Dr Sebagh แบรนด์ดังไฮเอนด์ด้านชะลอวัยระดับโลก.....^__^
Dr Sebagh (ดร.ซีแบร์) เป็นแบรนด์ระดับไฮคลาสที่รู้จักกันดีในด้านของศาสตร์แห่งการชะลอวัยค่ะ.....ชื่อแบรนด์คือชื่อของคุณหมอ





ดร. ฌอง หลุยส์ ซีแบร์ เป็นที่รู้จักในฐานะแพทย์ด้านความงามฝีมือเยี่ยมในระดับแถวหน้าของยุโรปค่ะ คุณหมอเป็นชาวฝรั่งเศส มีความเชี่ยวชาญที่มุ่งตรงที่ปัญหาของผิวหน้าและลำคอ เป็นคุณหมอที่นิยมมากให้หมู่บรรดาเซเลบริตี้ นางแบบ และบุคคลระดับแถวหน้าของยุโรป คุณหมอเชี่ยวชาญพิเศษในด้านของการฉีด "โบท็อกซ์"ค่ะ......ถึงขนาดว่ามีคนเรียกว่า King of Botox กันเลยทีเดียว

คิวการเข้ารักษากับคุณหมอยาวเหยียด แบบว่าต้องจองคิวกันข้ามเดือน ข้ามปีกันเลย จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพื่อให้ผิวเปลี่ยนแปลงและดูดีขึ้ันราวกับได้รับการรักษาโดยตรงจากเขา





ผลิตภัณฑ์ของ Dr Sebagh เน้นไปสิ่งที่ต้องการของผิวอย่างแท้จริง ในทุกผลิตภัณฑ์ล้วนมีส่วนผสมที่ทำให้สุขภสพผิวดีขึ้น สวยงาม และรู้สึกสบาย โดยเลือกใช้เทคโนโลยีที่ใหม่ล่าสุดเท่านั้น คัดสรรส่วนผสมชั้นเลิศในปริมาณที่เข้มข้น ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว โดยไม่ทำร้ายผิวค่ะ







พอดีมีโอกาสได้ไปทดลองนวดหน้ากับแบรนด์นี้มาค่ะ....พบว่าผลิตภัณฑ์ของ Dr.Sebagh ดีมากๆ ผิวที่ระคายเคืองง่าย อุดตันง่ายอย่างผิวหน้าของอิชั้น สามารถใช้ได้ไม่มีอาการแพ้ ผื่นคัน หรืออุดตันแต่อย่างใดค่ะ




แล้วก็ได้กลับมาทดลองใช้ต่อที่บ้าน 4 อย่างค่ะ







มาดูอย่างแรกกันค่ะ


High Maintenance Cream - Intense Repair & Protection
ปริมาณกระปุกจริง 50 ml. ราคา 10,500 บาท


คุณสมบัติของครีมกระปุกนี้ เป็นสุดยอดแห่งครีมบำรุงค่ะ ทำหน้าที่เป็นทั้งเกาะป้องกันริ้วจากความร่วงโรยจากทุกปัจจัย และป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคตด้วยค่ะ

ส่วนผสมที่ทรงประสิทธิภาพ 7 ชนิดถูกรวบรวมไว้ในครีมกระปุกนี้ ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้น ปลุกผิวให้อ่อนเยาว์ ชดเชยความชุ่มชื้นที่ขาดหาย ซ่อมแซมผิวที่ร่วงโรย และยังมีเทคโนโลยีเด่น EPF - Environmental Pollution Film คือทำหน้าที่เป็นฟิล์มเคลือบบางๆบนชั้นผิวเพื่อปกป้องมลภาวะ และยังมีสารสกัดจาก Green Coffee สิทธิบัตรเฉพาะของ Dr. Sebagh ที่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงสุดอีกด้วย



เห็นคุณสมบัติแบบนี้ก็เลยลองใช้ดูซะเลย.....^___^


เนื้อครีมค่อนข้างข้นค่ะ ทาแล้วหนักหน้านิดๆ ต้องใช้ปริมาณพอสมควรเลยค่ะ ทาแล้วซึมได้เร็วดี พอซึมแล้วจะเคลือบผิวเป็นชั้นฟิล์มบางๆ หน้าจะตึงนิดๆค่ะ สักพักก็จะหาย ครีมมีกลิ่นอ่อนๆ โดยส่วนตัว คิดว่าเหม็นเขียวนิดๆ น่าจะเป็นกลิ่น Green Coffee Extract ไม่ถึงกับเหม็นนะคะ แป๊บเดียวก็หายไป ในเรื่องการการให้ความชุ่มชื้นค่อนข้างดีค่ะ ไม่ทำให้เหนอะหน้าและก็ไม่ทำให้หน้าแห้งด้วยค่ะ

