(Germany) ตะลุยเที่ยว Munich Ep.3 เดินย่ำ ทัวร์รอบเมืองที่สุดแสนจะโรแมนติกในหนึ่งวัน
Munich EP.3 ทัวร์รอบเมืองมิวนิค
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ หายไปหลายวัน เพราะตอนนี้ต้องการการเตรียมตัวหน่อย
เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดมาก หาข้อมูลเพิ่มเพียบเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม //www.discover-munich.info/around_munich.php
ประวัติย่อๆของ Munich ดูได้ที่ตอนแรกจ้ะ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skippyth&month=06-09-2009&group=7&gblog=13
วันสุดท้ายของทริปมิวนิค เพิ่งจะได้เห็นตัวเมืองเป็นๆก็วันนี้แหละจ้า
น่าเสียดายที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เมืองเลยดูเงียบๆเหงาๆ ร้านค้าก็ปิดหมด อดช็อปปิ้งเลยยย T_T
วันนี้ตื่นสายกันหน่อยค่ะ เพื่อนๆแต่ละคนก็เริ่มที่จะแยกย้ายกันกลับบ้างแล้ว คนที่เหลือก็ไป city tour กัน
แน่นอนค่ะ ว่าวิธีการก็คือการเดิน (ตามเคย) สภาพรอบเมืองเช้าวันอาทิตย์ไม่มีคนเลย ถนนก็ไม่มีรถ เหงาจับใจ
จุดแรกที่มาแวะคือ ลานหน้าโบสถ์เหลืองโฉบผ่านไปผ่านมาสองวันแล้วเพิ่งได้มาถ่ายรูปเนี่ยล่ะ
ลานข้างหน้ากว้างขวาง มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินด้วย
ตรงนี้ชื้อจริงๆ เรียกว่า Odeonsplatz เป็นจุดที่ควรมาเป็นจุดแรก เพราะมีถนนที่มาจากที่ทิศทางของเมืองมาบรรจบกัน
โดยเฉพาะถนน Residenzstrasse, Ludwigsstrasse สายสำคัญ (แหล่งช็อป)
ตรงนี้มี Feldherrnhalle (1841-1844) ตึกที่เห็นนั่นล่ะค่ะ
ซึ่งเป็นอนุเสาวรีย์ชัยของกองทัพบาวาเรีย มีอนุเสาวรีย์ของแม่ทัพสองรายที่นำชัยชนะมาให้ (Earl Tilly and Prince Wrede)
ยังอยู่ตรงตุรัสเดิม หันมาทางขวาหน่อยจะเจอ
St. Kajetan (Theatinerkirche) หรือเรียกง่ายๆ โบสถ์เหลือง
เริ่มก่อสร้าง 1663 ใช้เวลาเกินร้อยปีกว่าจะสร้างเสร็จ
ภายนอกโบสถ์ สวยเป็นเอกลักษณ์มากค่ะ ถ่ายรูปยังไงก็สวย
ด้านในสีขาวล้วนๆ ตกแต่ง contrast กับข้างนอกที่สีสันจัดจ้านสุดๆ
สวยมากกกกค่ะ ตกแต่งละเอียดมากๆเลย
สภาพตึกรอบๆ เงียบสนิทจริงๆ
แถวนี้เป็นแหล่งช็อปปิ้งนะคะเนี่ย (คนเยอรมันพร้อมใจกันปิดร้านทุกอย่างในวันอาทิตย์ค่ะ)
ตึกแถวนี้สวยจริงๆ มองมุมขวาล่างเห็นสิงโตสี่ตัวมั้ยคะ
สิงโตสี่ตัวเนี่ยล่ะ ที่กิ๊บเคยเล่าให้ฟัง ว่าทุกคนที่เดินผ่านต้องจับ เพื่อเพิ่มความโชคดี
สังเกตสิคะ ว่าโดนลูบคลำจนสีลอกเลย
