[5][สิว] พบคุณหมอ..ครั้งที่ 3 4-Sep-2008 ที่ไม่ได้อัพเดทบันทึกการใช้ยาช่วงสัปดาห์ที่ 2 (28 Aug. - 3 Sep.08) เป็นเพราะมีขั้นตอนและวิธีการใช้เหมือนสัปดาห์แรกเป๊ะๆ เลยค่ะ ยังไงก็ขอข้ามมาถึงตอนไปพบหมอรักษาสิว..ครั้งที่ 3 กันเลยนะคะ ในช่วงเดือนแรกของการรักษา คุณหมอจะให้เข้ามาพบทุกสัปดาห์เพื่อติดตามอาการหลังจากการใช้ยาและทำ treatment รักษาสิว คุณหมอตรวจสภาพผิวหน้าแล้ว บอกว่าการใช้ยาทารักษาสิวได้ผลเป็นที่พอใจ เนื่องจากไม่มีการเกิดสิวอักเสบใหม่ ส่วนสิวอุดตันที่ฝังตัวอยู่ภายใต้ผิวหนังในชั้นที่ค่อนข้างลึก ก็เริ่มดันตัวขึ้นมา ซึ่งสิวพวกนี้ เวลาลูบดูจะรู้สึกว่าเป็นเม็ดนูนๆ แต่มองไม่เห็นหัวสิว และไม่สามารถใช้วิธีกดออกได้ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ ต้องค่อยๆ ใช้ยาลอกขุย ซึ่งทำให้สิวแห้งและหลุดออกหรือดันตัวขึ้นมา แต่เรายังมีปัญหาความมันบนใบหน้าอยู่ค่อนข้างมาก เราแจ้งให้คุณหมอทราบว่า...สัปดาห์หน้ามีความจำเป็นต้องแต่งหน้าแบบที่ต้องลงรองพื้น แป้งพัฟ แบบ full option เพื่อไปงานเลี้ยง คุณหมอบอกว่า..ถ้าอย่างนั้นจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแผนในการรักษาสิวของเราเล็กน้อย ซึ่งตอนแรก..คุณหมอวางแผนไว้ว่าจะให้เราเริ่มใช้ ยาที่ออกฤทธิ์เหมือน Roaccutane แต่เป็นแบบชนิดยาทาที่ช่วยลดปัญหาผิวมันและละลายสิวอุดตันได้ดี แต่คุณหมอเกรงว่า..ถ้าเราแต่งหน้าในวันนั้นอาจทำให้สิวอุดตันเกิดการอักเสบได้ ซึ่งจะทำให้ยืดระยะเวลาในการรักษาออกไปอีก ถ้าเป็นแบบนั้น..ก็ต้องให้เราเปลี่ยนจากใช้ยาทา มาเป็นยารับประทานกลุ่ม Retinoids ซึ่งก็คือ Roaccutane เราเคยได้ยินเคสของผู้ป่วยหลายๆ คนที่รักษาสิวด้วยยาตัวนี้มาก่อน ซึ่งยานี้เป็นยาควบคุมและจัดเป็นยาอันตราย จึงสอบถามคุณหมอไปบอกจำเป็นต้องทานให้ครบ Dose ไหม คุณหมออธิบายว่า...ในกรณีของเรา เป็นการรับประทานยาเพื่อลดปัญหาผิวมัน จึงไม่จำเป็นต้องทานให้ครบ Dose ซึ่ง Dose ของยานี้ คำนวนการกินกับน้ำหนักตัว คือ 1 mg./1 kg./วัน ซึ่งถ้าจะทานให้ครบ Dose เราต้องประมาณ 5 เม็ดต่อวัน ถ้าทานวันละ 5 เม็ด..บริษัทขายยาจะรวยเอาๆ ฮ่า ฮ่า.... คุณหมอบอกมางั้น แล้วคุณหมอก็สอบถามประวัติของเรา..ว่ากำลังวางแผนที่จะตั้งครรภ์หรือเปล่า มีภาวะโรคตับ โรคไต ไขมันเลือดสูง เบาหวาน เคยใช้ยาตัวนี้มาก่อนหรือไม่ เนื่องจากยาตัวนี้มีผลข้างเคียงของยา โดยคุณหมอจะให้เราทานเพียงแค่วันละ 1 เม็ด ซึ่งเราต้องทานติดต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ คุณหมอบอกว่า..ถ้าเดินหน้าทำตามแผนนี้แล้ว จะเปลี่ยนใจถอยหลังไม่ได้ ต้องทานให้ครบตามกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ สัปดาห์แรก..