bloggang.com mainmenu search
นิทานเซ็นพระภิกษุใจสิงห์









หากท่านมีความทุกข์ใจ หรือท้อแท้หมดหวังในชีวิต เพราะทำอะไร

ก็ดูจะไม่สำเร็จสักอย่าง เคยใช้ชีวิตผิดพลาดไปบางช่วงบางวัยของชีวิต

หรือไม่เคยจริงจังกับอะไรได้นานๆสักที

ชาตินี้คงเอาดีกับเขาไม่ได้แน่ๆ

ลองอ่านเรื่องนี้แล้วความรู้สึกดีๆอาจเกิดขึ้นก็ได้


เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ แต่ดูจะเสมือนเป็นนิยายเรื่องแต่งขึ้นมาแค่นั้น

เรื่องเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 250 ปีที่แล้ว ท่านซินก่ายพระธุดงค์

อายุ 30 กว่าๆกำลังเดินธุดงค์ในเขตภูเขา ไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

ชาวบ้านเห็นท่านมาก็ดีใจ รีบนิมนต์ท่านสวดศพชาวบ้านที่ตกเหวตาย


ท่านสวดเสร็จแล้วชาวบ้านพาท่านไปดูที่เกิดเหตุ

ปรากฏว่าทางจากหมู่บ้านที่คนตายไปสู่อีกหมู่บ้านหนึ่งต้องเดินเลาะภูเขา

ผ่านเหวลึก ถ้าลมแรง ฝนตกแรง ทางลื่นอันตราย

จึงมีคนตกลงไปตายปีะหลายๆคน


พระท่านสงสาร คิดอยากช่วยชาวบ้าน ท่านจึงตัดสินใจหยุดการธุดงค์อยู่ตรงนั้น

และตั้งปณิธานว่าจะขุดอุโมงค์ให้ชาวบ้าน ให้พวกเขาพ้นภัยธรรมชาติเสียที

คาดว่าระยะทางที่ต้องขุดเพื่อทะลุภูเขาก็น่าจะประมาณ 200 เมตร

ท่านบอกชาวบ้านว่าอาตมาจะอยู่ที่นี่และจะขุดอุโมงค์ให้ลูกหลาน

จะได้ปลอดภัยต่อไป ชาวบ้านสงสัยว่าท่านองค์นี้เป็นบ้าไปแล้ว

หรือ วิปลาสหรือเปล่า ภูเขาหินไม่ใช่ภูเขาดินนะท่าน

พระองค์เดียวจะขุดภูเขาหินยาวตั้ง 200 เมตรได้อย่างไร

นอกจากชาวบ้านไม่ขอบคุณ ไม่ให้กำลังใจเลย แล้วยังไม่สนับสนุน

บางคนยังหัวเราะเยาะด้วยซ้ำไป








พระท่านไม่หวั่นไหวเพราะท่านตั้งใจมั่นอยู่แล้ว

เริ่มงานแรกๆ ชาวบ้านก็ไม่ค่อยจะสนใจ นึกกันว่าไม่นานท่านจะท้อใจ

แล้วแอบหนีไป แต่ท่านไม่ไปไหน เสียงค้อนตีเหล็กสะกัดของท่าน

ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก... ออกจากปากอุโมงค์ทุกๆวัน ไม่มีเว้นแม้แต่วันเดียว

หนึ่งปี สองปี สามปี ผ่านไป สามปีท่านได้แค่ 6 เมตร 7 เมตร

แต่ท่านไม่ท้อถอย ได้ประมาณ 2 เมตร ต่อปี คิดแล้วน้อยกว่าวันละหนึ่งเซ็นติเมตร

ทำทุกวันๆอย่างสม่ำเสมอ เอาการขุดหินเป็นข้อวัตรปฏิบัติของท่าน

อยู่ในถ้ำทำงานตั้งแต่เช้าจนมืดทุกวัน


นานๆเข้าชาวบ้านบางคนเห็นพระเอาจริงเอาจังชักละอายท่าน

ก็มาช่วยบ้าง ชุดแรกหลายคนหน่อย พอเห็นงานมันหนักขนาดไหน

ก็ทยอยกันกลับบ้าน ไม่ไหวๆ ยังมีศรัทธาไม่พอ






ไม่นานท่านก็อยู่องค์เดียวเหมือนเดิม ขุดอุดโมงค์ต่อไป 6 ปี 7 ปี 8 ปี 9 ปี

10 ปี 15 ปี 20ปี 28ปี ขุดอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหนเวลาผ่านไปถึงยี่สิบแปดปี

