หนังสือเล่มที่ผมอ่านในวันนี้เป็นนวนิยายแปลแนวลึกลับสอบสวนที่ชื่อ “ย้อนคืน” แปลมาจากชื่อภาษาอังกฤษว่า “ HOME “ เขียนโดย ฮาร์ลาน โคเบน แปลเป็นภาษาไทยโดย มณฑารัตน์ ทรงเผ่า คำโปรยที่หน้าปกบอกไว้ว่า “เป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ขายดีไปทั่วโลก และอย่าพลาดบอกตอนจบให้ใครรู้” ตัวผมเพิ่งเคยได้อ่านผลงานของนักเขียนคนนี้เป็นครั้งแรก

ที่ผ่านมาผมจำได้ว่าเคยชอบนวนิยายแปลแนวสืบสวนสอบสวนแบบนี้เหมือนกัน และเชื่อว่าผู้ชายเกือบทุกคนน่าจะชื่นชอบแนวนี้เช่นกัน ในช่วงที่ผมเริ่มอ่านหนังสือใหม่ๆ ผมจำได้ว่าได้อ่านนวนิยายแปลโดยคุณสุวิทย์ ขาวปลอดเยอะมาก เพราะว่าพี่ชายผมเป็นแฟนคลับของคุณสุวิทย์ ขาวปลอด ผมจึงยืมอ่านนวนิยายแปลพวกนี้ต่อจากพี่ชายผมเสมอ แต่ว่าเมื่อโตแล้ว เมื่อมีเงินซื้อหนังสือเองได้แล้วผมกลับไม่ค่อยได้อ่านนวนิยายแนวสืบสวนนี้เลย ผมเน้นไปอ่านในแนววรรณกรรม แนวดราม่าชีวิตมากกว่า ดังนั้นพอผมได้อ่านเรื่อง “ย้อนคืน” เล่มนี้แล้ว ความรู้สึกตื่นเต้นไปกับรายละเอียดต่าง ๆ ในอดีตก็หวนคืนกลับมาอีกครั้ง

ในเรื่อง “ย้อนคืน” นี้ เริ่มต้นเรื่องด้วยเด็กชายคนหนึ่งที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อ 10 ปีก่อนได้กลับมาปรากฎตัวให้เห็นอีกครั้ง คู่หูเพื่อนซี้ซึ่งทำหน้าที่เป็นนักสืบคือ ไมรอนกับวิน จึงต้องย้อนไปตามหาความจริงเกี่ยวกับการลักพาตัวอันเป็นปริศนาในอดีต เหตุการณ์ลึกลับที่พรากเด็กชายอายุ 6 ขวบสองคนไปจากพ่อแม่ เมื่อเด็กคนหนึ่งถูกช่วยเหลือกลับมาถึงบ้านได้ การตามหาเด็กชายอีกคนที่ถูกลักพาตัวไปพร้อมกันจึงต้องดำเนินต่อไป รายละเอียดที่เป็นปมปริศนาต่างๆ จึงค่อยๆ โผล่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งความสนุกของนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนก็คือการที่ผู้อ่านได้รู้ปมปริศนาต่างๆ เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนค่อยๆ ประติดประต่อเรื่องราวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นได้ เหมือนค่อยๆ หาจิ๊กซอร์ชิ้นเล็กๆ มาใส่เติมเต็มให้ภาพสมบูรณ์ขึ้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นอรรถรสที่ผู้อ่านได้รับจากการอ่านนวนิยายแนวนี้

และแน่นอนว่าสำหรับนวนิยายสไตล์สืบสวนสอบสวนนี้ต้องเป็นการสร้างตัวละครที่เป็นฮีโร่ขึ้นมา โดยให้ฮีโร่เป็นผู้ที่จับคนร้ายได้ในตอนท้าย หรือให้ฮีโร่เป็นคนที่คลี่คลายคดีในเรื่องได้ทั้งหมด สำหรับเรื่อง “ย้อนคืน” นี้ ในเรื่องมีตัวละครที่เป็นฮีโร่สองคนคือ ไมรอน โบลิทาร์ กับ วินด์เซอร์ ฮอร์น ล็อกวู้ดที่สาม ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน เคยร่วมกันคลี่คลายคดีต่างๆ มาแล้ว (น่าจะเป็นชุดซีรี่ส์ที่มีตัวละครสองคนนี้ แต่ผมยังไม่เคยอ่านเรื่องอื่นมาก่อนเลย) ตัวละครทั้งสองคนนี้เป็นคนสามัญธรรมดา ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐและไม่ใช่สายสืบขององค์กรลับใดๆ แต่ตัวละครทั้งสองคนนี้ฉลาดเป็นพิเศษ มีทักษะการต่อสู้ขั้นสุดยอด และที่สำคัญที่สุดคือ ทั้งคู่กัดไม่ปล่อยเช่นกัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้คลี่คลายปมปริศนาได้สำเร็จ



