Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
13 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
Smile You ตกหลุมรักเข้าอีกแล้ว กับผู้ชายคนนี้ .. "คังฮยุนซู"



ถ้าใครกำลังมองหาซีรีย์เกาหลีที่พระเอก-นางเอกหน้าตาดี รักกันได้น่ารักน่าเอ็นดู บรรยากาศของเรื่องตลกเฮฮาเป็นคอมเมดี้ได้ใจ อบอุ่นโรแมนติก ทั้งในเรื่องความรักหนุ่มสาว และความรักครอบครัว สอดแทรกสาระดีๆ ต่อวิถีการดำเนินชีวิต

Smile You : คุณหนูตกอับกับนายกระจอก (ความยาว 45 ตอน) เป็นทางเลือกที่ดีเรื่องหนึ่ง

การชอบซีรีย์แต่ละเรื่อง ขึ้นอยู่กับใจใครใจท่าน ของอย่างนี้มันแนวใครแนวมัน กับเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นคอเกาหลี บางเรื่องเราก็ชอบเหมือนกัน บางเรื่องก็เคยมีที่รู้สึกต่างกันสุดขั้ว แต่สำหรับ Smile You การันตีกับเพื่อนคนนี้ไปอย่างไม่ยั้งใจไม่กลัวหน้าแหกในกรณีเพื่อนไม่ชอบ

“ถ้าดูแล้วไม่ถูกใจ ให้เอาแผ่นมาเขวี้ยงใส่หน้าได้เลย”

เพราะมั่นใจมาก ว่านางต้องคลั่ง

จากใจ คนรัก Smile You

*** Spoil ***



Smile You คือ เรื่องราวความรักของคังฮยุนซูและโซจองอิน ท่ามกลางความสัมพันธ์ขัดแย้งสุดอลเวงของสองครอบครัว เป็นซีรีย์ที่ดูแล้วได้ยิ้มกว้างขวาง ได้หัวเราะฮาๆ อย่างมีความสุข รู้สึกอบอุ่นใจ เพราะมีเนื้อหาความรัก “มากมาย” ที่ดูแล้ว "อิ่มเอม"มากกว่าซีรีย์ความรักเรื่องไหนๆ ที่เคยดูมา

และถ้าถามว่าชอบอะไรมากที่สุดในเรื่องนี้ คำตอบคือความฮาของพระเอก-คังฮยุนซู (แพ้ทางผู้ชายตลก)

ถ้าได้อ่านแค่ชื่อเรื่อง และเรื่องย่อ "คุณหนูตกอับกับนายกระจอก" คงไม่มีใจอยากดูซีรีย์เรื่องนี้สักนิด เพราะชวนให้เข้าใจว่าคงเป็นแนวดอกฟ้าร่วงกับหมาวัดเล่นของสูงที่ไม่ค่อยจะถูกกัน แต่โชคดีเหลือเกินที่ระหว่างเตร็ดเตร่อยู่ใน Youtube ได้หลงไปเจอโมเมนท์น่ารักๆ ของพระเอกนางเอกที่ถูกตัดต่อเป็น MV ประกอบเพลง เห็นแล้วน่ารักเกินห้ามใจ ถึงจะยาว 45 ตอนก็ขอสู้ เพราะนั่นเป็น 45 ตอนที่แสนจะคุ้มค่าที่ทำให้ Smile You กลายเป็นอีกหนึ่งซีรีย์ประทับใจในความทรงจำไปเลย แม้จะดูจบไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทุกคืนผ่านมาก็ยังคงเปิดซีรีย์ Smile You ดูซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่น และกำลังใช้ซีรีย์โศกนาฏกรรมมาช่วยเยียวยา เผือจะหายขาดจากอาการรักซึมลึกที่มีต่อ Smile You แล้วก็เลิกเปิดดูได้ซะที



ไฮโซแฟมิลี่ – ครอบครัวโซ โซจองกิล (Kang Suk Woo) ทำธุรกิจล้มละลาย ทำให้เขาพยายามจัดการให้โซจองอิน (Park Min Jung) ลูกสาวคนเล็กแต่งงานกับ ลีฮันเซ (Lee Kyu Han) ลูกชายเจ้าของบริษัท โกลบอล มอเตอร์ หวังจะใช้ฐานะของลูกเขยมาช่วยกอบกู้วิกฤติครอบครัว แต่ความลับเรื่องสถานภาพถังแตกได้ถูกเปิดเผยไปไปสู่ครอบครัวเจ้าบ่าวในวันแต่งงาน ลีฮันเซจึงถูกพ่อแม่บังคับให้เลิกกับโซจองอินแบบสายฟ้าแลบ เพราะไม่กล้าขัดคำสั่งที่อาจเสี่ยงถึงขั้นต้องชวดรับช่วงตำแหน่งประธานบริหารบริษัทฯ ต่อจากพ่อ ลีฮันเซจำต้องทิ้งโซจองอินระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินทางจะไปฮันนิมูนกัน



โลโซแฟมิลี่ – ครอบครัวคัง คังมันบ๊ก (Choi Bool Am) เป็นพนักงานขับรถเก่าแก่ของตระกูลโซ เคยรับใช้ใกล้ชิดพ่อของโซจองกิลที่เสียชีวิตไปแล้ว แม้จะอายุมากแต่เขาก็ยังคงภักดีต่อครอบครัวเจ้านายเก่าโดยรับใช้โซจองกิลต่อมา แต่โซจองกิลไม่ชอบใจที่โชเฟอร์คังคอยว่ากล่าวตักเตือน (ด้วยความหวังดี) จึงไล่คังมันบ๊กออกและจ้างพนักงานขับรถคนใหม่ สองครอบครัวเหมือนจะสิ้นสุดกันแค่นั้น ไม่มีเหตุอะไรให้ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีก อย่างที่โซจองกิลได้ลั่นวาจา .. อย่ามาพบเจอกันอีกต่อไป



แต่บุญคุณต่อชีวิตของเจ้านายเก่ามันลบล้างกันอย่างไรก็ไม่หมด อีกทั้งคุณหนูไฮโซ โซจองอิน ก็ดันมีสายสัมพันธ์แน่นเหนียวกับโชเฟอร์คังมานับตั้งแต่เธอเกิด เพราะเธอเป็นหลานรักของคุณปู่ และเธอก็เป็นลูกหลานเพียงคนเดียวภายในบ้านของครอบครัวโซ ที่มีน้ำใจไมตรีต่อคุณปู่คังมันบ๊ก เธอเรียกเขาว่าคุณปู่ด้วยความรักและนับถือ เมื่อปู่ของเธอเสียชีวิตไป คังมันบ๊กก็เหมือนกับเป็นตัวแทนคุณปู่ของเธอเอง



ในวันเดียวกันกับที่คุณหนูโซจองอินแห่งครอบครัวโซแต่งงาน คังฮยุนซู (Jung Kyung Ho ) ของครอบครัวคัง ลูกชายของคังซังฮุน (Chun Ho Jin ) และแบ๊กกึมจา ( Song Ok Sook) หลานชายของปู่คังมันบ๊ก ได้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หลังจากที่ปู่ของเขาส่งเสียให้ไปเรียนต่อจนจนปริญญาเอกด้านวิศวกรรมเครื่องยนต์และกำลังจะกลับมารับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

ความสำคัญของโซจองอิน-หลานสาวของครอบครัวเจ้านายเก่าที่คังมันบ๊กรักและเอ็นดูมีมากขนาดไหน? ก็ขนาดที่ไม่ยอมให้ลูกชายลูกสะใภ้อยู่รอต้อนรับคังฮยุนซูในวันที่เขากลับมาจากต่างประเทศ แต่กลับสั่งให้ลูกชาย-ลูกสะใภ้ ไปร่วมงานแต่งงานของโซจองอินแทน



คังซังฮุน และ แบ๊กกึมจา (พ่อแม่ของฮยุนซู) ไม่ชอบครอบครัวโซมาแต่ไหนแต่ไร เพราะคังซังฮุนไม่กินเส้นกันกับโซจองกิลลูกชายเจ้านายของพ่อมาตั้งแต่เล็ก ซังฮุนไม่ชอบที่จองกิลชอบดูถูกพ่อของตน-และมักก่อปัญหามาให้สารพัด ตั้งแต่เด็กยันแก่ซังฮุนและจองกิลรู้จักกันมาก็ 50 ปี แต่เป็น 50 ปีที่ไม่เคยรู้สึกดีต่อกันและกัน แบ๊กกึมจา-ภรรยาของซังฮุนก็ไม่ชอบหน้าโซจองกิลและกงจูฮี (Heo Yoon Jung) ภรรยาไฮโซของเขาที่ชอบทำตัวเลอเลิศ (ประสาสะใภ้คนรวย) และไม่เคยละเว้นจะดูถูกคนจนผู้ด้อยกว่า แต่ไม่ว่าอะไรที่เกี่ยวกับครอบครัวโซ สองสามีภรรยาไม่เคยขัดความต้องการของคุณปู่ได้



ทางด้านคังฮยุนซู เขากลับมาจากต่างประเทศด้วยความหวังและพลังใจเต็มเปี่ยมกับการจะสานต่อความสัมพันธ์รักแรกที่รักเขาอยู่ข้างเดียวมานานกว่า 8 ปี ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย สมัยไปเป็นทหารในกองทัพ และสมัยไปเรียนต่อต่างประเทศ ความรักของคังฮยุนซูไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป กลับมาครั้งนี้เขามีปณิธานมุ่งมั่นจะตามตื๊อสาวรักแรกของเขาอย่างจริงจัง ให้มันรู้กันไปถ้าการตื้ออย่างจริงใจจะไม่ครองโลก

และคังฮยุนซูคงยากจะเปลี่ยนใจไปจากความรักแรกดั่งเช่นเคยเป็นมา
ถ้าหากโชคชะตาจะไม่นำพาใครคนหนึ่งมาพบเจอ



เธอ..ในชุดแต่งงานสีขาวชายกระโปรงขาดรุ่ย เดินเท้าเปล่า ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเลอะเทอะ ดวงตาขุ่นขวาง ท่าทางสติไม่สมประกอบ เธอ..ที่เกือบจะทำให้รถบัสที่เขานั่งมาจากสนามบินเกิดอุบัติเหตุชนรถแท็กซี่บนถนนไฮย์เวย์ เธอ..ที่ผ่านเข้ามาในสายตา แว่บหนึ่ง ก่อนจะลับตาจากไป และเขาคงไม่ได้พบเห็นเธออีกในชีวิต ..แน่นอน (ลาก่อน คนไม่เต็ม)

แต่แล้วฮยุนซูก็ได้พบเธออีกครั้งที่ป้ายรถเมล์ จากสภาพที่ฮยุนซูเห็น เธอต้องเป็นเจ้าสาวสติแตกที่ไม่ปกติแน่ๆ และเขาควรต้องอยู่ให้ห่างเข้าไว้

โชคร้าย ....ที่นั่งข้างฮยุนซูบนรถเมล์ดันว่างอยู่พอดีเมื่อเธอเดินขึ้นมาก่อนที่รถเมล์จะออก ขอกันท่าอย่างไม่เป็นสุภาพบุรุษสักครั้งด้วยการกันที่ไม่ให้เธอนั่ง แต่มันก็ไม่ได้ผล เธอเอ่ยปากถามถึงป้ายที่เธอต้องการจะลง แหม่.. ลงป้ายเดียวกันกับเขาซะด้วย รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย ฮยุนซูจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้จักป้ายที่ว่านั้น และลงจากรถไปเมื่อถึงจุดหมายโดยไม่บอกเจ้าสาวสุดโทรมที่นั่งอยู่ข้างๆ สักคำ แต่เธอก็ยังอุตส่าห์ลงมาถูกได้ที่ป้ายเดียวกัน ฮยุนซูหาข้ออ้างเมื่อจองอินตั้งท่าจะเอาเรื่องที่เขาแกล้งไม่รู้จักป้ายที่เธอถามถึง แต่ดูแล้วคงยากจะแก้ปัญหาด้วยวิธีเจรจากับคนไม่เต็ม ฮยุนซูจึงตัดสินใจยกกระเป๋า แล้ว ...วิ่งหนี

แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เมื่อเขาได้พบเธออีกครั้งในเวลาต่อมา



มีคนว่าไว้ คนแปลกหน้าพบกันสามครั้งในวันเดียวอาจเป็นบุพเพสันนิวาสของการเป็นเนื้อคู่ แต่กรณีนี้น่าจะเป็นเนื้อคู่อลเวง ตามที่ฮยุนซูได้มีส่วนช่วยให้เธอไปลงเอยพักพิงที่สถานีตำรวจในฐานะคนบ้า คนจรจัด หรืออะไรก็แล้วแต่ที่โดนใส่กุญแจมือเอาไว้

