Flash lesson: ทดลอง fill in flash กับการถ่าย portrait

บล็อคนี้ขอเขียนไว้เป็นการจดบันทึกกันลืมนะคะ เราเป็นมือใหม่หัดใช้แฟลชค่ะพึ่งซื้อมาได้เกือบเดือนเอง ก่อนนั้นไม่เคยคิดจะซื้อเลยเพราะรู้สึกว่าใช้แฟลชทีไรภาพมันจะดูแข็งๆไม่เป็นธรรมชาติยังไงไม่รู้ค่ะ ชอบถ่ายแบบให้เห็นแสงสีแบบของสถานที่จริงๆมากกว่า

จุดเปลี่ยนก็เพราะงาน Motor Show ที่ไทยที่ผ่านมานี่ล่ะค่ะ เราอยู่ญี่ปุ่นไม่ได้ไปหรอกนะคะแต่ช่วงนั้นได้ดูกระทู้รูปจากงาน MTS ทุกวันๆ แล้วยังไงไม่รู้ภาพที่น้าๆถ่ายมาแล้วสวยเนียน สีผิวดูเด้งกำลังดีไม่มีเงาบนหน้านางแบบนี่ต้องใช้แฟลชทุกทีเลย ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ถ่าย portrait เป็นหลักนะคะเพราะไม่รู้จะถ่ายใครอยู่ญี่ปุ่นคนเดียว ที่ถ่ายบ่อยๆเป็น self-portrait มากกว่า เผอิญโรคจิตชอบถ่ายภาพชุดใหม่ๆเก็บไว้ดูน่ะค่ะ

ณ ตอนนี้ใช้ Canon Kiss X3 ถ่ายก็พอใจอยู่ในระดับนึงแล้ว แต่พอนั่งดูภาพของน้าๆแล้วดูเทียบกับภาพที่ถ่ายเองแล้วก็อยากจะลองถ่ายคนให้ได้สีผิวสวยๆ หน้าดูใสๆไม่มีเงาๆกะเค้าบ้าง (post process นี่ชัวร์ค่ะ แต่ภาพตั้งต้นก็ต้องดีมาระดับนึงด้วยไม่งั้น process ยังไงก็ไม่กิ๊ง) ว่าแล้วก็จัดการเลยค่ะ นั่งอ่านรีวิวต่างๆจนครบทุกเว็บแล้วก็กดสั่งซื้อจาก kakaku.com ทันที Canon SpeedLite 430EX II ราคาของใหม่ถูกสุด ณ ตอนนั้นอยู่ที่ 24258 yen ค่ะ นอกจากนั้นก็ซื้อถ่าน Eneloop 2A 4 ก้อน(พร้อมแท่นชาร์จแบบเช็คปริมาณไฟที่เหลือได้)มาด้วย กะเอามาใช้กับแฟลชโดยเฉพาะราคา 4980 yen จาก Yodobashi camera ค่ะ


ก่อนจะมาเป็นบล็อคนี้ก็มีลองใช้ไปบ้างแล้วล่ะค่ะ ลอง bounce อะไรดูบ้าง พาไปเที่ยวฟูจิซังด้วยกันตอนช่วงสงกรานต์ด้วย แต่ยังปรับไม่เป็นยังกะอะไรไม่ค่อยเป็นใช้แฟลชทีไรก็ยังไม่เนียนซะทีค่ะ ดูไม่เป็นธรรมชาติแปลกๆ ที่พอจะไปวัดไปวาได้ก็คือใช้สะท้อนแสงเปิดหน้านิดหน่อยเวลาถ่ายในร่ม ใช้บัตรสมาชิกร้านเสื้อผ้าที่หมดอายุมาเสียบเอาอย่างในภาพข้างบนนี่ล่ะค่ะ

