bloggang.com mainmenu search




ท้าวยุธิษฐิระประกอบพิธีราชสูยะในกรุงอินทรปรัสถ์.


เพลง .. ShriKrisshnaGovind



= บทที่๗ .. เหตุการณ์ในกรุงวิราฏ =
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
00100 - - - 110102
00102 - - - 110103
103
1 = ลหุ
0,2,3 = ครุ


O ปาณฑพะหลบซ่อน - - - ชิวะจรพนาลัย
นาม"กัณยกา" ไกล - - - นิระผู้จะพบเห็น

O จวบครบประจบปี - - - ทุขะบีฑะเพียบเพ็ญ
รอบชีวะขุกเข็ญ - - - ประลุกาละผ่านผัน

O สิบสองวรรษาพ้น - - - ทุระชนะแกล้งบัน-
ดาลกลสะกาบรร- - - - ลุประเล่หะแอบแฝง

O ปรึกษาประดาปาณ- - - - ฑพะ-คราญก็จำแลง
ปลอมกายจะหมายแปลง - - - บทะสู่ ณ บูรี

O ก่อกูณฑะเปลวช่วง - - - จิตะบวงพระปราณี
วอนแม่พระวารี - - - เพราะพจีปณามขอ

O ทุกข์โทษทวีลักษ- - - - ณะประจักษะเพียบพอ
เก็บช้ำและร่ำรอ - - - ทรมานะผ่านหาย

O ตั้งใจจะปลอมแปลง - - - บทะแฝงและฝากกาย
ซุ่มซ่อนจะผ่อนคลาย - - - สรรพะร้ายจะลับเลย

O หมาย-ใครประสบแล้ว - - - พิศะแคล้วบ่คุ้นเคย
มองเทียบบ่เปรียบเปรย - - - พจนารถะรำบือ

O จบคำพระร่ำหา - - - ทุรคาก็ร่วมมือ
รับรองจะป้องลือ - - - ภยะร้อนจะล่วงหาย

O จิตปวงก็ห่วงอา- - - - วุธะกล้าประจำกาย
ซ่อนซุกและคลุกทราย - - - ก็เสด็จลุธานี

O ล่วงกรุง"วิราฏ"ปาณ- - - - ฑพะ-คราญะยินดี
เพศพราหมณะคัมภี- - - - ระสุภาพะกราบทูล

O ข้าเจ้านะพี่น้อง - - - ชิวะต้องกะกองกูณฑ์
ได้ยากลำบากพูน- - - - กะเทวษะเหลือหลาย

O หวังถึงจะพึ่งบา- - - - รมิราชะผ่อนคลาย
ปลงร้อนละรำบาย - - - สุขะผ้ายจะผ่านหา

O จึงองค์พระทรงเดช - - - ดละเจตะเมตตา
รับรองสนองฐา- - - - นะกะเบญจะพราหมณ์นั้น

O รูปเทราปทีนวล - - - บทะควรพระกำนัล-
องค์ราชินีขวัญ - - - ณวิราฏะกรุงไกร

O "ไศรินธรี"ตาม - - - ระบุนามะทรามวัย
สืบแสร้งแสดงใช้ - - - บริบาลมเหสี

O อ่อนน้อมและถ่อมอง- - - - คะประสงคะปราณี
รับเมตตะไมตรี - - - เฉพาะที่จะอาทร

O เอกองคะทรงศักดิ์ - - - พิศะพักตระพิมพ์อร
งามสรรพผิว์อัปสร - - - ก็สะท้อนสะท้านกาย

O ปรารมภะเมื่อโฉม - - - ทะนุโสมนัสชาย
งามนี้ ฤ มีหมาย - - - จะละม้ายเสมอเหมือน

O ผิวเนื้อนะเมื่อพิศ - - - นิรมิตจะตามเตือน
เลือดฝาดพิลาสเรือน - - - วรพักตระงามล้ำ

O ลักษณ์นี้จะมีเรื่อง - - - รติเนื่องและน้อมนำ
จิตชายจะกรายสัม- - - - ผัสะภาวะอาลัย

O น้องชายพระนาม"กิจ- - - - ะกะ"ฤทธิเกริกไกร
ร้างคู่และชู้ใด - - - หฤทัยะเหี้ยมหาญ

