Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
6 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
Tonbi อาจไม่ใช่พ่อที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นพ่อที่ดีที่สุด "อาริงาโตะ โอโต้ซัง"



Title : Tonbi とんび
Director: Yuichiro Hirakawa
Writer: Kiyoshi Shigematsu (novel), Yoshiko Morishita
Network: TBS January - Mar Sundays 21:00
Episode : 10 viewership rating : 15.5 %




ปกติเรื่องไหนมีซาโต้ ทาเครุ คือ ตั้งใจจะดูซาโต้ ทาเครุ ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกหรือตัวประกอบ โดยความชอบส่วนตนย่อมทำให้เขาโขมยซีนได้ แม้จะไม่ใช่คนที่เด่นที่สุดก็ตาม

เรื่องนี้ก็ตั้งใจดูซาโต้เต็มที่ ให้สมกับที่แม่ยกปักหลักรอคอย แต่ใครจะไปคิดว่า แต่ละบทแต่ละตอนซึ่งๆ หน้า

ซาโต้ ถูกแย่งซีน!!!!



มาซาอากิ อุจิโนะ นักแสดงวัย ๔๔ ปี คนนี้ คือ พระเอกของ Tonbi และด้วยหัวใจของคนเป็นพ่อ เขาหล่อที่สุดในเรื่อง

Tonbi คือ เรื่องราวของพ่อหม้าย อิชิกาวะ ยาสุโอะ ที่ต้องกลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวหลังจากภรรยาสุดที่รัก อิชิกาวะ มิซาโกะ ได้เสียชีวิตลงขณะลูกชายเพิ่งมีอายุเพียง ๓ ขวบ



แต่ถ้ามองอีกมุมจะเป็นการนำเสนอถึงชีวิตของคนอีกคนหนึ่ง "อิชิกาวะ อากิระ" เริ่มต้นจากเด็กแรกเกิด จนกระทั่งเติบโตเป็นหนุ่ม แต่งงาน มีครอบครัว เป็นสามี และเป็นพ่อของลูก

อากิระ ที่ขาดแม่ตั้งแต่อายุ ๓ ขวบ เติบโตขึ้นมาด้วยสองมือพ่อ
และได้รับการประคับประคองจากอีกหลายๆ มือของผู้คนรอบข้าง



แต่ละบทตอนคือการดำเนินชีวิตของอากิระ ที่ระลึกความทรงจำและผูกพันความรู้สึกอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เป็นชีวิตของอากิระ แต่ดำเนินเรื่องราวไปด้วยชีวิตของพ่อซึ่งก็หมายรวมถึงเป็นชีวิตของอากิระด้วยนั่นเอง (งงมั้ยเนี่ย?)

แล้วแต่ละตอนก็ช่างเป็นเรื่องที่ อบอุ่น ละมุน น้ำตาเอ่อ (ซึ้งจริงจัง)



ยาสุโอะ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "ยาสุ" เป็นเด็กกำพร้า กำพืดบ้านนอก การศึกษาน้อย อาชีพต้อยต่ำเป็นเพียงคนขับรถบรรทุก เขาเป็นคนประเภทที่จะถูกเรียกอย่างฉุนเฉียวว่า "Bakka!!" หรือไม่ก็เรียกอย่างเคืองขุ่นปนขำว่า "Stupid!" แต่มันไม่ได้เป็นปัญหา เพราะยาสุก็เป็นอย่างที่เป็น คนพื้นๆ เดินดิน กินข้าว และกินเหล้าหลังเลิกงาน

ทว่าตั้งแต่ได้พบกับ มิซาโกะ ความสุขในชีวิตก็ยิ่งใหญ่กว่าเคยเป็น มีเมีย มีลูก มีคนรัก คนห่วง และคนรอ ชีวิตครอบครัวสงบสุขอย่างเรียบง่ายและสำหรับคนไม่เคยมีอะไรมากนักอย่างยาสุ ย่อมไม่มีอะไรจะสุขสมบูรณ์แบบไปมากกว่านี้