และนับจากคืนนั้น ชีวิตของฮยุนซู และครอบครัวคัง ก็เริ่มถูกความวุ่นวายเข้าครอบงำ อลหม่านด้วยความครื้นเครง อลเวงด้วยการคร่ำครวญ (หวนไห้ด้วย) สุดจะยุ่งเหยิง

แม่ของเขาแบ๊กกึมจา เธอเป็นสุดยอดของความปากร้าย-จู้จี้ขี้บ่น แต่ยัยตัวร้ายอีกคน -โซจองอิน ก็เป็นคนปากแสบมิใช่เล่นๆ เธอมักทำให้เขาต้องหัวปั่น และมักทำให้แม่ของเขาต้องหัวเสีย ด้วยพฤติกรรมต่างๆ นานา ที่ชวนความดันขึ้น



บ้านของครอบครัวคัง นอกเหนือจากคุณปู่เคยเป็นคนขับรถของครอบครัวโซ เขายังเปิดคาร์เซนเตอร์เป็นธุรกิจของครอบครัว แบ่งห้องในบ้านห้องหนึ่งให้คนเช่า ฮยุนซูจึงต้องอาศัยห้องใต้ดินเป็นห้องนอนมาตั้งแต่เล็ก เมื่อเขาเรียนจบกลับมา แม่จึงอยากให้เขามีห้องเป็นของตัวเองไม่ต้องอุดอู้อยู่ที่ห้องใต้ดิน จึงจัดแจงตกแต่งห้องที่เพิ่งว่างจากคนเช่าคนก่อนให้เป็นห้องใหม่ ติดวอลเปเปอร์ซื้อเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้มาเตรียมให้ลูกชาย ซึ่งเป็นการขัดคำสั่งคุณปู่ผู้มีอำนาจสูงสุดในบ้านและเห็นว่าห้องใต้ดินไม่ได้แย่อะไร (กว้างขวางน่าอยู่มากด้วย) และฮยุนซูก็เคยอยู่มาแต่เล็กจนโต ควรจะเก็บห้องเอาไว้ให้เช่าเพื่อเป็นรายได้แก่ครอบครัวมากกว่า



คุณปู่คังมันบ๊กเป็นคนใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบวินัย ขยันขันแข็งในการทำมาหาเงิน รู้จักประหยัดอดออมมาทั้งชีวิตจนสามารถซื้อบ้าน ลงทุนทำคาร์เซนเตอร์ และช่วยส่งเสียฮยุนซูไปเรียนต่อต่างประเทศได้ (แต่พระเอกก็ต้องทำงานช่วยเหลือตัวเองด้วย) เพราะชีวิตทุกคนต้องพึ่งพาคุณปู่เสมอมา ดังนั้นถึงแม้พ่อแม่ของเขาจะไม่มีใครเห็นด้วยที่คุณปู่รับเอาคุณหนูไฮโซจากตระกูลเจ้านายเก่าเข้ามาในบ้าน ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากบ่นว่าอย่างอารมณ์เสีย เพราะไม่มีใครจะกล้าคัดค้านคุณปู่ได้ตรงๆ



เวลาต่อมาเมื่อบ้านของโซจองกิลถูกยึด คุณปู่จึงช่วยเหลือให้ครอบครัวจองกิลย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านด้วย เพื่อเป็นการตอบแทนคำสัญญาที่เคยมีต่อพ่อของโซจองกิล ซึ่งเป็นเจ้านายที่มีบุญคุณเคยช่วยเหลือคุณปู่มาก่อน พ่อของโซจองกิลมองการณ์ไกลและรู้ดีว่าในอนาคตลูกชายไม่เอาไหนของตนอาจนำพาครอบครัวและกิจการไม่รอด จึงได้ฝากฝังครอบครัวไว้กับคุณปู่ให้คอยช่วยตักเตือนดูแล



การรับครอบครัวโซจองกิลมาอยู่ด้วยทำให้ครอบครัวของคังฮยุนซูค่อนข้างยุ่งเหยิง เพราะโซจองกิลและครอบครัวทำงานการอะไรกันไม่เป็นสักคน ทั้งหมดเคยชินกับการใช้เงิน แล้วมาอาศัยอยู่โดยไม่คิดช่วยเหลืองานการในบ้าน อีกทั้งยังวางมาดข่มคุณปู่กับครอบครัวที่เป็นเพียงคนขับรถ โซจองกิลหลอกเงินคุณปู่ไปซื้อตั๋วเครื่องบินไปหาลูกชายคนโตแต่ถูกจับเสียก่อน คุณปู่จำต้องไปติดต่อเข้าพบคนเกี่ยวข้องที่เคยทำธุรกิจกับเจ้านายคนเก่า ให้เห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีต่อพ่อของโซจองกิลในอดีต เพราะพ่อของโซจองกิลเป็นที่รู้จักดี เช่นเดียวกับที่คุณปู่คังมันบ๊กก็เป็นคนขับรถที่ได้รับการรู้จักนับถือกัน จึงยอมทำตามคำขอร้องของคุณปู่เรื่องวิธีจัดการหนี้สินที่จะช่วยให้โซจองกิลไม่ต้องติดคุก แต่ครอบครัวของโซจองกิลก็ถึงคราวสิ้นเนื้อประดาตัว



แทนที่จะเห็นความดีของคุณปู่ผู้เอื้อเฟื้อให้ครอบครัวจองกิลย้ายไปอยู่ที่บ้านชั่วคราวเพื่อหาทางตั้งต้นชีวิตใหม่ โซจองกิลกลับยังคงหยิ่งผยองและวางตัวเป็นเจ้านาย ทำให้คังซังฮุน (พ่อของฮยุนซู) ไม่พอใจมาก ที่พ่อของเขายังคงโดนดูถูกดูแคลนและยังคงถูกเรียกว่า "โชเฟอร์คัง" ทั้งที่เขาก็ถูกจองกิลไล่ออกจากตำแหน่งนั้นมานานแล้ว



ครอบครัวโซ พยายามติดต่อหาลูกชายคนโตโซซองจุนที่อเมริกา (Lee Chun Hee) เพราะจองกิลได้ยักย้ายถ่ายโอนสมบัติส่วนหนึ่งไปให้ ตั้งแต่ธุรกิจเริ่มมีปัญหาและจะถูกฟ้องละลาย จองกิลหวังจะใช้ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นมากู้สถานการณ์วิกฤติของครอบครัวได้ ทำให้ยังมีแก่ใจจะดูถูกดูแคลนครอบครัวคังอย่างไม่แยแสคำว่าบุญคุณ เพราะคิดแต่ว่าพ่อของเขาเคยมีบุญคุณท่วมหัวต่อครอบครัวนี้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่คังมันบ๊กจะต้องช่วยเหลือเขาในยามเดือดร้อนและปรนนิบัติดูแลครอบครัวของเขาเสมือนเป็นครอบครัวเจ้านายเช่นเคยเป็นมา



แต่กลับกลายเป็นว่า ลูกชายคนโต โซซองจุน นอกจากจะล้มเหลวในการเป็นโปรกอล์ฟ ยังไปติดการพนันที่ลาสเวกัสและผลาญทรัพย์สินเงินทองที่พ่อของเขาโอนให้ไปกับการเล่นพนันจนหมดตัว และหนีหนี้จากอเมริกากลับมาเกาหลี มาขออาศัยอยู่ที่บ้านคุณปู่ด้วยอีกคน และนิสัยก็ไม่ต่างจากแต่ละคนในครอบครัวคือ ไม่เอาถ่าน งานการไม่คิดจะทำ



ครอบครัวโซ ทำให้ครอบครัวคังอยู่ไม่เป็นสุข เมื่ออยู่กันหลายคน แต่ไม่มีใครสักคนที่ทำงาน แม่ของฮยุนซูต้องทำงานบ้านอยู่คนเดียว เหนื่อย หนัก อารมณ์เสีย และปากก็....บลา บลา บลา บรรยากาศของบ้านเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัวและเสียงบ่นว่าอารมณ์เสีย พ่อของฮยุนซูก็อารมณ์ไม่ดีที่ปู่คังต้องมาพินอบพิเทาต่อจองกิล ลูกชายเจ้านายเก่า ความภักดีในอดีตที่ไม่อาจตัดรอนมาถึงปัจจุบันและยังเอาใส่ใจดูแลพวกเขาในฐานะแขกอย่างดี
พ่อๆ แม่ๆ ก็มีปัญหา ลูกๆ ก็มีปัญหา เมื่อลูกสาวครอบครัวโซ ก่อแต่เรื่องให้ลูกชายครอบครัวคังต้องคอยตามประกบ (เพราะไม่เช่นนั้น ความวุ่นวายอาจจะบานปลายยิ่งกว่าเดิม)



ยัยตัวร้ายโซจองอิน เธอเป็นคนฉลาดดังที่แม่ของเขาเรียกว่า “ยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์” เธอใช้ความใสซื่อประจบคุณปู่ของเขาอย่างน่ารัก แต่ในอีกมุมเธอร้ายกาจ อารมณ์ร้อน และดื้อดึง แถมยังดื่มจัด ..เมาเละเทะ ให้เขาต้องเดือดร้อน แล้วทั้งที่เมาแอ๋เธอยังอุตส่าห์ล่อลวงให้เขาคายความลับเรื่องความรักในหัวใจไปจนหมดไส้ เพราะมันอึดอัดใจกับรักกี่ทีก็ไม่ดีสักหน รักข้างเดียวรักทรหดมานานถึง 8 ปี เขาเลยเผลอระบายออกไปกับคนเมา ใครจะคิดว่าเมาแอ๋ขนาดนั้นเธอจะยังอุตส่าห์จำได้ในรายละเอียด เก็บมาล้อเลียน เก็บมาซ้ำเติม โซจองอินเรียกรักแรกในดวงใจของเขาว่า "สาวนักตบ" (เพราะเธอตบหน้าฮยุนซูอยู่หลายครั้ง)



และคังฮยุนซูเพิ่งได้รู้ในวันที่ครอบครัววุ่นวายของโซจองอินได้ย้ายมาอยู่ที่บ้าน เธอมีพี่สาวแท้ๆ อยู่หนึ่งคน และคนๆ นั้นก็คือรักแรกรักเดียวในดวงใจของคังฮยุนซูเอง

โซจองคยอง (Choi Jung-Yoon) เป็นลูกสาวคนโตของครอบครัวโซ เธอแตกต่างจากสมาชิกครอบครัวตรงที่มีหน้าที่การงานมั่นคง เธอใฝ่เรียนและกลายเป็นหมอ ขณะที่น้องสาวโซจองอินเป็นคนรักสุขสบาย การเกิดมาในครอบครัวร่ำรวยและเป็นหลานรักของคุณปู่ทำให้เธอไม่ใส่ใจเรื่องศึกษาเล่าเรียน คิดแค่ว่าจะเรียนทำไมมากมาย ในเมื่อโตขึ้นก็ต้องแต่งงานกับผู้ชายดีๆ จากครอบครัวร่ำรวยที่จะดูแลและมอบความรักต่อเธอและมีชีวิตที่สุขสบายต่อไปอย่างไม่มีอะไรต้องห่วง



แต่โซจองอินน้องสาวคนเล็กก็เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนและรักครอบครัวขณะที่จองคยองพี่สาวคนโต เป็นคนเย็นชาที่ห่างเหิน แม้ครอบครัวจะอยู่ในภาวะวิกฤติเธอก็ไม่ค่อยให้ความใส่ใจใคร (นอกจากตัวเอง) เท่าที่ควรจะเป็น



เมื่อบ้านไม่มีอีกต่อไป จองคยองก็ไม่คัดค้านที่ครอบครัวของเธอจะไปอยู่อาศัยที่บ้านคุณปู่ สวนตัวเธอเองก็ย้ายไปอยู่อพาตเมนท์ที่แฟนของเธอหาให้อย่างไม่มีแก่ใจจะเอื้อเฟื้อขอพาครอบครัวไปอยู่ด้วย มีเพียงแวะเวียนมาเยี่ยมพวกเขาที่บ้านคุณปู่เป็นครั้งคราว กับคังฮยุนซูที่ตลอด 8 ปี ผ่านมาเธอปิดกั้นโอกาสและไม่เคยเห็นค่าในความพยายามของเขา การได้พบกันบ่อยครั้งขึ้นแม้จองคยองจะไม่ตั้งใจเปิดโอกาส แต่เธอก็ได้รู้จักฮยุนซูมากขึ้นและซึบซับในความซื่อตรงจริงใจของเขา คังฮยุนซูที่ยังรักและหวังดีต่อจองคยองแม้ว่าจะโดนเธอปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม



การอยู่ด้วยกันของครอบครัวคังและครอบครัวโซในแต่ละวันไม่ความสงบสุขเกิดขึ้นในบ้านเลย โดยเฉพาะครอบครัวโซที่สร้างปัญหาขึ้นมากมาย คุณปู่ที่เคยต้อนรับครอบครัวโซในฐานะแขกก็ย่อมต้องมีภาวะฟางเส้นสุดท้าย และด้วยสำนึกในบุญคุณของเจ้านายเก่า ที่คุณปู่ควรจะตอบแทน การจะดูแลครอบครัวโซ คุณปู่จำเป็นต้องทำอย่างถูกต้องด้วยวิธีรักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี คุณปู่จึงเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืนด้วยการประกาศใช้ไม้แข็งเพื่อดัดแปลงนิสัยของทุกคนในครอบครัว



พวกเขาไม่ใช่แขกอีกต่อไป แต่เป็นแค่คนอาศัยที่ต้องเคารพกฏเหล็กของบ้าน สมาชิกครอบครัวโซจองกิลทุกคนต้องทำงาน ใครไม่ทำงานไม่มีสิทธิ์กินข้าว และต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบต่างๆ ของบ้านทุกอย่าง อย่างเคร่งครัดด้วย ถ้าใครไม่ทำ หรือทำไม่ได้ ก็ไสหัวออกจากบ้านไปได้เลย เพราะคุณปู่ไม่มีใจจะรับเลี้ยงพวกไร้ประโยชน์

แม้แต่ละคนจะดิ้นรนคัดค้านโดยเฉพาะโซจองอินที่รู้ว่าคุณปู่รักเธอแค่ไหน ไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่ใจร้ายกับเธอ แต่ผิดคาด เพราะคุณปู่ได้เชือดไก่ให้ลิงดูด้วยการไล่จองอินที่คุณปู่รักมากว่าใครออกจากบ้านไปเป็นคนแรก พร้อมกันกับลูกสะใภ้เจ้าปัญหา แบ๊กกึมจา – แม่ของคังฮยุนซู



โซจองอินก่อเรื่องให้ฮยุนซูโอปป้าต้องปวดหัว และ .. เป็นห่วง อีกแล้ว
แบ๊กกึมจาแม่ของเขาเป็นคนดื้อดึง ส่วนจองอินเป็นคนสุดดื้อรั้น การกระเด็นออกจากบ้านไปด้วยกัน ทำให้สองนางต่างวัยที่ไม่ค่อยลงรอยกันนักในระยะแรก เริ่มมีความสนิทชิดเชื้อทางใจต่อกันมากขึ้น แม้ว่าทางวาจาจะยังเป็นคู่จิกกัดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ฮยุนซูต้องคอยตามเป็นห่วงจองอินและแม่ของเขา พยายามเกลี้ยกล่อมจองอินให้หาทางพาแม่ของเขากลับบ้าน

กระทั่ง ศรีสะใภ้ แบ๊กกึมจา ผู้ครองตำแหน่งแม่บ้านที่สุดจำเป็นต่อชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนภายในบ้าน คุณปู่ยังไม่เอาไว้ กระทั่งหลานรักนอกไส้อย่างโซจองอิน คุณปู่ยังไม่ลังเลจะขับไล่ไสส่ง แล้วนับประสาอะไรกับคนอื่นๆ ที่เหลือกันเล่า

ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะครอบครัวคัง หรือครอบครัวโซ เมื่อทุกคนไม่มีทางไปและจำเป็นต้องมีที่ซุกหัวนอน จึงจำยอมทำตามเงื่อนไขของคุณปู่ ครอบครัวคังจำต้องยอมให้ครอบครัวโซอยู่ร่วมกันในบ้านลดการต่อต้านลง และครอบครัวโซทุกคนก็ต้องเริ่มลงมือหยิบจับทำงาน



ฮยุนซูได้รับการติดต่อจากบริษัทโกลบอล มอเตอร์ในเรื่องของงานวิศวกรรมเครื่องยนต์ที่เขาได้ทำการวิจัยพัฒนาเอาไว้เมื่อครั้งศึกษาอยู่ต่างประเทศ และบริษัทโกลบอลมีความสนใจจะนำมาพัฒนาต่อให้ใช้งานได้จริงผลิตเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด แต่ฮยุนซูปฏิเสธเพราะเขาไม่อยากร่วมงานกับลีฮันเซ ด้วยถือคติเลือกทำงานกับคนก่อนจะเลือกทำงานกับเงิน ฮยุนซูไม่ชอบฮันเซเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เขาได้กระทำต่อจองอิน ทั้งเรื่องที่ทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน และที่ดูถูกดูแคลนเธอต่อหน้าต่อตาเขาในวันนัดเจรจาเรื่องงานกันครั้งแรก เป็นการพบกันโดยบังเอิญและฮันเซไม่รู้ว่าคังฮยุนซูและโซจองอินรู้จักกัน การกระทำของฮันเซยิ่งทำให้ฮยุนซูปฏิเสธจะร่วมงานกับเขาได้อย่างไม่ลังเลใจกับผลตอบแทนที่ได้รับการเสนอ เพราะถูกฮยุนซูปฏิเสธให้เจ็บใจ ฮันเซจึงตามจิกไปที่มหาวิทยาลัย เสนอโครงการร่วมทุนและเงินสนับสนุนทุนวิจัยต่อมหาวิทยาลัย ทำให้ฮยุนซูไม่อาจเลี่ยงการผลักดันจากทางมหาวิทยาลัยเพื่อผลประโยชน์ทางทุนวิจัยที่ทางมหาวิทยาลัยจะได้รับ จึงจำใจต้องรับหน้าที่เป็นหัวหน้าโปรเจ็กต์ในการวิจัยพัฒนาร่วมสร้างรถยนต์นวัตกรรมใหม่ให้กับบริษัทโกลบอล มอเตอร์



การได้รู้ว่า จองอินรู้จักกับฮยุนซู ทั้งยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ฮันเซที่ยังคงรักจองอินอยู่และหวังว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายเขาจะยังเก็บเธอกลับมาคืนดีกันได้ แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นคังฮยุนซู ฮันเซเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจ จึงเริ่มกลับมาตอแยจองอินเพื่อขอคืนดี แต่เธอกลับไม่มีทีท่าว่าจะเหลือเยื่อใยให้เขาสักนิด ฮันเซยิ่งหวั่นใจ รีบหาทางใกล้ชิดจองอินและตามรังควานเธอหนักขึ้น กระทั่งส่งผลให้จองอินต้องยอมมาทำงานที่บริษัทโกลบอลมอเตอร์ของฮันเซ เพราะเหตุผลจำเป็นบางอย่างทางการเงิน และเหตุผลความจำเป็นอย่างหนึ่งทางจิตใจ (อยากอยู่ใกล้ๆ พี่ฮยุนซู) แม้จะต้องอดทนต่อเสียงซุบซิบนินทาที่เธอเป็นอดีตเจ้าสาวผู้ถูกทิ้ง และต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ จากสายตาคุณหญิงแม่ของฮันเซด้วย แต่ความสุขประการหนึ่งที่ชดเชยความทุกข์ได้คือ พี่ฮยุนซู ทำงานอยู่ที่นั่น



สรรพนามเรียกขานเปลี่ยนไปอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อได้อยู่ร่วมบ้านและคุ้นเคยกัน “ ฮยุนซูโอปป้า" หรือ "พี่ฮยุนซู" เป็นคำที่ฟังแล้วรื่นหู ชวนชื่นใจ แต่เวลาโมโหก็ "นาย ๆ !!" อย่างไม่สนใจลำดับอาวุโส ไม่ค่อยเจอซีรีย์เรื่องไหนที่พระเอกนางเอกจะเรียกกันอย่างสนิทว่า "โอปป้า" ส่วนใหญ่ตัวอิจฉา หรือนางรองจะใช้อ้อนพระเอกมากกว่า แต่ว่าเรื่องนี้นางเอกเรียกพระเอกว่าโอปป้าตั้งแต่ตอนแรกๆ เสียงนางเอกเวลาเรียก “โอปป้า” น่ารักมากมาย แต่ที่น่ารักมากกว่าอีกคือเวลาพระเอกแทนตัวเองว่า “โอปป้า” เนียนๆ เป็นธรรมชาติดีจริง แม้ว่าตัวจริง จองคยองโฮจะอายุน้อยกว่าลีมินจองปีนึงก็ตาม



การอยู่ร่วมบ้านทำให้เริ่มรู้จักน้ำใสใจจริง เรื่องยุ่งเหยิงที่จองอินก่อ ทำให้เธอรู้ว่า พี่ฮยุนซูเขาใจดีกับเธอมากแค่ไหน (แม้ว่าจะโมโหเธอมากด้วยก็ตาม) ความอ่อนโยนมีน้ำใจที่เขามีต่อครอบครัวของเขาและครอบครัวของเธอที่อยู่อาศัยร่วมบ้าน ความมั่นคงที่เขามีต่อรักแรกไม่เปลี่ยนแปลง ความใส่ใจทุ่มเทในรักที่มีให้พี่สาวของเธอตลอดมา แม้ไม่เคยได้อะไรตอบแทน ก็ยังรักอยู่อย่างนั้นเหมือนคนโง่ เขาคือคังฮยุนซูที่จองอินได้ระบุคุณสมบัติติดผนังชัดเจนด้วยอารมณ์เคืองขุ่น "งี่เง่า” แต่ก็เป็นคังฮยุนซู คนงี่เง่าคนนี้ที่จองอินเริ่มมีใจให้ และตกหลุมรักเขาในที่สุด



คังฮยุนซูก็ได้รู้จักโซจองอินมากขึ้นเหมือนกัน จากภาพลักษณ์ร้ายๆ ที่เขาเคยเห็น แท้จริงเธอเป็นคนอ่อนโยนมีน้ำใจ และน่ารักมากแค่ไหน แม้ความขัดแย้งของสองครอบครัวไม่มีท่าทีจะปรองดองกันได้ แต่ท่ามกลางความวุ่นวาย บ้านก็ยังมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เพราะความแจ่มใสของโซจองอิน

ความรักของสองหนุ่มสาวเริ่มก่อตัวขึ้นเงียบๆ ภายในหัวใจ งอกงามและผลิบาน ทนทานผ่านบททดสอบของการเป็นรักแท้ที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเจอทั้งปัญหารักแรกตามรบกวน รักเก่าตามรังควาน ครอบครัวที่ต่อต้านสุดฤทธิ์เพื่อกีดกันไม่ให้รักกัน ฝ่ายหนึ่งไม่เอาเป็นลูกเขย อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่ยอมรับให้เป็นสะใภ้ ปัญหาบานปานปลายเจ็บช้ำน้ำใจกันถ้วนหน้า ไหนจะเรื่องราวความสัมพันธ์และรักเก่าในอดีตของพ่อและแม่ ปัญหามรดก เศรษฐกิจเงินทอง การทะเลาะเบาะแว้งของสองครอบครัวจึงไร้วี่แววสัญญาณสงบศึก



คังฮยุนซูและโซจองอิน จะรักกันไม่หวั่นลมรำเพยของรักเก่า และรักกันมั่นคงฟันฝ่ามรสุมความขัดแย้งของสองครอบครัวไปสู่หนทางการสมานฉันท์ ผนึกความรักของเราสอง แล้วปรองดองเป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อมอบความสุขสงบในบั้นปลายชีวิตตอบแทนต่อคุณปู่คังมันบ๊ก เสาหลักของครอบครัวที่กำลังเริ่มผุพังไปตามกาลเวลา



มีอยู่ไม่กี่เหตุผลที่ทำให้ Smile You กลายเป็นซีรีย์สุดรัก

หลงรักพระเอกหักปักหัวปำ "คังฮยุนซู" แม้จองคยองโฮ ผู้รับบทนี้จะไม่หล่อขั้นเทพแต่ก็ถือว่าหน้าตาดีมากแล้ว คาแร็คเตอร์ในเรื่องก็ไม่ได้เลิศเลอเหมือนพระเอกเกาหลีส่วนใหญ่ (หล่อเว่อร์ รวยเว่อร์ เท่เว่อร์) เพราะเรื่องนี้พระเอกไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้ขับรถหรู ไม่ได้มีเงินทองมากมายอะไร แค่มีการศึกษาหาเลี้ยงตัวเองใช้จ่ายไม่ฟุ่มเฟือยและใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามรอยวิถีชีวิตของคุณปู่ บทของฮยุนซูให้ความรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายธรรมดาเดินดินคนหนึ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถจับต้องได้ ประเภทตื่นนอนลุกขึ้นมา แต่งตัว สะพายกระเป๋า ใส่รองเท้าผ้าใบขึ้นรถเมล์ไปทำงาน ( เว้นก็แต่ความรู้ที่เขาเป็นถึงด๊อกเตอร์ นั่นมันชนกลุ่มน้อยมากเลยนะในโลกของความเป็นจริง) ภายนอกดูเป็นคนหน้าตาซื่อๆ นิสัยขี้อายคล้ายจะเป็นผู้ชายๆ ทึ่มๆ รักและเชื่อฟังพ่อแม่กับคุณปู่ของเขาเป็นอย่างดี เขาเป็นลูกเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่คอยเอาใจใส่ต่อความรักที่แม่แบ๊กกึมจามีให้เขา ด้วยกริยาอี๋อ๋อ โอบกอดเอาใจ เหมือนเป็นลูกสาวของแม่ก็ไม่ปาน



