆ ด้วยตั่ง ตู้ เน้นความเป็นไทยให้โดดเด่น





แต่การแต่งบ้านตอนนี้ จะมาแนะนำการแต่งบ้านด้วยของเก่าครับ


“ของเก่า” ที่ผมหมายถึง ในตอนนี้ จะกล่าวถึง “ของเก่า” ที่ดูดีสักหน่อย คือเป็นของเก่าประเภท Art & antique เป็นของที่มีความสวยงาม และคุณค่าในตัวของมันเอง ซึ่งถ้าจะแยกเป็นประเภท มันก็มีเยอะมากๆ เพราะการสร้างหรือผลิตของสมัยโบราณ เขาทำด้วยความประณีต ด้วยศิลปและฝีมือ ของใช้ทั้งหลาย จึงมีความสวยงาม ทนทาน เป็นของมีคุณค่า ทั้งความสวยงาม ความเป็นของโบราณ และเป็นของหายาก

ใครจะกลัวก็กลัวไป ไม่เป็นไร ไม่บังคับกันอยู่แล้ว แต่ถ้าใครชอบ ผมจะทยอยเล่าให้ฟัง ขุดมาให้ดู ว่ากันเป็นฉากๆไปเลย แต่ผมจะไม่พาไปชมแบบออกทะเล หรือว่ากราดไปทั่วนะครับ จะเอาเฉพาะของเก่า ที่น่าจะมาใช้ในการ ตกแต่งบ้านให้สวยงามเท่านั้น




แม้จะไม่ได้แต่งแบบไทย แต่ตั่งแบบไทย ก็ผสมกลมกลืนกับของเก่าแบบอื่นๆได้





ประเภทแรก ได้แก่ของใช้ประจำ ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว เอามาทั้งใช้งาน และทั้งตกแต่งไปในตัวได้เลย ได้แก่ของจำพวก เตียง โต๊ะ ตู้ เก้าอี้ เหล่านี้ คือของใช้ที่เราใช้ประจำ อยู่แล้ว ที่นิยมใช้กันมาก จะได้แก่

1. โต๊ะ ตั่ง เก้าอี้แบบต่างๆ จะใช้งานตามหน้าที่ของมันโดยตรง คือใช้นั่ง ใช้วางของ ตั่งแบบต่างๆ จะนิยมใช้เป็นโต๊ะกลาง หรือ coffee table โต๊ะกาแฟเก่าตามร้านกาแฟโบราณ เรียกโต๊ะเชคโกขาไม้กลึง หน้าหินอ่อน เดี๋ยวนี้ของเก่าจริงก็แทบไม่มีแล้ว แต่มีทำใหม่เยอะ เพราะรูปแบบสวยงาม คนนิยมใช้กันเยอะ

2. ตู้ อาจจะเปลี่ยนลักษณะการใช้งานไป เช่นใช้โชว์เฉยๆ ไม่ได้ใส่ของ ตู้บางอย่างเดิมใส่อย่างหนึ่ง ก็อาจจะเปลี่ยนมาใส่อีกอย่างหนึ่ง เช่นตู้กับข้าวโบราณ เป็นไม้สวยๆ เอามาขัดลงสีใหม่ ก็เอามาเป็นตู้โชว์ บางคนดัดแปลงมาทำตู้ใส่ทีวี ตู้เสื้อผ้าจะหายากหน่อย เพราะ size ของตู้โบราณ จะไม่ใหญ่มาก เอามาดัดแปลงใช้ก็ไม่ได้เต็มที่ อีกอย่างพวกเสื้อผ้าโบราณ เขาก็ใช้พับเก็บกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้แขวนเหมือนปัจจุบัน

3. คันฉ่อง เป็นเฟอร์นิเจอร์ ที่คนนิยมกันมาก มีอยู่ยุคหนึ่งเล่นกันมาก จนหาของไม่ได้ ผมเคยเก็บสะสมเป็น collection สวยๆ หลายสิบตัว ทางหนังสือบ้านและสวนมาขอถ่ายภาพไปลง ปรากฏว่าไม่นานก็มีคนมาขอแบ่งไปทีละตัวสองตัว จนเกือบหมด เดี๋ยวนี้หาซื้อใหม่ก็ไม่ได้แล้ว ผมเลยต้องก้มหน้าสะสมอย่างอื่นแทน คันฉ่อง เป็นของใช้ที่นำมาใช้งานได้ตาม function เดิม ที่เอามาทำโต๊ะแต่งตัว ถ้าเป็นแบบไทยๆ ก็มักจะเตี้ย ต้องนั่งกับพื้น แต่ถ้าเป็นแบบฝรั่ง หรือของพม่า ก็จะเป็นตู้สูง ใช้ยืนเอา เดี๋ยวนี้พอหาซื้อได้บ้าง ไม่ถึงกับหายาก