O อำนาจวิราฏรัฐ - - - ก็สมรรถะชำนาญ
เกริกกฤษดาการ- - - - ณะประยุทธะข่มเขา

O สมสั่งอหังการ - - - พฤติมาระเมื่อเมา
มุ่งกามะหยามเยา- - - - วะประหวั่นประวิงกลัว

O ถ้วนนางกำนัลใน - - - หฤทัยะสั่นรัว
ด้วยกิจกะเมามัว - - - และกระหายะเสพสม

O ครั้นเฝ้าพระพี่นาง - - - ณ ระหว่างพระบังคม
สบร่างสะอางสม- - - - มุติเทพะอัปสร

O ดลโฉมประโลมลักษณ์ - - - สิริพักตระรูปอร
โจมจู่บ่รู้ถอน - - - พิษะราคะเร้าผล

O สุดเสียวกระสันทรวง - - - รชะปวงก็แทรกปน
โค้งคอดตลอดตน - - - อนุสนธิงดงาม

O ตรองจิตพินิจตรู - - - นยะชู้ก็ลุกลาม
รสสาปะวาบหวาม - - - ฤจะข้ามจะข่มไหว

O ปรึกษาพระพี่นาง - - - ระบุอ้างระบิลไป
รูปนวละยวนใจ - - - หฤทัยก็มุ่งหวัง

O ด้วยรักฉลักจิต - - - กระอุฤทธิกำลัง-
คอยเร้าและเฝ้าหวัง - - - จะประนังประนอมขวัญ

O รายล้อมประนอมใจ - - - พิสมัยะรูปกัญ-
ญานุชประดุจทัณ- - - - ฑะอดีตะขีดไว้

O รำพึงรำพันพจน์ - - - พิเราะบทะความนัย
พร้องพร่ำและร่ำไร - - - พิสมัยะดวงขวัญ

O สังคีตประณีตเสียง - - - เสนาะเพียงเพราะรำพัน-
ภาพงามและความฝัน - - - นยะนั้นก็หนักหนา

O คร่ำครวญกระบวนถ้อย - - - ก็ประดอยประดังอา-
รมณ์ซึ้งคะนึงหา - - - ทรมาเพราะอาลัย

O เฝ้าคอยละห้อยเห็น - - - ฤจะเร้นจะหลบใจ
รูปล้อมประนอมนัย - - - ฤไฉนจะอาจหนี

O พลิ้วผ่านผสานโสต - - - ก็ประโมทยะมากมี
ความนัยและไมตรี - - - ดุษฎีก็ยินดัง

O หวั่นเพียงประเดียงพาทย์ - - - จะปลาตะกำลัง
หวั่นไหวเพราะใจหวัง - - - ตละครั้งก็สุดคลาย

O นั่งนิ่งคะนึงอยู่ - - - นิระรู้จะรำบาย
พาทย์แล้วก็แผ่วหาย - - - อุระคล้ายจะทอดถอน

O สุดที่จะลี้หลบ - - - รติภพะเว้าวอน
พากย์เพลงประเลงย้อน - - - สุขะซ้อนประโลมทรวง

O เหมือนดาวจะวาววับ - - - และระยับระยิบยวง
เหมือนในฤทัยดวง - - - รชะช่วงบ่อาจถอน

O โอบอ้อมถนอมบท - - - รติรสะซอกซอน
แทรกซุก ณ ทุกตอน - - - ฤจะผ่อนจะพรางผล

O นัยเพลงประเลงล้อม - - - ก็ประนอมประนังพล
กำเริบและเติบตน - - - ปะทุผล ณ ที่ใจ

O บทเพลงประเลงล้อม - - - ก็ประนอมประนังนัย
เป็นขวัญประหวั่นไหว - - - ณ พิสัยะใครนี้

