bloggang.com mainmenu search












































หลังจากวิ่งงานสวนองุ่นมินิมาราธอนกับครอบครัวแล้ว คนที่บ้านมีประชุมจนบ่าย เขาคงกลัวว่าเราจะเบื่อรอ เลยติดต่อครูสอนระบายสีน้ำไว้ให้ สตูดิโออยู่ที่ 'บ้านข้างวัด' ซอยวัดอุโมงค์ เขาลงเรียนสั้น ๆ ให้สามชั่วโมง เพื่อทำความรู้จักกับครูสอนศิลปะก่อน หากชอบ ค่อยลงเรียนเป็นคอร์สไปเลย
.
ในบริเวณ บ้ า น ข้ า งวั ด นั้น มีบรรยากาศแบบพื้นเมือง มีบ้านปูนเปลือยสองชั้น สร้างให้เหมือนบ้านในสมัยก่อนที่ตั้งอยู่ล้อมรอบกัน ตกแต่งด้วยของเก่าดั้งเดิม มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นร่มเย็นบรรเทาอากาศร้อนในวันนี้ได้ดีทีเดียว ดูเหมือนเป็นชุมชนที่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ในแนวทางเดียวกัน มีร้านค้าของขายในชุมชนแห่งนี้ เดินเข้าไปก็จะเห็นไส้กรอกเยอรมันเป็นร้านแรก(ของอาทิตย์นี้) ร้านขนมปังหน้าตาดีน่าทานมาก มีโต๊ะที่จัดไว้ให้นั่งรับประทานโดยรอบ จากนั้นเราสามารถเดินเล่น ช้อปปิ้งของตกแต่งบ้าน งานคราฟต์ เซรามิก เสื้อผ้าพื้นเมืองสุดเก๋ แบบไม่เหมือนใคร เป็นงานแฮนด์เมด ราคาพอเป็นเจ้าของได้ ขอแค่เราชอบเท่านั้น งานฝีมืออื่น ๆ มีหลากหลาย

ฉันมาเช้าวันอาทิตย์ซึ่งจัดให้มีการขายอาหาร น้ำผลไม้ ผักสดด้วย มีร้านอาหารหลายร้าน ร้านกาแฟ นั่งเล่น เดินเล่นได้เรื่อย ๆ แถมยังมีห้องสมุดเล็ก ๆ ไว้นั่งพักอ่านอะไรชิลล์ ชิลล์ และไม่น่าเชื่อว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งบ้านเรา ชาวต่างประเทศ ทุกเพศ ทุกวัย และคงมีขาประจำ ฉันชอบผ้าพื้นเมือง ลายผ้าและกางเกงงาม ๆ ที่ไม่ค่อยเห็นจากที่ไหน

ฉันไปหลงอยู่ที่ไหนกันนะ อยู่ที่นี่แท้ ๆแต่ไม่เคยรู้ว่าแถวนี้มีของดี จำได้แค่ว่า สมัยเรียนนั้นเข้ามาในซอยวัดอุโมงค์เพื่อจะมาบ้านอาจารย์แน่งน้อย ต้นไม้สองข้างทางไม่ใหญ่และเต็มสองข้างทางแบบนี้ เวลาขับมอเตอร์ไซค์ผ่านวัดอุโมงค์ก็กลัวผีเพราะเงียบเชียบมาก ไม่ได้มีร้านสะดวกซื้อเกือบทุกซอยเหมือนเวลานี้ ที่นี่ช่างเปลี่ยนแปลงและเป็นเหมือนชุมชนที่มีแสงสว่างในตัวเอง

ฉันมองหาแกลเลอรี่ที่จะเรียนเจอแล้ว เป็นห้องเล็ก ๆ มีภาพศิลปะใส่กรอบเต็มผนัง ฉันมาเรียนโดยไม่ทราบว่า หน้าตาครูผู้สอนเป็นอย่างไร พูดง่าย ๆ คือไม่ได้ทำการบ้านมาก่อน รู้อย่างเดียวคือ ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ใด ๆ มา