แต่เวลาทำงาน คังฮยุนซูก็กลายเป็นผู้ชายอีกมุมหนึ่ง เก่ง ฉลาด เป็นผู้นำ และไม่ว่าจะเรื่องความรัก ครอบครัว หรือเรื่องงาน ความเด็ดขาดในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ นั้นเท่โค-ตร มีสติปัญญาไหวพริบรู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า (รักความเนียนที่แสนฮาของพระเอกในแง่นี้เป็นพิเศษ) เขาอาจดูเหมือนเป็นลูกแหง่ แต่เวลาที่คังฮยุนซูจริงจังขึ้นมา แบ๊กกึมจาที่ว่าแน่ก็กริ่งเกรงในตัวลูกชายไม่น้อย แม้ว่าเขาจะไม่พูดจาต่อว่าอะไร แต่แค่สายตาแรงกล้าที่มองมา แม่ก็มีชักหนาวๆ ร้อนๆ กับความรัก คังฮยุนซูก็หนักแน่นมั่นคง ค่อยๆ รัก รักช้าๆ ให้แน่แก่ใจ เพราะรักแล้วรักเลย รักเดียวใจเดียว ไม่มีหวั่นไหว เอาใจใส่ทุกข์สุขคนที่รัก คอยห่วงใยดูแล และเป็นที่พึ่งพาได้

สิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่พระเอกเรื่องนี้ได้ทำลงไป นอกจากไม่มีความขัดแย้งใจ ยังชอบใจมากด้วย ถ้าเขาไม่ทำให้หัวเราะเพราะความฮา ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นเพราะความน่ารักใจดี และยังได้ใจอีกหลายครั้งหลายกรณีเพราะพฤติกรรมแอบเท่ที่สุดแมน



หลงรักนางเอกถอนตัวไม่ขึ้น "โซจองอิน" ถึงจะง๊องแง๊งเป็นเด็กๆ แต่เพราะชอบ ลีมินจอง และการแสดงของเธอก็น่ารักเหนือความคาดหมาย ไม่ทำให้รู้สึกว่าแบ๊วเกิน (แต่ถ้าเป็นคนอื่นเล่นก็ไม่แน่ เพราะชอบมินจองเลยค่อนข้างแน่ใจว่าลำเอียง อิอิ) ไม่เคยเห็นมินจองในบทนี้มาก่อน คิดว่าเธอเข้ากับบทสวยสงบเยือกเย็นเหมือนอย่างในเรื่อง Midas แต่พอมาเล่นบทน่ารักอย่างนี้ก็น่ารักโฮก เช่นเดียวกันกับจองคยองโฮที่บทคังฮยุนซูสุดจะแตกต่างคนละขั้วกับองค์ชายโฮดง ในเรื่อง Princess Jamong Go (จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน)



ตอนแรกที่เห็นท่าทีเอาแต่ใจของโซจองอินยามแสดงออกต่อลีฮันเซในวันแต่งงาน ถามตัวเองว่า นางเอกคาแร็คเตอร์อย่างนี้จะไหวไหมเรา เพราะปกติไม่ชอบแนวนี้ แต่น้ำเสียงและรอยยิ้มแรกของเธอที่เรียกขานคุณปู่คังมันบ๊ก “อาราปูจี” ก็ทำให้ตกหลุมรักโซจองอิน ณ จังงัง มันรู้สึกเหมือนว่าเธนอต้องเป็นคนจิตใจดีและน่ารักมากแน่ๆ ถึงได้แสดงกริยาและน้ำเสียงต่อชายชราที่เป็นแค่อดีตคนขับรถของบ้านในลักษณะเด็กน้อยประจบประแจงญาติผู้ใหญ่ของตัวเช่นนั้น

ซึ่งก็ตามคาด เพราะเธอไม่ใช่คนถือตัว เธอเป็นคนมีน้ำใจ รักและเอาใจใส่ต่อครอบครัว แล้วเธอก็มีความอดทน และรักศักดิ์ศรีของตัวเองในระดับหนึ่ง ถึงจะดูเป็นคนเจ้าอารมณ์ที่ขี้โมโห แต่นั่นก็เพราะเธอเป็นคนดื้อรั้น ยามโกรธเธอน่ารัก ยามไม่โกรธเธอก็น่ารักสุดๆ เพราะเธอเป็นคนร่าเริงแจ่มใสที่คอยช่วยผ่อนคลายบรรยากาศความตึงเครียดของบ้าน โซจองอินเป็นความสุขที่สร้างรอยยิ้มให้คุณปู่ พี่ฮยุนซูถึงจะวุ่นวายอยู่สักหน่อยแต่เพราะอายุของเธอเป็นน้อง ยังไงเขาก็เอื้อเอ็นดู ไม่ช้าไม่นาน พ่อแม่ของฮยุนซูก็รู้สึกดีกับจองอินเช่นกัน โดยเฉพาะแม่ฮยุนซู ที่รักจองอินนะ แต่แสดงออกตรงกันข้าม



ทว่ารักของแบ๊กกึมจายังเป็นแค่ระดับหนึ่ง ยังรักไม่ถึงขั้นจะยอมให้เป็นลูกสะใภ้ได้ เพราะสำหรับเธอแล้วคังฮยุนซูเป็นลูกชายเพอร์เฟ็คต์ที่คู่ควรกับผู้หญิงเพอร์เฟ็คต์ สวย รวย ความรู้สูงเท่านั้น ขณะที่จองอินมีตำหนิด่างพร้อยจากการผ่านการแต่งงาน (แม้จะแค่วันเดียวและยังไม่ทันเข้าหอลงโรงกับเจ้าบ่าวสักคืนก็เหอะ) อีกหนึ่งปัญหาใหญ่คือครอบครัวล้มเหลวของเธอที่มีพฤติกรรมหน้าเงิน หยิบโหย่ง ไม่เอาการเอางาน เห็นแก่ตัวและก่อแต่ความเดือดร้อนที่น่ารังเกียจ แบ๊กกึมจาไม่ต้องการจะให้ลูกชายของเธอโดนครอบครัวของจองอินคอยเกาะกินไปตลอดทั้งชาติ แต่........



ความรัก ... ช่างงดงาม

จาก คู่กัดสุดฮา ประหนึ่งยัยตัวร้ายกับนายสุภาพบุรุษผู้นุ่มนวลที่ต้องหลุดฟอร์มเป็นประจำเพราะโดนป่วนให้ต้องส่งเสียง ย๊า! ย๊า! จองอินย๊า!

ครั้งหนึ่งจองอินเคยบอกกับฮยุนซูให้เรียนรู้วิธีตั้งมั่นสมาธิสลายความโกรธ ฮยุนซูบอกกับเธอว่า “แค่ไม่มีเธอ ชีวิตพี่ก็ไม่มีความโกรธแล้ว” (ฟังแล้วขำมาก) มันก็จริงของคังฮยุนซู เขาไม่ใช่คนที่จะโกรธใครง่ายๆ ก็มีโซจองอินคนเดียวนี้แหละที่ทำให้อารมณ์มันแบบว่า ขึ้นเลยๆ!! ฉะนั้น แค่ไม่มีเธอ ชีวิตพี่ก็ไม่มีความโกรธใดให้ต้องสลายหรอกนะ



กลาย.. เป็นความรัก จองอินตัดขาดฮันเซ แบบตัดแล้วตัดเลยกับผู้ชายเฮงซวยที่ทิ้งเธอไว้ทั้งชุดเจ้าสาวในวันแต่งงาน ฮันเซจะมาวนเวียนขอคืนดีอย่างไร ก็ไม่เห็นความลังเลใจของจองอินอีกเลยนับจากนั้น ( ถ้าลังเลก็ไม่น่ารักได้ใจน่ะสิ) แม้จะมีบางครั้งคราวที่รู้สึกโกรธพี่ฮยุนซู แต่ก็ไม่เคยคิดใช้ลีฮันเซเป็นเครื่องมือประชดประชัน เวลาที่คนเค้าโกรธกันฮันเซอย่าได้สะเออะแหลมหน้ามาแทรกเดี๋ยวจะเจอสวน (ชอบนางเอกแบบนี้มาก) การได้รู้จักกับฮยุนซูทำให้จองอินได้รู้จักความรักมากขึ้น รักของฮันเซที่เห็นแก่ตัวและบางทีมันอาจไม่ใช่ความรัก เขาถึงทิ้งเธอได้อย่างง่ายดายในวันที่เขาเพิ่งเขียนคำสัญญาการแต่งงานให้เธออยู่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า



ต่างจากกับความรักของผู้ชายอีกคน -คังฮยุนซู ความรักโง่ๆ ที่เขามีให้พี่สาวของเธอ ความรักเดียวใจเดียว (ข้างเดียวด้วย) ที่ทำให้เขาไม่เคยคิดมีใครอื่น ฉายาที่เธอตั้งให้จึงเหมาะจึงควรกับพี่ฮยุนซูอย่างยิ่งแล้ว “คนโง่”



และแล้วฮยุนซูก็ตัดใจจากจองคยองได้ในที่สุด เมื่อรู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก่อนเธอไม่รักไม่เป็นไร ถ้าเธอยังไม่มีใครก็จะตามตื๊อ แต่ถ้าเธอมีคนใครคนหนึ่งอยู่ในใจแล้ว ลูกผู้ชายนายฮยุนซูผู้รักด้วยหัวใจจริงแท้ก็จำต้องยอมตัดใจจากเธอ อยากจะเศร้าเพราะอกหักรักคุดก็ไม่ค่อยมีเวลา เพราะมีจองอินคอยก่อความยุ่งใจอยู่ไม่ห่าง จากที่เคยแค่เป็นห่วง ทำไปทำมาก็เริ่มหวง เริ่มผูกพันชิดใกล้ ทั้งที่อาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน แล้วยังได้มาทำงานที่เดียวกันอีกด้วย



ส่วนจองคยองปัญหารักเราไม่ก้าวหน้ากับ ผอ.โรงพยาบาลผู้เป็นคนรักของเธอ ก็เริ่มจะอิ่มตัวบนทางตัน เขาเป็นพ่อหม้ายและมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน เพราะเขารักลูกมาก และลูกสาวก็หวงพ่อมาก กลายเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้ความสัมพันธ์ได้คืบหน้าไปทางไหน จองคยองทุกข์ท้อไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครจึงหันไปหาคังฮยุนซู มีเขาคอยปลอบใจบ่อยครั้ง หัวใจก็เริ่มไหวเอน เธอเลิกกับคนรักของตัวเองและเรียกหาคังฮยุนซูมาเป็นศาลาพักใจชั่วคราว ใจอยากจะพักอย่างถาวร แต่ติดที่เคยปฏิเสธเขาเอาไว้มาก ด้วยศักดิ์ศรีและความละอายแก่ใจที่ได้เคยกระทำหยาบคายต่อฮยุนซูเอาไว้ไม่น้อยในอดีต ทำให้เธอไม่อาจกลับลำมาคว้าคังฮยุนซูได้ในทันที ต้องขอเวลาปรับเปลี่ยนท่าทีสักเล็กน้อย

I finally started seeing the KangHyunsoo that I did not see before.
ในที่สุดฉันก็เริ่มมองคังฮยุนซู อย่างที่ฉันไม่เคยมองเห็นมาก่อน

Am I too late ?
ฉันสายไปหรือเปล่า ?