O สืบสร้างระหว่างคิด - - - สุจริตะใจมี
หมายว่าประดาปรี- - - - ดิพิถีจะทอดไป

O เพียงหวังจะหลั่งพาก- - - - ยะละหลากประนอมนัย
สัมผัสะรัดใจ - - - พิสมัยะหยั่งลง

O หวังโสตอุโฆษคำ - - - อุปถัมภะจำนง
สุดคิดจะปลิดปลง - - - พระประสงคะไขว่หา

O พี่นางพระครวญอยู่ - - - ก็เพราะรู้จำนรรจา
ทรามวัยจะไปหา - - - อนุชานะเร็วไว

O ดลกิจกะเปรมปรี- - - - ดิพิถี ณ ห้วงใจ
ทูลลาพระคลาไคล - - - สุขะในฤดีดล

O จึงเสาวนีย์หา - - - ดละวาทะมงคล
กล่อมเยาวะเร้าจน - - - จิตะหม่นกะมุ่งหมาย

O จำทูลพระองค์ทราบ - - - ระยะบาปะเบื้องปลาย
หวังตัดประหัตหาย - - - เลาะสลายปลาตสูญ

O หวังเกี่ยวกุศลกรรม - - - ทะนุธรรมะเทิดทูน
หมายจิตะจำรูญ - - - เฉพาะพูนภิรมย์เพ็ญ

O จักแจงแถลงชี้ - - - กรณียะควรเป็น
เพื่อองคะทรงเห็น - - - คุณะเหตุและเมตตา

O จบความปณามถ้อย - - - นุชะน้อยก็ลีลา
เร่งรุดและอุตสา- - - - หะแถลงและแจงความ

O เห็นหน้าพระลิงโลด - - - อุระโชติด้วยกาม
ก้าวหาพยายาม - - - จะแตะงามเพราะหวามใจ

O ไหวหวั่นพระรัญจวน - - - บทะครวญะด้วยไม-
ตรีเพ้อพระเผลอไผล - - - พิสมัยะโพลงผาย

O กางกรจะอ้อนแอบ - - - บทะแทบจะแนบกาย
ครั้นตรึกพระนึกอาย - - - ก็สดับพจีงาม

O ไศรินธรีถ้อย - - - ก็ทะยอยแถลงความ
ทอนราคะวาบหวาม - - - อนุชามเหสี



พระนางเทราปทีพยายามหลบเลี่ยงการลวนลามของเจ้าชายกิจกะ.


O ถ้อยเจรจาคราญ - - - นยะผ่านก็อารี
ตั้งข้อประเพณี - - - พฤติที่จะเสียหาย

O โอ้องค์พระทรงเดช - - - ดละเจตะแยบคาย
ซึ้งคำพระรำบาย - - - กรุณากะหม่อมฉัน

O โปรดเถิดพระเอ็นดู - - - พฤติตรูจะงามจรร-
โลงหล้าประภาสรร- - - - คะระเบียบระบือไกล

O โปรดทรงเสด็จทูล - - - อนุกูละเร็วไว
โปรดทรงเสด็จไข - - - รตินัยเสน่หา

O ทูลความมเหสี - - - เฉพาะที่จะเมตตา
รับรองจะป้องปรา- - - - กฏะภาวะอื้อฉาว

O องค์กิจกะฟังศัพ- - - - ทะสดับกะเรื่องราว
รัญจวนเพราะนวลสาว - - - ฤจะผ่อนจะเพลาผล

O หยัดยืน-เถอะคืนนี้ - - - พระจะลีละด้วยมนต์
ดำฤษณาลน - - - หฤทัยะเผาผลาญ

O หมายแนบสนิทเยา- - - - วะเฉลาฉลักมาน
บรรโลมกะโฉมคราญ - - - รชะซ่านจะเสพสม

O รีบรุดเถอะเตรียมกาย - - - เฉพาะหมายจะรื่นรมย์
วรรณนวละควรฉม - - - กระแจะจันทนะอยู่พร้อม

O นางฟังก็คลั่งแค้น - - - อุระแสนจะตรมตรอม
รีบพรากประจาคจอม- - - - นรชาติใจทราม

O ปลดปลงมนัสเยา- - - - วะก็เล่าแถลงความ
ฟ้องภีมะทราบตาม - - - ทุขะเล่หะเพทนา

O แผนการะภีมมี - - - เฉพาะที่จะป้องปรา-
กฏฉละปรนรา- - - - คะกะเทราปทีน้อง

O บอกเยาวะกรายบาท - - - ยุรยาตระวังทอง
ทำทีนรีพ้อง - - - รติเลศะมุ่งหมาย

O คืนนั้นพระจันทร์ดวง - - - รุจิช่วงผิว์ใจชาย
แรงราคะโชนฉาย - - - พระเสด็จตำหนักทอง

