bloggang.com mainmenu search





ข้อแนะนำวิธีตั้งกระทู้ถามปัญหาสุขภาพ


๑. ตั้งชื่อกระทู้ให้ ตรงกับอาการมากที่สุด

เพื่อที่แพทย์ หรือ ผู้ที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น จะได้สะดวกที่จะเข้ามาแนะนำ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น ปวดหลังมากทำอย่างไรดี ... ผ่าตัดหลังแล้วไม่ดีขึ้น ปวดเข่ามากรักษาหมอที่ไหนดี ... โรคเกาท์... ความดันสูง ... ปวดหัวมาก ... เป็นต้น

หลีกเลี่ยงการตั้งหัวข้อกระทู้ที่ไม่สื่อความหมายเฉพาะ เช่น “ขอปรึกษา ” “ขอความช่วยเหลือ” “ปวดมาก” “ ถามคุณหมอ” “ ไม่สบาย” “ช่วยด้วยค่ะ” เป็นต้น เพราะถ้าตั้งกระทู้คลุมเครือ แพทย์ (โดยเฉพาะผม ซึ่งเชี่ยวชาญเฉพาะโรคกระดูกและข้อ ส่วนโรคอื่น ๆ ก็ไม่แน่ใจแล้วที่จะตอบ) ก็อาจข้ามไปไม่เข้ามาตอบในกระทู้ ท่านก็จะเสียประโยชน์ รอไปก็ไม่เห็นมีใครเข้ามาตอบข้อสงสัยเสียที

ถ้าตั้งหัวข้อให้ตรงกับอาการ แพทย์ หรือ ผู้ที่รู้ ก็จะเข้ามาตอบได้อย่างรวดเร็ว .. เช่น ปวดขา ก็น่าจะเป็นหมอกระดูกหรือหมออายุรกรรม จุกแน่นท้อง ก็น่าจะเป็นหมออายุรกรรม ปวดท้องด้านขวาสงสัยไส้ติ่ง หมอศัลยกรรมก็จะเข้ามาดูให้เลย เป็นต้น

๒. บรรยายอาการ เรียงตามลำดับเหตุการณ์ให้ละเอียดมากที่สุด เช่น

ปวดหลังด้านขวา ปวดมาก เดินไม่ได้ ๓ วัน หลังจากหกล้ม นอนไม่เจ็บ แต่ถ้ายืนเดินจะเจ็บมาก ไม่มีชา ขาไม่อ่อนแรง ไม่มีไข้ ไม่มีก้อน ฯลฯ ซึ่งยิ่งละเอียดเท่าไหร่ การแนะนำก็จะแม่นยำมากขึ้น

ถ้าบอกกว้าง ๆ เช่น ปวดหลัง ปวดเข่า แค่นี้ ก็จะแนะนำได้กว้าง ๆ ซึ่งอาจไม่ตรงจุด ไม่ช่วยอะไรนัก


๓. บรรยายการรักษาที่ได้รับมาแล้วไม่ว่าจะเป็น ยากิน ยาฉีด กายภาพบำบัด ผ่าตัด ฯลฯ เช่น

ซื้อยากินเอง ๒ ชุดแล้วแต่ไม่ดีขึ้น มียาเม็ดสีแดงกลม ยาเม็ดสีเนื้อกลมมน ยาเม็ดสีเขียว มีเลข200 เลยไปพบหมอ เอกซเรย์แล้วมีกระดูกร้าว หมอให้กินยานอนพัก แต่ก็ยังปวดมากอยู่ ไม่เบา
เคยไปทำกายภาพบำบัด ดึงหลัง แต่ดึงแล้วปวดมากขึ้น


๔. สรุปปัญหา ความต้องการ เช่น

อยากรู้ว่า น่าจะเป็นอะไร จะรักษาอย่างไรดี แนวทางการรักษา ต้องไปพบแพทย์ซ้ำอีกหรือไม่ หรือ ขอความเห็นของผู้ที่เคยเป็น เป็นต้น ..



รวม ๆ ก็จะเป็น แบบนี้

ชื่อกระทู้ “ ปวดหลังมากทำอย่างไรดี “...

ปวดหลังด้านขวา ปวดมาก เดินไม่ได้ ๓ วัน หลังจากหกล้ม นอนไม่เจ็บ แต่ถ้านั่งยืนเดินจะเจ็บมาก

ซื้อยากินเอง ๒ ชุดแล้วแต่ไม่ดีขึ้น มียาเม็ดสีแดงกลม ยาเม็ดสีเนื้อกลมมน ยาเม็ดสีเขียว มีเลข200 เลยไปพบหมอ เอกซเรย์แล้วมีกระดูกร้าว หมอให้กินยานอนพัก แต่ก็ยังปวดมากอยู่

น่าจะเป็นอะไร จะรักษาอย่างไรดี ต้องไปพบแพทย์ซ้ำอีกหรือไม่




แต่ไม่ต้องกังวลมากหรอกนะครับ เอาเป็นว่า บอกมาให้ละเอียด เยอะ ๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี ซึ่งก็จะทำให้แพทย์ หรือ ผู้รู้ นั้นสามารถชี้แจง ตอบปัญหาข้อสงสัยของคุณได้ดียิ่งขึ้น ตรงประเด็นมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย ...



ปล.

.. การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความเจ็บป่วย โรคต่าง ๆ ผ่านระบบอินเตอร์เนต อยากจะเน้นว่า

ข้อมูล หรือ คำแนะนำ ที่ได้รับจากเวบ หรือ จากแพทย์ทางอินเตอร์เนต

เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นทั่ว ๆ ไปเท่านั้น

ไม่ได้เป็นคำวินิจฉัย หรือ การรักษาทางการแพทย์

ไม่สามารถทดแทนการตรวจรักษากับแพทย์โดยตรง และ

ไม่ควรใช้เพื่อ ตัดสินใจ เลือกแนวทางรักษาด้วยตนเอง


กว่าที่แพทย์ จะวินิจฉัยโรค ได้นั้น จะมีขั้นตอนหลายขึ้นตอน บางครั้งก็ต้องอาศัยข้อมูลอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ต้องสอบถามประวัติเพิ่มเติม ตรวจร่างกาย และอาจต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น เจาะเลือด เอ็กซเรย์ เป็นต้น

ในบางครั้ง ถึงแม้จะทำทั้งหมดแล้ว ก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคอะไร

โรคบางโรค อาจมีประวัติ หรือ อาการที่เด่นชัด ทำให้พอบอกได้ว่า น่าจะเป็นโรคนั้น .. แต่ โดยส่วนใหญ่แล้ว ประวัติ และ อาการ มักจะคล้ายคลึงกันในหลาย ๆ โรค ทำให้ยากที่จะบอกได้แน่นอนว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ ...

โรคเดียวกัน อาจมีอาการที่เด่นชัดแตกต่างกันได้ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ อาจมาด้วยอาการปวดท้องด้านขวา ปวดรอบ ๆ สะดือ ปวดชายโครงขวา หรือ มาด้วยอาการปวดท้องทั่ว ๆ ไป หรือ โรครูมาตอยด์ อาจมาด้วยอาการปวดบวมข้อนิ้วมือ ปวดตามข้อเป็น ๆ หาย ๆ ก็ได้เช่นกัน เป็นต้น

โรคคนละโรค ก็อาจมีอาการเด่นชัดคล้ายกันได้ เช่น ไข้หวัดธรรมดา กับ ไข้เลือดออก ในระยะแรกจะมีอาการเหมือนกัน แยกกันไม่ได้เลย เป็นต้น

ถ้ามีเพียงข้อมูลที่ให้มาทางอินเตอร์เนต ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเจ็บป่วย เพียงด้านเดียว ( แพทย์ไม่สามารถซักถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ) แถมบางครั้ง ข้อมูลก็น้อยมาก ๆ และ อาจจะไม่ได้ข้อมูลที่สำคัญเพราะผู้ป่วยคิดว่าไม่สำคัญ แพทย์จึงมีข้อมูลค่อนข้างจำกัดสำหรับการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้อง

แพทย์จึงตอบแบบกว้าง ๆ ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่นอนว่าเป็นอะไร

ดังนั้น ถ้าไม่แน่ใจ หรือ สงสัยอะไร ก็ต้องกลับไปสอบถามเพิ่มเติมกับแพทย์ที่รักษาอยู่อีกครั้ง ... แพทย์ที่ท่านรักษาอยู่ จะเป็นผู้ที่มีข้อมูลมากที่สุด การวินิจฉัยก็น่าจะใกล้เคียง ถูกต้องมากที่สุด เช่นกัน

.....................................................



เครดิต เฟส แพทย์เฉพาะทางบาทเดียว    #วิธีถามคำถามกับแพทย์เฉพาะทางบาทเดียว?
https://www.facebook.com/SOSspecialist/photos/a.857752197612737.1073741828.822694754451815/902411479813475/?type=3

&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

ข้อแนะนำวิธีตั้งกระทู้ถามปัญหาสุขภาพ

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-06-2008&group=26&gblog=7

ชี้แจงเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาผ่านระบบอินเตอร์เนต

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=28-02-2008&group=26&gblog=8

มาทำบุญด้วยการตอบกระทู้ .... เป็น คำแนะนำเบื้องต้น ไม่ได้วินิจฉัยโรค ....

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=04-09-2009&group=26&gblog=9

Facebook, Line, Tweeter….จริยธรรมบนโลกออนไลน์.... โดย doctorlawyer"

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=29-06-2014&group=26&gblog=3

การระมัดระวังการใช้Social Media สำหรับแพทย์และผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านสาธารณสุข... โดย หมอแมว

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=28-06-2014&group=26&gblog=5

แนวทางปฏิบัติในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพพ.ศ.2559

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=15-05-2017&group=26&gblog=1

แพทยสภาเตือน แพทย์ ระมัดระวังก่อนโพสต์รูปตนเอง/คนไข้หรือความเห็นส่วนตัวลง social media

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=28-06-2014&group=26&gblog=4

แพทยสภาเตือนแพทย์ระมัดระวังการโฆษณาการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทางโซเชียลมีเดีย

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=18-01-2016&group=26&gblog=2

ฝากเตือนแพทย์ เกี่ยวกับ การรับปรึกษา วินิจฉัย ผ่านแอพ ผ่านเวบ

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=19-09-2016&group=26&gblog=11

หมอไม่ควรไปตอบปัญหาทางเนตจริงหรือ ???

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=06-11-2009&group=26&gblog=10


Create Date :23 มิถุนายน 2551 Last Update :7 กรกฎาคม 2560 13:53:06 น. Counter : Pageviews. Comments :0