Marienplatz หรือ New city hall สร้างเพื่อเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง
ตั้งแต่เริ่มมีเมืองมิวนิค ตั้งแต่ปี 1158
ของจริงสวยมากๆค่ะ มองมุมไหน ถ่านรูปยังไงก็สวย
ตรง marienplatz เวลา 11 โมงจะมีตุ๊กตาออกมาตีนาฬิกาพร้อมเสียงเพลง น่ารักมากๆค่ะ
(ถ่ายรูปไม่ทัน เสียดายจัง)
จากนั้นเรามาทานอาหารเช้ากันที่ร้านนี้ค่ะ อยู่ข้างๆ Marianplatz เลย
เป็นร้านอาหารเช้าสไตล์บาวาเรียนดั้งเดิม มี Weißwurst (ไส้กรอกขาว) กับ Pretzel ใหญ่ยักษ์
และจะเป็นมื้อเช้าบาวาเรียนแท้ๆได้ยังไง ถ้าไม่มีเบียร์ มื้อเช้าแบบบาวาเรียต้องเบียร์ขาว Weisbier เท่านั้น
ใครมาบาวาเรีย (เยอรมันตอนใต้) ต้องลองเบียร์ Hefe-weisen นะคะ
เป็นเบียร์เอกลักษณ์แถวนี้ ใธีการหมักต่างจากเบียร์ทั่วไป
วิธีการกินก็แปลกค่ะ ต้องเทโดยเอาขวดทิ่มลงไปในแก้วเบียร์ทรงสูง จนเหลือเบียร์อยู่ในขวดสัก 3เซน
แล้วเขย่าขวดเพื่อเอายีสต์ที่อยู่ก้นขวดออกมาให้หมด จะได้เป็นเนื้อฟูด้านบนของแก้ง
รสชาติเด็ดมากกกก ใครอยากลองให้ไปหาที่ Tops supermarket ค่ะ
เห็นมี import hefe-weisen ยี่ห้อ Paulaner มาขาย (อร่อยสุดๆ)
มีบรรยากาศขับกล่อมด้วยดนตรีบาวาเรียน
ทานข้าวเสร็จได้เวลาออกกำลัง พิสูจน์พลังวัยรุ่น
เรามาปีนโบสถ์ St. Peter's Church (Alter Peter)
ตั้งอยู่ตรงข้าม Marienplatz สร้างตั้งแต่คศ 11 และถูกทำลายต่อเติมสร้างใหม่อยู่หลายครั้ง
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองถูกทำลายอย่างหนัก เพิ่งบูรณะใหม่เสร็จเมื่อปี 2000 นี่เอง
สูง 56 เมตร เป็นบันใดวน 300 กว่าขั้น (ขั้นน้อย แต่ชันมากกกก)
เหนื่อยมากกกค่ะ สูงมากกกกกก ทางเดินก็แค๊บแคบ
แถมคนเยอรมันบ้าพลังกันใหญ่...วิ่งขึ้น !!! ไอ้เรากะเหรี่ยงไทยก็ต้องวิ่งตาม (กลัวโดนทิ้งอ้ะ)
แต่ขึ้นมาแล้วคุ้มมมากกกกกค่ะ วิวสวยมากๆ มองเห็นวิวเมืองมิวนิคทั้งเมือง
เนื่องจากชาวเมืองมิวนิคมีมติร่วมกัน
ที่ไม่ต้องการให้มีตึกที่สร้างเกินความสูงของยอดโบสถ์ Cathedral Church of Our Lady (Frauenkirche)
(โบสถ์หลังคาส้มทางซ้ายมือ) ทำให้ตึกทั้งหมดในเมืองจะเป็นคล้ายๆเมือง Paris ค่ะ
ที่จะมีแต่ตึกเตี้ยๆ ทำให้เมืองดู classic มากๆเลย
marianplatz จากมุมสูง
ปีนเสร็จก็กลับมาชมการตกแต่งภายในของโบสถ์กัน
ด้านในโบสถ์เน้นการตกแต่งเป็นสีขาวทอง สวยมากๆค่ะ (อยากแต่งงานใบโบสถ์แบบนี้จัง กริ๊ดๆๆๆ)
ระหว่างทางเพื่อนๆพามาดูโบสถ์ยิวแห่งแรกในเยอรมัน
โบสถ์นี้เป็นที่ตื่นเต้นของคนเยอรมันมากๆค่ะ เพื่อนๆคงทราบประวัติศาสตร์ยิว-เยอรมันอยู่บ้างใช่มั้ยคะ