โต๊ะเรียนกลางห้องนั้น มีภาพวาดสีน้ำ จานกระเบื้องสีขาวรูปทรงสี่เหลี่ยมเรียงซ้อนอยู่ แก้วน้ำสำหรับล้างพู่กันและสีกล่องใหญ่อยู่กลางโต๊ะ ฉันทักทายหญิงสาวผู้มาก่อนหน้าฉันเล็กน้อย เรายิ้มให้กันและเห็นเธอกำลังเตรียมกระดาษภาพวาดมาวาง เป็นภาพวาดการ์ตูนและดอกไม้ เราคุยกันเล็กน้อยก็พอทราบว่า วันนี้เธอมีเรียนกับครู

ฉันไปแนะนำตัวกับผู้ชาย ร่างท้วม ผิวสองสีซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการขายภาพศิลปะให้ลูกค้าต่างชาติ มาทราบในอึดใจว่า คนนี้แหละคือคนที่ฉันต้องฝากตัวเพื่อเรียนศิลปะในเช้านี้

เขาเชิญฉันให้ไปรอพร้อมกับหญิงสาวที่มาก่อนหน้า...

สักพักครูก็ออกมาแนะนำตัวว่าชื่อครู เนด ซึ่งฉันไม่รู้ว่า เนดนี่สะกดยังไง เนตรหรือเนด ฉันไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้สอนเลย แต่หญิงสาวที่เป็นพยาบาลคนนั้นชื่อน้องอ๋อ

เมื่อมาเรียนคอร์สสั้นมาก ครูจึงให้เลือกว่าฉันอยากเรียนอะไร มีวาดแมว อาหาร ดอกไฮเดรนเยีย ใบไม้และกุหลาบอังกฤษ

ฉันลังเลเพราะไม่รู้จะเรียนอะไร จึงตอบไปว่า กุหลาบอังกฤษ และก็ตรงกับที่น้องอ๋อกำลังจะเรียนด้วย เธอลงคอร์สใหญ่ และมาเรียนก่อนหน้าฉันหลายครั้งแล้ว

ครูถามต่อว่า พี่ภูทำอาชีพอะไรครับ ทำไมถึงอยากเรียนสีน้ำ

พี่ขายของที่บ้านค่ะ มาเรียนเพราะคิดว่า ช่วงระบายสีน้ำน่าจะเป็นเวลาที่ใจสงบ

ครับพี่ เวลาเรามีปัญหา คนเราก็หาทางออกไม่เหมือนกัน ระบายสีน้ำก็เป็นหนทางหนึ่งที่เราได้พักใจให้สบาย

พลาดแล้วสิ ฉันเป็นแม่บ้านมีปัญหาไปแล้วหรือนี่ แต่ไม่เป็นไร ก็ดันตอบไปอย่างนั้นนี่ ครูเขาก็เข้าใจแบบนั้น

ทำไมพี่อยากวาดดอกกุหลาบครับ

พี่ปลูกกุหลาบไม่โต ปลูกเมื่อไรก็ตายเรียบ ก็เลยคิดว่า วาดเอาก็ได้ ได้เห็นกุหลาบเหมือนกัน

เขาทำหน้าบอกไม่ถูก อาจจะคิดว่าพี่ภูนี่ประหลาดจริง

ครูเอากระดาษ 300 แกรมมาวางให้ ทิชชู่แผ่นใหญ่สี่แผ่น จานสำหรับผสมสี พู่กันสองอัน แบบแบน ๆ และแบบกลม ๆ พู่กันเบอร์อะไรไม่ทราบแต่อันใหญ่ เขาว่าเป็นพู่กันขนสัตว์แต่ไม่รู้สัตว์อะไร และน้ำล้างพู่กันสองแก้ว

แต่น้องอ๋อมีอุปกรณ์พร้อม และเหมือนเธอกำลังจะส่งการบ้านที่เป็นงานวาดนั่นแหละ ครูดูแป๊บนึงบอกว่า เดี๋ยวผมจะคอมเม้นต์ทีหลังนะครับ วันนี้พี่๋๋อ๋อโชคดีเพราะพี่ภูมาเรียนเป็นเพื่อน

