bloggang.com mainmenu search
ถนนสายนี้มี

ตะพาบโครงการที่ 52”เรื่องบังเอิญ”

ให้เขียนเรื่องภายใต้หัวข้อเรื่องบังเอิญ

ขอให้ชื่อตอนนี้ว่า มหัศจรรย์หรือบังเอิญ




มหัศจรรย์หรือบังเอิญ







เรื่องบังเอิญหมายถึง

เหตุการณ์ที่เกิดโดยไม่คาดฝัน เป็นคำง่ายๆที่ทุกคนพูดกันติดปาก

แต่ในคำๆนี้มีความหมายซ่อนอยู่หลายแง่หลายมุมที่น่าสนใจ


เหตุการณ์บังเอิญเล็กๆน้อยๆสำหรับคนบางคนที่เป็นคนช่างสังเกต

อาจสร้างปรากฏการณ์เปลี่ยนโลกก็ได้

เช่น บังเอิญมีผลแอ๊บเปิ้ลลูกหนึ่งตกใส่ศีรษะของท่านเซอร์ไอแซค นิวตัน

ทำให้ท่านค้นพบทฤษฎีแรงโน้มถ่วง และกฏสามประการของนิวตัน

จากความรู้พื้นฐานเรื่องนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนโลกเข้าสู่ยุคการปฏิวัติ

อุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19 เกิดเครื่องจักรกลชนิดต่างๆขึ้นมา ทำให้โลก

ของเราเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง


ขณะที่อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง กำลังทำการทดลองเพาะเลี้ยงเชื้อ

แบคทีเรียอยู่นั้น บังเอิญมีเชื้อราสีเขียวเกิดขึ้นในจานเพาะเชื้อ รอบๆเชื้อรา

แบคทีเรียไม่สามารถขึ้นได้ ทำให้เกิดการค้นพบยาปฏิชีวนะเป็นครั้งแรกของ

โลก ขื่อว่ายาเพนนิสซิลินและทำให้มนุษย์ใช้เป็นยารักษาอาการติดเชื้อใน

ร่างกาย ช่วยรักษาชีวิตมนุษย์ได้อย่างมหาศาล






ผมเคยอ่านหนังสือของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด

ในศตวรรษที่ 20 เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพที่เป็นที่มาของระเบิดนิวเคลียร์

และทำให้มีการพัฒนาอันยิ่งใหญ่ทางฟิสิคส์มากที่สุด

และนี่คือข้อความบางส่วนที่อยากมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ

อ่านแล้วจะได้แง่คิดดีๆเกี่ยวกับชีวิตที่แสนมหัศจรรย์หรือบังเอิญ

ในสายตาของท่านผู้นี้


"มีสองวิธีในการใช้ชีวิต คือ

หนทางหนึ่งไม่มีอะไรที่มหัศจรรย์เลย

อีกอันหนึ่ง ทุกสิ่งล้วนเป็นความมหัศจรรย์
”


“คุณค่าของมนุษย์อยู่กับสิ่งที่เขาให้

ไม่ใช่ความสามารถในการแสวงหา”


“มีเพียงชีวิตเพื่อผู้อื่นเท่านั้นที่มีคุณค่าแก่การมีชีวิต”


“ความปีติที่ได้รับจากการรับรู้และประจักษ์แจ้ง

คือของขวัญอันยิ่งใหญ่จากธรรมชาติ”


“บุคคลจะเริ่มมีชีวิตที่แท้จริง

ก็ต่อเมื่อเขาสามารถดำเนินชีวิตโดยหลุดพ้นจากตัวตน”


เมื่ออ่านแล้วก็ให้แง่คิดที่ดีงามกับชีวิตของเราเป็นอย่างยิ่ง





สำหรับคนธรรมดาๆอย่างเรานั้นท่านคงคิดว่าเราอาจบังเอิญที่ได้เกิดมาบน

โลกนี้ ไม่ได้มีความหมายสลักสำคัญอะไรมากนัก


แต่การได้เกิดมาเป็นชาวพุทธและเป็นคนไทยนี้ทำให้เราได้

สิ่งที่ได้มาโดยยากยิ่งถึงสี่ประการตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้คือ


1.การได้เกิดมาเป็นมนุษย์

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นเป็นเรื่องยากมาก

ต้องมีบุญอย่างมหาศาลเหลือประมาณ

อุปมาเหมือนเต่าตาบอดตัวหนึ่งดำน้ำอยู่ในทะเล ทุกๆ 100 ปี เต่าตาบอดตัว

นั้นจะโผล่หัวขึ้นมาจากทะเลครั้งหนึ่ง ในทะเลมีห่วงเล็กๆ ขนาดใหญ่กว่าหัว

เต่าหน่อยหนึ่งลอยอยู่ 1 ห่วง โอกาสที่เต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่ขึ้นมา แล้วหัว

สวมเข้ากับห่วงพอดียากเพียงใด โอกาสนั้นก็ยังมีมากกว่า

การที่เหล่าสรรพสัตว์จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์


ในบรรดาสัตว์มากมายทั้งหลายบนโลกนี้ไม่รู้กี่ล้านล้านตัว มีทั้งแมลง สัตว์

เลื้อยคลาน สัตว์น้ำ สัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมฯลฯ

ปริมาณมหาศาลนับไม่ถ้วน แต่เราก็มีบุญได้เกิดมาเป็นคนกับเขาคนหนึ่ง

ซึ่งเป็นอัตภาพที่ดีที่สุดบนโลกเสียนี้ด้วย นับว่ามีบุญไม่น้อยเลย






2.การดำรงชีวิตให้อยู่รอด

การที่เราเกิดรอดปลอดภัยไม่ตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์ อาการครบ 32 ประการ