อาจจะยังไม่สายเกินไป เพราะฮยุนซูเป็นคนรักมั่นคง เขาอาจจะยังรักเธอ หากตอนที่จองคยองไม่รักเขานั้น จะไม่มีใครอีกคนที่แอบรักเขาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ คนที่คังฮยุนซูไม่ใช่แค่เริ่มมองเห็นแต่เขาเห็นอยู่นานแล้ว

ไม่ว่าจองคยอง หรือ ลีฮันเฮ ต่างก็พากันเข้าใจไปเองว่าที่ฮยุนซูใจดีกับจองอินนั้น เป็นเพราะเขาเห็นเธอเป็นน้องสาวของจองคยอง แต่ใครจะมารู้ดีเท่าคังฮยุนซู เขารู้จักจองอินมาก่อนที่จะรู้ว่าเธอเป็นน้องสาวของจองคยอง และถึงจะรู้แล้ว เขาก็ไม่เคยปฏิบัติต่อเธอในฐานะน้องสาวของจองคยองด้วย เพราะสำหรับเขา จองอินคือ “จองอิน” คนที่เขากำลังใคร่ครวญหาคำตอบ

“ถ้าฉันเป็นเพื่อน แล้วจองอินเป็นอะไรกับคุณ”



เป็นคำถามที่จองคยองได้คาดคั้นถามคังฮยุนซูเอาไว้
แต่ทั้งที่ใจก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจ .. ยัยพี่สาวก็ยัง

Kang Hyun Soo, Can’t you like me again ?
"คังฮยุนซูคุณจะชอบฉันอีกครั้งได้ไหม"

Can’t you ?
"ไม่ได้เหรอ"

I’m being sincere.
ฉันจริงใจนะ

เป็นฉากที่ทำลมแทบจับแบบเกมวัดใจ พี่ฮยุนซู ถ้าพี่หวั่นไหว เราเลิกกันทันที ฉันรับไม่ได้หรอก ฉันเลิกดูซีรีย์เรื่องนี้แน่ อย่าแม้แต่จะแสดงท่าทีลังเล ไม่งั้นจะขอสาปส่งซีรีย์เรื่องนี้ (อิน ประหนึ่งเป็นนางเอกซะเอง) ต้องถือเป็นช่วงเวลาที่เกลียดความเห็นแก่ตัวของจองคยองมากที่สุด เธอช่างกล้า ด้วยเหตุผลที่ว่า

Because you are Kang Hyun soo. I already figure
you would not come to me with someone else in your heart.
But, since the person who like me for 8 years is also Kan Hyun soo. I though may be … perhaps …..”

เพราะคุณคือคังฮยุนซู ฉันคิดอยู่แล้วว่าคุณจะไม่กลับมาหาฉัน
เพราะว่าใครคนหนึ่งที่อยู่ในหัวใจของคุณ แต่ เพราะคนที่เคยชอบฉัน
มาตลอด 8 ปีก็คือคังฮยุนซูเช่นกัน ฉันเลยคิดว่า คุณอาจจะ ...บางที...




แต่มันก็สายไป เพราะคังฮยุนซูไม่ต้องการรักแรกอีกต่อไป เมื่อเขาแน่ใจ เขาได้พบรักสุดท้ายของเขาแล้ว

“It’s my first time , no matter what mistake I make ,
she laughs and let it slide. She listens to what I say.
Even though I’m lacking. When I’m with her
I feel like i become a good man.
Because that’s how she sees me , that’s who I want to be.

"มันเป็นครั้งแรกของผม ที่ไม่ว่าผมจะทำอะไรผิดพลาด
เธอหัวเราะและปล่อยมันไป เธอฟังในสิ่งที่ผมพูด
แม้ว่าผมจะมีข้อบกพร่อง แต่เมื่ออยู่กับเธอผมรู้สึกว่า
ผมกลายเป็นผู้ชายที่ดี นั่นเป็นเพราะว่าเธอมองผม
อย่างคนที่ผมต้องการจะเป็น "


และนับจากนี้ตลอดไป พี่ฮยุนซูเขาบอกว่า

I want to do everything I possibly can for the person who’s next to me right now.
"ผมอยากทำทุกอย่างที่ผมจะทำได้เพื่อคนที่อยู่กับผม (และผมรักอยู่)ในตอนนี้"



ชอบตอนที่จองคยองสารภาพความรู้สึก ขอให้ฮยุนซูกลับมารักเธออีกครั้ง (ยัยพี่ ช่างกล้า) กรอดูแล้วดูอีก ถ้าคลิปมันพรุนได้มันคงพรุนไปแล้วล่ะ ไม่ได้ดูด้วยความสะใจหรอกนะ แค่ชอบในความซื่อตรง จริงใจ ไม่มีสักถ้อยคำจะซ้ำเติมให้จองคยองรู้สึกแย่หรืออับอายที่เธอเคยปฏิเสธเขาอย่างไม่ไยดีมาก่อนแล้วมากลับท่าทีคืนคำเอาง่ายๆ แบบนี้ สุภาพบุรุษฮยุนซูถนอมน้ำใจ แต่ทุกถ้อยทุกคำก็ยังหนักแน่น ชัดเจน ตรงประเด็น เคลียร์!!!!



พี่ฮยุนซูพิสูจน์หัวใจไม่ใช่คนโลเล แต่โซจองอินก็สัมผัสได้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างพี่ฮยุนซูและพี่จองคยอง พวกเขาจึงมีท่าทีอึดอัดต่อกันแปลกไปจากที่เคยเป็น

มันมีเหตุผลที่คังฮยุนซูจะรู้สึกอึดอัดต่อจองคยอง เพราะสายตาต้องคอยลอบมองอาการของจองอินด้วยความเป็นห่วง เธอจะระแวงไหม จะเชื่อใจเขาหรือเปล่า และเพราะสายตานี่แหละก่อเป็นความเข้าใจผิดจนเกิดความวุ่นวายขึ้นเพราความหลังครั้งเก่าเกี่ยวกับรักแรกของคังฮยุนซูถูกเปิดเผย ผู้หญิงที่เขาแอบรักอยู่ข้างเดียวมาตั้ง 8 ปี ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน แต่เป็นจองคยอง ลูกสาวของครอบครัวโซนั่นเอง



ราวกับจองคยองได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงขึ้นในครอบครัว เพราะแบ๊กกึมจา-ไม่พอใจมากที่จองคยองไม่มีตาจะมองเห็นความดีในตัวลูกชายของเธอ พาลพาผู้ใหญ่ทะเลาะกันเพราะต่างเข้าข้างลูกของตัวเอง จริงๆ ฉากนั้นควรจะเครียดมากแต่มันกลับฮามาก แบ๊กกึมจาเมาปลิ้นด่าไฟแลบแล้วร้องไห้โวยวาย จองอินก็ฟูมฟายร้องไห้ผสมโรง ผู้ใหญ่ก็เข้าใจผิดคิดว่าจองอินเสียใจที่เธอเป็นตัวตั้งตัวตีจัดงานปาร์ตี้วันเกิดให้พี่สาว แล้วกลับกลายเป็นว่าผู้ใหญ่ต้องมาทะเลาะกัน แต่ที่จริงจองอินโกรธทั้งพี่สาว รู้ก็ทั้งรู้ว่าเธอคบกันอยู่กับพี่ฮยุนซูแล้ว โกรธพี่ฮยุนซูก็ด้วยที่ไม่บอกให้รู้ว่าจองคยองหันกลับมารักเขา ส่วนฮยุนซูก็ไม่มีใครทันสังเกตว่าเขาไม่ได้พยายามจะคลี่คลายสถานการณ์ของผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ เพราะเขาแค่กำลังพยายามจะไกล่เกลี่ยกับจองอิน “จองอินนา” “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ” “จองอินนา อย่าทำแบบนี้สิ” สุดจะยุ่งเหยิงจนพี่ฮยุนซูถึงขึ้นเอามือลูบหน้าเพราะว่ามันยุ่งยากหัวใจเหลือเกิน (วุ่นวายได้สนุกจริงๆ)



ช่วงตอนที่ ๑๐-๒๕ ถือเป็นช่วงเวลาของความรักที่ชอบมากที่สุด เป็นช่วงก่อนและหลังที่จะตกลงปลงใจ 'เรารักกัน' เพราะมันค่อนข้างเต็มไปด้วยอารมณ์ ความหึงหวงเล็กๆ ที่น่ารักของโซจองอิน ความรู้สึกที่คังฮยุนซูก็รับรู้ด้วยความใส่ใจ แม้จะยังไม่ได้ตอบคำถามของจองคยอง "ถ้าฉันเป็นเพื่อน แล้วจองอินเป็นอะไรกับคุณ" แต่ฮยุนซูก็ไม่ปฏิเสธการกระเซ้าเย่าแหย่ของพี่ชายโซซองจุนสักคำเหมือนก่อนหน้านั้น

"พี่บอกนายแล้วใช่ไหมว่าให้ระวัง จองอินขี้อิจฉาจะตายไป"
"ดูสิ เธอทนไม่ได้แม้แต่จะให้พี่อยู่ใกล้นายซะด้วยซ้ำ"
"ใครเดินกระแทกเท้าเสียงดังน่ะ จองอินใช่ไหม ความหึงหวงนี่มันยากจะควบคุมใช่ไหมล่ะ"
"อ๋า ..ไม่ปฏิเสธสักคำแสดงว่ายอมรับ"

พี่ซองจุน สายตาแหลมคมสังเกตเห็นความสัมพันธ์ของจองอินและฮยุนซูตั้งแต่วันแรกๆ ที่เขากลับมาจากอเมริกา และทึกทักเอาเองว่าสองคนนี้มี something แต่ไม่มีใครสักคนยอมรับ แล้วเป็นไงล่ะ ก็ไม่พ้นพี่ซองจุนนี่แหละที่อยู่ข้างพวกเขามาตลอด คอยเตือนสติและส่งสัญญาณเตือนจองคยองเป็นระยะทำนองว่า..เฮ้ยๆๆ นั่นของจองอินมันนะ ถึงพี่ซองจุนจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่การมีใครสักคนสนับสนุนความรักของพวกเขา มันก็ยังดีกว่าการถูกกีดกันไปซะทั้งหมดทุกคนใช่ไหมล่ะ

เวลาที่จองอินโกรธกรุ่นๆ หรือหงอยเหงาไป เมื่อมีจองคยองมาอยู่ใกล้ๆ ฮยุนซูจะรับรู้และสายตาจะหมุนตามรอบทิศทางอย่างเป็นห่วงความรู้สึก สุดจะถนอมน้ำใจด้วยการระมัดระวังการกระทำ คุยโทรศัพท์เรื่องอะไร จะไปไหน ไปทำไม ไม่ได้ถูกถาม แต่พี่ฮยุนซูก็ทำเนียนเคลียร์ตัวเองให้รู้ว่ามันไม่มีอะไรในกอไผ่ จึงออกจะชัดเจนว่าพี่ฮยุนซูมีความรักต่อจองอินผู้น่ารักของเราแน่นอน แต่ที่ยังยื้อเวลาชั่งใจเพราะแค่อยากจะให้แน่ใจว่าเขาได้ล้างใจจากรักแรกได้สะอาดเอี่ยมอ่อง ก่อนจะมอบใจดวงนี้ให้เป็นของจองอินคนดีคนเดียวตลอดไป วิ้วววว** (เป็นเอามากนะเนี่ยเรา)





Create Date : 13 กันยายน 2555
Last Update : 3 ตุลาคม 2555 23:16:50 น. 10 comments
Counter : 45036 Pageviews.

 


เปลี่ยน.. เป็นคู่รัก

ชอบตรงที่ฮยุนซูไม่เห็นด้วยกับจองอินที่ต้องการจะปิดบังเรื่องเขาและเธอรักกันต่อครอบครัว ( เป็นลูกผู้ชายมันต้องแบบนี้ ) ฮยุนซูต้องการจะบอกความจริงให้ทุกคนรับรู้ แต่ติดตรงที่จองอินหวาดกลัวว่าความรักจะล่ม และคนที่เธอกลัวมากที่สุดคือแม่ของเขา จองอินอยากยื้อเวลาเพื่อทำคะแนนให้แบ๊กกึมจารู้สึกดีกับเธอมากขึ้นกว่านี้ก่อน ถึงตอนนั้นสถานการณ์อาจจะไม่แย่จนเกินไป เนื่องจากครอบครัวของเขาและเธอยังไม่ลงรอยกัน หากเรื่องที่จองอินกับฮยุนซูรักกันถูกเปิดเผยขึ้นมาอาจจะทำให้สองครอบครัวแตกแยกกันมากขึ้นกว่าเดิม จากที่เพิ่งจะร้าวฉานกันมาหมาดๆ กับเรื่องรักแรกของฮยุนซูกับจองคยอง ดูจากจองคยองที่แบ๊กกึมจาเคยชื่นชมนักหนายังกลายเป็นหมาหัวเน่าไปโดยอัตโนมัติ แล้วกับคนอย่างจองอินที่แบ๊กกึมจาเคยเปรียบว่าไม่มีอะไรดีสู้พี่สาวได้ ที่บังอาจไปรักลูกชายเพอร์เฟ็คต์ของเธอ แล้วจะเหลือมั้ยความเอ็นดูอันน้อยนิดที่แบ๊กกึมจาเคยมีให้

เพราะคนที่จะเป็นทุกข์มากที่สุดคือจองอิน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คังฮยุนซูยอมตามใจเธอด้วยการปิดบังความรักของพวกเขาต่อครอบครัวเอาไว้ก่อน แต่ฮยุนซูก็ไม่ละความพยายาม คอยหาโอกาสเกลี้ยกล่อมจองอินที่แม้ยังไม่เต็มใจ แต่โดยวิสัยที่มีพี่ฮยุนซูเป็นผู้นำ เธอก็จำต้องยอมรับในที่สุด

“เราสองคนพากันกลับไปตอนนี้แล้วบอกความจริงกับพวกเขากันเถอะ”




ผลของการสารภาพความจริงเป็นไปตามคาด รักนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ สถานการณ์มีแต่แย่ลงไม่มีอะไรดีขึ้นเลย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญถ้าหากยังอยากจะรักกันอย่างถูกต้อง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจองอินยังคงทำตัวร่าเริงปกติ เหมือนไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไร แต่ผู้ชายชื่อคังฮยุนซู
ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกกับใครบางคนว่า

I don’t believe what Jung in says.
How can I possibly tell you about her feeling.
When Jung in says she’s ok. She doesn’t seem okey.
When she says she’s not mad , it looks like she’s mad
When she says she does not need anything , it looks like she needs something.
When she says she ‘ s full , she looks hungry.
I don’t understand what Jung in says nor can I believe it.
How can I possibly tell you what she is feeling.

ผมไม่เชื่อในสิ่งที่จองอินพูด
แล้วจะเป็นไปได้ยังไงที่ผมจะบอกคุณได้เกี่ยวกับความรู้สึกของเธอ
เวลาที่จองอินบอกว่าเธอโอเค ก็ดูเหมือนเธอจะไม่โอเค
เวลาที่เธอบอกว่าไม่โกรธ ก็ดูเหมือนเธอกำลังโกรธอยู่
เวลาที่เธอบอกว่าเธอไม่ต้องการอะไร มันก็ดูเหมือนว่าเธอต้องการอะไรบางอย่าง
เวลาที่เธอบอกว่าเธออิ่ม เธอก็ยังดูหิวอยู่เลย
ผมไม่เข้าใจสิ่งที่จองอินพูด ไม่แม้แต่จะเชื่อได้
แล้วผมจะบอกคุณได้ยังไง ว่าเธอกำลังรู้สึกอะไรอยู่




แล้วคนที่สายตาแลเห็น หัวใจสัมผัสถึงเธอได้เช่นพี่ฮยุนซู จะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าภายใต้สีหน้ายิ้มแย้มของจองอิน ความสุขที่แท้จริงไม่มีอยู่

ที่สุดของที่สุดที่ลูกชายคนดีของแม่จะยอมได้ กับสิ่งต่างๆ ที่แม่ของเขาได้กระทำต่อจองอิน มันมากเกินกว่าที่คังฮยุนซูจะรับไหว

“ไม่มีทางเป็นไปได้เลยใช่ไหมครับ"

“ใช่ ..มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีวัน”

คำตอบของแม่ ทำให้ฮยุนซูต้องตัดสินใจ คว้ามือโซจองอินผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วลากเธอออกไปจากบ้าน ท่ามกลางเสียงห้ามปรามอลหม่านของสมาชิกจากสองครอบครัวและเสียงคร่ำครวญร่ำไห้ของแบ๊กกึมจา นั่นไม่ใช่การกระทำที่น่าสนับสนุน แต่กลับทำให้พระเอกเท่อย่างมากมาย การยอมรับจากครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือความสุขของโซจองอิน

โซจองอินที่เขารักเป็นผู้หญิงเจ้าอารมณ์ขี้โมโห และไม่เคยยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้ง่ายๆ แต่สภาพที่เธอคอยเจียมเนื้อเจียมยอมให้แม่ของเขากระทำความเจ็บช้ำน้ำใจมาให้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีปริปากบ่น ฮยุนซูอดทนกับโซจองอินที่เป็นแบบนั้นมานาน และเขาก็สุดจะทนอีกต่อไป

“โซจองอิน ใครใช้ให้เธอต้องทนทุกข์ขนาดนี้”



นึกว่าจะเป็นกรณีหนีตามโดยทั่วไป ที่บีบบังคับให้เกิดการยอมรับแล้วได้กลับมา ที่ไหนได้สถานการณ์กลับพลิกผันเหนือความคาดหมาย เพราะนางเอกเธอได้ใจมาก

“พี่คะ ถ้าพี่ทำแบบนี้แล้วฉันจะกลายเป็นยังไง
พี่ไม่รู้เหรอว่า ถ้าพี่ทำแบบนี้แล้วจะทำให้สถานการณ์มันแย่ลง
เป็นเพราะพี่ ทุกอย่างมันเลยยุ่งยาก
เราเพิ่งทำให้พวกเค้ามีเหตุผลที่จะไม่ชอบเรานะ
แล้วเราจะหวังให้พวกเค้าอนุญาตเราได้ยังไงกัน"


“ถึงยังไงพวกเขาก็จะไม่ยอมรับเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไร
ในเมื่อพวกเค้าไม่ยอมรับเรา แล้วเธอจะให้พี่ทำยังไง"


" ไหนพี่บอกให้ฉันอดทนไงคะ แต่คังฮยุนซูทำได้แค่นี้น่ะเหรอ
คังฮยุนซูทำในฐานะผู้ชายคนหนึ่งแบบนี้น่ะเหรอ!”


“จองอินนา แค่ทำตามที่พี่บอก”

“พี่คะ พี่อย่าละทิ้งครอบครัว พี่ทำแบบนี้เหมือนกับพี่ทิ้งฉันด้วยนะ
นี่มันงี่เง่า พี่เป็นเด็กหรือไง ทำไมเราถึงต้องออกจากบ้านด้วยล่ะ”


นี่อาจจะเป็นครั้งเดียวที่พระเอกนางเอกทะเลาะกันจริงจัง และก็เป็นครั้งเดียวที่ความเป็นพี่ของคังฮยุนซูโน้มน้าวจองอินไม่ได้ผลและสุดท้ายก็ต้องบังคับ

“จองอินนา เธอสัญญาแล้วว่าจะอยู่กับพี่ รักษาสัญญาของเธอซะ!”



ใครจะไปคิดว่าเมื่อฮยุนซูตัดสินใจลากจองอินออกจากบ้าน จองอินที่มักคล้อยตามพี่ฮยุนซูของเธอ กลับไม่เห็นด้วยอย่างแรง และกลายเป็นแรงผลักดันให้จองอินตัดสินใจยอมแยกจากฮยุนซู โดยการพาครอบครัวของเธอย้ายออกจากบ้านคุณปู่ทั้งหมด เพราะบางทีนี่อาจจะเป็นหนทางเดียวที่เธอจะได้กลับไปอยู่กับฮยุนซูที่บ้านหลังนั้นอีก ถึงจะต้องแยกกันแต่เธอรู้ดีว่าพี่ฮยุนซูจะไม่หลุดมือไปไหน

“ Because I know , Oppa will come along with me”

"เพราะฉันรู้ว่า พี่จะมากับฉัน"


(นางเอกเธอน่ารักจริงๆ)

เมื่อเธอต้องการอย่างนั้น พี่ฮยุนซูก็ต้องจำยอม ไปเติมศูนย์ที่ผนังอีกสองตัวเป็น "งี่เง่าx 10000" แล้วรวบรวมกำลังใจในการเพียรพยายามต่อไป ไม่ได้ไปตามตื๊อให้จองอินกลับมา พี่ฮยุนซูก็แค่แวะเวียนไปหาให้ได้เห็นหน้าคลายความคิดถึง และจริงจังกับการหันไปจีบว่าที่พ่อตาแม่ยายแทน



พระเอกนางเอกน่ารักจริงๆ นะคะ ทำเหมือนแยกทางกันแต่เราไม่ได้เลิกกัน เรายังรักกันดีอยู่ แค่ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ตอนที่ยังไม่ออกจากบ้านจองอินก็ทำคะแนนกับพ่อแม่ฮยุนซู ส่วนฮยุนซูก็ทำคะแนนกับพ่อแม่จองอิน พอออกจากบ้าน จองอินก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานขยันขันแข็งเพื่อหวังจะดูแลครอบครัวของเธอเองให้ตั้งหลักพึ่งพาตัวเองได้ หากครอบครัวของเธอไม่เป็นภาระ พ่อแม่ของฮยุนซูก็อาจจะไม่รังเกียจจนเกินไปและใจอ่อนกับเธอได้ในวันหนึ่ง



ส่วนพี่ฮยุนซู ก็รู้ว่าครอบครัวของจองอินอยากได้ลูกเขยรวยๆ และแน่นอนว่าไม่ใช่ลูกชายจากครอบครัวคังอย่างเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมาเฝ้าจีบว่าที่พ่อตาแม่ยายด้วยวิธีของลูกผู้ชายที่จริงใจ พร้อมลูกล่อ ลูกชน กดเม็ดมัดใจสารพัดความน่ารักของเขาล่ะ กระทั่งที่เอ่ยปากขอลูกสาวว่าที่แม่ยายยังซึ้งจนร้องไห้

ซีรีย์ Secret Garden ว่าไว้ ไม่มีความรักที่ง่ายบนโลกนี้หรอก แต่ก็มีคำคมว่าไว้อีกเช่นกัน น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน มันก็ต้องมีคนใจอ่อนเริ่มแปรพักตร์มาสนับสนุนความรักของฮยุนซูกับจองอินกันบ้างล่ะน่า



ช่วงตอน ๒๐-๓๐ จึงเป็นช่วงดราม่าที่ค่อนข้างเร้าอารมณ์ ทั้งเหนื่อย ทั้งเศร้า แต่ก็สนุกกับสารพัดเหตุการณ์ โดยเฉพาะเรื่องอุทธาหรณ์ “ท้องก่อนแต่ง” วิธีที่ฮยุนซูกับจองอินถูกแนะนำอยู่กรายๆ เพื่อจะได้แต่งงานกัน (มันฮามาก) นับถือคุณพ่อซังฮุนเจ้าของไอเดีย ที่คิดทรยศเมียด้วยการเปลี่ยนข้างหันมาช่วยลูก พ่อซังฮุนระเบิดอารมณ์ด้วยการกระทำที่ได้ใจมาก

“ไปอยู่กับจองอินซะ แล้วอย่าได้กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีก
จนกว่าแกจะมีลูกแล้ว และแม่ของแกก็จะหมดทางเลือกเอง”


(คมความคิดอะไรอย่างนี้)



พี่ฮยุนซูถูกไล่ออกจากบ้าน พ่อของจองอินที่แปรพักตร์อีกคนและตั้งใจว่าจะคว้าฮยุนซูมาเป็นเขยให้ได้ ก็เลยอ้าแขนรับว่าที่ลูกเขยไปอยู่ด้วยอย่างเต็มใจ ชนิดที่ทำจองอิน ..พูดไม่ออก การกระทำของพ่อๆ ผิดใจแม่ๆ ทั้งสองฝ่าย เรื่องราวยังคงวุ่นวายโกลาหล

และถือเป็นช่วงที่เรื่องได้ดำเนินมาถึงจุดเปลี่ยนในความสัมพันธ์ของสองครอบครัวด้วย ทั้งปัญหารักถูกกีดกันของคังฮยุนซูกับโซจองอิน และการป่วยของคุณปู่คังมันบ๊กที่เขาเก็บงำซ่อนอาการมาคนเดียวโดยตลอดก็เริ่มปรากฏขึ้นทีละเล็กละน้อย เริ่มรู้กันทีละคนสองคน และเมื่อเขาเริ่มป่วยหนักขึ้นก็ปิดบังความป่วยไว้ไม่ได้อีกต่อไป



คนแก่อายุ 70 ที่ป่วยโซอยู่ท่ามกลางบรรยากาศความวุ่นวายไม่หยุดหย่อนของบ้าน เขาแค่อยากจะเห็นครอบครัวโซพึ่งพาตัวเองได้ เห็นความปรองดองของสองครอบครัว เห็นฮยุนซูและจองอินมีความสุข และได้อุ้มเหลนเร็วๆ เสียที แต่ไม่มีอะไรจะเป็นไปตามที่คาดหวังสักอย่าง คุณปู่รักจองอิน ถ้าอยากจะบังคับลูกๆ ให้ยอมรับความรักของหลานทั้งคู่ก็พอทำได้ แต่การแต่งงานเป็นเรื่องของพ่อแม่ที่คุณปู่ไม่อาจจะยื่นมือไปก้าวก่ายเพื่อช่วยเหลือฮยุนซูกับจองอินได้ แต่ขนาดว่าไม่ช่วยก็อดใจไม่ไหว มีแนะนำอยู่อ้อมๆ แต่ความหมายสุดจะโผงผางชี้ทางสุดได้ใจ เป็นเชิงว่าไปทำลูกกันซะ แล้วเดี๋ยวก็จะได้แต่งงานเองนั่นแหละ (555)