โต๊ะ เก้าอี้ ใช้กับพวกนาฬิกา และกระจกเงา ด้วยโทนสีเดียวกัน









ห้องแบบสมัยใหม่ แต่งด้วยเตียงมีเสาแบบเก่า ก็ให้บรรยากาศได้ดี










ใครชอบแบบยุโรป ก็มีเฟอร์นิเจอร์เก่าไสตล์ยุโรปมากมาย เช่นเตียง ตู้แต่งตัว และโคมดัชท์




4. เตียง เป็นเฟอร์นิเจอร์ ที่คนนิยมน้อยกว่าอย่างอื่น อาจจะเป็นเพราะความเชื่อทางเรื่องวิญญาณ จะแรงกว่าอย่างอื่น เช่นคนส่วนใหญ่จะกลัวเตียงเก่า เพราะมีความเชื่อว่า เจ้าของเขาหวง บางคนถือมาก หรือบางคนก็คิดว่าเจ้าของเดิม อาจจะเสียชีวิตบนเตียงของเขา การเอาเตียงเก่ามาใช้ จึงเป็นของที่คนคิด มากกว่าเฟอร์นิเจอร์ประเภทอื่นๆ ส่วนผมเองบอกได้เลยว่านอนเตียงเก่ามาหลายสิบปีแล้ว เห็นเตียงสวยๆก็ซื้อมาเก็บไว้ แล้วก็เอามาใช้หลายหลังแล้ว ส่วนมากเป็นเตียงไม้ แกะสลักสวยๆ เตียงเหล็กก็มี บางหลังก็เอามาดัดแปลงใช้กับงานไม้ นอนหลับสบาย ไม่เห็นมีอะไร ราคาก็ไม่แพง แค่หลักหมื่นก็หาได้แล้ว

5. ส่วนประกอบของบ้าน เช่นบานประตู หน้าต่าง ของไทยเราอาจจะไม่ค่อยสวยนัก เป็นลูกฟักธรรมดา มีที่เป็นพวกบานเรือนไทย ก็พอดูดีหน่อย แต่ที่นิยมมากๆจะเป็นของ import คือเป็นงานจีนเป็นส่วนใหญ่ แกะสลักลวดลายละเอียด สวยงาม หลังๆพวกจีนหมด ก็เอาของแขกมา ล่าสุดจากบาหลี ก็นิยมกัน แต่ราคามันแพงน่าดู ของไทยเราก็เลยมี reproduct ใหม่ออกมา คือเอาบานเก่าธรรมดาๆ มา paint เข้า ลวดลายพุทธศิลปต่างๆ ก็สวยดี ราคาก็ไม่แพงมาก พอหาซื้อได้ กระเป๋าไม่ฉีก พวกช่องลมของเรือนเก่าๆผมก็เก็บไว้หลายชิ้น ใช้ไปหลายชิ้น เดี๋ยวนี้ก็หาไม่ค่อยได้แล้ว

6. ภาชนะใส่น้ำต่างๆ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใส่น้ำใช้กันแล้ว แต่เอามาตกแต่งได้ เช่นเอามาปลูกต้นไม้ เอามาเลี้ยงปลา เอามาปลูกบัว แต่งบ้านได้สวย

7. ตะเกียง โคมไฟ ของเก่าๆตั้งแต่ที่เขายังไม่ได้ใช้ไฟฟ้า จุดเทียนบ้าง ใช้น้ำมันก๊าดบ้าง ก็สามารถ เอามาดัดแปลง ใส่หลอดไฟเข้าไปได้ ราคาถ้าเทียบกับไฟช่อของใหม่ๆแล้ว ก็ยังถูกกว่ามาก ที่นิยมมาก โดยเฉพาะที่ใช้กับเรือนไทย ก็จะเป็นโคมดัชท์ คือเป็นโคมเหล็กหล่อ ลวดลายสวยงาม มีโป๊ะแก้วสีขาวขุ่น ส่วนใหญ่เป็นโคมแขวน ที่เป็นโคมตั้งโต๊ะ หรือติดผนังหรือตั้งพื้น ก็พอเห็นบ้าง แต่มีน้อย หายาก โคมอย่างแขวนเดี๋ยวนี้ของแท้ๆเดิมๆก็หายาก แต่ของทำเลียนแบบ(imitate) หรือ reproduct ก็หาง่าย ราคาไม่แพง แต่ฝีมือไม่ละเอียด หรือเรียบร้อยเท่า

