bloggang.com mainmenu search
วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน 2555 เวลา 00:00 น.

หลังจาก “รักเธอเท่าฟ้า” รูดม่านปิดฉากไปหมาด ๆ ทีเซอร์ของละครเรื่อง “ท่านชายในสายหมอก” ก็ยิงโปรโมตรอจ่อคิวออกอากาศทันที ทำให้แฟน ๆ ใจจดใจจ่อรอชมทันที“ท่านชายในสายหมอก” หยิบมาจากบทประพันธ์ของ วรรณึก รับหน้าที่เขียนบทโทรทัศน์โดย ปณธี-ภควดี และยังได้ ศุภฌา ครุฑนาค มานั่งแท่นกำกับการแสดง สำหรับผลงานเรื่องนี้เป็นละครของ ค่ายทีวี ธันเดอร์ ที่นาน ๆ จะส่งละครลงช่วงหลังข่าวสักที โดยเป็นละครแนวโรแมนติกเบาสมอง ที่คว้าเอานักร้องสาวตาโต พั้นช์-วรกาจญ์ โรจนวัชร มารับบทสาวสามัญชน ประกบคู่ร่วมงานครั้งแรกกับพระเอกหนุ่ม หลุยส์ สก็อต ที่มาในมาดของเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ แค่เริ่มต้นเรื่องก็สนุกแล้ว เพราะต้องจับสาวห้าวอย่าง ซานิ-นิภาภรณ์ (เอเอฟ) มาแต่งตัวเป็นนางรำ ประกบคู่ สาวพั้นช์ เพื่อต้อนรับเจ้าชายหนุ่มจากนิวแลนด์ ทำซานิถึงกับเครียดที่ต้องแต่งชุดนางรำเต็มยศเป็นครั้งแรกในชีวิต นอกจากนี้ยังมีนักแสดงมากฝีมือมาร่วมสร้างสีสันอีกเพียบ อาทิ สุพจน์ จันทร์เจริญ, ณัฐดนัย ชนิตร์วัฒน์, สาวิตรี สุทธิชานนท์, ธนิดา กาญจนวัฒน์, พุทธชาติ พงศ์สุชาติ, ค่อม ชวนชื่น ฯลฯ

วันนี้เลยหยิบบรรยากาศเบื้องหลังฉากสนุก ๆ ในช่วงเริ่มต้นมาฝาก เพื่อเป็นออร์เดิร์ฟกันก่อน ฉากนี้เป็นฉากที่ “ขิง” (พั้นช์) มารับงานเป็นนางรำ ต้อนรับ “เจ้าชาย” (หลุยส์) แต่ขาดคู่ ในขณะที่ “พัชรี” (ซานิ) เข้ามาทำข่าว แต่กลับโดนกันไม่ให้เข้างาน จึงวางแผนปลอมตัวเป็นนางรำอีกคนเพื่อแอบถ่ายรูป ฉากนี้ไปปักหลักถ่ายทำกันที่โรงแรมริมน้ำ ย่านเจริญนคร และมีการเตรียมงานกันวุ่นวาย เพราะเป็นฉากสำคัญ แถมด้วยความห้าวของ ซานิ งานนี้ภาพเลยดูเก้งก้าง จำท่าผิด ๆ ถูก ๆ ทำเอานางเอกสาวสมาธิหลุด กลั้นขำกันแทบไม่อยู่ เพราะท่ารำตลก ๆ ของสาวซานินั่นเอง