O ครั้นถึงจรดบาท - - - ยุรยาตระเมียงมอง
ที่คราญะหมายครอง - - - รชะรสภิรมย์ลน

O เปิดห้องพระย่องบาท - - - พิศะนาฏะคลุมตน
ด้วยพัสตระ, บัดดล- - - - พระก็คว้าสกนธ์นาง

O ร่างหนึ่งทะลึ่งคว้า - - - มหึมากะสรรพางค์
กอดกิจกะรัดพลาง- - - - ปะทะร่างและทุ่มโถม

O หมัดกำกระหน่ำกิจ- - - - กะประชิดและจู่โจม
แรงชังกระหน่ำโหม - - - พละป่นชิวาลาญ

O ร่างกิจกะแหลกสิ้น - - - จุติจินตะวิญญาณ
คือภีมะผู้หาญ - - - บริบาละป้องศรี


ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒
100100 - - - 100102
100102 - - - 100103
1 = ลหุ
0,2,3 = ครุ


O สดับข่าวพระทรงพล - - - ประลัยชนมะฤทธี
ศัตรูมวละล้วนปรี- - - - ดิครวญใคร่จะล้างแค้น

O "ทฤคาทิศ"ะเบื้องไกล - - - ภิรมย์ใจจะใคร่แทน
อดีตกรรมะย่ำแสน- - - - ยะแกล้วพละเบียดเบียน

O ประโคมข่าวและป่าวเรื่อง - - - เพราะขุ่นเคืองนะว่อนเวียน
ประจงภาษะพากเพียร - - - ขจัดเสี้ยนปลาตสูญ

O พระวิงวอนนครหัส- - - - ะดินรัฐะเกื้อกูล
พลาแกล้วสมรรถพูน - - - และอาวุธะฤทธิไกร

O จะร่วมย่ำวิราฏรัฐ - - - และกำจัดอรินทร์ไกล
ประทุษเหตุเภทภัย - - - ปลาตนามะจำนน

O นครหัสดินรับ - - - ประชุมทัพะเพิ่มพล
สมรรถแกล้วจะร่วมรณ - - - วิราฏรัฐะแดนดิน

O "สุศรมัน" พระส่งช่วย - - - ณรงค์ด้วยกะไพรินทร์
ประนังเดชะเจตจิน- - - - ตะอาวุธะรุดรบ

O ฤดีไท้บ่ไหวหวาด - - - อรินทร์ชาติเมื่อสบ
กระเหิมขวัญก็ครันครบ - - - พระปรารภะต่อตี

O สุศรมันนะคล่องศึก - - - และหาญฮึกประยุทธี
วิราฏราชะเสียที - - - ละพาชี-และหล่นลง

O สะบัดเชือกกระหวัดพัน - - - พระราชันยะรอบองค์
ขจัดฤทธิพิษสง - - - วิราฏราชะสิ้นศรี

O เพราะปาณฑพะดาลฤทธิ์ - - - ทฤคาทิศะรอนชี-
วะชนม์ลงกะราวี - - - สุศรมันพระจับไว้-

O ถวายองคะภูบาล - - - พระปล่อยพาละพ้นไป
ทุรโยธน์กรุ่นและขุ่นใจ - - - ก็สั่งใหม่จะให้ย้อน

O พระเตรียมทัพะรับศึก - - - หทัยฮึกจะราญรอน
อรินทร์ใดบ่อาทร - - - จะขอกร่อนชิวาสูญ

O ประนังพละโลดแล่น - - - ผชุมแสนยะเพิ่มพูน
จะเข่นฆ่าบ่อาดูร - - - วิราฏสูญะสิ้นพงศ์

O พระภิษม์โทรณาจารย์ - - - ก็ร่วมการณ์จะปลิดปลง-
วิราฏราชะจำนง - - - จะหนุนส่งอำนาจหลาน

O วิราฏราชะต้องศร - - - พลังทอนก็เหลือทาน
มิอาจร่วมณรงค์ผลาญ - - - อรินทร์พละทั้งผอง

O พระตั้งรัชทายาท - - - เพราะโดยชาติจะขึ้นครอง
ไผทแสนยะแกล้วพ้อง - - - ณรงค์พร้อมจะพันพัว