สรุปว่า เช้านี้มีเรียนกับครูสองคนเพราะคนอื่นเขามาเรียนช่วงบ่ายกัน

ครูให้ดูแม่สีในกล่องสีของครู พูดชื่อสีเร็วมาก ฟังแล้วลืม มันไม่คุ้นใจ แม่บ้านสมองปึกมัวแต่งง จำไม่ค่อยได้ แต่ก็ดูชาร์ตสีไปงียบ ๆ ครูอธิบายเรื่องแม่สีและสีตรงข้าม บอกถึงการผสมสีให้เข้มขึ้นด้วยการเพิ่มสีตรงกันข้าม เราก็หน้าตาเหรอหรา จริงหรือนี่ เพิ่งรู้จริง ๆ ว่าเขาใช้สีตรงกันข้าม มิน่า เวลาฉันต้องการสีเข้มขึ้น ฉันมักจะลงสีซ้ำหรือไม่ก็สีดำและไม่เพิ่มน้ำ

ครูอธิบายเรื่องเปียกบนเปียก เปียกบนแห้ง ฉันพอเข้าใจ

จากนั้นก็ให้วาดสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวพอประมาณเพื่อหัดไล่สีก่อน ปล่อยพื้นขาวไว้ด้วยไล่สีแดงเป็นชั้น ๆ ให้เข้มขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากลงน้ำแล้ว สีแรกที่ลงก่อนจะเป็นเหลืองเลม่อนแล้วลงสีแดง ไล่สีเข้มไปเรื่อย ๆ และผสมสีแดงให้เข้มโดยเพิ่มสีเขียว

การไล่สีของฉัน รู้สึกจะน้ำเยอะ กระดาษบวม และแต้มเขียวเยอะไปหน่อย ก็เน่าสิคะ แต่ก็เฉย ๆ ไม่เป็นไร

ครูเห็นก็บอกว่า ไม่เป็นไรครับพี่ สีน้ำก็บอกเรากลาย ๆ ละว่า อะไรที่เราแก้ไขไม่ได้ก็ปล่อยไปแต่ควรจะยอมรับมัน ยอมรับความเป็นจริงเพราะมันเกิดขึ้นแล้ว ยิ่งแก้ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ฉันพยักหน้า

แล้วก็หัดให้วาดวงกลม วาดวงรีตรงที่เป็นดอกกุหลาบ ให้ลงกลีบดอกอย่างคร่าว ๆ เพื่อจะสอนการลงสีพื้นและทำให้วงกลมนั้นมันนูน(ไม่ใช่บวม)ขึ้น ดูเป็นกุหลาบที่มีชีวิต

การไล่แสงเงาแต่ละชั้นเป็นเรื่องน่าพิศวง เป็นเทคนิคธรรมดาที่คนวาดสีน้ำเข้าใจ ครูลงสีน้ำและอธิบายไปพร้อมกัน การปูพื้นในทุกเรื่องเป็นเรื่องสำคัญก่อนการต่อยอดนะ เหมือนกับการที่เราวาดตะพึดตะพือแบบคิดเอาเอง ลองไปเรื่อยและลงมือทำ ก็รู้และชำนาญแบบที่คิดว่าตัวเองรู้ ไม่สนใจเรื่องถูกผิด ไม่เหมือนหรือเพี้ยนไปจากของจริง คิดอย่างเดียวคือฉันอยากวาด มันก็ดีระดับหนึ่งคือลงมือทำ และน่าจะดีกว่าถ้าเรียนรู้เทคนิคเพิ่มขึ้น