แต่วิมานแห่งความสุขก็พังทลายไปพร้อมกับการตายของเธอ เป็นช่วงเวลาที่การทำใจเป็นเรื่องยากลำบาก แต่เพื่อลูก ยาสุจำต้องกัดฟันก้าวผ่านความสูญเสียไปให้ได้ การเลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนเป็นแม่ และยิ่งไม่ง่ายสำหรับคนเป็นพ่อด้วย ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่ขาดแม่ มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องคอยเฝ้าระวังและเติมเต็ม นั่นก็คือ ความเหงา



แต่ละช่วงวัยของอากิระ ก็มีปัญหาแตกต่างไปตามวัย วัยเด็กที่ไม่รู้ว่าแม่อยู่ไหน "บ้านอีกหลัง" ที่ใครๆ บอกว่าแม่อยู่ที่นั่นมันคือบ้าน ณ แห่งหนใด เมื่อโตขึ้นมาอีกนิดก็เริ่มจะข้องใจว่าทำไมแม่ไม่เคยกลับมาจากบ้านหลังนั้น ทำไมถึงไม่มีแม่เหมือนคนอื่นๆ และเมื่อโตขึ้นอีกจนเข้าใจ ก็เริ่มอยากจะรู้คำตอบ แม่ตายอย่างไร ทำไมถึงไม่มีใครต้องการจะพูดถึง โดยเฉพาะพ่อที่ดูจะหวาดกลัวคำถามนี้มากที่สุด



เติบใหญ่ขึ้นเป็นวัยรุ่น เริ่มมีปัญหาความดื้อรั้นและความไม่เข้าใจกัน
ถึงวัยเข้ามหาวิทยาลัย เขาตัดสินใจอำลาบ้านนอกไปสู่เมืองใหญ่ที่โตเกียว

ระยะทางอาจไม่ใช่ปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาแน่ๆ คือระยะของวัย

'ลูก' ที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ และมีสิทธิตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตของตนเองได้
'พ่อ' ที่ไม่ว่าลูกจะอายุสักเท่าไร ในสายตาก็ยังคงเป็นเด็กที่ต้องกังวลห่วงใยเสมอ



ถึงเวลาของการเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และแยกไปมีชีวิตของตัวเอง
ผู้หญิงที่อากิระต้องการเลือก เป็นภรรยา และเป็นแม่ของลูก
อนาคตครอบครัว และอนาคตของพ่อผู้แก่ตัวลงเป็นไม้ใกล้ฝั่ง

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ไม่มีช่วงชีวิตจังหวะใดที่ราบรื่น

แต่มันก็ไม่ขรุขระมากเกินไป หากมีความรักเป็นเครื่องไกล่เกลี่ย




ยาสุ เป็นลูกกำพร้า เมื่อไม่มีพ่อแม่ ย่อมไม่เคยรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการเป็นพ่อแม่ แต่เขาก็พยายามที่จะเลี้ยงดูอากิระอย่างดีที่สุด

อากิระ ถึงจะขาดแม่ แต่ความอบอุ่นที่เขาได้รับจากพ่อและคนรอบข้างก็เหลือจะพอ พ่อกับแม่รักกัน การได้เกิดมาจากความรักนั้น ได้รับความรักนั้น และถูกฟูมฟักเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาด้วยความรักจากใครอีกหลายคน นั่นจึงกลายเป็นความรับผิดชอบอันเกิดจากสำนึกในพระคุณที่อากิระจะต้องใช้ชีวิตให้ดีที่สุด