เอาล่ะคราวนี้มาถึงคำบอกเล่าพระ-นางในเรื่องกันบ้าง เริ่มที่ หนุ่มหลุยส์ ที่รับบทพระเอกเต็มตัวเรื่อง 2 แถมต้องมาในมาดเจ้าชายซะด้วย “ในเรื่องรับบทเป็น เจ้าชายโซว์ ที่มีคาแรกเตอร์นิ่ง ๆ แต่เป็นเจ้าชายที่ตามใจตัวเอง กับการที่ได้รับบทบาทในการแสดงมามากมาย แต่ในละครเรื่องนี้หลุยส์รู้สึกถึงความแตกต่างจากเรื่องก่อน ๆ ตรงที่ต้องเล่นลิเกครับ เจอเต็ม ๆ เลย เคยได้ดูบ้างครั้งสองครั้งแถวหน้าบ้านในสมัยเด็ก ๆ เคยเห็น แต่ไม่เคยนึกว่าเราจะต้องมาร้องและเล่นเองอะไรแบบนี้ถือว่ายากมาก ๆ ซึ่งถ้าเทียบกับการที่เราเป็นนักร้องที่ทั้งร้องทั้งเต้นมาแล้วแต่ก็แตกต่างกันเป็นคนละเรื่องกันเลย เพราะหลุยส์ ยิ่งเวลาต้องร้องลิเก ทำให้ร้องกลับไปในสภาพของตัวเอง เพราะการร้องของเรามันไม่มีความเป็นลิเก ส่วนการรำก็รำแข็ง เราอยากจะทำให้มันดูอ่อนช้อย ก็ต้องฝืน พอฝืนก็ทำให้ท่ารำผิดอีก มันก็เลยยากมากครับ”

ฟาก สาวพั้นช์ ที่ติดใจกับงานละคร เลยกลับมาในบทนางเอกอีกครั้ง “เล่นละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ไม่ถนัดทางด้านนี้เท่าไหร่ และความยากของการเล่นละครที่ พั้นช์ ต้องปรับจะเป็นเรื่องของการพูด เพราะเป็นคนพูดเร็ว จะมีปัญหาตรงนี้เมื่อพูดเร็วแล้วก็จะทำให้รวน กลายเป็นพูดไม่รู้เรื่องจนทำให้ต้องโดนเทคบ่อย ๆ เลยพยายามปรับ แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เพราะมันติดเป็นชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ต้องใช้สมาธิโดยฝึกพูดก่อน ท่องบทคนเดียวก่อนเข้าฉาก เพื่อให้มันเข้าปากจนชินก่อนที่จะถ่ายจริง และสำหรับละครเรื่องนี้เป็นละครเรื่องที่พั้นช์ได้ทำอะไรหลายอย่าง เล่นลิเก ต้องไปเรียนกับอาพงษ์ศักดิ์ สวนศรี ด้วยค่ะ ต้องฝึกเยอะมากกว่าจะผ่านไปได้ และยังต้องมีการขี่ม้า ปลอมเป็นผู้ชาย เข้าไปอยู่ในวัง เป็นเจ้าหญิง ซึ่งไม่เคยทำหลายอย่าง ที่ต้องทำในละครเรื่องนี้ต่างจากเรื่องที่แล้วมาก อยากให้ลองติดตามดูกันดูนะคะ รับรองสนุกแน่นอน”ติดตามชมผลงานเรื่องนี้ได้ ทุกคืนวันพุธ–พฤหัสบดี หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 3....

เรื่องย่อ “ท่านชายในสายหมอก”

เจ้าชายโซว์ รัชทายาทของประเทศนิวแลนด์ ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยพร้อมผู้ติดตาม แถมเจ้าชายยังให้ผู้ติดตามปลอมตัวเป็นเจ้าชายแทน และให้ปฏิบัติภารกิจแทนทุกอย่าง เจ้าชายหลบมาพักในเกสต์เฮาส์ย่านถนนข้าวสาร และพยายามหาไกด์ แต่ก็หาไม่ได้ง่าย ๆ เพราะข้อเสนอที่ต้องรับใช้ดูแลเจ้าชายทุกอย่างทำให้ไม่มีไกด์ที่ไหนยอมทำ วันหนึ่งขณะที่เจ้าชายกำลังเดินเล่นกลับโดนเด็กสาวคนหนึ่งขโมยกล้องถ่ายรูปไป แต่เผอิญว่า ขิง อยู่ในเหตุการณ์ จึงช่วยจับขโมยเอาไว้ให้ พร้อมสั่งสอนให้เด็กสาวรู้สำนึกว่าอย่าทำอีก แต่กลายเป็นว่าเจ้าชายเข้าใจผิดคิดว่าขิงเป็นขโมยซะเอง ขิงจึงแก้แค้นที่ตัวเองทำดีแล้วไม่ได้ดี แถมกลับไปก็มานั่งปรับทุกข์กับ น้าตุ๊ก เพราะขิงไม่มีเงินส่งให้ยายที่ต่างจังหวัดมาหลายเดือนแล้ว น้าตุ๊กแนะนำให้ไปสมัครเป็นไกด์ให้นักท่องเที่ยวคนหนึ่ง เพราะทำงานให้แค่เดือนเดียวได้เงินตั้งพันนึง ขิงส่ายหน้าไม่พอใจกับเงินแค่พันเดียว น้าตุ๊กบอกว่า 1,000 ยูโร ขิงสนใจขึ้นมาทันที แต่เขารับเฉพาะไกด์ผู้ชายเท่านั้น ขิงจึงปลอมตัวมาในมาดชายหนุ่ม