คุณหมอให้ทานวันเว้นวัน เนื่องจากเราใส่ contact lens คุณหมอเกรงว่าเราจะมีปัญหาตาแห้งทำให้ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้ นอกจากนี้..จึงควรดื่มน้ำเพิ่มให้มากขึ้น เพื่อช่วยลดอาการตาแห้ง ปากแห้ง สำหรับยาทารักษาสิว...ก็ให้ใช้ยาทาตัวยาเดิมที่ได้รับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน และให้ทานยาแก้อักเสบเป็นสัปดาห์สุดท้าย ส่วนยา Roaccutane ให้ทานหลังอาหารทันทีและเมื่อเริ่มทานในช่วงเวลาใด วันถัดๆ ไป..ก็ควรทานในช่วงเวลาเดียวกันต่อไปจนครบกำหนดที่คุณหมอตั้งไว้ เหมือนเช่นเคย คุณหมอถามอีกแล้วว่าจะฉีด+กดสิวด้วยหรือเปล่า พอถามเสร็จ คุณหมอบอกว่า ก็ต้องลองถามดูทุกครั้งล่ะ เผื่อว่าจะเปลี่ยนใจ .. เง้อๆ ยังไงก็ขอผ่านไปอีกเหมือนเช่นเคยค่ะ แต่ไม่แน่นะ..อาจจะลองดูครั้งหน้าก็ได้ การรักษาในวันนี้ เราซื้อ Package รักษาสิวและรอยสิว ครั้งละ 1,349 บาท อีกแล้วค่ะ 5 ขั้นตอนเพื่อการรักษา 1. IPL (570) ลำแสงเพื่อการรักษารอยดำ และรอยแดงจากสิว ... ครั้งนี้คุณหมอบอกว่าจะยิงเน้นรอยสิวมากกว่า ยิงรักษาสิวนะคะ 2. Blue Light แสงสีฟ้าฆ่าเชื้อสิว การรักษาสิว 3. ฉีดและกดสิว ...ไม่ได้ทำค่ะ 4. ทรีทเมนท์รักษาสิว 5. ยาทารักษาสิวและรอยสิว 3 ชนิด แต่เราเอาขอเฉพาะ BP5 แทน..ก็เลยได้มา 3 หลอด เพราะยา CM-2 กับ PS Lotion ยังมีเหลือใช้อยู่ค่ะ คุณหมอก็นัดให้มาดูอาการอีก 2 สัปดาห์หน้าค่ะ... .. แล้วเจอกันค่ะ บ๊าย บาย *-* **************************** ![]() Acnotin, Roaccutane ชื่อสามัญทางยาคือ Isotretinoin เป็นกรดวิตามินเอ มีสรรพคุณในการลดการทำงานของต่อมไขมันและต้านการอักเสบ ใช้รับประทานเพื่อรักษาสิวชนิดเป็นซีสต์ที่เป็นมากหรือสิวที่รวมเป็นก้อน ซึ่งดื้อต่อยารักษาชนิดอื่น โดยให้รับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน 16-18 สัปดาห์ กลไกการออกฤทธิ์ของยา ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เกี่ยวกับการลดการทำงานของต่อมไขมัน ขนาดของต่อมไขมันเล็กลง และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบของผิวหนัง เชื้อ P.acne ลดลง อาจเนื่องจากไขมันที่เป็นอาหารลดน้อยลง สิ่งที่ควรตรวจก่อนกินยา ตรวจเลือด ดูการทำงานของตับ และระดับไตรกลีเซอไรด์ เมื่อกินยาไป 3-4 อาทิตย์ หรือ 6-8 อาทิตย์ เจาะเลือดดูไตรกลีเซอไรด์อีกครั้ง ถ้า > 500 mg/dL ต้องคอยตรวจเป็นระยะๆ >700mg/dL ต้องหยุดยา และให้ยาลดไขมันเพราะ อาจมีอาการตับอ่อนอักเสบ และก้อนไขมันตามผิวหนัง ** สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด ** - ห้ามกิน ขณะมีครรภ์ โดยเฉพาะ ช่วงท้องได้ 3 อาทิตย์ เด็กจะพิการ - คุมกำเนิดก่อนกินยา 1 เดือน หลังหยุดยา ให้คุมกำเนิดต่ออีก 1 เดือน - ทดสอบการตั้งครรภ์ว่า ให้ผลลบ ก่อนกินยา 2 อาทิตย์ - สำหรับผู้ชายที่กินยาตัวนี้ แล้วมีลูกจะไม่มีผลอะไรกับลูก - ยาผ่านทางน้ำนมได้ จึงไม่ควรกินในรายที่ให้นมลูก ผลข้างเคียงของยา ผลข้างเคียงส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับขนาดยาที่ให้ - ปากแห้ง พบเกือบทุกราย - เยื่อบุตามช่องทวารต่างๆ แห้ง - ผิวแห้ง ตาแห้ง ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้ จมูกแห้งจนเลือดกำเดาออก เยื่อเมือกหลอดคอแห้ง ทำให้เสียงแหบ และมีอาการคัน 50% - ผมร่วง ผมน้อยลง สิวเห่อ ขนดก - ผิวหน้าร้อนแดง ผิวหนังอักเสบ ผิวคล้ำขึ้นและไวต่อแสง มีตุ่มคัน ตุ่มหนอง เนื้อรอบเล็บเป็นหนอง เล็บผิดรูปร่าง เพิ่มการสร้างเนื้อเยื่อที่ทำให้เกิดตุ่ม - ปวดกล้าม ปวดข้อ การสร้างกระดูกมากขึ้น เอ็นอักเสบ มีการจับของแคลเซี่ยมที่เส้นเอ็น มีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆของกระดูก - พฤติกรรมผิดปกติ เครียด มีอาการทางจิตเวช พยายามฆ่าตัวตาย หรือฆ่าตัวตายในผู้ป่วยบางราย ปวดศีรษะ ความดันในกระโหลกศีรษะสูงขึ้น ชัก ผู้ป่วยจิตเวชควรปรึกษาจิตแพทย์ก่อนรับประทานยา - เห็นภาพเปลี่ยนไป กลัวแสง ลดการมองเห็นตอนกลางคืน ต้อกระจก กระจกตาอักเสบ การฟังบกพร่องในบางช่วงคลื่น - คลื่นไส้ ลำไส้อักเสบ มีเลือดออก ตับอ่อนอักเสบ ในรายไตรกลีเซอไรด์สูง ถ้ารุนแรงอาจเป็นอันตรายกับชีวิตได้ ตับอักเสบในบางราย - หลอดลมหดเกร็ง ในรายที่เป็นโรคหอบมาก่อน - มีการติดเชื้อกรัมบวก - เลือดมีเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวลดลง เกร็ดเลือดเพิ่มขึ้น อัตราการตกตะกอนของเลือดเพิ่มขึ้น ไขมันในเลือดสูงขึ้น แต่ไขมันตัวที่ดีกับร่างกายลดลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้น กรดยูริคในเลือดสูงขึ้น ปัสสาวะมีเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น มีเลือดและมีโปรตีนมากผิดปกติ - ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่ควรใช้ยาทาลอกผิว หรือลอกสิวร่วมด้วย ใช้ยาทาสิวชนิดอ่อนร่วมด้วยได้ - ไม่ควรให้ร่วมกับยาวิตามินเอ และ ยาเตตร้าไซคลิน ** ไม่ควรใช้ในหญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตร โรคตับ โรคไต ได้วิตามินเอมากเกิน ไขมันในเลือดสูงและแพ้ยาตัวนี้ ใช้อย่างระมัดระวังในคนไข้เบาหวาน อ้วน พิษสุราเรื้อรัง และภาวะไขมันเผาผลาญผิดปกติ ข้อมูล : BangkokHealth.com ภาพประกอบ : จอมยุทธกระบี่หัก |
บทความทั้งหมด
|
พักนี้สิวบุกข้างแก้มขวา
คงต้องหาวิธีปราบสิวบ้างแล้วล่ะค้า