งานประเภทที่ 1 นี้ จะต้องคำนึงคือเรื่องความกลมกลืนของรูปแบบ กับส่วนที่จะตกแต่ง ต้องดูให้เหมาะสมกลมกลืนกันหน่อย เพราะเฟอร์นิเจอร์นั้น มีหลายยุค หลายสมัย บ้างสไตล์ก็ไม่เข้ากัน ยกเว้นการตกแต่งแบบผสมผสาน ก็จะง่ายหน่อย แต่ถ้าจะแต่งเป็นสไตล์ ก็ต้องเลือกทั้งรูปแบบ สีสัน ให้เข้ากัน






ช่องลมฉลุแบบโบราณ ไม่จำเป็นต้องใช้กับเรือนไม้อย่างเดียว บ้านปูนก็ใช้ได้ ช่วยลดความแข็งกระด้างของปูนได้มาก









เอามาทำเป็น headboard ก็สวยขรึมดี










บานสลักแบบจีน เอามาประดับผนัง แบบงานศิลป










บานตู้ บานเล็กๆ ก็แต่งผนังได้










พวกตุ่ม ไห เอามาปลูกต้นไม้ หรือตกแต่งภายนอกได้




ประเภทที่สอง ประเภทงานพุทธศิลป์ ได้แก่งานที่มาจากวัดนั่นเอง บางคนก็ถือ ไม่อยากเอาของวัดเข้าบ้าน งานจำพวกนี้ ฝรั่งเขาไม่ค่อยรู้เรื่องของศาสนา หรือเรื่องของความเชื่อ จิตวิญญาณ เขามองสิ่งของเป็นงานศิลป หัตถกรรมมากกว่า เขาก็ใช้กันมาก่อน ซื้อของเก่าสวยๆ กลับไปบ้านเขากันเยอะ เงินก็ถึง ซื้อได้ไม่อั้น หรือฝรั่งที่อยู่เมืองไทย ก็ซื้อมาแต่งบ้านกันก่อน อย่างเช่นจิม ทอมสัน เขาเป็นสถาปนิก เขาก็มองเห็นคุณค่าของเก่าที่มีความสวยงาม ก็เอามาแต่งบ้าน จนเดี๋ยวนี้เป็น legend ของฝรั่งไป คนไทยเราที่เริ่มใช้กันก่อน ก็มีสถาปนิก และมัณฑณากร นำไปใช้ตกแต่งพวกโรงแรมกันมาก เมื่อเริ่มชินและคุ้นเคย ก็ค่อยๆนิยมนำไปแต่งบ้านกันเรื่อยๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพวกเรือนไทย เพราะของไทยมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน เอาไปแต่งแล้ว มันเข้ากัน เสริมบรรยากาศได้ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ของเก่า จะเอาไปแต่งได้เฉพาะเรือนไทย บ้านสมัยใหม่ ก็เอาไปแต่งได้ ในลักษณะของ ศิลป ที่เห็นใช้กันมากได้แก่

1. หน้าบัน คือหน้าจั่วเก่าๆของวัด ส่วนใหญ่จะเป็นของเก่าที่ทรุดโทรม วัดเขารื้อลงมาแล้ว สร้างใหม่แทน ก็เอามาทิ้งๆไว้ พวกค้าของเก่า ก็ผาติกรรมมา หน้าบัน ตามโบสถ์ วิหารเก่า มักเป็นไม้จำหลัก หรือแกะสลัก ที่สวยงาม แม้จะเก่า จะพัง กันแดด กันฝนไม่ได้ แต่เมื่อเอามาติดตามผนัง ส่องไฟเข้า ความสวยงามมันก็ปรากฏ ตามโรงแรมจึงนิยมใช้ หรือตามบ้านที่เห็น มักจะเอาไปติดเป็นหัวเตียง แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องหาแล้ว หมดแล้ว หายากมากๆ