ขิงพาเจ้าชายไปลุยเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ แต่เจ้าชายเองก็ไม่ได้พอใจในการนำทางของไกด์จอมมั่ว ขิงเองก็หมั่นไส้ที่ใช้ตนอย่างข้าทาส เลยพยายามตะล่อมเอาเงินจากกระเป๋าเจ้าชายทุกวิถีทาง โดยเตี๊ยมกับแม่ค้าให้หลอกเรียกเงินแพง ๆ ทางด้านผู้ติดตามก็ฉวยโอกาสที่ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชาย วางมาดโอ่อ่าจีบสาวไปทั่ว ทำให้ได้เจอกับแม่บ้านคนสวยคนหนึ่ง ผู้ติดตามไล่จีบแม่บ้านคนนั้น โดยหารู้ไม่ว่าเธอคือ พัชรี เหยี่ยวข่าวที่ต้องการหาสกู๊ปข่าวเด็ด เพื่อที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นนักข่าวที่เก่งแค่ไหน พัชรีเลือกที่จะทำสกู๊ปเจ้าชายจากประเทศนิวแลนด์เป็นการแสดงฝีมือของเธอ จึงปลอมตัวมาเป็นแม่บ้านในโรงแรมเพื่อสืบหาข้อมูล ยิ่งพอ คุณหญิงฉาดประภา รู้ว่ามีเจ้าชายจากต่างแดน เลยปฏิบัติการจับลูกสาวประเคนให้เจ้าชาย เพื่อหวังเอี่ยวในราชวงศ์และสมบัติจึงเกิดขึ้น โดยพาลูกติ๊งโหน่งมาเพื่อขอพบเจ้าชาย แถมยังตกหลุมรักผู้ติดตามทันที และพยายามสานสัมพันธ์กับผู้ติดตามทุกเมื่อที่มีโอกาส ซึ่งก็ไม่รอดพ้นสายตาเหยี่ยวข่าวอย่างพัชรี ที่กำลังพยายามหาข้อมูลเจ้าชาย เพื่อทำสกู๊ป ผู้ติดตามได้รับโทรศัพท์ด่วนจากกษัตริย์ พ่อของเจ้าชายว่าได้หาเจ้าหญิงเตรียมไว้ให้เจ้าชายแล้ว และกำชับให้ผู้ติดตามบอกเจ้าชายให้รีบกลับมา ผู้ติดตามรีบส่งข่าวให้เจ้าชายรู้ พอเจ้าชายรู้ว่ากำลังจะถูกคลุมถุงชนก็ยิ่งรู้สึกไม่อยากกลับ

ในคืนหนึ่งขณะที่เจ้าชายกำลังเดินเล่นอยู่กับขิงนั้น เจ้าชายได้เห็นเหตุการณ์การฆาตกรรม ชรินทร์, อำนาจ และลูกน้อง เห็นเจ้าชายกับขิงซึ่งเจ้าชายสะพายกล้องอยู่ ชรินทร์จึงให้อำนาจและลูกน้องตามไล่ฆ่าเจ้าชายกับขิง แต่เจ้าชายกับขิงหนีรอดออกมาได้ เจ้าชายกับขิงรีบไปแจ้งตำรวจ แต่กลายเป็นว่าชรินทร์และลูกน้องก็นั่งวางมาดอยู่ในสถานีตำรวจแห่งนั้นแล้ว พอเจ้าชายเห็นตำรวจทำความเคารพชรินทร์ เจ้าชายก็เข้าใจได้ในทันทีว่าชรินทร์เป็นคนของคนใหญ่คนโตเหนือกฎหมาย ทางเดียวที่รอดไปได้คือต้องหนี ชรินทร์ยังแจ้งความจับเจ้าชายกับขิงเอาไว้ด้วย ทั้งสองคนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยร่วมกันในคดีฆาตกรรม