มีอยู่ตอนหนึ่งที่ซีรีย์ได้เปรียบถึง การขาดแม่กับความเหน็บหนาว สองแขนของพ่อที่โอบกอดอาจไม่ช่วยให้อบอุ่นพอ เช่นเดียวกับคนเป็นพ่อที่กอดลูกลำพังก็ยังหนาว แต่หากหลายๆ คนช่วยกันล่ะ เมื่อมีมากกว่าสองมือสองแขนช่วยกอดกันไว้ ความหนาวอาจไม่หายไปทั้งหมด แต่อย่างน้อยมันก็เริ่มอุ่นขึ้นมาและมากพอจะอดทน

และคนเหล่านี้ คือสองมือสองแขนเหล่านั้น



หากจะมีผู้หญิงสักคนที่สำคัญต่อยาสุที่สุดนอกเหนือไปจากเมีย ก็คงเป็นเธอคนนี้ "นี่จัง" (nee-chan) ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่ก็เป็นเสียยิ่งกว่าพี่สาวแท้ๆ เห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อย ไม่ว่าจะวัยกลางคนจนแก่เฒ่า ยาสุก็ยังเป็น "ยักจัง" (Yack-chan) ของเธอเสมอมา คนที่เธอคอยเอาใจใส่ดูแลเหมือนเขาเป็นน้องชายแท้ๆ คอยตำหนิติเตียน และยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เธอจะอยู่ที่นั่นเสมอ ร้านเหล้าของเธอที่เป็นแหล่งสุมหัวของยาสุกับเพื่อนบ้านสนิทกัน ทาเอโกะเป็นผู้รับฟังเรื่องราวของคนอื่นๆ และเป็นที่รักของทุกคนละแวกนั้น ลำพังยาสุคนเดียวที่ต้องทำงานหาเลี้ยงตัว คงไม่อาจทำทุกอย่างให้กับอากิระได้ และ "นี่จัง" คือคนคอยเติมเต็มหน้าที่ในส่วนที่ยาสุขาดจำเป็นต้องขาดไป

นอกจากจะมีน้องชาย "ยักจัง" เธอยังมีหลานชาย "อัคคุง" (Ak-kun) เพิ่มขึ้นมาให้คอยรักและเอาใจใส่ด้วยอีกคน เหมือนเป็นพี่แท้ๆ ป้าแท้ๆ



ยาสุเป็นเด็กกำพร้า และตลอดชีวิตผ่านมา เขาคนนี้คือพระที่เป็นเหมือนพ่อ "Kaiun" แม้ภายนอกจะพูดจากระโชกโฮกฮากใส่กันแทบตลอดเวลา แต่เมื่อมีปัญหายาสุจะไปที่วัด ให้ได้รับการทุบตีสั่งสอนจากพระ แล้วปัญหาจะมีทางออก อาจมีหลายเรื่องโง่ๆ ที่ยาสุทำ และถ้าไม่ต่อหน้าก็ลับหลังที่ยาสุจะได้รับการชี้นำและช่วยแก้ไขจาก Kaiun



"Shoun" เป็นลูกชายของ "Kaiun" (พระทั้งสองต่างก็มีภรรยาน่ะค่ะ ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงมีได้ ก็เป็นเรื่องรายละเอียดของแต่ละศาสนา นักบวชแต่ละนิกาย หรือลัทธิของประเทศนั้นๆ ซึ่งผู้เขียนเองไม่มีความรู้ในส่วนนี้จะอธิบายได้ และไม่รู้จะเรียกอะไร จึงเรียกว่า "พระ" และพระในเรื่องนี้เข้าร้านเหล้าได้อีกต่างหากแน่ะ)



Shoun เป็นพระเหมือนกับพ่อ และเป็นเพื่อนสนิทกับยาสุมาตั้งแต่เด็ก เขามีภรรยาชื่อยูกิเอะแต่ไม่มีลูกด้วยกัน หากนับยาสุเป็นพ่ออันดับหนึ่งของอากิระ Shoun ก็เป็นพ่ออันดับสอง ที่มีแม่แถมให้แก่อากิระด้วย ถัดจากสองมือของโอบะซัง-ทาเอโกะ อากิระยังมีอีกสองมือของโอบะซัง-ยูกิเอะ ที่รออุ้มชู หากบ้านกลายเป็นสถานที่ขัดแย้งกับพ่อที่อยู่ไม่ได้ Shoun และ ยูกิเอะ คือบ้านหลังที่สองของอากิระที่เขาสามารถจะไปอยู่เพื่อพักใจ