หน้าบัน ใช้โชว์ หรือตกแต่งผนัง










หน้าบันลายพรรณพฤกษา แต่งหัวเตียง ในห้องแบบ contemporary






2. ช่อฟ้า ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนใหม่ มากกว่าหน้าบัน เพราะช่อฟ้า ยอดเรียวเล็ก รับแดดฝนเต็มๆ จะผุกร่อนก่อนใคร วัดก็จะต้องเปลี่ยนใหม่ พอพวกรับซื้อของเก่า เอามาทำบานตั้งให้สวย มันก็งดงามราวประติมากรรมดีๆนี่เอง

3. ส่วนประกอบของธรรมาสน์ หรือบุษบก ที่เป็นไม้สลัก ที่เป็นแบบสมบูรณ์ทั้งหลัง ก็พอเห็นบ้าง แต่ไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นส่วนประกอบ ที่หลงเหลือจากการผุพัง ไม่สามารถประกอบใช้งานได้ หรือซ่อมก็ไม่ไหว จึงแยกชิ้นส่วนออกมาทำเป็นของใช้ หรือของตกแต่งบ้านเช่น นำมาทำกรอบสวยๆ ติดผนังโชว์ บางชื้นจะเป็นลักษณะของงานประติมากรรม ก็เอามาทำแป้นโชว์ หรือทำโคมไฟ ทั้งส่องสว่างและโชว์ความสวยงามไปในตัว

4. คันทวย เป็นค้ำยันประเภทหนึ่ง ช่างโบราณก็แกะสลักอย่างสวยงาม ถ้าฝีมือสูงหน่อย ก็จะดูสวยสง่า แต่ถ้าเป็นชาวบ้าน ก็จะออกแนวสนุกสนาน ที่ฝรั่งเรียก folk art นั่นเอง ส่วนใหญ่ เห็นเอามาแต่งเรือนไทยซะมาก ติดตามมุม ตามเสา แต่ไม่ได้รับน้ำหนักจริง อย่างของเดิม แค่เอา feeling เท่านั้น

การนำงานพุทธศิลป์มาตกแต่ง ส่วนใหญ่นิยมแต่งกับบ้านไทยมากที่สุด เพราะเน้นบรรยากาศความเป็นไทยได้ดี ถึงแม้จะไม่ใช่บ้านไทย แต่เมื่อใช้งานพวกนี้ตกแต่ง ก็จะสร้างให้เกิดบรรยากาศ กลิ่นอายความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี









งานพุทธศิลป์ ถ้าใช้หลายๆชิ้นอย่าใช้พวกปิดทองเยอะๆ อาจจะดูอลังการไปหน่อย









นี่ก็งานโมเดิร์น เอาไม้แกะสลักมาแต่ง ก็เข้ากันได้ดี แต่ควรเลือกที่มีสีแบธรรมชาติสักหน่อย





ประเภทที่สาม งานศิลปหัตถกรรม งานประเภทนี้ แรกๆก็มักจะเห็นประเภทงานพุทธศิลป์มากหน่อย แต่ต่อมาหายากขึ้นเรื่อยๆ แพงขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องหาของสวยรองๆลงมา จากของวัด ก็เป็นของบ้าน จากของบ้าน ก็เป็นของชาวบ้าน หรือของใช้ประเภทงานเกษตรกรรม เช่นพวกเกวียน ที่สีข้าว คราด ไถ ถ้าคนมีหัวทางตกแต่ง สามารถเอามาทำงานศิลปตกแต่งบ้านได้หมด พวกเครื่องกีฬาก็ยังได้ เช่นลูกตะกร้อหวาย เอามาย้อมสีใส่ stand ฝรั่งชอบซื้อมาก ของพวกนี้ผมสะสมไว้เยอะ เพราะผมรักงานไม้ สะสมมาหลายอย่าง (แล้วก็ขายไปหลายอย่างเหมือนกัน) ตัวอย่างเช่น

1. ของใช้ในบ้าน เช่นพาน โตก ที่เป็นงานหัตถกรรมชั้นสูงเช่น งานฝังมุก เครื่องเงิน พอไม่ได้ใช้ ก็เอามาใส่ตู้โชว์ ถ้าเป็นของทางเหนือ หรือพม่าก็จะทำเป็นเครื่องเขิน ทั้งเรียบๆ และเขียนลวดลาย