ตั้งแต่หลังสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง คนยิวถูกคนเยอรมันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โบสถ์ยิวที่เคยมีถูกเผาทำลายไปหมด
เวลาผ่านมา นับสิบๆปี บาดแผลจากสงครามได้รับการเยียวยา จึงได้เพิ่มเริ่มก่อตั้งโบสถ์ยิวขึ้นมาอีกครั้งเนี่ยล่ะค่ะ
เสียดายที่เวลาไม่พอ เลยไม่ได้เข้าชม
ต่อมาที่โบสถ์สองพี่น้อง church St. Johann Nepomuk (Asamkirche)
ตั้งอยู่ที่ถนน Sendlingerstrasse สร้างปี 1733-1746
โบสถ์นี้เดิมเป็นโบสถ์ส่วนตัว สร้างโดยพี่น้องสองคนเพื่อใช้สวดมนต์กัน ไม่ยอมให้คนอื่นเข้ามาชมและใช้
สร้างความหมั่นไส้ให้ชาวเมืองรอบข้าง เลยไปร้องเรียน และสุดท้ายเลยมีมติบังคับให้สองพี่น้องต้องยกโบสถ์ให้เป็นสมบัติของสาธารณะ
มองภายนอกเป็นแค่โบสถ์ที่สร้างในห้องแถวธรรมดาใช่มั้ยคะ
กิ๊บเห็นข้างในแล้วตกใจเลยค่ะ ตกแต่งข้างในสวยมากๆ
โบสถ์มีสามชั้น ชั้นล่างบอกเล่าเรื่องราวความทุกข์ทรมาณของมนุษย์ สีที่ใช้เลยเป็นสีดำๆแดง จงใจให้แสงส่องไม่ถึงชั้นล่าง
มีรูปปั้นแสดงความโศกเศร้าทุกข์ทรมาณเต็มไปหมด (น่ากลัว บรึ๋ยยย)
ชั้นกลางแสดงถึงความเกรียงไกรของกษัตริย์
ส่วนด้านบน แสดงความปิติปรีดาของทวยเทพในสวรรค์และความเป็นอมตะ สีที่ใช้จึงเป็นสีขาว
ถึงแม้พื้นที่โบสถ์จะเล็ก (แน่ล่ะ สร้างไว้ใช้กันแค่สองคน) แต่ข้างในละเอียดอ่อนช้อย สวยมากๆๆๆๆเลยค่ะ
เดินวกกลับมาดู Cathedral Church of Our Lady (Frauenkirche)
ยอดสูงสองอัน โบสถ์ใหญ่ที่สุดของเมืองมิวนิค สร้างตั้งแต่สมัยคศ. 15
ด้านในไม่ได้ตกแต่งมากค่ะ เพราะโบสถ์ใหญ่มาก
เดินออกมาไม่นาน จะผ่านตรอกแคบๆตรงนี้
ตรอกนี้มีความสำคัญตรงที่ สมัยก่อนชาวเมืองมิวนิคทุกคนที่เดินผ่าน Marienplatz จะต้องยืนตรงทำความเคารพ ไฮท์ ฮิตเลอร์
คนที่ไม่ชอบนาซีก็จะหลีกเลี่ยงการทำความเคารพดังกล่าว ด้วยการเดินอ้อมมาเข้าตรอกนี้
ชาวเยอรมัน (ที่ตอนนั้นรักนาซีมากมาย) ก็จะเรียกตรอกนี้ว่า Coward street (ตรอกขี้ขลาด)
เพื่อแสดงการกระแนะกระแหนพวกที่ไม่เข้าพวกกับนาซี
ก่อนจบทริปเรามาเดินดู รัฐสภากันค่ะ ที่นี่เป็นรัฐสภาของแคว้นบาวาเรีย ซึ่งเป็นรัฐบาลแยกจากรัฐบาลใหญ่ของประเทศเยอรมัน
อนุเสาวรีย์รำลึกถึง ขบวนการ White rose
ระหว่างทางก่อนกลับ เพื่อนๆพาไปดูแควน้ำ อันนึง (ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์)
ฮั่นแน่ สงสัยล่ะสิคะ ว่าไปดูทำไม แควน้ำตรงนี้ในช่วง summer จะเปิดน้ำแรงมาก จนวัยรุ่นเอามาเล่น surf ได้เลยค่ะ