เท็ตสึยะเป็นเพื่อนร่วมงานอยู่บริษัทเดี่ยวกันกับยาสุ หลังจากแต่งงานกับมิซาโกะ ยาสุก็เลิกขับรถบรรทุกและหันมาทำงานที่จะมีเวลาให้กับครอบครัว มากขึ้น ถ้าดูจากลักษณะงานที่ยาสุทำ เข้าใจว่าเป็นบริษัทขนส่งสินค้าที่อยู่ใกล้กับท่าเรือ เท็ตสึยะมีภรรยาที่ไม่ค่อยถูกคอกันนักกับยาสุ เธอมักว่าเขา Stupid! และเขามักจะว่าเธอ Useless wife!! แต่มันไม่มีความบาดหมางใดในกอไผ่ แค่การแสดงออกด้วยความสนิทหนึ่งจากคนคุ้นเคย



Bito เช่นเดียวกันกับทาเอโกะ คือ เป็นเพื่อน หรืออาจจะเป็นพี่ ? ที่คุ้นเคยสนิทสนมกันอยู่ในละแวกบ้านเกิดเดียวกันนี้ และพวกเขามักจะมาชุมนุมกันหลังเลิกงานอยู่ที่ร้านเหล้าของทาเอโกะ พูดคุยกับเรื่องสัพเพเหระ เรื่องครอบครัว และสำหรับยาสุเขามีอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องของ "อากิระ"



ส่วนเธอคือรุ่นพี่ในที่ทำงานของอากิระ ซึ่งก่อนหน้านั้นตอนยังเป็นเด็กหนุ่มมหา'ลัย อากิระก็แอบชอบเธอมาตลอด เธอเป็นคนที่จุดประกายความฝันให้อากิระเลือกทางเดินด้านอาชีพการงาน (โดยที่เจ้าตัวไม่รู้) จนกระทั่งอากิระเรียนจบ และได้มาทำงานที่เดียวกันกับเธอ อายุของเธอที่มากกว่า ๗ ปี สำหรับอากิระแล้วเป็นเพียงตัวเลขที่เล็กน้อย แต่มันเป็นอุปสรรคใหญ่แน่ๆ สำหรับการจะเป็นครอบครัวโดยได้รับการยอมรับ และประเด็นที่ดูท่าจะหนักกว่าอายุ คือการที่เธอเป็นแม่หม้ายลูกหนึ่ง

สำหรับลูกชายผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจของพ่อ และวิถีการเลี้ยงดูที่ทำให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี (ด้วยจิตใจที่ดี) อากิระคือ ความบริสุทธิ์ ที่ผู้หญิงมีตำหนิอย่างยูมิ ไม่กล้าอาจเอื้อม



สร้างจากนิยายขายดี "Tonbi" โดย Shigematsu Kiyoshi NHK เคยสร้างเป็นภาพยนตร์มาก่อนแล้วในปี 2012 แต่เป็นนักแสดงคนละชุดกัน สงสัยจะยังติดใจความละมุนของเนื้อเรื่องอยู่ จึงสร้างเป็นซีรีย์อีกครั้ง และเรตติ้งดีใช้ได้เลยทีเดียว ช่วงครึ่งแรกบทบาทของซาโต้ค่อนข้างน้อย เพราะต้องเกลี่ยให้เด็กๆ ที่เล่นเป็นอากิระแต่ละรุ่น เมื่ออากิระในวัยซาโต้ได้ย้อนรำลึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับพ่อ แม้เพียงจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถจะกระตุ้นเตือนถึงความทรงจำเหล่านั้น เพราะพ่ออยู่ในหัวใจของเขาเสมอ สิ่งที่ได้พบเห็น คำพูดที่ได้รับฟัง เรื่องที่เกิดขึ้นทำนองเดียวกันนี้ พ่อของเขาเคยคิดเคยทำอย่างไร

