รีวิว Garnier Micellar เช็ดเครื่องสำอางหมดจดครบทั้งหน้าในขั้นตอนเดียว



ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้าจากแบรนด์ Garnier 

Garnier Micellar Cleansing Water

เพิ่งจะเข้ามาวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ ความน่าสนใจของคลีนซิ่งตัวนี้มีเยอะมากค่ะ

อย่างแรกเลยค่ะ ราคา..... 400 ml. ใช้ได้อย่างน้อย 200 ครั้ง ขวดนึงใช้ได้ค่อนปี

และคุณสมบัติที่ทำความสะอาดใบหน้าหมดจดในขั้นตอนเดียว

ทำงานเสมือนแม่เหล็กดูดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกจากผิวโดยไม่ต้องเช็ดถูแรงๆ

ลดขั้นตอนที่อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะผิวที่บอบบางแพ้ง่าย




ผลิตภัณฑ์บรรจุมาในขวดพลาสติกไม่ตกแตกแน่ๆ มีฝาเปิดปิดป๊อกแป๊กเปิดใช้ง่าย

แต่เวลาปิดต้องระวังนิดนึงค่ะ ถ้าไม่ลงล็อกมันอาจจะไม่สนิทและหกได้

ฝามันหมุนได้นิดหน่อยแต่ไม่ใช่แบบเกลียว ไม่ต้องกลัวหกค่ะ

มี 2 สูตรนะคะ

ฝาสีชมพูสำหรับผิวธรรมดาที่มีแนวโน้มจะระคายเคืองง่าย

ฝาสีฟ้าสำหรับผิวมันที่มีโอกาสเป็นสิวง่าย

สามารถเลือกใช้ได้ตามสภาพผิวนะคะ ส่วนน้ำตาลเองเลือกสูตรฝาสีชมพูค่ะ




ตัวผลิตภัณฑ์เป็นน้ำใสๆ ถ้าเขย่าจะเกิดฟองนิดหน่อยค่ะ

ไม่มีน้ำหอม ไม่มีน้ำมัน ไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งดีสำหรับผิวแพ้ง่าย และไม่ทำให้อุดตันด้วย

และยังเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวไม่ทำให้ผิวแห้งจนเสียสมดุลด้วยค่ะ


แบรนด์บอกมาว่าการทำงานของคลีนซิ่งตัวนี้เหมือนแม่เหล็ก

ที่ดูดเอาเครื่องสำอางกันน้ำและสิ่งสกปรกออกจากผิวได้โดยไม่ต้องเช็ดถู

น้ำตาลก็เลยขอลองแบบจะๆหน่อย อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง

แขนที่ละเลงปาดสีบลัชออนทำ swatch ไว้ 8 สี กับ รองพื้นแบบครีมด้านล่างอีก 1

รองพื้นนี่เป็นแบบติดทนนาน 12 ชั่วโมงซะด้วย









ลองเลยค่ะ เทใส่สำลีให้ชุ่มแล้วแปะทิ้งไว้สัก 30 วินาที
.
.
.
.
พลิกสำลีขึ้นมาดูแบบไม่ต้องเช็ดถูบนผิว