ถึงจะไม่มีอะไรเป็นไปตามคาด แต่อย่างน้อยคุณปู่ก็ได้โล่งใจไปเปราะหนึ่งที่จองอินเติบโตเป็นผุ้ใหญ่ขึ้น ฮยุนซูถามว่าทำไมคุณปู่ถึงยอมให้จองอินพาครอบครัวจากไป ทั้งที่เมื่อก่อนที่จองคยองพยายามจะทำอย่างนั้นคุณปู่กลับคัดค้านและไม่อนุญาตเด็ดขาด คำตอบของคุณปู่คือ จองคยองแค่บอกว่าจะพาพวกเขาไป แต่เธอไม่เคยพูดว่าจะดูแลพวกเขา แต่จองอินไม่เหมือนกัน เธอบอกว่าเธอต้องการจะรับผิดชอบครอบครัวของเธอเองและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด พร้อมคำมั่นสัญญา ต่อให้ไปกันไม่รอด เธอก็จะไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาต้องซมซานกลับมาที่บ้านหลังนี้อีก






เป็นคู่แต่งงาน สุดจะวุ่นวาย โกลาหล อลเวงไปด้วยการโกหก การตกกระไดพลอยโจน สมควรจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น “กว่าจะได้แต่งงาน” จะเป็นอะไรที่เหมาะมาก

ประทับใจงานแต่งมากมาย ใช้เวลาไปทั้งหมดเกือบตอนเลยนะคะ เพราะเริ่มแต่งกันกันตั้งแต่ตอน 38 ต่อยันไปถึงตอน 39 มีให้เห็นพิธีต่างๆ ที่ถึงแม้จะไม่เข้าใจวัฒนธรรมเกาหลี แต่ก็ได้เห็นพิธีอย่างจุใจ เป็นการแต่งงานที่ทั้งสุข ทั้งซึ้งและทั้งเศร้า น้ำตางี้ไหลพรากเชียว มันเหมือนกับว่า กว่าจะมาถึงตอนนี้ได้ ต้องผ่านอะไรๆ ที่เหนื่อยยากมาเยอะเหลือเกิน ทั้งที่ทั้งสองคนเป็นลูกหลานสมควรได้รับการถูกรักจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แค่อคติบางประการก็ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งมากมาย



“พ่อคะ ทำไมพ่อถึงเปลี่ยนใจมายอมรับพี่ฮยุนซูได้ล่ะคะ”

ชอบคำตอบของโซจองกิลมาก มันใช่เลย เพราะเขาคือ คังฮยุนซู ที่โซจองกิลรู้จักนิสัยใจคอดีจากที่ก็เห็นๆ กันอยู่ ว่าไอ้หนุ่มคังฮยุนซูเป็นผู้ชายที่ดีแค่ไหน ข้อบกพร่องเดียวที่จองกิลเห็นก็คือเขาไม่ร่ำรวย แต่ ในช่วงเวลาที่คุณปู่คังมันบ๊กได้ให้บทเรียนแก่จองกิลมาช่วงเวลาหนึ่ง เขาก็เริ่มจะซึมซับอยู่เหมือนกันว่าเงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต และการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของลูกสาวคนเล็ก-จองอิน ก็ทำให้โซจองกิลเริ่มสำนึกถึงสิ่งสำคัญที่สุดของคนเป็นพ่อแม่ นั่นก็คือทุกข์สุขของลูก ได้มองย้อนกลับไปที่เขาได้ทำความทุกข์ใจกับลูกไว้มากแค่ไหน คังฮยุนซูที่ลูกรัก ก็เพียรพยายามอย่างหนักที่จะพิสูจน์หัวใจให้ว่าที่พ่อตาได้เห็น และเขาก็เห็น



เพราะฮยุนซูรักลูกมาก มันเหมือนกับว่าเขารักลูกได้มากกว่าที่พ่อจะรักลูกได้ในฐานะของพ่อเสียอีก เขาอาจไม่ร่ำรวย แต่คนอย่างคังฮยุนซูถ้ามีหมื่นวอนเขาจะให้ลูกหมื่นวอน ถ้ามีล้านวอนเขาก็จะให้ลูกล้านวอน เพราะว่าเขารักลูก เขาจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูกทั้งหมด (จำได้ไม่เป๊ะ แต่ประมาณนี้แหละ)

และเพื่อจะได้ลูกเขยคนนี้ คนเคยโลภอย่างโซจองกิลต้องทิ้งสมบัติก้อนโตเพื่อพิสูจน์หัวใจของคนเป็นพ่อว่าความสุขของลูกสำคัญกว่าเงิน และเขาได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วจากอดีต

เป็นสามีภรรยา

ไม่ใช่แค่เราสองคนที่แต่งงานกัน แต่ครอบครัวของเราแต่งงานกันด้วย พี่ฮยุนซูเขาบอกว่า

“แต่งงานกับพี่นะ มาเป็นครอบครัวเดียวกัน”

โฮ้วว จะไม่เพ้อได้อย่างไร เพราะทั้งชีวิตนี้คงจะมีใครมาขอแต่งงานกะเราอย่างนี้หรอก ก็เพิ่งจะเคยเห็นนี่แหละ ซี่รีย์ที่พระเอกนางเอกแต่งงานแล้ว แต่เรื่องราวยังไม่จบ ยังคงต่อกันไปด้วยชีวิตคู่ของการเป็นครอบครัว เป็นช่วงข้าวใหม่ปลามันของสามีภรรยา แต่ว่าอาการป่วยของคุณปู่ก็ทรุดลง สิ่งที่ได้เห็นประมาณช่วง ๑๐ ตอนหลังก่อนแต่งและหลังแต่ง มันอาจดูอืดไปสักนิดแต่ค่อนข้างจะจับจิตในประเด็น การให้ความรักความเอาใจใส่ต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน การปรนนิบัติดูแลยามแก่เฒ่า ยามเจ็บป่วยไร้กำลัง



หลังงานแต่งงานที่ฮยุนซูและจองอินทำเหมือนพากันไปฮันนิมูนให้ผู้ใหญ่สบายใจ แต่ที่จริงพากันแอบพักอยู่โรงแรมแถวนั้นเพราะกลัวคุณปู่จะอาการไม่ดีขึ้นมากระทันหัน เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยอมตัดใจไม่เข้าหอในคืนวิวาห์ แต่พากันย่องกลับมาบ้านเพราะเป็นห่วงอาการของคุณปู่ ทำให้เราน้ำตาไหลจริงๆ นะ แต่บทเขาและเธอจะพากันเข้าหอขึ้นมาก็ฮากลิ้งมาก



แพ้ท้องแทนเมีย
ฮ่าฮ่าฮ่า ขอหัวเราะหน่อยเหอะ อะไรจะน่ารักปานนั้น ฮามาก ...ตกอกตกใจวุ่นวายกันไปหมดทั้งที่บ้านและที่ทำงาน หมอบอกว่ามันเป็นไปได้ที่สามีจะมีอาการซินโดรมร่วมแบ่งปันอาการแพ้ท้องกับภรรยา แต่กรณีของพี่ฮยุนซู สุดจะการันตีว่าเขารักโซจองอินมากขนาดไหน ในขณะที่ศรีภรรยาไม่เป็นอะไรเลยนอกจากกินจุ พี่ฮยุนซูก็รับอาการแพ้ท้องเอาไว้คนเดียวทั้งหมด

ไออิกู ไออิกู แบ๊กกึมจารู้สึกขายหน้าจริงๆ ที่มีลูกชายแบบนี้ คังฮยุนซูผู้คลื่นเหียน วิงเวียน จะเป็นลม กินอาหารไม่ได้ ทำให้สมาชิกครอบครัวสุดจะยุ่งเหยิงอย่างน่าหัวเราะ ไหนจะความเห่อของสองสามีภรรยาที่จะได้เป็นพ่อเป็นแม่คน ..เฮ้อ เหนื่อยจะบรรยายความน่ารัก



ทั้งหมดนี้เพิ่งเขียนมาได้ 3 ประเด็นเองนะ - พระเอก – นางเอก และความรัก เพ้อจนเกือบจะลืมสาระของซีรีย์ไปแล้ว นั่นก็คือ

ครอบครัว การรวมตัวกันของสองครอบครัวที่วิถีชีวิตสุดแตกต่าง ในโลกของความเป็นจริง โซจองกิลและภรรยาไม่ควรจะไร้ญาติขาดมิตรขนาดต้องมาลงเอยที่ครอบครัวคนขับรถหรอก แต่เมื่อมันเป็นละครที่ค่อนไปในทางคอมเมดี้ ก็ว่ากันไปตามละครน่ะนะ

ความยาว 45 ตอน เป็นสิ่งที่ไม่บ่นเลยแม้บางช่วงจะอืดไปบ้าง เพราะมีความน่ารักของพระเอกนางเอกทุกตอนที่มัดใจ(อยู่หมัด) การเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อวิถีดำเนินชีวิตของครอบครัวโซ เวลา 45 ตอน ช่วยขยายรายละเอียดได้มากมาย ยังไงก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปได้เนียนอยู่แล้ว





ยังมีประเด็นสำคัญๆ อีกมากที่ไม่อาจบรรยายได้ครอบคลุมในรายละเอียด แต่นี่ก็หมดแรงแล้ว แม้จะยังไม่หนำใจ เพราะยังมีเรื่องอยากเขียนถึงอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของคังมันบ๊กและโซจองกิล ที่ปากอาจไม่ใช่แต่หัวใจก็เหมือนพ่อลูก ความสัมพันธ์ของคังซังฮุนและโซจองกิล ศรศิลป์ไม่กินกันมาห้าสิบปี แต่นั่นมันย่อมมีแฝงความเป็นเพื่อนแบบห่างๆ (อย่างเกลียดๆ ) ความเปลี่ยนแปลงของสะใภ้เศรษฐีที่สุดจะบอบบางและขี้แยอย่างกงจูฮีที่จะลดทอนการรักสวยรักงาม เปลี่ยนมาทำงานกลายเป็นแม่บ้านขึ้นมาได้บ้าง สองมือที่เคยหวงแหนเล็บมือนางของเธอ ยินดียอมสละให้การทำอาหารค้าขาย หรือรองรับริ้วรอยเข็มแทงเมื่อลงมือเย็บปักผ้าห่มให้ลูกเตรียมตัวแต่งงาน โซซองจุนลูกชายคนโตที่ไม่เอาถ่านจะเปลี่ยนไปเอาการเอางานเมื่อมีความรักเป็นแรงผลักดัน ลูกสาวคนโตจองคยอง จากหน้าตาบึ้งตึง นิสัยหยิ่งยโส เย็นชาและเห็นแก่ตัว บ้านของคุณปู่คังมันบ๊กจะค่อยๆ หล่อหลอมหัวใจของเธอให้อ่อนโยนลง จากพี่สาวที่ไม่แยแสคราบน้ำตาบนใบหน้าของโซจองอิน จากคนขี้อิจฉาและคิดจะแย่งความรักมา ก็เป็นพี่สาวคนนี้แหละที่ยินดีจะใช้เงินเก็บทั้งหมดที่เธอมีเพื่อธรรมเนียมของหมั้นที่แม่ของคังฮยุนซูเรียกร้องเอาจากครอบครัว และโซซองจุนก็จะช่วยน้องด้วย (มันซึ้งมาก)



ลูกสาวคนเล็ก โซจองอิน ^^ แน่นอนว่าเธอต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อจะเป็นผู้หญิงดีๆ ที่คู่ควรกับผู้ชายดีๆ อย่างพี่ฮยุนซู น่ารักขนาดนี้พี่ฮยุนซูเขาคงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ตอนที่จองคยองถามฮยุนซูว่า “ถ้าฉันเป็นเพื่อนแล้วจองอินเป็นอะไรกับคุณ” มีคำตอบในใจแทนพระเอกอยู่อย่างหนึ่ง “เธอ คือ ความสุขของชีวิต” ก็ดูแล้วมันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และเพราะเธอคือความสุขแล้วพี่ฮยุนซูจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง



ยังมีการเปลี่ยนแปลงของคนนอกอย่างลีฮันเซ จากศัตรูหัวใจ กลายมาเป็นเพื่อนที่จริงใจกับฮยุนซูและจองอิน ถือวิสาสะเป็นแขกคนหนึ่งของบ้านคังมันบ๊กที่แรกๆ ก็ก่อความวุ่นวาย ภายหลังก็เป็นลูกผู้ชายหัวใจแมนมากขึ้นเพราะมีฮยุนซูเป็นแบบอย่างและเขาจำเป็นต้องยอมรับว่าทำไมจองอินถึงลืมเขาได้สนิทและรักพี่ฮยุนซูของเธอนักหนา

ใช่แต่ครอบครัวโซที่เปลี่ยนไป ครอบครัวคังก็ได้เรียนรู้อะไรต่างๆ มากมาย จากความวุ่นวายในครอบครัว การทะเลาะเบาะแว้ง การโอนอ่อนผ่อนปรน ความไว้เนื้อเชื่อใจ และการให้อภัยต่อความผิดพลาด





โดย: prysang วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:19:44:38 น.  