บางอย่างมันก็เป็นเรื่องขำขัน อย่างที่ใครๆ จะพ่นคำ "Stupid" ออกมาใส่หน้าของยาสุ เพราะพฤติกรรมของเขามักดูโง่ๆ และน่าขันจริงๆ แต่ทั้งที่เป็นอย่างนั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็สร้างได้ทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตา



ทำให้ต้องครุ่นคิดถึง Beautiful Rain ขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่ได้หนูอาชิดะ มานะ เป็นนางเอกตัวจิ๊ดโดดเด่นอยู่ทั้งเรื่อง ทั้งที่มีสองคนพ่อลูกเหมือนกัน มีเพื่อนบ้านเพื่อนร่วมงานคอยช่วยเหลือประคับประคองเหมือนกันเลย แถมน่าสงสารกว่าด้วยตรงที่พ่อป่วยเป็นอันไซเมอร์ แล้วทำไมต่อมน้ำตาไม่ค่อยทำงานเหมือนอย่างดูเรื่อง Tonbi (เป็นน้ำตาทุกตอน) ตอนนั้นยังเขียนบล็อกแบบงงๆ ตอนนี้คิดว่าพอจะเข้าใจสาเหตุแล้ว ปัญหาของ beautiful rain ที่ผิดไปจากความคาดหวังสักเล็กน้อย น่าจะอยู่ที่บทพ่อ ที่ไม่ได้ทำให้อินมากนักเหมือนอย่างพ่อในเรื่องนี้



พ่อใน Beutiful Rain ค่อนข้างเรียบไปนิด แสนดีตลอดเวลาและเป็นพ่อที่มีอารมณ์นิ่งๆ อยู่เสมอ เป็นประเภทกล้ำกลืนความเศร้าไว้ในอกอยู่นิ่งๆ แต่พ่อยาสุใน Tonbi โดยคาแร็คเตอร์โผงผางของตัวละครก็โดดเด่นอยู่แล้ว และยังมีความหลากหลายกับการเป็นพ่อในช่วงชีวิตของลูกหลายวัย มีทุกอาการ ขัดเขิน ประหม่า ไม่มั่นใจ เก๊กท่า หยิ่ง วางฟอร์ม อิจฉา โกรธเคือง น้อยใจ งอน และถ้าเกิดความรู้สึกซาบซึ้งกับอะไร เขาจะเริ่มทำตัวบ้าบอเพื่อกลบเกลื่อน และบ่อยครั้งก็ทำตัวเป็นเด็กๆ (เด็กกว่าลูกก็มี ) และพ่อแบบนี้แหละ ที่ทำให้เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวร้องไห้อยู่ทุกตอน



ประสบการณ์เรียนรู้ไปตลอดจนถึงบั้นปลายชีวิตของคนเป็นพ่อ สิ่งหนึ่งที่ยาสุได้เข้าใจ

"การเลี้ยงดูเด็กเป็นเพียงเรื่องของความผิดพลาด
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ขอบคุณจริงๆ ที่เด็กๆ เติบโตขึ้นมา
ด้วยพลังของพวกเขาเอง "



"แต่ลูกรู้มั้ยอากิระ มีสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ต้องทำเพื่อลูกไม่ว่ายังไงก็ตาม
คือทำให้แน่ใจว่าลูกจะไม่รู้สึกเหงา เพราะความเหงาจะค่อยๆ สะสม
เหมือนหิมะตกอยู่ในใจ กว่าจะรู้ ใจดวงนั้นก็ถูกแช่แข็งจนกระด้างไปแล้ว