ช่วงที่อพยพหนีน้ำท่วมไปอยู่ชะอำ ก็คว้าครีมนี้ไปด้วยค่ะ โดนทั้งแดดและลม ครีมนี่เอาอยู่ค่ะ ตอนกลางคืนโบกหนาๆหน่อย ตื่นเช้ามาหน้าก็นิ่มดีนะคะ แต่ด้วยความที่ผิวเราอุดตันง่ายมาก ครีมนี่ทำให้เกิดการอุดตันได้ด้วยค่ะ แอบมีสิวเม็ดเล็กๆขึ้นบ้าง ไม่มากค่ะ

ส่วนเรื่องการชะลอและลดเลือนริ้วรอยเห็นผลไม่ชัดเจนค่ะ เนื่องจากเราไม่ค่อยมีริ้วรอยเท่าไหร่ อ้วนตึงไปทั้งหน้าและตัว เลยไม่ขอพูดถึงตรงนี้นะคะ



ครีมบรรจุมาในกระปุกแก้วค่ะ ควรใช้ไม้พายหรือ Cotton Buds ตักครีมนะคะ ทั้งเพื่อความสะอาดและตักได้เนื้อครีมด้วยค่ะ ลองใช้นิ้วควัก มันควักไม่ค่อยขึ้นค่ะ ครีมค่อนข้างเหนียวพอสมควร ไม่ติดมือขึ้นมาเลยค่ะ ต้องใช้ไม้พายตักขึ้นมาวอร์มเล็กน้อย แล้วค่อยโบกลงบนผิวค่ะ


ถ้าจะพูดถึงเรื่องของคุณภาพกับราคา.....ที่สูงเอาการทีเดียว ><"
ก็ต้องบอกว่า ถ้าเงินเหลือจะซื้อมาใช้ก็โอเคค่ะ ^__^










Serum Repair - Skin Moisturizing Revitalizing Serum

ปริมาณ 20 ml. ราคา 6,750 บาท

เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมเข้มข้นของ คอลลาเจน พี (Palmitoyl Pentapeptide) ทำให้คอลลาเจนซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว แล้วมีส่วนผสมของไฮยารูรอนนิค แอซิด ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูเซลล์ผิว ทำให้ผิวแน่นตึงกระชับทันที่ที่ใช้ สามารถใช้ทารอบดวงตาได้อีกด้วย




ตัวเซรั่มเป็นเมือกใสๆ หยดเดียวลูบได้ทั้งหน้า จากการที่ลองใช้.....ลูบปั๊บซึมปุ๊บ....ตึงปั๊บทันที โดยส่วนตัวรู้สึกว่ามันให้ความชุ่มชื่นไม่ค่อยพออ่ะค่ะ แต่ถ้าทาพวก Moisture ที่ให้ความชุ่มชื่นลงไปก่อน แล้วปาดเซรั่มตัวนี้ทับ มันจะเริ่ดมากค่ะ....คือเหมือนกันปิดล็อคความชุ่มชื่นเอาไว้ แล้วฟื้นฟูผิวเราด้วย ทำให้รู้สึกว่าผิวแน่นขึ้น......ตื่นเช้ามาหน้าเด้งเชียว

ขวดที่ได้มาลองขนาด 5 ml. ใช้ได้นานเกือบ 3 อาทิตย์ หยดนิดเดียวก็ทาได้ทั่วหน้าแล้วค่ะ ขนาดจริง 20 ml. ราคา 6,750 บาท ก็ใช้ได้นานประมาณ 3 เดือน.....ก็ถือว่าราคาสูงเอาการอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าอยากผิวแน่นๆ จะยอมลงทุนซักหน่อยก็ไม่เสียหายค่ะ ^__^