วันก่อนได้มาลอง self-portrait อีกครั้งและมีเวลามาค่อยๆลองค่อยๆปรับค่าแฟลชค่ะ ทีแรกก็นึกว่าจะเหลวซะแล้วทำยังไงก็ไม่เห็นได้ใสๆเนียนๆอย่างน้าๆสักที แต่สุดท้ายก็ทำได้ค่ะ กลัวตัวเองจะลืมเลยเอามาจดบันทึกไว้สักหน่อยนึง

อุปกรณ์ใช้ Canon Kiss X3 + EF-S 15-85mm (ปิด IS) + wireless remote control + ขาตั้งกล้องมือสอง SLIK ทุกรูปกล้องอยู่นิ่งๆหมดซูมอยู่ที่ระยะ 19mm ตั้ง AF ทุกจุดเหมือนกันค่ะ ภาพทุกภาพย่อและใส่กรอบแบบง่ายๆด้วย photoscape ค่ะไม่ได้ปรับแสงปรับสีหรือใส่ sharp ใดๆ (แต่ขอเบลอหน้าและเบลอความรกของห้องนิดนึงค่ะ) ชุดที่ใส่เป็นสีชมพูอ่อนๆค่อนไปทางสีขาวค่ะ





เริ่มจากภาพชุดแรก สี่ภาพแรกใช้โหมด Av หมดค่ะ

เบอร์ 1 ภาพแรกเป็นแบบปกติที่ถ่ายค่ะ ในห้องมันมืดมากก็ต้องเร่ง ISO สูงๆถึงจะได้แสงสว่างที่กำลังพอดี จริงๆก็โอเคในระดับนึงแต่แสงที่ตัวคนมันยังไม่ค่อยใสเท่าไหร่ บนหน้าก็มีเงาๆทำให้หน้าดูโทรมๆอีกต่างหากค่ะ ถ่ายเองเล่นๆก็ใช้ได้อยู่ แต่เผื่ออีกหน่อยต้องไปถ่ายให้คนอื่นๆก็อยากทำให้มันสวยกว่านี้ค่ะ

เบอร์ 2-4 ลองติดแฟลชเข้าที่กล้องและหันหัวให้ bounce กับเพดานค่ะ (ชดเชยแฟลชไว้ -2 ก่อนเพราะกะแค่ fill in น่ะค่ะ) ISO ลดลงมาที่ 400 แต่ตั้งรูรับแสงที่ f/6.3 เท่าเดิมค่ะ อ่านมาน้าๆบอกว่าโหมด Av ของ Canon ตั้งออโต้เป็น Slow Sync อยู่แล้วเหมาะสำหรับใช้ถ่ายแบบกะเก็บแสงในฉากด้วย ก็ลองปรับชดเชยแสงขึ้นๆลงๆดูแต่ภาพก็ยังมืดๆอยู่ดีค่ะ

เบอร์2 นี่ยังไงไม่รู้ค่ะถึงออกมาสว่างกว่าเบอร์ 3 และ 4 ทั้งที่สปีดมากที่สุด ทั้งฉากหลังทั้งตัวคนดูสว่างกว่าอีกสองภาพอย่างเห็นได้ชัดเลย ไม่รู้เกี่ยวกันไหมนะคะว่ายืนใกล้กล้องมากกว่าอีกสองภาพ แต่ก็ใกล้กว่านิดเดียวเองนะคะ สรุปว่าไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไม

รู้สึกว่าโหมด Av ชักไม่เวิร์คค่ะ แสงในฉากก็ดูมืดๆอ่านมาบอกว่าใน flash photography สปีดชัตเตอร์จะเป็นตัวกำหนดปริมาณแสงของฉากหลังก็เลยเปลี่ยนเป็นโหมด M แทนค่ะ กะว่าจะได้คุมสปีดเองได้ ภาพต่อจากนี้จะเป็นโหมด M หมดแล้วนะคะ

เบอร์ 5 เปลี่ยนเป็น M แต่ยังตั้งค่าทุกอย่างเหมือนเดิม 1/13, f/6.3, ISO400, Flash -2 ภาพก็มืดไปเยอะเหมือนเดิมค่ะ