นั่นคือเหตุผลว่าทำไม พ่อแม่ถึงต้องเป็นเหมือนมหาสมุทร
เป็นมหาสมุทร และยิ้มเข้าไว้"



"พ่อครับ พ่อรู้มั้ย ผมไม่เคยคิดแม้แต่สักครั้งเดียวว่าผมเป็นคนอาภัพ
เพราะผมก็เหมือนคนอื่นๆ ผมอบอุ่นอยู่เสมอ

นั่นทำให้ผมคิดว่า พ่อเป็นมหาสมุทรของผม
พ่อครับ ขอบคุณครับพ่อ"



พ่อแม่สามารถที่จะผิดพลาดและเรียนรู้เพื่อแก้ไข อย่ากังวลกับการจะต้องเป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบ ขอแค่ทำให้แน่ใจว่าพ่อแม่เป็นมหาสมุทรของลูก คิดว่านี่คือสิ่งที่ซีรีย์ได้บอกเอาไว้ ถ้าอยากรู้ให้ชัด "มหาสมุทร" ตามความหมายของซีรีย์เรื่องนี้เป็นอย่างไร หาซีรีย์เรื่องนี้มาดูสิคะ

"With nothing but love for his son... that's all there is" - TBS



















ขอบคุณ DramaCrazy.net / Asian Wiki / Dramawiki




Create Date : 06 เมษายน 2556
Last Update : 7 เมษายน 2556 8:24:07 น. 4 comments
Counter : 14204 Pageviews.

 
เห็นเรื่องนี้แล้วทำให้รุ้ว่าหมู่นี้นุ่นห่างหายซีรีย์ญี่ปุ่นไปมากจริงๆค่ะ
ชอบแนวนี้แหละ ความสัมพันธ์พ่อลูก แม่ลูก ญี่ปุ่นเค้าทำได้กินใจดี
ล่าสุด Mother ทำเอาเต็มตื้น T T



โดย: lovereason วันที่: 6 เมษายน 2556 เวลา:23:47:29 น.  

 
จัดว่าน่าดูและม้ามืดเอามากๆสำหรับ
ซีรีย์คืนวันอาทิตย์จากค่ายทีบีเอสเรื่องนี้

น่าจะถือได้ว่าเป็นซีรีย์ของซีซันหน้าหนาว
ที่เรตติ้งดีที่สุด เพราะเรื่องอื่นส่วนใหญ่
ที่เรตติ้งสูงกว่าก็คาบเกี่ยวซีซันกันมาทั้งสิ้นเลย

อยากดูอากิโกะคืนวงการ แต่เท่าที่ดูบทจะน้อย
ยกเว้นว่าจะหลุดแฟลชแบ็ค แต่อย่างว่า
ซีรีย์เน้นความสัมพันธ์ของพ่อกับลูก
และไม่รู้มาก่อนว่า เป็นหนังมาก่อนหน้าแล้ว

ตอนอ่านข่าวนึกว่า เป็นแค่งานเขียนชื่อดังเท่านั้นเอง

อ่านทรงแล้ว เชื่อว่ากวาดTDAAทั้งดรามา
นำชาย บทยอดเยี่ยม เพลงประกอบไปแน่(มาซาฮารุนิ)
เพราะปีนี้คู่แข่งค่อนข้างจะอ่อนกันทัง้น่าน
แต่รอเป็นซัพไทยดีกว่า ซีรีย์ซึ้งๆอุปสรรคทางภาษา
จะมากั้นต่อมน้ำตาเราไปได้ไง

ดีแล้วที่ลุงอุชิโนะมารับบทอะไรที่ดูสมวัยหน่อย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:19:37:15 น.  