2. ที่แขวนเสื้อ แขวนหมวก ไม้เท้า ฯลฯ มีอยู่ยุคหนึ่งที่คนไทยใส่หมวก ของใช้ประเภทนี้ก็มีอยู่เกือบทุกบ้าน แต่พอเลิกใส่หมวกกัน ของพวกนี้ก็กลายเป็นส่วนเกิน ส่วนใหญ่จะทำด้วยเขาสัตว์ ติดบนแป้นไม้ ที่แกะสลักอย่างสวยงาม พวกนี้ผมสะสมไว้พอสมควร เห็นที่ไหนก็ซื้อ เดี๋ยวนี้หาไม่ค่อยเจอแล้ว

3. กระต่ายขูดมะพร้าว คนโบราณเขาแกะสลักได้หลากหลายรูปแบบมาก โดยเฉพาะทางใต้ ที่ปลูกมะพร้าวกันมาก ภาคอื่นๆเขาก็เป็นรูปกระต่าย เป็นส่วนมาก แต่ทางใต้นี่ ล้ำลึกแกมทะลึ่ง เห็นแล้วต้องยิ้มกันทุกคน ก็เอามาวางตกแต่งบ้านได้ คนที่ชอบมากๆ ก็สะสมกันเป็น collection กันเลย

4.เกวียน ถ้าเป็นเล่มใหญ่ๆ ก็สวยมาก เอามาแต่งสวน โดยเฉพาะเกวียนของพม่า หรือเขมร หรือทางอีสาน เป็นเกวียนควาย แกะสลักลวดลายสวยงาม หรือถ้าถอดเป็นชิ้นๆก็นิยมถอดชิ้นส่วนต่างๆมาประดับ ตกแต่งกัน เช่น ล้อเกวียนยอดนิยมกว่าเพื่อน เอามาทำรั้ว และเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนของเกวียนทั้งนั้น เพราะเดี๋ยวนี้ก็รู้กันอยู่ ไม่มีใครใช้เกวียนกันแล้ว ใครๆก็ขับ VEGO กันทั้งนั้น





คันทวยเก่า ประดับตามเสา









ตู้ไทย พวกโตก หรืองานประดับมุก ก็จะให้บรรยากาศแบบหรูเลิศ










ไม้ดัด ก็ให้บรรยากาศย้อนยุค



5.งานถักทอต่างๆ แต่เดิมเขาเอามาทำแค่เครื่องแต่งกาย แต่เรามาประยุกต์ใช้แต่งบ้านได้ เช่นเอามาทำผ้าบุ ผ้าม่าน หรือซิ่นสวยๆบางทีก็เอามาใส่กรอบแขวนประดับได้ ยิ่งพวกถักทอด้วยดิ้นเงิน ดิ้นทอง ยิ่งสวยใหญ่ แต่ก็ค่อนข้างหายากแล้ว เพราะคนนิยมสะสมงานผ้ากันเยอะ

6. เครื่องมือ ในการทอผ้า ที่ปั่นด้าย กรอด้าย มีเอกลักษณ์ ลวดลายสวยๆ เอามาใช้งานอะไรไม่ได้ แต่เอามาตั้งวางสวยๆ จัดโชว์กับงานผ้า จะได้มุมเก๋ๆ
พวกงานศิลป หัตถกรรม นี้เราเอามาวางตั้งจัดเป็นมุมต่างๆเลยก็ได้ หรือจะเน้นให้สวยยิ่งขึ้น หรือดัดแปลงไปเป็นอุปกรณ์ตกแต่งอย่างอื่นก็ได้ เช่น เอาไปทำเป็นฐานโคมไฟตั้งโต๊ะ เอาไปใส่กรอบรูป หรือใส่ฐานตั้งสวยๆ ฯลฯ


งานประเภทสุดท้ายนี้ ค่อนข้างจะตกแต่งง่ายกว่า 2 ประเภท ที่กล่าวมาแล้ว เพราะมันเป็นเหมือนศิลปะ ที่ไร้พรมแดนของสไตล์ต่างๆมาเป็นกรอบกำหนด ไม่ว่าเราจะแต่งบ้านในสไตล์อะไร การนำงานศิลปะมาตกแต่ง ก็จะใช้ได้เสมอ อยู่ที่ว่าเราต้องการบรรยากาศแบบไหนนั่นเอง ก็เลือกของที่จะให้บรรยากาศที่เราต้องการ และทำให้เราสนุก และมีความสุข กับการแต่งบ้านแสนรักของเรา ให้สวยเก๋น่าอยู่ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ


TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ กว่า 1400 กว่าเรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส
Create Date :29 กรกฎาคม 2552 Last Update :26 กันยายน 2554 0:06:37 น. Counter : Pageviews. Comments :5