เบอร์ 6 ลองเพิ่มแฟลชเข้าไปอีกนิดนึงชดเชย -1 แทนค่ะ ภาพก็เหมือนจะสว่างขึ้นอีกนิดนึง(นิดเีดียวจริงๆ) แต่ก็ยังมืดอยู่ดีค่ะ ทั้งคนทั้งฉากยังดูมืดๆมัวๆอยู่เลย ไม่เวิร์คๆ

เบอร์ 7 ภาพนี้จริงๆเหมือนภาพตะกี้เลยค่ะ แต่ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะไปปรับองศาการ bounce ของแฟลชนิดหน่อยและใส่การ์ดสีขาวเล็กๆไว้สะท้อนแฟลชเข้าหาตัวแบบที่หัวแฟลชด้วยค่ะ รวมๆแล้วดูสว่างขึ้นกว่าตะกี้หน่อย แต่ก็ยังดูแสงแข็งๆไปหน่อยยังไม่เนียนตามเคยค่ะ

เบอร์ 8 อันนี้ลองทดลองดูค่ะ เคยอ่านมาน้าๆบอกว่าเวลาถ่ายงานที่ๆแสงน้อย ให้ปรับสปีดให้พอมือถือได้สะดวกแล้วค่อยใช้แฟลชช่วยถ่ายอีกที เลยลองตั้งไปเลยค่ะ 1/30 f/8.0 กะว่าเอาทั้งชัดลึกและภาพไม่สั่นเลย ผลเป็นอย่างในภาพนี่ล่ะค่ะ คมชัดแจ๋วก็จริงอยู่แต่แสงแข็งไม่เป็นธรรมชาติเอามากๆ หน้าก็ดูดำๆคล้ำๆบอกไม่ถูกยังไม่ใช่ลุคที่เราอยากจะให้เป็นค่ะ ถ้าถ่ายแนวพวก low-key หรืออะไรทำนองนั้นสีผิวเข้มๆอย่างนี้ก็อาจโอเคก็ได้

มาถึงชุดสุดท้ายค่ะ ประสบความสำเร็จในที่สุด

เบอร์ 11 (ข้ามเบอร์นิดนึงนะคะ) จากสี่รูปก่อนหน้าดูแล้วแสงยังไม่พอและเหมือนจะใส่แฟลชเยอะไปหน่อย นั่งทบทวนดูน้าๆบอกว่าให้วัดแสงที่ฉากหลังให้พอดีก่อน วิเคราะห์แล้วตอนนี้ฉากหลังก็มืดไปเลยลดสปีดลงมาอีกค่ะ สปีดเหลือ 1/8 พอ ส่วนรูรับแสงและ ISO ยังอยู่ที่ f/8.0 ISO400 เหมือนเบอร์ 8 เทียบกับภาพเบอร์ 8 แล้วเบอร์ 11 ดูแสงเป็นธรรมชาติขึ้นเยอะเลยค่ะ แสดงว่าเริ่มมาถูกทางแล้ว แต่ก็ยังติดว่าตัวคนยังดูมืดไป แสงที่หน้าก็ยังดูไม่พอดี ยังไม่ใสเหมือนน้าๆถ่ายกันเลย ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วค่ะว่า เอ จะทำได้จริงๆหรือเปล่าหนอ