เหมือนกับเรื่องวิ่ง ที่วิ่งไปเถอะ วิ่งไปก่อน ความลับต่าง ๆ ก็จะค่อย ๆ ออกมาจากที่ซ่อน มันค่อย ๆ แพลมออกมาให้เราฉงนสนเท่ห์และค้นหา เพราะความลับนี่เองที่กระตุ้นให้เราได้ลองผิดลองถูกอยู่เรื่อย แต่บนกระดาษสีน้ำนี่มีอย่างเดียวคือ เน่า เกิดอาการสีเน่า การลงสีน้ำต้องวางแผน เพราะพลาดแล้วก็เหมือนจะพลาดเลย หากทำด้วยความไม่รู้ มันก็ได้ความรื่นรมย์โดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน เมื่อมันอยู่นอกองก์ความรู้ เราก็ได้อะไรใหม่ ๆ ที่อาจดูแปลกแยกสักนิด หากเป็นนักเรียน ฉันคงสอบตก

กว่าฉันจะรู้ตัว ฉันก็ซักถามครูไปตลอดการเรียนการสอน น้องอ๋อเรียนก่อนแล้วอาจไม่มีปัญหามากเท่าฉัน ครูให้ร่างวงกลม วงรีและใส่รายละเอียดสำหรับกุหลาบและลงสีไปเลย ฉันก็โคตรจะมั่นใจเลยว่า เรื่องละเลงนี่ถนัด เสียงที่ครูสอนเมื่อตะกี๊ก็เริ่มไล่เรียงในหัว ลงน้ำ ลงสีเหลือง ตามด้วยสีแดงผสมน้ำจาง ๆ ก่อน และตามด้วยสีฟ้าอมม่วง ก็ทำไป แต่ไหงสีฉันไม่ฟู่ ก้นดอกกุหลาบฉันไม่นูนขึ้นมาเลยนะ

ครูก็ดูอยู่ บอกเรื่อย ๆ ว่าพี่ภูม่ต้องกังวล ทำไปเลยครับ

ตอนดูครูสอนการวาดดอกกุหลาบตูม ดอกกุหลาบบาน ใบไม้ เขียวอ่อน เขียวแก่และตัดเส้นสีแดงตรงรายละเอียด ใช่นะ ต้องสังเกตใบไม้จริง จะมีสีแดงแซมอยู่ การใส่สีและลูบสีด้วยน้ำเพื่อให้เป็นเงา แต่งขอบ ใส่สีเข้มให้เป็นแสงเงา จากนั้นครูก็สอนวิธีการลงสีแบ็คกราวด์ ตอนยืนดู หูฟังนั้น ดูราบรื่นง่ายดายเหมือนคลิกไลค์ท่าออกกำลังกายที่ดูหมู ๆ ผ่านการรับรู้ทางสายตาจนกว่าจะได้ลงมือทำเองจริง ๆ สิ่งที่ครูสอนก็เหมือนกัน ดูไม่ยาก ครูก็ว่าไม่ยาก อย่ากังวลหากกุหลาบจะยังไม่เป็นกุหลาบในคลาสแรก

อืม..จะกังวลไปไย ใคร ๆ ก็ต้องมีครั้งแรกทั้งนั้น ฉันไม่รู้ว่าน้องอ๋อทำได้หรือเปล่า แต่ครูชมฉันว่า พี่ภูลงสีได้ดีครับ ส่วนพี่อ๋อเยี่ยมมากครับ

เป็นไงล่ะ ฉันไม่กล้าเงยดูกระดาษที่น้องอ๋อวาดกุหลาบ กลัวจะเสียมารยาท ก็ดูแต่ของครูและของตัวเอง ได้แต่สบตาและยิ้มให้กัน เธอเงียบ ๆ เรียบร้อย ฉันก็ไม่ช่างพูด ความไม่มีเสน่ห์ของฉันล่ะ นั่งใบ้ได้ ยิ้มเป็นก็น่าจะพอ