ไม่พิการทางร่างกาย สติปัญญาสมบูรณ์ ได้รับการศึกษาพอสมควร

มีอาชีพมีรายได้เลี้ยงตัวเอง ได้อยู่ในเมืองไทยที่อุดมสมบูรณ์

มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิตรราชธรรม เปี่ยมไปด้วยน้ำพระทัย

อันหาประมาณมิได้ มีวัฒนธรรมผู้คนที่ดี ไม่มีภัยสงคราม

ไม่กันดารเดือดร้อนจนไม่มีกิน รอดจากโรคระบาด ภัยธรรมชาติอันร้ายแรง

ไม่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงจนเกินไป

ชีวิตของเราก็ยังพอจะหาความสงบสุขในชีวิตได้ไม่ยากนัก


3.การอุบัติของพระพุทธเจ้า

เราเกิดในสมัยพุทธกาลคือช่วงเวลาที่ยังมีธรรมะของพระพุทธเจ้าอยู่

ยังเป็นศาสนาที่ชาวพุทธเคารพบูชา เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

และยังมีคำสั่งสอนของท่านที่ทำให้เราหายสงสัย

ทั้งเรื่องราวในโลกนี้ ในโลกหน้า ทำให้เราไม่อ้างว้างจิตใจ

เรามีวัดวาอารามเต็มบ้านเต็มเมือง มีพระสงฆ์ มีพระธรรม

ให้ศึกษา มีตำราหนังสือธรรมะมากมายกว่าทุกประเทศในโลก

นี้เป็นเครื่องยืนยันว่าเรายังอยู่ในยุคสมัยของพระองค์ท่าน






4.การได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า

เรามีพระธรรมและมีพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเป็นผู้ชี้นำคำสอนและการ

ปฏิบัติตามคำสอนของพระศาสดาของเรา ท่านจะค้นพบคำสอนว่า ทุกข์และ

การดับทุกข์ทำอย่างไร นี่คือใจความสำคัญที่พระพุทธเจ้าของเราสอนไว้

มากที่สุด และจำเป็นที่สุดในการเป็นมนุษย์


แค่การได้เกิดมาเป็นคนไทยแบบบังเอิญๆเราก็ได้โชค ได้บุญมหาศาลถึงสี่

ชั้นด้วยกัน ต้องเรียกว่าสุดยอดกันเลยทีเดียวนะครับ


เหลือเพียงขั้นเดียวที่เราควรจะพยายามหาทางไปกันนั่นคือ

“ทำอย่างไรเราจึงจะไม่มีความทุกข์ ?หรือทุกข์ให้น้อยลง

หรือ ทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตที่มีความสุข ?”


อันนี้ก็ต้องศึกษาและปฏิบัติธรรมกันพอสมควร

เพราะขั้นนี้ไม่มีบังเอิญนะครับ

และอย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นชาวพุทธที่มีบุญสูงสุด

ที่ได้พบพระพุทธศาสนา

แต่ละทิ้งโอกาสอันดีนั้นแล้วไปมีความทุกข์จนเอาตัวไม่รอด

อย่าให้อายขายหน้า นก ปลา หมา แมว ที่ดูจะไม่มีความทุกข์

เพราะไม่เคยเห็นว่าหมาแมวจะทำหน้าเครียด นอนไม่หลับ

หรือเป็นโรคประสาท ให้เห็นกันเลยสักที







เหมือนที่มีพระพุทธวจนะกล่าวเตือนไว้ว่า

“บุคคลล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร”

“ผู้ที่มีความเพียรแม้พยายามแล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ

ก็ขึ้นชื่อว่ามิได้เป็นหนี้ต่อผู้ใด”

มาทำเรื่องบังเอิญๆของเรา ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ธรรมดาสามัญ

ให้เป็นความมหัศจรรย์ที่ได้มีชีวิตอย่างมีความสุข

และเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นบนโลกใบนี้กันเถิด


ขอฝากแง่คิดในเรื่องบังเอิญๆมาไว้แต่เพียงแค่นี้นะครับ ^^

***
***
***
***

ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะเข้ามาอ่านและช่วยติชม

ขอบคุณเพื่อนๆประจำบล็อกที่คอยให้กำลังใจกับ จขบ.ทุกๆวัน

ขอบคุณน้องแน๋วที่ช่วยทำเฮดบล็อกสวยงามอันใหม่ให้

ขอบคุณคุณลักษณ์ที่สอนเทคนิคการถ่ายและตกแต่งภาพสวยๆแบบนี้

ขอบคุณน้องฟ้าใสที่ช่วยแก้คำผิดให้ด่วนจี๋

ขอบคุณน้องเป็ดที่ทำให้มีงานตะพาบอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ขอบคุณที่บังเอิญมาเป็นสมาชิกบล็อกแก็งค์ที่แสนอบอุ่นแห่งนี้ ^^





















Create Date :21 มีนาคม 2555 Last Update :22 มีนาคม 2555 14:45:41 น. Counter : Pageviews. Comments :85