เบอร์ 9 ตะกี้เบอร์ 11 ได้แสงที่ฉากพอดีแล้วสุดท้ายเลยลองเพิ่มแสงให้ตัวแบบดูค่ะ จะเพิ่มแฟลชก็กลัวจะดูแสงแข็งไปเลยลองเปิดรูรับแสงให้กว้างขึ้นก่อน เปลี่ยนจาก f/8.0 เป็น f/5.0 ผลปรากฏตามภาพเลยค่ะ ไม่สามารถเปิดเผยใบหน้าได้เลยอาจเห็นไม่ค่อยชัดนะคะ แต่ภาพนี้ได้แสงพอดีเป๊ะเลยค่ะทั้งฉาก ทั้งคน ที่หน้าก็สีผิวกำลังพอดี แฟลชช่วยลบเงาๆบนหน้าออกไปหมดเลยค่ะ ในที่สุดก็ทำได้แล้วค่า เพิ่งตระหนักก็ตอนถ่ายได้ภาพนี้เองค่ะว่าใช้แฟลชช่วยแล้วได้ภาพสวยเด้งกว่าจริงๆ แต่กว่าจะได้นี่ก็เกือบถอดใจไปแล้วค่ะเนี่ย

มานั่งนึกเทียบๆระหว่างภาพเบอร์ 9 กับ 11 ว่าทำไมมันได้ผลต่างกันหนอ ทำไมเบอร์ 9 คนดูสว่างกว่าล่ะก็อ่านมาว่าแสงที่ตัวแบบจะขึ้นอยู่กับ แฟลช+รูรับแสง นี่นาดังนั้นสองภาพน่าจะได้แสงที่ตัวแบบพอๆกันนี่นา นั่งนึกไปเองแล้วก็สรุปเอาเองเลยค่ะถูกหรือผิดไม่ทราบเหมือนกันนะคะ แต่คิดว่าเบอร์ 11 รูรับแสงแคบไปแฟลชเลยใส่ให้ไปเยอะกว่าทำให้ภาพดูแข็งๆอย่างนี้รึเปล่าหนอ แต่พอปรับรูรับแสงกว้างขึ้นแฟลชเลยคำนวนใส่ให้น้อยลง ประกอบกับแสงผ่านเข้ากล้องได้มากขึ้นรวมๆแล้วเลยได้แสงดูเป็นธรรมชาติมากกว่า(มั้ง)

เบอร์ 10 รูปสุดท้ายของการทดลองเหมือนเบอร์ 9 เปี๊ยบแต่แค่ยืนห่างจากกล้องมากกว่าแค่นิดดดดเดียว แต่ภาพออกมาเห็นปริมาณแสงบนหน้าต่างกันเลยค่ะ ยังนึกอยู่ว่าอะไรจะ sensitive ขนาดนี้ ห่างกันไม่ถึงครึ่งก้าวแต่ออกมาระดับความใสบนใบหน้าดูต่างกันไปเลยค่ะ
.
.
.
.
ร่ายมาซะยาวเชียวค่ะ แบบว่าอยากเขียนไว้กันลืมเผื่อว่าหนหน้าจะทำอีกแล้วทำไม่ได้ บทสรุปเปรียบเทียบได้เป็นสี่ภาพด้านล่างค่ะ เทียบกันเห็นๆเลยว่าระหว่างใช้แฟลชแล้วได้แสงพอดีๆ (เบอร์ 9 ภาพซ้ายสุด) กับแบบไม่ใช้แฟลชแต่ดัน ISO เอา (เบอร์ 1 ภาพสองจากซ้าย) ความใสของตัวแบบที่อยู่ข้างหน้าดูแตกต่างกันเลยจริงๆค่ะ แต่ถ้าเกิดปรับแฟลชออกมาไม่ค่อยจะพอดีนัก (เบอร์ 11 ภาพสามจากซ้าย) ก็จะกลายเป็นว่าไม่ใช้แฟลชตัวแบบยังจะดูสว่างใสกว่าซะอีก และท้ายสุดถ้าใช้แฟลชแบบมั่วๆ แฟลชแรงไปภาพก็ออกมาแสงแข็งโป๊กหน้าเข้มไปเลย(เบอร์ 8 ภาพขวาสุด) ไม่ได้ต่างกับใช้แฟลชในกล้องโหมด auto เลยค่ะ