 
555 เข้ามาก็เจอแม่ยกสารภาพผิดเลยค่ะ
ที่ไม่ได้มีตาไว้มองแต่ทาเครุคนเดียว
แถมคนที่แย่งซีนไป ก็ไม่ใช่คนที่ปลื้มด้วยชิมิคะ
สงสารทาเครุจังค่ะ อิอิ (^___^)
บทเหมือนเดินเรื่องด้วย อากิระ แต่จริงๆแล้ว
ตัวเดินเรื่องจริงๆคือบทพ่อ ยาสุโอะใช่ไหมคะ
โดยเดินเรื่องผ่านมุมมองของลูกที่มีต่อพ่อ
ซึ่งเป็นการนำเสนอให้เห็นความรักความผูกพันของพ่อลูกที่มีต่อกัน
พร้อมกับบุคคลแวดล้อมที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตของเขาทั้งคู่
อ่านถึงตรงนี้ก็ทำให้นึกถึงหนังเรื่องWolf Children เลยค่ะ
เรื่องนั้นก็เล่าถึงแม่โดยผ่านมุมมองของลูกเหมือนกันค่ะ
และทำได้ซาบซึ้งแบบเป็นแม่ที่สุดยอดคุณแม่ในการเลี้ยงลูกเลยค่ะ
ได้เห็นทุกอย่าง ทั้งความรัก ความอดทน ความเสียสละ และความเป็นนักสู้ค่ะ
แล้วก็เพื่อนบ้านที่ต่างก็มีน้ำใจเข้ามาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
มะนาวว่าการสอดแทรกเรื่องแบบนี้ เป็นการสอดแทรกที่แยบยลมากค่ะ
ให้เห็นว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก
ยังมีสังคมที่พร้อมจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเมื่อเราต้องการด้วยค่ะ
เรื่องTonbi นี้เป็นเรื่องของคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
ส่วนเรื่อง Wolf Children เป็นเรื่องของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ
แหะๆก่อนที่จะออกทะเลไปไกล เรากลับเข้าหาฝั่งกันดีกว่านะคะ
ซีรีส์เรื่องนี้จะต่อยอดความสำเร็จของฉบับหนังหรือเปล่าคะ
เพราะสร้างห่างกันแค่ปีเดียวเองค่ะ แล้วดูท่าว่าจะประสบความสำเร็จด้วยนะคะ
เพราะเรตติ้งดูสวยหรูเชียวค่ะ15.5 %
มะนาวว่าการทำเป็นซีรีส์จะให้อารมณ์ที่ซาบซึ้งได้มากกว่าเป็นหนังนะคะ ว่าไหมคะ
แล้วพออ่านถึงช่วงท้าย ก็เจอคำพูดกระแทกใจเลยค่ะ
"แต่ลูกรู้มั้ยอากิระ มีสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ต้องทำเพื่อลูกไม่ว่ายังไงก็ตาม
คือทำให้แน่ใจว่าลูกจะไม่รู้สึกเหงา เพราะความเหงาจะค่อยๆ สะสม
เหมือนหิมะตกอยู่ในใจ กว่าจะรู้ ใจดวงนั้นก็ถูกแช่แข็งจนกระด้างไปแล้ว"
โอ้ว!เข้าใจคนที่ต้องอยู่ประจำแล้วพ่อ-แม่ไม่ได้ไปเยี่ยมเลยค่ะ
แล้วแถมพออ่านหยอดท้าย สงสัยต้องรีบไปหามาดูแล้วค่ะ
เพราะอยากรู้ชัดว่า"มหาสมุทร" ตามความหมายของซีรีส์เรื่องนี้เป็นอย่างไรค่า ^___^


โดย: มะนาวเพคะ IP: 1.20.0.141 วันที่: 14 เมษายน 2556 เวลา:17:06:54 น.  

 
เข้ามาดู ตัวแย่งซีน ของซาโต้ ทาเครุ ค่ะ ^^
คุณprysang สบายดีนะคะ


โดย: nobuta wo produce วันที่: 27 สิงหาคม 2556 เวลา:1:43:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.