“ ... ผมไม่ใช่คนชอบฟูมฟายหรือแม้แต่จะรู้สึกอะไรมากถึงขั้นที่เรียกได้ว่าประหลาดใจ ผมเห็นอะไรมาไม่น้อยตลอดช่วงอายุสี่สิบกว่าปี ผมเคยทั้งเกือบโดนฆ่าและเป็นฝ่ายฆ่าคนอื่นมาก่อน ผมเคยเห็นความชั่วร้ายที่คนส่วนใหญ่มองว่ายากจะเข้าใจหรือไม่ก็ไม่เชื่อเลยแต่แรก ขณะที่บางคนอาจเถียงว่าผมเองก็กระทำความชั่วมาไม่ต่างกัน ผมฝึกควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่นานหลายปี ที่สำคัญกว่านั้นคือควบคุมปฎิกิริยาของตัวเองเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ตึงเครียดเปราะบางต่างๆ ผมอาจจะเล่นงานกลับอย่างรวดเร็วและรุนแรง แต่ผมจะไม่ทำอะไรโดยปราศจากการไตร่ตรองหรือทำโดยไม่มีจุดประสงค์เด็ดขาด”

(จากหน้า 1 ในบทที่1)



คำพูดในย่อหน้าที่ผมยกมานี้เป็นของวินด์เซอร์ ฮอร์น ล็อกวู้ดที่สาม ที่เป็นหนึ่งในสองตัวละครเอกของเรื่อง เริ่มต้นเรื่องในบทที่ 1 ต่อจากคำพรรณาสรรพคุณตัวเองนี้ก็เป็นฉากเอ็กชั่นในทันที พระเอกของเราก้าวเข้าไปสู่สถานการณ์ที่วิกฤติจึงถูกผู้ร้ายสามคนรุมหาเรื่อง เขาจำเป็นต้องฆ่าคนร้ายทั้งสามในทันที หลังจากนั้นจึงเริ่มการสืบค้นหาความจริงต่างๆ ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงในตอนท้ายของเรื่องเกิดมีการหักมุมย้อนกลับ โดยปรากฎว่าคนร้ายเป็นตัวละครผู้อ่านคาดไม่ถึง และเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้อ่านคิดไว้ ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบของนวนิยายอเมริกันทั่วไป ซึ่งผมไม่สามารถบอกบรรยายรายละเอียดได้มากกว่านี้ เพราะจะกลายเป็นการพูดเปิดเผย(สปอย์)เนื้อหาสำคัญในเรื่องมากเกินไป

เอาเป็นว่าถ้าท่านใดชอบนวนิยายสืบสวนสอบสวนแนวอเมริกันฮีโร่แบบนี้ก็ลองไปหา “ย้อนคืน” เล่มนี้มาอ่านกันดูนะครับ เล่มนี้ถือว่าเนื้อหาทันสมัยมากเข้ากับยุคสมัยในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ผมเองยังคิดว่าจะลองไปหานวนิยายแปลเรื่องอื่นในแนวนี้มาอ่านเพิ่มอีกเหมือนกัน สำหรับนวนิยายแปลเรื่อง “ย้อนคืน” เล่มที่อยู่ในมือผมนี้ เป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรก เดือนมีนาคม 2560 จัดพิมพ์โดยแพรวสำนักพิมพ์ ในเครืออมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง ด้วยความหนา 317 หน้า ราคาปก 285 บาท ท่านใดที่สนใจลองไปหาตามชั้นหนังสือใหม่ในร้านหนังสือทั่วไปได้เลย

ท้ายสุดนี้ ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวหนังสือในบล็อกนี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ นะครับ