หัวหน้าทัวร์หนุ่มเยอรมัน ถึงกับช็อค ที่วันนี้ไม่มีน้ำ !!! (เค้า proudly present มากค่ะ)
กว่าจะเดินหมด เหนื่อยเลยนะคะเนี่ย ใช้เวลาทั้งวันก็เที่ยวไม่หมดค่ะ
(ยังไม่ได้ดู schloss Schleißheim, วัง Nymphenburg, Residence, Pinakothek เลย)
เมือง Munich เป็ฯเมืองที่มีเสน่ห์มากๆเลย โรแมนติกจริงๆ เสียดายที่มีเวลาน้อยไปหน่อยค่ะ (ขนาดรีบยังเกือบตกรถไฟเลยค่ะ)
เลยได้ดูแต่ละจุด แค่เวลาสั้นๆ และยังมีอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้ไป ถ้ามีโอกาสก็อยากไปอีกมากๆ
แต่สิ่งสำคัญของทริปนี้คือ ประทับใจน้ำใจเพื่อน IFMSA ต่างแดนมากค่ะ
เค้าดูแลเราดีมากๆ จัดทริป เตรียมการทุกอย่าง วางแผนการท่องเที่ยว เรียกว่าทริปนี้กิ๊บไม่ต้องเปิด Lonely planet เลยทีเดียว
ขอแอบเม้าหนุ่ม Till หัวหน้าทริปสุดหล่อ(แต่เป็นเกย์) กันหน่อย
Till เป็ฯคนพากิ๊บกับยูตะไปส่งขึ้นรถไฟ ICE ค่ะ รถออกเวลา 16.18 น.
กิ๊บก็บอก Till ว่า รถออก 16.20 ระหว่างที่รีบวิ่งสุดริดไปขึ้นรถไฟนั้นกิ๊บเพิ่งเอาตั๋วรถให้ Till ดูค่ะ
Till ถึงกับย้าาาากก ว่าทำไมไม่บอกเวลาจริงเค้า จะไปไม่ทันแร้นนน (ต่างกันแค่สองนาทีเนี่ยน้ะ)
อันนี้เป็นความตรงต่อเวลามากๆๆๆๆของคนเยอรมันค่ะ เป๊ะๆกันเป็นนาทีเลยจริงๆ
จบแล้วค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาชมนะคะ
คราวหน้ากิ๊บจะพาไปชมโบสถ์ที่ดังที่สุดในโลกที่เมือง Colonge ค่ะ
ขอกำลังใจเล็กๆ ด้วยการ comment หนึ่งทีค่ะ
โดย: พยาบาลเกเร 10 กันยายน 2552 1:31:32 น.
ถ้าใช้ควรใช้ร่วมกับ MMU ด้วยกัน และคอยสังเกตเอาว่ามันทำปฏิกิริยากับอะไรแล้วดับ แต่ยอมรับล่ะว่าใช้แล้วไม่ค่อยเป็นสิว และเหมาะกับผิวใสๆไม่ค่อยมีปัญหา(ไม่ต้องการรปกปิดมากนัก) หรือผิวเป็นสิวแต่อยากแต่ง
หน้ามากกว่า.......
โดย: พยาบาลเกเร 10 กันยายน 2552 1:36:18 น.
โดย: ต้อย IP: 58.181.157.122 10 กันยายน 2552 10:24:33 น.
อ้อ เรื่อง MMU เกือบพลาดไปแล้วพี่โอ เกือบสั่งซื้อไปแล้ว ฟังว่าหมองอย่างงี้ไม่กล้าสั่งมาใช้เลยอ้ะ
คุณต้อย ไกลจากมิวนิคมากค่ะ จริงๆตอนนั้นกิ๊บอยู่เมือง Gottingen ใกล้ๆ Kasse นั่ง ICE ไปตั้ง 4 ชั่วโมงแหนะ
รอก่อนนะคะ กำลังรีบปั่นมาลงอยู่
โดย: แบแบ 10 กันยายน 2552 17:32:14 น.
เงียบสงบด้วย สวยมากเลยค่ะ
อยากมีโอกาสไปบ้างจัง ><
โดย: That's m3 13 กันยายน 2552 21:23:50 น.
ช่วยแนะของฝาก หรืออะไรที่น่าซื้อบ้าง
ยังไม่มีข้อมูลเลย
แล้วอากาศ เป็นงัยบ้างอ่ะ เราไป 5- 17 ตุลานี้
ล่องใต้ไปเหนือ
โดย: น้ำหวาน IP: 117.47.178.179 28 กันยายน 2552 15:18:10 น.