Supreme Maintenance - Youth Serum

ขนาด 60 ml. ราคา 17,500 บาท

มีส่วนผสมของ "Youth Molecule" ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังที่สุด บวกกับ Peptide ที่มีประสิทธิภาพในการต้านริ้วรอยอีก 3 ชนิด และ Hyaluronic Acid ที่ช่วยเก็บและรักษาระดับความชุ่มชื่นของเซลล์ผิว ส่วนผสมทั้งหมดปราศจาก น้ำมัน ซิลิโคน น้ำหอม และสีสังเคราะห์ค่ะ คุณสมบัติเด่นของเซรั่มนี้คือ การปรับผิวให้แน่นกระชับ สีผิวเรียบเนียน ผิวนุ่มนวล และปกป้องผิวจากมลภาวะ ลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน



โดยส่วนตัว ชอบเซรั่มตัวนี้ที่สุด.....ทาแล้วมันรู้สึกดีที่สุด ใช้นิดเดียวก็ทาได้ทั่วหน้าแล้ว....เนื้อเบาบางทาง่ายซึมไว ใช้แล้วผิวแน่นขึ้นจริงๆ เรียบเนียนขึ้นด้วย ทาเฉพาะตอนเช้านะคะ ขนาดที่ได้มาลอง 5 ml. เท่านั้นเอง แต่ก็ใช้ได้นานเกือบ 3 อาทิตย์แน่ะ เพราะฉะนั้นขนาดจริงขวดใหญ่ 60 ml. ก็จะใช้ได้นานถึง 8 เดือนเลยทีเดียว คำนวนแล้วตกเดือนละ 2,xxx บาท ก็โอเคนะคะ ราคาารับได้........แต่ตอนเริ่มต้นต้องจ่ายทีเดียว....เป็นลม!!!!









Pure Vitamin C Powder Cream

หลอดละ 1.95 g. 1 เซ็ตมี 5 หลอด ราคา 6,850

เป็นวิตามิน C ที่คงความบริสุทธิ์ที่สุด ในระดับความเข้มข้นสูงสุด และคงสภาพได้ดีที่สุดด้วยค่ะ หน้าที่ของมันคือการปรับสีผิวให้กระจ่างและสม่ำเสมอ ลดเลือนฝ้ากระจุดด่างดำ รวมทั้งกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนช่วยให้ผิวมีความกระชับยืดหยุ่นมากขึ้น



วิธีใช้ก็คือ เทออกมา 1/4 ขีด แล้วผสมกับเซรั่มที่ใช้แล้วทาหน้าได้เลยค่ะ
หลอดเล็กๆอย่างนี้ใช้ได้นานมากค่ะ ช่วงเริ่มต้นอาจจะใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าที่บอกค่ะ เพื่อลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ

จากที่ลองใช้ดูก็พบว่าไม่มีอาการระคายเคืองค่ะ ไม่แสบแดง.......แต่ผลของการลดเลือนฝ้ากระ จุด ด่างดำ เห็นผลไม่ชัดค่ะ เนื่องจากเราผิดเองที่ใช้ไม่สม่ำเสมอ ><" แต่สีผิวกระจ่างขึ้นนะคะ......สนุกดีเวลาใช้ หลอดเล็กๆอย่างที่เห็น ใช้แบบเต็มที่ไม่ต้องเขียมก็ได้ประมาณ 1 เดือนค่ะ 5 หลอดก็ 5 เดือน ใช้ได้นานทีเดียว.....ราคาคำนวนแล้วก็พอรับได้อยู่ค่ะ ^___^








หมดแล้วค่ะ Review Skincare ไฮแบรนด์แบบนี้ กว่าจะลองใช้จนได้มารีวิวกันนานเลยค่ะ.....มันก็ดีนะคะ แต่ราคาสูงจริงๆ เล่นเอาติดใจอยากใช้ต่อก็ต้องไปลงทุนซื้อกันล่ะค่ะ ><"



Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 มิถุนายน 2556 20:45:23 น.
Counter : 5680 Pageviews.

1 comments
  
Serum Repair ดีมากสำหรับพี่ ซื้อมาใช้ 2 ขวดแล้วฮะ กะลังจะเริ่มขวดที่ 3
โดย: CinnamonGal วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:43:14 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Sugarandbananaleaf.BlogGang.com

bemynails
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 69 คน [?]

บทความทั้งหมด