--- เพิ่มเติมค่ะ ---
อ่านคอมเมนต์ด้านล่างแล้วตัวเองก็เกิดนึกสงสัยเลยลองซะหน่อยนึงว่าตัวแปร ISO มีผลยังไงบ้างใน flash photography ลองตั้งซูมที่ 21mm ค่าอย่างอื่นเท่ากันหมดต่างแค่ ISO ผลออกมาเป็นอย่างที่คิดเลยค่ะ ISO ต่ำกว่าก็มืดกว่าทั้งภาพ(ทั้งตัวคนและฉากหลัง) ตรงกันข้าม ISO สูงก็สว่างขึ้นทั้งภาพเลยเช่นกัน ภาพขวาสุดนี่หน้าส่องแสงได้เลยค่ะ จะว่าหน้าใสดีก็ดีอยู่แต่รายละเอียดอื่นๆในภาพก็พลอยหายเกลี้ยงเลยสว่างโอเว่อร์ไปหน่อยค่ะ (ภาพชุดนี้ถ่ายคนละวัน คนละเวลา และปรับองศาแฟลชไม่เท่ากับชุดด้านบน โทนสีของภาพเลยต่างกันหน่อยนะคะ)



จบบล็อคบันทึก Flash lesson แต่เพียงเท่านี้ค่ะ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ไม่เท่าลงมือทำ ตอนนี้เชื่อน้าๆแล้วค่ะว่าถ้าใช้แฟลชเก่งๆเนี่ยช่วยให้ถ่ายภาพ portrait ได้สวยขึ้นมากจริงๆ ช่วยขับผิวให้ดูสว่างใสเด้งจริงๆค่ะ ^_^ แต่กว่าจะกะค่าอะไรได้ถูกคงต้องอาศัยฝึกหัดเอาบ่อยๆ ไม่งั้นคงถ่ายไม่ทันกินเอาแน่ๆเลยค่ะ (แต่ปัญหาคือเราไม่มีใครให้ฝึกนี่สิคะ ท่าจะเก่งยากค่ะ)

ปล. ผลงานถ่ายภาพของเราจะถูกโพสในกลุ่มบล็อค "ชีวิตในญี่ปุ่น..." มากกว่ากลุ่มบล็อคการถ่ายภาพนี้นะคะ เพราะเน้นว่าเขียนบรรยายประกอบภาพด้วยเหมือนไดอารี่แบบมีรูปภาพน่ะค่ะ มีทั้งภาพที่ไปเที่ยวมาที่ต่างๆในญี่ปุ่น ภาพที่มหาลัย ภาพบรรยากาศในเทศกาลต่างๆ และอื่นๆค่ะ ทั้งหมดถ่ายที่ญี่ปุ่นล้วนๆ


ไหนๆแล้วขอรวมลิงค์ที่เคยค้นๆมาและคิดว่ามีประโยชน์และเข้าใจไม่ยากไว้ตรงนี้เลยนะคะ ขอบพระคุณเจ้าของข้อความทุกๆท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะช่วยได้มากเลย
1. หลักการทำงานทั่วไปของแฟลช >> link
2. ภาพการทดลองใช้แฟลชกับการถ่ายภาพคน >> link (อันนี้ชอบมากๆเลยค่ะ มีภาพประกอบชัดเจนไม่ต้องจินตนาการ เยี่ยมมากเลยค่ะ)
3. ถ่ายภาพที่แสงน้อยด้วย Slow sync flash >> link
4. ถ่ายงาน Motor show น้าๆใช้แฟลชกันยังไงนะ >> link
5. อันนี้เขียนละเอียดดีค่ะ ว่าสถานการณ์ไหนควรใช้แฟลชกับโหมดไหนดี >> link
6. DIY ของแฟลช softbox, diffuser, etc. >> link
7. ใช้แฟลชยังไงถึงจะหยุดการเคลื่อนไหวเร็วๆได้ (เพิ่งรู้ตอนอ่านกระทู้นี้ว่ามันยากกว่าที่เราคิด) >> link
8. ตอนไหนควรยิงตรง? ตอนไหนควร bounce กี่องศา? ตอนไหนควรใช้ softbox / bounce card? >> link >> link
9. ต่างกันยังไงระหว่างลดกำลังแฟลชกับใช้ bounce card >> link
10. Sync กับม่านชัตเตอร์ชุดไหนให้ภาพต่างกันยังไง >> link