ตอนนี้เป็นพระหลวงพ่อไปเสียแล้ว ขาก็ไม่ค่อยดี ตาก็ไม่ค่อยดีแล้ว

ทำงานรู้ตัวว่าเหนื่อยกว่าแต่ก่อน เหนื่อยก็เหนื่อยช่างมัน ดีไปอย่าง

กิตติศัพท์ของหลวงพ่อดังไปถึงเมืองหลวง รัฐจึงส่งช่างมาช่วย ตอนนั้นการ

ขุดอุโมงค์เสร็จแล้ว 80 กว่าเปอร์เซนต์


ก่อนถึงวันที่จะขุดอุโมงค์ได้สำเร็จ สองปี

วันหนึ่ง ซามูไรหนุ่มคนหนึ่งเดินทางไปถึงอุโมงค์ เขากำลังตามหา

พระองค์หนึ่ง ได้ข่าวว่ามีพระหลวงตาอยู่ที่นี่ ก็มาดูว่าใช่องค์ที่ต้องการพบ

หรือไม่ ถึงปากถ้ำซามูไรขอให้คนงานนิมนต์พระออกมารับแขกหน่อย หลวง

พ่อเดินออกมา พอเห็นหน้าซามูไรก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร มาเพื่ออะไร







คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ ก่อนที่ท่านจะบวชเป็นพระ หลวงพ่อองค์นี้ชื่อซินก่าย

เป็นคนบ้านนอกฉลาดและหน้าตาดี ท่านขุนนางจึงเอาตัวมารับใช้ใกล้ชิด

แต่อยู่มาไม่นานภรรยาท่านขุนนางจิตใจตกต่ำ จึงใช้หนุ่มซินก่ายมาบำบัด

ความใคร่ตนเอง หนุ่มซินก่ายไม่มีทางเลี่ยง จึงเป็นชู้ตลอดมา


คืนหนึ่ง ท่านขุนนางก็จับได้ จึงกระชากดาบซามูไรออกมาฟัน

ภรรยาท่านขุนนางเห็นความแตก จึงคิดช่วยชู้ รีบไปชักดาบที่แขวนอยู่ข้างฝา

แทงขุนนางสามีตาย แล้วหนีออกจากบ้านพร้อมหนุ่มซินก่ายในคืนนั้นทั้งคู่

ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนไปตามแหล่งต่างๆ


ในที่สุดเงินทองที่ติดตัวมาก็หมดลง จึงต้องเลือกการลักขโมย

ตัดช่องย่องเบา หนุ่มซินก่ายเห็นความไม่เที่ยงเช่นนี้ จึงคิดทบทวนเรื่องที่

ผ่านมาอย่างหนัก ถ้าปล่อยให้ รูป รส กลิ่น เสียง มาพัวพันอยู่เช่นนี้

ก็ไม่มีวันจะดำเนินชีวิตให้ถูกต้องได้ ซินก่าย จึงตกลงใจทิ้งภรรยา

เดินทางออกสู่บ้านนอกสุดหล้าฟ้าเขียว

เข้าอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองบูเส็น


ที่จริงตอนหลวงพ่อเข้าวัดยังไม่คิดจะบวช

คิดเพียงแค่ว่าต้องสารภาพบาปกับพระ ทำบุญแล้วจะฆ่าตัวตาย

แต่เจ้าอาวาสบอกไม่ต้องฆ่าตัวตายหรอก ให้บวชดีกว่าตายจากโลก

และทำคุณงามความดีชำระบาปเก่า


ท่านก็ยอมทำตาม เมื่ออยู่กับครูบาอาจารย์ได้สักระยะหนึ่งก็ออกธุดงค์

สุดท้ายก็ถึงหมู่บ้านนี้แหละ เป็นสถานที่ที่พระตัดสินใจอุทิศตนเพื่อชำระบาป

โดยการสร้างความดีให้กับชาวบ้าน ไม่หวังสิ่งตอบแทน กี่วันกี่ปีก็ไม่ว่า

จะสู้อยู่จนกว่าประสบความสำเร็จหรือหมดลม








หลวงพ่อเดินออกจากถ้ำเห็นซามูไรหนุ่มหน้าตาเหมือนพ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า


“โยมคงเป็นลูกชายของท่านขุนนางใช่ไหม?”

“ใช่” ซามูไรตอบ เสียงเย็นชา พลางมองหลวงพ่อด้วยสายตาเกลียดชัง

เวลาแก้แค้นของเขาถึงแล้ว ไล่ผู้ฆ่าคุณพ่อจนมุมได้แล้ว ซามูไรหนุ่มชักดาบ

เตรียมสังหารคนชั่ว ส่วนหลวงพ่อไม่แสดงอาการสะทกสะท้านใดๆ

ไม่เป็นไร ก็สาสมอยู่ งานของหลวงพ่อแทบจะเรียบร้อยแล้ว

ตอนนี้รัฐบาลมาช่วยงานแล้ว อีกไม่นานอุโมงค์จะเสร็จแล้ว

"อาตมาไม่มีความกังวลใจ เชิญทำสิ่งที่โยมเห็นว่าสมควร

หลวงพ่อคอยวาระนี้มานานแล้ว"