 
เท่าที่เขียนมานี้ก็เวิ่นเว้ออยู่แต่เรื่องความรักที่สุดแสนจะน่ารักของพระเอกนางเอกเท่านั้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามันมีอยู่แค่นั้น เพราะซีรีย์มีความยาวตั้ง 45 ตอน มันย่อมมีอะไรที่มากกว่าความรักของคนสองคน เช่นรักคู่สองรองจากคู่พระ-นาง ที่ก็พัฒนาความสัมพันธ์คลอคู่กันมาอย่างน่าลุ้นอีกคู่หนึ่ง โซซองจุนผู้ไม่เอาไหน กับจิซู สาวแปลกหน้าที่เร่ร่อนมากับรถบรรทุก ขยันทำกินหาเลี้ยงตัวเองและใช้รถบรรทุกเก่าๆ ของเธอเป็นบ้าน อดีตเคยกร้านชีวิตมุมมืด แต่เธอก็พยายามจะออกมาสู่ที่สว่าง และคุณปู่คังมันบ๊กก็ได้ช่วยเหลือเธออย่างมาก จิซูเป็นคนรู้จักคุณค่าของเงินและสำนึกในบุญคุณคน แต่โซซองจุนเป็นคนที่สุดจะตรงกันข้าม แต่ทำไปทำมาก็รักกันได้ซึ้งเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน (วิธีที่ซองจุนขอจิซูแต่งงานทำเอาเราร้องไห้เลย มันซึ้ง คนเขียนบทเค้าเยี่ยมจริงๆ ) ชอบจิซูเพราะเธอหน้าตาน่ารัก บทของเธอจะเศร้าๆ แต่เวลาเธอยิ้มที สว่างไสวทันตาเห็น ชอบมากและชอบเป็นพิเศษยามที่เธอยิ้มทั้งรอยน้ำตา



ยังมีคุณปู่จุนเบ เพื่อนรัก 70 ปีของคุณปู่คังมันบ๊กที่บ้านเปิดร้านเนื้อย่างอยู่ไม่ไกลจากคาร์เซนเตอร์เท่าไรนัก ร้านของปู่จุนเบเป็นที่พักพิงยามยากและเป็นศาลาพักใจของคนเดือดร้อนใจขาประจำจากครอบครัวคัง คุณปู่จุนเบที่แก่แค่วัยหัวใจยังหนุ่ม จึงเป็นเหมือนสมาชิกครอบครัวอีกคนของบ้านคังมันบ๊ก เช่นเดียวกับลูกจ้างคาร์เซนเตอร์ หนุ่มแว๊นกวางซู ที่อาจจะไม่ได้เข้าไปคลุกคลีใต้ชายคาบ้านบ่อยนัก แต่ก็ไม่ได้ขาดหายไปไหนจากบริเวณหน้าบ้านที่เป็นสถานที่ทำงาน



ยังมีคุณป้านักลวง หญิงแก่พราวเสน่ห์ที่หวังจะใช้เล่ห์มารยาปั่นหัวหลอกเอาเงินจากทั้งปู่จุนเบและคังมันบ๊ก ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่จะต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง

ยังมีคุณหญิงแม่ตามแบบฉบับแม่สามีแห่งชาติที่จะต้องห้ามหวงกีดกันลูกสะใภ้ที่ไม่เหมาะสม บังคับบัญชาลูกชายฮันเซให้เป็นไปตามความต้องการของเธอ แต่ความกดดันของฮันเซมันก็มีขีดระเบิดได้เหมือนกัน เธอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องได้รับบทเรียน



นักแสดง ต้องชมเหล่าผู้อาวุโส เพราะคงไม่ต้องพูดถึงกันมากนัก เล่นยังไงก็ “กระจุย” แต่ชอบคุณพ่อโซจองกิล เป็นพิเศษ เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ นิสัยเจ้าเล่ห์ ขี้โกง ขี้ตู่ ขี้หมกเม็ด ขี่ข่ม ขี่โม้ สารพัดนิสัย “ขี้” ที่น่ารังเกียจ แต่ลุงก็ฮาเพราะว่านิสัยสุดโต่งเหลือล้นพวกนี้แหละ คนอะไรอย่างนี้ไม่เคยพบเคยเจอ แต่เมื่อเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น (บ้าง) ทีละเล็กละน้อย โซจองกิลก็เป็นคุณพ่อคนดีที่น่ารักขึ้นมากับเขาได้เหมือนกัน ซีรีย์เรื่องนี้จึงมีเวลาที่จะเกลียดและรักตัวละครทุกคน ยกเว้นพระเอกนางเอกที่รักมาตลอดแต่ต้นจนจบ

คนโปรดแท้จริงคือคนนี้ “ลีชอนฮี” ผู้รับบท โซซองจุน เพราะเขามีคะแนนส่วนตัวเต็มร้อยอยู่แล้ว จากความคุ้นเคยที่เขาเป็น ชอนเดอเรลล่าของคิมซูโร หนุ่มทึ่มจอมซุ่มซ่ามจากครอบครัว Family outing ตอนแรกนึกว่าชอนฮีจะรับบททึ่มๆ ฮาๆ แบบเต็มคาแร็คเตอร์ซะอีก แต่เอาเข้าจริง ก็ยังมีมุมดราม่ามีสาระกับเขาอยู่บ้าง ไม่ถึงกับจะคงลักษณะเซ่อ ซุ่มซ่าม ไม่ได้ความเพราะนิสัยน้องๆ ผู้เป็นพ่อไปซะทั้งหมด



สุดท้าย ขอเอ่ยถึงประเด็นสำคัญหนึ่งที่ชอบมากในซีรีย์เรื่องนี้ นั่นก็คือวอาการป่วยของคุณปู่ “มะเร็งตับ” ที่ดำเนินควบคู่ไปกับเรื่องความรักของพระเอก-นางเอก ยิ่งพัฒนาการของโรคในช่วง ๑๐ ตอนหลัง ยิ่งให้ความรู้สึกหลากหลายอารมณ์มาก การที่จองอินแอบไปตรวจร่างกายเพื่อจะบริจาคตับให้คุณปู่ ตอนความลับแตก เข้าใจพระเอกเลยนะที่ไม่มีแก่ใจจะพูดจากับนางเอกเลย มันคงไม่ใช่ความโกรธ แต่เป็นความสะเทือนใจที่ได้รู้ว่าจองอินรักคุณปู่ของเขามากแค่ไหน แต่ตับของจองอินใช้ไม้ได้ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่กรุ๊บเลือดต่าง และถ้าจะเป็นตับของโซจองกิล คนที่เป็นอันดับหนึ่งของความเห็นแก่ตัว ถึงจะถูกละลายพฤติกรรมและเปลี่ยนไปมากแต่การเฉือนตับให้ใครสักคนไม่ใช่เรื่องจะตัดสินใจกันได้ง่ายๆ และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งบ่อเกิดของความวุ่นวายในสองครอบครัว ปัญหาอยู่ที่คนให้ แต่ประเด็นมันอยู่ที่คนรับ ว่าในวัยเจ็ดสิบปี เขายังอยากมีชีวิตอยู่ด้วยการพึ่งตับของคนอื่นอีกหรือเปล่า

เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแทนคังฮยุนซู ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องดูแลคุณปู่ที่เรียกหาแต่ฮยุนซูเท่านั้น เพราะความทรงจำเลอะเลือนคิดว่าหลานฮยุนซูเป็นลูกชายซังฮุนของตัวเอง แล้วไหนจะแพ้ท้องแทนเมียอีก (นึกถึงฮยุนซูแพ้ท้องทีไร อยากจะหัวเราะทุกที)





คุณปู่คังมันบ๊ก คนแก่หัวใจแกร่ง ได้ให้ข้อคิดหลายสิ่งหลายอย่างน่าจดจำนำไปใช้ แต่ถึงจะแกร่งอย่างไร คุณปู่ก็มีชีวิตหนึ่งเป็นสัจธรรม

เมื่อเสาหลักของบ้านมีสังขารที่ร่วงโรย สติความทรงจำเริ่มเลอะเลือนกลับกลายเป็นเด็กน้อย ลูกหลานในบ้าน ย่อมระส่ำระสาย สะเทือนใจและเหนื่อยล้า แต่เมื่อได้ผ่านความอ่อนแอมาช่วงเวลาหนึ่ง ก็ย่อมถึงจุดที่ต้องทำใจยอมรับให้ได้ เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไปไป อย่างเข้มแข็ง

และที่จะไม่เอ่ยถึงเสียไม่ได้ คือ ชุดวอร์มฟอร์มประจำครอบครัว

สีเขียวนี่ก็ว่าเริ่ดแล้วนะ สีแดงยังแร้งงกว่าอีก

ไอเดียบรรเจิดมาก คิดได้ไง ตลกดี

เพลงประกอบซีรีย์ก็เพราะดี - ต้องโหลด



ถามใจตอนนี้ ถ้าถามว่าพระเอกในละครเกาหลีเรื่องไหนที่รักมากที่สุด จากที่ยังรักและจดจำกันอยู่นะ

กษัตริย์มูแห่งแคว้นแพ็คเจ - ซอดองโย
ใต้เท้ามินจุงโฮ - แดจังกึม
ต๊กโกจิน - Greatest Love
ฮวาง แทคยอง - You're beautiful
ลีดองซอล - East of Eden
ควอนจิฮยอก - Shut up flower boy band
ชาแทอุง - My girl friend is a Gumiho

"คังฮยุนซู" จาก Smie You ระดับความฮาอาจยังไม่เท่าอีกนิด ระดับความเท่อาจยังไม่ถึงอีกเยอะ แต่ด้วยความตลก-น่ารัก-ที่แสนอบอุ่น เอาไปเลย โล่ห์ชนะเลิศ ...













โดย: prysang วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:19:45:20 น.  

 

























..........



















......



..............









********




























................







**














โดย: prysang วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:19:48:33 น.  

 
***










****












******











*******

















********









































โดย: prysang วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:19:49:13 น.  

 
ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ เป็นความวุ่นวายในครอบครัวที่เป็นธรรมชาติมาก ไม่มีเรื่องความแค้นที่ต้องชำระ และก็ชอบคู่ของพี่ชายนางเอกด้วย คู่นี้หลังจากละครจบก็ได้แต่งงานกันจริงๆ

โดย: Ferno IP: 115.87.127.175 วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:8:45:06 น.


โดย: prysang วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:19:50:26 น.  

 
พระเอก จามอง หน้าคล้าย อาร์ต พศุตย์ อ่ะ

โดย: montes IP: 49.48.234.106 วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:11:06:27 น.


โดย: prysang วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:19:50:52 น.  

 
ตอนเห็นข่าวชอนฮีแต่งงาน ไม่รู้ว่าเป็นจอนเฮจินที่เล่นเป็นจิซูคนนี้ โอ้ว ..ได้ภรรยางาม และ เด็ก น่าอิจฉาแท้



โดย: prysang วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:19:52:58 น.  

 
ไว้จะหามาดูนะคะ ^^
กำลังมองหาซีรีย์น่ารักๆแนวนี้อยู่


โดย: nobuta wo produce วันที่: 17 กันยายน 2555 เวลา:17:00:27 น.  

 
ดูซีรีย์เรื่องนี้ตามคุณ PRYSANG ค่ะ เนื่องจากไม่มีเวลาเลยเลือกดูเฉพาะพระนาง นางเอกน่ารัก พระเอกตอนแรกดูแล้วไม่เข้าตากรรมการเลย ดูไปดูมา น่ารักมากส์ค่ะ


โดย: สามสิบเอ็ดธันวา วันที่: 21 กันยายน 2555 เวลา:20:44:54 น.  

 
ดูเรื่องนี้เพราะชอบนางเอกตั้งแต่ F4 สวยเก๋ น่ารัก แต่พอได้ดู Smile You แล้วยิ่งชอบมาก ๆ ตอนแรกก็ยังเฉยกับพระเอก แต่พอดูไปเรื่อย ๆ เห็นรอยยิ้มที่แสนน่ารัก มีเสน่ห์สุด ๆ ประทับใจตอนกอดนางเอกจากด้านหลัง และให้นางเอกนั่งตักตอนนั่งทำงานในห้อง เห็นแล้วหลงรักเลย ดูอบอุ่นน่ารักมากๆ ตอนนี้ก็ดูซีรีย์ของจองคยองโฮเกือบทุกเรื่องเท่าที่จะหาดูได้ เป็นนักแสดงที่มีความสามารถในการแสดงออกทางภาษากาย การโอบกอดแสดงถึงความรักความอบอุ่น โดยเฉพาะการใช้สายตาทำได้ดีมาก ตั้งแต่เรื่อง I'm sorry I love you , Time between dog and wolf, Princess Jamung และSmile You .... รอยยิ้มที่มีเสน่ห์และการแสดงที่ดีของจองคยองโฮทำให้ประทับใจและชอบเค้ามากๆ ค่ะ


โดย: ไอติม IP: 58.9.14.211 วันที่: 24 กันยายน 2555 เวลา:22:13:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.