เจ้าชายได้ติดต่อไปยังผู้ติดตามเพื่อให้ช่วยสืบเสาะ และหาทางพิสูจน์ว่าตนเองและขิงเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยมีหลักฐานแค่ชิ้นเดียวคือ การ์ดในกล้องที่มีรูปถ่ายของชรินทร์ อำนาจและลูกน้องเอาไว้ เจ้าชายกำชับผู้ติดตามว่าอย่าให้เรื่องนี้รู้ถึงทางราชวงศ์ เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ช่วยแค่เรื่องคดีความอย่างเดียว ยังจะถูกบังคับให้กลับประเทศเพื่อแต่งงานกับเจ้าหญิง ขณะที่เจ้าชายและขิงหนีการไล่ล่าจากพวกของอำนาจจนต้องกระโดดรถไฟหนีลงไปในน้ำ พอขึ้นจากน้ำได้นั้น หมวกของขิงได้หลุดหายไปจนผมสยายพร้อมกับเสื้อผ้าของขิง เมื่อเปียกน้ำก็ทำให้เน้นทรวดทรงของขิง จนทำให้เจ้าชายรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วขิงเป็นผู้หญิงและโกรธมากที่ขิงหลอกตนเองมาตลอด เจ้าชายไล่ขิงให้ออกไปจากชีวิตของเขา ขิงทวงเงินค่าจ้างเจ้าชาย แต่ในขณะที่บรรยากาศระหว่างเจ้าชายและขิงกำลังตึงเครียดอยู่นั้น พวกอำนาจก็ตามมาทัน ทำให้ทั้งสองต้องจับมือกระเตงกันหนีไป ด้วยค่าจ้าง 1,000 ยูโรที่ขิงต้องการจะได้จากเจ้าชาย ขิงจึงพาเจ้าชายไปอยู่ด้วยกันที่บ้านยายใน จ.เพชรบุรี ซึ่งตอนนั้นเองยายของขิงก็กำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะกำลังจะโดนกำนันยึดบ้านและที่ดิน กำนันมีลูกชายชื่อ แก้ว ซึ่งเป็นจิ๊กโก๋ประจำตำบลและหมายปองขิงอยู่ ขิงทวงค่าจ้างจากเจ้าชายเพื่อเอาไปใช้หนี้ แต่เจ้าชายไม่มีเงินให้ เพราะทรัพย์สินทั้งหมดหล่นหายไปหมดในระหว่างโดนตามไล่ล่า ทั้งสองจึงต้องรับจ้างทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินมาให้ยาย เจ้าชายให้ผู้ติดตามหาเบาะแสจากนักข่าว ผู้ติดตามจึงคิดจะไปขอความช่วยเหลือจากพัชรี แต่พอผู้ติดตามเจอพัชรีเท่านั้นก็ตกใจ เพราะรู้ว่าคือคนเดียวกับแม่บ้านที่มาคอยทำความสะอาดในห้องพักที่โรงแรมและเป็นคนเดียวกับที่เขาแอบรัก

พัชรีรู้ว่าผู้ติดตามไม่ใช่เจ้าชายแต่ก็ตกลงใจจะช่วยผู้ติดตามสืบข้อมูลและทำข่าวเปิดโปงชรินทร์มาเฟียของเมืองไทย เพราะพัชรีเชื่อว่าสกู๊ปข่าวนี้จะทำให้เธอดังขึ้นมาได้พอ ๆ กับสกู๊ปข่าวเจ้าชายจากประเทศนิวแลนด์ โดยมีข้อแม้ว่าถ้าเธอทำข่าวชรินทร์สำเร็จ เธอต้องได้สัมภาษณ์เจ้าชายอย่างเอ็กซ์คลูซีฟคนเดียว ผู้ติดตามและพัชรีช่วยกันสืบหาเบาะแส ก็ได้รู้ว่าชรินทร์แท้จริงเป็นผู้ค้าผู้หญิงรายใหญ่ ส่วนเรื่องราวจะจบลงอย่างไรต้องติดตามต่อในละครเรื่องนี้.

ไปรมา รายงาน

//www.dailynews.co.th/entertainment/154035

Create Date :09 กันยายน 2555 Last Update :9 กันยายน 2555 13:08:11 น. Counter : 2300 Pageviews. Comments :0