O พระเห็นศพะเลือดสาด - - - หทัยหวาดและหวั่นกลัว
กระโจนหลบพระซบตัว - - - ณ ในทัพเพราะขาดเขลา

O อรชุนพบประสบหน้า - - - ก็รับมาและปลอบเยา-
วะราชันยะปลุกเร้า - - - ฤดีให้กระเหิมหาญ

O กระตุ้นม้านะผันผาย - - - ลุส่วนปลาย ณ ป่าลาน
ก็คว้าคันธนูควาน- - - - ประดาศระซ่อนไว้

O ทะยานสู่ณรงค์ศึก - - - กระเหิมฮึก ณ หัวใจ
พระเหนี่ยวศรสะท้านไป - - - ประหัตสิ้นอรินทร์พล

O กระนั้นสังขะเป่าเสียง - - - ประหนึ่งเพียงจะโรมรณ
พหลหัสดินชน - - - ก็จำได้และวิ่งหนี

O ธนูศระเหนี่ยวยิง - - - ประดาวิ่งก็ม้วยชี-
วะร่วงร่างระหว่างวี- - - - ระกรรมลาญประหารผอง

O ธนูศระคู่หนึ่ง - - - ก็ส่งถึงประหนึ่งลอง-
จะเตือนผู้ศัตรูปอง - - - ณรงค์รบจะสำนึก

O พระภิษม์โทรณาจารย์ - - - ก็พิศการณะตรองตรึก
วิชาศระกระเหิมฮึก - - - ก็ทราบรู้ธนูใคร

O ประดุจศระแห่งมาล- - - - ยะมอบผ่านจะอวยชัย
กะสองเฒ่าเพราะสูงวัย - - - ถวายอัญชลีแทน

O ประพิณศรชลีผ่าน - - - ประเมินการณ์จะเกรงแกลน
ละเลิกทัพะแกล้วแสน- - - - ยะกลับแคว้นบุรีตน

O พระภิษม์โทรณาจาร- - - - ยะพ้องการณะทัพพล-
พหลหัสดินชน - - - จะย่อยยับอนาถใจ

O วิราฏทัพะขับข่ม - - - ศัตรูล่มพลังไกร
สมรรถแกล้วณรงค์ไพ- - - - ริสิ้นไร้อำนาจทาน

O กระนั้นรัชทายาท - - - พระสิ้นขลาด ณ ดวงมาน
ทะยานสู้เพราะรู้ผลาญ- - - - และล่มลาญศัตรูตน

O ประสานหัตะไพริน- - - - ทระลาญสิ้นกระเหิมรณ
ประกาศเพิ่มเฉลิมพล- - - - ะยกย่องฉลองนาม

O เพราะท่านสารถีอวย - - - ธนูช่วยพระป้องคาม
ขจัดเสี้ยนอรินทร์ทราม - - - ประลือเรื่องประเทืองไป

O ประคมเศียระทูลชาติ - - - เถลิงราชะร่วมใจ-
ประชาชนและพลไกร - - - เถอะครองขัณฑสีมา

O พระธรรมบุตระสุดขัด - - - ถวัลย์ฉัตรเพราะศรัทธา
ประเทืองแดนและแสนยา - - - เจริญล้ำลุอำไพ

O กระนั้นองค์วิราฏซึ่ง - - - พระคำนึงระลึกไป
กระบวนรบประสบชัย - - - เพราะด้วยอรชุนหนุน

O ก็ตัดสินถวายองค์ - - - พระโฉมยงคะแทนคุณ
ธิดา”อุตตรา”สุน- - - - ทราลักษณ์ฉลักขวัญ

O กระนั้นอรชุนทูล - - - พระเกื้อกูละสำคัญ
จะมอบบุตระหม่อมฉัน - - - อภิมันยุผู้หาญ

O สะคราญรูปอุตตราเยา- - - - วะใฝ่เฝ้าระทึกมาน
สยมพรประกอบการณ์ - - - ฤดีคราญะรอคอย


จบบทที่ ๗

Create Date :29 มีนาคม 2552 Last Update :29 ธันวาคม 2563 7:46:40 น. Counter : Pageviews. Comments :110