ระหว่างที่ครูสอน นักท่องเที่ยวก็มากวาดซื้อภาพวาดที่ติดอยู่บนผนัง ซื้ออย่างกับซื้อขนม ภาพมีราคานะ ของแบบนี้ต้องพอใจทั้งสองฝ่ายจึงจะมีค่า แต่การที่มีคนมายืนดูฉันวาดกุหลาบนี่สิ โคตรอายเลยเวลาเขาชมว่า เก่งจังเลย กู้ดดดดดด สวยยยยย บิ้วตี้ฟูล ฉันก็อมยิ้มในใจ สวยตรงไหน(วะ)คะเนี่ย สีแบ็คกราวด์ก็เน๊าเน่า ลืมไปว่าตรงที่มีใบไม้ให้ใช้เขียวอ่อนปาดพู่กันลงไป นี่ดันลงเขียวทึบก่อนแล้วจะแก้ยังไง เลยตามเลย ลงสีแบบไม่คิดมาก ความมั่นใจไม่พอต้องลูกบ้าด้วย ถ้าให้คะแนนก็อาจจะตก สมองจำได้ครึ่งนึง อีกครึ่งนึงคือไม่มีหลักการ การเรียนก็ต้องเริ่มจากการเลียนแบบ ใช่ไม่ใช่ แต่คนเราเลียนแบบอะไรไม่ได้นานหรอก เลียนอย่างไรก็ไม่เหมือนซึ่งเป็นข้อดีเพราะไม่นานเราจะเห็นเส้นของตัวเองหลังจากที่เลียนคนอื่น แต่ก็ต้องเริ่มพื้นฐานก่อนอยู่ดี ฝึกมืออยู่ตลอดเวลาและค่อย ๆ เรียนรู้ไปกับงาน

ฉันวาดและลงสีเสร็จก่อนน้องอ๋อ กุหลาบอังกฤษของฉันเป็นกุหลาบแบน ๆ เพราะลงสีพื้นไม่ฟู แบ็คกราวด์เน่าสนิท ใบไม้ใบไหนก็ไม่เห็น (แต่ฉันเห็นของฉันนะ) ครูก็แสนจะใจดี ให้กำลังใจตลอด และขออนุญาตแนะนำฉันว่า อยากให้ฉันจัดเวลาจากการงานมาเรียนเพิ่ม เพราะดูฉันสนใจใฝ่รู้มาก ซึ่งมันก็จริง แต่ฉันไม่สามารถเจียดเวลาได้เลย ยิ่งครูสอนในวันธรรมดา จัดเรียนเต็มวัน ฉันก็มาไม่ได้ รู้สึกเสียดายมากแต่ก็ไม่รู้จะโอดครวญทำไม คิดแค่ว่า ถ้ามีโอกาส ฉันจะต้องมาเรียนอีกแน่ ๆ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ไม่อยากพูดจาซี้ซั้วทำราวกับอยากเรียนแล้วก็หายหัวไปโดยเขาไม่รู้ว่า ความอยากเรียนของฉันนั้นเป็นความต้องการล้านเปอร์เซ็นต์

การนั่งวาดรูปสามชั่วโมงเต็มนี่ ก็เพลินดีนะ แต่ฉันหิวข้าว หิวน้ำ หิวกาแฟเพราะหลังจากวิ่ง ได้กินแค่ข้าวต้มกับขนมจีนแกงเขียวหวานไป รู้สึกไม่พอท้อง วาดรูปแค่นี้แต่หิวโหด มาคราวหน้าจะเอาขนมกับกาแฟมากินด้วย อิจฉาครู สอนไป กินกาแฟไปด้วย กาแฟอะไรไม่รู้แต่ห๊อมหอม ไม่ยักกะถามว่าพี่ภูอยากกินกาแฟมั้ยครับ

ก่อนกลับ น้องอ๋อช่วยถ่ายรูปกับครูให้ด้วย น้องอ๋อน่ารัก ใจเย็น สุภาพสตรีมีเสน่ห์เขาเป็นแบบนี้สินะ เราแอดไลน์เป็นเพื่อนกันแล้ว เผื่อชวนกันมาวาดรูปอีก

ฉันโอเคกับครูนะ เพราะรู้ล่ะว่า ฝีมือจะดีขึ้นก็ต้องฝึกบ่อย ๆ นี่แหละพื้นฐานของการวาดอย่างแท้จริง

::
แม่บ้านสมองปึก
ขอบคุณค่ะ
ติสต์ตู
18 มีนาคม 2561








Create Date :26 เมษายน 2561 Last Update :7 มิถุนายน 2561 10:59:05 น. Counter : 769 Pageviews. Comments :5