--------------------------------------------------------------------------------

>> ดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด
>> //willselection.multiply.com



Create Date : 08 พฤษภาคม 2553
Last Update : 2 สิงหาคม 2553 22:07:47 น.
Counter : 3595 Pageviews.

8 comments
  
ทักทายยามค่ำคืนดึกๆ เที่ยงคืน
ทดลองเองแบบนี้ หากเข้าใจ และ get แล้ว มาสรุปเล่าให้ฟังกันอีกทีนะครับ...เพราะเชื่อว่าจะรู้ซึ้งกระจ่างแจ้งเลยครับ...เอาใจช่วยด้วยครับ
โดย: ถปรร วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:20:59 น.
  
แวะมาทักทาย..

สวัสดียามเช้าจ้า...
โดย: ก้นกะลา วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:4:50:06 น.
  
เยี่ยม!
โดย: D_AkIrA วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:12:32 น.
  
ขอบคุณ กับงานทดลองที่มาแบ่งปัน มีประโยชน์มากครับ เห็นด้วยครับ มี flash ช่วย บ้างครั้งไม่จำเป็นต้องใช้ เลนส์ แพง f 2.8 ภาพก็สวยใสได้ แต่ว่าจะเลือก flash ตัวไหนดี
โดย: OxyMan วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:50:57 น.
  
เท่าที่เข้าใจ นิดๆนะครับ สิ่งที่มีผลสำคัญๆกับแสงของแฟรชคือ รูปรับแสง และ ค่า ISO ชิมิห์ครับ ส่วนสปีดก็เกี่ยวกัยแสงของฉากหลังนั่นเอง เงง เงง เงง...
โดย: มิ้งค์กี้ (minkexotic ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:13:30 น.
  
--> มิ้งค์กี้ (minkexotic)

เอ เราก็ไม่แม่นเหมือนกันนะคะ ไปลองหาๆอ่านดูในเน็ตได้มาประมาณว่า

Shutter speed -> ไม่มีผลกับแฟลช มีผลแค่เฉพาะกับ ambient light (แสงในฉาก)

Aperture + ISO + Flash power level --> มีผลต่อ flash exposure โดยตรง

เค้าแนะนำกันว่าก่อนอื่นให้ตั้งสปีดจนได้สปีดที่มือถือได้พอดีก่อนโดยเร่ง ISO ช่วยเอา (ตอนวัดแสงฉากหลัง)
--> น่าจะแปลว่า ISO ก็เกี่ยวกับแสงของฉากหลังด้วยนะคะ เพราะ ISO สูงกล้องก็ไวแสงมากขึ้นก็น่าจะเก็บแสงฉากหลังได้มากขึ้นด้วย

จากนั้นค่อยมาปรับรูรับแสง, ISO และ flash compensation เพื่อให้แสงที่ตัวแบบพอดีอีกที
--> อ่านมาเค้าบอกว่า การเร่ง ISO จะช่วยเพิ่ม flash range ให้ไปได้ไกลขึ้นด้วย ดังนั้นถ้าแฟลชเราแรงไม่พอ จุดนี้ใช้เร่ง ISO ช่วยก็คงเพิ่มระยะแฟลชได้อีกค่ะ

อ่านๆแล้วก็ชักสงสัยเหมือนกันค่ะว่าถ้าสปีดเท่ากัน + รูรับแสงเท่ากัน + flash compensation เท่ากัน แต่ค่า ISO ต่างกัน ถ่ายรูปด้วยแฟลชผลจะได้แสงที่ฉากกับตัวแบบต่างกันยังไงหนอ แต่อันนี้ยังไม่เคยลองเลยค่ะ ได้แต่เดาว่าน่าจะสว่างขึ้นทั้งภาพเลยมั้งนะคะ
โดย: White Amulet วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:10:32 น.
  