ชาวบ้านที่ยืนดูกันอยู่อ้าปากค้าง เห็นท่าไม่ดี วิ่งไปจับขาซามูไร ขอร้องให้

ซามูไรอดทนหน่อย อย่างน้อยขอให้คอยจนกว่าอุโมงค์จะเสร็จ หลวงพ่อไม่

หนีไปไหนหรอกครับ ให้ท่านทำงานของท่านให้เสร็จก่อนได้ไหม ซามูไร

หนุ่มคิดหนักแล้วพยักหน้า








แต่นิสัยของซามูไรหนุ่มคือเป้นคนใจร้อน คอยอยู่ 2 วัน 3 วัน 4 วัน

ก็ไม่เห็นงานมีวี่แววจะเสร็จ


คืนหนึ่งซามูไรนอนไม่หลับ ถือดาบเดินเข้าไปในอุโมงค์ ตั้งใจจัดการให้เรื่อง

มันจบสักที เข้าไปแล้วได้ยินเสียงก๊อกๆ ปรากฏว่าดึกมากแล้ว

ท่านก็ยังทำงานอยู่ ทำงานพลางสวดมนต์พลาง ซามูไรได้ยินเสียงขนลุก

ทำไม่ลงกลัวบาป เดินออกจากถ้ำด้วยจิตใจสับสน

"ทำไมคนเลวที่ฆ่าคุณพ่อจึงกลายเป็นคนบริสุทธิ์อย่างนี้?"


วันรุ่งขึ้น คณะขุดอุโมงค์มีอาสาสมัครเพิ่มหนึ่งคน.....

ซามูไรหนุ่มมาช่วยงาน ทำงานช่วยหลวงพ่อ อยู่ใกล้ชิด

คอยสังเกตนิสัยของท่าน น่าเลื่อมใสจริงไหม หรือท่านเสแสร้ง

อีกทั้งยังได้ชวนท่านสนทนาอยู่นานหลายเดือน

การสนทนาทำให้ทราบว่า ท่านมีความนึกคิดต่อสิ่งต่างๆ อย่างไร

เวลาผ่านไปอีกปีเศษ ชายหนุ่มก็ได้เลียนแบบคุณธรรมที่ตนได้พบเห็น

อย่างไม่รู้ตัว และพบว่าท่านซินก่ายเป็นพระภิกษุใจสิงห์อย่างแท้จริง

ในที่สุดอุโมงค์ลอดภูเขาก็สำเร็จ ไชโย !









หลวงพ่อวางเครื่องมือช้าๆ สวดมนต์อุทิศส่วนกุศลแล้วหันไปทาง

ซามูไรหนุ่ม เปล่งวาจาว่า.....

“เราสกัดเจาะอุโมงค์สำเร็จแล้ว ขณะนี้ก็ถึงเวลาที่คอของฉัน

จะต้องหลุดจากบ่าตามสัญญาแล้ว”

หลวงพ่อพร้อมแล้ว ! ท่านกล่าวพร้อมกับก้มศีรษะลงต่ำเพื่อรอรับคมดาบ

“หลวงพ่อจะให้ผมตัดศีรษะของผู้ที่เป็นอาจารย์ของผมได้อย่างไรครับ ?”

ซามูไรหนุ่มยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นน้ำตาไหลพราก

ความแค้นไม่มีเหลืออยู่อีกต่อไป บุคคลที่อยู่ตรงหน้าในเวลานี้

คืออาจารย์ที่สอนบทเรียนในชีวิตที่ยิ่งใหญ่ให้แก่เขาว่า


"เมื่อยังมีลมหายใจอยู่ เราสามารถกลับตัวเป็นคนดี

สามารถแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิตเราได้เสมอ

เหมือนอุโมงค์ที่เจาะผ่านภูเขา ไม่ว่าลึกและแข็งสักเพียงไหน

ถ้าตั้งใจจริงไม่ย่อท้อก็ต้องเจาะทะลุจนได้สักวัน"


ซามูไรหนุ่มตรงเข้ากอดหลวงพ่อที่ยืนอยู่

แล้วหมอบตัวลงกราบ ขอฝากตัวเป็นศิษย์


ปัจจุบัน ถ้าใครได้ไปเมืองบูเส็นที่ญี่ปุ่น ก็จะพบอุโมงค์ที่มีประวัติการเจาะด้วยแรงคน

ชื่อ aonodomon(อุโมงค์สีน้ำเงิน) ในสมัยแรกคดเคี้ยวไม่เกลี้ยงเกลา

ปัจจุบันเป็นอุโมงค์กว้าง 30ฟุต สูง 20 ฟุต เจาะทะลุภูเขายาว 185 เมตร








ท่านซินก่ายเจาะอุโมงค์ทะลุแล้ว ท่านล่ะครับ เจาะตัวเองทะลุแล้วหรือยัง ?


ที่มา : จากนิทานเซ็น เล่าเรื่องโดย พระอาจารย์ชยสาโร

คัดซ้ำเป็นธรรมทานโดยวนารักษ์

ภาพประกอบ วนารักษ์

ขอบคุณภาพอุโมงค์จากอินเตอร์เน็ต















Create Date :03 เมษายน 2555 Last Update :4 เมษายน 2555 21:04:26 น. Counter : Pageviews. Comments :44