เออ....สะอาดแบบไม่ต้องเช็ดถูให้ระคายเคืองจริงด้วย

บลัชที่ปาดไว้ออกเกลี้ยงเลยค่ะ ส่วนรองพื้นแบบติดทนนานยังมีร่องรอยจางๆอยู่นิดหน่อย

แปะอีกสักรอบก็น่าจะออกหมดแล้วค่ะ






ลองที่แขนแล้ว ก็ต้องมาลองกับหน้าดูค่ะ

บนใบหน้าเรามีน้ำมันมากกว่าที่แขนแน่นอน แถมเวลาเราแต่งหน้าก็โบอกกันเต็มอัตราศึก

ก็ลองดูค่ะว่า คลีนซิ่งวอเตอร์นี้จะทำงานได้สมศักดิ์ศรีรึเปล่า



เทผลิตภัณฑ์ใส่สำลีให้ชุ่มทั้งแผ่นพอประมาณนะคะ




อันดับแรก.....เช็ดลิปสติก

เอาแปะไว้ที่ริมฝีปาก 30 วินาที แล้วยกออกแบบไม่เช็ดดูค่ะ

เหย....แรงอ่ะ สีลิปสติกออกเกือบหมด ถ้าเราลูบเบาๆอีกครั้งก็เกลี้ยงแล้ว

ที่สำคัญคือมันอ่อนโยนและไม่มีกลิ่นจริง

เพราะไม่รู้สึกแสบปากแบบที่เคยเจอ อันนี้เหมือนสำลีชุบน้ำเฉยๆเลย

แต่ก็หลุดออกเกือบหมดเกลี้ยงเพียงแค่แปะไว้เฉยๆ







ตามมาด้วยการเช็ดบลัชออนและรองพื้นบนแก้มออก

นี่ก็เช่นกันแปะไว้เฉยะๆ 30 วินาทีแล้วลูบออกเบาๆ

เครื่องสำอางทั้งหลาย ทั้งแบบติดทนและแบบกันน้ำก็หลุดออกค่ะ

กระบนผิวเห็นชัดเชียวเมื่อไร้คอนซิลเลอร์โบกทับไว้ 5555++

แถมผิวที่เช็ดออกแล้วก็ชุ่มชื่นดีไม่แห้งตึงด้วยค่ะ







อันดับสุดท้าย....การทำความสะอาดที่บริเวณรอบดวงตาค่ะ

นี่เป็นการลองแบบคอนเฟิร์มว่ามันอ่อนโยนแน่นอน เพียงพอต่อการใช้เช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตา

เพราะอย่างที่เรารู้ๆกันค่ะ ว่าผิวบริเวณรอบดวงตาง่ายต่อการระคายเคืองมากแค่ไหน

และจะได้รู้ด้วยว่ามันจะแสบตาด้วยไหม


เทลงบนสำลีแล้วแปะไว้ 30 วินาทีเหมือนเดิม

อันนี้เช็ดแบบรุนแรงไม่ได้นะคะ รอบดวงตาเช็ดแรงเหี่ยวแน่ๆ

เพราะฉะนั้น DO NOT นะคะ

แปะไว้อย่างเคยแล้วลูบออกเบาๆ


คุณพระ!!!! อายไลน์เนอร์กันน้ำไม่แพนด้าแบบล้างหน้าก็ไม่หลุดหายหมด

มาสคาร่าแบบกันน้ำเช่นกันก็หลุดออกมาหมด

แม้กระทั่งคิ้วที่เขียนไว้กับรองพื้นที่เปลือกตาและอายชาโดว์

ก็ออกเกลี้ยงหมดจดแบบไม่ระคายเคืองและไม่แสบตาด้วยค่ะ 







ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนและทำความสะอาดได้หมดจดในขั้นตอนเดียว

เหมาะสำหรับผิวที่ระคายเคืองง่าย อ่อนโยนเพราะไม่ต้องเช็ดถูให้ระคายเคืองผิว

ในราคากันเองกับปริมาณขวดบิ๊กเบ้งนี่มันดีจริงๆนะ

แนะนำให้ลองเถอะค่ะ เพราะบางที่มีขวดเล็ก 125 ml. วางขายในราคาไม่ถึงร้อยบาท

สอยมาลองใช้ได้นานทีเดียว ถ้าติดใจก็สอยต่อเลยค่ะ



ขนาดบรรจุ 400 ml. ราคา 249 บาทเท่านั้น.....อยากให้โดนด้วยกัน


"เช็ดเดียวจบ สะอาดครบทั้งหน้า ดูดเครื่องสำอางกันน้ำดุจแม่เหล็กไม่ต้องถู"


------------------------------------------------------------

รีวิวนี้มีผู้สนับสนุนส่งสินค้ามาให้ลองใช้ค่ะ 

แต่ส่งมาทีหลังจากที่สอยมาใช้เองก่อนแล้ว 555555++





Create Date : 13 กันยายน 2559
Last Update : 13 กันยายน 2559 10:05:29 น.
Counter : 1737 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Sugarandbananaleaf.BlogGang.com

bemynails
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 69 คน [?]

บทความทั้งหมด