สวัสดีจ้า พึ่งเริ่มหัดใช้บล็อก แวะมาทักทายครับผม

กะจะซื้อ 430EX เหมือนกัน แต่ชั่งใจมานานมาก ราคาที่บิ๊กคาเมะกับโยโดก็สามหมื่นเยน ตัดสินใจไม่ได้

>___<

จะซื้อจาก kakaku ก็ไม่มั่นใจเรื่องโฮเคน เพราะเคยมีพี่แถวนี้โดนเรื่องซื้อคอมจากโตเกียวแล้วหอบมาใช้ที่ฮอกไกโด พอเครื่องมีปัญหาบิ๊กกับโยโดไม่รับซ่อมเพราะไม่ได้ประกันของเค้า เค้าบอกว่าต้องส่งไปซ่อมกับร้านที่เจ้าของเครื่องซื้อมาเอง เจอเคสนี้จากทีแรกที่จะซื้อกล้องในเว็บ กลายเป็นกัดฟันซื้อที่บิ๊กแทน T-T

แต่ตอนนี้หลังจากที่พาเพื่อนไปซื้อกล้องที่ห้างมา คุยกับพนักงานแล้วเค้าบอกประมาณว่า เดี๋ยวนี้ประกันมันไม่ครอบคลุมไปถึงไคไก(โอเวอร์ซี) เพราะงั้นถ้าซื้อที่นี่แล้วปีหน้ากลับบ้าน ส่งศูนย์ที่ไทยก็เสียค่าซ่อมเองอยู่ดี เลยกะจะดูมือสอง ไม่ก็มีหนึ่งจาก kakaku ดีกั่ว~

ขอโทษทีน้า คอมเมนต์ยาวไปนิด แหะๆ เอาซากุระฮอกไกโดที่พึ่งเริ่มบานช่วง GW มาฝากจ้า



โดย: หลี่ซื่อหมิน วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:03:16 น.
  
--> หลี่ซื่อหมิน

ได้ยินมาว่าอย่างนั้นเหมือนกันค่ะว่า ใบประกันเขียนว่า International แต่เอาจริงๆน่าจะใช้ได้แต่ในประเทศญี่ปุ่น ถ้าเกิดมีอะไรเราก็กะหอบหิ้วเข้าศูนย์ Canon เองอยู่แล้วคงไม่ส่งผ่านทางร้านที่ซื้อค่ะ (ในโตเกียวมีศูนย์อยู่หลายแห่งเลยสบายค่ะ)

เราไม่คิดเท่าไหร่เรือ่งว่ากลับไทยจะใช้ประกันไม่ได้ ถือคติซื้อก่อนได้ใช้ก่อนค่ะ ถ้ากลับไทยไปก็คงไม่ได้มาถ่ายบรรยากาศที่ญี่ปุ่นนี่อีกแล้ว เสียดายแย่เลยค่ะ

อุปกรณ์กล้องทุกอย่างของเรา(กล้อง เลนส์ แฟลช)ซื้อผ่าน kakaku หมดเลยค่ะ เพราะคำนวนพ๊อยต์อะไรแล้วถูกกว่าซื้อ Bic กับ Yodobashi Camera หลายพันเลยไม่ค่อยได้คิดเผื่อตอนมันเสียเท่าไหร่

ปล เราไปดูที่ Map Camera สาขา Shinjuku มามี 430EX II มือสองด้วยค่ะ จำราคาไม่ได้แต่ถ้ารู้จักร้านนี้ก่อนหน้าล่ะก็อาจเบนไปซื้อมือสองแทน
โดย: White Amulet วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:48:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Whiteamulet.BlogGang.com

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo  Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]